บทท่ี 14 Thinking Strategically and Managing Knowledge การคดิ เชงิ กลยุทธ์การจัดการความรู้ นางปรารถนา ภูสมศรี ป.เอก 61
1 ลกั ษณะของผูนําเชิงกลยุทธ ผ้นู ําเชิงกลยทุ ธ์สามารถจดั การกําหนดทิศทางขององค์กรหรือหนว่ ยงานยอ่ ย จะเน้น ความสมดลุ ทงั้ ระยะสนั้ และระยะยาว การประสบความสาํ เร็จที่ยง่ั ยืนผ้นู ําจะว่าจ้างผ้นู ํา เชิงกลยทุ ธ์เพอ่ื คิดหาวิธีการในการสง่ เสริมการแขง่ ขนั ภายในองค์กรโดย 3 วตั ถปุ ระสงค์ คอื กระบวนการ แนวทางและแรงบนั ดาลใจที่จําเป็นตอ่ องค์กร ผ้นู ําเชิงกลยทุ ธ์คอื ความ ซบั ซ้อนของลกั ษณะสว่ นบคุ คล รูปแบบการคิด การจดั การท่ีมปี ระสิทธิภาพ
1.1 ผู้นําท่มี ีการคดิ ในระดับสูง การคดิ เชิงกลยทุ ธ์นนั้ ต้องอาศยั ทกั ษะความคดิ ด้าน ความเข้าใจที่ เกิดขนึ ้ ในระดบั สงู เช่น ความสามารถในการคิดรวบยอดในการซมึ ซบั และการรับรู้ แนวโน้มของสง่ิ ตา่ ง ๆ จํานวนมาก ได้อย่างมเี หตผุ ล และมีความสามารถในการสรุปข้อมลู ตา่ ง ๆ เพื่อนําไป กําหนดเป็นแผนปฏิบตั ิการ ตลอดจนสามารถประมวลข้อมลู ตา่ ง ๆ และผลท่ีเข้าใจ ตามมา สาํ หรับองค์กรท่ีมปี ฏิกิริยากบั สภาพแวดล้อมนี ้เรียกวา่ การคดิ เชิงระบบ หมายความวา่ บคุ คลท่ีมีเงื่อนไขทางความคิดอย่างเป็นระบบและมกี ระบวนการท่ี ซบั ซ้อน มีสว่ นประกอบดงั นี ้
สว นประกอบของผูนาํ เชิงกลยทุ ธ 1. มคี วามคดิ ระดับสูง 2. มีการกําหนดกลยทุ ธด วยขอ มูลทห่ี ลากหลาย 3. มีการคาดการณอนาคต 4. มีการคดิ เชงิ ปฏวิ ตั ิ 5. มวี สิ ยั ทศั นท่สี รา งสรรค
1.2 การกําหนดกลยทุ ธด ว ยขอ มลู ท่หี ลากหลาย ผนู ําเชิงกลยุทธหลายๆ คนไดมแี นวคดิ สําหรบั องคก รในอนาคต โดยการปรึกษาหารอื กบั บรรดาผทู ีเ่ ก่ยี วของหลาย ๆ ฝา ยเพ่ือเก็บ รวบรวมขอมลู ตา ง ๆ เพอ่ื ทําการวิจัยและกาํ หนดวิสัยทศั น
1.3 การคาดการณ์และการกาํ หนดอนาคต ซง่ึ ต้องอาศยั ทกั ษะการคาดคะเน อนาคต จากคาํ กลา่ วทวี่ า่ การมอง อนาคตอย่างทะลปุ รุโปร่งเป็นเร่ืองของความแตกตา่ งระหวา่ ง ความสําเร็จและ ความล้มเหลว ดงั นนั ้ จงึ ต้องทาํ ความเข้าใจเกี่ยวกบั อนาคต เป็นการคาดคะเน อยา่ งแมน่ ยําเกี่ยวกบั รสนิยมและความต้องการของลกู ค้า ตลอดจนเป็นการ คาดคะเนทกั ษะตา่ ง ๆ ทจี่ ําเป็นสาํ หรับองค์กรในอนาคต
1.4 การกาํ หนดวสิ ัยทศั น์ วสิ ัยทัศนเ ปนสวนที่สําคญั ของกลยุทธค วามเปน ผูนํา หนงึ่ ในสว นท่ี สําคัญทส่ี ุดคอื ความพยายามของความเปน ผนู ําในระดบั สูงทจ่ี ะสรา งสรรค การมสี วนรว มในการกระตุน ใหส มาชิกในองคก รไดแสดงออกอยา งไรก็ตาม ความพยายามจะเขามาแทนท่ีรปู แบบของพฤติกรรมความเปนผูนาํ และ บคุ ลกิ ภาพสวนบคุ คล
1.5 ประสทิ ธผิ ลของการเป็ นผู้นําและการใช้กลยุทธ์ การกําหนดกลยุทธห รือวสิ ยั ทศั นไมเพยี งพอสาํ หรบั ประสทิ ธิผล กลยุทธแ ละวสิ ัยทศั นจ ะตอ งมีการดําเนินการโดย ผูนาํ /ผูจ ดั การ สวนประกอบของประสิทธิภาพความเปน ผูนาํ คือ ความคดิ รเิ รม่ิ เชงิ กลยุทธ
2 การวิเคราะห์ SWOT การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์บนโลกไซเบอร์เป็นกิจกรรมท่ีผ้นู ําใช้เป็นรายงาน เปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์และตวั เลือกของกลยทุ ธ์ คอ่ นข้างบอ่ ยท่ีการวางแผนเชิงกล ยทุ ธ์จะนําวิธีการจากการวิเคราะห์ swot มาเป็นกระบวนการในการพิจารณาหาจดุ แขง็ ภายใน และจดุ ออ่ นภายใน โอกาสภายนอก และอปุ สรรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อม ภายนอก การวิเคราะห์ swot คอื การช่วยตรวจสอบปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งคณุ สมบตั ิ เฉพาะของตวั บคุ คลของบคุ ลากรในองค์กรและสภาพแวดล้อมภายนอกหรือตลาดการ แขง่ ขนั กรอบหรือวิธีการท่ีใช้ในการแยกแยะบริษัทเฉพาะที่ไมใ่ ช้ประโยชน์แล้ว สว่ นประกอบพืน้ ฐานของ swot สามารถอธิบายได้ดงั นี ้
จดุ แข็งภายใน ความสาํ คญั ของขัน้ ตอนการประเมนิ ปจจยั ภายในขององคกรท่จี ะมี ผลกระทบดา นบวกในการดําเนนิ การวางแผน (ในบางข้นั ตอนของ swot การวเิ คราะหป จจัยภายนอกรวมอยใู นข้ันตอนนี้ดวย) อะไรคอื จดุ ดีเก่ยี วกับ ทางเลอื กเฉพาะ อะไรคอื ขอไดเปรยี บ อะไรทีท่ าํ ดีอยแู ลว ใชส ญั ชาติญาณใช สญั ชาตญิ าณในการตดั สนิ ใจดวยตวั เอง และรวมถึงคาํ ถามจากผมู คี วามรู
จุดอ่อนภายใน การพฒั นากลยทุ ธ์จะใช้ความตรงไปตรงมาจากความเป็นจริงโดยปราศจาก ผลกระทบท่ีเป็นลบในการนําเสนอแผน พจิ าณาจดุ เส่ียงจากการทํางานโดยเฉพาะ เชน่ การรับเหมาช่วงงานในประเทศท่ีมคี า่ แรงตํา่ (ผ้รู ับเหมาชว่ ง) อะไรจะทําให้ปรับตวั ดขี นึ ้ อะไรจะทําให้เลวลง อะไรที่ควรหลีกเลี่ยง การตรวจสอบจดุ ออ่ นจากภายในและมมุ มอง ภายนอก ทําอย่างไรให้ภายนอกได้รับรู้จดุ ออ่ นท่ีคณุ มองเห็น ไมว่ ่าจะเป็นผลติ ภณั ฑ์ การบริการหรือกระบวนการทํางานท่ีผ้แู ขง่ ขนั จะปฏิบตั ิได้ดีกว่า โดยการตดั สนิ ใจของ คณุ ถามผ้มู คี วามรู้ ผ้จู ดั การหรือเจ้าของธรุ กิจ
โอกาสภายนอก จุดประสงคของข้นั ตอนน้เี พอื่ ประเมินเศรษฐกจิ และสงั คม, การเมอื ง ส่งิ แวดลอ ม และปจจยั ดานประชากรศาสตร และอ่นื ๆ ในการประมาณการวาอะไร คือประโยชนขององคก ร คดิ หาโอกาส ทางเลอื กเชน การเพมิ่ ความหลากหลายทาง วัฒนธรรมของลกู คา กลุมพ้นื ฐาน ใชจ นิ ตนาการ และความเปน ไปได มองหา แนวโนม ในความสนใจใหมๆ ใชโ อกาสท่ีสืบเน่อื งมาจากเหตกุ ารณด ังกลาวตอไปน้ี
- การเปล่ียนเทคโนโลยีและการตลาด - การเปล่ียนโยบาลของรัฐบาลทเี่ ก่ียวข้องกบั สถานศกึ ษา - การเปล่ียนรูปแบบทางสงั คม รายละเอียดของประชากร รูปแบบการใช้ชีวิต และอ่ืนๆ อุปสรรคภายนอก จดุ ประสงคของขั้นตอนนเี้ พ่อื ประเมินความเปน ไปไดข องผลกระทบดานลบ ทาง เศรษฐกิจและสังคม การเมือง สภาพแวดลอม ปจจัยที่มตี อองคกร มขี อ เสียทกุ ทางเลือก ดังนนั้ จึงควรคิดใหเหนือกวา และทําแผนฉกุ เฉินไว
3 ตวั อยางของกลยทุ ธท างธรุ กิจ จดั ทําโดยผูน ํา มีการมุงเนนไปที่กระบวนการโดยเฉพาะผูนําและผจู ัดการ ทใ่ี ช การตดั สนิ ใจเชงิ กลยุทธร วมถงึ ความสนใจของผูนาํ ศักยภาพของ ผนู าํ ในการตดั สินใจ กลยุทธทางธรุ กจิ ประกอบไปดวย ระดับ องคกร ระดบั ธุรกิจ ระดับการทํางาน ตวั อยา งของกลยุทธท าง ธรุ กิจ จดั ทาํ โดยผูน าํ มี 13 ตัวอยางดงั น้ี
1. การเปลยี่ นแปลง กลยทุ ธ์การสร้างความแตกตา่ ง คอื การพยายามที่ จะเสนอสินค้า หรือบริการท่ีลกู ค้ารู้และทําให้แตกตา่ งจากทางเลือกท่ีมีอยู่ 2. ผ้นู ําต้นทนุ กลยทุ ธ์พืน้ ฐานในการผลติ สินค้าหรือบริการที่ต้นทนุ ตาํ่ เพื่อลดราคาขายและได้รับสว่ นแบง่ ทางการตลาด 3. มงุ่ เน้น หรือเฉพาะ กลยทุ ธ์การมงุ่ เน้น องค์กรมงุ่ เน้นไปที่คณุ สมบตั ิ ของตลาดเฉพาะหรือกลมุ่ การขาย เพ่ือให้ได้รับสว่ นแบง่ ทางการตลาด บริษัทจะใช้ความแตกตา่ งหรือวธิ ีการผ้นู ําต้นทนุ ในเปา้ หมายทางการตลาด
4. คณุ ภาพสงู กลยทุ ธ์พืน้ ฐานทางธรุ กิจ คือการเสนอสนิ ค้าหรือบริการท่ีมี คณุ ภาพสงู กว่าผ้แู ขง่ ขนั ผ้นู ําจะเน้นคณุ ภาพ แม้ว่าจะมกี ารเน้นโปรแกรมคณุ ภาพอย่าง เป็นทางการน้อยกว่าท่ีผ่านมา ข้อยกเว้นที่สําคญั คือ 6 ซิกมา่ โปรแกรมท่ีเน้นวิธีการทาง สถิติเพื่อบรรลคุ ณุ ภาพ 5. การเลยี นแบบ ถ้าคณุ ไมม่ จี ินตนาการ การเลยี นแบบไมใ่ ช้สงิ่ ท่ีดี การผลติ อปุ กรณ์ที่ยอดนิยม เชน่ กล้องดิจิตอล สมาร์ทโฟน ใช้กลยทุ ธ์ในการเลยี นแบบ บริษัทจะ รอเวลาท่ีเหมาะสมในการแนะนําผ้แู ขง่ ขนั ที่มรี าคาต่ํากวา่ สาขาทางการตลาดมาจาก การเรียนรู้โดยการดู บริษัทหนงึ่ จะเลียนแบบวิธีปฏบิ ตั ิท่ีเป็นเลศิ จากอีกบริษัทหนง่ึ โดย ปกติโดยปราศจากความตรงไปตรงมา ขโมยความคดิ ของสินค้าและบริการของบริษัท อื่นๆ
6.พนั ธมติ รทางยทุ ธศาสตร รปู แบบกลยทุ ธทางธรุ กิจทมี่ าจากพันธมิตรหรอื แบง ปนทรพั ยากรกับบรษิ ัทอื่นๆ เพ่ือใชประโยชนด า นโอกาสทางการตลาด 7.การเติบโตผานการเขาซอื้ กิจการ กลยุทธพ ื้นฐานเพ่อื การเติบโตคอื การซอื้ บริษทั อื่นๆ บริษัททยี่ อมซอ้ื บรษิ ัทอนื่ ๆ เพ่ือใหไดเทคโนโลยีใหมๆ หรือสาย ผลติ ภณั ฑทสี่ มบรู ณ 8.ความเร็วสูง และผเู สนอญตั ติแรก ผูจดั การความเรว็ สูงจะมุง เนนความเรว็ ใน ทง้ั หมดของกจิ กรรมทางธรุ กิจ รวมถึงการพฒั นาผลติ ภณั ฑ รับผดิ ชอบการขาย และการบรกิ ารลกู คา เช่ือวา เวลาคือเงนิ
9. ผลิตภณั ฑ และการเปล่ยี นทวั่ โลก ลกั ษณะของกลยทุ ธท างธรุ กจิ คอื การเสนอสนิ คา และบริการท่ีหลากหลายและการขายขา มพรมแดน เพอ่ื ทําใหโ อกาสทางการตลาดดขี ึน้ 10. เกาะตดิ แกนสมรรถนะ หลายบริษัททุกขนาดเชื่อวา พวกเขาจะ ประสบความสําเร็จ ถาเขาพยายามทาํ กิจกรรมท่ีปฏิบตั ิใหด ที สี่ ุด
11.ผนู าํ ดานแบรนด ความชัดเจนที่ปรากฏ การประสบความสาํ เรจ็ ท่ผี า นมา การ พัฒนาชอ่ื เสยี งของชือ่ แบรนด เปนตวั พจิ ารณากลยุทธท างธุรกิจ ติด อันดบั ที่คนรจู ักกนั ทัว่ โลกในเชิงกลยทุ ธ คือ (1) Coca-Cola, (2) IBM, (3) Microsoft, (4) Google, (5) GE, (6) McDonald's (7) Intel, (8) Nokia (9) Disney, and (10) Hewlett-Packard ชว ยใหบ ริษัท ประสบความสําเรจ็ ในเรื่องทางการเงิน
12. มุงเนนทกี่ ารพฒั นาส่ิงแวดลอมอยา งยง่ั ยนื กลยทุ ธอ ่ืนๆ เพ่ือใหบ ริษทั ทม่ี ีความเปนผนู าํ มงุ เนน ไปทกี่ ารสรา ง พื้นทสี่ เี ขียว การมสี วนรว มในกจิ กรรมตา งๆ ทชี่ ว ยประคับประคอง ส่งิ แวดลอ มภายนอก มกี จิ กรรมทน่ี ับไมถวนที่เหมาะสมกับกลยุทธสี เขียว จะใชแ ผงโซลา และกงั หันลมในการสรา งพลังงาน การใช กระดาษท่ใี ชแลว และการใหกําลังใจพนักงานทใ่ี ชรถยนตร วมกัน
13. ความไดเ ปรียบในการแขงขนั ตลอดจนการจา งงานจากคนท่ีมี ความสามารถ กลยทุ ธทม่ี ีประสิทธภิ าพคอื การไดเปรยี บทางการแขง ขันในการ ทจี่ ะสรางองคกรกบั บุคคลท่ีมีความสามารถ มีแรงบนั ดาลใจท่ีดี
4 การจดั การความรแู ละองคก รแหงการเรยี นรู การจดั การความรู เปน สิง่ สาํ คัญของกฎความเปนผนู ํา เพราะวา มอี งคก ร เล็กนอ ยท่ที าํ อยา งเปน ระบบโดยใชว ธิ ีการรวบรวมภูมิปญญาของลูกจาง โหลดขอมลู มารวม รวมไวใ นฐานขอ มูลเสมอ การจัดการความรมู ี 3 สว่ นประกอบ ท่ีได้รับการเปิดเผยโดย งานวิจยั และการสงั เกตของ Thomas H. Davenport, Laurence Prusak, และ Bruce Strong การสร้างความรู้คือการใช้นวตั กรรม โปรแกรมสําหรับการสร้างความรู้ ความคดิ ข้อมลู เชิงลกึ และนวตั กรรมจากหลายๆ แหลง่ ที่มี รวมถงึ การจดั อนั ดบั ข้อมลู คนงาน ลกู ค้า และห้นุ สว่ นทางธรุ กิจ แทนที่จะอาศยั เฉพาะในงานวิจยั และการพฒั นาบคุ ลากร
องคกรแหงการเรียนรู องคก รแหง การเรียนรสู ามารถแสดงกลมุ ของประชากรท่ที ํางานรวมกัน เพ่ือทําใหความสามารถของพวกเขาดีข้นึ และมผี ลลัพธท ่ีมีประโยชนสาํ หรับพวกเขา ความเปนผูน ําในองคกร อยา งไรกต็ ามมักจะใชความคดิ รเิ รม่ิ สรางสรรค เชนการ เพ่ิมพนู ความรู หรือการเรยี นรู การเกดิ ข้นึ จนมาถงึ จดุ ส้นิ สุด บริษัททว่ั ไปจะมกี าร ระบุตาํ แหนงหวั หนาเจา หนา ท่ีความรู (CKO) เหตผุ ลสําคญั ท่สี ร้าง เช่น ตําแหน่งท่ี อย่ใู นหลายๆ บริษัท ทกั ษะของมนษุ ย์ การหยง่ั รู้ ภมู ปิ ัญญาท่กี ําลงั เข้ามาแทนท่ี ทรัพยากรทมี่ ีคา่ ทีส่ ดุ
จบแล้วค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: