Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือ การพัฒนาบุคลิกภาพ และปรับปรุงตนเอง

หนังสือ การพัฒนาบุคลิกภาพ และปรับปรุงตนเอง

Published by masa.marisa29, 2018-11-28 22:16:52

Description: หนังสือ การพัฒนาบุคลิกภาพ และปรับปรุงตนเอง

Search

Read the Text Version

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 197 การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพและปรับปรงุ ตนเอง สาระสําคญั บุคลิกภาพหรือบุคลิกลักษณะ หมายถึงคุณลักษณะเฉพาะตัวของแตละบุคคลท่ีแตกตา งกัน ซึง่ อาจจะมีทั้งบุคลิกภาพที่ดีและไมดี ผูที่มีบุคลิกภาพดียอมไดรับความนิยมยกยองในการสมาคม ลกั ษณะเฉพาะตัวท่ปี ระกอบกันเปนบุคลิกภาพ ไดแก สภาวะทางรางกาย สภาวะทางจิตใจ เชาวนป ญญา และยังมปี จ จยั อ่นื ๆ ท่มี ผี ลตอ ความแตกตา งของบคุ ลิกภาพ สาระการเรียนรู 1. ความหมายของบุคลกิ ภาพ 2. ปจ จัยท่มี ผี ลตอ ความแตกตา งของบคุ ลกิ ภาพ 3. ลกั ษณะของผูทมี่ ีบุคลกิ ภาพดแี ละไมด ี 4. กลวธิ ีในการปรับปรุงและพัฒนาบุคลกิ ภาพ 5. ประโยชนข องผมู บี คุ ลิกภาพดี สมรรถนะประจําหนวย แสดงความรูเก่ียวกับการพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง ความหมายของบุคลิกภาพ ปจจัยท่ีมีผลตอความแตกตางของบุคลิกภาพ ลักษณะของผูท่ีมีบุคลิกภาพดีและไมดีกลวิธีในการปรบั ปรงุ และพฒั นาบุคลิกภาพและประโยชนของผมู ีบุคลิกภาพดี สมรรถนะการเรยี นรู 1. บอกความหมายของคําวา บุคลิกภาพได 2. อธิบายปจจัยท่ีมีผลตอความแตกตางของบคุ ลิกภาพได 3. บอกลกั ษณะของผทู ีม่ ีบุคลิกภาพที่ดแี ละไมดีได 4. บอกกลวธิ ใี นการปรับปรงุ และพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ 5. บอกประโยชนของผูม ีบุคลกิ ภาพดไี ด

หนวยที่ 7 การพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 198 Concept mapping หนวยที่ 7ความหมายของ ปจจัยท่ีมีผลตอ ความแตกตา ง บุคลิกภาพ ของบคุ ลิกภาพ การพัฒนาบคุ ลิกภาพ และปรบั ปรงุ ตนเองประโยชนข องผู กลวิธีในการปรบั ปรุง ลกั ษณะของผทู ม่ี ีมีบุคลิกภาพดี และพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ บุคลกิ ภาพดแี ละไมด ี

หนว ยที่ 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 199 แบบทดสอบกอ นการเรยี นรหู นวยที่ 7 คาํ ชี้แจง ใหผูเ รียนพจิ ารณาคาํ ถามตอไปนแ้ี ละเลอื กตอบตามความคดิ เห็นกาเครื่องหมาย (9) หนา ขอ ท่ถี ูกและกาเครอ่ื งหมาย (8 ) หนา ขอท่ีผิด............... 1. อว นดํา ดูแยไมแครใ ครไปฟต เนส............... 2. ไมส วย ไมห ลอ กริ ยิ าวาจาดกี ็มีเสนหได............... 3. การศึกษาชว ยเสรมิ ใหเปน ผทู ่ีมคี วามเชอ่ื มน่ั............... 4. เลิกแชต เลกิ เลน เกม คน หาความรูเพ่อื ปรบั ปรุงตน............... 5. สตรีทขี่ าว หมวย สวย อวบ จัดวา เปน ผทู ม่ี บี คุ ลิกดี............... 6. ผอมแหง แรงหมดอยา อดอาหาร เพิม่ แปงและนา้ํ ตาลอกี นดิ............... 7. ขนบธรรมเนียมของแตล ะชาติ ทาํ ใหบุคลิกของชนชาติตา งกนั............... 8. บึกบึนแขง็ แรง กระดา ง ไมเ รยี นหนงั สอื ไปสมัครทาํ ไรเ ชิงเขาได............... 9. ผมยุง เส้อื ยับ รองเทา เยิน เดนิ โยก ควรไดร บั พจิ ารณาเปน ผบู ริหาร................ 10. บกึ บึนแขง็ แรง สุภาพออ นนอม แตงกายดี มกี ารศกึ ษาเหมาะกบั ตาํ แหนง หวั หนาฝายบคุ คล

หนว ยท่ี 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 200 หนว ยที่ 7 การพฒั นาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง1. ความหมายของคําวา “บคุ ลกิ ภาพ” (Personality) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ไดใหคําวาบุคลิกภาพไววา“บุคลิกภาพ หมายถึง ลักษณะเฉพาะทางของบุคคล เชน กิริยาทาทาง และพฤติกรรมการแสดงออก” นายแพทยบุตร ประดิษฐวณิช กลาววา “การศึกษาบุคลิกภาพก็คือการศึกษาดานชวี วิทยา ความประพฤตทิ แ่ี สดงตอสงั คม ศกึ ษาทางสงั คมวิทยาและศึกษาจิตวเิ คราะห (2539 : 35) บุคลิกภาพ จึงหมายถึงพฤติกรรมของมนุษยที่แสดงออกมาใหผูอื่นเห็น เชนกิริยาทาทาง วาจา การแตงกาย ซ่ึงสามารถปรับปรุงและพัฒนาใหเปนผูที่มีบุคลิกดีได ซึ่งในปจจุบันมีสถาบันหลายแหงที่เปดสอนการปรับปรุงและพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อใหเปนผูนําหรือเปนผูบรหิ ารตอไป2. ปจจยั ทีม่ ีผลตอความแตกตา งของบุคลิกภาพ บุคคลทเี่ คยพบ พูดคุยหรือเพียงผานสายตา เคยสังเกตบางไหมวา แตละคนมีลกั ษณะแตกตางกนั บางคนพูดจาดวยสองสามคําก็ไมตองการสานความสัมพันธตออีกเลย แตบางคนเพียงแรกเห็นกลับถูกชะตาจนคบหาสมาคมดวย ทั้งน้ีก็เพราะมีปจจัยท่ีกําหนดใหความเหมือนหรอื แตกตางของบคุ ลิกภาพน้ัน ๆ สามารถดงึ ดดู หรอื ผลักไสดวยปจ จยั ตา ง ๆ ดังน้ี 2.1 พันธุกรรม เชน รูปราง หนาตา กิริยาทาทาง ลักษณะนิสัย จะผอม สูงอวน เต้ีย ขาว ดํา ขี้เหร หาวหาญ ออนหวาน หลอ สวย ก็มีผลมาจากการถายทอดทางพันธกุ รรมท้งั สนิ้ 2.2 สิ่งแวดลอม สิ่งแวดลอมรอบตัวมีผลทําใหเกิดความแตกตางทางบคุ ลิกภาพ ไดแก

หนว ยที่ 7 การพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 201 2.2.1 ครอบครวั ผทู ่เี ปนแบบอยางท่ีถายทอดบุคลิกภาพตาง ๆ ใหบุตรหลานก็คอื ทุกคนในครอบครัว เชน บิดา มารดา ญาติพี่นอง ฉะนั้นพฤติกรรมตาง ๆ ที่แสดงออกของบคุ คล จงึ ข้ึนอยกู บั การอบรมสั่งสอนของคนในครอบครัวต้งั แตเยาวว ยั 2.2.2 สังคมหรือชุมชน ผูท่ีอยูรวมกันมีลักษณะนิสัย มีการศึกษา มีอาชีพและฐานะความเปนอยูในสังคมหรือชุมชนเดียวกันก็มีสวนท่ีจะทําใหบุคลิกภาพการแตงกายการพูดจาเปนไปในแนวทางเดียวกันดวย เชน กลุมอาชีพครู อาชีพแพทยพยาบาล ดาราละครโทรทศั น เปน ตน 2.3 ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ของแตละชาติก็ทําใหบุคลิกภาพแตกตางกัน เชน บางชาติซดนํ้าแกงเสียงดัง แสดงวา เอร็ดอรอย แตบางชาติแสดงถึงความไมมีมารยาท เปนตน3. ลกั ษณะของผทู ม่ี บี คุ ลกิ ภาพดแี ละไมดี มสี ภุ าษติ คําพังเพยและสาํ นวนไทยกลา วถงึ บุคลิกภาพของบคุ คลทีแ่ สดงพฤติกรรมออกมาใหส ังคมตําหนแิ ละเปรยี บเปรยดังนี้ - บคุ ลกิ ภาพทแ่ี สดงออกทางกิรยิ าอาการ เชน มาดีดกะโหลก คนนน้ี ะลกู ใคร (ไมเรยี บรอ ย กระโดกกระเดก) เขาไหนเขา ได ใคร ๆ กช็ อบ (ติดตอ คบหากบั ใคร ๆ ได) สวยแตร ปู จบู ไมห อม ไมย งุ ดว ยหรอก (รูปงามแตก ิริยามารยาทไมด ี) ดู คางคกข้นึ วอ ซเิ ธอ (อวดดี ลืมตวั ) พวก ตาลีตาเหลอื ก ไมอ ยากชวน (อาการรบี รอ นลนลาน) - บคุ ลกิ ภาพทแี่ สดงออกทางการแตง กาย เชน กาคาบพรกิ เดนิ มาแลว (ผวิ ดําแตง ดว ยเส้อื ผาสแี ดง) พวก นุงเจยี มหมเจียม นารกั ดี (ทาํ สิ่งใดตามความเหมาะสม แตงกายตามฐานะ) - บุคลกิ ภาพทแ่ี สดงออกทางการรับประทานอาหาร เชน พวก กินเหมอื นหมู ไมตอ งเชญิ (เละเทะ ไมมรี ะเบียบ) พวก กินสาํ รบั เชิญได (กนิ อาหารท่ีจดั อยา งดี)

หนว ยท่ี 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 202 - บุคลกิ ภาพทแี่ สดงออกทางการพูด เห็นพิธีกร ขวานผา ซาก ไหม (พูดจาไมเ กรงใจใคร) เดก็ ตอ ปากตอ คํา ไมอ ยากคุยดว ย (เถียงไมรูจบ) มะกอกสามตะกราปาไมถกู คบไมได (สบั ปลบั หลอกลวง) จากตวั อยางทกี่ ลาวมาขางตน ทําใหทราบถงึ ลกั ษณะของผทู ่ีมีบคุ ลกิ ภาพดีและไมดีทาํ ใหป ระทบั ใจหรอื ไมช อบใจแกผพู บเห็น ซง่ึ จะสรุปเปรยี บเทียบใหเหน็ จากพฤติกรรมการแสดงออกดงั น้ี 3.1 การแสดงออกทางกาย ไดแ ก กิรยิ าทาทาง การยืน การเดิน การน่งั เชน 3.1.1 ทาทาง สงา สุภาพ ออนนอม ยิ้มแยมเปนมิตร ไมหย่ิงยโสกาวรา ว หนาบ้งึ มองผูอืน่ เปนศตั รู 3.1.2 การยืน ยนื ตรง ไมยนื งอขา ยนื แยกขา 3.1.3 การเดนิ เดินตวั ตรง ไมเ ดนิ ตัวเอยี ง ลากขา ลากเทา เสยี งดงั 3.1.4 การนั่ง น่ังตัวตรงเขาชิด เทาชิด ไมนั่งไขวหาง เทาคาง น่ังหมอบกบั โตะ น่ังโยกตัวหรือสน่ั ขา 3.1.5 การแตงกาย เส้ือผาสะอาด ประณีต มีรสนิยมแตสุภาพ ถูกกาลเทศะ ไมย บั เยนิ เปดเผยรา งกายหรือตามแฟชน่ั จนเกนิ ไป 3.1.6 ทรงผม ตามความนิยม ไมล้ําสมัยจนเกินงาม แตไมใชทรงผมรุยรายฟูฟอง แฟชั่นจัด เชน คนอวนผิวดํานุงกางเกงขาส้ัน ผมสีเหลืองยาวสยาย รุงรัง สวมรองเทา สนั้ แหลมสูงเห็นแลวสะดุดตาแตไ มป ระทบั ใจ 3.2 การแสดงออกทางวาจา ไดแ ก 3.2.1 พูดเสียงไพเราะ ออนหวาน มีคํารับ เชน คะ ครับ จะ จาทอดเสียงนุมนวล (มหี างเสียง) ไมพูดหว น เสยี งกระโชกกระชาก ตวาดเสยี งดงั หรอื เสียงแหลมสูง 3.2.2 พูดคําจริงและปฏิบัติตามคําพูด ไมพูดสับปลับ หลอกลวงเปล่ยี นแปลงไปตามอารมณ ผิดนดั หรือเปล่ยี นเวลานดั เปน ประจาํ 3.2.3 พูดใหกําลังใจ ผูพูดก็จะมีความออนโยน มีเมตตาและใหอภัยหากเปนคนชอบพดู บั่นทอนกาํ ลังใจ ผพู ูดกจ็ ะมแี ตความกาวราว รษิ ยา ไมนา คบไมนา เขา ใกล 3.3 การแสดงออกทางลกั ษณะนสิ ยั ไดแก 3.3.1 เอาใจใสดูแลผูอ่ืน เสียสละเพื่อสวนรวม ไมใชสนใจแตตนเองเหน็ แกป ระโยชนสวนตน

หนว ยที่ 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 203 3.3.2 รับผิดชอบ ตรงเวลา ไมใชปลอยปละละเลยทุกเร่ือง ผิดนัดเปนประจํา 3.3.3 รักการทํางาน ซื่อสัตยตอหนาที่ รักษาผลประโยชนของหนวยงาน ไมใ ชทํางานใหพ นไปแตล ะวัน ยกั ยอกและ ทจุ ริตเม่อื มีโอกาส 3.3.4 เพียรพยายามเรียนรูและฝกฝนตนเองทุกดาน ไมใชเกียจครานไมร บั รสู ิง่ ใหม ๆ ไมช อบการพัฒนา 3.3.5 มีปฏิสัมพันธกับผูอื่น มีคนช่ืนชอบศรัทธา ไมใชหลีกหนีสังคมผคู นถอยหา งไมอยากสมาคมดวย กริ ยิ าทา ทางท่ีไมควรกระทําในท่ีสาธารณะหรือในการสมาคม เพราะจะทําใหเสยี บคุ ลิกจะขอยกเปน ตัวอยา งดังนี้ ประเภทกัด เชน กัดเล็บมือ กัดปากกา กัดขาแวน ตา กันปากตนเอง ประเภทบีบ เชน บีบสิว บบี จมูก บบี ปาก บีบคาง บีบมือ ประเภทแคะ เชน แคะฟน แคะจมูก แคะหู แคะโตะ ประเภทลว ง เชน ลวงกระเปากางเกง ลว งคอเสื้อ ลวงขอบกางเกง ประเภทเกา เชน เกาศีรษะ เกาคาง เกาแขน เกาขา หรืออวัยวะอนื่ ๆ ประเภทกด เชน กดปากกา กดดินสอ (ทําใหเ กิดเสยี ง) ประเภทคน เชน คนชา คนกาแฟ คนซปุ คนแกง เสียงดัง ประเภทเคาะ เชน เคาะโตะ เคาะชอ น เคาะจาน เคาะแกว ประเภทจับ เชน จับผม จับคอเสื้อ จับเนกไท จับเขม็ ขัด จับชายเสอื้ ประเภทหัก เชน หักน้วิ เลน หกั ไมจ ม้ิ ฟน หกั กา นดอกไมในแจกนั ประเภทเขยา เชน เขยา ขา เขยาโตะ เขยา แกว นํ้าแข็ง ประเภทเอน เชน เอนเกา อ้ี เอนตวั ประเภทพาด เชน พาดขากับเกาอ้ี พาดแขนบนพนักเกาอ้ีของคนขางเคียง (เหมือนโอบไหล) ประเภทเลีย เชน เลียชอน เลยี ริมฝปาก ประเภทอา เชน อาปากกวางทานอาหาร อาปากพูดเสียงดัง อาปากตะโกน อา ปากหวั เราะ อาแขน อาขา (ขณะน่งั ) ประเภทมือไมวาง เชน ใชมือประกอบการพูดตลอดเวลา ชี้หนาคูสนทนาประจาํ เขียนหรอื ตรวจเอกสารแมอ ยใู นสถานจัดเล้ียง

หนวยท่ี 7 การพฒั นาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 204 ประเภทปากไมวาง เชน ปากเค้ียวอาหารเสียงดัง พูดไมหยุด พูดขัดเสมอ เถียงตลอด นินทาประจาํ สบถเปน นิจ ประเภทเก็บ เชน เก็บอาหารท่ีเหลือ เก็บของชํารวยของแจกท่ีเหลือเกบ็ ดอกไมใ นแจกัน เก็บดอกไมจากซมุ งาน เปนตน ผูท่ีมีกิริยาดี วาจาดี แตงกายดี ลักษณะนิสัยดี จึงเปนผูมีบุคลิกดีเปนท่ีนิยมชมชอบ เปนที่นาเชื่อถือศรัทธาในวงสังคมและธุรกิจการงาน สวนผูท่ีมีบุคลิกภาพไมงาม การแสดงออกก็สามารถทําใหค นทั่วไปหลกี หนี แมแ ตม ติ รสหายกไ็ กลหา ง4. กลวิธใี นการปรับปรงุ และพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ การพัฒนาบุคลิกภาพ เปนการสรางภาพลักษณของตนเองใหปรากฏแกสายตาบุคคลท่ัวไป เพื่อใหเกิดความประทับใจ เลื่อมใสศรัทธาและตองการเปนมิตรดวย การพัฒนาบุคลกิ ภาพจงึ ตอ งปรับปรงุ ทง้ั บุคลกิ ภาพภายนอกและภายใน 4.1 การพัฒนาทางกาย ไดแก รางกาย โดยเฉพาะใบหนาจะสะดุดสายตาผูท่ีพบเห็นเปน ประการแรก ฉะนั้นแมจ ะเปนผูท ไ่ี มสวย ไมห ลอ ก็สามารถมีบคุ ลิกภาพดไี ดดงั น้ี 4.1.1 ออกกําลังกาย จะทําใหรูปรางดี ผิวพรรณสดใสและหนาตาสดชื่น เพราะเม่ือถึงจุด Peak เหง่ือออกทวมตัว รางกายจะหล่ังสาร Endorphin ทําใหสดชื่นกระปร้ีกระเปรา สขุ ภาพแขง็ แรง บคุ ลิกสงางาม 4.1.2 อาหารเพื่อสุขภาพกาย ผูท่ีรับประทานอาหารมีประโยชน ถูกสุขลกั ษณะและครบ 5 หมู ตามหลักโภชนาการ นอกจากจะไดสารอาหารครบถวนแลว ยังทําใหรปู รา งสมสวน ไมอ วนและไมผ อมเกินไป ดูดใี นที่ประชุมชน 4.1.3 ความสะอาดทางรางกาย ไดแก ผิวพรรณ ผม เล็บ ฟน เสื้อผารองเทา ถุงเทา ไมม ีกลิน่ ตัวและไมม กี ล่นิ นํ้าหอมทฉ่ี นุ รุนแรง 4.1.4 การแตงกาย ยอมแตกตางไปตามยุคสมัย โดยเฉพาะแฟชั่นสตรีในยุคปจจุบัน ซึ่งนอกจากจะเลียนแบบวัฒนธรรมตางชาติแลว ยังแตงกายไมเหมาะสมกับรูปลกั ษณข องตนเอง สว นการแตงแฟชนั่ ลํ้าสมัย ราคาแพงกม็ ไิ ดช้ีชัดวาบุคคลนั้นจะมีบุคลิกภาพที่ดีได นอกจากนี้เครื่องประดับตาง ๆ สามารถชวยเสริมบุคลิกตามความเหมาะสมได เชน แหวนนาฬิกา ปากกา ฯลฯ

หนว ยท่ี 7 การพฒั นาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 205 การพัฒนาบุคลิกภาพดานการแตงกาย จึงตองเรียนรูดูแบบอยางท่ีดี ถามคนรอบตัวและปรึกษาผูที่มีประสบการณ เพื่อจะไดแตงกายดูดี มีบุคลิกภาพ ดังนั้น กลวิธีในการปรับปรุงและพฒั นาบคุ ลิกภาพทางกาย คือ 1) ออกกําลังกาย สม่ําเสมอทุกวันหรือสัปดาหละ 3 วัน เพื่อใหสขุ ภาพแขง็ แรง รา งกายไมคอม ไมเ อยี ง ทาํ ใหเ ดินตัวตรง นั่งตวั ตรงงามสงา 2) ควบคุมอาหารและน้ําหนัก ใหเหมาะสม เชน สวนสูง 160เซนติเมตร น้ําหนักไมควรเกิน 50 กิโลกรัม รูปรางสมสวน กิริยาคลองแคลว ไมมีโรคภัยทําใหบุคลิกภาพดี 3) การแตงกาย ชวยเสริมบุคลิกภาพ รูปรางดีจากการออกกําลังกายสม่ําเสมอ รวมทั้งรับประทานอาหารดีมีประโยชน ทําใหเลือกเส้ือผาไดงายข้ึน แตพึงระลึกเสมอวารูปรางหนาตาดี แตงกายดี มิใชวาจะมีบุคลิกดีเสมอไป ทุกสิ่งเปนเพียงองคประกอบเสริมใหปรับปรงุ ดานอนื่ ๆ ตอไปอกี เทา น้ัน 4.2 การพฒั นาทางใจ จิตใจเปนสิ่งสําคัญอีกประการหนึ่งท่ีผูเรียนจําเปนตองปรับปรุงแกไขเพอ่ื พัฒนาบุคลกิ ภาพของตนเองจากภายในดงั ตอ ไปนี้ 4.2.1 ลืมอดีตและใหอภัย ประสบการณในอดีตที่ทําใหไดรับความผิดหวังและเจ็บช้ํา จะเปนสิ่งบ่ันทอนจิตใจใหทอแทไรสุข กอใหเกิดความเศราโศก ระทมทุกขทั้งสีหนา แววตาและกิริยาทาทาง ทําใหเสียบุคลิก ดังนั้น ควรลืมเร่ืองหมนหมองและหาประสบการณช ีวิตใหม ๆ ในปจจุบันที่สดใสเปนสุข รูจักใหอภัย ไมโกรธและไมพยาบาท อาฆาตแคน ผูใด สามารถควบคุมอารมณไ ด ทาํ ใหม ีมาดนง่ิ สงบ ไมก า วรา ว เกรย้ี วกราดกบั ใคร 4.2.2 มีนํ้าใจใฝธรรมะ มีจิตใจเอื้อเฟอเผ่ือแผตอผูอื่น แสดงความไมเห็นประโยชนสวนตนโดยยึดหลักประจําใจ คือ ให (ทาน) และการบริจาค (จาคะ) เพ่ือสงเคราะหสังคมที่ประสบความทุกขยากและผูดอยโอกาส เม่ือพัฒนาจิตใจไดเชนนี้ จะสงผลใหมีบุคลิกภาพทน่ี ุมนวล ออนโยนเพราะมจี ิตเมตตาสงสารและกรณุ าคอื ยินดีที่จะชว ยใหผอู นื่ พนทกุ ข เปนตน นอกจากนี้ยังมีหลักธรรมขออื่น ๆ อีกมากมายที่จะกลอมเกลาใหบุคคลผูใฝธรรมมีบุคลิกท่ีงดงาม นาเล่ือมใสศรัทธา นาคบคาสมาคมและเปนมิตรดวย ซึ่งผูที่คิดจะปรับปรุงตนควรศึกษาใหเหมาะสมกับลักษณะนิสัย เพื่อจะไดแกไขขอบกพรองใหดีขึ้นโดยเฉพาะการสํารวมอินทรีย คือ ตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ นี้ ถาหมั่นสํารวมใจและระลึกรูใหทันหู ตา จะไมหาเร่อื งเขาตวั ทําใหเ กดิ โลภะ โทสะ โมหะไดเลย

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 206 4.3 พฒั นานสิ ัยของตนเอง ลักษณะนิสัยมีสวนเกี่ยวของกับความตองการและทดแทนส่ิงที่ขาด กลบเกล่ือนและไมยอมรับฟงความจริง ลักษณะนิสัยมีผลตอการพัฒนาบุคลิกภาพ เชน ผูที่ตองผานชีวิตการตอสูด้ินรนมากอน จะกลายเปนผูท่ีมีบุคลิกภาพกาวราว รุนแรง ผูท่ีมีปมดอยไมเทาเทียมผูอื่นก็มักจะมีบุคลิกภาพเยอหย่ิงชอบขมผูอ่ืน กลบเกล่ือนปมดอยของตนเอง สวนผูท่ีมีปมเข่ืองคิดวาตนเองเหนือกวาใครก็มักจะมีบุคลิกภาพที่เยอหยิ่ง จองหอง เหยียดหยามผูอ่ืนเชนกัน ผูที่ไดรับความบีบค้ัน กดดันและตองรองรับอารมณของคนในครอบครัวตั้งแตเยาววัย ก็มักจะมีบุคลิกภาพที่เกรย้ี วกราด เจา อารมณห รือไมก็ถอยหนีจากสังคม เกบ็ ตัวเพราะเกบ็ กด สวนผูที่อยูในครอบครัวที่ไมคอยพูดจาปราศรัยกัน ไมไดออกสูสังคมก็มักจะมีบุคลิกภาพขี้อาย เกอเขินไมกลาแสดงออกและขาดความเช่ือม่ัน ซ่ึงสิ่งที่กลาวนี้เปนเพียงตัวอยางสวนหน่ึงท่ีผูเรียนควรสํารวจตนเอง เพอ่ื ปรับปรงุ และพัฒนาลักษณะนิสัยใหเ ปน ผมู บี คุ ลกิ ภาพงาม การปรับปรงุ และพัฒนาลักษณะนิสยั มดี ังน้ี 1) สํารวจตนเองกอนวาลักษณะนิสัยเปนเชนไร เพ่ือจะไดปรับปรุงตนเชน เคยเดนิ เร็ว กนิ เร็ว รีบรอน ไมรอใคร กผ็ อนอากปั กิริยาใหช าลงบา งและรจู ักรอผอู ืน่ บาง 2) มองโลกในแงด ี มองทกุ คนดานดี ลมื เรอื่ งทไี่ มถ กู ใจเสยี บาง จะไดรูสึกมคี วามสขุ ขน้ึ เคยจอ งจบั ผิดใคร ๆ กเ็ ปลี่ยนเปนจอ งจับแตสวนดขี องเขาและนํามาปรบั ปรุงตน 3) เช่ือม่ันในตนเองวาสามารถพัฒนาตนได ใหกําลังใจตนเองสมํ่าเสมอ อยาทอถอย อยาอางความไมสวย ไมรวย เรียนไมสูง การงานตํ่าตอยมาเปนขออางบั่นทอนความต้ังใจ ควรเรียกความเช่อื มนั่ กลับคนื มาและทกุ อยา งจะคอย ๆ เปล่ียนแปลง 4) ยอมรับความคิดเห็นและคําตําหนิของผูอ่ืนเพื่อนํามาแกไขปรับปรุงเชน “อยาทําผมทรงนี้อีกนะ ไมสวย” “ชุดน้ีอยาใสเลย นาเกลียด” “รองเทาคูนี้เยินแลว ซ้ือใหมไดแลว ” ซ่ึงไมจ ําเปนตอ งเชื่อทีเดยี ว ถามคนอื่นอกี กไ็ ด ถายืนยันตรงกันก็รีบทําตามคาํ แนะนาํ 5) เรียนรูจากตํารา หาขอมูลจากสื่อตาง ๆ เพ่ือนํามาพัฒนาและปรับปรุงตน ในปจจุบันขอมูล เนื้อหา รูปภาพ หาไดจากนิตยสาร หนังสือพิมพ อินเตอรเน็ตเพยี งแครตู นเองวาจะศึกษาเพ่อื ปรบั ปรุงตนใหดีข้นึ และอยูรวมกับผอู ่นื อยา งมีความสขุ ไดเ ทานน้ั 6) ปรับเปล่ียนเจตคติ (Attitude) เลิกมีความคิดเดิม ๆ ที่ไมถูกตองเชน คนสวย คนหลอ ยศ ฐานันดร ฐานะรํ่ารวย การศึกษาสูง จึงจะมีบุคลิกภาพดี เพราะส่ิงที่กลาวมาท้ังหมดนี้เปนเพียงองคประกอบที่ทําใหเกิดความเช่ือม่ันในตนเองมากขึ้นเทาน้ัน แตถาผูท่ี

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 207สวย รวย การศึกษาสูง มีนิสัยหยาบคาย เห็นแกตัวไมรูกาลเทศะ สังคมก็ไมยอมรับ จึงควรจดจําไวว าผูทีม่ ีบคุ ลกิ ภาพดี คือ ผดู ี และผดู ี คือ คนดี จึงจะถกู ตอง 7) ปรับเปล่ียนรสนิยม เชน รูจักมีความสันโดษ พอเพียงในส่ิงที่มีท่ีเปน การใชของราคาแพง ดื่มสุรา เท่ียวกลางคืน ก็ไมทําใหบุคลิกดีข้ึนกลับจะทําใหเสียทรัพยรา งกายทรดุ โทรม ถาเปลี่ยนเปนใชเวลาวางปลูกตนไม อานหนังสือ คุยกับครอบครัว ชวนกันไปวดั ทําใจใหส บาย ไมฟงุ เฟอ บุคลกิ ภาพกจ็ ะเปลย่ี นไปในทางที่ดี5. ประโยชนของผมู ีบุคลิกภาพดี นายแพทยบตุ ร ประดษิ ฐวณิช กลาวไวใน ขุมทองในบุคลิกภาพ วา “ก็อํานาจหรือพลังอันใดเลาที่ทําใหคนอื่นเกิดความนิยมชมชอบในตัวเรา ถึงกับยินดีใหความรวมมือรวมใจชวยเหลือใหงานของเราสําเร็จถึงจุดหมายได...” (2539 : 6) และ “เรามักจะไดยินคนที่มีการศึกษาดี แตไรบุคลกิ ภาพชอบบน บอย ๆ วา คนทมี่ ีความรูความสามารถมักอับเฉาในเร่ืองโอกาส คํากลาวเชนนี้เปน ความจรงิ ...” (บุตร ประดษิ ฐวณชิ 2539: 7) ขอความดังกลาว แสดงใหเห็นวาบุคลิกภาพที่ดีมีโอกาสที่จะไดรับประโยชนหลายประการไดแ ก 5.1 ผมู ีบคุ ลกิ ดีมคี นชนื่ ชอบมากมาย มีมติ รสหายลอ มรอบเพราะมีภาพลักษณประทบั ใจผพู บเหน็ จนอยากรจู ักใกลชดิ สนิทสนมดวย 5.2 บคุ ลิกดมี อี าชพี ใหเลือกทํา เชน งานประชาสัมพันธ แผนกตอนรับ เหมาะสมกับผูที่ย้ิมแยมแจมใสเปน มติ ร สุภาพออ นนอ ม พรอมจะบริการปวงชน ผูบริหารหัวหนางาน เหมาะกับผูมีมาดนิ่ง สุขุม รอบคอบ มีไหวพริบปฏภิ าณแกไขปญหาไดร วดเรว็ ถูกตอง มเี มตตา ใสใ จคนรอบขาง ผูท่ีเหมาะกับความเปนครู คือ ผูที่มีความเชื่อมั่น เมตตา กรุณา เห็นอกเหน็ ใจผูอ ื่น มีประสบการณและเฉลียวฉลาดทจ่ี ะแนะนาํ คนอื่น ผูท่ีเหมาะกับอาชีพพนักงานประจําท่ัวไป คือ ผูท่ีมีความออนนอมสุขภาพดี อดทน ไมดื้อร้ัน ซ่ือสัตย ตรงเวลา ขยันขันแข็งและเรียนรูงานเพื่อจะไดเปนผูบริหารตอ ไป

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 208 5.3 บุคลิกดีมีความสําเร็จในชีวิตและธุรกิจการงาน เพราะผูท่ีมีบุคลิกดีสามารถทําใหผ ูอ น่ื เกดิ ความเกรงใจ ศรัทธาและยอมรบั นับถอื ไดโดยงาย เชน บคุ ลิกดี วาจาดี ผา นการสัมภาษณไดง าน บุคลกิ ดี กริ ิยาดี แตงกายดี เขา สังคมไดงา ย บคุ ลิกดี กิริยาดี วาจาดี เจา นายชอบ ลกู นอ งรัก บุคลิกดี กิรยิ าดี วาจาดี เจรจาธุรกจิ ไดป ระสบผลสําเร็จ ดังนั้นจึงอาจสรุปไดวาบุคลิกดีจะทําใหไดรับการยอมรับในสังคมและประสบความสาํ เร็จในหนา ทกี่ ารงาน - บุคลิกภาพสามารถพัฒนาไดจากความดีท่ีมีอยูในตน จากการอบรมของครอบครวั สิง่ แวดลอมและสนใจใฝรูฝ กฝนตนเองเพม่ิ ขึ้น - ปรับปรุงบุคลิกภาพใหดีขึ้นทางกาย เชน ออกกําลังกายและรับประทานอาหารทีม่ ีประโยชน เมอื่ สขุ ภาพกายดจี ะมีผลดตี อบคุ ลิกภาพดวย ความสดช่ืนแข็งแรงจะทําใหบุคลกิ คลอ งแคลว กระฉบั กระเฉง ไมอ อนระโหยโรยแรงดนู า เวทนา - ปรับปรุงลักษณะนสิ ยั คือ ปรับเปล่ียนทรรศนะและเจตคติท่ีมีอยูใหยอมรับสิ่งตาง ๆ ไดงาย ไมดื้อรั้น อวดดี ทําใหมีความรอมชอม อลุมอลวยและมีความสุขุมเยอื กเยน็ มากขึ้น - เสรมิ สรา งส่ิงดีงามใหก บั ตนเอง คอื ปรับปรุงจิตใจ เพื่อจะไดสง ผลใหบ ุคลิกภาพงดงาม มมี ารยาทและมีกาลเทศะ ดูเปนผดู ีในสายตาของผูท่ีไดพ บเห็น

หนว ยที่ 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 209แสดงการปรับปรุงและพฒั นาบุคลิกภาพทถี่ ูกตองยืนตรงและวางมอื (สุภาพบรุ ษุ ) ยนื ตรงและวางมอื (สภุ าพสตรี) ภาพที่ 7.1 การยนื และการวางมอื สุภาพบุรุษและสภุ าพสตรีที่มา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บุญศรีเตรยี มนง่ั ยอ เขา นงั่ เกา อี้ ภาพท่ี 7.2 ทา นัง่ สุภาพบุรุษท่ีมา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บญุ ศรีเตรียมน่ัง น่ังเกา อธี้ รรมดา น่งั เกา อ้ธี รรมดา ภาพท่ี 7.3 ทานง่ั สุภาพสตรีท่ีมา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บญุ ศรี

หนวยที่ 7 การพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 210 ภาพท่ี 7.4 ระดับการโคงแสดงความเคารพ ที่มา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บญุ ศรี ภาพท่ี 7.5 ระดบั การยิม้ ที่เสริมบคุ ลกิ ใหดยี ่งิ ขึ้น ท่ีมา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บุญศรีผายมอื บอกระยะไกล ผายมอื บอกระยะใกล ผายมอื บอกระยะใกลทสี่ ดุ ภาพท่ี 7.6 การผายมือบอกระยะตาง ๆ ที่มา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บญุ ศรี

หนวยท่ี 7 การพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 211การเสรมิ บุคลิกภาพมือสะอาด เล็บตัดส้นั และสะอาดภาพท่ี 7.7 การดแู ลมอื และเล็บ ที่มา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บุญศรีแหวนและนาฬกิ า เครอ่ื งประดบั ของสภุ าพสตรี ปากกาดมี รี าคาเคร่ืองประดับของสุภาพบรุ ุษภาพที่ 7.8 การเลือกใชเ ครือ่ งประดับสุภาพบรุ ุษและสุภาพสตรี ท่ีมา : เอกสารประกอบการบรรยาย โดยชลธร บุญศรี

หนวยท่ี 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 212 สรปุ หนวยการเรยี นรทู ่ี 7ความหมายของบคุ ลิกภาพ บุคลิกภาพหรือบุคลิกลักษณะ หมายถึง คุณลักษณะเฉพาะตัวของแตละบุคคลท่ีแตกตางกัน อาจจะมีทั้งบุคลิกภาพท่ีดีและไมดี บุคลิกภาพท่ีดียอมไดรับความนิยมยกยองในการสมาคมปจ จัยทีม่ ผี ลตอ ความแตกตางของบคุ ลกิ ภาพ ไดแก 1. พนั ธุกรรม 2. สงิ่ แวดลอม 3. ขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมลกั ษณะของผูท ่ีมบี คุ ลิกภาพดีและไมดี มอี งคประกอบดังน้ี คือ 1. การแสดงออกทางกาย 2. การแสดงออกทางวาจา 3. การแสดงออกทางลกั ษณะนสิ ัยกลวิธใี นการปรบั ปรงุ และพัฒนาบุคลกิ ภาพ สํารวจไดจากการดําเนินชีวิตในชีวิตประจําวัน จากกิจนิสัย ความประพฤติและการกระทําตา ง ๆ นาํ มาเปน แนวทางการพฒั นาบุคลิกภาพ ดังนี้ 1. พัฒนาบุคลิกภาพภายนอก 2. พัฒนาบุคลกิ ภาพภายใน 3. พฒั นานิสัยของตนเองประโยชนของผูมบี คุ ลกิ ภาพดี 1. ทําใหมผี ูช ื่นชอบ 2. ทาํ ใหเ ลอื กอาชีพไดตามความประสงค 3. มคี วามสําเร็จในชีวติ และธุรกจิ การงาน

หนวยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 213 กิจกรรมการเรยี นรทู ี่ 1 Mind mappingคาํ ชี้แจง ใหผเู รยี นทาํ Mind mapping ของหนวยท่ี 7 หลงั จากเรียนรแู ลว เลขที่ .......... ช่ือ ...................................................... ช้นั ......................

หนว ยท่ี 7 การพฒั นาบคุ ลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 214 กิจกรรมการเรยี นรูท่ี 2เรอื่ ง ปจจัยท่มี ีผลตอ ความแตกตา งของบุคลกิ ภาพคําช้แี จง ใหผ เู รยี นสาํ รวจตนเอง บอกความเหมือนและความแตกตา งของตนเองกบั บุคคลในครอบครวับคุ ลกิ ภาพของผเู รยี น บคุ ลกิ ภาพของบุคคลในครอบครวัรปู รา งหนาตา ....................................................... รูปรางหนา ตา .................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ...........................................................................กิริยาทา ทาง ........................................................... กิริยาทาทาง ...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ...........................................................................ลกั ษณะนิสยั ......................................................... ลกั ษณะนสิ ัย ..................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........................................................................... .................................................. ผบู ันทึก สรุปการประเมนิ ผล … ผา น (ปฏบิ ตั ไิ ดตามคาํ ชีแ้ จง) … ไมผา น (ไมส ามารถปฏิบัติไดตามคําช้ีแจง) ลงช่อื ............................................ ผูประเมิน ........ / .................. /.............

หนวยท่ี 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 215 กิจกรรมการเรียนรทู ี่ 3เร่ือง ลกั ษณะของผูท่มี บี ุคลิกภาพที่ดแี ละไมดี คําช้ีแจง ใหผูเรียนจับคูกันตามเลขที่หรือคูเพื่อนสนิทในหองเรียน สํารวจคูของตนเองวามบี ุคลิกภาพดี ไมดีอยา งไรบคุ ลกิ ภาพทีด่ ขี องเพ่ือน บุคลกิ ภาพท่ไี มด ีของเพอื่ นทางกาย ................................................................ ทางกาย ............................................................................................................................................ .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ...........................................................................ทางใจ.................................................................... ทางใจ .............................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ...........................................................................ทางอปุ นสิ ยั ........................................................... ทางอปุ นสิ ัย ...................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................... ........................................................................... .................................................. ผูบ นั ทกึ สรุปการประเมนิ ผล … ผา น (ปฏบิ ตั ิไดตามคาํ ชีแ้ จง) … ไมผ าน (ไมสามารถปฏบิ ตั ไิ ดต ามคาํ ชีแ้ จง) ลงชอื่ ............................................ ผูประเมิน ........ / .................. /............

หนวยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 216 กจิ กรรมการเรยี นรูท่ี 4 เรอ่ื ง กลวธิ ใี นการปรบั ปรุงและพฒั นาบุคลกิ ภาพคาํ ชี้แจง ใหผูเรียนวเิ คราะหและประเมินบคุ ลิกภาพของตนเองตามหัวขอดังน้ี 1. ขอดี 2. ขอ บกพรอ ง 3. แนวทางการปรบั ปรุงแกไข บุคลิกภาพของขา พเจาขอดี.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ขอบกพรอง.....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................แนวทางการปรับปรุงแกไข............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................. ผบู ันทึก สรุปการประเมนิ ผล … ผาน (ปฏบิ ัติไดตามคําช้ีแจง) … ไมผา น (ไมสามารถปฏิบัตไิ ดตามคาํ ช้แี จง) ลงชอื่ ............................................ ผูประเมิน ........ / .................. /.........

หนว ยท่ี 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 217กิจกรรมการเรยี นรทู ่ี 5 เร่อื ง แบบสํารวจตนเอง1) แบบการสํารวจนสิ ัยตนเองวา เขากบั ผอู ่นื ไดด ีหรอื ไม (ทาํ เครือ่ งหมาย 9 ) ทานปฏิบตั ิดงั นใ้ี ชห รอื ไม ใช ไมใ ช1) รจู กั คนยาก .............. ..............2) ไมคอ ยชอบไปงานสงั สรรค .............. ..............3) ชอบนง่ั ขา งหลงั หอ งประชมุ .............. ..............4) มีเพือ่ นสนทิ จรงิ ๆ นอยคน .............. ..............5) ไมช อบอยใู นท่ีท่ีมคี นมาก ๆ .............. ..............6) ชอบนงั่ เงียบ ๆ ในวงสนทนา .............. ..............7) ไมช อบลลี าศกบั ผูทไ่ี มคุน เคย .............. ..............8) ไมเคยเปนหัวหนากลมุ รายงานหนา ช้ัน .............. ..............9) ไมท ราบจะพูดเรือ่ งใดกบั คนแปลกหนา .............. ..............10)ไมช อบทาํ หนา ที่ เปน ฝา ยตอนรับ หรอื .............. ..............ประชาสัมพันธบอกแนวทางการปรบั ปรุงตนเอง.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .................................................. ผบู นั ทกึ สรปุ การสาํ รวจ ใชม ากกวาไมใชแสดงวา เขา กบั ผูอื่นไดยาก ใช 7 -10 ควรปรบั ปรุง 6- 4 ดี 1 – 2 ดีมาก

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 2182) แบบสํารวจการพูดวาตนเองเปน ผูมีกาลเทศะหรือไม (ทําเครื่องหมาย 9 ) ทานปฏบิ ตั ิดงั นี้ใชหรอื ไม ใช ไมใช1) ผูอื่นชอบสนทนาดว ย .............. ..............2) ชอบพดู ใหก ําลังใจผอู นื่ .............. ..............3) สนใจฟงเมอื่ ผอู น่ื กาํ ลงั พูด .............. ..............4) พดู ขอโทษทกุ ครัง้ ท่ที าํ ผดิ พลาด .............. ..............5) พดู คําวา กรุณา กอนขอรอ งผอู นื่ .............. ..............6) ไมเคยชมผอู นื่ ท้ังคาํ พูดและกิรยิ าทา ทาง .............. ..............7) ชอบทาํ สิ่งตา ง ๆ ใหผอู น่ื แมเขาไมไดข อรอง .............. ..............8) ชอบพดู ขดั เพ่ือน เมอ่ื ความคดิ ของเขาไมไ ดเรือ่ ง .............. ..............9) เมื่อไปเยย่ี มญาติหรือเพอ่ื นจะอยสู นทนาไมน าน .............. .............. กล็ ากลบั .............. ..............10) พดู ขอบคณุ ติดปาก แมแ ตค นขบั รถแทก็ ซ่ีเมอ่ื สง ถงึ ทีห่ มายบอกแนวทางการปรบั ปรงุ ตนเอง.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .................................................. ผูบ ันทกึ สรุปการสาํ รวจ ใชม ากกวาไมใชแสดงวาเปน ผูมีกาลเทศะ ใช 7 -10 ดีมาก 4- 6 ดี 1 -3 ควรปรับปรงุ

หนว ยที่ 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 2193) แบบสํารวจตนเองวาเปนผูม ีจิตใจงามหรือไม (ทาํ เครือ่ งหมาย 9) ทานปฏบิ ตั ิดงั นีใ้ ชห รือไม ใช ไมใ ช1) ใหอ ภยั ศตั รไู ดง า ย .............. ..............2) ชอบทาํ ส่งิ ที่ไมไดป ระโยชนต อบแทน .............. ..............3) ยอมใหใ ครใชของของตนได .............. ..............4) ชอบถามเร่อื งทกุ ขสขุ ของเพือ่ น ๆ .............. ..............5) เพ่ือนหรอื ญาตปิ ว ยตอ งลางานไปเยย่ี ม .............. ..............6) แมโกรธกันก็จะรว มทาํ กจิ กรรมดว ย .............. ..............7) นําเงนิ ทอนสวนเกนิ ไปคนื พนักงานเกบ็ เงนิ .............. ..............8) ชว ยถอื ของใหผ อู นื่ บนรถโดยสารสาธารณะ .............. ..............9) ชอบรวมวงสนทนาจดั กิจกรรมออกคา ยอาสา .............. .............. พัฒนา .............. ..............10) สง บตั รแสดงความยนิ ดี ทเ่ี พอื่ นไดร ับเลอื กเปน ผูท ่ี “สวยหนา ตา การศกึ ษาเลิศ”บอกแนวทางการปรับปรุงตนเอง.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... .................................................. ผูบ ันทึก สรุปการสํารวจ ใชมากกวา ไมใชแสดงวา เปน ผูที่ชอบ ทําอะไรเพื่อผอู ่ืน ใช 7 -10 ดมี าก 4- 6 ดี 1- 3 ควรปรบั ปรุง

หนวยท่ี 7 การพฒั นาบุคลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 2204) แบบสาํ รวจบคุ ลิกภาพการแตงกาย (ทาํ เคร่อื งหมาย 9) ทา นปฏิบตั ิดงั น้ีใชหรือไม ใช ไมใช .............. ..............1) เงนิ สวมชดุ ปกเลื่อมระยบั ไปงานเลย้ี งตอนกลางวัน .............. ..............2) ทอง สวมชดุ ไทยพระราชนิยมไปงานสงั สรรคเพอ่ื น .............. ..............3) นาก สวมชดุ ไทยอมรนิ ทร เปน แขกไปงานมงคลสมรส .............. ..............4) เพชร สวมเส้อื ขาว คอปด ถุงสาํ เร็จ สขี าว ไปงานคนื สเู หยา .............. ..............5) พลอย โกรกผมสปี ระกายทองเหลอื บเขียวไปรับทนุ การศกึ ษา .............. ..............6) มรกต สวมชดุ ยาว เปลอื ยไหล ไปรดนํ้าสังขค บู าวสาว .............. .............. เวลา 09.59 น.7) บุษราคัม สวมกระโปรงสน้ั ผา ขางซา ยขวาไปเปนพธิ กี ร .............. .............. งานสมั มนาผูบรหิ าร .............. ..............8) โกเมน ปลอ ยผมยาว ตดิ ดอกไมด อกใหญที่ผม สวมเสื้อสายเดยี่ ว .............. .............. กระโปรงยาวกรอมเทา เดนิ ซือ้ ของในหา งสรรพสนิ คา9) เพทาย ถกั เปย 2 ขาง สวมเสื้อคอควานลกึ กางเกงขาสน้ั ไปงานแสดงมทุ ติ าจิต10) ทบั ทิม สวมกางเกงยีน เสอ้ื เชต้ิ รองเทาแตะสานไปงาน พระราชทานเพลงิ ศพบอกแนวทางการปรบั ปรงุ ตนเอง...................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ผูบนั ทกึ สรุปการสํารวจใชม ากกวา ไมใชแสดงวาแตง กายไมถ ูกกาลเทศะ ใช 8 -10 ควรปรบั ปรุง 5- 7 ปานกลาง 1-4 ดีมาก

หนว ยท่ี 7 การพัฒนาบคุ ลิกภาพและปรับปรงุ ตนเอง 221แบบทดสอบหลงั การเรียนรหู นวยท่ี 7เลอื กคาํ ตอบทีถ่ กู ตอ งทีส่ ุดเพยี งคําตอบเดียว 6. ผทู ีม่ บี คุ ลกิ ภาพทางกายทดี่ ี ตดั สนิ ได จากขอ ใด 1. ขอใดไมใ ชล ักษณะเฉพาะตวั ทป่ี ระกอบเปนบคุ ลิกภาพ 1. มานะอดทน มรี ะเบียบวินยั 2. ผม ผิว แตงกายเหมาะกบั รปู รา ง 1. จิตใจ 2. อปุ นิสยั ทรงตัวดี สุขภาพดี 3. เงินทอง 3. รักงาน ตรงตอ เวลา หมน่ั ศกึ ษา 4. กาํ ลังใจ 2. ขอ ใดเปนการพัฒนาบคุ ลิกภาพทางกาย รับประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน 1. ออกกาํ ลังกาย 4. รา งกายแขง็ แรง มานะอดทน 2. ควบคมุ อาหาร 3. การแตงกาย มรี ะเบยี บวินยั กตญั ูกตเวที 4. ถกู ทุกขอ 7. แนวทางการพฒั นาบคุ ลิกภาพตองเริม่ ที่ 3. ขอใดไมใ ชก ารพฒั นาบคุ ลกิ ภาพทางใจ ตัวเองกอนเปน สําคญั คือเรมิ่ ตนจากขอ ใด 1. ลืมอดีต 2. มีนาํ้ ใจ 1. ฝกเปน คนชา งสงั เกต 3. ไมก าวรา ว 2. เลียนแบบคณุ ลักษณะที่ดจี ากบุคคล 4. ใชธ รรมะ 4. ปจ จยั ขอ ใดทท่ี ําใหบ คุ คลมบี คุ ลิกภาพ ทอี่ ยูใกลชดิแตกตางกนั 3. ทาํ ตัวใหส อดคลองตามหลักสุขภาพ 1. บา น โรงเรียน เพื่อน 2. ชุมชน ครอบครวั อนามัย และควบคมุ ตนเองใหม ี 3. โทรทัศน บิดามารดา ระเบียบวินยั 4. ถูกทกุ ขอ 4. ทกุ ขอ ทกี่ ลาวมา5. ขอ ใดเปนสงิ่ แวดลอ มทางสงั คมและ 8. บุคคลท่สี ามารถปรับปรงุ จิตที่ไดผ ลทําวฒั นธรรม ซ่งึ มผี ลทําใหบ คุ คลมีบุคลกิ ภาพท่แี ตกตางกนั ใหเ ปนคนทมี่ บี ุคลิกภาพดี คือการกระทาํ ขอ 1. ความสามารถ 2. สตปิ ญญา ใด 3. ความเฉลยี วฉลาด 1. มีธรรมะประจาํ ใจ 2. การออกกําลงั กาย 4. การเลี้ยงดจู ากครอบครวั 3. การเปน คนชา งสงั เกต 4. การควบคุมตนเองใหม ีระเบยี บวนิ ยั

หนวยท่ี 7 การพัฒนาบุคลิกภาพและปรับปรุงตนเอง 222 9. หลกั ธรรมขอใดทาํ ใหอยูรวมกันอยา งมี 10. สกณุ ามรี ูปรางอวน หาแบบเส้ือสวมใสยากความสขุ สกณุ าควรจะหาวธิ ีปรบั ปรงุ ตนเองอยา งไร 1. พรหมวหิ าร 4 1. ออกกําลงั กายสม่ําเสมอ 2. อทิ ธิบาท 4 2. รบั ประทานอาหารถกู หลกั โภชนาการ 3. สังคหวัตถุ 4 3. ใหชางออกแบบเสอื้ ท่เี หมาะสมกับ 4. คุณธรรมพน้ื ฐาน 4 ประการ ตนเอง 4. ถูกทุกขอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook