ทฤษฎี X
ประวตั ขิ อง Douglas McGregor ● เกดิ ในปี1906 ทเ*ี มอื ง Detroit ในรฐั Michigan ● ไดร้ บั ปรญิ ญาดา้ นจติ วทิ ยาการทดลองจากมหาวทิ ยาลยั Harvardในปี1935 และสอนทม*ี หาวทิ ยาลยั น@ีเป็น เวลา 2 ปี ● จากนนั@ มาสอนทส*ี ถาบนั เทคโนโลยแี มสซาชเู ซทหรอื MIT ฐานะอาจารยส์ อนวชิ าจติ วทิ ยา ● เน*ืองจากตาํ แหน่งทเ*ี พมิ* ขน@ึ ทาํ ใหเ้ ขายา้ ยเขา้ มาเป็นศาสตราจารยส์ อนทางจติ วทิ ยาและเป็นผบู้ รหิ ารระดบั สงู ใน สว่ นของแผนกความสมั พนั ธท์ างอุตสาหกรรมของ MIT ● และในทส*ี ดุ กไ็ ดก้ ลายเป็นนกั จติ วทิ ยาสงั คม ● ตอนหลงั ไดก้ ลายเป็นประธานของวทิ ยาลยั Antitioch ● ชอ*ื ของเขาเป็นทร*ี จู้ กั จากการเขา้ ไปเชอ*ื มโยงกบั ทฤษฎี Y ทเ*ี ขาไดก้ ลา่ วไวใ้ นหนงั สอื เรอ*ื ง “Managing the Human Side of Enterprise” ● อกี ทงั@ ยงั มบี ทความสาํ คญั ทเ*ี ลา่ เกย*ี วกบั งานอาชพี ของเขา เรอ*ื ง“Leadership and Motivation” ● และในชว่ งฤดรู อ้ นในปี 1964 ไดใ้ ชเ้ วลาเขยี นตน้ ฉบบั ซง*ึ ถกู ตพี มิ พห์ ลงั จากเขาตายในเดอื นตุลาคมชอ*ื เรอ*ื ง “The Professional Manager
ทฤษฎี X และทฤษฎี Y ของแมคเกรเกอร์. แมคเกรเกอร์ (McGregor, 1960) ไดช้ ใ.ี หเ้ หน็ ถงึ แบบของการบรหิ าร 2 แบบ คอื ทฤษฎี X ซง@ึ มลี กั ษณะเป็นเผดจ็ การ และทฤษฎี Y หรอื การมสี ว่ นรว่ ม แต่ละแบบเกย@ี วขอ้ งกบั สมมตุ ฐิ านทม@ี ตี ่อลกั ษณะของ มนุษยด์ งั น.ี ผบู้ รหิ ารแบบทฤษฎี X เชอ@ื วา่ 1. มนุษยโ์ ดยทวั@ ไปไมช่ องการทาํ งาน และพยายามหลกี เลย@ี งงานถา้ สามารถทาํ ได้ 2. เน@ืองจากการไมช่ อบทาํ งานของมนุษย์ มนุษยจ์ งึ ถกู ควบคมุ บงั คบั หรอื ขม่ ขใู่ หท้ าํ งาน ชอบใหส้ งั@ การ และใชว้ ธิ กี ารลงโทษ เพอ@ื ใหใ้ ชค้ วามพยายามไดเ้ พยี งพอ และบรรลวุ ตั ถุประสงคข์ ององคก์ าร 3. มนุษยโ์ ดยทวั@ ไปพอใจกบั การชแ.ี นะสงั@ การหรอื การถกู บงั คบั ตอ้ งการหลกี เลย@ี งความรบั ผดิ ชอบ มี ความทะเยอทะยานน้อย และตอ้ งการความมนั@ คงมากทส@ี ดุ ผบู้ รหิ ารตามทฤษฎี X จงึ ตอ้ งสรา้ งแรงจงู ใจโดยการขม่ ขู่ และลงโทษ เพอ@ื ทาํ ใหล้ กู น้องใชค้ วามพยายามใหบ้ รรลคุ วามสาํ เรจ็ ตามเป้าหมายขององคก์ าร
หลกั การและแนวคดิ ทฤษฎขี องแมก็ ซเ์ กรเ์ กอร์ มฐี านคดใี นการมองคนทอ7ี ยใู่ นองคก์ ารแยกออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ทฤษฎี X ถอื วา่ 2. ทฤษฎี Y : เหน็ วา่ - คนโดยทวั( ไปเกยี จครา้ น ชอบ - คนชอบทาํ งาน ไมไ่ ดเ้ ป็นคนเกยี จครา้ น เลย(ี งงาน - การควบคมุ ภายนอก ไมใ่ ชเ่ ป็นวถิ ที างทจ=ี ะไดม้ าซง=ึ งาน คนสามารถทจ=ี ะหาแนวทางและควบคมุ ตนเองได้ - ขาดความกรตอื รอื รน้ ไมม่ คี วาม - ความพงึ พอใจทไ=ี ดป้ ฏบิ ตั งิ านเขา้ มาตามศกั ยภาพ เป็น รบั ชอบ ปรารถนาทจ(ี ะเป็นผตู้ าม รางวลั ทม=ี คี วามสาํ คญั ทจ=ี ะทาํ ใหค้ นมคี วามผกู พนั อยกู่ บั มากกวา่ องคก์ าร - คนโดยทวั= ไปจะเรยี นรเู้ พอ=ื แสวงหาความรบั ผดิ ชอบ - เหน็ แก่ตวั เพกิ เฉยต่อความ ต่อไป ตอ้ งการขององคก์ าร - คนสว่ นใหญ่อาศยั ภาวะสรา้ งสรรคใ์ นการแกไ้ ขปัญหา ในองคก์ าร - ไมฉ่ ลาด - ในปัจจบุ นั ศกั ยภาพของคนยงั ไมไ่ ดร้ บั การนําไปใช้
การนําไปใช้ ทฤษฎี X กค็ อื ภาพพจน์ของคน ในแนวมนุษยสมั พนั ธ์ ซง(ึ เชอ(ื วา่ โดยธรรมชาตมิ นุษยเ์ ป็นคนดี ดงั นนัR คนจงึ ควรควบคมุ ตนเองได้ การควบคมุ ตนเองหมายถงึ การปรบั ปรงุ องคก์ ารในเรอ(ื งต่าง ๆ เชน่ การกระจาย อาํ นาจ การมอบหมายอาํ นาจ หน้าท(ี การขยายงาน การมสี ว่ นรว่ ม และการบรหิ ารงาน โดยยดึ เป้าหมาย จงึ เหไ้ ด้ วา่ ขอ้ เสนอการปรบั ปรงุ งานของ McGragor เป็นการยาRํ ใหเ้ หน็ ความสาํ คญั ของคน และชว่ ยใหค้ นหลดุ พน้ จากการควบคมุ ขององคก์ าร ซง(ึ เป็นคา่ นิยมหลกั ของมนุษย์ นิยมทจ(ี ะเหน็ วา่ คนมากอ่ นองคก์ าร มนุษยน์ ิยมตอ้ งการหาจดุ ทพ(ี บกนั ได้ แต่ตอ้ งการรกั ษาความมเี สรภี าพไว้ การมองคนวา่ เป็น ประเภท X หรอื Y นนัR เป็นการชว่ ยใหเ้ ราแยกแยะคนได้ ทาํ ใหร้ วู้ า่ ใครเป็นเพอ(ื นทด(ี ี หรอื นายทด(ี ี ซง(ึ เรยี กการมอง แบบนRีวา่ Polarization
ผู้จดั ทาํ นางสาวนําD เพชร พรหมพนัส รหัส 61181550118 สาขาคอมพวิ เตอร์
ท#ีมา http://veerasit-dba04.blogspot.com/2012/10/10-douglas-mcgregor.html
Thank You
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: