Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ประเมินค่าสาร

3 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ประเมินค่าสาร

Description: 3 การวิเคราะห์ สังเคราะห์ประเมินค่าสาร

Search

Read the Text Version

ภาษาเป็ นเครื่องมือในการติดต่อส่ือสาร สร้างความเข้าใจ และความสัมพนั ธ์ต่อกนั ทาให้สามารถประกอบกิจธุรการงาน ในทางวชิ าชีพไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ อีกท้งั ยงั ใชเ้ ป็นเครื่องมือใน การแสวงหาความรู้และประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลหรื อสื่ อ ต่างๆ เพ่ือพฒั นาความรู้ ความคิด ตลอดจนนาไปใชใ้ นการพฒั นา อาชีพ ใหม้ ีความกา้ วหนา้ ได้

๓.๑ ความหมายของการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่าสารในงานอาชพี ๓.๒ หลกั การวเิ คราะห์สาร ๓.๓ หลกั การสงั เคราะห์สาร ๓.๔ ประโยชนข์ องการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่า ๓.๕ คุณสมบตั ิของผวู้ เิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่า ๓.๖ แนวทางการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่าสารในงานอาชีพ

๓.๑ ความหมายของการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่าสารในงานอาชีพ ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ (๒๕๕๖ : ๑๑๑๕, ๑๒๐๐, ๗๑๑) ใหค้ วามหมายว่า วิเคราะห์ หมายถึง ใคร่ครวญ แยกออกเป็นส่วน ๆ เพ่ือศึกษาให้ถ่องแท้ สังเคราะห์ หมายถึง (เคมี) ทาให้ สารประกอบมีปฏิกิริยาเคมี กนั เป็นสารประกอบอ่ืน ประเมินค่า หมายถึง กาหนดหรือใหค้ ่าหรือราคา เทา่ ท่ีควรจะเป็นตามหลกั เกณฑท์ ่ีตงั้ ไว้ ๓.๒ หลกั การวเิ คราะห์สาร การวิเคราะหส์ ารมขี ัน้ ตอนดังนี้ ๓.๒.๑ พจิ ารณารูปแบบของสาร การพิจารณารูปแบบของสาร โดยพจิ ารณาว่าสารนัน้ เป็ นงานเขียนประเภทใด ได้แก่ ๑. ร้อยแก้ว เช่น บทความ ประกาศ รายงาน จดหมาย ข่าว โฆษณา เร่อื งสนั้ นวนิยาย สารคดี นิทาน การต์ นู เป็นตน้ ๒. ร้อยกรอง เช่น กลอน โคลง กาพย์ รา่ ย ฉนั ท์ เป็นตน้

๓.๒.๒ พจิ ารณาเนือ้ หา การพิจารณาเนือ้ หา โดยพิจารณาแยกแยะเนือ้ หาออกเป็นสว่ น ๆ ๑. บันเทงิ คดี มีเนือ้ หา คือ เนือ้ เรอ่ื ง แนวคิด และสาระสาคญั ของเรอ่ื ง ๒. สารคดแี ละบทความมเี นือ้ หา คอื ขอ้ เทจ็ จรงิ ขอ้ คิดเหน็ ขอ้ ความแสดงความรูส้ กึ ๓. ตารา มีเนือ้ หา คือ สาระความรู้ ขอ้ เท็จจรงิ แนวคิด และทฤษฎีต่าง ๆ ท่ีมีข้อพิสจู นเ์ ป็นเหตุ เป็นผล และมีขอ้ อา้ งอิง ๔. ข่าว มีเนือ้ หา คือ เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งราว ขอ้ เท็จจรงิ ๕. โฆษณา มีเนือ้ หา คือ ขอ้ มูลรายละเอียดของสินคา้ และบริการ เช่น สรรพคุณ วิธีการใช้ วธิ ีการเก็บรกั ษา ราคา แหลง่ ผลิต ๖. จดหมาย มีเนือ้ หา คือ เป็นจดหมายของใคร เขียนถึงใคร ติดต่อกันดว้ ยเร่อื งอะไรเร่อื งราว เป็นอยา่ งไร และตอ้ งการใหผ้ รู้ บั จดหมายทาอะไร ๗. บนั ทกึ ข้อความ มีเนือ้ หา คือ ปัญหา ขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ พิจารณา และขอ้ เสนอแนะ ๘. ประกาศ มีเนือ้ หา คือ เร่ืองท่ีหน่วยงานแจง้ ใหบ้ ุคลากรในหน่วยงานหรือประชาชนท่วั ไป ไดร้ บั ทราบ สาระสาคญั มีอะไรบา้ ง

๓.๒.๓ พจิ ารณากลวธิ ีการนาเสนอ ๑. บันเทงิ คดี พิจารณาจากการเปิดเร่อื ง การดาเนินเร่อื ง การสรา้ งฉาก การสรา้ งตัวละคร และ บทสนทนา ๒. สารคดแี ละบทความ พิจารณาจากองคป์ ระกอบของงานเขียน ๓ ส่วน คือ การเปิดเรอ่ื งหรอื ความนา การเสนอเรอ่ื ง และการปิดเรอ่ื งหรอื ความลงทา้ ย ๓. ตารา เป็นเอกสารท่ีม่งุ ใหค้ วามรู้ ไมม่ ีการแสดงความรูส้ กึ หรอื อารมณ์ ๔. ข่าว พจิ ารณาตามโครงสรา้ งของข่าว คอื การเขียนพาดหวั ขา่ ว ๕. โฆษณา พิจารณาภาพ เครอ่ื งหมายการคา้ การออกแบบโฆษณา ๖. จดหมาย บันทึกข้อความ ประกาศ ตอ้ งพิจารณาว่าเป็นเอกสารจากใคร เร่ืองอะไร มี จดุ ประสงคแ์ ละสาระสาคญั คืออะไร

โฆษณา ๓.๒.๔ พจิ ารณาวธิ ีการใช้ภาษา แนวทางการใช้ภาษา ไดแ้ ก่ ๑. งานเขียนประเภท ตารา บทความ รายงาน บนั ทึก จดหมาย จะใชภ้ าษาเขียนท่ีเป็นแบบแผน หรอื ก่ึงแบบแผน ๒. งานเขียนประเภท นวนิยาย เร่ืองสนั้ นิทาน และงานเขียนประเภทรอ้ ยกรอง จะใชภ้ าษาเชิง สรา้ งสรรค์ เพ่ือใหผ้ อู้ า่ นเกิดจิตนาการ เกิดอารมณค์ ลอ้ ยตามจดุ ประสงคข์ องผเู้ ขียน

๓.๒.๕ พจิ ารณาประเมนิ ค่าสาร เนือ้ หาท่ีวิเคราะหน์ นั้ ใหค้ วามรู้ คติ ขอ้ คิด หรอื สง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมดา้ นใด มากนอ้ ยแคไ่ หน ซง่ึ ควรพิจารณาอยา่ งรอบคอ ๓.๓ หลกั การสงั เคราะห์สาร ๓.๓.๑ ขั้นตอนการเขยี นบทความ ๑. ตั้งจุดประสงคก์ ารเขียน จะสง่ สารเร่อื งอะไร เพ่ืออะไร เช่น เพ่ือใหค้ วามรู้ เพ่ือแสดง ความ คดิ เหน็ ๒. รวบรวมความรู้เกี่ยวกับเร่ืองที่จะเขียน ซ่งึ อาจเป็นความรูเ้ ดิมหรือจากการศึกษาคน้ ควา้ สอบถาม สงั เกต การรวบรวมเนือ้ หา

๓. จดั ทาเคา้ โครงเร่ืองทจ่ี ะเขียน วา่ จะนาเสนอเรอ่ื งใดก่อนหลงั เจาะลกึ แคไ่ หน ครอบคลมุ ๔. เรียบเรียงเนือ้ หา โดยนาขอ้ มลู ท่ีมีมาเรยี บเรียงตามโครงเร่อื งท่ีวางไวแ้ ลว้ ดว้ ยสานวนของ ผเู้ ขียนเอง ๕. ตรวจทานและแก้ไข เม่ือเรยี บเรยี งขอ้ มลู เสรจ็ ๓.๓.๒ องคป์ ระกอบของบทความ ๑. คานา คือ องคป์ ระกอบส่วนแรกของบทความ เป็นส่วนท่ีจะสรา้ งความสนใจหรือศรทั ธาต่อ เรอ่ื ง รูส้ กึ อยากอา่ นตอ่ ไป ๒. เนื้อเรื่อง คือ ส่วนท่ีใหร้ ายละเอียดของเร่ืองทงั้ หมด โดยเขียนขยายใจความจากคานา มี ใจความครบถว้ นสมบรู ณต์ รงตามจดุ ประสงคข์ องการเขียน ๓. สรุป ส่วนสดุ ทา้ ยของบทความ ทาหนา้ ท่ีสาคญั ดว้ ยคากล่าวจบเร่อื ง ซ่งึ ควรเขียนจบเร่ืองให้ กระชบั

๓.๔ ประโยชนข์ องการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่า ๑. ชว่ ยพฒั นาดา้ นสติปัญญา ทาใหผ้ เู้ ขียนมีความรอบรูใ้ นเรอ่ื งตา่ ง ๆ ๒. ช่วยพฒั นาทกั ษะภาษาใหส้ งู ขนึ้ ๓ ชว่ ยยกระดบั คณุ ภาพชีวิตใหส้ งู ขนึ้ ๔. ชว่ ยใหม้ ีสขุ ภาพจิตดี ๕. ช่วยพฒั นาบคุ ลิกภาพ ผทู้ ่ีมีความรู้ มีคณุ ภาพชีวติ ดี และสขุ ภาพจิตดี จะ การศึกษาค้นคว้า

๓.๕ คุณสมบตั ิของผวู้ เิ คราะห์ สงั เคราะห์และประเมินค่า ๑. มีความรูเ้ ก่ียวกบั เนือ้ หาท่ีจะวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละประเมินคา่ ๒. มีความรูเ้ ก่ียวกบั รูปแบบและกลวิธีการนาเสนอของงานเขียน ๓. มีความรูเ้ ก่ียวกบั ภาษา ถอ้ ยคา สานวน และใชภ้ าษาท่ีสภุ าพเหมาะสม ๔. มีความใฝ่รู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรูอ้ ย่เู สมอ ๕. มีความเขา้ ใจเนือ้ หาท่ีจะวเิ คราะห์ ๖. มีความกลา้ ท่ีจะแลกเปล่ียนความคิดกบั ผอู้ ่ืน ซ่งึ จะช่วยกระตนุ้ ใหเ้ กิดความคดิ ใหม่ ๆ กวา้ งไกล ออกไป จากเดมิ ๗. มีความใจกวา้ ง ยอมรบั คาวิพากษว์ ิจารณจ์ ากผอู้ ่ืน นาขอ้ บกพรอ่ งมาปรบั ปรุงแกไ้ ข ส่วนคาชม เก็บไว้ เพ่ือเป็นกาลงั ใจและพฒั นาใหด้ ีขนึ้ เรอ่ื ย ๆ

การแลกเปลีย่ นความคดิ กับผู้อนื่

๓.๖ แนวทางการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และประเมนิ ค่าสารในงานอาชีพ งานเขียนทุกประเภทตอ้ งเกิดข้ึนดว้ ยจุดมุ่งหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง และจุดมุ่งหมายน้ี จะเป็นส่วนสาคญั ในการกาหนดองคป์ ระกอบส่วนอื่น ๆ ของงานเขียนดว้ ย เช่น ข่าว ตารา สารคดี บนั เทิงคดี โฆษณา ฯลฯ ๑. ข่าว ๑.๑ รูปแบบ ข่าว หมายถึง รายงานเหตุการณ์ที่คนในสังคมกาลงั ให้ความสนใจ มีความสาคญั สดและ ทันสมัยสาหรับผูร้ ับสาร เป็ นเร่ืองที่ส่งผลกระทบต่อบุคคลในสังคม โดยมุ่งเน้นข้อเท็จจริง วา่ เกิดอะไร ที่ไหน เมื่อใด ใคร ทาไมและอยา่ งไร

๑.๒ ประเภทของข่าว ข่าวในสื่อส่ิงพิมพห์ รือสื่ออื่น ๆ แบ่งตามน้าหนกั ของเน้ือหาออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑. ข่าวหนัก (Hard news) หมายถึง ข่าวที่มีเน้ือเร่ืองเชิงสาระมากกว่าความบนั เทิง มีความสาคญั และมีอิทธิพลต่อคนส่วนใหญ่ในสังคม ข่าวประเภทน้ีมกั มีผลกระทบต่อปัจจยั อื่น ๆ ในวงกวา้ ง ๒. ข่าวเบา (Soft news) คือข่าวท่ีเนน้ การตอบสนองอารมณ์อยากรู้ ความรู้สึกของผูอ้ ่านเป็น สาคญั มกั เกิดข้ึนในกลุ่มคนกลุ่มยอ่ ย ๆ ไม่มีอิทธิพลต่อคนส่วนใหญ่ในสงั คมมากนกั

๑.๓ หลกั การอ่านและพจิ ารณาข่าว การอ่านข่าวควรพิจารณาตามโครงสร้างของข่าว ดงั น้ี

๑.๔ รูปแบบโครงสร้างของข่าว โครงสร้างของข่าวอาจเขียนได้ ๓ รูปแบบ คือ



๑.๕ วธิ ีการสรุปสาระสาคญั ของข่าว องคป์ ระกอบพ้นื ฐานของการเขียนข่าว มุ่งใหผ้ อู้ ่านทราบวา่ เกิดอะไร ท่ีไหน เมื่อใด ใคร ทาไม และอย่างไร ซ่ึงข้ันต้นผูอ้ ่านสามารถพิจารณาได้จากพาดหัวข่าวและความนา ข้ันต่อไปคือ การพิจารณาแยกแยะขอ้ มูลท่ีเป็นสาระสาคญั และรายละเอียด โดยต้งั คาถาม5W และ 1H ดงั น้ี

๒ สารคดี สารคดี คือ งานเขียนที่มุ่งใหค้ วามรู้ ความคิด ประโยชนเ์ ป็นประการสาคญั มีเน้ือหาเป็นขอ้ เทจ็ จริงผแู้ ต่งมุ่งเสนอ ความรู้หรือขอ้ เทจ็ จริง เพ่ือพฒั นาความรู้ ความคิดและสติปัญญาแก่ผอู้ ่าน มีหลกั การพิจารณาดงั น้ี ๒.๑ รูปแบบ สารคดีมีรูปแบบการเขียนหลายลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ความเรียง บทความ สารคดีชีวประวตั ิ สารคดีท่องเท่ียว อนุทิน จดหมายเหตุ ฯลฯ ๒.๒ เนื้อหา คือ การเสนอขอ้ เท็จจริงและประเด็นความคิด แยกเป็ นแนวคิดสาคญั เกี่ยวกบั ขอ้ เท็จจริง ความรู้กบั ความคิดเห็นของผูเ้ ขียน ประกอบดว้ ยโครงเร่ืองท่ีสร้างจากแนวคิดและเน้ือความที่เป็ นขอ้ มูล เหตุผลและ รายละเอียดที่สมั พนั ธ์กนั

๒.๓ กลวธิ ีในการนาเสนอ พิจารณาองคป์ ระกอบ ๓ ส่วน ไดแ้ ก่

๒.๔ การใช้ภาษา พิจารณาจากสานวนโวหารที่ใชเ้ ขียน ๓ แนวทาง ไดแ้ ก่

๓. บนั เทงิ คดี งานเขียนประเภทบนั เทิงคดี หมายถึง เร่ืองที่แต่งข้ึนตามจินตนาการของผแู้ ต่ง โดยมีเจตนาท่ีจะให้ความเพลิดเพลิน แก่ผอู้ ่านเป็นสาคญั ในขณะเดียวกนั กอ็ าจสอดแทรกความรู้ความคิดต่าง ๆ ไวด้ ว้ ย มีหลกั ในการพิจารณาดงั น้ี ๓.๑ รูปแบบ บนั เทิงคดีเป็ นงานเขียนท่ีมุ่งให้ความบนั เทิงแก่ผูอ้ ่าน โดยใช้จินตนาการสมมุติเร่ืองราวต่าง ๆ ข้ึน ได้แก่ บทร้อยกรอง นิทานหรือนิยาย นวนิยาย เรื่องส้นั บทละคร การ์ตูน การพิจารณารูปแบบพิจารณาวา่ เป็นร้อยแกว้ หรือ ร้อยกรองประเภทไหน เหมาะสมกบั เน้ือหาหรือไม่ ๓.๒ เนื้อหา เป็นการวเิ คราะห์เน้ือเรื่อง แนวคิด และสาระสาคญั ของเร่ือง พิจารณาไดจ้ ากโครงเร่ือง เน้ือเร่ือง ฉาก ตวั ละคร บทสนทนา ซ่ึงมีความสมจริง มีคุณค่าต่อสงั คม เหมาะสมกบั ประเภทของงานเขียน เหมาะสมกบั ผอู้ ่าน ๓.๓ กลวธิ ีในการนาเสนอ เป็นส่ิงที่สาคญั ท่ีสุดในการพิจารณางานเขียนดา้ นบนั เทิงคดี เพราะสิ่งที่มุ่งเสนอแก่ผอู้ ่าน คือความเพลิดเพลิน ทางอารมณ์และความเพลิดเพลินทางปัญญา

๓.๔ การใชภาษา บนั เทิงคดีเป็ นงานเขียนที่มุ่งให้ความบนั เทิงแก่ผูอ้ ่าน โดยใช้จินตนาการสมมุติเร่ืองราวต่าง ๆ ข้ึน ได้แก่ บทร้อยกรอง นิทานหรือนิยาย นวนิยาย เร่ืองส้นั บทละคร การ์ตูน การพิจารณารูปแบบพิจารณาวา่ เป็นร้อยแกว้ หรือ ร้อยกรองประเภทไหน เหมาะสมกบั เน้ือหาหรือไม่ ๓.๕ ความคดิ ริเริ่มสร้างสรรค์ ผอู้ ่านจึงควรพิจารณาดา้ นความคิดวา่ เป็นความคิดที่แปลกใหม่ ลึกซ้ึงและคมคาย หรือความคิดท่ีมีประโยชน์

๔. โฆษณา ๔.๑ รูปแบบ เป็นการเขียนเก่ียวกบั สินคา้ หรือบริการอื่น ๆ ท่ีมุ่งกระตุน้ ใหผ้ อู้ ่านหรือผบู้ ริโภคสนใจและตดั สินใจซ้ือ ๔.๒ เนื้อหา เป็ นถอ้ ยคาหรือเรื่องราวท่ีผสู้ ่งสารถ่ายทอดไปยงั ผูร้ ับสาร เพ่ือกระตุน้ ให้เกิดความสนใจใคร่รู้เรื่องราวของ สินคา้ เน้ือหาของโฆษณาประกอบดว้ ย

๔.๓ กลวธิ ีในการนาเสนอ การเสนอโฆษณามีส่วนท่ีเป็นวจั นภาษาและอวจั นภาษา ไดแ้ ก่ภาพ การออกแบบโฆษณา เครื่องหมายการคา้ การใหส้ ี รวมท้งั การเคล่ือนไหวและเสียงประกอบสาหรับสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ การพิจารณาจึงตอ้ งพิจารณาทีละส่วน ๔.๔ การใช้ภาษา ภาษาที่ใชใ้ นงานเขียนประเภทโฆษณามีท้งั วจั นภาษาและอวจั นภาษา เช่นเดียวกบั งานเขียนประเภทบทละคร และการ์ตูน

๕ งานเขียนเพื่อกจิ ธุระหรือธุรกจิ มีแนวทางในการพิจารณาดงั น้ี ๕.๑ รูปแบบ เช่น จดหมาย โทรสาร บนั ทึกขอ้ ความ ป้ายประกาศ แผน่ ปลิว แผน่ พบั ฯลฯ ๕.๒ เนื้อหา มีลกั ษณะการเขียนตามรูปแบบดงั น้ี ๑. จดหมาย ไดแ้ ก่ หนงั สือราชการ จดหมายกิจธุระและจดหมายธุรกิจ เน้ือหาประกอบดว้ ย ส่วนแรกที่ระบุถึงสาเหตุ ท่ีเขียนจดหมายน้ี ส่วนท่ีสองระบุถึงรายละเอียดของเร่ืองราว ส่วนสุดทา้ ยเป็ นขอ้ ความสรุปใจความของจดหมาย ปัจจุบนั หน่วยงานต่าง ๆ มกั ใชว้ ิธีการส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ติดต่อสื่อสารเพ่ือความสะดวกรวดเร็ว ๒. โทรสาร ประกอบดว้ ยขอ้ ความส้นั ๆ ซ่ึงเป็นประเดน็ สาคญั ในการดาเนินกิจการน้นั ๆ บางคร้ังมีการใชค้ ายอ่ ๓. บันทึกข้อความ ประกอบดว้ ยย่อหน้าหลายย่อหน้าตามรูปแบบของหน่วยงาน แต่ละย่อหน้าเป็ นเรื่องเก่ียวกบั ปัญหา ขอ้ เทจ็ จริง ขอ้ พิจารณา ขอ้ เสนอแนะตามวตั ถุประสงคข์ องการเรียน ๔. ประกาศ เน้ือหาจะเป็นเรื่องท่ีหน่วยงานประสงคจ์ ะแจง้ ใหท้ ราบ ช้ีแจง หรือบอกแนวทางใหค้ นทวั่ ไปไดร้ ับรู้

๕.๓ กลวธิ ีในการนาเสนอ งานเขียนเพ่ือกิจธุระ ซ่ึงเป็ นการติดต่อสื่อสารเพื่อกิจธุระของหน่วยงานน้ัน ๆ การวิเคราะห์กลวิธีในการ นาเสนอ ผอู้ ่านตอ้ งระบุไดว้ า่ เป็นเอกสารจากใครถึงใคร เรื่องอะไร มีจุดประสงคแ์ ละสาระสาคญั อยา่ งไร ๕.๔ การใช้ภาษา ตอ้ งเป็นภาษาท่ีชดั เจน ตรงประเดน็ กระชบั และกะทดั รัด เพื่อใหผ้ อู้ ่านทราบจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนทนั ที ผเู้ ขียน ตอ้ งมีความรู้เรื่องการใช้อกั ษรย่อ ตวั เลข และสัญลกั ษณ์ในการเขียนตามระเบียบงานสารบรรณ ตลอดจนคาท่ีใช้ จ่าหนา้ ซอง คาข้ึนตน้ และคาลงทา้ ยที่เหมาะสม















จงแยกแยะส่วนประกอบของอาหารจากภาพ

จงแยกแยะส่วนประกอบของอาหารจากภาพ

จงพจิ ารณาเนือ้ หาบนั เทงิ คดีท่ีครูกาหนดให้

- ประเภทของงานเขียน - เนือ้ หา (แปลความหมาย เขียนเป็นรอ้ ยแกว้ ) - การใชภ้ าษา - ความรูส้ กึ ของผอู้ ่าน - จดุ มงุ่ หมายของผแู้ ต่ง - ความคดิ แทรกและความคดิ เสรมิ จากเร่อื งท่ีอา่ น