Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2 หลักการใช้ภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

2 หลักการใช้ภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

Description: 2 หลักการใช้ภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

Search

Read the Text Version

ภาษาเป็ นเคร่ืองมือในการติดต่อส่ือสาร สร้างความเข้าใจ และความสัมพนั ธ์ต่อกนั ทาให้สามารถประกอบกิจธุรการงาน ในทางวชิ าชีพไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ อีกท้งั ยงั ใชเ้ ป็นเครื่องมือใน การแสวงหาความรู้และประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลหรื อสื่ อ ต่างๆ เพ่ือพฒั นาความรู้ ความคิด ตลอดจนนาไปใชใ้ นการพฒั นา อาชีพ ใหม้ ีความกา้ วหนา้ ได้

๑ การฟังเชิงวชิ าชีพ ๑.๑ ความหมายของการฟัง การพงั หมายถึง กระบวนการรับสารของมนุษยท์ างร่างกายและสติปัญญาประเภทหน่ึง ซ่ึงพฤติกรรมการรับ สารดงั กล่าว ผรู้ ับสารตอ้ งแปลความหมายของเสียงที่ไดย้ นิ เพ่ือการรับรู้ เขา้ ใจ และตีความวสรเหล่าน้นั ได้ ตาม ความรู้สึก ความคิด และประสบการณ์ ๑.๒ ความสาคญั ของการฟัง ๑. การฟังเป็นทกั ษะพ้ืนฐานของการส่ือสาร ๗. การฟังที่ดีช่วยใหก้ ารพูดบรรลุเป้าหมาย ๒. การฟังเป็นทกั ษะที่มนุษยใ์ ชม้ ากที่สุดในชีวติ ประจาวนั ๘. การฟังก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจอนั ดีต่อกนั ๓. การฟังเป็นทกั ษะท่ีก่อใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด ๙. การฟังช่วยส่งเสริมทกั ษะอื่นๆได้ ๔. การฟังทาใหเ้ กิดความเพลิดเพลิน ๑๐. การฟังทาใหป้ ฏิบตั ิงานไดถ้ ูกตอ้ ง ๕. การฟังช่วยใหก้ ารสาอสารดว้ ยการพดู ไดผ้ ลสมบูรณ์ ๑๑. การฟังช่วยใหส้ งั คมพฒั นาเจริญกา้ วหนา้ ๖. การฟังช่วยใหเ้ กิดความคิดสร้างสรรค์

๑ การฟังเชิงวชิ าชีพ ๑.๓ จุดประสงค์ของการฟัง ๑. การฟังเพื่อจบั ใจความสาคญั เกิดความเขา้ ใจเร่ืองท่ีฟัง ตอ้ งฟังอยา่ งต้งั ใจ ๒. การฟังเพื่อจบั ใจความสาคญั โดยละเอียด ผฟู้ ังตอ้ งมีสมาธิและตอ้ งจดบนั ทึกยอ่ เพ่อื ช่วยจา ๓. การฟังเพ่ือหาเหตุผลโตแ้ ยง้ หรือคลอ้ ยตาม ผฟู้ ังตอ้ งฝึกใชว้ ิจารณญาณในการฟัง ๔. การฟังเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน เป็นการฟังสารประเภทจรรโลงใจ ๕. การฟังเพ่ือสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ๖. การฟังช่วยใหเ้ กิดความคิดสร้างสรรค์ ๑.๔ การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ ๑. ฟังแลว้ จบั ประเดน็ สาคญั ได้ มีสมาธิและสนใจเรื่องท่ีฟัง เพื่อใหเ้ ขา้ ใจเร่ืองไดเ้ ร็ว ๒. ฟังแลว้ วิเคราะห์ได้ พิจารณาแยกแยะขอ้ เทจ็ จริงกบั ขอ้ คิดเห็นของเร่ืองได้ ๓. ฟังแลว้ ตีความได้ ผฟู้ ังท่ีดีตอ้ งตีความเร่ืองท่ีได้ ๔. ฟังแลว้ ประเมิณคุณคา่ ได้ ผฟู้ ังตอ้ งประเมินคา่ ไดว้ า่ มีความน่าเชื่อถือมากนอ้ ยเพยี งใด ๕. ฟังแลว้ จดบนั ทึกได้ ผฟู้ ังทีดีควรจดบนั ทึกเน้ือหาส่วนสาคญั เพ่ือทบทวนความรู้

๑ การฟังเชิงวชิ าชีพ ๑.๕ หลกั การฟังในเชิงวชิ าชีพ ๑. การฟังคาถาม – คาตอบ เป็นการสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆระหวา่ งบุคคล ๒. การฟังขอ้ มูลข่าวสาร ๓. การฟังสิ่งบนั เทิง ๔. การฟังกบั การส่ือสารระหวา่ งบุคคล ๕. การฟังในกลุ่ม ๖. การฟังผา่ นส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ ๗. การฟังอยา่ งมีวจิ ารณญาณ

๒ การดูเชิงวชิ าชีพ การดูเป็นการรับสารท่ีมกั ใชร้ ่วมกบั ทกั ษะอ่ืนๆ เช่น ฟัง พดู อ่าน เขียน เพื่อใหส้ ามารถเขา้ ใจสารได้ ถูกตอ้ งตรงประเดน็ ๒.๑ ความหมายของการดู ๒.๒ ความสาคญั ของการดู การดูหมายถึง กระบวนการรับสารโดยผา่ นส่ือ ๑. การดูเป็นทกั ษะพ้ืนฐานของทกั ษะอ่ืนๆ คือ ภาพ หรือตวั อกั ษร ผรู้ ับสารตอ้ งใชส้ ายตา เพื่อให้ ๒. การดูเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ทาให้เกิด เห็นและเกิดการรับรู้ ตีความจนกระทง่ั เขา้ ใจสาร ความรู้ความเขา้ ใจไดร้ วดเร็ว ๒.๓ จุดประสงค์ของการดู ๓. การดูทาใหเ้ กิดความเพลิดเพลิน ซ่ึงถือเป็น ๑. การดูเพื่อความบนั เทิง การพกั ผอ่ นท่ีมนุษยท์ าไดท้ ุกวนั ๒. การดูเพ่ือวเิ คราะห์ขอ้ มูลขา่ วสาร ๔. การดูช่วยใหก้ ารฟังมีประสิทธิภาพมากข้ึน ๓. การดูอยา่ งมีวิจารณญาณ ๕. กรดูทาใหเ้ กิดความคิดสร้างสรรค์ ๖. ความสามารถในการดูช่วยส่งเสริมทกั ษะ ดา้ นอื่นได้ ๗. การดูทาใหป้ ฏิบตั ิงานไดถ้ ูกตอ้ ง

๒ การดูเชิงวชิ าชีพ การดูเป็นการรับสารที่มกั ใชร้ ่วมกบั ทกั ษะอ่ืนๆ เช่น ฟัง พดู อ่าน เขียน เพื่อใหส้ ามารถเขา้ ใจสารได้ ถูกตอ้ งตรงประเดน็ ๒.๔ การดูให้ประสบความสาเร็จ ๒.๕ การดูในเชิงวชิ าชีพ ๑. ดูโดยปารศจากอคติ ๑. การดูข้อมูล เช่น ตวั เลข สถิติ ตาราง กราฟ ๒. ศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั เร่ืองท่ีดูเพ่ิมเติม แผนผงั แผนที่ ตอ้ งตีความแปลความใหฟ้ ๓. ดูดว้ ยความต้งั ใจ มีสมาธิ ถูกตอ้ ง ตรงกบั ส่ิงที่ผเู้ ขียนตอ้ งการนาเสนอ ๒. การดูภาพ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหวจากสื่อต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการ ดูเพื่อความเพลิดเพลินแต่อาจจะไดค้ วามรู้ สอดแทรกมาดว้ ย

๓ การพดู เชิงวชิ าชีพ การพูดมีความสาคญั ต่อชีวิตมนุษย์ เป็นการสื่อสารโดยใชป้ ากและ กล่องเสียง เพื่องเปล่งออกมาเป็นคาพูด ใชใ้ นการสื่อสารระหวา่ งบุคคล โดย อาศยั ภาษา เป็นตวั ส่ือความหมาย ของส่ิงท่ีพูด ซ่ึงการพูดที่ดีจะส่งผลให้ การทางานหรือกิจธุระต่างๆประสบความสาเร็จไดง้ ่าย ๓.๑ ความหมายของการพูด ๓.๒ ความสาคญั ของการพดู การพดู หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดความรู้ ๑. เป็นการส่ือสารสองทาง ความคิด ความรู้สึก ประสบการณ์ ของผพู้ ูดไปสู่ ๒. โตต้ อบกนั ไดอ้ ยา่ งทนั ทีทนั ควนั ผฟู้ ัง โดยเปล่งเสียงออกมาเป็นถอ้ ยคาเพ่ือส่ือ ๓. ทาใหเ้ ขา้ ใจง่าย ความหมาย ๔. ประหยดั เวลาในการสื่อสาร ๕. ทาใหเ้ กิดการเรียนรู้และพฒั นาประสบการณ์ ต่างๆ ๖. เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ

๓ การพดู เชิงวชิ าชีพ ๓.๓ จุดประสงค์ของการพดู ๓.๔ การพูดให้ประสบความสาเร็จ ๑. เพ่ือสอนหรือแจง้ ขา่ วสารใหท้ ราบ ๑. ตอ้ งมีจุดมุ่งหมายที่ชดั เจน ๒. เพื่อเกล้ียกล่อมหรือจูงใจ ๒. ตอ้ งมีขอ้ มูลที่ถูกตอ้ ง น่าเชื่อถือ ๓. เพ่ือกระตุน้ หรือสร้างความประทบั ใจ ๓. ใชน้ ้าเสียงการแสดงออกเหมาะสมกบั ๔. เพื่อเรียกร้องความสนใจ ๕. เพื่อความบนั เทิง โอกาส ๖. เป็นเคร่ืองมือในการประกอบอาชีพ ๔. ควรนาเสนอเร่ืองใหม่ท่ีมีความน่าสนใจ ๕. ย้าเตือนประเดน็ หลกั เพื่อดึงดูดความคิดของ ๓.๕ หลกั การพูในเชิงวชิ าชีพ ผฟู้ ัง ๑. การพูดเพื่อใหค้ วามรู้ ๖. เป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ ๒. การพดู โนม้ นา้ วใจ ๗. มีการวเิ คราะห์ผฟู้ ังเพ่ือช่วยในการ ๓. การพูดจรรโลงใจ เตรียมการพูด ๘. ใชห้ ลกั จิตวทิ ยาในการพดู

๔ การอ่านเชิงวชิ าชีพ การอ่านจะเกิดข้ึนเมื่อไดม้ องเห็นสิ่งที่เป็นรูปธรรม เช่นรูปภาพ สญั ลกั ษณ์ ตวั อกั ษรแลว้ แปลความหมายออกมาเป็นความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก รวมไปถึงการใชส้ ายตาประกอบกบั การฟัง เช่นการดูภาพยนตร์ ๔.๑ ความหมายของการอ่าน ๔.๒ ความสาคญั ของการพูด การอ่าน หมายถึง การที่ผรู้ ับสารแปลความหมาย ๑. การอ่านเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ พฒั นา ของภาษา ตวั อกั ษร ระบบสญั ลกั ษณ์ท้งั ที่ปรากฏแก่ ความรู้ความคิด ใหม้ ีวสิ ยั ทศั น์ และมีความรอบรู้ สายตาและไดย้ นิ ความรู้สึก ธรรมชาติ ใหอ้ อกมา เป็นความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจดวั ยตนเอง ๒. การอ่านส่งเสริมใหเ้ กิดกระบวนการพฒั นาชีวติ และวจิ ารณญาณของผอู้ ่าน ๓. การอ่านช่วยอานวยความสะดวกในการดาเนิน ชีวิต

๔ การอ่านเชิงวชิ าชีพ ๔.๓ จุดประสงค์ของการอ่าน ๔.๔ อ่านให้ประสบความสาเร็จ ๑. อ่านเพ่ือความรู้และรอบรู้ ๑. เตรียมความพร้อมทางดา้ นร่างกายและจิตใจ ๒. อ่านเพื่อหาคาตอบ ๒. เตรียมประสบการณ์เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ๓. อ่านเพื่อใหเ้ กิดความคิด ๔. อ่านเพ่ือปฏิบตั ิตาม ง่ายข้ึน ๕. อ่านเพ่ือความบนั เทิง ๓. เตรียมความสามารถทางดา้ นภาษาเช่น ๖. อ่านเพ่ือการเขียน ๗. อ่านเพ่ือฆ่าเวลา ความหมายของคา ๘. อ่านเพ่ือสนองความตอ้ งการอ่ืนๆ ๔. เตรียมความสามารถทางดา้ นการคิด ๕. กาหนดจุดมุ่งหมายของการอ่าน ๔.๕ หลกั การพูดในเชิงวชิ าชีพ ๖. สารวจขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ของเร่ืองที่อ่าน ๗. ศึกษาส่วนประกอบของเร่ืองท่ีอ่าน ลงมืออ่านอยา่ งมีสมาธิ ๘. ต้งั คาถามเพ่ือทบทวน ๑. การอ่านเอาความ ๕. การอ่านจบั ใจความ ๒. การอ่านเอาเรื่อง ๖. การอ่านวิเคราะห์ ๓. การอ่านเอารส ๗. อ่านวนิ ิจ ๔. การอ่านเอาประโยชน์ ๘.การอ่านวิจารณ์

๕ การเขยี นเชิงวชิ าชีพ การเขียนเป็นเครื่องมือสาคญั ที่ใชใ้ นการสื่อสาร ซ่ึงการเขียนกบั การ ใชภ้ าษามีความสมั พนั ธ์กนั ผเู้ ขียนตอ้ งมีการเรียบเรียงความคิด เลือกถอ้ ยคา และประโยคท่ีจะเขียนเพ่ือใหส้ ามารถส่ือความหมายไดช้ ดั เจน ๔.๑ ความหมายของการอ่าน ๔.๒ ความสาคญั ของการเขยี น การเขียน หมายถึง การมนุษยพ์ ยายามถ่ายทอด ๑. การเขียนเป็นเครื่องมือสื่อสารของมนุษย์ ความรู้ ความคิด ความรู้สึกเพ่ือใหผ้ อู้ ื่นไดร้ ับรู้ ผา่ น ๒. การเขียนเป็นเคร่ืองมือในการถ่ายทอด ตวั อกั ษรหรือสญั ลกั ษณ์ เพื่อเป็นส่ือสกลางใหเ้ กิด ความเขา้ ใจร่วมกนั วฒั นธรรม ๓. การเขียนสามารถเกบ็ รวบรวมความรู้และช่วย เผยแพร่ความรู้ ๔. กรเขียนสร้างความรักสามคั คี ๕. การเขียนยดึ เป็นอาชีพท่ีสาคญั อยา่ งหน่ึง ๖. การเขียนทาใหบ้ ุคคลประสบความสาเร็จ ๗. การเขียนช่วยจรรโลงสงั คมใหส้ งบสุขได้ ๘. การเขียนสามารถสร้างความสุขความบนั เทิงได้

๕ การเขียนเชิงวชิ าชีพ ๕.๓ จุดประสงค์ของการเขยี น ๕.๔ อ่านให้ประสบความสาเร็จ ๑. เขียนเพ่ือสร้างอารมณ์และความรู้สึก ๑. คุณสมบตั ิเบ้ืองตน้ ของงานเขียน ๒. เขียนเพ่ือสร้างความรู้ความเขา้ ใจ ๒. ศึกษาตวั อยา่ งงานเขียน ๓. เขียนเพื่อใหเ้ ช่ือและยอมรับ ๓. ลกั ษณะของงานเขียน ๔. ขอ้ บกพร่องในการเขียน ๕.๕ หลกั การเขยี นในเชิงวชิ าชีพ ๑. การเขียนบนั ทึกความรู้ เป็นการเขียนเพื่อเกบ็ ไวใ้ ชป้ ระโยชน์ของตนเอง ไม่มีการเผยแพร่ ส่งต่อใหผ้ อู้ ่ืน ๒. การเขียนตอบคาถาม แบ่งไหดเ้ ป็นตอบขอ้ เทจ็ จริง ตอบแสดงขอ้ คิดเห็น ๓. การเขียนจกหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นการติดต่อสื่อสารระหวา่ งบุคคล เฉพาะกลุ่ม และสาธารณะ ตอ้ ง ระมดั ระวงั ในการใชภ้ าษา ใชภ้ าษาสุภาพ ไม่พาดพิงบุคคลอ่ืนๆ

สรุปสาระสาคญั หลกั การใช้ภาไทยเชิงวชิ าชีพ ๑. การฟัง หมายถึง กระบวนการรับสาร ตอ้ งแปลความหมายของเสียงที่ไดย้ นิ และตีความหมายสาร รวมท้งั แสดงปฏิกิริยาตอบสนอง และนาสิ่งท่ีไดย้ นิ มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ๒. การดู หมายถึง กระบวนการรับสารโดยใชส้ ายตาเพ่ือใหเ้ ห็นแลพหเกิดการรับรู้ ตีความจนกระทง่ั เขา้ ใจและเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง ๓. การพดู หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์ไปสู่ผฟู้ ัง โดยการสเป ล่งเสียงออกมาเป็นถอ้ ยคา เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจในการส่ือสาร ๔. การอ่าน หมายถึง การแปลความหมายของภาษา ตวั อกั ษร ระบบสญั ลกั ษณ์ ใหอ้ อกมาเป็นความรู้ ความคิด ความรู้สึกความเขา้ ใจของตนเอง ๕. การเขียน หมายถึง การถ่ายทอดความรู้ความคิด ความรู้สึกโดยอาศยั สญั ลกั ษณ์และตวั อกั ษร เป็น ส่ือกลาง ในการทาความเขา้ ใจร่วมกนั ๖. หลกั การฟัง ดู พูด อ่าน เขียนในเชิงวิชาชีพ คือตอ้ งรับสารและส่งสารอยา่ งมีวิจารณญาณ คานึงถึง ความถูกตอ้ ง ชดั เจน เพื่อใหก้ ารส่ือสารมีประสิทธิภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook