นำเสนอโดยท่มี าภาพ https://www.silpa-mag.com/history/article_479 นำยพนั ศกั ด์ิ พนั ธเ์ ลิศ รหสั นักศึกษำ 6552200130
สารบญั ความหมายของขนั กะหย่อง ความเป็ นมา แผนที่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ขนั้ ตอนการทา ผลติ ภณั ฑ ์ คติ ความเชอื่ ภมู ปิ ัญญาขนั กะหย่อง สรปุ อา้ งองิ
ความหมาย ของ พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ขนั กระหยอ่ ง ๒๕๕๔ ที่มาภาพ https://www.silpa-mag.com/history/article_479 • กะยอ่ ง น. กระยอ่ ง น. เครื่องสานชนิดหน่ึง รูปกลมคลา้ ยโตก, ถา้ ใหญ่ใชเ้ ป็นสารับ, ถา้ เลก็ ใชเ้ ป็นเคร่ืองใส่ขา้ วตอกดอกไมบ้ ูชา ตามวดั • กะยอ่ ง แปลวา่ ชื่อภาชนะท่ีสานดว้ ยไมไ้ ผ่ ชนิดหน่ึง สาหรับใส่เคร่ืองสกั การบูชา มี พระพทุ ธรูปและของค้าคูณ มีคุค เขา น่อ งา เป็ นตน้ เรียก ขนั กะยอ่ ง
• ขนั กระหยอ่ ง หรอื ขนั กะยอ่ ง เป็นภาชนะจกั สาน ท่ีมาภาพ https://www.silpa-mag.com/history/article_479 ดว้ ยไมไ้ ผ่ ลกั ษณะคลา้ ยพานแต่มเี ชงิ สงู เป็นงาน ชา่ งฝีมอื พน้ื บา้ น มหี ลายขนาดตามลกั ษณะการใช้ งาน ใช้ประโยชน์ในการวางดอกไม้ธูปเทียน เครอ่ื งบูชา หรอื ขนั ธ์ 5 บูชาพระพุทธรปู เป็นหน่ึง ในเคร่อื งสกั การบูชาอสี านโบราณ โดยสามารถ พบเห็นได้ในวัดทัว่ ไปในภาคอีสาน เคร่ือง สกั การบูชาอีสานโบราณประกอบด้วยขนั กระ หย่อง ต้นขา้ วตอก ต้นดอกไม้ ขนั หมากเบง็ ต้น ดอกผง้ึ ตน้ เทยี น เป็นการบูชาในวนั พระ และจะมี ขบวนแห่ในวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เช่น วนั มาฆบชู า วนั วสิ าหบชู า วนั อาสาฬหบูชา
การเดนิ ทาง ควิ อาร์โคด้ แผนทีก่ ารเดินทาง
วสั ดุ อปุ กรณ์ ขนาดความยาว 1 เมตร ขนาดความยาว 2 เมตร
ข้ึนคร้ังแรกใช้ 4 เส้น เทียบความยาวใหเ้ ท่ากนั 4 ดา้ น เริ่มสานลาย 3 ขดั บี ควา่ 3 ยก 3 ได้ 3 เส้นแลว้ ยกบี ค่อยพรมน้าไม่ใหต้ อกเคลื่อน เมื่อไดข้ นาดที่พอดีแลว้ นาตอกสานมาสานข้ึนรูป ยก 2 ควา่ 2 นาไมข้ ดั กน้ ทาเป็นรูป X โดยสอดตอกเส้นที่ 3 นบั จากดา้ นนอก
เร่ิมทาการปลุก (ข้ึนรูป) ขดั ตอกสานไปเรื่อย ๆ ไดป้ ระมาณ 1 นิ้ว จากน้นั บิดตอกเสน้ ยนื กลบั ดา้ นลง จากน้นั ขดั ตอกสานไปเร่ือย ๆ ยก 1 ควา่ 1 ใหไ้ ดป้ ระมาณ 7 แถว แลว้ เร่ิมเอาแอว
ข้นั ตอนเอาแอว ใหจ้ บั ตอกยนื เส้นคู่ ใหเ้ ป็นเส้นเดียวกนั แลว้ เร่ิมนาตอกสานมาขดั ยก 1 ควา่ 1 ขณะที่สานบีบแอวใหม้ ีขนาดเล็กลง ใหส้ านได้ ประมาณ 7 แถว เมื่อไดแ้ อวแลว้ ก็เวน้ ลงมาประมาณ 2 นิ้ว แลว้ เริ่มเอาตีน สานไปเร่ือย ๆ ประมาณ 10 แถว แลว้ เร่ิมมว้ นเก็บ แบบเสือซ่อนเล็บ
ผลติ ภณั ฑ ์
“ ขนั กะยอ่ ง ” เป็นหตั ถกรรมเครอ่ื งจกั สานหน่งึ ในงานพุทธศลิ ป์ ถน่ิ อสี าน วเิ คราะห ์ ขนั กระหยอ่ งถูกใชใ้ นพธิ กี รรมสาคญั ต่าง ๆ ซง่ึ เกย่ี วขอ้ งกบั พทุ ธศาสนา ภมู ปิ ัญญา หรอื ประเพณคี วามเชอ่ื ทอ้ งถน่ิ เช่น งานประเพณบี ญุ ผะเหวตหรอื บุญ มหาชาติ ซง่ึ เป็นประเพณบี ุญตามฮตี สบิ สองของชาวอสี าน โดยจะมกี าร นาขนั กระหยอ่ งตงั้ ตามตน้ เสาของศาลาโรงธรรมสาหรบั ใสข่ า้ วพนั กอ้ น ลกั ษณะเด่นเชงิ รปู ธรรม ขนั กระหยอ่ งมที งั้ เสน้ ตรงและเสน้ โคง้ มรี ปู ทรง สดั สว่ นคลา้ ยพาน ลวดลายเกดิ จากการ จกั สาน คอื ตรงกลางคอด มคี วามโปรง่ และเบา เป็นงานช่างฝีมอื พน้ื บา้ น มหี ลายขนาดตามลกั ษณะการใชง้ าน ใชป้ ระโยชน์ในการวางดอกไมธ้ ปู เทยี น ใส่เครอ่ื งสกั การบชู า มี พระพทุ ธรปู และค้าคุณ มคี ดุ เขา นอ งา เป็นตน้ ลกั ษณะเดน่ เชงิ นามธรรม การสกั การบชู าในพทุ ธศาสนาหรอื ยกครเู รยี น มนต์ เรยี นพระธรรม หรอื ใชใ้ นพธิ บี ายศรสี ่ขู วญั และความคดิ ในเรอ่ื ง ธรรมชาตนิ ิยม ความสมถะ ความเรยี บงา่ ย รวมถงึ การแสดงออกในวถิ ี ชวี ติ ของสงั คมเกษตร
สรปุ ขนั กระหยอ่ ง กะยอ่ ง หรอื ขนั กะยอ่ ง เป็นภาชนะจกั สานดว้ ยไมไ้ ผ่ ลกั ษณะคลา้ ยพานแต่มเี ชงิ สงู เป็นงานชา่ งฝีมอื พน้ื บา้ น มหี ลาย ขนาดตามลกั ษณะการใชง้ าน ใชป้ ระโยชน์ในการวางดอกไมธ้ ปู เทยี น เครอ่ื งบชู า หรอื ขนั ธ์ 5 บชู าพระพทุ ธรปู เป็นหน่ึงในเคร่อื ง สกั การบชู าอสี านโบราณ โดยสามารถพบเหน็ ไดใ้ นวดั ทวั่ ไปในภาคอสี าน เครอ่ื งสกั การบชู าอสี านโบราณ ประกอบดว้ ยขนั กระหยอ่ ง ตน้ ขา้ วตอก ตน้ ดอกไม้ ขนั หมากเบง็ ตน้ ดอกผง้ึ ตน้ เทยี น เป็นการบชู าในวนั พระ และจะมขี บวนแหใ่ นวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา เชน่ วนั มาฆบชู า วนั วสิ าหบชู า วนั อาสาฬหบชู า ลกั ษณะแบบโบกคว่าโบกหงาย (หรอื บวั คว่าบวั หงายในภาษาทอ้ งถน่ิ อสี าน) แบบบวั ปากพาน มลี กั ษณะลายสานซง่ึ เป็นแมล่ ายสาคญั เชน่ ลายขดั ลายเฉลว ลายหวั สมุ่ ลายกน้ หอย ขนั กระหยอ่ งยงั คงพบเหน็ การใชง้ านไดท้ วั่ ไปในภาคอสี านในปัจจุบนั นอกเหนือจากการใชง้ านในดา้ นการประกอบพธิ กี รรมตามศาสนา และความเชอ่ื ของทอ้ งถน่ิ แลว้ ยงั มกี ารสานขนั กระหยอ่ งเป็นอตุ สาหกรรมชมุ ชมสาหรบั ขายใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี วเพอ่ื เป็นของทร่ี ะลกึ หรอื ตกแต่งบา้ นเรอื น โดยในหลายชมุ ชนมกี ารอบรบผสู้ งู อายหุ รอื เยาวชนในการสบื ทอดภมู ปิ ัญญาการสานขนั กระหยอ่ ง มกี ารพฒั นา รปู ทรงลวดลายจนมคี วามประณตี สวยงามยง่ิ ขน้ึ
อา้ งองิ ราชบณั ฑติ ยสถาน. (2554). กรงุ เทพฯ : ราชบณั ฑติ ยสถาน ธนั วดี สุขประเสรฐิ . (2565). ออนไลน์ จากฐานขอ้ มลู เครอ่ื งมอื เครอ่ื งใชพ้ น้ื บา้ น ขวญั ชนก วริ ยิ ศ. (2563). รปู ชนบท : มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร วบิ ลู ย์ ลส้ี ุวรรณ. (2524). รายงานการวจิ ยั เคร่อื งจกั สารในประเทศไทย. กรุงเทพ : ปาณยา ธนั วดี สขุ ประเสรฐิ . (2565). ออนไลน์จากฐานขอ้ มลู เคร่อื งใชพ้ น้ื บา้ น ตก๊ิ แสนบุญ. (2564). เขยี นรปู และเลา่ เร่อื ง . ศลิ ปวฒั นธรรม ฉบบั มกราคม 2549
จบการนาเสนอ
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: