Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Chapter 1

Chapter 1

Published by Chutikarn Kanjanajettanee, 2020-10-27 08:00:25

Description: Chapter 1

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1 ความรู้เบือ้ งตน้ เก่ยี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ GEN1102 เทคโนโลยสี ารสนเทศในชีวติ ประจาวนั 1

Logo ความหมายของเทคโนโลยี พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2542 (2546, หน้า 534) เทคโนโลยี หมายถึง วิทยาการที่นาเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้ เกิดประโยชน์ในทางปฏบิ ตั ิและอุตสาหกรรม 2

Logo ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ รุจิจันทร์ พิริยะสงวนพงศ์ ได้กล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง ชดุ ของระบบคอมพวิ เตอร์ ที่นาใช้ภายในองค์กร หรืออีกนัยหน่ึงคือ เทคโนโลยีท่ีประกอบไปด้วย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ฐานข้อมูล เครือข่ายโทรคมนาคม ใช้เพ่ือจุดประสงค์ด้านการ แลกเปลยี่ นข้อมลู และสารสนเทศ 3

Logo ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ ไพบูลย์ เกียรติโกมล และณัฎฐพันธ์ เขจรนันทร์ ได้กล่าวไว้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ประกอบขึ้นด้วยระบบ จัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ระบบส่ือสารโทรคมนาคม และอุปกรณ์ สนบั สนุนการปฏบิ ัติงานด้านสารสนเทศทม่ี ีการวางแผน จัดการ และใช้ งานร่วมกนั อย่างมีประสิทธภิ าพ 4

Logo สรุปความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีท่ีประกอบด้วย ระบบคอมพิวเตอร์และการส่ือสารโทรคมนาคม รวมท้ังอุปกรณ์สนับสนุน อ่ืนๆ เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบัติงานต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพและ อานวยความสะดวกในชีวิตประจาวนั ของมนุษย์ 5

ส่วนประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศ Logo 1. ระบบประมวลผลขอ้ มูล 6 2. ระบบสอ่ื สารโทรคมนาคม 3. การจดั การขอ้ มูล

Logo องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์  อปุ กรณ์ (Hardware)  ชุดคาสั่ง (Software)  ขอ้ มลู (Dataware)  บุคลากร (Peopleware)  กระบวนการทางาน (Procedureware) 7

Logo  อุปกรณ์ (Hardware) อปุ กรณต์ า่ งๆ ของเคร่อื งคอมพวิ เตอร์ แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. หน่วยรบั ข้อมูล (Input Unit) 2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) 3. หน่วยความจา (Memory Unit) 4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) 8

Logo 1. หน่วยรบั ขอ้ มูล (Input Unit) ท า ห น้ า ท่ี ใ น ก า ร รั บ ข้ อ มู ล เ ข้ า สู่ คอมพิวเตอร์ โดยอุปกรณ์ท่ีใช้ในการรับข้อมูล เชน่ แป้นพิมพ์ (Keyboard) เมาส์ (Mouse) ซดี ไี ดร์ว (CD-Drive) กล้องดิจติ อล (Digital Camera) 9

Logo 2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) เป็นส่วนประกอบสาคัญท่ีทาหน้าที่ในการประมวลผล ขอ้ มูลและควบคมุ การทางานของคอมพวิ เตอร์ 10

Logo 3. หน่วยความจา (Memory Unit) ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ชุดคาส่ัง หรือผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผล โดยหน่วยความจาจะแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภทใหญๆ่ ได้แก่ 1. หน่วยความจาหลกั (Main Memory) 2. หน่วยความจาสารอง (Secondary Memory) 11

Logo หน่วยความจาหลกั (Main Memory) ใชบ้ ันทึกขอ้ มูลและโปรแกรมทอี่ ยรู่ ะหวา่ งประมวลผล ไดแ้ ก่ หนว่ ยความจา (Random Access Memory; RAM) หน่วยความจารอม (Read-Only Memory; ROM) 12

Logo หนว่ ยความจาสารอง (Secondary Memory) ใช้ในการบันทึกข้อมูลไว้อย่างถาวร มีขนาดใหญ่ สามารถบนั ทกึ ข้อมูลไดจ้ านวนมาก เช่น ฮารด์ ดสิ ก์ (Hard disk) ซดี ี (Compact Disk : CD) ดวี ดี ี (Digital Versatile Disk : DVD) ฟลอปปีดสิ ก์ (Floppy Disk) แฟลซเมมโมรี (Flash Memory) เปน็ ตน้ 13

Logo 4. หนว่ ยแสดงผล (Output Unit) ทาหน้าท่ีแสดงผลลัพธ์ท่ีได้จากการประมวลไปยังผู้ใช้ อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการแสดงผล เช่น เครอ่ื งพมิ พ์ (Printer) จอภาพ (Monitor) ลาโพง (Speaker) เปน็ ตน้ 14

Logo ชุดคาสั่ง (Software) ทาหน้าท่ีในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ สั่งงานและ ควบคมุ คอมพวิ เตอร์ใหท้ างานตามทผ่ี ใู้ ช้ต้องการ แบ่งออกเปน็ 2 ประเภท 1. ชดุ คาสัง่ สาหรับระบบ (System Software) 2. ชุดคาส่งั ประยกุ ต์ (Application Software) 15

Logo 1. ชดุ คาสง่ั สาหรับระบบ (System Software) ทาหน้าท่ีควบคุมและดูแลการปฏิบัติงานของคอมพิวเตอร์ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย เป็นส่วนตดิ ตอ่ ระหวา่ งผใู้ ช้กบั โปรแกรมประยกุ ตแ์ ละฮาร์ดแวร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท 1. ระบบปฏิบตั กิ าร (Operating System : OS) 2. โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Programs) 3. ตัวแปลภาษา (Language Translator) 16

Logo ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS) ทาหน้าที่เป็นสอ่ื กลางระหว่างผู้ใช้งานกับโปรแกรมประยุกต์ และ โปรแกรมประยุกต์กับอุปกรณ์ จัดสรรทรัพยากรของคอมพิวเตอร์ และ ควบคุมการทางานของอุปกรณ์ต่างๆ ตัวอยา่ ง เช่น Microsoft Windows Linux Mac OS เป็นตน้ 17

Logo โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Programs) เป็นชุดคาส่ังท่ีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทางานและบารุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมสแกนดสิ ก์ (Disk Scanner) โปรแกรมป้องกันไวรสั (Anti-Virus Program) เปน็ ตน้ 18

Logo ตวั แปลภาษา (Language Translator) ชุดคาสงั่ ท่ีใช้ในปจั จุบันถูกเขียนขนึ้ จากภาษาคอมพวิ เตอร์ระดับสูง (High Level Language) ซ่ึงคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจได้ ต้องมีตัวแปลภาษาเพ่ือแปลภาษาระดับสูงให้เป็นภาษาเครื่อง (Machine Language) เพ่อื ให้คอมพวิ เตอร์สามารถเข้าใจและทางานได้ตามท่ีกาหนดไว้ 19

Logo 2. ชดุ คาสัง่ ประยุกต์ (Application Software) เป็นชุดคาส่ังที่ทาขึ้นเพื่อใช้งานตามที่ผู้ใช้งานต้องการ อาจจะเป็นโปรแกรมสาเร็จรูป (Software Package) ที่มีผู้จัดทาข้ึนมาจาหน่ายตามท้องตลาด ซึ่งจะเป็นชุดคาสั่งสาหรับใช้งาน ทั่วๆ ไป หรืออาจจะเป็นโปรแกรมที่จัดทาข้ึนมาเฉพาะงานใดงานหน่ึง (Custom Program) ที่จัดทาข้ึนตามความต้องการของหน่วยงาน ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายและเวลามากกว่าการซ้ือโปรแกรม สาเรจ็ รูปมาใช้ 20

Logo  ข้อมูล (Dataware) การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ต้องมีการนาข้อมูลเข้าไปในระบบก่อนจึงจะ สามารถประมวลผลไหไ้ ด้ผลลัพธอ์ อกมา ข้อมูลท่ีจะนามาใช้ในการประมวลผลต้องเป็นข้อมูลท่ีถูกต้อง มาจากแหล่ง ท่ีน่าเช่ือถือและสามารถตรวจสอบได้ มิเช่นนั้นผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลก็จะ ไม่ถกู ตอ้ ง ไมส่ ามารถนาไปใชง้ านได้ ดงั คาท่กี ลา่ วไว้วา่ “ใสข่ ยะเขา้ ไป ผลลัพธ์ออกมา กเ็ ป็นขยะ (Garbage In, Garbage Out)” 21

Logo  บุคลากร (Peopleware) บคุ ลากรในงานดา้ นคอมพิวเตอร์ แบง่ ออกได้ 4 ระดบั 1. ผจู้ ัดการระบบ (System Manager) คอื ผู้วางนโยบายการใช้คอมพวิ เตอร์ 2. นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และ ทาการวเิ คราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพวิ เตอร์กบั ระบบงาน 3. โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือ ผู้เขียนโปรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ ทางานตามความต้องการของผู้ใช้ 4. ผู้ใช้ (User) ผใู้ ชง้ านคอมพวิ เตอร์ท่ัวไป 22

Logo  กระบวนการทางาน (Procedureware) คอื ขนั้ ตอนทผ่ี ้ใู ชต้ อ้ งปฏบิ ตั ิตามเพ่ือใหไ้ ด้ผลลพั ธ์จากคอมพิวเตอร์ตามที่ ต้องการ ผู้ใช้ทุกคนต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทางานของคอมพิวเตอร์ เพ่ือท่ีจะได้ใช้งานอย่างถูกต้อง ส่วนใหญ่แล้วการกระบวนการทางานกับ คอมพวิ เตอรจ์ ะมีค่มู ือการปฏบิ ตั ิงานที่ชดั เจน 23

Logo เทคโนโลยโี ทรคมนาคม เป็นเทคโนโลยีช่วยให้การสื่อสารระยะไกลมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยี โทรคมนาคมมาช่วยให้การทางานของคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากข้ึน เกิดระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) ท่ีสามารถเช่ือม ระบบการทางานภายในองค์กร หรือระหว่างองค์กรได้ เช่ือมโยงคนจาก ทัว่ โลกเข้าด้วยกนั ทาให้เกดิ การสื่อสารแบบไร้พรมแดนเกดิ ขน้ึ 24

Logo ส่วนประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ (1/2) 1. คอมพิวเตอร์ (Computer) ทาหน้าที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และประมวลผล ข้อมูล คอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็นแมข่ ่าย (Host Computer) ซ่ึงเป็นให้บรกิ ารในระบบ เครือข่าย 2. เทอร์มินอล (Terminal) เป็นอุปกรณ์ท่ีใช้ในการรับส่งข้อมูลจากท่ีหนึ่งไปยังอีก ทห่ี น่งึ ซ่งึ อาจจะเป็นเพยี งจอภาพกบั แปน้ พมิ พเ์ ท่านนั้ 3. ตัวประมวลผลในการส่ือสารโทรคมนาคม (Telecommunication Processor) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนให้การรับและส่งข้อมูลดาเนินไปอย่างราบรื่น เช่น Switches, Routers, MODEM เป็นต้น 25

Logo สว่ นประกอบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ (2/2) 4. ช่องทางการติดต่อส่ือสาร (Telecommunication channels) เป็นตวั กลางทท่ี า หน้าที่เชื่อมโยงเพอื่ ที่จะใหข้ อ้ มลู ข่าวสารระหว่างอุปกรณ์รับส่งข้อมลู ท่ีอยู่ในระบบ เครือข่าย ส่งผ่านกันได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ เช่น สายใยแก้วนาแสง คลื่นสัญญาณ ไมโครเวฟ คลนื่ สัญญาณดาวเทยี ม เปน็ ต้น 5. ชุดคาสั่งควบคุมการสื่อสารทางไกล (Telecommunication Software) เป็น ชุดคาสั่งท่ีควบคุมกิจกรรมการส่ือสารทางไกล ควบคุมการนาข้อมูลเข้าออกระบบ เครอื ข่าย รกั ษาความปลอดภยั และเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการตดิ ต่อสื่อสาร 26

Logo บทบาทและความสาคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ  ด้านเศรษฐกิจ  ดา้ นสังคม  ดา้ นการศกึ ษา  ดา้ นการสือ่ สารและโทรคมนาคม  ด้านสาธารณสขุ  ด้านส่ิงแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 27

Logo ด้านเศรษฐกิจ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศดาเนนิ งานหลักของธุรกิจให้สามารถแข่งขนั กบั คแู่ ข่งได้ การฝากถอนเงินของธนาคารออนไลน์ e-banking ตดิ ต้ังตู้เอทีเอม็ เพอื่ ให้บริการลูกคา้ ของธนาคารตามแหลง่ ชมุ ชนต่างๆ ช่วยวิเคราะห์และแนะนาการลงทนุ การตรวจสอบข้อมูลกบั ตลาดหลกั ทรพั ย์ทัว่ โลกได้แบบ real time การซือ้ ขายผ่านระบบออนไลน์ 28

Logo ด้านสังคม  ช่วยพัฒนาสังคมให้เกิดการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ และทาให้คนในสังคมอยู่ร่วมกัน อยา่ งมคี วามสุขมากยงิ่ ขึ้น เช่น  โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดาริฯ ให้ผู้ด้อยโอกาสมีโอกาสใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเท่าเทียมกนั  การนาเอาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาช่วยอ่านหนังสือเพ่อื คนตาบอด  ช่วยลดชอ่ งวา่ งระหวา่ งกลุ่มคนในสังคม 29

Logo ด้านการศึกษา  การให้บรกิ ารการเรยี นการสอนทางไกล ระบบเครอื ขา่ ยตา่ งๆ  Education: every time, every where, every body  สง่ เสรมิ การแลกเปล่ียนความร้ทู างการศึกษา 30

Logo ด้านการสอ่ื สารและโทรคมนาคม  ชว่ ยใหก้ ารติดต่อและแลกเปลยี่ นทาได้สะดวกมากยง่ิ ข้ึน  ลดข้อจากัดเร่ืองของสถานที่สามารถพูดคุยสื่อสารหรือโต้ตอบกันได้ โดยท่ี ไม่จาเปน็ ตอ้ งไปพบปะกันจรงิ  เกิดเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ท่ีเข้าถึงคนได้ทั่วโลกง่าย ซ่ึงก่อให้เกิดกิจกรรมและ ผลประโยชนต์ อ่ มนุษยม์ ากมาย 31

Logo ดา้ นสาธารณสขุ  ใช้เพื่อสนับสนุนและแลกเปล่ียนข้อมูลการรักษาผู้ป่วยที่เรียกว่า “โครงการ การแพทยท์ างไกล (telemedicine)” ชว่ ยลดปัญหาการขาดแคลนแพทย์ผเู้ ช่ียวชาญ  การแพทย์ทางไกลน้ียังได้นาเอามาประยุกต์ใช้กับการถ่ายทอดการเรียนการสอน และการประชุมวิชาการทางการแพทย์ให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง ผ้เู ชยี่ วชาญไดอ้ กี ดว้ ย 32

Logo ดา้ นส่งิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ มีการนาเอาเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเรียกว่า GIS (Geographic Information System) หรือระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เข้ามาจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลทาง ภูมิศาสตร์ เพื่อนามาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาผังเมือง ประยุกต์ใช้งานด้าน ธรณีวิทยา การพยากรณ์อากาศและการควบคุมส่ิงแวดล้อมให้ก้าวหน้าไปในทิศทาง ทถ่ี กู ตอ้ งและเหมาะสม 33

Logo หนา้ ท่ีของเทคโนโลยีสารสนเทศ 1. การบันทกึ (Capture) 2. การประมวลผล (Processing) 3. การผลิตสารสนเทศ (Generation) 4. การจัดเก็บและเรยี กใช้ (Storage and Retrieval) 5. การสง่ ผา่ นสารสนเทศ (Transmission) 34

Logo 1. การบันทึก การรวบรวมและบันทึกข้อมูล เช่น การบันทึกไว้ในแฟ้มเอกสาร หรือด้วยคอมพิวเตอร์ วิธีการรวบรวมได้แก่ การสังเกต การสัมภาษณ์ การทาแบบสอบถาม การทดสอบและการใช้ แบบสารวจ ข้อมูลมีคณุ ลักษณะสาคญั 2 ประการ คอื 1. ตรงตามความตอ้ งการ + กะทัดรดั +ชัดเจน 2. มคี วามเช่อื ถอื ได้ --->เป็นจริง + ทนั สมัย + ครบถว้ น + แม่นยา + มีแหลง่ อา้ งองิ 35

Logo 2. การประมวลผล  การจัดแบ่งกลุ่มข้อมูล  การจดั เรียงขอ้ มูล  การสรุปผล  การคานวณ  การตัดตอ่ 36

Logo 3. การผลติ สารสนเทศ Data --> Processing --> Information ขอ้ มลู --> ประมวลผล --> สารสนเทศ 37

Logo 4. การจดั เก็บและเรียกใช้  การจดั เกบ็ (Storage) จดั เก็บไว้ในสื่อตา่ งๆ ถ้าเป็นการจัดการด้วยคอมพิวเตอรเ์ ก็บ ไวใ้ นสอ่ื บนั ทึกขอ้ มลู เช่น แผน่ จานแมเ่ หลก็ เทปแม่เหลก็ เปน็ ตน้  การเรยี กใช้ (Retrieval) เป็นกระบวนการค้นหาและดึงข้อมลู ทตี่ ้องการออกจากสื่อ บนั ทกึ ขอ้ มูล การเรยี กใช้มี 2 จดุ ประสงคค์ อื 1. เรยี กใช้เพอื่ มาปรับปรุงแกไ้ ขข้อมูล 2. เรียกใช้เพอ่ื ดขู อ้ มูล 38

Logo 5. การส่งผ่านสารสนเทศ คือการนาเสนอสารสนเทศให้กับผู้ใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ท้ังในแบบเอกสารหรือ รายงาน หรอื การเสนอบนจอภาพโดยใชเ้ ครื่องคอมพิวเตอร์ ส่ิงสาคัญคือการกาหนดและออกแบบรายงานสารสนเทศท่ีสามารถตอบสนอง ความตอ้ งการของผใู้ ชไ้ ด้ 39

Logo พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ ยคุ ที่ 1 ระบบการประมวลผลข้อมลู (ค.ศ. 1950 – 1960) ยคุ ท่ี 2 ระบบสร้างรายงานสาหรับผูบ้ รหิ าร (ค.ศ.1960-1970) ยุคที่ 3 ระบบสนบั สนนุ การตัดสนิ ใจ (ค.ศ.1970-1980) ยุคที่ 4 บทบาทท่ีหลากหลาย (ค.ศ.1980-1990) ยุคที่ 5 ระบบเครือข่ายสากล (ค.ศ. 1990-ปจั จุบนั ) 40

Logo ยุคที่ 1 ระบบการประมวลผลขอ้ มูล (ค.ศ. 1950 – 1960) เป็นยคุ แรกๆ ของการนาคอมพวิ เตอร์มาใช้งาน นาคอมพิวเตอร์มาช่วยทางานประจาที่ใช้มนุษย์ปฏิบัติ เช่น การทาบัญชี การเกบ็ รกั ษาบนั ทกึ ตา่ งๆ และการประมวลผลทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์อ่ืนๆ 41

Logo ยคุ ท่ี 2 ระบบสรา้ งรายงานสาหรับผ้บู ริหาร (ค.ศ.1960-1970) นาคอมพวิ เตอร์มาชว่ ยงานของผู้บริหาร การใชค้ อมพิวเตอร์สร้างรายงานการปฏบิ ัตงิ านต่างๆ การสรุปผลการทางานสาหรับผู้บริหารเพื่อประกอบการ ตัดสินใจ เช่น รายงานยอดขายประจาสัปดาห์ ประจาเดือน หรือประจาปี รายงานรายรับรายจ่าย ขององคก์ รหรอื หน่วยงานธรุ กจิ เป็นต้น 42

Logo ยุคที่ 3 ระบบสนับสนนุ การตัดสินใจ (ค.ศ.1970-1980) เป็นระบบจาลองงานบริหารเพื่อช่วยผู้บริหารตัดสินใจ การคานวณหาค่าปัจจัย สาคญั ต่าง ๆ แล้วนามาพจิ ารณาประกอบในการตัดสนิ ใจตา่ ง ๆ เป็นระบบใหข้ ้อมลู สารสนเทศแกผ่ ู้บริหาร ณ เวลาทตี่ อ้ งการและเป็นแบบโตต้ อบกับ ระบบโดยตรงเพอื่ สนับสนนุ การตดั สินใจ เป็นระบบเฉพาะสาหรบั ผู้บรหิ ารแต่ละคน ตามความตอ้ งการ และวธิ ีการตดั สินใจใน ปญั หาตา่ ง ๆ 43

Logo ยคุ ท่ี 4 บทบาทที่หลากหลาย (ค.ศ.1980-1990)  ระยะแรกสดุ ผู้ใช้พฒั นาเอง (End User Computing)  ระยะทส่ี อง ระบบสารสนเทศเพือ่ ผู้บรหิ ารระดบั สงู (EIS : Executive Information Systems)  ระยะที่สาม ระบบปัญญาดษิ ฐ์ (AI : Artificial Intelligence) 44

Logo ยคุ ท่ี 5 ระบบเครอื ขา่ ยสากล (ค.ศ. 1990-ปัจจบุ ัน)  1985 เป็นตน้ มา มีการพัฒนาการเช่อื มตอ่ เครือขา่ ยเชือ่ มโยงท่ัวโลก  การเชื่อมต่อเครอื ขา่ ยไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นองค์กร เรยี กวา่ (Intranet)  เชอ่ื มต่อระหวา่ งองค์กรที่เป็นเครอื ขา่ ยพันธมติ ร เรยี กว่า (Extranet)  การดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยผ่านทางเครือข่ายเป็นไปอย่างกว้างขวาง สะดวก รวดเร็ว เช่น E-Commerce, E-government  มี Social media , cloud computing 45

Logo ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศด้านบวก  ชว่ ยเพมิ่ ความสะดวกสบายให้กบั มนุษย์  ช่วยเพ่มิ ประสิทธิภาพในภาคอตุ สาหกรรม  ช่วยสง่ เสริมการคน้ คว้าวิจัย  ช่วยส่งเสริมสขุ ภาพและพฒั นาด้านการแพทย์  ชว่ ยส่งเสรมิ และพัฒนาดา้ นการศกึ ษา  ช่วยพฒั นาเศรษฐกจิ  เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมท่วั โลก 46

Logo ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศด้านลบ  ก่อใหเ้ กดิ อาชญากรรมได้  ความสัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์ลดลง  ปญั หาการว่างงาน  เกิดการเผยแพรว่ ฒั นธรรมและขา่ วสารท่ไี ม่ เหมาะสมอยา่ งกวา้ งขวางและรวดเรว็ 47


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook