กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนาธรรม สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม พัฒนาสอื่ การเรยี นการสอนโดย นายกัณฑค์ ุปต์ ประเสริฐศรี
มีความสาคญั เพราะเกยี่ วเน่ืองด้วยพระรัตนตรัย คือ พระ พทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ เราสามารถศึกษาเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ของพระพทุ ธศาสนา ผ่านวนั สาคญั ทาง พระพทุ ธศาสนา รวมท้งั วธิ ีปฏิบัตติ นในวนั สาคญั ดังกล่าว ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
และศาสนพธิ ี
วนั มาฆบูชา หรือ มาฆปณุ ณมบี ูชา หรือมาฆปูรณมี บูชา คือ การบูชาในวนั เพญ็ เดือน 7 ซ่ึงเป็ นช่ือเรียกของ พธิ ีบูชาและการทาบุญในทางพระพทุ ธศาสนาอย่างหนึ่ง โยปรารภการประชุมใหญ่ของพระสาวกเรียกว่า “จาตุรงค สันนิบาติ”
“จาตุรงคสันนบิ าต” แปลว่าการประชุมพระสงฆ์สาวกของ พระพทุ ธเจ้าทปี่ ระกอบด้วยองค์ส่ีหรือการประชุมพร้อมกนั ด้วยองค์ 4 1. พระสงฆ์สาวกจานวน 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกนั โดยมไิ ด้นัด หมาย 2. พระสงฆ์สาวกเหล่าน้ันล้วนเป็ น “เอหิภกิ ขุ” คือได้รับการ อปุ สมบทโดยตรงจากพระพทุ ธเจ้า 3. พระสงฆ์สาวกเหล่าน้ันล้วนเป็ นพระอรหันต์ 4. พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาตโิ มกข์ ซึ่งเป็ นหลกั การสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา
ตรงกบั วนั เพญ็ เดือน 6 ของทุกปี ถ้าปี ใดมอี ธิกมาสคือ เดือน 8 สองหนกเ็ ล่ือนไปเป็ นวนั เพญ็ เดือน 7 วนั วสิ าขบูชานีถ้ ือเป็ นวนั คล้ายวนั ประสูติ วนั ตรัสรู้ และวนั ปรินิพพานของพระพทุ ธเจ้า
เป็ นวนั ทสี่ มเดจ็ พระสัมมาสัมพทุ ธ เจ้าได้แสดง พระปฐมเทศนา หรือการ แสดง พระธรรมคร้ังแรก หลงั จากทต่ี รัส รู้ได้ 2 เดือนเป็ นวนั ท่ีเร่ิมประดษิ ฐาน พระพทุ ธศาสนา เน่ืองจากมี องค์ประกอบของ พระรัตนตรัยครบถ้วนคือ พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์
ธัมมจกั กปั ปวตั นสูตร แปลว่า สูตรของการหมุนวงล้อแห่ง พระธรรม ให้เป็ นไปมคี วามโดยย่อว่า ทสี่ ุด 2 อย่างทบ่ี รรพชิต ไม่ควรประพฤตปิ ฏบิ ัติ คือ การประกอบตนให้อยู่ในความสุข ด้วยกาม ซ่ึงเป็ นธรรมอนั เลวเป็ นของชาวบ้าน เป็ นของปถุ ุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ทส่ี ุดอกี ทาง หน่ึงคือ การประกอบการทรมานตนให้เกดิ ความลาบาก ไม่ใช่ ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
วนั อาสาฬหบูชาจึงเป็ นวนั ทพ่ี ทุ ธศาสนิกชนจะได้ร่วมกนั น้อมระลกึ ถงึ คุณพระรัตนตรัยศึกษา พระธรรมวนิ ัยอนั เป็ นแก่น แท้ของพระพทุ ธศาสนาให้เข้าใจอย่างถูกต้องตรงทางแล้วนาไป ประพฤตปิ ฏบิ ัติ เพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อ่ืนต่อไปช่ัว กาลนาน
เป็ นวนั ทพ่ี ระสงฆ์เริ่มอยู่จาพรรษาตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน ต้งั แต่วนั แรม 1 คา่ เดือน 8 จนถึงกลางเดือน 11 วนั เข้าพรรษาท่ี พระพทุ ธเจ้าทรงอนุญาตไว้มอี ยู่ 2 วนั คือ วนั เข้าปรุ ิมพรรษา คือเข้าพรรษาแรก ต้งั แต่วนั แรม 1 คา่ เดือน 8 ไปจนถึงวนั เพญ็ กลางเดือน 11 วนั เข้าปัจฉิมพรรษา คือวนั เข้าพรรษาหลงั ต้งั แต่วนั แรม 1 คา่ เดือน 9 ไปจนถงึ วนั เพญ็ เดือน 12
ตามประวตั กิ ล่าวไว้ในสมัยพทุ ธกาล ภกิ ษุได้ท่องเท่ยี ว จาริกไปยงั ทต่ี ่าง ๆ แม้ฤดูฝนทาให้ไปเหยยี บข้าวกล้าของ ชาวบ้านเสียหายหรือเหยยี บยา่ สัตว์เลก็ สัตว์น้อยถงึ แก่ความ ตายพระพทุ ธเจ้าจึงทรงวางระเบียบให้พระภิกษุ อยู่ ประจา ตลอดเป็ นเวลา 3 เดือนครับ
ตรงกบั วนั เพญ็ (ขนึ้ 15 คา่ ) เดือน 11 เป็ นวนั ที่พระภกิ ษุสงฆ์ ออกจากจาพรรษา หรือการอยู่ประจาทตี่ ลอดฤดูฝน เป็ น ระยะเวลา 3 เดือน ต่อจากวนั นีไ้ ปพระภกิ ษุสงฆ์กส็ ามารถจาริก ไปในท่ตี ่าง ๆ และค้างแรมในทอี่ ่ืนได้ วนั ออกพรรษานีม้ กี ารทาปวารณา ในหมู่พระภกิ ษุสงฆ์คือให้ พระภกิ ษุสงฆ์ทาปวารณาแทนการทาอุโบสถ์สังฆกรรม ยอมให้ว่ากล่าว ตกั เตือนซึ่งกนั และกนั ต่างรูปต่างกล่าวคาปวารณาตามลาดบั อาวุโส
ในวนั ออกพรรษาตามประวตั กิ ล่าวว่าเป็ นวนั ทพ่ี ระพทุ ธเจ้า เสดจ็ ลงจากสวรรค์ช้ันดาวดงึ ส์ หลงั จากทไี่ ด้เสดจ็ ไปจาพรรษา และแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพระพทุ ธมารดา การเสดจ็ ลง จากดาวดงึ ส์คร้ังน้ัน ได้เสดจ็ ลงมา ณ เมืองสังกสั สะ บรรดา พทุ ธศาสนิกชนจงึ พากนั ไปตกั บาตรแด่พระพทุ ธเจ้า เรียกว่า ตกั บาตรเทโว คาเตม็ คือ ตกั บาตรเทโวโรหณะ คาว่า เทโวโรหณะ แปลว่า การหยง่ั ลงจากเทวโลก
ตรงกบั วนั แรม 8 คา่ เดือน 6 หรือเดือน 7 นับถัดจากวนั วสิ าขบูชาไป 7 วนั เป็ นวนั คล้ายวนั ถวายพระเพลงิ พระพทุ ธสรีระ ของพระพทุ ธเจ้าทเี่ มืองกสุ ินารา จึงถือ เป็ นวนั สาคญั ทรี่ ะลกึ ถึงพระพทุ ธองค์อกี วนั หนึ่ง
วนั ธรรมสวนะ วนั พระ หรือ วนั ธรรมสวนะ หมายถงึ วนั ประชุม ถือศีลฟังธรรมในพทุ ธศาสนา (ธรรม สวนะ หมายถงึ การฟัง ธรรม) กาหนดเดือน ทางจนั ทรคตลิ ะ 4 วนั ได้แก่ วนั ขนึ้ 8 คา่ วนั ขนึ้ 15 คา่ (วนั เพญ็ ) วนั แรม 8 คา่ วนั แรม 15 คา่ (หากเดือนใดเป็ นเดือน ขาด ถือเอาวนั แรม 14 คา่ )
ในวนั พระ พทุ ธศาสนิกชนถือเป็ นวนั สาคญั ควร ไปวดั เพื่อทาบุญ ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ และฟังธรรม สาหรับผู้ทเ่ี คร่งครัดในศาสนาอาจถือศีลแปดในวนั พระด้วย นอกจากนีช้ าวพทุ ธยงั ถือว่าวนั พระไม่ควรทาบาป ใด ๆ การ ทาบาปหรือไม่ถือศีลห้าในวนั พระถือว่าเป็ นบาปยง่ิ กว่าใน วนั อื่น วนั โกน เป็ นภาษาพดู หมายถงึ วนั ก่อนวนั พระ 1 วนั
ข้อ 1 เพราะเหตุใดเราจึงต้องศึกษาวนั สาคญั ทาง พระพทุ ธศาสนา 1. เพื่อเตรียมตวั หยุดพกั ผ่อน 2. เพื่อจะได้หยุดทาบาปในวนั น้ัน 3. เพ่ือจะได้ประกอบศาสนพธิ ีได้ถูกต้อง 4. เพื่อจะได้ละเว้นการไปเยย่ี มพระสงฆ์
ข้อ 2 ในวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา นักเรียนควรปฏบิ ัติ ตนอย่างไรจงึ จะเหมาะสม 1. ทาบุญตกั บาตรฟังธรรม 2. ชวนเพ่ือนไปทัศนศึกษา 3. ไปเยยี่ มญาตทิ ต่ี ่างจังหวดั 4. ช่วยนักการทาความสะอาดห้อง
ข้อ 3 พระธรรมเทศนาทพ่ี ระสงฆ์แสดงในวนั วสิ าขบูชา คือเร่ืองใด 1. อริยสัจ 4 2. พรหมวหิ าร 3. โอวาทปาติโมกข์ 4. ธัมมจกั กปั ปวตั ตนสูตร
ข้อ 4 เหตุใดจงึ จดั ว่าวนั อาสาฬหบูชาถือเป็ นวนั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา 1. เป็ นวนั เร่ิมแรกแห่งพระพทุ ธศาสนา 2. เป็ นวนั ทม่ี พี ระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ 3. เป็ นวนั ทมี่ เี หตุการณ์เกย่ี วกบั พระพทุ ธเจ้าโดยเฉพาะ 4. เป็ นวนั แรกทพ่ี ระพทุ ธเจ้าทรงแสดงพระโอวาทแก่ พระภกิ ษุสงฆ์
ข้อ 5 ข้อใดเป็ นหลกั เกณฑ์ทพี่ ระภกิ ษุสงฆ์ต้องปฏบิ ตั ิ ในช่วงเข้าพรรษา 1. สวดปาตโิ มกข์ทุกคร้ังหลงั จากทาวตั ร 2. งดจาริกจากวดั แล้วศึกษาปฏิบตั ธิ รรม 3. ออกเยย่ี มเยยี นชาวบ้านทอ่ี ยู่ใกล้เคยี ง 4. เดนิ ทางไปเยยี่ มพระภกิ ษุในถนิ่ ทุรกนั ดาร
ข้อ 6 ประเพณที กี่ ระทาหลงั ออกพรรษา 1 เดือนคืออะไร 1. การทอดกฐิน 2. การทอดผ้าป่ า 3. การลอยกระทง 4. การตกั บาตรดอกไม้
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: