มือน้นั สขี าาว ประเภท : กวนี ิพนธ์ ไดร้ บั รางวลั ซีไรตป์ ี : 2535
ประวตั ิผูแ้ ตง่ ชื่อจริงคือ กิตติศกั ด์ิ มีสมสืบ (เกิดเม่ือวนั ศุกร์ท่ี 23 สิงหาคม 2500 ท่ี จงั หวดั ชยั นาท; ชื่อเล่นไวท)์ ไดร้ ับรางวลั ซีไรต์ ในปี 2535 จากเรื่อง มือน้นั สีขาว ปัจจุบนั เป็นนกั เขียนอิสระ และนกั แต่งเพลง สงั กดั ยงุ้ ขา้ ว เรคคอร์ด
ภาพรวมขาองกวนี ิพนธ์ เรื่องมือน้นั สีขาวเป็นหนงั สือที่รวมบทกวีนิพนธ์ไทยสมยั ใหม่ที่ มีลกั ษณะสร้างสรรคท์ ้งั ความคิดและวิธีการนาเสนอ มุ่งแสดงอุดมคติ อนั เชิดชู คุณค่า ความบริสุทธ์ิ และความมีน้าใจของมนุษย์ กวีถ่ายทอด ความคิดเป็นรูปธรรมที่เขา้ ใจง่าย ผา่ นบุคคลและเหตุการณ์สมมุติ ซ่ึงอาจเกิดข้ึนไดใ้ นชีวติ จริงและสงั คมจริง แสดงความแตกต่าง ระหวา่ งสภาวะอนั บริสุทธไ์ ม่เสแสร้ง ของเดก็ กบั สภาวะของผใู้ หญ่ที่ ถูกครอบงาดว้ ยกรอบสังคม
ภาพรวมขาองกวนี ิพนธ์ ในแต่ละบทกวไี ดเ้ สนอแง่ความคิดอยา่ งประณีตหลายนยั ตีความไดก้ วา้ งขวางลึกซ้ึงดว้ ยกลการประพนั ธท์ ่ีเฉียบคม ศกั ด์ิสิริ สะทอ้ นใหเ้ ห็นในหลาย ๆ ภาพวา่ ธรรมชาติแท้ ๆ ของมนุษยน์ ้นั ดี แต่ส่ิงท่ีมาทาลายใหค้ วามเป็นธรรมชาติน้นั เปลี่ยนแปลงไปกค็ ือ สงั คมหรือสภาพแวดลอ้ มท่ีเกิดข้ึนจากมนุษยด์ ว้ ยกนั เอง และมนุษย์ จาตอ้ งยอมรับสภาพน้นั โดยมีท้งั ที่มนุษยเ์ ป็นผเู้ ลือกเอง และบางที มนุษยไ์ ม่ไดเ้ ลือก
หนังสือมือน้ันสีขาวมบี ทกวี 40 เรื่องดงั นี้ 1. เดก็ กางร่ม 2. เปลย่ี น 3. ต่อขา 4. เยยี่ ม 5. เมลด็ พนั ธ์ุ 6. ห่ึง 7. ด่า 8. ข้าวเกรียบ 9. หมานาเกวยี น 10. ลาเลกิ 11. เต้น 12. นางสิบสอง 13. เดน 14. จม 15. รถด่วน 16. หนานคา 17. ทางมืด 18. ช้อนก้งุ 19. เดก็ ล้างจาน 20. ใส่หน้ากาก
หนงั สือมือน้ันสีขาวมีบทกวี 40 เรื่องดงั นี้ 21. ซ่อน 22. บัง 23. ถุงมือ 24. นางไม้ 25. กล 26. ทางเข้า 27. หลบั 28. บุญ 29. จงั หัน 30. เพลง 31. เป้า 32. ดอกกระมัง 33. หาบนา้ 34. ช่อฟ้า 35. สาวน้อยในสวน 36. กจิ 37. ถอดหน้ากาก 38. แกว่งสารส้ม 39.อรูโณไทย 40.โศลกไพร
กวนี ิพนธม์ ือน้นั สขี าาว…มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ท่สี อดแทรก 5 ดา้ น ดงั น้ี
1. คุณธรรมจริยธรรมในด้านการ มเี มตตา มนี า้ ใจ แบ่งปัน ช่วยเหลือผู้อื่น และการให้กาลงั ใจ ไดส้ อดแทรกในบทกวดี งั ตอ่ ไปน้ี 1.เดก็ กางร่ม 9.หนานคา 2.เยยี่ ม 8.จม 3.เมลด็ พนั ธ์ 7.รถด่วน 4.ห่ึง 6.นางสิบสอง 5.ข้าวเกรียบ
ตวั อย่างเร่ือง… เดก็ กางร่ม “ เดินฝ่ าสายฝน อีกคนขอเขา้ สองคนกางร่ม แบ่งกนั หลบฝน อีกคนขอเขา้ สามคนกางร่ม เบียดกนั หลบฝน เอา้ ... อีกคนขอเขา้ ” (หนา้ 21)
2. คุณธรรมจริยธรรมในด้านความอดทน ความพยายาม ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค ไดส้ อดแทรกในบทกวดี งั ต่อไปน้ี 1.ต่อขา 7.หาบนา้ 2.หมานาเกวยี น 6.เดก็ ล้างจาน 3.ลาเลกิ 5.ทางมืด 4.เต้น
ตวั อย่างเรื่อง… หมานาเกวยี น ดงั เน้ือหาที่วา่ “ ถึงจะนานแต่หมู่บา้ นกอ็ ยขู่ า้ งหนา้ หมานาเกวยี นยงั เริงร่า แต่ครูส่ายหนา้ ทาท่าเหมือนจะร้อง ครูบ่นซ้าซ้าวา่ กรรมของกกู รรมของกู ลุงขบั เกวียนใจ เห่ียวหดหู่ น้าใจของครูสูห้ มากกู ย็ งั ไม่ได”้ (หนา้ 38)
3. คุณธรรมจริยธรรมในด้านการเห็นคุณค่าใน การกระทา และการเท่าเทยี มกนั ของคน ไดส้ อดแทรกในบทกวดี งั ต่อไปน้ี 1.บุญ 5.ดอกกระมงั 2.สาวน้อยในสวน 4.จงั หัน 3.นางไม้
ตวั อย่างเรื่อง…นางไม้ ดงั เน้ือหาที่วา่ “นางไมไ้ ปไหน นางไมไ้ ปเป็นกะหร่ี ป่ าไมพ้ นั ปี โล่งเตียน ตน้ ไมห้ ายไปอีกตน้ กะหรี่อีกคนเพ่มิ ข้ึน” (หนา้ 71)
4. คุณธรรมจริยธรรมในด้านการกระทา อย่างมีสตแิ ละมเี หตุผล ไดส้ อดแทรกในบทกวดี งั ต่อไปน้ี 1.ซ่อน 4.แกว่ง 2.บัง สารส้ ม 3.เป้า
ตวั อย่างเร่ือง… บัง ดงั เน้ือหาที่วา่ “รถขา้ งหนา้ ชนกนั กระช้นั ชิด ทุ่มเถียงกถู ูกมึงผดิ กระทบกระท้งั มิย้งั คิดเคียดแคน้ เคอื ง ละเมิดกฎ เขียว แดง เหลือง รถราวนุ่ ไปท้งั เมือง คุณพระช่วย” (หนา้ 67)
5. คุณธรรมจริยธรรมทส่ี ะท้อนให้เห็นถึงการ อย่าตดั สินผู้อื่น เพยี งภายนอก ไดส้ อดแทรกในบทกวดี งั ต่อไปน้ี 1. ด่า 2. ถุงมือ
ตวั อย่างเร่ือง… ด่า ดงั เน้ือหาท่ีวา่ “สงฆห์ นุ่มมิอาจขม่ สะทา้ นใจ กอดแม่ร่าไห้ สงฆเ์ กลือกหนา้ กลิ้ง เกลือกอกโยมหญิงแม่เอย เพื่อนสงฆเ์ อ้ือยเอ่ยปลอบใจ ฉิวฉิวเม่ือก้ีผา่ นหนา้ สงฆส์ มยั น้ีซ่า อา้ ยห่าควบมอไซค์ เฆ่ียนฉิวยงั กะสายฟ้า โครตแม่มนั ตายห่ารึยงั ไง” (หนา้ 34-35)
ประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั และการนาไปใช้ 1. ได้รับรู้ถึงความรัก ความสามคั คี ความมนี า้ ใจต่อเพ่ือน มนุษย์ ความมเี มตตากรุณาต่อสัตว์ และสามารถ นาความรู้ทไ่ี ด้มาปรับใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้ 2. ได้รับรู้ถึงความพยายามในการทาอะไรซักอย่าง และถ้าหาก ในชีวติ เราต้งั ใจท่จี ะทาอะไร ต่อให้มอี ุปสรรคมาขวางก้นั ให้เรา น้ันสู้และฝ่ าฟันอปุ สรรคน้ันไปให้ได้ความพยายามและต้งั ใจ ของเราเอง
3. ทาให้ระมดั ระวงั ในการใช้ชีวติ มากขนึ้ ในการเลือกส่ิงต่าง ๆ ตลอดจนการคบคนในสังคม อย่าได้เลือก มองแค่ภายนอก ต้องมองเข้าไปข้างในลกึ ๆ ว่าเป็ นเช่นไร บางคร้ังเราอาจรู้ หน้าแต่ไม่รู้ใจ 4. เมื่อเราเตบิ โตเป็ นผู้ใหญ่หรือเป็ นคุณครู ในอนาคต ข้างหน้า เราจะต้องประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตน เป็ นแบบอย่าง ทด่ี ใี ห้กบั เดก็ รุ่นหลงั อบรมส่ังสอนเดก็ ๆ ให้อยู่ในทาง ทถ่ี ูกต้องและไม่หลงผดิ
คำถำม 1. หนงั สอื มือนนั้ สขี าวเป็นหนงั สอื ประเภทไหน และไดร้ บั รางวลั ปีไหน ? ตอบ ประเภท : กวีนพิ นธ์ ไดร้ บั รางวลั ซไี รตป์ ี : 2535 2. ผแู้ ตง่ หนงั สอื มือนนั้ สขี าวมีชอื่ วา่ อะไร ? ตอบ ศกั ดสิ์ ริ ิ มีสมสบื 3. มอื นน้ั สขี าวมีทงั้ หมดก่ีบทกวี ? ตอบ 40 บทกวี
4. บทกวนี ้ีมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมในดา้ นไหน ? เดก็ กางร่ม “ เดินฝ่ าสายฝน อีกคนขอเขา้ สองคนกางร่ม แบ่งกนั หลบฝน อีกคนขอเขา้ สามคนกางร่ม เบียดกนั หลบฝน เอา้ ... อีกคนขอเขา้ ” ตอบ คุณธรรมจรยิ ธรรมในดา้ นการมีเมตตา มีนา้ ใจแบ่งปัน ช่วยเหลอื ผูอ้ น่ื และการใหก้ าลงั ใจ 5. ยกตวั อยา่ งประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากหนงั สอื มือนน้ั สขี าว ? ตอบ ไดร้ บั รถู้ งึ ความรกั ความสามคั คี ความมีนา้ ใจต่อผูอ้ นื่ ความมีเมตตา กรณุ าต่อสตั ว์ และสามารถนาความรทู้ ่ีไดม้ าปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: