อันตรายจากไฟฟา้DANGER ELECTRICITY เรยี บเรยี งโดย นาย ทัตพงศ์ เกดิ ศริ ิ สาขาวิชาไฟฟ้ากาลงั วทิ ยาลัยเทคนคิ สโุ ขทยั
อนั ตรายจากไฟฟา้ พลังงานไฟฟา้ เปน็ พลังงานที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายแกช่ ีวติ และทรัพยส์ นิ ได้ อนั ตรายท่ีคนทั่วไปไดย้ นิ ได้ฟังมี 2 สาเหตุใหญ่ คอื ไฟฟา้ ซอร์ท และไฟฟ้าดดู ทัง้ สองกรณี มีสาเหตุการเกิดที่ ตา่ งกัน และอนั ตรายท่ไี ด้รับก็แตกตา่ งกนั 1. ไฟฟา้ ชอร์ท(Short Circuit) เม่อื มีเหตุเกิดเพลิงไหมเ้ รามักจะไดย้ ินข้อสันนิฐานวา่ มเี หตุมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ภาวะหรือสาเหตกุ ารลัดวงจรคือกระแสไฟฟ้าไหลครบวงจรโดยไม่ผา่ นเครือ่ งใช้ ไฟฟ้า (LOAD)การลัดวงจรของไฟฟ้ามีมากมายหลายสาเหตุ สาเหตหุ ลกั เกิดจากการใช้ไฟฟา้ ที่ไม่ถกู ต้อง การติดต้ังอปุ กรณ์ไฟฟ้า ไม่ได้มาตรฐาน ปรากฏการณ์ท่ีพบได้บ่อย คือ 1.1 ฉนวนไฟฟ้าชารุดและเสอื่ มสภาพ อาจเนื่องมาจากอายุการใช้งานนาน สภาพแวดลอ้ มมีความรอ้ นสงูใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ เกินพกิ ัดทาให้เกดิ ความร้อนภายในสายหรืออปุ กรณ์ไฟฟ้า 1.2 มีสงิ่ ก่อสรา้ ง ต้นไม้ หรือสงิ่ อื่น ๆ ไปพาดทับหรือสมั ผัสสายไฟฟ้า เกิดการขัดสี จนฉนวนชารุด ลวดตวั นา ภายในสายสมั ผสั กันเองจนเกดิ การลกุ ไหม้ 1.3 สายไฟฟ้าหลุด หรือขาดลงพื้น ทาให้กระแสไฟฟ้ากระจายอยู่ในบรเิ วณนน้ั หากพ้นื ผวิบรเิ วณน้นั เปยี กชนื้ อนั ตรายตอ่ ผู้สญั จรยงิ่ สงู ตามไปด้วยลักษณะการลดั วงจร ไฟฟ้าลัดวงจรเกิดขึ้นได้ ทง้ั ในระบบไฟฟ้าแรงสูงและระบบไฟฟ้าแรงดันตา่ ลักษณะการเกิดและความเสียหาย ก็จะมีความแตกต่างกนั คือ 1. กระแสไฟฟา้ ไหลระหว่างสายไฟ สาเหตุส่วนใหญเ่ กดิ จาก ฉนวนของสายไฟฟ้าชารุด หรอืจากการสมั ผสั กนั โดยบงั เอิญ ผลจากการการเดินลดั วงจร จะทาให้กระแสไฟฟ้าไหลเปน็ จานวนมากทาใหเ้ กดิ ความร้อนสูงจนเกดิ การลกุ ไหม้ ระหว่างลัดวงจรจะก่อให้เกิดประกายไฟข้นึ ดว้ ย 2. กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน หรอื เรยี กว่ากระแสไฟฟ้าลดั วงจรลงดิน อาจเกดิ จากการที่สายไฟฟา้ ขาด หรือหลดุ จากจดุ ต่อไปสัมผสั กบั พนื้ ดินหรือโลหะท่ตี ่อฝังอย่บู นพนื้ ดนิ ลักษณะดังกล่าวน้จี ะทา ให้กระแสไฟฟ้าไหลลงดิน
ผลของไฟฟ้าชอร์ต ในกรณีทีก่ ระแสไหลใน สายไฟฟา้ หรือเครือ่ งอปุ กรณ์ไฟฟ้าสูง จะทาให้ความร้อนเกดิ ขึน้ ในสายตัวนา หลายครง้ั จะทาให้เกดิ การหลอมละลายของฉนวนไฟฟ้าและส่งผลใหส้ ายตวั นาไฟฟ้าสัมผัสกนั เกิดเป็นประกายไฟฟา้ และทาให้ฉนวน ทีห่ ลอมละลายลุกไหม้ขึ้นมา สว่ นสายตวั นาท่ีสัมผสั หรือลดั วงจรกนั นั้นก็จะเกิดการสะบดั ตัว กระจายเปลวไฟทก่ี าลงั ลุก ไหม้ขยายวงออกไป หากมวี ัสดุติดไฟอย่ใู นบรเิ วณนนั้ กเ็ สรมิ ใหก้ ารลกุ ไหมร้ นุ แรงในกรณีหากเกิด ข้ึนในบริเวณ ของโรงพยาบาล ท่เี ปน็ โซนก๊าซตดิ ไฟ อาจจะทาใหเ้ กิดการระเบดิ ขน้ึ ได้ แนวทางการป้องกัน คือ จะต้องป้องกนั ไมใ่ หเ้ กิดการลัดวงจร โดยการ ดูแลเครอ่ื งใชแ้ ละ อุปกรณไ์ ฟฟ้า สายไฟฟ้าน้ันตอ้ งมีการตรวจสอบสมา่ เสมอ หากตรวจสอบความรอ้ นขณะท่มี ีการใช้กระแส ไฟเต็มที่ยิง่ เปน็ การดี หากปรากฏการไหลของกระแสเกนิ พกิ ัดตอ้ งหาสาเหตุ หากมเี หตจุ ากการมีเคร่ืองใช้ไฟฟ้า ตดิ ตงั้ ใช้งานมาก ต้องเปล่ียนสายไฟฟ้าให้มีพิกัดกระแสที่ถกู ต้องสายไฟฟ้าทใ่ี ช้งานนาน ความร้อนจากสภาพแวดลอ้ มก็ทาให้ สายแตกปริ หลดุ ร่อนออกได้แนวโนม้ ท่ีจะเกิดประกายไฟตรงบริเวณทฉี่ นวนหลดุ ร่อนย่อมมีสูง ในระบบไฟฟา้ แรงสงู เมือ่ สาย ไฟฟา้ ขาดลงสู่พืน้ ดิน ระบบปอ้ งกันไมต่ ัดวงจร อาจก่ออันตรายใหก้ ับผทู้ ่สี ญั จรไปมาได้
แนวทางป้องกันไฟฟ้าลดั วงจรในอาคาร (1) เลือกใช้อุปกรณ์ปอ้ งกันท่ีเหมาะสม (เปน็ ฟิวส์หรือเซอร์กิตเบรกเกอร)์ เมอ่ื ฟิวสข์ าดตอ้ ง ใช้ขนาดเดิมไม่ควรใช้ ขนาดทใ่ี หญข่ น้ึ หรือดดั แปลงใช้วสั ดุตวั นาอืน่ มาทดแทน (2) ตรวจสอบสายไฟฟา้ อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจาเพ่ือพบว่าชารดุ ควรรีบซ่อมบารุง โดยเฉพาะไฟฟ้า ท่ีฉนวนชารดุ (3) ดูแลรักษาและทาความสะอาดเครื่องใชไ้ ฟฟา้ เป็นประจาเช่น ในแผงสวติ ซ์และไฟตา่ งๆเพราะอาจมีตวั แมลง เข้าไปทารัง หรือมฝี นุ่ ละอองเกาะ (4) เลือกใช้อปุ กรณ์เครื่องใช้ไฟฟา้ ท่ีมีคณุ ภาพอาจดูได้จากเครื่องหมายรบั ประกนัคุณภาพรับรองคุณภาพ ของ สานักงานมาตรฐานผลติ ภัณฑ์อุตสาหกรรม(ม.อ.ก.) (5) ใชเ้ ครื่องไฟฟ้าอยา่ งถูกวิธี ตามทีผ่ ้ผู ลิตแนะนา 2. ไฟฟา้ ดูด(Electric Shock) เป็น ภาวะทีก่ ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นร่างกายมีผลทาให้กล้ามเน้อื เกดิ การเกรง็ จนไม่สามารถสะบัดให้หลุดได้ ปรมิ าณของกระแสไฟฟ้าท่ีไหลผ่านรา่ งกายทาใหเ้ สียชวี ติ หรือพกิ ารไฟฟ้าดูดในบางกรณี เปน็ การดูดทผ่ี ปู้ ระสบเหตไุ ม่ไดส้ มั ผัสกับไฟฟ้าโดยตรงกไ็ ด้เช่นจบั ตัว ผ้สู มั ผสั ไฟฟ้า หรือใช้อปุ กรณ์ไฟฟา้ ใต้แนวไฟฟ้า แรงสงู กเ็ คยมกี รณีใหเ้ ป็นตวั อย่างมาแล้วปกติพ้นื ดนิ เป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า มแี รงดนั ทางไฟฟา้ เป็นศนู ย์ ดงั นน้ั เม่ือเราสัมผัส ส่วนใดใดท่ีมีแรงดนั ไฟฟ้าขณะทีร่ า่ งกายยนื อยู่บนพืน้ ดิน กระแสไฟฟ้าก็จะไหลผา่ นร่างกายลงดินครบวงจร เราจงึ ถูกไฟฟ้าดดู การถูกไฟฟา้ ดูดจากการสมั ผสั สามารถแยกแยะตามลักษณะของการสัมผัสได้เป็น 2 แบบคือ 2.1 การสมั ผัสโดยตรง(Direct Contact)คอื การทสี่ ่วนรา่ งกายสัมผัสถกู สว่ นทม่ี ีไฟฟ้าโดยตรง เชน่ สายไฟฟ้าร่ัว เพราะฉนวนชารุดแล้วมีบคุ คลเอามือไปจับหรอื จากการท่เี ดก็ เอาโลหะหรอืตะปูแหย่ เขา้ ไปในปลั๊ก(เตา้ รับไฟฟา้ ) 2.2 การสัมผัสโดยอ้อม(Indirect Contact) ลกั ษณะนี้ บุคคลไม่ได้สัมผสั ส่วนท่มี ไี ฟฟา้โดยตรง แตเ่ กิดจากการท่ี บุคคลไปสัมผสั กับสว่ นทีป่ กตไิ ม่มีไฟฟ้า เช่น เครอื่ งใช้ไฟฟ้า แต่มีไฟฟา้เน่อื งจากเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้านั้น ๆ รว่ั ไฟฟ้าจึงปรากฏ อยู่บนพ้ืนผวิ ของเคร่ืองใช้ไฟฟ้านั้น ๆ เมอื่ บุคคลไปสมั ผัสจงึ ถูกไฟฟ้าดูด
ผลของไฟฟ้าดูดต่อรา่ งกายมนุษย์ อนั ตรายจากไฟฟา้ ดูด มีผลตอ่ มนษุ ย์แตกต่างกนั ไปตามขนาดกระแสไฟฟา้ และสุขภาพรา่ งกายของบุคคล ตามท่ี ไดม้ ีการศกึ ษาวิเคราะหผ์ ลของกระแสไฟฟา้ ทมี่ ตี ่อรา่ งกายมนุษย์โดยใชค้ า่ เฉล่ยีคา่ ที่ได้แตกตา่ งกันออกไปตามมาตรฐาน จากการทดสอบตวั อย่างผลของกระแสไฟฟา้ ท่มี ีต่อรา่ งกายมนษุ ยเ์ ป็นค่าทีไ่ ม่ จากดั เวลาท่ีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านรา่ งกาย (ไม่ไดใ้ ช้เวลาเปน็ ตัวแปรในการทดลอง)เป็นไปตามตารางที่ 1 กระแสไฟฟ้าจะไหลผา่ นรา่ งกายได้สูง หากรา่ งกายมีความตา้ นทานตา่ ร่างกายท่ีเปยี กชนื้ จะมคี วามตา้ นทานต่า เมื่อไฟฟ้าดดู จงึ มอี นั ตรายสงู ดงั นั้นขณะที่รา่ งกายเปียกชืน้ จึงไมค่ วรสมั ผัสกับตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นการดี และเป็นข้อห้าม ปฏบิ ตั ิทางไฟฟ้าด้วยขนาดของกระแส อาการที่เกดิ500 mA. ไมร่ ู้สกึ ตัวว่าถูกดูด1 A. รสู้ กึ ว่าร่างกายผิดปกติถกู ดูด1-3 A. รู้สึกถงึ กระแสไฟฟ้าแต่ไม่เกิดความเจบ็ ปวด3-10 A. รู้สึกถึงความเจ็บปวดสูงกวา่ 10 A. รสู้ ึกถึงการเกรง็ ของกลา้ มเนื้อสงู กว่า 30 A. ร้สู กึ ถึงความขดั ข้องของระบบหายใจสูงกว่า 75 A. รู้สึกถึงความขัดข้องของระบบหัวใจสงู กวา่ 150 A. เกิดความขดั ข้องของกล้ามเน้ือหัวใจ
ปจั จัยความรนุ แรงของไฟฟ้าดูด เม่อื บคุ คลถูกไฟฟา้ ดูด กระไฟฟา้ ท่ีไหลผา่ นร่างกาย เป็นปจั จยั หนึ่งของอันตราย เทา่ น้นัความจริงแล้วตวั แปรทีส่ าคัญ ท่มี ีผลตอ่ ความรนุ แรง มี 3 อยา่ ง คือ 1. ปริมาณกระแสไฟฟ้าท่ีไหลผา่ น ถา้ ปริมาณกระแสท่ีไหลผา่ นร่างกายสงู อันตรายกจ็ ะสงูตามไปดว้ ย ไฟฟา้ แรงสงู จะทาใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่านรา่ งกายมีปรมิ าณสงู ด้วยและจะมีอันตรายมากกว่าแรง ดันตา่ 2. ระยะเวลาทกี่ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นรา่ งกาย 3. เสน้ ทางท่กี ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกาย
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: