การเขียนโปรแกรมโดยใช้เครอ่ื งมอื กราฟกิ โหมด Programming on Graphical Mode Tools ครู กชพร รตั นปราการ
Unit A Unit 1เรม่ิ ต้นเขา้ ใจเกยี่ วกับการเขยี นโปรแกรมแบบ GUI . Visual Basic B Unit 2 การใชง้ านโปรแกรม Visual Studio C Unit 3 การเขียนโปรแกรมภาษา Visual Basic D Unit 4 การเขียนโปรแกรมแบบมกี ารตดั สินใจ E Unit 5 การเขียนโปรแกรมแบบมีการท้าซา้ (Loop)
Visual Basic F Unit 6 การเขียนโปรแกรมกับคอนโทรล . G Unit 7 ฟอร์ม และเมนูโปรแกรม H Unit 8 โปรแกรมย่อย และฟังก์ช่นั I Unit 9 การเขยี นโปรแกรมกบั ฐานข้อมลู J Unit 10 การพัฒนาโปรแกรมด้วย Visual Basic
วิชา การเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ คร่ืองมอื กราฟฟิ กโหมด รหสั วิชา 2204-2107 หน่วยที่ 1 เร่ือง เร่ิมต้นเข้าใจเก่ยี วกับการเขยี นโปรแกรม แบบ GUI และการเขียนอัลกอริทึม นางกชพร รตั นปราการ ครูแผนกวิชาคอมพวิ เตอร์ธุรกิจ
การเริ่มต้นเข้าใจเก่ียวกับโปรแกรมแบบ GUI ความรู้ทม่ี ีความสาคญั อย่างยง่ิ ท้งั นีเ้ พ่ือให้ผ้เู รียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ ภาษาคอมพวิ เตอร์ ตวั แปลภาษา รูปแบบการเขยี นโปรแกรม และแนวคดิ การเขยี นโปรแกรม ในแบบ GUI 5
1.1 บทนาเก่ียวกับการเขยี นโปรแกรม GUI ในการพัฒนาโปรแกรม ซ่ึงเป็ นรู ปแบบโปรแกรมท่ีมีความยุง เพ่ือให้ผูใ้ ช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่าง ย า ก ต่ อ ก า ร ใ ช้ง า น ส า ห รั บ ผู้ใ ช้ง า น ง่ า ย ด า ย ส มัย เ ร่ิ ม แ ร ก นั ก พัฒ น า ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ที่ ไ ม่ คุ้ น เ ค ย กั บ โปรแกรมจะพัฒนาโปรแกรมใน คอมพวิ เตอร์มากนกั ดงั น้นั ต่อมาจึงไดม้ ี รู ปแบบของ Text Mode หรื อเป็ น การพฒั นารูปแบบโปรแกรมใหม่ เป็ น โ ป ร แก ร ม ท่ี แสด ง ผ ล ใน ลัก ษ ณ ะ โปรแกรมที่มีการแสดงผลดว้ ยลกั ษณะ ตัวอักษรข้อความ แล้วให้ผู้ใช้งาน กราฟิ ก (GUI) ทาใหส้ ามารถส่ือสารกบั โปรแกรมป้ อนข้อมูลตามบรรทัด ผใู้ ชโ้ ปรแกรมไดง้ ่าย และน่าใชง้ านมาก ขอ้ ความเพื่อส่ังใหค้ อมพิวเตอร์ทาการ ยงิ่ ข้ึน ประมวลผลผลลพั ธอ์ อกมา 6
ความหมาย GUI สาหรับคาว่า GUI ยอ่ มาจาก Graphical User Interface เป็นรูปแบบโปรแกรมที่ใชง้ านสามารถใชง้ านไดผ้ า่ นรูปภาพใน แบบกราฟิ ก เช่น หนา้ จอของโปรแกรมมรี ูปแสดงป่ ุมกด เพ่ือให้ ผใู้ ชง้ านคลิกป่ ุมสง่ั งานใหโ้ ปรแกรมทางานตามตอ้ งการ หรือมี เมนูคาสง่ั ใหผ้ ใู้ ชง้ านคลกิ ที่เมนู เพ่ือเลอื กเมนูคาสงั่ เป็นตน้ ซ่ึงใน ปัจจุบนั โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีใชง้ านส่วนใหญ่จะเป็น โปรแกรมในรูปแบบน้ีเกือบท้งั หมด 7
1.2 ประเภทของภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพวิ เตอร์ (Computer Language) คือชุดของสญั ลกั ษณ์ที่ผคู้ ิดคน้ พฒั นา ภาษาคอมพวิ เตอร์แต่ละภาษากาหนดข้ึน เพือ่ ใชแ้ ทนคาสงั่ สง่ั งานใหก้ บั คอมพวิ เตอร์หรือ ชุดคาสงั่ ใดๆ ที่ผใู้ ชง้ านใชส้ ่ือสารกบั คอมพิวเตอร์ โดยส่วนใหญ่แลว้ ผใู้ ชง้ าน ภาษาคอมพิวเตอร์จะหมายถึงโปรแกรมเมอร์ (Programmer) ประเภทของภาษาคอมพิวเตอร์แบ่งออกเป็น 2 ระดบั คือ 8
1.2.1 ภาษาระดับตา้่ (Low Level Language) เป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ในยคุ แรกๆ ซ่ึงภาษาในระดบั น้ี เป็นภาษาท่ียากต่อ การศกึ ษา โดยผทู้ ี่ตอ้ งการศกึ ษาใชง้ านในภาษาระดบั น้ี โดยมากตอ้ งเป็นผทู้ ่ีเขา้ ใจในระบบ คอมพิวเตอร์เป็นอยา่ งดี ไมว่ า่ จะเป็นเรื่องการทางานของอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ หรือ ระบบปฏิบตั ิการ ท้งั น้ีภาษาในระดบั ต่าน้ี ไดแ้ ก่ ภาษาเคร่ือง (Machine Language) ซ่ึงใช้ ตวั เลขฐาน 2 ในการเขียนคาสงั่ ต่างๆ และภาษาแอสเซมบลี (Assembly Language) ซ่ึงเป็น ภาษาเชิงการใชส้ ญั ลกั ษณ์โดยจะมีการแปลภาษาดว้ ยคอมไพเลอร์ท่ีเรียกว่า (Assembler) ก่อน การนาไปใชง้ าน 9
)1.1.2 ภาษาระดบั สูง (High Level Language เป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ในยคุ ต่อมา ท่ีพฒั นาเพอ่ื ใหเ้ ป็นภาษาคอมพวิ เตอร์ท่ีสามารถ เขา้ ใจไดโ้ ดยง่าย ซ่ึงภาษาระดบั สูงน้ี จะเป็นชุดคาสง่ั ท่ีใกลเ้ คียงกบั ภาษาท่ีมนุษยใ์ ชใ้ นสื่อสาร กนั โดยที่ภาษาระดบั สูงน้ี ปัจจุบนั มีมากมายหลายภาษาใหน้ กั พฒั นาโปรแกรมเลือกศกึ ษาใช้ งาน ตวั อยา่ ง เช่น ภาษาซี (C Programming Language) ภาษาปาสคาล (Pascal Programming Language) ภาษาเบสิก (BASIC : Beginner’s All-Purpose Symbolic Instruction Code) เป็นตน้ 10
1.3 ตวั แปลภาษาคอมพวิ เตอร์ ตวั แปลภาษา คือ โปรแกรมที่ใชใ้ นการแปลภาษาคอมพิวเตอร์ท่ีนกั พฒั นา โปรแกรมเขียน ใหอ้ ยใู่ นรูปของภาษาเครื่อง เนื่องจาก คอมพวิ เตอร์จะสามารถรับรู้คาสง่ั จาก โคด้ โปรแกรมตน้ ฉบบั ได้โคด้ โปรแกรมน้นั ตอ้ งถกู เปลย่ี นใหเ้ ป็นภาษาเคร่ืองก่อน โดย ตวั แปลภาษาคอมพิวเตอร์มี 3 กลุ่ม ดงั น้ี 11
1.3.1 โปรแกรมแปลภาษาแอสเซมเบลอร์ (Assembler) เป็นโปรแกรมท่ีมีหนา้ ที่แปลภาษาแอสเซมบลี (Assembly Language) ใหอ้ ยใู่ นรูปแบบชอง ภาษาเครื่อง โดยออกแบบมาใหใ้ ชง้ านกบั ภาษาแอสเซมบลโี ดยเฉพาะ 12
1.3.2 โปรแกรมแปลภาษาคอมไพเลอร์ (Compiler) เป็นโปรแกรมท่ีทาหนา้ ท่ีแปลรหสั ตน้ ฉบบั หรือโคด้ ตน้ ฉบบั ใหอ้ ยใู่ นรูปของ ภาษาเคร่ือง ซ่ึงการแปลภาษาที่ไดจ้ ากคอมไพเลอร์น้ีจะอยใู่ นรูปของออบเจกตโ์ คด้ (Object Code) โดยการทางานของคอมไพเลอร์น้ี จะมีการตรวจสอบความผดิ พลาดของรหสั ตน้ ฉบบั ก่อน หากรหสั โคด้ ตน้ ฉบบั มขี อ้ ผดิ พลาด คอมไพเลอร์จะไม่สามารถทางานคอมไพลไ์ ด้ นกั พฒั นาโปรแกรมตอ้ งทาการแกไ้ ขปรับปรุงและเม่อื คอมไพลร์ หสั ตน้ ฉบบั ท่ีไมม่ ี ขอ้ ผดิ พลาดผา่ นแลว้ จะไดไ้ ฟลโ์ ปรมใหม่ข้ึนมา 13
1.3.3 โปรแกรมแปลภาษาแบบอนิ เตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) เป็นโปรแกรมแปลภาษาท่ีทาหนา้ ท่ีในการแปลรหสั คาสง่ั ของโคด้ ตน้ ฉบบั ใหเ้ ป็น ภาษาเคร่ือง โดยอนิ เตอร์พรีเตอร์จะเป็นการแปลภาษาโดยทาการแปลทีละบรรทดั คาสง่ั ของโคด้ ตน้ ฉบบั เม่ือพบขอ้ ผดิ พลาดที่บรรทดั คาสงั่ ใด จะหยดุ การทางานท่ีบรรทดั คาสงั่ น้นั การทางาน ของโปรแกรมแปลภาษาประเภทน้ีจะทางานไดช้ า้ กวา่ โปรแกรมแปลภาษาคอมไพเลอร์ เน่ืองจาก ทุกคร้ังท่ีมกี ารใชง้ านโปรแกรม จะตอ้ งมกี ารเรียกใชง้ านตวั แปรภาอินเตอร์พรีเตอร์ทุกคร้ัง สาหรับ อินเตอร์พรีเตอร์น้ี โดยส่วนมากจะพบการใชง้ านอินเตอร์พรีเตอร์กบั ภาษาประเถทสคริปต์ (Script) ท่ีใชง้ านในเวบ็ ไซต์ (Website) ต่างๆ เช่น Perl, PHP, JavaScript เป็นตน้ 14
1.4 รูปแบบการเขยี นโปรแกรมในปัจจบุ นั ในปัจจุบนั นกั พฒั นาโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์เลอื กใชร้ ูปแบบในการเขียน โปรแกรมเป็นหลกั อยู่ 2 รูปแบบ คือ การเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้าง (Structured Programming) และการเขียนโปรแกรมในเชิงวตั ถุ (OOP:Object-Oriented Programming) โดย การเขียนโปรแกรมในรูปแบบขา้ งตน้ มวี ธิ ีพฒั นาดงั น้ี 15
1.4.1 การเขยี นโปรแกรมแบบโครงสร้าง (Structured Programming ) เป็ นการเขียนโปรแกรมท่ีมีรู ปแบบการ ซ่ึงภาษาในกลมุ่ ของการเขียนแบบ ทางานในแบบลาดบั งานไปเร่ือยๆ โครงสร้างน้ี จนกว่างานน้นั จะเสร็จสมบูรณ์หรือมี การแตกงานออกเป็นโปรแกรมยอ่ ยๆ เช่น ภาษาซี (C) เบสิก (Basic) ปาสคาล ออกไป (Procedure)เพื่อใหง้ านน้ีความ (Pascal) เป็นตน้ คลอ่ งตวั มากยงิ่ ข้ึน 16
1.4.2 การเขยี นโปรแกรมในเชิงวตั ถุ (OOP: Object-Oriented Programming) เป็ นการเขียนโปรแกรมโดย ซ่ึงภาษาโปรแกรมมิ่งที่รองรับการเขียน มององคป์ ระกอบต่างๆภายใน โปรแกรมในรูปแบบน้ี เช่น โปรแกรมเป็นวตั ถุ (Object) ที่สามารถมี Java,C#.Visual Basic.Net เป็นตน้ คุณสมบตั ิหรือการกระทาได้ (Properties and Method) ในการพฒั นา 17 ระบบงานท่ีซบั ซอ้ นหรือระบบงาน ขนาดใหญ่ นิยมใชก้ ารเขียนโปรแกรม ในรูปแบบเชิงวตั ถกุ นั โดยส่วนมาก
1.5 การเขยี นโปรแกรมในแบบ GUI การเขียนโปรแกรม GUI เป็นการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างหนา้ จอการใชง้ าน ให้ ผใู้ ชง้ านโปรแกรมใชง้ านไดอ้ ยา่ งสะดวก โดยการเขียนโปรแกรมแบบ GUI ปัจจุบนั นิยมใช้ เครื่องมือหรือโปรแกรมพฒั นารูปแบบของวชิ วล (Visual) ซ่ึงโปรแกรมในแบบวิชวลจะทา ใหน้ กั พฒั นาโปรแกรมประหยดั เวลาในหารเขียนโปรแกรมเพ่ือสร้างหนา้ จอโปรแกรมไป ไดม้ าก 18
1.5.1 ใช้เคร่ืองมือในแบบลากวาง (Drag and Drop) โดยผพู้ ฒั นาโปรแกรมสามารถเลอื กคอนโทรล ( Control)ไดจ้ าก Toolbox ของโปรแกรม จากน้นั ทาการลากไปวางกบั พ้นื ที่หนา้ จอของโปรแกรมชิ้นงานท่ีสร้างข้นึ มา ( ฟอร์ม) 19
1.5.2 กาหนดคุณสมบัติ ผพู้ ฒั นาโปรแกรมสามารถกาหนดคุณสมบตั ิพ้นื ฐาน เช่น สี ขอ้ ความที่แสดง ขนาดรูปร่าง ของคอนโทรล ไดจ้ ากหนา้ จอ Properties 20
1.5.3 เขยี นโค้ดโปรแกรม ผพู้ ฒั นาโปรแกรมเขียนโคด้ โปรแกรมกบั หนา้ จอในส่วนของการเขียนโปรแกรม เพอื่ สง่ั ใหโ้ ปรแกรมประมวลผลตามที่ตอ้ งการ ท้งั น้ีจะใชภ้ าษา Visual Basic หรือ VB ใน การเรียนรู้กบั หนงั สือ 21
1.5.4 ทดสอบโปรแกรม โดยการกดป่ ุม F5 ท่ีแป้นพิมพ์ ซ่ึงเป็นการคอมไพล์ โปรแกรม และชิ้นงานและ รัน (RUN) เพื่อทดสอบการใชง้ านของโปรแกรม 22
1.6 การเขยี นอลั กอริทึม (Algorithm) ●อลั กอริทึม คือ กระบวนการการแกไ้ ขปัญหาอยา่ งเป็นข้นั ตอน มีการเรียงลาดบั วิธีการ แกไ้ ขปัญหาอยา่ งเป็นข้นั เป็นตอนชดั เจน ซ่ึงบอกึงวิธีการและข้นั ตอนที่นาไปสู่คาตอบการ ทางาน วิธีการในการอธิบาย Algorithm ไดแ้ ก่ 1. Natural Language อธิบายแบบใช้ภาษาที่เราสือ่ สารกนั ทั่วไป 2.Pseudocode อธบิ ายด้วยรหสั จา้ ลองหรือรหสั เทียม 3.Flowchart อธิบายดว้ ยแผนผงั 23
1.6.1 วธิ ีการเขยี นอลั กอริทึม สาหรับวิธีการเขียนอลั กอริทึมน้นั จากน้นั ใหท้ าการเขียนลากบั ข้นั ตอน อาจจะใชว้ ธิ ีการเขียนดว้ ยภาษาอธิบาย ของการแกไ้ ขปัญหาเพือ่ นาไปสู่ผลลพั ธ์ น้นั โดยการเขียนลาดบั ข้นั ตอนของการ ข้นั ตอนอยา่ งง่ายๆ ซ่ึงผเู้ รียนสามารถ แกไ้ ขปัญหาน้นั ใหท้ าการเขียนเป็น เขียนไดโ้ ดยเริ่มจากการกาหนดปัญหา ขอ้ ๆ ข้ึนมาเรียงลาดบั ข้นั ตอนใหช้ ดั เจน และกาหนดผลลพั ธ์ (คาตอบ) ที่ตอ้ งการ ซ่ึงผลลพั ธน์ ้ีอาจจะไดจ้ ากการต้งั สมมุติฐานข้ึนมาก่อนกไ็ ด้ 24
1.6.2 ข้นั ตอนการแก้ไขปัญหา ( อัลกอริทึม ) 1. เริ่มตน้ การทางาน 5.ผลของการคูณในข้นั ตอนท่ี 4 นามาหารดว้ ย 100 6.แสดงผลของการหารในข้นั ตอนท่ี 5 2. กาหนดอตั ราภาษี 7% หรือร้อยละ 7 7.จบการทางาน 3. รับค่าตวั เลขที่จะนามาใชใ้ นการ 25 คานวณหาภาษี 4. นาอตั ราภาษีในข้นั ตอนที่ 2 คูณดว้ ยค่า ตวั เลขในข้นั ตอนท่ี 3
1.6.3 ทดสอบขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา 1. เร่ิมตน้ การทางาน 2. อตั ราภาษี 7% 3. รับค่าตวั เลข 100 4. 7* 100 (700) 5. 700/100(7) 6. 7 (แสดงผล) 7. จบการทางาน 26
สรุปสาระสาคญั การพฒั นาหรือการเขียนโปรแกรมในรูปแบบ GUI มคี วามสาคญั อยา่ งมากต่อการเรียนรู้ เน่ืองจาก | ปัจจุบนั โปรแกรมท่ีผใู้ ชง้ านคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ใชก้ บั ระบบ Windows จะนิยม ใชง้ านโปรแกรมในรูปแบบน้ีท้งั ส้ินเนื่องจากเขา้ ใจง่ายเรียนรู้การใชง้ านไดง้ ่ายกวา่ โปรแกรม ในรูปแบบของ Text Mode ซ่ึงในหน่วยการเรียนรู้น้ีไดอ้ ธิบายมุมมองโดยสรุปของการ พฒั นาโปรแกรมเพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ ขา้ ใจเป็นเบ้ืองตน้ และเป็นการปูพ้นื ฐานเพ่อื ใหส้ ามารถ เรียนรู้เขา้ ใจไดใ้ นหน่วยการเรียนรู้ต่อ ๆ ไป 27
คาถาม 28
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: