Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมไฟล์หลักการฐานข้อมูล

รวมไฟล์หลักการฐานข้อมูล

Description: รวมไฟล์หลักการฐานข้อมูล

Search

Read the Text Version

หลักการจัดดการฐานข้อมูล นายพีรณฐั รัตนสำเนยี ง

เร่อื ง หลกั การจดั การฐานขอ้ มลู จัดทำโดย นายพรี ณัฐ รัตนสำเนียง สาขางานเทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3 เสนอ ครนู ายพลวัฒน์ เกื้อขำ วิทยาลัยเทคนิคสงขลา สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา (สอศ.) อำเภอเมอื งสงขลา จงั หวดั สงขลา

ค คำนำ รายงานเล่มนจ้ี ดั ทำขน้ึ เพื่อเป็นสว่ นหนง่ึ ของวิชา ภาษาสอบถามข้อมูลเชิงโครงสร้างเบื้องตน้ ชั้น ปวช.3 เพ่อื ให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเร่ือง หลักการจัดการฐานข้อมูล และได้ศึกษาอยา่ งเขา้ ใจเพ่ือเป็นประโยชน์กับการเรยี น ผูจ้ ดั ทำหวงั ว่า รายงานเล่มน้จี ะเป็นประโยชน์กบั ผู้อ่าน หรือนักเรยี น นกั ศึกษา ท่ีกำลงั หาขอ้ มลู เรื่องน้ีอยู่ หากมีข้อแนะนำหรอื ข้อผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทำขอนอ้ มรับไว้และขออภยั มา ณ ท่ีน้ีด้วย ผจู้ ัดทำ นายพรี ณัฐ รตั นสำเนยี ง ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสรา้ งเบื้องตน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

ง สารบัญ Contents คำนำ ...............................................................................................................................................................ค สารบญั ............................................................................................................................................................ ง สารบญั ภาพ ...................................................................................................................................................... จ 1. หลักการสอบถามข้อมลู โดยใชภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสรา้ ง ................................................................................ 1 2. การเขียนภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งทใี่ ชในการจดั การฐานข้อมลู ....................................................................... 4 3. หลกั การทำงานของโปรแกรมที่เลอื กมาใชใ้ นการจัดการฐานขอ้ มูล............................................................................... 6 4. การใชงานโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลเบอ้ื งตน้ ...................................................................................................... 10 ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้างเบอื้ งต้น เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

จ สารบัญภาพ ภาพที่ 1 1โครงสรา้ งของตัวประมวลผลสอบถาม......................................................................................................... 1 ภาพที่ 1 2ออฟตไิ มเซอร์ (optimizer) ......................................................................................................................... 3 ภาพที่ 1 3ความสัมพันธแ์ บบ หนึง่ ตอ่ หน่ึง ( One to one Relationships)............................................................................... 8 ภาพที่ 1 4ความสัมพนั ธ์แบบ หน่งึ ตอ่ กลมุ่ ( One to many Relationships)............................................................................. 8 ภาพท่ี 1 5ความสัมพนั ธ์แบบ กลมุ่ ต่อกล่มุ ( Many to Many Relationships) ........................................................................... 9 ภาพท่ี 1 6การสร้างฐานข้อมลู ใหม่......................................................................................................................... 10 ภาพท่ี 1 7การสรา้ งตารางข้อมลู ........................................................................................................................... 11 ภาพท่ี 1 8การสร้างตารางข้อมลู ........................................................................................................................... 11 ภาพที่ 1 9การสรา้ งตารางข้อมลู ........................................................................................................................... 12 ภาพท่ี 1 10ขอ้ มลและฐานข้อมลู ........................................................................................................................... 12 ภาพท่ี 1 11ศพั ทส์ ำคญั เกี่ยวกบั ระบบฐานขอ้ มลู และการออกแบบระบบฐานข้อมลู .......................................................... 13 ภาพท่ี 1 12ศพั ทส์ ำคญั เกย่ี วกบั ระบบฐานขอ้ มลู และการออกแบบระบบฐานข้อมูล .......................................................... 14 ภาพที่ 1 13ลักษณะของฐานขอ้ มูลแบบสัมพันธ์ ........................................................................................................ 15 ภาพที่ 1 14. ระบบฐานข้อมูล (Database System ........................................................................................................ 16 ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสรา้ งเบ้อื งตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

1 1. หลักการสอบถามข้อมลู โดยใชภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้าง ภาษาสอบถามเชงิ โครงสรา้ ง ภาษาสอบถามเชงิ โครงสร้าง (Structured Query Language: SQL, อา่ นอยา่ งย่อวา่ เอสควิ แอล, ซเี ควล, ซีควล) เป็นภาษาสอบถามทีน่ ิยมมากที่สดุ ของการจัดการฐานข้อมูล สำหรับสร้าง แก้ไขและเรียกใชฐ้ านข้อมลู โดย ใช้มาตรฐานของแอนซี (ANSI) และ ไอเอสโอ (ISO) ปัจจบุ นั การใช้งานใช้ในหลายจุดประสงค์มากกวา่ ใชส้ ำหรับ จดั การโปรแกรมเชิงวตั ถุทีเ่ ป็นจดุ ประสงคแ์ รกของการสร้างภาษาสอบถามเชิงโครงสร้าง 1 โครงสร้างของตัวประมวลผลสอบถาม ตัวประมวลผลสอบถามเป็นส่วนประกอบหน่ึงของระบบการจดั การฐานขอ้ มลู ท่ีทำหนา้ ท่ีในการเลอื กแผน หรือกลยทุ ธท์ เ่ี หมาะสม ตัวประมวลผลสอบถามมีโครงสร้างดงั ภาพที่ 8.1.2.1 ซึง่ มสี ่วนประกอบดังน้ี ภาพท่ี 1 1โครงสรา้ งของตวั ประมวลผลสอบถาม ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้างเบอ้ื งตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

2 1.1 สว่ นตรวจสอบภาษา (parser) เปน็ สว่ นหนง่ึ ของตัวประมวลผลสอบถามที่ทำหน้าที่ตรวจเช็คกฎและหลักเกณฑ์ (syntax) ของคำสัง่ สอบถามขอ้ มลู ท่กี ำหนดไว้ในระบบฐานข้อมลู โดยจะทำการตรวจสอบข้อมลู ทอี่ ยู่ในพจนานุกรมข้อมลู แลว้ ทำการ แปลคำส่ังให้อยู่ในรูปของสมการพชี คณติ แบบสัมพันธ์ (relational algebraic expression) ท่รี ะบบจดั การ ฐานขอ้ มูลสามารถเขา้ ใจได้ ตวั อย่าง ภาษาSQL เพื่อภาษาสอบถามข้อมลู ต้องการสอบถามข้อมูลจากตาราง COURSE โดยทำการ ค้นหาข้อมลู ท่มี ีรหัสวิชา (Course#) เป็น COMP353 ท่มี ี Smith เป็นผ้สู อนมีดงั น้ี select Course# from COURSE where Course# = COMP353 and Insturctor = ‘Smith’; จากคำส่ังภาษา SQL ดังกล่าวขา้ งต้น สว่ นตรวจสอบภาษา (parser) จะทำการแปลคำสงั่ ในการสอบถาม จากภาษา SQL ใหอ้ ยู่ในรปู ของสมการพีชคณิตแบบสัมพันธ์ (relational algebraic expression) ได้ดงั น้ี s Course# = COMP353 Ù (Instructor = ‘Smith’(COURSE)) 1.2 ออฟตไิ มเซอร์ (optimizer) เป็นส่วนหนง่ี ของตวั ประมวลผลสอบถามท่ีทำหนา้ ที่ในการกลยุทธ์หรอื วิธกี ารทเี่ หมาะสมเพือ่ ใหก้ ารเข้าถงึ ข้อมลู ประหยัดเวลาท่สี ุด เมื่อคำสั่งในภาษาสอบถามผา่ นตวั ตรวจสอบภาษา (parser) แล้วจะไดค้ ำส่ังในการ สอบถามที่อยู่ในรูปของสมการพชี คณติ แบบสมั พนั ธ์ (relational algebraic expression) ซง่ึ สามารถประมวลผล ได้หลายวิธดี ้วยเทคนิคต่าง ๆ ในการหาทางเลือกทีเ่ หมาะสม (optimization) ออฟตไิ มเซอรจ์ ะทำการเลือกการ เข้าถงึ ข้อมูล (aceess plan) โดยการเลอื กแผนการเข้าถึงข้อมลู ซง่ึ จะตอ้ งคำนงึ ถงึ ประเด็นต่อไปนี้ · การลดปริมาณการดึงหรือเรียกใชข้ อ้ มลู · การลดขนาดของโครงสรา้ งข้อมลู โดยพจิ ารณาใช้เทคนิคการลดการทำงานระหวา่ งการดึงขอ้ มลู · เพม่ิ ความสามารถในการดงึ ขอ้ มูลด้วยการเรยี งลำดับไว้ก่อน การจัดเรียงลำดบั ใหม่อาจจะช่วยลดการทำงานบาง อย่างไร เพื่อช่วยให้การประมวลผลสอบถามสามารถทำงานได้ดขี ึน้ ออฟติไมเซอรโ์ ดยอาจสร้างสมการพีชคณิต แบบสัมพนั ธใ์ ห้อยู่ในรูปแบบของโครงสรา้ งต้นไมท้ ี่อยใู่ นรปู ของกราฟ (operator graph) ดงั ภาพท่ี 8.1.2.2 เป็น โอเปอร์เรเตอร์กราฟ (operator graph) ของการค้นหารายชอ่ื ของนักศึกษาที่ลงทะเบยี นเรียนวิชา Database ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบอื้ งตน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

3 ภาพท่ี 1 2ออฟตไิ มเซอร์ (optimizer) · จดั ลำดบั คำสง่ั เพ่อื ให้ข้นั ตอนการทำงานลดลงได้แก่ จดั ลำดับการคำสั่ง SELECT เพื่อลดการนำเขา้ ขอ้ มลู ตั้งแต่ เริ่มต้นดงึ ข้อมูลจากดิสก์ · เลือกใชค้ ำส่งั ในการจัดกลมุ่ ( PROJECT ) และคำสง่ั คน้ หา (SELECT) ในการเลือกกลมุ่ ข้อมลู ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้างเบ้ืองตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

4 2. การเขียนภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสรา้ งทีใ่ ชในการจดั การฐานขอ้ มูล 1. ภาษาสอบถามเชงิ โครงสร้าง (Structured Query Language: SQL) ภาษาสอบถามเชิงโครงสรา้ ง หรอื ภาษา SQL เปน็ ภาษาทางดา้ นฐานขอ้ มลู ทีไ่ ดร้ ับความนยิ ม ในการใช้ งานกับฐานข้อมูลเชงิ สมั พันธ์มากที่สุดในปจั จบุ ัน เริ่มตน้ พัฒนาครั้งแรกโดยบริษัท IBM ซ่งึ ถอื เป็นต้นแบบของ ภาษา SQL ในซอฟตแ์ วร์ทเ่ี ก่ียวกบั ฐานขอ้ มูลต่างๆ แต่เนื่องจากความแตกต่าง ของการใช้ งานซอฟต์แวร์ของแต่ ละบริษัท ดังนั้นในปี ค.ศ. 1986 American National Standards Institute (ANSI) จงึ ได้กำหนดมาตรฐานของ คำส่ังภาษา SQL ขึ้น เพ่ือให้ผลิตภณั ฑท์ างด้านฐานขอ้ มูลของ แตล่ ะบริษัทมีมาตรฐานเดียวกัน อยา่ งไรก็ตาม ถึงแมว้ า่ จะมีการกำหนดมาตรฐานของ SQL แล้วกต็ าม แต่ภาษา SQL ของแตล่ ะผลิตภัณฑ์ ก็ยงั มคี วามแตกต่าง กันบา้ ง ในประเด็นท่ีแต่ละบริษัทได้เพมิ่ ขดี ความ สามารถเขา้ ไปในภาษา SQL ของตนเอง ภาษา SQL ได้แบง่ กลุ่มคำส่ังออกเป็น 3 กลมุ่ ตามลกั ษณะการใชง้ านคือ 1. กลุ่มคำสั่งสำหรับนยิ ามข้อมลู (Data Definition Language, DDL) เป็นกลุ่มท่ีใช้กระทำกับโครงสร้าง ของฐานข้อมูล เช่นสรา้ งฐานข้อมลู , สร้างรีเลชนั่ กำหนดโครงสร้าง ใหก้ บั รเี ลชั่น เป็นต้น 2. กลุ่มคำส่ังสำหรับการจดั การข้อมลู (Data Manipulation Language, DML) เป็นกล่มุ คำสง่ั ท่ีกระทำกบั ขอ้ มูลในฐานข้อมูล เชน่ เพ่มิ , ลบ, แก้ไขข้อมูล 3. กลมุ่ คำสง่ั สำหรบั การควบคุมข้อมูล (Data Control Language ,DCL) เชน่ การกำหนดสิทธิ การ ใช้ งานในฐานขอ้ มูล 2. กลมุ่ คำสัง่ สำหรับนิยามข้อมลู (Data Definition Language: DDL) กลุม่ คำสง่ั ทางสำหรับนิยามข้อมลู หรือท่ีนิยมเรียกว่า กลุ่มคำสงั่ DDL เปน็ กลุ่มคำสั่งทีใ่ ช้กระทำ กบั โครงสรา้ งของขอ้ มลู เชน่ CREATE TABLE ใชส้ ำหรับการสรา้ งรเี ลช่นั ALTER TABLE ใช้การแกไ้ ขแอททริบวิ ต์ของรีเลช่นั เชน่ เพม่ิ ลบ หรือแก้ไข DROP TABLE ใชส้ ำหรบั ลบรีเลชน่ั CREATE VIEW ใชส้ ำหรับการสรา้ งวิว DROP VIEW ใชส้ ำหรบั การลบ CREATE INDEX ใชส้ ำหรบั การสรา้ งดัชนใี หก้ ับรเี ลชัน่ DROP INDEX ใชส้ ำหรับการลบดัชนี ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบ้อื งต้น เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

5 3. กลมุ่ คำสง่ั สำหรบั จัดการข้อมูล (Data Manipulation Language) กลมุ่ คำสง่ั สำหรบั จัดการข้อมูล (Data Manipulation Language) หรือที่นยิ มเรียกว่า กลมุ่ คำสัง่ ทางดา้ น DML เป็นกลมุ่ คำสัง่ ท่ใี ช้จัดการกับขอ้ มลู ท่ีอยู่ในรเี ลชนั่ ไมส่ ามารถกระทำกับโครงสร้างของ ฐานข้อมลู ได้ ซึง่ มีอยู่ 4 คำสั่งคือ 1. INSERT เป็นคำส่ังสำหรับเพม่ิ ข้อมูลเขา้ ไปในรเี ลชน่ั 2. UPDATE เป็นคำสัง่ สำหรับแก้ไขข้อมลู ในรีเลชนั่ 3. DELETE เปน็ คำสง่ั สำหรบั ลบขอ้ มลู ในรเี ลช่นั 4. SELECT เปน็ คำสัง่ สำหรับเรยี กข้อมลู ในรีเลช่ัน มาแสดงผล ภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสร้างเบ้ืองต้น เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

6 3. หลกั การทำงานของโปรแกรมทีเ่ ลือกมาใช้ในการจดั การฐานข้อมลู หน้าทีข่ องระบบจัดการฐานข้อมลู มีดงั นี้ 1. กำหนดมาตรฐานข้อมลู 2. ควบคมุ การเขา้ ถึงข้อมูลแบบตา่ ง ๆ 3. ดแู ล-จัดเกบ็ ข้อมูลใหม้ ีความถกู ต้องแม่นยำ 4. จัดเร่อื งการสำรอง และฟืน้ สภาพแฟ้มข้อมูล 5. จัดระเบยี บแฟ้มทางกายภาพ (Physical Organization) 6. รักษาความปลอดภัยของข้อมลู ภายในฐานข้อมลู และป้องกนั ไม่ใช้ข้อมลู สญู หาย 7. บำรุงรักษาฐานข้อมูลใหเ้ ป็นอสิ ระจากโปรแกรมแอพพลิเคชนั อนื่ ๆ 8. เชื่อมโยงข้อมูลท่ีมคี วามสัมพนั ธเ์ ขา้ ด้วยกันเพือ่ รองรบั ความตอ้ งการใชข้ ้อมลู ในระดบั ประโยชนข์ องระบบจดั การฐานข้อมลู ในปจั จุบันองค์กรส่วนใหญห่ นั มาให้ความสนใจกบั ระบบฐานข้อมลู กันมาก เน่อื งจากระบบฐานข้อมลู มีประโยชน์ดังต่อไปนี้ 1. ลดความซ้ำซอ้ นของข้อมูล เนอ่ื งจากการใช้งานระบบฐานขอ้ มลู นน้ั ต้องมีการออกแบบฐานข้อมูลเพื่อใหม้ ีความซ้ำซ้อนของขอ้ มูลนอ้ ยที่สุด จุดประสงค์หลักของการออกแบบฐานขอ้ มูลเพื่อการลดความซ้ำซ้อน 2. รักษาความถกู ต้องของข้อมลู เน่อื งจากระบบจดั การฐานข้อมลู สามารถตรวจสอบกฎบงั คับความถกู ตอ้ งของข้อมูลให้ได้ โดยนำกฎเหลา่ นั้นมาไว้ท่ี ฐานข้อมลู ซง่ึ ถอื เปน็ หน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูลทจ่ี ะจดั การเร่ืองความถกู ต้องของขอ้ มูลใหแ้ ทน แต่ถา้ เป็น ระบบแฟม้ ข้อมลู ผ้พู ัฒนาโปรแกรมต้องเขยี นโปรแกรมเพอ่ื ควบคมุ กฎระเบยี บตา่ งๆ 3. มีความเป็นอิสระของข้อมูล เนื่องจากมแี นวคิดท่ีวา่ ทำอย่างไรใหโ้ ปรแกรมเป็นอิสระจากการเปลย่ี นแปลงโครงสร้างข้อมลู ในปัจจบุ ันน้ถี ้าไม่ใช้ ระบบฐานข้อมูลการแก้ไขโครงสร้างข้อมูลจะกระทบถงึ โปรแกรมด้วย 4. มคี วามปลอดภัยของข้อมลู สงู ภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสร้างเบือ้ งตน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

7 ถา้ หากทุกคนสามารถเรยี กดแู ละเปลีย่ นแปลงข้อมูลในฐานข้อมูลทั้งหมดได้ อาจก่อให้เกิดความเสียหายตอ่ ข้อมูลได้ และข้อมลู บางสว่ นอาจเปน็ ข้อมลู ท่ีไม่อาจเปดิ เผยได้หรือเปน็ ขอ้ มลู เฉพาะของผ้บู รหิ าร หากไม่มกี ารจดั การด้าน ความปลอดภยั ของข้อมูล ฐานขอ้ มลู ก็จะไม่สามารถใช้เก็บข้อมลู บางสว่ นได้ ระบบฐานข้อมลู สว่ นใหญจ่ ะมีการรกั ษาความปลอดภยั ของขอ้ มูล ดังน้ี – มรี หสั ผู้ใช้ (user) และรหสั ผา่ น (password) – ในระบบฐานข้อมูล (DBS) สามารถใชว้ วิ (view) เพื่อประโยชนใ์ นการรกั ษาความ ปลอดภยั ของข้อมลู ได้เป็น อยา่ งดี โดยการสรา้ งวิวท่ีเสมือนเป็นตารางของผใู้ ช้จรงิ ๆ – ระบบฐานขอ้ มลู จะไม่ยอมใหโ้ ปรแกรมใดๆ เข้าถึงขอ้ มูลในระดับกายภาพ (physical) โดยไมผ่ ่านระบบการ จัดการฐานขอ้ มูล – มกี ารเข้ารหัสและถอดรหสั (encryption/decryption) เพ่อื ปกปิดข้อมูลแกผ่ ทู้ ี่ไม่เกีย่ วขอ้ ง เชน่ มีการเขา้ รหัส ข้อมูลรหัสผ่าน 5. ใช้ข้อมลู ร่วมกนั โดยมีการควบคมุ จากศูนย์กลาง มีการควบคุมการใช้ข้อมลู ในฐานข้อมูลจากศนู ย์กลาง ระบบฐานขอ้ มลู สามารถรองรบั การทำงานของผ้ใู ชห้ ลายคน ได้ กลา่ วคือระบบฐานข้อมูลจะตอ้ งควบคุมลำดับการทำงานให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ลกั ษณะความสัมพนั ธข์ องฐานขอ้ มลู 1. ความสมั พนั ธแ์ บบ หนึง่ ต่อหนงึ่ ( One to one Relationships) เป็นการแสดงความสมั พันธ์ของข้อมูล ของเอนทิต้ีหนึ่งว่ามีความสัมพันธก์ ับข้อมลู ในอีกเอนทิตี้หนึง่ ในลักษณะ หนงึ่ ตอ่ หน่งึ หรอื เขยี นไดเ้ ป็น 1:1 แสดงวา่ ข้อมลู เพียงหน่ึงข้อมูลของเอนทิต้แี รกมคี วามสัมพันธ์กบั ข้อมูลใน เอนทิต้ที ่สี องเพียงข้อมูลเดยี ว ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสรา้ งเบอ้ื งตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

8 ภาพท่ี 1 3ความสมั พนั ธแ์ บบ หนง่ึ ต่อหนงึ่ ( One to one Relationships) 2. ความสัมพนั ธ์แบบ หนึง่ ต่อกลุม่ ( One to many Relationships) เป็นการแสดงความสมั พันธ์ของข้อมูล ของเอนทิตีห้ น่ึงวา่ มีความส มั พนั ธก์ บั ขอ้ มูลในอีกเอนทติ ีห้ นึ่ง ในลักษณะ หน่ึง ตอ่ กลุ่ม หรอื เขียนไดเ้ ป็น 1:N แสดงว่าข้อมูลเพียงหนึ่งขอ้ มลู ของเอนทติ ี้แรกมคี วามสมั พนั ธก์ บั ข้อมลู ใน เอนทติ ้ีที่สองหลายข้อมลู เชน่ ภาพท่ี 1 4ความสัมพนั ธ์แบบ หนงึ่ ต่อกลมุ่ ( One to many Relationships) ลูกค้าหนงึ่ คนมีใบเสรจ็ ไดห้ ลายใบ เนอื่ งจากลกู คา้ หนึ่งคนอาจมาซือ้ สนิ ค้าหลายครัง้ ใบเสร็จหนึ่งใบต้องเปน็ ของลูกค้าเพยี งคนเดียวเท่านั้น ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบอื้ งตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

9 3. ความสมั พนั ธ์แบบ กลมุ่ ตอ่ กล่มุ ( Many to Many Relationships) เป็นการแสดงความสัมพันธข์ องข้อมลู ของเอนทติ ้หี น่ึงว่ามีความส ัมพนั ธ์กับข้อมลู ในอีกเอนทิต้หี น่ึง ในลักษณะ กล่มุ ตอ่ กลุ่ม หรือเขียนไดเ้ ป็น N:M แสดงวา่ ขอ้ มูลเพียงหน่ึงข้อมลู ของเอนทิตแ้ี รก มคี วามสมั พันธ์กบั ข้อมลู ใน เอนทติ ้ีท่สี องหลายข้อมูล และทำนองเดียวกัน ข้อมูลเพยี งหน่งึ ข้อมูลของเอนทิต้ที ีส่ องมีความสมั พันธใ์ นทาง กลบั กันกบั ข้อมลู ในเอนทิตี้ที่แรกหลายข้อมลู ภาพท่ี 1 5ความสัมพนั ธ์แบบ กลมุ่ ตอ่ กลมุ่ ( Many to Many Relationships) ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้างเบ้อื งต้น เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

10 4. การใชงานโปรแกรมจดั การฐานข้อมลู เบอ้ื งตน้ ยกตวั อย่างการใฃโ้ ปรแกรมฐานขอ้ มลู Access การสร้างฐานขอ้ มูลข้นึ มาใช้งานนน้ั สามารถสรา้ งได้ 2 วธิ ี คอื 1.สร้างจากฐานขอ้ มูลเปล่า 2.สร้างจากฐานข้อมลู แม่แบบ การสรา้ งฐานขอ้ มลู ใหม่ 1.เลอื ก Bank Database 2.ตัง้ ช่ือฐานขอ้ มลู 3.เลือกท่จี ัดเก็บฐานข้อมลู 4.คลิกปุ่ม Create ภาพที่ 1 6การสร้างฐานขอ้ มลู ใหม่ การสรา้ งตารางขอ้ มูล 1.คลิกท่ไี อคอน view 2.เลอื ก Design View 3.ตั้งชือ่ ตาราง ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบ้อื งต้น เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

11 4.คลิกปมุ่ OK 5.ต้งั ช่ือฟิลด์ 6.กำหนดชนดิ ของข้อมลู และคำอธิบาย 7.กำหนดคุณสมบตั ิของฟลิ ด์ ภาพท่ี 1 7การสร้างตารางขอ้ มูล ภาพที่ 1 8การสร้างตารางข้อมูล ภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสรา้ งเบ้ืองต้น เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

12 ภาพท่ี 1 9การสรา้ งตารางข้อมลู 1. ขอ้ มลและฐานขอ้ มูล ขอ้ มลู (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงที่เกยี่ วข้องกับสง่ิ ต่าง ๆ ท่ัวไป เชน่ ราคาสนิ คา้ คะแนน ฐานข้อมูลอาจเก็บข้อมูลไว้ในแฟ้ มเดยี วกนั หรือแยกเกบ็ หลาย ๆ แฟ้ มท่ีมคี วามสัมพันธ์กัน โดยแตล่ ะแฟ้ มเรียกวา่ ตาราง (Table) ซง่ึ มีลกั ษณะโครงสร้าง ดงั รูป ภาพท่ี 1 10ข้อมลและฐานข้อมูล โครงสรา้ งของตารางประกอบด้วย 1. ช่อื ตารางหรือช่ือฐานข้อมลู (Database Name) 2. เขตข้อมลู ในแนวตัง้ (Column) หรือฟิลด์ (Field) หลายฟลิ ด์ ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบ้ืองต้น เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

13 3. รายการขอ้ มลู หรอื ระเบยี น (Record) หลายรายการในแนวนอน (Row) ตวั อยา่ ง ตารางฐานข้อมลู ชือ่ ขอ้ มลู นักศึกษา มีฟิ ลดต์ า่ ง ๆ ท่ไี ม่ซ้ำกนั เชน่ รหัสนกั ศึกษ (StudentID) ชือ่ นามสกุล ท่ีอยู่ เมอื ง จังหวัด ฯลฯ ซง่ึ ขอ้ มูลของนักศึกษาแตล่ ะคนจัดเก็บใน ระเบยี นท่ีไมซ่ ำ้ กนั ตามฟลิ ดต์ ่าง ๆ ศัพท์สำคญั เกี่ยวกบั ระบบฐานข้อมูล และการออกแบบระบบฐานขอ้ มลู คือ 1. เอนทิตี้ (Entity) เปน็ คำท่ีอ้างองิ ถึงบุคคล สถานท่ี และส่ิงของตา่ ง ๆ เชน่ สินค้า หรอื วชิ า ใบสั่งซือ้ หรอื บัตรลงทะเบียน และลูกค้าหรือนกั ศึกษา เป็นตน้ ถ้าเราสนใจในการสรา้ ง ระบบฐานข้อมลู การสั่งซื้อสนิ คา้ เอนทิต้ีของระบบนีจ้ ะประกอบด้วย เอนทติ ้ีลูกคา้ ใบสง่ั ซ้อื สนิ คา้ กบั สินค้า ดังรูป 2. แอตทรบิ ิวต์ (Attribute) เปน็ ขอ้ มูลท่ีแสดงลกั ษณะของเอนทติ ้ี เชน่ แอตทบิ วิ ต์ ของเอนทติ ้ลี ูกค้าหรือนกั ศกึ ษา จะมีชอื่ ที่อยู่ และรหัสไปรษณยี ์ สว่ นแอตทริบิวต์ของเอนทิตี้ ใบสั่งซอ้ื สนิ คา้ จะมีรหสั ใบสัง่ ซอ้ื วนั ทีส่ ัง่ ซ้ือ ช่ือสนิ คา้ จำนวนสินคา้ ทีส่ ั่ง และราคาสนิ คา้ เปน็ ตน้ ซ่งึ เราสามารถแสดงเอนทิต้ี รวมทงั้ แอตทบิ ิวตไ์ ด้ 3. ความสมั พนั ธ์ (Relationships) หมายถึง ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเอนทิตต้ี ่าง ๆ ใน ระบบ เชน่ ในระบบการสง่ั ซ้อื สนิ คา้ จะประกอบด้วยเอนทิตี้ใบสง่ั ซอ้ื สินค้า และเอนทติ ้ีลูกค้า ซงึ่ มีความสัมพนั ธ์จากลูกคา้ ไปยังใบสง่ั ซ้ือสนิ ค้าเป็นแบบหน่งึ ตอ่ กลุ่ม (One – to – Many) เปน็ ตน้ ภาพท่ี 1 11ศัพทส์ ำคัญเกี่ยวกบั ระบบฐานขอ้ มูล และการออกแบบระบบฐานขอ้ มลู ในระบบฐานข้อมลู เชงิ สมั พนั ธน์ ั้น เราจะตอ้ งกำหนดชนิดของคยี ต์ ่าง ๆ เพ่ือเป็น แอตทรบิ วิ ต์พเิ ศษที่ทำหน้าที่บางอยา่ ง เชน่ เปน็ ตัวแทนของตาราง ฯลฯ ซงึ่ มีชนดิ คีย์ ดังนี้ 1.Primary Key (คยี ์หลกั ) จะเปน็ ฟิลด์ทม่ี ีคา่ ไม่ซ้ำกนั เลยในแตล่ ะเรคอร์ดในตารา นั้น เราสามารถใชฟ้ ิลด์ทีเ่ ปน็ Primary Key นี้ เปน็ ตวั แทนของตารางนน้ั ได้ทนั ที ภาษาสอบถามข้อมลู เชิงโครงสร้างเบื้องตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

14 2.Candidate Key (คยี ์ค่แู ข่ง) เป็นฟลิ ดห์ นงึ่ หรอื หลายฟลิ ด์ทีพ่ อเอามารวมกนั แลว้ มี คณุ สมบตั เิ ป็น Primary Key (ไม่ซ้ำ) และไม่ได้ถูกใชเ้ ปน็ คยี ์หลกั เชน่ รหสั จังหวัดเปน็ คียห์ ลัก สว่ นช่ือจงั หวัดกไ็ มซ่ ้ำเช่นกัน แตไ่ ม่ไดเ้ ปน็ คีย์หลักจงึ เปน็ คยี ์คู่แข่งแทน 3.Composite Key บางตารางหาฟิ ลด์ไม่ซ้ำไมไ่ ดเ้ ลย จงึ ต้องใช้หลาย ๆ ฟิ ลด์มา รวมกนั เปน็ Primary Key ฟิลดท์ ี่ใชร้ วมกันนีเ้ ราเรยี กวา่ Composite Key 4.Foreign Key เปน็ ฟลิ ดใ์ ดๆ ในตารางหนง่ึ (ฝง่ั Many) ท่ีมีความสมั พนั ธก์ ับฟลิ ด์ ทเี่ ป็น Primary Key ในอกี ตารางหนงึ่ (ฝง่ั One) โดยทีต่ ารางท้ังสองมีความสัมพันธแ์ บบ One – to – Many ต่อกัน ฐานข้อมูลมหี ลายแบบแต่ทน่ี ิยมใชก้ ันมากท่ีสุดในปัจจุบนั คอื ฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ (Relational Database) ซึง่ มีโครงสร้างเปน็ ตารางหลายตารางท่มี คี วามสัมพันธก์ นั โดยใช้ฟิ ลดท์ ่ี เหมือนกัน เช่น รหัสนักศึกษา (StudentID) ภาพท่ี 1 12ศพั ทส์ ำคัญเก่ยี วกบั ระบบฐานขอ้ มลู และการออกแบบระบบฐานข้อมลู ลักษณะของฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ 1. คา่ ของข้อมลู ต้องเป็นคา่ ที่ไมส่ ามารถแบ่งแยกออกไปได้อีก เชน่ ช่อื 2. คา่ ในแนวตัง้ (Column)หรือฟิ ลด์ต้องเปน็ แบบเดียวกนั เชน่ ถา้ เปน็ ฟิ ลดส์ ำหรับ เกบ็ ชอื่ ก็ต้องเปน็ ช่ือจริงทั้งหมด ไม่มีช่ือเลน่ มาเก็บด้วย 3. ลำดบั ของฟลิ ดไ์ มจ่ ำเปน็ ต้องเรยี งกนั เชน่ อาจใชฟ้ ลิ ดน์ ามสกุลก่อนฟิลดช์ อื่ กไ็ ด้ 4. ช่ือฟิลด์ในตารางเดยี วกนั จะตอ้ งไม่ซ้ำกัน 5. ต้องกาหนดฟิลด์ใดฟิลด์หน่ึงเปน็ ดชั นี ํ (Index)หรือเรียกวา กญุ แจหลกั ่ (Primary Key) 6. ข้อมูลในแต่ละแถวหรอื ระเบียนต้องไมซ่ ้ำกันกบั แถวอ่ืน ภาษาสอบถามขอ้ มลู เชิงโครงสร้างเบอ้ื งตน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

7. ไม่จำเปน็ ตอ้ ง 15 ของข้อมลู แตล่ ะ ระเบียน เรยี งลำดบั แถวหรอื ภาพท่ี 1 13ลกั ษณะของฐานขอ้ มูลแบบสมั พนั ธ์ 2. ระบบฐานข้อมูล (Database System) ระบบฐานข้อมลู (Database System) หมายถึง สว่ นประกอบตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้องกับการใช้ งานฐานขอ้ มลู อาจแบง่ เป็นฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Software) และบุคลากร (Personnel) เหมอื นระบบคอมพิวเตอร์ ดงั น้ี ฮารด์ แวร์ (Hardware) หมายถงึ เคร่อื งคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์ประกอบ เช่น ฮารด์ ดิสก์ ท่ี ใชเ้ กบ็ ฐานข้อมูล อปุ กรณน์ ำเขา้ ข้อมลู แบบต่างๆและโปรแกรมใช้งาน ซอฟต์แวร์ (Software) หมายถึง โปรแกรมใชง้ านและระบบการจดั การฐานข้อมลู บุคลากร (Personnel) หมายถงึ บุคลากรทีเ่ กีย่ วข้องกับระบบหรอื ผู้ใชง้ านฐานข้อมลู เพือ่ ใหเ้ ขา้ ใจไดง้ า่ ยขึน้ อาจดูผังลักษณะการใชง้ านระบบฐานขอ้ มูล ดังนี้ ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสรา้ งเบ้อื งตน้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ปวช.3

16 ภาพท่ี 1 14. ระบบฐานขอ้ มลู (Database System ภาษาสอบถามขอ้ มูลเชิงโครงสร้างเบื้องตน้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3

17 อา้ งอิง (หลักการ, ม.ป.ป.) (การเขียน, ม.ป.ป.) (หลักการทำงาน, ม.ป.ป.) (การใชงาน, n.d.) ภาษาสอบถามข้อมูลเชิงโครงสร้างเบือ้ งต้น เทคโนโลยสี ารสนเทศ ปวช.3



วิทยาลัยเทคนิคสงขลา สำนกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา (สอศ.)