แผนอนุบาล 4 ขวบ สัปดาห์ที่3

แผนการจดั ประสบการณ์เรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวยั อายุ 4 ปี สัปดาห์ที่ 3 สาระการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอื่ งราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก หน่วยการเรยี นรู้ เด็กดมี ีวินยั ความคดิ รวบยอด ความมวี นิ ัยเป็นการยดึ มนั่ ในระเบียบแบบแผน ข้อบังคับ และข้อปฏิบัติ ซ่งึ มีท้ังวินัยในตนเองและวนิ ยั ตอ่ สังคม เด็กดีมีวนิ ัยเปน็ ความสามารถของบุคคลในการควบคมุ อารมณแ์ ละพฤติกรรม โดยเกิดจาก ความรูส้ กึ มองเหน็ คุณค่าในการปฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองการฝึกวนิ ยั ทาให้เด็กเกิดนิสัยในการควบคุมตนเอง อนั จะช่วยให้สามารถดารงชวี ติ อยรู่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ในสงั คมได้ รองเทา้ กระเปา๋ ไม่วงิ่ เลน่ ในห้องเรียน ไม่สง่ เสียงดัง ตง้ั ใจเรียน ของใช้สว่ นตวั เดก็ ผัก ผลไม้ ดอกไม้ สัตว์ การปฏบิ ัตติ นตามขอ้ ตกลง สัญลักษณ์ประจาตวั ของห้องเรียน โรงเรียน ราดนา้ หลังจากใช้เสร็จ ล้างมือหลงั จากใชเ้ สรจ็ เด็กดมี วี นิ ัย เก็บรองเท้า เกบ็ กระเปา๋ การปฏบิ ตั ติ นในการใช้ การเก็บของเข้าท่ี หอ้ งน้าอยา่ งถกู วธิ ี เก็บวสั ดุ อปุ กรณ์ สิ่งทเ่ี ดก็ รู้แลว้ สง่ิ ที่เด็กต้องการรู้ ส่ิงท่เี ดก็ ควรรู้ 1.เช่ือฟังคุณครู 1.การเกบ็ ของเข้าที่ 1.ของใชส้ ว่ นตวั เดก็ 2. ………………………………………… 2. ……………………………………… 2.สญั ลักษณป์ ระจาตวั 3. ………………………………………… 3. ……………………………………… 3.การเกบ็ ของเขา้ ที่เกบ็ วัสดุอุปกรณ์ 4. ………………………………………… 4. ……………………………………… 4.การปฏิบัตติ นในการใชห้ ้องนา้ อยา่ ง 5. ………………………………..……… 5. ……………………………………… ถกู วิธี 5.การปฏบิ ตั ิตนตามข้อตกลงของ ห้องเรียน โรงเรียน

แนวการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ การศกึ ษาปฐมวยั อายุ 4 ปี สปั ดาห์ที่ 3 สาระการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื งราวเก่ยี วกับตัวเดก็ หนว่ ยการเรียนรู้ เดก็ ดี มีวินัย กิจกรรม เคลื่อนไหว เสรมิ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจง้ เกมการศึกษา วันที่ และจงั หวะ ประสบการณ์ -ป้นั ดนิ นา้ มนั -เปิดโอกาสให้เดก็ -เกมรบั สง่ ลูก -เกมจับคู่ -เคล่ือนไหว -ของใชส้ ว่ นตัว -ระบายสีภาพ ไดเ้ ลอื กเลน่ ในศนู ย์ บอล ภาพเหมือนของ รา่ งกายพรอ้ ม เดก็ ของใช้ส่วนตวั ตามความสนใจ ใช้สว่ นตวั เด็ก และค้นหาความ 1 อปุ กรณ์ ถนัดของตนโดยจัด ใหส้ อดคล้องกับ หน่วยการเรียนรู้ -เคลื่อนไหว -สัญลักษณ์ -ฉกี ปะภาพ -เปดิ โอกาสให้เดก็ -เกม -เกมจับคู่ รา่ งกายตาม ประจาตัว สญั ลักษณ์ ได้เลอื กเลน่ ในศนู ย์ ขว้างบอล ภาพเหมอื น ตามความสนใจ ขอ้ ตกลง -พยัญชนะ ก จ ประจาตัว และค้นหาความ สญั ลกั ษณ์ -วาดภาพระบาย ถนัดของตนโดยจัด ประจาตัว 2 สตี ามจนิ ตนาการ ใหส้ อดคลอ้ งกับ หน่วยการเรยี นรู้ -เปิดโอกาสให้เดก็ -เกมสง่ บอลข้าม -เกมจับคขู่ องใช้ -การเคลอ่ื นไหว -ชื่ออปุ กรณ์ของ -ปั้นดินน้ามนั ได้เลือกเล่นในศูนย์ ศีรษะ ทสี่ มั พนั ธ์กัน ตามความสนใจ 3 ร่างกาย ใช้ในห้องเรียน -การพมิ พ์ภาพ และคน้ หาความ ตามจงั หวะ -อ่านพยญั ชนะ ถนัดของตนโดยจัด ก-ฮ ให้สอดคล้องกบั -เปรียบเทยี บคา หน่วยการเรยี นรู้ ตรงขา้ ม สั้น ยาว -เคลือ่ นไหว -วิธกี ารปฏบิ ัตติ น -การฉกี ปะ -เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ -เกมมอญ -เกมภาพตัดต่อ ร่างกายพร้อม ในการใช้ห้องน้า -วาดรปู ส่ีเหลี่ยม ได้เลอื กเล่นในศูนย์ ซอ่ นผ้า ตามความสนใจ อุปกรณ์ ไดถ้ ูกวิธี ตามแบบ และค้นหาความ -อ่านอกั ษร A-Z ถนดั ของตนโดยจัด 4 -พดู สนทนา ใหส้ อดคลอ้ งกบั ประโยค หนว่ ยการเรยี นรู้ GOOD MORNING -เคลอ่ื นไหว -การปฏบิ ตั ิตน -การวาดภาพ -เปิดโอกาสให้เดก็ -เลน่ เครือ่ งเล่น -เกมจับคู่ภาพกับ ร่างกายพรอ้ ม ตามขอ้ ตกลงของ ระบายสี ไดเ้ ลือกเลน่ ในศนู ย์ สนาม จานวน ตามความสนใจ อุปกรณ์ ห้องเรยี น -การพบั สี และค้นหาความ -เล่นอิสระ โรงเรยี น ถนัดของตนโดยจดั 5 -คาศพั ท์ BOY ใหส้ อดคล้องกับ GIRL TEACHER หน่วยการเรียนรู้

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 3 วนั ที่ 1 สาระการเรยี นรูย้ อ่ ย ของใชส้ ว่ นตัวเดก็ 1. ชอื่ กิจกรรม เคล่ือนไหวและจังหวะ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงได้ 2) เคล่อื นไหวพร้อมอปุ กรณ์ได้ 3) มีความสุขในการเคล่อื นไหว 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง 1) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ 2) การเคลอื่ นไหวพรอ้ มอุปกรณ์ 2) การเคล่อื นไหวพร้อมอุปกรณ์ 4. วิธกี ารจัดกจิ กรรม 1) ครทู บทวนการเคลื่อนไหวพืน้ ฐานโดยใหเ้ ดก็ เดิน เปน็ วงกลมและเคาะจังหวะให้เด็กเคล่ือนไหว เช่น เคาะ 1 คร้งั ให้ว่งิ ธรรมดา เคาะ 2 ครง้ั ให้หยดุ เคาะรวั ๆ ให้วง่ิ เรว็ ขึ้น 2) ครูแจกบตั รภาพของใชส้ ่วนตวั ให้เด็กคนละ 1 ใบ เช่นภาพแก้วน้า แปรงฟนั กระเป๋า ฯลฯ 3) เด็กเดนิ ไปรอบๆ บรเิ วณห้องโดยครูเคาะจังหวะใหเ้ ด็กปฏิบัติตามข้อตกลง เช่น เคาะ 1 ครั้ง ใหช้ ูบตั ร ภาพแก้วนา้ ข้นึ พร้อมมานง่ั รวมกนั เปน็ วงกลม เคาะ 2 คร้งั ใหช้ บู ัตรภาพแปรงสีฟันขึ้นพร้อมมานั่ง รวมกันเป็นวงกลม และเคาะ 3 ครง้ั ให้ชูบตั รภาพกระเป๋า พร้อมมานั่งรวมกนั เป็นวงกลม 4) ทบทวนคาส่ังให้เด็กปฏบิ ตั ิซ้า 5) เด็กพกั คลายกล้ามเน้ือ โดยนงั่ พักสบาย 5. สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1) เคร่อื งเคาะจงั หวะ 2) บัตรภาพของใชส้ ว่ นตัว 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตการปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง 2) สงั เกตการเคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ 3) สังเกตการร่วมกิจกรรม

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ี่ 3 วันที่ 1 สาระการเรียนรูย้ ่อย ของใชส้ ว่ นตัวเด็ก 1. ชอ่ื กจิ กรรม เสริมประสบการณ์ ความคิดรวบยอด ของใชส้ ่วนตัวเดก็ หมายถงึ ของท่ีใช้เฉพาะบุคคลเดียวเทา่ นั้นได้แก่ เส้อื ผ้า รองเท้า หนังสอื ฯลฯ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) บอกชื่อของใช้ส่วนตวั ได้ 2) เกบ็ ของใช้เขา้ ที่ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) ชอ่ื ของใช้ส่วนตวั 1) การสังเกตส่งิ ตา่ งๆ 2) การสนทนาตอบคาถาม 2) การจาแนกประเภท,จัดหมวดหมสู่ ง่ิ ตา่ งๆ 4. วิธกี ารจดั กจิ กรรม 1) นาของใชส้ ่วนตวั มาใหเ้ ดก็ ดแู ละสนทนาถงึ ชือ่ ของใช้ส่วนตัววา่ มอี ะไรบา้ ง 2) เดก็ อาสาสมคั รออกมาหยิบส่งิ ของตามคาสัง่ พร้อมบอกช่ือสิ่งของใหเ้ พื่อนๆฟงั 3) ครูนาสญั ลักษณท์ ่ีใช้ประจาตวั เด็กแตล่ ะคนมาแนะนาว่าเปน็ ของใครบ้าง 4) ครูและเด็กสรปุ ร่วมกันถงึ อุปกรณ์ของใช้ส่วนตวั 5) เด็กถือของใช้ของตนเอง และนาไปเกบ็ เข้าท่ตี ามที่ครูแนะนา 5. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) แก้วนา้ 2) รองเท้า 3) กระเปา๋ 4) แปรงสฟี ัน 5) ผ้ากนั เปือ้ น 6) ทน่ี อน 7) ผา้ ขนหนู 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการบอกชอื่ ของใชส้ ่วนตัว 2) สงั เกตการเก็บของเขา้ ท่ี

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 3 วนั ที่ 1 สาระการเรียนรยู้ อ่ ย ของใชส้ ว่ นตวั เดก็ 1. ช่ือกจิ กรรม สร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) ปั้นดินน้ามันตามจนิ ตนาการได้ 2) ระบายสีภาพได้ 3) บอกช่อื ผลงานได้ 4) จดั เกบ็ อปุ กรณ์เขา้ ท่ีได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) ปั้นดินน้ามันตามจินตนาการ 1) การป้นั และการประดษิ ฐ์สิ่งต่างๆ 2) พัฒนาประสาทสมั พนั ธ์ระหว่างตากับมอื 2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี 3) การสนทนา ตอบคาถาม 3) การสรา้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงาม 4. วิธกี ารจดั กจิ กรรม 1) ครูจัดเตรียมกิจกรรมไว้ 2 กจิ กรรม คือ การป้ันดนิ น้ามนั และการระบายสีภาพของใช้ส่วนตวั 2) ครูแนะนาอุปกรณ์ วธิ กี ารปฏิบัตแิ ละทบทวนข้อตกลงในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการป้ันดินน้ามันและ การระบายสีภาพ 2.1 การปัน้ ดินน้ามนั - ครูแนะนาอปุ กรณ์ในการปั้นดินน้ามนั - ครูนาดนิ น้ามันมาสาธิต การนวด การคลงึ และการบีบ จนดินนา้ มันนมิ่ - เด็กปน้ั ดินน้ามันเป็นของใช้ส่วนตวั ตามจินตนาการของตนเอง 2.2 การระบายสีภาพ - ครูแนะนาอุปกรณ์ในการระบายสภี าพ - ครนู าใบงานรปู ภาพของใชส้ ว่ นตัวให้เด็กๆดู - ครสู าธิตการระบายสภี าพใหเ้ ดก็ ดูเป็นตัวอย่าง 3) เดก็ เลอื กปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ แล้วนาผลงานมาบอกชื่อและเล่าเร่ืองให้ครจู ดบันทกึ 4) อาสาสมัครเลือกผลงานของตนเอง ระหว่างการป้นั ดนิ นา้ มนั และการระบายสีภาพ มาเล่าใหเ้ พ่อื นฟงั 5) เด็กทุกคนชว่ ยกันจัดเกบ็ อุปกรณ์ใหเ้ รียบร้อย 5. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1) ดินนา้ มัน 2) แผน่ รองปั้นดนิ นา้ มัน 3) ใบงานภาพของใช้ส่วนตวั 4) สเี ทียน 6. การประเมินผล 1) สังเกตการปั้นดนิ นา้ มัน 2) สังเกตการระบายสี 2) สังเกตการบอกช่ือผลงาน 4) สังเกตจดั เก็บอปุ กรณ์เข้าที่

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ี่ 3 วนั ท่ี 1 สาระการเรยี นรยู้ ่อย ของใช้สว่ นตวั เดก็ 1. ช่ือกจิ กรรม เสรี 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) สงั เกต สารวจ ทดลอง ค้นคว้า คดิ แกป้ ัญหาในการทางานและการเลน่ เปน็ กลมุ่ 2) มปี ระสบการณต์ รงในการใชภ้ าษา มีจนิ ตนาการ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ต่องานและส่ิงท่ีตนเล่น 3) มีวินัย ความรบั ผิดชอบมมี ารยาท ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมจี ิตสาธารณะ 4) มีพฒั นาการทางรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คมและสตปิ ญั ญาอย่างสมดลุ รอบดา้ น 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ - การเล่นตามศนู ย์เปน็ การเลน่ ในศนู ยป์ ระสบการณต์ า่ ง ๆ อยา่ งอิสระผ่านการเลน่ ทดลอง คิดคน้ ควา้ สร้างสรรค์ การแก้ปัญหาและการแสวงหาคาตอบ ซึง่ จะช่วยพฒั นาความคดิ จนิ ตนาการ ภาษาควบคไู่ ปกบั ความมวี นิ ัย ความรับผิดชอบ การรอคอย การแบ่งปนั การใฝร่ ูแ้ ละการอย่รู ว่ มกันเพ่ือพัฒนาการเขา้ สู่สงั คม ประสบการณส์ าคญั 1) การเล่นเครอื่ งเล่นสมั ผสั 2) การต่อของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) การเล่นและการทางานรว่ มกบั ผู้อืน่ 4) การรบั รู้ แสดงความรูส้ ึกผ่านสอื่ วัสดุ ของเล่นและผลงาน 5) การเลน่ รายบุคคลและเล่นเปน็ กล่มุ 6) การสรา้ งสรรค์ผลงาน 4. วิธกี ารจดั กิจกรรม 1) ครแู นะนาการเลน่ การปฏิบตั ติ นในการเล่นศูนย์กิจกรรมเสรีตามข้อตกลง 2) เดก็ เลือกเล่นศูนย์กิจกรรมเสรีตามความสนใจ 3) ครใู ห้คาแนะนา กระตุ้น ส่งเสรมิ ให้คาชมเชยเพอ่ื ให้เด็กเกิดการพัฒนาอย่างสมดลุ รอบด้านเตม็ ตามศักยภาพ 4) ใหเ้ ดก็ เล่นอยา่ งอิสระหลงั จากเลกิ เลน่ ใหเ้ ด็กทาความสะอาดอุปกรณ์ พรอ้ มกบั เกบ็ ของเข้าทใี่ ห้เรยี บร้อย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ - อุปกรณ์ตา่ งๆ ทีจ่ ัดไว้ตามศนู ยก์ จิ กรรมเสรี ตอ้ งสอดคล้องสมั พันธ์กบั หนว่ ยการเรียนรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤตกิ รรมการสารวจ ทดลอง ค้นควา้ คิดแกป้ ัญหาในการทางานและการเล่นเปน็ กล่มุ 2) สงั เกตการใชภ้ าษา ตรวจผลงานการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการคดิ สรา้ งสรรค์ ตอ่ งานและสงิ่ ทเ่ี ล่น 3) สงั เกตความมีวนิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ มารยาท การชว่ ยเหลือ แบ่งปนั อดทนรอคอยและมีจติ สาธารณะ 4) สังเกตความก้าวหนา้ ของพัฒนาการทั้ง 4 ดา้ น หมายเหตุ ครูปรบั เปลย่ี นสื่อ วสั ดุอปุ กรณ์ในศนู ย์ให้สัมพันธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ตามความพร้อมและจดุ เน้น ของสถานศกึ ษา

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 1 สาระการเรียนรูย้ อ่ ย ของใช้สว่ นตวั เดก็ 1. ชือ่ กจิ กรรม กลางแจง้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) เล่นเกมรับส่งลูกบอลได้ 2) ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงได้ 3) สนใจการเล่นและการออกกาลังกาย 4) เก็บของเข้าท่ีได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) เกมรับสง่ ลูกบอล 1) การเล่นเกม 2) การเล่นรายบคุ คล 3) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 4) การทาความสะอาดร่างกายหลงั การเลน่ 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) เด็กและครสู นทนาถึงข้อตกลงในการปฏิบตั ิกิจกรรมเมอ่ื ลงไปถงึ ทสี่ นาม 2) เดก็ เคลอ่ื นไหวพน้ื ฐานโดยการให้หาพนื้ ที่ของตนเอง เช่น การเดิน การกระโดด การวิ่งและการคลาน 3) ครอู ธิบายและสาธิตวิธกี ารสง่ บอลใหเ้ ด็ก โดยให้เด็กเป็นผู้รับบอลเมือ่ เด็กรบั เสรจ็ ให้โยนบอลกลับมา ใหค้ รู เด็กเริ่มเล่นเกมรบั ส่งลกู บอล ผลัดเปลย่ี นกนั รับส่งลูกบอลจนครบทุกคน ขณะเด็กเล่นเกมครู คอยแนะนาและดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ 4) เมื่อสัญญาณหมดเวลา เด็กพักคลายกลา้ มเนื้อขา โดยนัง่ เหยยี ดขาตามสบาย หายใจลึกๆ แล้วช่วยกัน เกบ็ อุปกรณ์การเล่นเกมเข้าท่ีใหเ้ รยี บรอ้ ย 5) เด็กล้างมอื และดแู ลเครื่องแต่งกายใหเ้ รียบร้อยก่อนกลับเข้าช้นั เรียน 5. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1) ลูกบอล 2) นกหวีด 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการเล่นเกมรับสง่ ลูกบอล 2) สงั เกตการปฏบิ ัติตามข้อตกลง 3) สังเกตการรว่ มกจิ กรรม 4) สังเกตการเก็บของเขา้ ที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ี่ 3 วนั ที่ 1 สาระการเรียนรยู้ ่อย ของใช้สว่ นตัวเด็ก 1. ชือ่ กิจกรรม เกมการศึกษา 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ เกมจบั คภู่ าพเหมือนของใชส้ ว่ นตวั เดก็ ได้ 2) ปฏิบัติตามข้อตกลงได้ 3) เกบ็ อปุ กรณ์เขา้ ทไ่ี ด้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) เกมจับคภู่ าพเหมือนของใช้ส่วนตวั เด็ก 1) การเลน่ เกม 2) การเกบ็ อปุ กรณ์เข้าท่ี 2) การทากิจกรรมรายบุคคล 3) การสังเกตสงิ่ ต่างๆ 4. วธิ ีการจัดกจิ กรรม 1) ครแู นะนาอปุ กรณ์ พร้อมทัง้ สาธิตวธิ ีการเลน่ เกมจับคภู่ าพเหมือนของใช้ส่วนตัว 2) แบ่งกลุ่มเด็กออกเป็นกล่มุ กลุ่มละ3 – 4 คน โดยใหเ้ ดก็ แต่ละกล่มุ ช่วยกนั สังเกตและจับคู่ภาพของใช้ ส่วนตวั เช่น รองเทา้ แก้วน้า แปรงสีฟัน ถงุ เท้า ฯลฯ กล่มุ ไหนจับคภู่ าพเหมือนได้ครบก่อนเป็นผชู้ นะ 3) เด็กเล่นเกมจับคภู่ าพเหมือนของใชส้ ่วนตวั ซ้าๆจนจบั คู่ภาพไดถ้ ูกต้อง 4) ขณะเด็กเล่นเกมครคู อยแนะนาและคอยดแู ลอย่างใกลช้ ิด 5) เม่ือสญั ญาณหมดเวลา เด็กช่วยกันเกบ็ อุปกรณ์การเลน่ เกมเขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1) เกมจับคภู่ าพเหมือนของใชส้ ว่ นตวั เด็ก 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการจบั คูภ่ าพเหมอื นของใชส้ ว่ นตัวเดก็ 2) สงั เกตการปฏบิ ัติตามข้อตกลง 3) สังเกตการเก็บของเข้าที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วันท่ี 2 สาระการเรียนรูย้ อ่ ย สัญลักษณ์ประจาตัว 1. ชอื่ กิจกรรม เคล่อื นไหวและจงั หวะ 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) เคลื่อนไหวสว่ นต่างๆของร่างกายได้ 2) ฟงั และปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลงได้ 1) มีความสุขในการเคล่อื นไหว 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การปฏบิ ัติตามข้อตกลง 1) การเคล่ือนไหวเคลื่อนท่ี 2) เคลอื่ นไหวสว่ นตา่ งๆของร่ากาย 2) การเคล่ือนไหวตามเคร่ืองเคาะ 3) การแสดงออกอยา่ งสนกุ สนาน 4. วิธกี ารจดั กิจกรรม 1) ครูทบทวนการเคล่ือนไหวพื้นฐานโดยใหเ้ ดก็ เดนิ เป็นรูปวงกลมไปรอบๆบริเวณห้องอย่างอิสระตาม เสยี งเครอื่ งเคาะจงั หวะเมอ่ื ได้ยนิ เสียงสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นน้ั ทันที 2) เดก็ และครูกาหนดข้อตกลงรว่ มกันวา่ ถา้ ครูพดู วา่ เป็ด ใหเ้ ด็กทาทา่ เดินเหมือนเปด็ พดู ว่า นก ให้ทาท่าบนิ และพดู ว่า กระต่าย ให้ทาท่ากระโดด 3) ครูเคาะจงั หวะให้เด็กปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง 3) เม่ือสญั ญาณหมดเวลา ให้เดก็ น่งั พักผ่อนอริ ยิ าบถ 3 – 5 นาที 5. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1) กลอง 2) ฉง่ิ 3) แทมบรู ีน 6. การประเมินผล 1) สังเกตการเคลือ่ นไหวส่วนต่างๆ 2) สงั เกตการปฏิบัติตามข้อตกลง 3) สงั เกตการร่วมกจิ กรรม

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 3 วันที่ 2 สาระการเรียนร้ยู ่อย สญั ลกั ษณ์ประจาตัว 1. ชื่อกิจกรรม เสริมประสบการณ์ ความคดิ รวบยอด สัญลกั ษณป์ ระจาตัว หมายถึงสิง่ ทีก่ าหนดขึน้ เพือ่ ให้ใช้หมายความแทนอีกสิ่งหนึ่ง ซ่งึ ใช้ในการ สอื่ ความหมายเข้าใจไปในทางเดียวกนั สัญลักษณน์ นั้ ช่วยในการสื่อสาร อาจจะเป็นรปู ภาพ สงิ่ ของ ผลไม้ ตวั เลขก็ได้ 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกชื่อสัญลกั ษณ์ประจาตัวของตนเองได้ 2) บอกชอื่ สัญลักษณ์ประจาตัวของของเพ่ือนได้ 3) บอกพยัญชนะ ก จ ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) ชื่อสัญลกั ษณ์ประจาตวั 1) การสังเกตส่ิงต่างๆ 2) พยัญชนะ ก จ 2) การอ่านในหลายรูปแบบ อ่านภาพหรอื สัญลกั ษณ์ 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) สนทนาเกีย่ วกับสัญลักษณ์ประจาตวั (อาจเปน็ ภาพผัก ผลไม้ ดอกไม้ สัตว์ สง่ิ ของ ) นาบตั ร สัญลักษณป์ ระจาตวั ให้เด็กดูและสนทนาถึงช่ือของสัญลกั ษณ์ประจาตวั ของเด็กว่ามีอะไรบา้ ง นาบัตรภาพสัญลกั ษณ์แจกให้เด็กแต่ละคนรู้จักสัญลักษณป์ ระจาตัวของตนเอง 2) นาบัตรภาพสญั ลกั ษณ์แจกให้เด็กแต่ละคนรู้จักสญั ลักษณป์ ระจาตวั ของตนเอง พร้อมให้เด็กแตล่ ะคน บอกชื่อสัญลกั ษณข์ องตนเองให้เพือ่ นๆในห้องฟังและใหเ้ ด็กจับคกู่ ันผลดั เปล่ยี นกันบอกชอ่ื สัญลักษณ์ 3) ครชู ูบัตรพยัญชนะ ก จ อ่านให้เด็กฟังและเด็กอา่ นตาม โดยครถู ามซา้ ๆจนเด็กจาพยัญชนะ ก จ ได้ 4) เดก็ และครูรว่ มกันสรปุ ถึงสญั ลกั ษณป์ ระจาตวั ของตนเองและของเพอื่ น 5. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1) บตั รภาพสญั ลกั ษณ์ประจาตัว 2) บัตรพยญั ชนะ ก จ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการบอกช่ือสญั ลักษณ์ประจาตัวของตนเอง 2) สงั เกตการบอกช่ือสัญลักษณ์ประจาตัวของเพ่ือน 3) สงั เกตการบอกพยัญชนะ ก จ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 2 สาระการเรยี นรูย้ ่อย สัญลักษณ์ประจาตัว 1. ช่ือกจิ กรรม สร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ฉกี ปะกระดาษได้ 2) วาดภาพระบายสตี ามจนิ ตนาการได้ 3) เก็บอุปกรณเ์ ข้าท่ีได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) การฉีกปะกระดาษ 1) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี 2) การวาดภาพระบายสี 2) การทางานศิลปะ 3) การทากิจกรรมรายบคุ คล 4. วิธกี ารจัดกิจกรรม 1) ครจู ัดเตรยี มกิจกรรมไว้ 2 กจิ กรรม คือ การฉีกปะกระดาษและการวาดภาพระบายสี 2) ครูแนะนาอุปกรณ์ วิธีการปฏบิ ัติและทบทวนข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมการฉีกปะกระดาษ และการวาดภาพระบายสี ดงั น้ี 2.1 การฉกี ปะกระดาษ - ครูแนะนาอุปกรณใ์ นการฉกี กระดาษ และข้อควรระวงั ในการใช้กาว - ครูสาธิตการฉกี กระดาษท่ีถกู ต้อง การหยบิ กระดาษ ในการปะลงใบงาน - เด็กลงมือฉีกกระดาษ ที่ครจู ัดเตรียมไวใ้ ห้ 2.2 การวาดภาพระบายสี - ครแู นะนาอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี - ครูนาใบงานการวาดภาพระบายสีมาให้เด็กๆดู - ครูสาธติ การวาดภาพระบายสีเสร็จแลว้ ให้เดก็ ใชส้ รี ะบายในใบงานให้สวยงาม 3) เดก็ เลือกปฏิบัตกิ ิจกรรมตามความสนใจ แลว้ นาผลงานมาเลา่ เรื่องให้ครจู ดบนั ทึก 4) เมือ่ หมดเวลาเดก็ ทกุ คนช่วยกนั จัดเกบ็ อุปกรณใ์ หเ้ รียบร้อย 5. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1) ใบงานการฉกี ปะ 2) กาว 3) กระดาษสี 4) ใบงานการวาดภาพ 5) สีเทยี น 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการฉกี ปะกระดาษ 2) สังเกตการวาดภาพ 3) สงั เกตการร่วมกิจกรรม

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาห์ท่ี 3 วันท่ี 2 สาระการเรยี นรยู้ อ่ ย สญั ลกั ษณป์ ระจาตวั 1. ช่อื กิจกรรม เสรี 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) สังเกต สารวจ ทดลอง ค้นควา้ คดิ แก้ปญั หาในการทางานและการเล่นเป็นกลุ่ม 2) มีประสบการณต์ รงในการใชภ้ าษา มีจินตนาการ ความคดิ สร้างสรรค์ ต่องานและสิง่ ทต่ี นเลน่ 3) มีวนิ ยั ความรบั ผิดชอบมีมารยาท ชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมีจิตสาธารณะ 4) มีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคมและสติปัญญาอย่างสมดุลรอบดา้ น 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ - การเล่นตามศูนยเ์ ป็นการเล่นในศูนย์ประสบการณต์ ่าง ๆ อย่างอิสระผา่ นการเล่น ทดลอง คิดค้นคว้า สร้างสรรค์ การแก้ปญั หาและการแสวงหาคาตอบ ซง่ึ จะชว่ ยพัฒนาความคดิ จินตนาการ ภาษาควบคไู่ ปกบั ความมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบ การรอคอย การแบ่งปัน การใฝ่รู้และการอยูร่ ว่ มกนั เพ่ือพฒั นาการเข้าสสู่ งั คม ประสบการณส์ าคญั 1) การเลน่ เครอื่ งเล่นสัมผัส 2) การต่อของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) การเลน่ และการทางานร่วมกับผอู้ ื่น 4) การรับรู้ แสดงความรู้สึกผ่านสือ่ วสั ดุ ของเลน่ และผลงาน 5) การเลน่ รายบุคคลและเล่นเปน็ กลมุ่ 6) การสรา้ งสรรค์ผลงาน 4. วิธีการจดั กิจกรรม 1) ครูแนะนาการเลน่ การปฏบิ ตั ิตนในการเลน่ ศูนยก์ ิจกรรมเสรีตามข้อตกลง 2) เด็กเลือกเลน่ ศนู ย์กจิ กรรมเสรีตามความสนใจ 3) ครูใหค้ าแนะนา กระตนุ้ สง่ เสริม ใหค้ าชมเชยเพือ่ ให้เด็กเกิดการพัฒนาอย่างสมดุลรอบดา้ นเตม็ ตามศักยภาพ 4) ให้เด็กเล่นอยา่ งอสิ ระหลังจากเลกิ เลน่ ใหเ้ ด็กทาความสะอาดอปุ กรณ์ พร้อมกบั เกบ็ ของเขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 5. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ - อุปกรณ์ต่างๆ ทจี่ ดั ไวต้ ามศนู ย์กิจกรรมเสรี ตอ้ งสอดคล้องสัมพนั ธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ 6. การประเมินผล 1) สงั เกตพฤติกรรมการสารวจ ทดลอง ค้นควา้ คิดแก้ปัญหาในการทางานและการเล่นเป็นกลุ่ม 2) สังเกตการใช้ภาษา ตรวจผลงานการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการคิดสรา้ งสรรค์ ต่องานและสิง่ ทเ่ี ล่น 3) สังเกตความมีวินยั ความรบั ผิดชอบ มารยาท การช่วยเหลอื แบ่งปนั อดทนรอคอยและมีจติ สาธารณะ 4) สังเกตความกา้ วหนา้ ของพฒั นาการทง้ั 4 ดา้ น หมายเหตุ ครปู รับเปล่ยี นสือ่ วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นศนู ยใ์ หส้ ัมพันธก์ ับหนว่ ยการเรียนรตู้ ามความพรอ้ ม และจุดเนน้ ของสถานศกึ ษา

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 2 สาระการเรยี นร้ยู ่อย สญั ลักษณป์ ระจาตวั 1. ชื่อกิจกรรม กลางแจ้ง 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) เลน่ เกมขว้างบอลได้ 2) ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลงได้ 2) เกบ็ อปุ กรณเ์ ขา้ ท่ีได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) เกมขวา้ งบอล 1) การเล่นเกม 2) การเก็บอุปกรณเ์ ข้าท่ี 2) การเลน่ รายกลุ่มใหญ่ 3) การเคลื่อนไหวที่ใชก้ ารประสานสมั พันธ์ของการใช้กล้ามเนอ้ื มดั ใหญใ่ นการจับ 4. วธิ ีการจดั กิจกรรม 1) เดก็ และครสู นทนาถึงข้อตกลงในการปฏิบัติกจิ กรรมเมอื่ ลงไปถงึ ทสี่ นาม 2) เด็กเคลอื่ นไหวพืน้ ฐานโดยการให้หาพ้นื ทขี่ องตนเอง เช่น การเดิน การกระโดด การว่ิง และการคลาน 3) สนทนาเก่ียวกับกฎ กตกิ าในการเลน่ เกมขว้างบอลให้กระปอ๋ งล้ม 4) แบง่ เด็กออกเปน็ 3-4 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เข้าแถวตอน โดยให้คนขา้ งหน้าสดุ เริ่มขวา้ งบอลกอ่ นจากน้ัน ให้ไปยนื คนขา้ งหลงั สดุ ของแถวตนเอง เลน่ เปล่ยี นกันจนครบทุกคน สังเกตว่ากลุ่มไหนขว้างบอลให้ กระปอ๋ งลม้ หลายคร้งั เปน็ กลมุ่ ทีช่ นะ 5) เด็กเลน่ เกมไปเรื่อย ๆ ขณะเดก็ เล่นเกมครูคอยแนะนาและคอยดแู ลอย่างใกล้ชิด 6) เมื่อสญั ญาณหมดเวลา เด็กพักคลายกลา้ มเนอื้ ขา โดยนงั่ เหยียดขาตามสบาย หายใจลึกๆ แล้ว ช่วยกันเกบ็ อปุ กรณ์การเล่นเกมใหเ้ รยี บร้อย 7) เด็กล้างมือและดูแลเครือ่ งแต่งกายใหเ้ รียบร้อยก่อนกลบั เข้าห้องเรียน 5. สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้ 1) เกมขวา้ งบอล 2) กระป๋อง 6. การประเมินผล 1) สังเกตการเล่นเกมขวา้ งบอล 2) สงั เกตการปฏิบัตติ ามข้อตกลง 3) สงั เกตการเกบ็ ของเข้าท่ี

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ี่ 3 วันที่ 2 สาระการเรยี นรยู้ อ่ ย สญั ลักษณ์ประจาตวั 1. ชือ่ กจิ กรรม เกมการศกึ ษา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) จับคู่ภาพเหมอื นสญั ลักษณ์ประจาตัวได้ 2) เปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกต่างได้ 3) เก็บของเล่นเขา้ ท่ีได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) เกมจบั คูภ่ าพเหมือนสญั ลกั ษณ์ประจาตวั 1) การเลน่ เกม 2) การเปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกตา่ ง 2) การจับคหู่ นง่ึ ต่อหนึ่ง 3) การสังเกตส่ิงต่างๆโดยใช้ประสาทสัมผัส ด้วยการมองอยา่ งเหมาะสม 4) การเล่นรายกลุ่มย่อย 4. วิธกี ารจัดกจิ กรรม 1) ครแู นะนาอปุ กรณ์ พร้อมท้งั สาธติ วธิ ีการเล่นเกมจบั คู่ภาพเหมือนสญั ลักษณป์ ระจาตัว 2) แบ่งกลุ่มเด็กออกเปน็ กลุม่ กล่มุ ละ 3 – 4 คน โดยให้เด็กแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั สงั เกตภาพและจับคู่ ภาพเหมือนสญั ลักษณ์ประจาตัวกล่มุ ไหนจบั คู่ภาพเหมือนสญั ลกั ษณ์ประจาตัว ได้ครบกอ่ นเปน็ ผชู้ นะ 3) เด็กเล่นเกมจับคภู่ าพเหมือนสัญลกั ษณป์ ระจาตัวอีกครงั้ 4) ขณะเด็กเลน่ เกมครูคอยแนะนาและคอยดแู ลอยา่ งใกล้ชดิ 5) เมอื่ สัญญาณหมดเวลา เด็กชว่ ยกนั เกบ็ อุปกรณ์การเล่นเกมเข้าที่ให้เรียบร้อย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ - เกมจับคู่ภาพเหมือนสัญลักษณป์ ระจาตวั 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตการเล่นเกมจบั คู่ภาพเหมือนสัญลักษณป์ ระจาตวั 2) สงั เกตการเปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกต่างในการจบั คูภ่ าพ 3) สังเกตการเกบ็ ของเล่นเขา้ ที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ท่ี 3 สาระการเรียนร้ยู อ่ ย การเก็บของเข้าท่ี เกบ็ วัสดุ อุปกรณ์ 1. ชอื่ กิจกรรม เคลอื่ นไหวและจังหวะ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เคล่ือนไหวร่างกายตามจงั หวะได้ 2) ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงได้ 3) ร้องเพลงเก็บของได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การเคล่อื นไหวตามข้อตกลง 1) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี 2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ 2) การเคลื่อนไหวตามเคร่ืองเคาะจงั หวะ 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) เดก็ เคล่อื นไหวร่างกายพืน้ ฐานโดยการให้หาพ้ืนทีข่ องตนเอง เชน่ การเดนิ การกระโดด การวง่ิ และการคลานไปรอบๆ บรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะทีค่ รูตีฉ่ิง โดยไม่ชนกัน เมอ่ื ได้ยนิ สญั ญาณหยุด ให้เด็กหยุดเคลอื่ นไหวในท่าน้ันทนั ที 2) ครรู อ้ งเพลงเกบ็ ของให้เด็กฟงั และใหเ้ ด็กร้องตามพร้อมทาท่าทางประกอบเพลงตามจังหวะ เมอื่ เพลง หยุดใหเ้ ดก็ หยุดเคลือ่ นไหวทันทแี ละเม่ือสญั ญาณเพลงข้ึนใหเ้ คลอ่ื นไหวต่อไปพร้อมกับรอ้ งเพลงเก็บ ของไปดว้ ย 3) ทบทวนรอ้ งเพลงซ้าหลาย ๆ ครง้ั จนเดก็ ทาได้ 4) เม่อื เคล่ือนไหวรา่ งกายเสร็จ เดก็ นง่ั พักผ่อน 3 – 5 นาที 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1) ฉิ่ง 2) กลอง 3) แทมบรู นี 4) เพลงเก็บของ 6. การประเมินผล 1) สังเกตการเคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะ 2) สงั เกตการปฏิบัตติ ามข้อตกลง 3) สังเกตการร้องเพลงเก็บของ

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 3 วนั ที่ 3 สาระการเรียนรู้ย่อย การเก็บของเขา้ ที่ เกบ็ วสั ดุ อปุ กรณ์ 1. ช่อื กจิ กรรม เสริมประสบการณ์ ความคิดรวบยอด การเกบ็ ของเขา้ ท่ี หมายถึงการจัดเก็บสิ่งของท่ีอยู่ในหอ้ งเรยี นหลังจากทเี่ รานามาใช้ในกจิ กรรม นั้นๆเสรจ็ แล้วโดยจัดเก็บไว้ในท่ีจัดเกบ็ เพือ่ ความเรียบรอ้ ย สะดวก ในการหยบิ ใชใ้ นครง้ั ต่อไป ไดแ้ ก่ แกว้ น้า สีเทยี น ดนิ นา้ มนั กระดาษ ดินสอ ยางลบ กาว เปน็ ตน้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ร่วมสนทนากบั ครแู ละเพื่อนได้ 2) บอกชื่ออุปกรณ์ของใชใ้ นหอ้ งเรียนได้ 3) เก็บอปุ กรณข์ องใชเ้ ขา้ ท่ไี ด้ 4) อ่านพยญั ชนะ ก – ฮ ได้ 5) เปรียบเทียบคาตรงข้ามส้นั ยาวได้ 3. สาระการเรยี นรู้ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การเก็บของเข้าที่ 1) การร่วมสนทนาและแลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ 2) พยญั ชนะ ก – ฮ ได้ 2) การสงั เกตส่งิ ตา่ งๆ 3) การเปรียบเทียบคาตรงขา้ มส้นั ยาว 3) การเปรียบเทียบความยาวของสิ่งต่างๆ 4. วธิ กี ารจดั กิจกรรม 1) เด็กและครูร่วมกันรอ้ งเพลง เกบ็ ของ ตามแผนภูมิเพลงโดยขั้นแรกครรู อ้ งเพลงทลี ะวรรคให้ เด็กรอ้ งตาม เมือ่ เด็กร้องไดค้ ล่องแลว้ ครูและเด็กร้องพร้อมกนั พร้อมกับปรบมือเป็นจงั หวะไปด้วย 2) ครสู นทนาในเน้ือเพลง พร้อมกบั ถามเด็กวา่ “ถ้าเดก็ ๆ ใช้ของตา่ งๆ เสร็จแล้วปล่อยท้ิงไว้ หรอื ไม่เก็บจะเกิดอะไรขึน้ ” 3) เดก็ และครูรว่ มกันอภิปรายและแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับ การเกบ็ ของเกบ็ วัสดุ อุปกรณเ์ ข้าท่ี 4) เดก็ ๆไปหยบิ ของใช้ไดแ้ ก่ สเี ทยี น ดนิ น้ามัน แก้วนา้ รองเท้า กระเปา๋ ออกมาวางไว้ และครู สนทนาถึงการเกบ็ ของเกบ็ วสั ดุ อุปกรณเ์ ขา้ ทีจ่ ากนัน้ ใหเ้ ดก็ ฝึกปฏบิ ตั ิการเกบ็ ของเข้าที่ 5) เดก็ ฝึกเก็บของให้ถกู ท่ี 6) ครนู าสีไม้ 2 แทง่ มคี วามยาวไม่เท่ากันมาเปรียบเทยี บความส้นั ยาวใหเ้ ด็กดู สนทนาความสน้ั ยาว และให้เด็กเปรียบเทยี บความส้นั ยาวจากของเลน่ ในหอ้ งเรียน 7) เด็กและครูรว่ มกันสรปุ ถึงประโยชน์ของการเก็บของเก็บวัสดุ อปุ กรณเ์ ข้าท่ี และการเปรียบเทียบ ความสัน้ ยาว 5. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1) เพลงเกบ็ ของ 2) รองเทา้ 3) แกว้ น้า 4) สเี ทียน สไี ม้ 5) ดินน้ามนั 6) วสั ดุ อุปกรณใ์ นห้องเรยี น

6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตการสนทนา 2) สังเกตการบอกชือ่ อุปกรณ์ของใช้ในห้องเรียน 3) สังเกตการเก็บของเขา้ ที่ 4) สังเกตการเปรยี บเทียบคาตรงขา้ มสน้ั ยาว

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ี่ 3 วันที่ 3 สาระการเรียนรู้ยอ่ ย การเก็บของเขา้ ที่ เกบ็ วสั ดุ อปุ กรณ์ 1. ชือ่ กจิ กรรม สร้างสรรค์ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) ปั้นดินน้ามันตามจินตนาการได้ 2) พิมพภ์ าพตามจนิ ตนาการได้ 3) บอกชื่อผลงานได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) การปั้นดินน้ามัน 1) การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ 2) การพมิ พภ์ าพ 2) การทากิจกรรมรายบคุ คล 3) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ผา่ นส่ือ วัสดุตา่ งๆ 4. วิธกี ารจดั กิจกรรม 1) ครูจัดเตรียมกจิ กรรมไว้ 2 กิจกรรม คือ การปน้ั ดินน้ามันและการพมิ พภ์ าพ 2) ครแู นะนาอุปกรณ์ วิธกี ารปฏบิ ัติและทบทวนข้อตกลงในการปฏิบัติกิจกรรมการปน้ั ดินนา้ มันและ พมิ พภ์ าพ ดังน้ี 2.1 การปัน้ ดินนา้ มนั - ครแู นะนาอุปกรณ์ในการปัน้ ดินนา้ มนั - ครนู าดนิ น้ามนั มาสาธติ การนวด การคลงึ และการบีบ จนดินน้ามันนมิ่ - เดก็ ปน้ั ดินน้ามนั ตามจนิ ตนาการของตนเอง 2.2 การพิมพภ์ าพ - ครแู นะนาอุปกรณ์ในการการพิมพ์ภาพ - ครนู าใบงานให้เด็กดูและครสู าธิตการพมิ พ์ภาพ 3) เดก็ เลือกปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ แล้วนาผลงานมาบอกช่ือและเลา่ เร่ืองให้ครูจดบนั ทกึ 4) ให้อาสาสมัครเลือกผลงานของตนเองระหวา่ งการป้นั ดินนา้ มันและการพิมพ์ภาพมาเล่าใหเ้ พ่ือนฟัง 5) เมอ่ื หมดเวลาเดก็ ทกุ คนช่วยกนั จดั เกบ็ อุปกรณใ์ ห้เรียบร้อย 5. ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ 1) ดนิ น้ามนั 2) แผน่ รองปน้ั 3) ใบงาน 4) สนี ้า 5) วัสดุอปุ กรณ์ในการพมิ พ์ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการป้นั ดินน้ามนั 2) สงั เกตการพิมพ์ภาพ 3) สังเกตการบอกชอื่ ผลงาน

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วันท่ี 3 สาระการเรียนรู้ย่อย การเกบ็ ของเข้าท่ี เก็บวสั ดุ อปุ กรณ์ 1. ช่อื กิจกรรม เสรี 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) สงั เกต สารวจ ทดลอง คน้ ควา้ คดิ แกป้ ญั หาในการทางานและการเลน่ เปน็ กลุ่ม 2) มปี ระสบการณต์ รงในการใชภ้ าษา มีจินตนาการ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ต่องานและสงิ่ ท่ีตนเล่น 3) มวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบมมี ารยาท ช่วยเหลอื แบง่ ปัน อดทนรอคอยและมีจิตสาธารณะ 4) มีพัฒนาการทางรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปญั ญาอย่างสมดลุ รอบดา้ น 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ - การเลน่ ตามศูนย์เปน็ การเล่นในศูนยป์ ระสบการณต์ า่ ง ๆ อย่างอิสระผา่ นการเล่น ทดลอง คดิ ค้นควา้ สร้างสรรค์ การแกป้ ัญหาและการแสวงหาคาตอบ ซึ่งจะชว่ ยพฒั นาความคดิ จินตนาการ ภาษาควบค่ไู ปกบั ความมวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ การรอคอย การแบง่ ปนั การใฝร่ ู้และการอยู่รว่ มกันเพ่ือพัฒนาการเขา้ สสู่ ังคม ประสบการณส์ าคัญ 1) การเล่นเครอ่ื งเลน่ สมั ผัส 2) การตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกส่วนประกอบ 3) การเล่นและการทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื 4) การรับรู้ แสดงความรสู้ กึ ผ่านสือ่ วสั ดุ ของเล่นและผลงาน 5) การเล่นรายบคุ คลและเลน่ เป็นกลุม่ 6) การสร้างสรรค์ผลงาน 4. วธิ ีการจัดกจิ กรรม 1) ครูแนะนาการเล่นการปฏบิ ัติตนในการเล่นศูนย์กิจกรรมเสรีตามข้อตกลง 2) เดก็ เลือกเลน่ ศูนยก์ จิ กรรมเสรีตามความสนใจ 3) ครูใหค้ าแนะนา กระตุน้ ส่งเสรมิ ให้คาชมเชยเพ่อื ให้เด็กเกดิ การพฒั นาอยา่ งสมดุลรอบด้านเตม็ ตามศักยภาพ 4) ให้เดก็ เล่นอยา่ งอิสระหลงั จากเลกิ เล่นใหเ้ ด็กทาความสะอาดอปุ กรณ์ พรอ้ มกบั เก็บของเข้าทใี่ ห้เรยี บรอ้ ย 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - อุปกรณต์ า่ งๆ ทจี่ ัดไวต้ ามศนู ยก์ ิจกรรมเสรี ต้องสอดคลอ้ งสัมพนั ธ์กับหนว่ ยการเรียนรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤติกรรมการสารวจ ทดลอง ค้นคว้า คดิ แก้ปัญหาในการทางานและการเลน่ เป็นกลุ่ม 2) สงั เกตการใชภ้ าษา ตรวจผลงานการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการคิดสร้างสรรค์ ตอ่ งานและสิ่งทเ่ี ลน่ 3) สังเกตความมวี ินัย ความรบั ผิดชอบ มารยาท การช่วยเหลอื แบ่งปัน อดทนรอคอยและมีจิตสาธารณะ 4) สังเกตความก้าวหนา้ ของพัฒนาการทง้ั 4 ด้าน หมายเหตุ ครูปรบั เปลยี่ นสอ่ื วัสดุอปุ กรณ์ในศูนย์ให้สมั พนั ธ์กบั หน่วยการเรยี นรตู้ ามความพรอ้ มและ จดุ เน้นของสถานศึกษา

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ี่ 3 วันท่ี 3 สาระการเรยี นร้ยู อ่ ย การเก็บของเข้าที่เกบ็ วัสดุ อปุ กรณ์ 1. ช่อื กจิ กรรม กลางแจ้ง 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) สนใจและมีความสขุ ในการเล่นและการออกกาลังกาย 2) เลน่ เกมส่งบอลข้ามศรี ษะได้ 3) ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงได้ 3) เกบ็ ของเข้าท่ีได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) เกมสง่ บอลขา้ มศรี ษะ 1) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ 2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี 3) การเล่นกลมุ่ ใหญ่ 4. วธิ ีการจัดกิจกรรม 1) เด็กและครูยนื เปน็ วงกลมแล้วอบอ่นุ ร่างกายดว้ ยทา่ ตา่ งๆ ดังนี้กระโดดตบแตะสลับหมุนเอว หมนุ ไหล่ เขา่ สลดั มือ ว่งิ อยูก่ ับท่ี 2) สนทนาเกย่ี วกบั กฎ กตกิ า ในการส่งบอลข้ามศรี ษะ 3) แบ่งเดก็ ออกเป็นกลุ่ม 3–4 กลุ่ม โดยเขา้ แถวตอน นัง่ ลงเลน่ เกมส่งบอลขา้ มศรี ษะ จนครบทุกคนโดย ครูคอยดูแลความปลอดภัย แถวไหนส่งบอลให้คนสุดทา้ ยก่อนถือว่ากลมุ่ นัน้ ชนะ 4) เม่ือสัญญาณหมดเวลา เก็บลูกบอลเข้าที่ 5) เด็กลา้ งมอื และดแู ลเคร่ืองแต่งกายเรยี บร้อยและกลบั เข้าหอ้ งเรียน 5. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ - ลกู บอล 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตการเล่นและการออกกาลงั กาย 2) สังเกตการสง่ บอลข้ามศีรษะ 3) สังเกตการปฏบิ ัติตามข้อตกลง 4) สังเกตการเกบ็ ของเขา้ ที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ี่ 3 วนั ที่ 3 สาระการเรียนรูย้ อ่ ย การเก็บของเข้าท่ี เก็บวสั ดุ อุปกรณ์ 1. ชอ่ื กจิ กรรม เกมการศึกษา 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) เลน่ เกมจับคู่ภาพทีส่ ัมพนั ธ์กันได้ 2) ปฏิบตั ิตามข้อตกลงได้ 3) เกบ็ ของเลน่ เขา้ ที่ได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) การสงั เกตส่งิ ตา่ งๆโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั 1) การเล่นเกม 2) จบั คภู่ าพท่สี มั พนั ธ์กันได้ 2) การเลน่ กลุ่มย่อย 4. วิธีการจดั กิจกรรม 1) ครแู นะนาอปุ กรณ์ พร้อมทั้งสาธิตวิธกี ารเลน่ เกมจบั คภู่ าพที่สมั พนั ธก์ นั 2) แบง่ กลุ่มเด็กออกเป็นกลุม่ กลุม่ ละ 3 – 4 คน โดยใหเ้ ด็กแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั สังเกตภาพและจับคเู่ กม จับคภู่ าพทส่ี มั พันธ์กัน กล่มุ ไหนจบั คูภ่ าพทสี่ ัมพนั ธก์ ันไดค้ รบก่อนเป็นผชู้ นะ 3) เดก็ เลน่ เกมจับคภู่ าพทสี่ มั พนั ธก์ ันอีกคร้ัง 4) ขณะเด็กเลน่ เกมครคู อยแนะนาและคอยดแู ลอย่างใกล้ชิด 5) เมอื่ สัญญาณหมดเวลา เด็กช่วยกนั เกบ็ อุปกรณ์การเล่นเกมเข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ - เกมจับคจู่ ับคภู่ าพทส่ี มั พนั ธก์ นั 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการจบั คจู่ บั คภู่ าพท่ีสัมพันธก์ ัน 2) สังเกตการปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง 3) สงั เกตการเก็บของเลน่ เข้าที่

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วนั ที่ 4 สาระการเรียนรู้ยอ่ ย การปฏิบัติตนในการใชห้ ้องนาอยา่ งถูกวธิ ี 1. ชือ่ กจิ กรรม เคล่ือนไหวและจงั หวะ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงได้ 2) เคล่ือนไหวรา่ งกายพร้อมอุปกรณ์ได้ 3) มคี วามสขุ ในการเคลือ่ นไหว 3. สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) การเคล่ือนไหวตามข้อตกลง 1) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ 2) การแสดงออกอยา่ งสนุกสนาน 3) การเคล่อื นไหว 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรม 1) เดก็ เคลือ่ นไหวรา่ งกายโดยการใหห้ าพ้นื ที่ของตนเอง เชน่ การเดิน การกระโดด การวิ่ง และการคลานไปรอบๆ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะ และสญั ญาณ ชา้ – เรว็ – หยุด 2) เด็กได้ยินสญั ญาณ “หยดุ ” แต่ละคร้ังให้ทาทา่ ทางตามคาส่ังทีละคาสงั่ เชน่ ชมู ือ แตะบา่ แตะเอว แตะขา 3) ครูแจกบัตรอปุ กรณ์ในการใชใ้ นหอ้ งน้าใหเ้ ด็กคนละ 1 ใบ เชน่ บัตรภาพขนั นา้ โอ่งน้า หอ้ งน้า ฯลฯ 4) ครูเคาะจงั หวะให้เด็กปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงเช่น เคาะ 1 ครงั้ ชูบัตรภาพขนั นา้ เคาะ 2 คร้งั ชูบตั รภาพโอ่งน้าเคาะ 3 คร้ัง ชบู ตั รภาพหอ้ งน้า 5) ทบทวนคาสั่งใหป้ ฏบิ ัติซ้าจนเดก็ ทาได้ 6) ให้สัญญาณหมดเวลา เดก็ นง่ั พักผ่อน 3 – 5 นาที 5. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) กลอง 1) ฉ่ิง 3) บตั รภาพของใชใ้ นห้องนา้ 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการฟังการปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง 2) สงั เกตการเคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ 3) สังเกตความสนใจในการเคลื่อนไหว

แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 3 วันที่ 4 สาระการเรยี นรู้ยอ่ ย การปฏิบตั ิตนในการใชห้ อ้ งนาอย่างถกู วธิ ี 1. ชอ่ื กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์ ความคิดรวบยอด หอ้ งนา้ หมายถงึ หนง่ึ ในสิง่ อานวยความสะดวกที่ขาดไม่ได้ในชวี ติ ประจาวันของทุกคนตัง้ แตต่ นื่ นอนจนถงึ เขา้ นอน ห้องน้าท่ีสะอาดนา่ ใชน้ ้ันไม่ควรมีกลิน่ เหมน็ เป็นสิง่ ทีท่ ุกคนใชเ้ ปน็ ประจาการปฏิบตั ติ น ในการใช้ห้องน้าอย่างถกู สุขลักษณะ การใช้ห้องน้าท่ีถกู ต้อง เร่ิมตัง้ แต่ นั่งบนโถส้วม ไม่ท้ิงวัสดุอนื่ นอกจาก กระดาษชาระลงในโถสว้ ม ราดนา้ หรอื กดชกั โครกทุกครงั้ หลงั การใชส้ ้วม ล้างมือทุกครัง้ หลังการใช้ส้วม 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกวธิ ีการปฏบิ ัติตนในการใช้ห้องน้าอย่างถูกวิธีได้ 2) รว่ มสนทนากบั ครูและเพอื่ นได้ 3) อา่ นอกั ษร A - Z ได้ 4) พดู ประโยค GOOD MORNING ได้ 2. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การปฏบิ ัติตนในการใชห้ อ้ งนา้ 1) การแสดงความคดิ ความรู้สึกดว้ ยคาพูด 2) อกั ษร A – Z 2) การอา่ นในหลายรูปแบบ 3) ประโยค GOOD MORNING 3) การสังเกตสิ่งต่างๆ 4. วิธีการจัดกจิ กรรม 1) เด็กและครูร่วมกนั สนทนาถงึ การใช้ห้องนา้ วา่ ควรมีลกั ษณะ และมีประโยชน์อยา่ งไร ครูนาภาพ หอ้ งน้าใหเ้ ด็กดู ตัง้ คาถาม เช่น เวลาเขา้ หอ้ งนา้ ใช้เสร็จแล้วเด็กๆควรปฏิบัตอิ ยา่ งไร 2) ครนู าอปุ กรณ์ของใชใ้ นหอ้ งน้ามาให้เด็กดู และสนทนาถึงชื่ออุปกรณ์ของใชใ้ นห้องน้ามอี ะไรบ้าง 3) ครนู าบัตรอักษร A – Z ให้เดก็ ดอู ่านให้เดก็ ฟัง เด็กอ่านตาม 4) ครูชบู ตั รคาประโยค GOOD MORNING ให้เดก็ ดูและอา่ นให้เด็กฟังเด็ฏอา่ นตามพรอ้ มสนทนา ถึงความหมายของคาศัพทข์ องประโยคนว้ี ่าหมายถึงสวัสดีตอนเชา้ 5) ครพู าเดก็ ไปห้องนา้ หอ้ งส้วมแนะนาวิธใี ชห้ ้องนา้ และสาธติ วิธีใชจ้ ากน้ันใหเ้ ดก็ ทดลองใช้ห้องนา้ ลา้ งมอื แลว้ พาเด็กกลับเขา้ หอ้ งเรยี น 6) เด็กและครรู ่วมกนั สรปุ ถึงวธิ กี ารปฏบิ ัตติ นในการใชห้ ้องนา้ อยา่ งถูกวิธี และมีประโยชนอ์ ย่างไร 5. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1) บัตรภาพหอ้ งน้า 2) ขันนา้ 3) ห้องน้า 4) โอง่ นา้ 5) บัตรอักษร A - Z 6) บัตรคาประโยค GOOD MORNING

6. การประเมินผล 2) สังเกตการสนทนาตอบคาถาม 1) สงั เกตการบอกวิธีการปฏบิ ัตติ นในการใช้ห้องนา้ 4) สงั เกตพูดประโยค GOOD MORNING 3) สงั เกตการอา่ นอกั ษร A - Z

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 3 วนั ที่ 4 สาระการเรยี นรู้ยอ่ ย การปฏิบัตติ นในการใช้ห้องนาอย่างถูกวธิ ี 1. ชือ่ กิจกรรม สร้างสรรค์ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) ฉีกปะภาพของใช้ในห้องน้าได้ 2) วาดรูปสีเ่ หล่ียมตามแบบได้ 3) บอกชื่อผลงานได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั 1) การฉีกปะกระดาษ 1) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี 2) การวาดรูปสเี่ หล่ยี มตามแบบ 2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นสอ่ื วัสดตุ ่างๆ 3) การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ 4. วิธกี ารจัดกจิ กรรม 1) ครจู ดั เตรยี มกิจกรรมไว้ 2 กิจกรรม คือการฉกี ปะของใช้ในหอ้ งนา้ และการวาดรปู สเี่ หลี่ยมตามแบบ 2) ครูแนะนาอปุ กรณ์ วธิ ีการปฏบิ ตั ิและทบทวนข้อตกลงในการปฏิบัตกิ ิจกรรม การฉีกปะของใชใ้ น ห้องน้าและการวาดรูปสเี่ หลยี่ มตามแบบดงั นี้ 2.1 การฉีกปะของใช้ในหอ้ งนา้ - ครูแนะนาอุปกรณใ์ นการฉีกปะกระดาษ - ครสู าธิตการฉกี ปะกระดาษโดยนากระดาษสีมาปะตดิ ในใบงาน 2.2 การวาดรูปสี่เหล่ียมตามแบบ - ครแู นะนาอปุ กรณ์ในการวาดรปู สี่เหลีย่ มตามแบบและสาธติ การวาดรูปสเ่ี หลย่ี มตามแบบ - เด็กวาดรูปส่เี หลย่ี มตามแบบแล้วต้ังช่อื ผลงานของตนเอง 3) เดก็ เลือกปฏิบัติกิจกรรมตามความสนใจ แล้วนาผลงานมาบอกชอื่ และเลา่ เร่อื งให้ครูจดบนั ทกึ 4) ให้อาสาสมัครเลือกผลงานของตนเอง ระหวา่ งการฉีกปะของใชใ้ นห้องน้าและการวาดรปู สีเ่ หล่ยี ม ตามแบบมาเลา่ ใหเ้ พื่อนฟงั 5) เม่อื หมดเวลาเดก็ ทกุ คนชว่ ยกนั จดั เก็บอปุ กรณ์ แล้วลา้ งมอื หลงั การปฏบิ ัติกจิ กรรมให้เรยี บร้อย 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1) กระดาษสี 2) ดนิ สอ 3) ใบงานการฉกี ปะ 4) ใบงานการวาดรูปสเ่ี หลยี่ ม 5) กาว 6) สีเทียน 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการฉกี ปะกระดาษ 2) สงั เกตการวาดรปู สเ่ี หล่ียม 3) สังเกตการบอกช่ือผลงาน

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ท่ี 3 วนั ท่ี 4 สาระการเรียนรู้ยอ่ ย การปฏิบัตติ นในการใช้ห้องนาอยา่ งถกู วธิ ี 1. ชื่อกจิ กรรม เสรี 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) สังเกต สารวจ ทดลอง คน้ ควา้ คดิ แกป้ ญั หาในการทางานและการเลน่ เปน็ กล่มุ 2) มีประสบการณต์ รงในการใชภ้ าษา มจี นิ ตนาการ ความคดิ สร้างสรรค์ ต่องานและสง่ิ ทตี่ นเล่น 3) มวี นิ ัย ความรบั ผดิ ชอบมมี ารยาท ช่วยเหลือ แบ่งปนั อดทนรอคอยและมจี ติ สาธารณะ 4) มีพัฒนาการทางรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปญั ญาอยา่ งสมดลุ รอบด้าน 3. สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ - การเล่นตามศูนยเ์ ป็นการเล่นในศูนยป์ ระสบการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งอิสระผ่านการเลน่ ทดลอง คิดค้นคว้าสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาและการแสวงหาคาตอบ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความคิด จินตนาการ ภาษาควบคู่ไปกับความมีวินัย ความรับผดิ ชอบ การรอคอย การแบง่ ปัน การใฝ่รแู้ ละการอยู่รว่ มกันเพื่อพฒั นาการเขา้ สู่สังคม ประสบการณส์ าคัญ 1) การเล่นเครอื่ งเลน่ สัมผัส 2) การตอ่ ของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) การเล่นและการทางานรว่ มกบั ผ้อู ืน่ 4) การรบั รู้ แสดงความรสู้ กึ ผ่านสื่อ วสั ดุ ของเล่นและผลงาน 5) การเล่นรายบคุ คลและเล่นเป็นกลมุ่ 6) การสร้างสรรคผ์ ลงาน 4. วธิ ีการจัดกจิ กรรม 1) ครแู นะนาการเลน่ การปฏิบัตติ นในการเลน่ ศนู ย์กิจกรรมเสรีตามข้อตกลง 2) เด็กเลอื กเลน่ ศนู ย์กจิ กรรมเสรีตามความสนใจ 3) ครใู หค้ าแนะนา กระตนุ้ ส่งเสรมิ ใหค้ าชมเชยเพอ่ื ให้เด็กเกิดการพัฒนาอย่างสมดุลรอบด้านเต็มตามศักยภาพ 4) ให้เด็กเล่นอย่างอิสระหลงั จากเลิกเลน่ ใหเ้ ดก็ ทาความสะอาดอปุ กรณ์ พร้อมกบั เก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รียบรอ้ ย 5. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ - อปุ กรณ์ตา่ งๆ ทจี่ ัดไวต้ ามศนู ยก์ จิ กรรมเสรี ต้องสอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ ับหนว่ ยการเรียนรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตพฤตกิ รรมการสารวจ ทดลอง คน้ คว้า คิดแกป้ ญั หาในการทางานและการเลน่ เป็นกล่มุ 2) สังเกตการใชภ้ าษา ตรวจผลงานการปฏิบัติกจิ กรรมการคิดสรา้ งสรรค์ ต่องานและสิง่ ทเ่ี ลน่ 3) สังเกตความมีวินยั ความรับผดิ ชอบ มารยาท การช่วยเหลือ แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมีจิตสาธารณะ 4) สงั เกตความก้าวหนา้ ของพัฒนาการทัง้ 4 ด้าน หมายเหตุ ครปู รับเปลี่ยนสื่อ วัสดอุ ปุ กรณ์ในศนู ยใ์ ห้สมั พันธก์ ับหนว่ ยการเรยี นรตู้ ามความพร้อมและ จดุ เน้นของสถานศึกษา

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาห์ที่ 3 วันที่ 4 สาระการเรียนรยู้ ่อย การปฏิบตั ิตนในการใช้ห้องนาอย่างถกู วธิ ี 1. ชือ่ กจิ กรรม กลางแจ้ง 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ มอญซ่อนผา้ ได้ 2) ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) การเลน่ มอญซ่อนผา้ 1) การเล่นเกม 2) การปฏิบตั ิตามข้อตกลง 2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี 3) การเล่นรายกลุ่มเล็ก 4. วิธกี ารจัดกิจกรรม 1) เด็กและครูสนทนาถงึ ข้อตกลงในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเมื่อลงไปถึงทีส่ นาม 2) เด็กเคลอ่ื นไหวพื้นฐานโดยการให้หาพื้นท่ขี องตนเอง เช่น การเดินไปข้างหน้า การเดินถอยหลัง การกระโดด การวิง่ และการคลาน 3) ครสู นทนาและแนะนากฎ กติกา วิธเี ลน่ มอญซอ่ นผา้ โดยแบง่ เด็กออกเปน็ กลุ่มๆละ 5-6 คน 4) เดก็ จับมือเปน็ วงกลม มีคนหนง่ึ อยนู่ อกวงคนอน่ื ๆ นัง่ ลอ้ มวงให้ชดิ กนั แล้วรอ้ งเพลง คนทีเ่ ปน็ มอญ ถือผ้าไวใ้ นมือ เดินวนอยู่นอกวงระหว่างนนั้ จะท้ิงผา้ ไว้หลงั ใครกไ็ ด้ แต่ต้องพรางไว้ทาเป็นวา่ ยังถือผ้า อย่เู ม่อื เดนิ กลับมาผ้ายังอยทู่ ีเ่ ดิม ก็หยิบผา้ ไล่ตีผู้นั้นให้วงิ่ หนีไปรอบๆ วง จนถึงทวี่ ่าง จงึ นัง่ ลงได้ ผู้ เป็นมอญจะเดนิ วนต่อไป หาทางวางผ้าใหผ้ ้อู น่ื ใหมค่ นทนี่ ่ังลอ้ มวงจะใช้มือคลาผ้าว่าอยู่ขา้ งหลังตัวเอง หรือไม่ โดยไม่หันไปดู และไม่บอกผอู้ ื่นดว้ ยถ้าใครรสู้ ึกตัวว่าผ้าอยูข่ ้างหลงั และคลาพบ จะหยบิ ผา้ วง่ิ ไลต่ มี อญไปรอบวง 1 รอบ มอญต้องรบี วงิ่ หนีมาน่ังแทนท่ีคนไล่ สว่ นคนไลต่ ้องเป็นมอญแทน ครคู อย แนะนาดแู ลความปลอดภยั อยา่ งใกลช้ ดิ 5) เมื่อสัญญาณหมดเวลา เดก็ พักคลายกล้ามเนื้อขา โดยนง่ั เหยยี ดขาตามสบาย หายใจลึกๆ ล้างมือ ให้สะอาดก่อนกลบั เขา้ หอ้ งเรียน 5. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ - ผา้ ขนหนู 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการเล่นมอญซอ่ นผา้ 2) สังเกตการปฏิบตั ิตามข้อตกลง

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วนั ที่ 4 สาระการเรียนรยู้ ่อย การปฏิบตั ิตนในการใชห้ ้องนาอยา่ งถูกวธิ ี 1. ช่ือกจิ กรรม เกมการศึกษา 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) เล่นเกมต่อภาพได้ 2) เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างได้ 3) เก็บของเลน่ เข้าที่ได้ 4) ปฏิบัตติ ามข้อตกลงได้ 3.สาระการเรียนรู้ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) เกมภาพตดั ต่อภาพห้องนา้ 1) การสงั เกตสง่ิ ตา่ งๆ การตอ่ เขา้ ดว้ ยกัน 2) การเกบ็ ของเล่นเขา้ ท่ี 2) การคดิ การแก้ปญั หาในการเลน่ 3) การทากจิ กรรมกลุ่มเลก็ 4. วธิ ีการจดั กิจกรรม 1) ครูสรา้ งข้อตกลงกับเด็ก แนะนาอุปกรณ์ พร้อมทั้งสาธติ วธิ ีการเลน่ เกมภาพตัดต่อภาพหอ้ งนา้ 2) แบ่งกลุ่มเดก็ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน โดยให้เดก็ แต่ละกล่มุ ช่วยกันสังเกตและชว่ ยกันตอ่ ภาพ หอ้ งนา้ ใหเ้ ปน็ ภาพทส่ี มบูรณ์ กลมุ่ ไหนจับคภู่ าพเหมือนได้ครบก่อนเปน็ ผ้ชู นะ 3) เดก็ เลน่ เกมจับคภู่ าพเหมือนกันอีกคร้งั 4) ขณะเด็กเล่นเกมครูคอยแนะนาและคอยดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ 5) เมือ่ เลน่ เสรจ็ แล้ว สามารถนาเกมที่เคยเลน่ มาแล้ว มาเล่นกับเพื่อนได้ 6) เม่ือสญั ญาณหมดเวลา เด็กช่วยกันเกบ็ อุปกรณ์การเล่นเกมเขา้ ทใ่ี ห้เรียบร้อย 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ - เกมภาพตดั ต่อภาพเด็กเข้าหอ้ งนา้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตการตอ่ ภาพตดั ต่อ 2) สังเกตการเปรยี บเทียบความเหมอื นและความแตกต่าง 3) สงั เกตการเก็บของเล่นเข้าท่ีของเดก็ 4) สังเกตการปฏิบตั ิตามข้อตกลง

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี 3 วันที่ 5 สาระการเรียนร้ยู อ่ ย การปฏิบตั ิตนตามข้อตกลงของห้องเรียน โรงเรียน 1. ชื่อกจิ กรรม เคลอื่ นไหวและจังหวะ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) ปฏบิ ัติตามข้อตกลงได้ 2) เคลอ่ื นไหวพร้อมอุปกรณ์ได้ 3) มีความสขุ ในการเคลือ่ นไหว 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การเคลื่อนไหวตามข้อตกลง 1) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ 2) เคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ 2) การเคล่ือนไหวพรอ้ มวัสดุอุปกรณ์ 3) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ 4. วธิ กี ารจดั กจิ กรรม 1) เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายในท่าพ้ืนฐานไปรอบๆ บรเิ วณ อย่างอิสระตามจังหวะทคี่ รูเคาะ โดยไมช่ นกนั เมอื่ ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้เด็กหยดุ เคล่ือนไหวในท่าน้ันทันที 2) แจกริบบิ้นสตี ่างๆให้เด็กปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงเช่น ให้ชูรบิ บิ้น เดนิ ไปรอบๆวงกลม ถ้าเคาะ 2 ครัง้ ให้ หยดุ ทนั ที และโดยให้เดก็ จับกลุ่มรบิ บ้นิ ที่มสี เี ดียวกนั เปน็ วงกลม จากนั้นให้ปฏิบัติตามเช่น ชูริบบ้ิน ขึ้นบน ลงลา่ ง ชูไปทางซ้าย ชูไปทางขวา นาริบบิ้นมาเรียงเป็นเสน้ ตรง เปน็ วงกลม 3) ทบทวนคาสั่งให้เด็กปฏบิ ัติซา้ ๆจนทาได้ 5) บอกสัญญาณหมดเวลา เด็กช่วยกันเก็บอุปกรณ์เข้าท่ี เดก็ นง่ั พกั ผอ่ นอริ ิยาบถ 3 – 5 นาที 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1) เคร่อื งเคาะจังหวะ 2) ริบบน้ิ สตี า่ งๆ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการปฏิบัตขิ ้อตกลง 2) สังเกตการเคล่ือนไหวพรอ้ มอุปกรณ์ 3) สงั เกตการร่วมกิจกรรม

แผนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ สปั ดาหท์ ่ี 3 วนั ที่ 5 สาระการเรยี นรยู้ ่อย การปฏิบัติตนตามข้อตกลงของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น 1. ชอ่ื กิจกรรม เสริมประสบการณ์ ความคิดรวบยอด การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงของห้องเรียน โรงเรียน หมายถึง การทีเ่ ด็กปฏิบตั ิตนตามกฏ ระเบยี บ กติกา หรอื ข้อตกลงท่มี กี ารกาหนดไว้ลว่ งหน้าเพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิร่วมกัน การสร้างขอ้ ตกลง เปน็ การทค่ี รูใชค้ าถามให้เดก็ รว่ มกันคิดถงึ การปฏิบตั ติ นทแี่ สดงถงึ ลักษณะนสิ ยั ที่พึงประสงคใ์ นการเลน่ หรอื ทางานรว่ มกนั การสรา้ งกฎข้อตกลงก่อนการทากจิ กรรม จะชว่ ยทาใหเ้ ด็กตอ้ งรกั ษาวินัยทั้งวนิ ัยใน ตนเอง และวนิ ยั ต่อผู้อ่ืน รจู้ กั การรอคอย ลาดบั ก่อนหลงั การเก็บของเล่นหรือวสั ดุอปุ กรณ์หลังทา กจิ กรรมเสรจ็ 2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกการปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรยี นได้ 2) รว่ มสนทนากบั ครแู ละเพ่ือนได้ 3) บอกคาศพั ท์ภาษาองั กฤษ BOY ,GIRL ,TEACHER 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ 1) การสนทนา ตอบคาถาม 1) การแสดงความคดิ ความร้สู ึกดว้ ยคาพูด 2) การปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรยี น 2) การร่วมกาหนดข้อตกลงของห้องเรียน 3) การทากจิ กรรมร่วมกับผอู้ ืน่ 3) การเป็นสมาชิกทดี่ ีของห้องเรียน 4. วธิ กี ารจัดกิจกรรม 1) ทบทวนประโยคสนทนา คาว่า สวสั ดตี อนเชา้ GOOD MORNING 2) ครูนาบัตรคาศัพท์ประกอบภาพใหเ้ ดก็ ดู ไดแ้ ก่ BOY เดก็ ผู้ชาย GIRL เดก็ ผู้หญงิ และ TEACHER คณุ ครู ให้เด็กอ่านตามครู 3) สนทนาถงึ การปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลงของห้องเรยี น โรงเรยี น เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งข้อตกลง เช่น ไมส่ ่ง เสียงดงั ไมว่ ่งิ บนอาคาร ไมม่ าโรงเรียนสาย เก็บของเล่นหรืออปุ กรณ์หลังทากิจกรรมเสรจ็ เปน็ ตน้ 5) เดก็ และครูร่วมกนั สรุปการปฏิบตั ิตามข้อตกลงและเขียนตดิ ไว้ในชนั้ เรยี นวนั ต่อไป 5. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1) ปา้ ยข้อตกลงในหอ้ งเรยี น 2) บัตรคาศัพท์ BOY เด็กผูช้ าย GIRL เด็กผู้หญิง และTEACHER คุณครู 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง 2) สงั เกตการสนทนา 3) สงั เกตการอ่านคาศพั ท์

แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สปั ดาห์ที่ 3 วันที่ 5 สาระการเรียนรู้ย่อย การปฏิบัตติ นตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น โรงเรียน 1. ช่อื กิจกรรม สรา้ งสรรค์ 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) วาดภาพระบายสีตามจินตนาการได้ 2) พับสีตามจนิ ตนาการได้ 3) บอกชอื่ ผลงานได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) วาดภาพระบายสี 1) การทากจิ กรรมศลิ ปะตา่ งๆ 2) การพบั สี 2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านสอ่ื วัสดุตา่ งๆ 4. วธิ กี ารจัดกิจกรรม 1) ครจู ดั เตรยี มกจิ กรรมไว้ 2 กิจกรรม คือ การวาดภาพระบายสีและการพบั สี 2) ครูแนะนาอปุ กรณ์ วธิ กี ารปฏบิ ตั แิ ละทบทวนข้อตกลงในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมการวาดภาพระบายสแี ละ การพบั สีดงั นี้ 2.1 การวาดภาพระบายสี - ครแู นะนาอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี - เด็กวาดภาพระบายสีตามจินตนาการของตนเอง 2.2 การพบั สี - ครแู นะนาอปุ กรณ์ในการพบั สี - ครูสาธิตการพับสีใหเ้ ด็กดูเปน็ ตัวอย่าง 3) เด็กเลือกปฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ แล้วนาผลงานมาบอกช่ือและเลา่ เร่ืองให้ครูจดบันทึก 4) อาสาสมัครเลอื กผลงานของตนเอง ระหว่างการวาดภาพระบายสีและการพบั สีมาเลา่ ใหเ้ พ่อื นฟงั 5) เดก็ ทุกคนช่วยกนั จดั เก็บอุปกรณใ์ ห้เรยี บร้อย 5. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1) สีเทียน 2) ดินสอ 3) ใบงานการวดภาพ 4) กระดาษ เอ 4 5) สีนา้ 6) ยางลบ 6. การประเมนิ ผล 1) สงั เกตการวาดภาพ 2) สงั เกตการพบั สี 3) ตรวจผลงานจากการวาดภาพและการพบั สี 4) สงั เกตการบอกชอ่ื ผลงาน

แผนการจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วันที่ 5 สาระการเรยี นรยู้ ่อย การปฏิบัตติ นตามข้อตกลงของห้องเรยี น โรงเรยี น 1. ช่อื กจิ กรรม เสรี 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) สงั เกต สารวจ ทดลอง คน้ คว้า คิดแกป้ ัญหาในการทางานและการเล่นเปน็ กลุ่ม 2) มปี ระสบการณ์ตรงในการใชภ้ าษา มจี ินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ต่องานและสิ่งทต่ี นเล่น 3) มีวินยั ความรับผิดชอบมีมารยาท ช่วยเหลอื แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมีจติ สาธารณะ 4) มีพัฒนาการทางรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คมและสตปิ ญั ญาอยา่ งสมดุลรอบด้าน 3. สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรียนรู้ - การเลน่ ตามศูนย์เป็นการเล่นในศนู ยป์ ระสบการณต์ ่าง ๆ อย่างอิสระผ่านการเลน่ ทดลอง คิดค้นคว้าสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาและการแสวงหาคาตอบ ซ่ึงจะช่วยพัฒนาความคิด จินตนาการ ภาษาควบคู่ไปกับความมีวินัย ความรับผิดชอบ การรอคอย การแบง่ ปัน การใฝ่ร้แู ละการอยรู่ ่วมกนั เพอ่ื พัฒนาการเขา้ สู่สังคม ประสบการณ์สาคัญ 1) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สมั ผสั 2) การต่อของ บรรจุ เทและแยกสว่ นประกอบ 3) การเลน่ และการทางานรว่ มกบั ผ้อู ืน่ 4) การรับรู้ แสดงความร้สู ึกผา่ นสอื่ วสั ดุ ของเลน่ และผลงาน 5) การเลน่ รายบุคคลและเล่นเปน็ กลุ่ม 6) การสร้างสรรค์ผลงาน 4. วธิ ีการจดั กจิ กรรม 1) ครแู นะนาการเล่นการปฏบิ ตั ิตนในการเล่นศนู ย์กิจกรรมเสรีตามข้อตกลง 2) เด็กเลอื กเล่นศูนยก์ ิจกรรมเสรีตามความสนใจ 3) ครูใหค้ าแนะนา กระตนุ้ สง่ เสรมิ ให้คาชมเชยเพ่ือให้เด็กเกิดการพัฒนาอย่างสมดุลรอบดา้ นเตม็ ตามศักยภาพ 4) ให้เดก็ เลน่ อยา่ งอิสระหลงั จากเลกิ เลน่ ใหเ้ ดก็ ทาความสะอาดอปุ กรณ์ พรอ้ มกบั เกบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้เรยี บรอ้ ย 5. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ - อปุ กรณต์ ่างๆ ทจ่ี ัดไว้ตามศนู ย์กจิ กรรมเสรี ต้องสอดคลอ้ งสมั พนั ธก์ บั หนว่ ยการเรียนรู้ 6. การประเมนิ ผล 1) สังเกตพฤตกิ รรมการสารวจ ทดลอง ค้นควา้ คดิ แก้ปัญหาในการทางานและการเล่นเป็นกล่มุ 2) สังเกตการใช้ภาษา ตรวจผลงานการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการคิดสร้างสรรค์ ตอ่ งานและส่งิ ท่ีเลน่ 3) สังเกตความมวี นิ ัย ความรับผิดชอบ มารยาท การชว่ ยเหลือ แบง่ ปนั อดทนรอคอยและมจี ติ สาธารณะ 4) สังเกตความกา้ วหน้าของพัฒนาการท้ัง 4 ด้าน หมายเหตุ ครูปรบั เปลย่ี นสอ่ื วัสดุอุปกรณ์ในศนู ย์ให้สมั พันธก์ ับหน่วยการเรียนรู้ตามความพรอ้ มและ จุดเนน้ ของสถานศึกษา

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วนั ที่ 5 สาระการเรียนรู้ย่อย การปฏิบัติตนตามขอ้ ตกลงของหอ้ งเรยี น โรงเรียน 1. ชือ่ กจิ กรรม กลางแจ้ง 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) เลน่ เคร่อื งเล่นสนามได้ 2) ปฏิบัติตามข้อตกลงได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ 1) การเล่นเครือ่ งเลน่ สนาม 1) การเคลื่อนไหวอยูก่ บั ที่ 2) การปฏบิ ัติตามข้อตกลง 2) การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่ 3) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอย่างอสิ ระ 4. วิธกี ารจดั กิจกรรม 1) เดก็ และครูยืนเปน็ รปู วงกลมแล้วอบอุ่นรา่ งกายด้วยท่าต่างๆ เชน่ กระโดดตบ แตะสลับ หมุนเอว หมนุ ไหล่ หมนุ เขา่ สลัดมอื แตะสลบั วิ่งอยู่กบั ท่ี 2) ครสู ร้างข้อตกลง ข้อควรระวงั ในการเล่นเครอ่ื งเล่น แนะนาและสาธติ การเล่นเครื่องเล่นสนาม ทถ่ี กู วิธีใหเ้ ดก็ ทราบ 3) เดก็ เลอื กเลน่ เคร่อื งเล่นสนามตามความสนใจ และความชอบ โดยครคู อยดูแลอย่างใกลช้ ดิ และเนน้ ย้าเรื่องการแบง่ ปันกนั กนั เล่น ในการเลน่ ด้วยกันกบั เพื่อนๆ 4) เมอ่ื สญั ญาณหมดเวลา ครนู าเด็กไปทาความสะอาดรา่ งกายและกลบั เข้าห้องเรยี น 5. ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1) เครื่องเลน่ สนาม 2) นกหวีด 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการเลน่ เครื่องเลน่ สนาม 2) สงั เกตการปฏิบัตติ ามข้อตกลง

แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ สัปดาหท์ ่ี 3 วันที่ 5 สาระการเรยี นรูย้ ่อย การปฏบิ ัติตนตามข้อตกลงของห้องเรยี น โรงเรียน 1. ชอ่ื กจิ กรรม เกมการศึกษา 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) เลน่ เกมจบั คภู่ าพกับจานวนได้ 2) เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตา่ งได้ 3) เกบ็ เกมเข้าท่ีได้ 3. สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั 1) เกมจบั คภู่ าพกบั จานวน 1) การสงั เกตส่งิ ต่างๆโดยใช้ประสาทสมั ผสั ด้วย การมองอย่างเหมาะสม 2) การทากจิ กรรมรายกลุม่ เล็ก 3) การจาแนกประเภท การจัดหมวดหมู่ส่ิงของ 4. วธิ กี ารจดั กจิ กรรม 1) ครูแนะนาอปุ กรณ์ พร้อมทงั้ สาธิตวิธีการเลน่ เกมจับคู่ภาพกับจานวน 2) แบง่ กลุ่มเด็กออกเปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ3 – 4 ตามกลุม่ สนใจโดยให้เดก็ แตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั จับคู่ภาพกบั จานวนกับจานวนกลมุ่ ไหนจบั คจู่ บั คู่ของใชก้ บั จานวนไดค้ รบกอ่ นเปน็ ผ้ชู นะ 3) เด็กเลน่ เกมจบั คภู่ าพของใชก้ บั จานวนซา้ อกี ครั้ง 4) ขณะเด็กเล่นเกมครคู อยแนะนาและคอยดแู ลกลุ่มที่มปี ัญหาในการเลน่ เกมอย่างใกล้ชดิ 5) เมื่อสัญญาณหมดเวลา เด็กช่วยกันเก็บอปุ กรณก์ ารเล่นเกมเข้าทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 5. สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้ - เกมจับค่ภู าพกบั จานวน 6. การประเมินผล 1) สงั เกตการจับคภู่ าพกับจานวน 2) เปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง 3) สังเกตการเก็บเกมเขา้ ท่ี

7. ภาคผนวก เพลง “เก็บของ” (อาไพ สุจริตกลุ ) เก็บ เกบ็ เกบ็ มาชว่ ยกันเก็บของที เร็วคนดี มาเก็บเขา้ ทก่ี นั เอย เพลง “อย่าทิง” (เตอื นใจ ศรีมารตุ ) อยา่ ท้ิง อย่าท้ิง อยา่ ทง้ิ ท้งิ แลว้ จะสกปรก ถ้าเราเห็นมนั รก ตอ้ งเก็บ ตอ้ งเกบ็ ต้องเกบ็

8. บันทกึ ผลการจดั ประสบการณ์ ข้อดี ........................................................................................................................ ...................................... ........................................................................................................................................................................ ข้อควรปรับปรุง ........................................................................................................................ ...................................... ......................................................................................................................... ................................................ แนวทางการแกไ้ ข .............................................................................................................................................................. ........................................................................................................................ .................................................