คู่มอื หตั ถการการผ่าฝี Incision & Drainage รายวิชาการรกั ษาพยาบาลเบื้องต้น (พย.1426) วิทลยั พยาบาลบรมราชชนนี พทุ ธชนิ ราช สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข
คมู่ ือการผา่ ฝี จดั ทาโดย นางสาวอารวี รรณ ปนั นา รหัสนักศึกษา 61102301176 นกั ศกึ ษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชน้ั ปที ่ี 4 รุน่ ท่ี 70 เสนอ อาจารย์ กีรติ กจิ ธีระวุฒวิ งษ์ รายงานฉบบั น้ีเป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ า การรักษาพยาบาลเบอ้ื งตน้ (พย.1426) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 วทิ ลัยพยาบาลบรมราชชนนี พทุ ธชนิ ราช สถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสขุ
ก คานา การเรียนการสอนรายวิชารายวิชาการรักษาพยาบาลเบ้ืองต้น (พย.1426) เป็นการเรียนการสอนในภาคทฤษฎีท่ีนักศึกษาได้ เรียนออนไลน์ ซึ่งก่อนการฝึกปฏิบัติจริงนักศึกษาจาเป็นจะต้องฝึกฝนทักษะการปฏิบัติการพยาบาลต่าง ๆ ให้สามารถปฏิบัติได้อย่าง ถูกต้องตามข้ันตอน และมีความคล่องแคล่วในการปฏิบัติก่อน เพ่ือที่จะเป็นส่วนช่วยให้นักศึกษาพยาบาลเกิดการเรียนรู้ และมีทักษะ ในการปฏบิ ตั ิการพยาบาลทด่ี ี ค่มู อื หตั ถการการผ่าฝี Incision & Drainage รายวชิ าการรกั ษาพยาบาลเบ้ืองตน้ (พย.1426) ฉบบั น้ี จัดทาขึน้ เพอ่ื เป็น แนวทางสาหรบั นกั ศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทลัยพยาบาลบรมราชชนนี พุทธชินราช สถาบนั พระบรมราชชนก กระทรวง สาธารณสุข คณะพยาบาลศาสตร์ ในการทาหตั ถการการผา่ ฝี Incision & Drainage ท่สี อดคล้องกบั ความตอ้ งการในการเรยี นการ สอนไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสมต่อการเรยี นรู้ของนักศกึ ษา ส่งเสริมใหน้ ักศกึ ษาเกิดความเขา้ ใจในบทเรียน และเกดิ ทักษะในการ ปฏิบัติการพยาบาลมากขึ้น หากผดิ พลาดประการใดขออภัย ณ ท่นี ้ี อารวี รรณ ปนั นา ผ้จู ดั ทา
สารบญั ข เนอื้ หา หนา้ ที่ คานา ก สารบัญ ข ลกั ษณะของฝี 1 วตั ถปุ ระสงคข์ องการทาหัตถการผา่ ฝี 4 การเตรียมผู้ปว่ ยกอ่ นทาหัตถการผ่าฝี 4 อุปกรณก์ ารผ่าฝี 5 ขน้ั ตอนการทาหัตรการผา่ ฝี 12 คาแนะนาหลังการผ่าฝี 18
1 ฝี (Abscess) คอื ตุม่ หนองอักเสบสะสมใตผ้ วิ หนงั หนองมีกลิน่ เหมน็ เจบ็ ปวดเม่ือสัมผสั โดน และกอ่ ตัวขยายใหญข่ ้นึ เรอ่ื ย ๆ ประกอบด้วยเซลลเ์ มด็ เลือดขาว เนอ้ื เย่ือทีต่ ายแล้ว และเชื้อโรค ซง่ึ มักเปน็ การติดเชื้อแบคทีเรยี ฝีสามารถเกิดข้ึนได้ทุกส่วนของรา่ งกาย ทง้ั อวยั วะภายนอกและอวยั วะภายใน หาก เปน็ ฝที ผ่ี ิวหนังภายนอกท่มี ีขนาดเลก็ และไม่มีการเจบ็ ป่วยรุนแรง อาการอาจจะดขี ึ้นและฝอี าจจะหายไปเอง แต่หากเป็นฝีที่อวัยวะภายใน จะคอ่ นขา้ งเสี่ยงต่อ ปัญหาสขุ ภาพ ผู้ปว่ ยจาเป็นต้องได้รับการรักษาอยา่ งถูกต้องเหมาะสม ฝี แบ่งเป็น 2 ประเภท ตามบรเิ วณท่ีเกิด ได้แก่ ฝีท่ีผิวหนงั เป็นฝที ี่ก่อตวั ขึ้นบรเิ วณใตผ้ ิวหนงั โดยบริเวณรากผมหรือขนท่เี กดิ การตดิ เชื้อจะพัฒนาจนเกิดฝี มีอาการ คือ ฝีเกดิ การอกั เสบบวมแดง เจบ็ ปวด รูส้ ึก แสบร้อน ในบางครง้ั การติดเช้อื สามารถเกดิ ขน้ึ ในทรวงอกของผู้หญิงที่ใหน้ มบตุ รไดก้ ลายเปน็ ฝที ีเ่ ต้านม และบริเวณต่อมใตผ้ วิ หนงั ท่ีแคมอวัยวะเพศหญิงอาจ เกดิ การอักเสบกลายเปน็ ฝที ี่เรียกว่า ฝตี ่อมบาร์โธลิน (Bartholin's Abscess)
2 ฝีท่อี วัยวะภายใน เปน็ ฝีท่กี ่อตัวขน้ึ บรเิ วณอวัยวะภายใน หรือในบรเิ วณทีว่ า่ งระหว่างอวยั วะภายในร่างกาย อาการแสดงขึน้ อยกู่ บั บรเิ วณที่เกดิ ฝี โดยฝภี ายในรา่ งกายมัก เกดิ จากอาการเจบ็ ปว่ ยอยา่ งอื่นทีส่ ง่ ผลทาให้เกิดฝี เชน่ การตดิ เช้ือในตบั ทาให้เกิดฝีในตับ การตดิ เชอ้ื ในเหงือกและฟนั ทาให้เกิดฝแี ละฟนั เป็นหนองได้ เป็นต้น ตัวอยา่ งของฝีแต่ละชนิด ไดแ้ ก่ - โพรงหนองที่ฟนั เกิดบรเิ วณเน้ือใต้ฟนั หรอื บรเิ วณเหงือกและกระดกู กรามใต้ฟัน - หนองท่ีทอนซลิ เกิดบริเวณต่อมทอนซลิ ในชอ่ งปาก และผนงั ดา้ นในลาคอ - ฝีตอ่ มบารโ์ ธลิน เกดิ ในต่อมบารโ์ ธลนิ บริเวณผิวหนังทแ่ี คมอวยั วะเพศหญิง - ฝที ี่กน้ เกิดบรเิ วณผวิ หนังทร่ี อยแยกหรอื ร่องก้น - ฝบี รเิ วณทวารหนกั เกิดบริเวณลาไสต้ รงและทวารหนัก - ฝไี ขสันหลงั เกดิ บรเิ วณโดยรอบไขสันหลัง - ฝใี นสมอง เกิดภายในเน้ือสมองใตก้ ะโหลกศรี ษะ เปน็ กรณที ี่พบไดน้ ้อยมาก แต่อาจเป็นอันตรายถงึ ชีวิตได้ อาการของฝี อาการของฝีโดยทั่วไป คอื มตี ุ่มหนองอักเสบบวม แดง เจบ็ ปวดและแสบร้อนเม่อื สัมผัสโดน ร้สู ึกไมส่ บายตัว และอาจมีไขส้ ูงหรือหนาวสั่นร่วมด้วย ซ่ึงเปน็ สัญญาณอาการของการตดิ เช้ือ สาเหตุของฝี สาเหตุของการเกดิ ฝบี รเิ วณผิวหนงั เป็นการอุดตนั ของตอ่ มนา้ มนั หรือต่อมเหงื่อใตผ้ วิ หนงั และการอักเสบของรูขุมขนหรอื เซลล์ผิวหนงั ที่ตายแลว้ ทาให้ เช้อื โรคแทรกตวั เขา้ ไปภายในตอ่ มเหลา่ น้ี จึงเกิดกระบวนการอักเสบของระบบภูมคิ ุ้มกันรา่ งกายเพื่อตา้ นต่อเช้ือโรค เกิดเป็นฝีทมี่ ีการอักเสบและโตขน้ึ เรือ่ ย ๆ ซง่ึ เชื้อสว่ นใหญท่ ีเ่ ปน็ สาเหตุทาให้เกิดฝี คือ เช้อื แบคทีเรยี ส่วนสาเหตุของการเกิดฝภี ายในร่างกาย มักเปน็ ภาวะแทรกซอ้ นท่ีพฒั นาขึน้ หลังปว่ ยจากอาการอืน่ ๆ อยา่ งการติดเช้ือภายในอวยั วะตา่ ง ๆ เช่น ไสต้ ิ่ง อกั เสบและแตกภายในชอ่ งท้อง ทาให้เช้ือแบคทีเรียกระจายเขา้ สู่เน้ือเย่ืออวยั วะต่าง ๆ ภายในช่องท้อง จนอาจเกดิ เปน็ ฝใี นเวลาต่อมาได้
3 การวนิ ิจฉยั ฝี การวนิ ิจฉัยฝีทาไดโ้ ดยสงั เกตวา่ มตี มุ่ หนองเกดิ ขึ้นตามรา่ งกาย แล้วตมุ่ หนองนนั้ ทาใหเ้ กดิ ความเจบ็ ปวดหรอื ไม่ หากตุ่มน้นั มขี นาดใหญ่กว่า 1 เซน็ ตเิ มตรหรอื คร่งึ นิ้ว หรอื มีอาการเจ็บป่วยอืน่ ท่ีเปน็ สัญญาณของการติดเชอื้ รว่ มดว้ ย เช่น มีไข้สูงกว่า 38.5 องศาเซลเซยี สข้นึ ไป ควรไปพบแพทยเ์ พอ่ื ทาการ ตรวจรักษา เพื่อป้องกันไมใ่ ห้อาการปว่ ยหรอื ภาวะแทรกซ้อนทีเ่ ป็นอันตรายเกิดข้ึนตามมาได้ เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์จะซักถามอาการ ประวตั ทิ างการแพทย์ และตรวจรา่ งกายในบรเิ วณทเี่ กิดฝี หรือใชว้ ธิ กี ารตรวจเฉพาะจุดในบริเวณที่เกิดฝี สง่ ตรวจ ตวั อย่างของเหลวจากฝี และแพทย์อาจสง่ ตรวจเพม่ิ เติมดว้ ยการอลั ตราซาวด์ การเอกซเรยค์ อมพวิ เตอร์ (CT scan) การสรา้ งภาพดว้ ยคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ (MRI) สาหรบั ฝที ี่อวัยวะภายใน การรกั ษาฝี การรกั ษาฝีในเบอ้ื งต้น หากฝีมขี นาดเลก็ และไมเ่ จบ็ ปวดรุนแรง ผ้ปู ว่ ยสามารถดแู ลตนเองไดด้ ว้ ยวิธีง่าย ๆ ที่บา้ น อาการจะดขี ึ้นและฝีจะหายไปเอง โดยต้องหลกี เล่ียงการบบี กดหรือใช้เข็มเจาะฝีด้วยตนเองเพื่อให้ของเหลวไหลออกมา เพราะอาจทาใหเ้ กดิ การติดเชอื้ ในเน้อื เย่ือบรเิ วณใกลเ้ คยี งและอาจสรา้ ง ความเสยี หายแก่เส้นเลือดบริเวณดังกล่าวได้ แต่หากฝมี ขี นาดใหญห่ รอื มีอาการป่วยท่รี ุนแรง ผปู้ ว่ ยควรรีบไปพบแพทย์ โดยแพทยจ์ ะทาการรักษาด้วยการให้ยา ปฏชิ ีวนะเพอื่ ฆา่ เชอ้ื และอาจใช้การผ่าตัดเพื่อถ่ายหนองในฝอี อก ท้งั น้ี การรักษาฝีข้ึนอยู่กับความรุนแรงของฝี ชนิดและบรเิ วณทเี่ กิดฝี และดุลยพนิ ิจของแพทย์ ภาวะแทรกซ้อนของฝี ภาวะแทรกซ้อนของฝที ่ีผวิ หนังและฝีที่อวัยวะภายในโดยรวมแลว้ คือ การตดิ เชื้อในเน้ือเยือ่ และการตดิ เชอ้ื ในกระแสเลือด เนือ่ งจากเชอ้ื ที่อย่ใู นหนอง ภายในฝีลามเขา้ สู่กระแสเลือดหรอื เนอ้ื เย่ือตา่ ง ๆ หรือฝอี าจแตกและทาใหเ้ ชื้อลามไปยังเน้ือเยือ่ สว่ นอื่น ๆ ได้ การป้องกันการเกิดฝี การป้องกันการเกิดฝีทผ่ี วิ หนัง สามารถทาไดด้ ว้ ยการรักษาสุขภาพรา่ งกายใหส้ มบรู ณ์แข็งแรงอยเู่ สมอ รวมท้ังรักษาความสะอาดและดูแลสุขอนามัยใน ด้านตา่ ง ๆ ด้วย ส่วนฝีทอี่ วยั วะภายในมกั เกิดจากการเจบ็ ป่วยด้วยโรคและอาการตา่ ง ๆ กอ่ นหนา้ จงึ เปน็ การยากที่จะป้องกันไมใ่ หฝ้ ีเกิดขึน้
4 การผ่าฝี Incision & Drainage วัตถุประสงค์ 1. เพื่อระบายหนอง ซึง่ เปน็ การรักษาหลักสาหรบั การติดเช้ือโพรงหนองบรเิ วณผิวหนัง 2. เพื่อลดการอักเสบติดเช้ือ การเตรีมผ้ปู ่วย 1.ซกั ประวตั ิท่ีจาเป็นการเกิดบาดแผลโรคประจาตวั ประวตั ิแพย้ าแพ้ยาชาภูมิคุ้มกันบาดทะยัก 2. ตรวจสอบบาดแผลฝีของผู้ป่วย 3. ให้คาแนะนาแกผ่ ูป้ ่วยถงึ ขั้นตอนและประโยชนข์ องการทา I & D 4. เปิดโอกาสใหผ้ ูป้ ว่ ยซักถามเกย่ี วกับข้อมูลการทา I & D 5. จดั ท่าผปู้ ว่ ยตามลกั ษณะและตาแหนง่ ของแผลเพอ่ื ความสะดวกในการทา 6. เตรียมความสะอาดผวิ หนงั โดยการ Scrub ผวิ หนงั บริเวณทจี่ ะทาดว้ ย Betadine Scrub
5 อุปกรณ์การผ่าฝี (Incision & Drainage) อุปกรณท์ ใ่ี ช้ การเตรียมอุปกรณ์ หมายเหตุ 1. ชดุ ผา่ ฝี 1. เตรยี มอปุ กรณใ์ ส่ set และห่อผ้าใหเ้ รยี บรอ้ ย ชดุ ผ่าฝี ประกอบด้วย อุปกรณ์ ต่อไปนี้ 1.1 ด้ามมีด (Scalpel handle) 1.2 ปากคบี ชนดิ มีเข้ียว (Tooth forceps) 1.3 ปากคบี ชนดิ ไมม่ เี ขย้ี ว (Non-tooth forceps)
อุปกรณท์ ี่ใช้ การเตรียมอปุ กรณ์ 6 1.4 คมี จับหลอดเลือด (Arterial clamp) หมายเหตุ 1.5 ชอ้ นขดู (curette) 1.6 ผ้าส่เี หลีย่ มเจาะกลางจานวน 1 ผนื
อุปกรณท์ ี่ใช้ การเตรียมอุปกรณ์ 7 1.7 ผา้ ก๊อซขนาด 4X4 จานวน 4 ชน้ิ หมายเหตุ 1.8 สาลกี ้อนจานวน 5 กอ้ น 1.9 ถ้วย 2 ใบ สาหรับใสน่ า้ ยาทาความสะอาดผวิ หนงั
อปุ กรณ์ท่ใี ช้ การเตรยี มอปุ กรณ์ 8 2. ใบมีดผ่าตดั (Blades) 2.1 บรรจอุ ยใู่ นซองพลาสติก หมายเหตุ 3. เข็มเบอร์ 18 และ 23 หรอื 25 3.1 บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก และกล่องเขม็ ฉดี ยา (needle)
อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ การเตรยี มอุปกรณ์ 9 หมายเหตุ 4. กระบอกฉีดยา (Syringe) ขนาด 5 ซีซี หรือ 10 4.1 บรรจอุ ยู่ในถุงพลาสติก และกล่องกระบอกฉีดยา ซซี ี 5. ผา้ ก๊อซระบายหนอง (Gauze drain) 5.1 บรรจุอยใู่ นถงุ พลาสติก พร้อมต่อการใชง้ าน 6. ถุงมือปราศจากเช้อื (Sterile gloves /Surgical 6.1 บรรจุอยู่ในซองพลาสติกและอยู่ในกล่องถงุ มือ gloves)
อปุ กรณ์ทีใ่ ช้ การเตรยี มอุปกรณ์ 10 หมายเหตุ 7. ยาชาเฉพาะท่ี (Xylocain) ท้งั ชนดิ มี Adrenaline 7.1 จดั วางให้อยใู่ นตาแหนง่ ที่หยบิ ใช้ไดง้ า่ ย และไมม่ ี Adrenaline อย่างละ 1 ขวด 7.2 ที่ขวดยาชามีปา้ ยช่อื กับกับชดั เจน 8. น้าเกลอื ล้างแผล ( normal saline solution) 8.1 จดั วางใหอ้ ยใู่ นตาแหน่งท่ีหยิบใช้ไดง้ า่ ย 8.2 ทขี่ วดมปี า้ ยช่ือกับกบั ชดั เจน
อปุ กรณ์ที่ใช้ การเตรยี มอปุ กรณ์ 11 หมายเหตุ 9. นา้ ยาทาความสะอาดผวิ หนัง อาจใช้ povidone 9.1 จดั วางใหอ้ ยู่ในตาแหน่งที่หยบิ ใช้ไดง้ ่าย iodine scrub หรอื betadine solutione 9.2 ทีข่ วดนา้ ยามปี ้ายช่ือกับกับชัดเจน 10. พลาสเตอรใ์ ส (Transpore) 10.1 จดั วางให้อยูบ่ นถาด หรือในตาแหน่งทห่ี ยิบใชไ้ ด้งา่ ย 11. ชามรูปไต 11.1 ทาความสะอาดให้เรยี บร้อย
อปุ กรณ์ท่ีใช้ การเตรียมอปุ กรณ์ 12 12. ถังทงิ้ เขม็ ฉีดยา 12.1 จัดวางในบริเวณที่สามารถทงิ้ ได้สะดวก หมายเหตุ 12.2 ตรวจสอบตัวถงั ฉีดยาให้อยู่ในสภาพพรอ้ มใชง้ าน ไม่ชารุด ขน้ั ตอนการทาหตั ถการผ่าฝี การผา่ ฝี Incision & Drainage 1. ล้างทาความสะอาดแผลด้วยนา้ เกลอื และทาความสะอาดบรเิ วณท่ีจะผ่าดว้ ย povidone iodine Scrub
13 2. ปผู ้าเจาะกลาง 3. ให้ยาระงบั ความเจบ็ ปวดโดยวธิ ี Local anesthesia ฉีด 1% Lidocaine เขา้ ท่ี lesion ตาแหนง่ ท่จี ะลงมดี หรือ infiltrate -ฉดี บริเวณรอบ ๆ แผลฝี ผิวหนังบรเิ วณชัน้ Subcutaneous ตามหลัก 7R -การเลือกใชข้ นาดยาชาที่เหมาะสม
14 -การคานวณยาชา 6. เมือ่ ชาแลว้ จงึ ลงมีดกรีดตามแนว skin Crease โดยลงมดี ตรงตาแหน่งที่ fluctuation ท่ีผิวหนงั บางที่สุดโดยตามความยาวของ abscess cavity กรดี skin เมอ่ื หนองเร่มิ ไหลออกมาใหห้ ยุดความลึกไวแ้ ค่น้นั ห้ามกรีดลึกลงไปในหนองโดยไมเ่ ห็นกันเพราะอาจไปโดน structures ที่สาคัญได้การกรดี บาดแผลเพียงเลก็ น้อยนนั้ ไม่เพียงพอต่อการ drain และมักไม่หายและให้กรดี แผลเดียวเปน็ เส้นตรงไม่แนะนาให้กรดี เป็นกากบาท
15 7. ใช้ probe หรือ cotton swab วัดความลึกของ abscess เพื่อประเมนิ การ drain และการ breaking open loculations 8. ระบายหนองหรือ discharge ออกใหม้ ากท่สี ุดหรืออาจใช้ Curette พดู เบา ๆ 9. ใช้ 0.9 % NSS irrigate ในโพรงหนองจนสะอาด
16 10. เม่ือ drain pus ออกหมดแล้วให้ใช้ gauze drained ชุบ Povidone iodine solution ใส่เขา้ ไปในโพรง abscess 11. ปดิ แผลด้วย sterile Gauze
17 แนะนาคลปิ วดิ ีโอหัตถการผา่ ฝี https://youtu.be/1RfQ574e_CM หตั ถการการผ่าฝี BCN'Surat โดย อ.ปยิ ะดา ยุ่ยฉิม
18 คาแนะนา 1. ควรทาความสะอาดมาล้างแผลท่โี รงพยาบาล 2. พยายามใหแ้ ผลแหง้ และสะอาดอยเู่ สมอระวงั อยา่ ให้เปียกน้าหรอื สมั ผัสสง่ิ สกปรก 3. หากบาดแผลเปยี กน้ามเี ลือดหรอื น้าเหลอื งซึมออกมาจนผ้ากอ๊ ซทป่ี ดิ แผลชุ่มควรกลับมาทาความสะอาดแผลแล้วปดิ ผ้ากอ๊ ซผืนใหม่ 4. หากมีไข้ปวดบาดแผลมีอาการบวมแดงรอบแผลควรกลับมาพบแพทยเ์ พื่อตรวจซา้ 5. ผูท้ ่ไี ดร้ ับการเย็บแผลควรกลบั มาตรวจตามนัด
เอกสารอ้างองิ พมิ พนิต ภาศร.ี (2558). คู่มือการจดั เตรียมสถานการณจ์ าลองรายวิชา 640-492 ปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลอนามัยชมุ ชนและการดูแลรกั ษาโรคเบ้ืองต้น. มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์, สืบค้น https://www.nur.psu.ac.th/nur/file_unit/28520170208161749.doc รณรฐั สวุ ิกะปกรณ์กุล. (๒๕๖๐). ยาระงบั ความรสู้ กึ เฉพาะทห่ี รือยาชาตาราหัตถการพน้ื ฐานศลั ยศ์ าสตร์. (พิมพค์ รัง้ ที่ ๒). กรงุ เทพ: โรงพิมพจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . วิลาวัณย์ เตือนราษฎร์ และวราภรณบ์ ญุ เชยี ง. (๒๕๖๓). การรกั ษาพยาบาลโรคเบ้ืองต้น. (พมิ พ์ครั้งที่ ๖). เชียงใหม่: สานกั พิมพ์มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ อวินนท์ บวั ประชมุ . (๒๕๖๔). บทที่ ๕ การทาหัตการภายใต้ขอบเขตของระเบยี บกระทรวงสาธารณสขุ . เอกสารประกอบการสอนวชิ าการรกั ษาพยาบาล เบอ้ื งตน้ (พย. ๑๔๒๖). พษิ ณุโลก: วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนพี ทุ ธชนิ ราช.
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: