Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 20 เทคนิคการจัดภาพ new 2

20 เทคนิคการจัดภาพ new 2

Published by Dream Chinjung, 2017-12-14 12:32:30

Description: 20 เทคนิคการจัดภาพ new 2

Search

Read the Text Version

20เกทารคจัดนภาิคพฉบับมืออาชีพแบบเขาใจงา ย

20ฉบบั มือเทอคานชิคีพแ“บกบาเรขจา้ ดัใจภงาา่พย”รบั รองว่าจะถา่ ยสวยข้นึ เยอะ!!ปัจจบุ นั นม้ี คี นหันมาถา่ ยภาพกนั มาขน้ึ เพราะว่ากล้องถา่ ยรปู เป็นอะไรที่คนเข้าถึงได้ง่าย มีราคาถูก โดยเฉพาะกล้องที่ติดมากับโทรศัพท์ในปัจจบุ นั กม็ คี ณุ ภาพที่สูงมากพออย่แู ล้วแต่ต่อให้เรามีกลอ่ งทเ่ี ทพยังไง ถ้าเราถ่ายออกมาไม่ดี มนั ก็เป็นภาพธรรมดาๆ ภาพหน่งึ แต่ถ้าคุณใส่เทคนิค จัดองคป์ ระกอบภาพใหม้ ันสกั หน่อย ปรับแสงปรบั โหมดใหเ้ หมาะกบั สิง่ ท่จี ะถ่าย ภาพภาพนั้นกจ็ ะกลายเป็นภาพท่ีมคี ณุ คา่ ขึ้นมาและวนั น้ี #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมารูปจักเทคนิคขัน้ พื้นฐานสำ� หรบั การถ่ายภาพ น่นั ก็คอื การจัดองค์ประกอบภาพนนั่ เอง ถา้ เรารู้จกั มัน ภาพทีเ่ ราถ่ายก็จะดสู วยขนึ้ แถมยังเปน็เทคนคิ ทจ่ี ำ� งา่ ย และใชไ้ ดห้ ลากหลายสถานการณ์ ซึ่งเทคนิคเหล่าน้มี าจากชา่ งภาพมอี าชีพท่ีเขาไดเ้ ขียนแนะนำ� ไวใ้ น bocphotography.com จะมอี ะไรบ้าง เราไปชมกนั เลย

1. กฎแหง่ สามถอื เป็นเทคนคิ งา่ ยๆ ส�ำหรับคนทอ่ี ยากจะเรมิ่ ตน้ ถา่ ยภาพเลยกว็ ่าได้ เพราะวา่ กล้องใหญๆ่ ใสม่ ากกจ็ ะมฟี งั ค์ชั่นแบง่ ภาพออกเปน็ 9 สว่ นแบบนี้ ซึง่ จะไดภ้ าพสเ่ี หลย่ี มแนวนอน 3 ชอ่ ง และแนวต้ังอกี 3 ชอ่ งเทคนิคน้ีจะท�ำให้เราได้เห็นองค์ประกอบที่ส�ำคัญของภาพนั้นๆ อาจจะมีสิ่งเดียวหรือหลายสิ่งผ่านเส้นหรือผ่านจุดทเ่ี ส้นตดั กนั ซ่งึ ปกตเิ รามักจะจัดสง่ิ ที่น่าสนใจไวต้ รงกลาง แต่ถา้ เราจัดให้ไมอ่ ยู่ตรงกลางอาจจะน่าสนใจยิ่งกวา่ ก็ได้เหมือนตัวอย่างภาพข้างล่างน้ี ได้ลองเอาต้นไม้ใหญ่สุดมาวางไว้ตรงเส้นแนวตั้งด้านขวา ท�ำให้ภาพดูมีอะไรมากกวา่ การจดั เอาต้นไม้มาอยตู่ รงกลาง เช่นเดียวกบั ภาพโบสถแ์ หง่ น้ี

2. ตรงกลางและสมมาตรกอ่ นหน้านีไ้ ด้บอกไปว่าอย่างวางสง่ิ ทจ่ี ะถา่ ยไว้ตรงกลางใชไ่ หม คร้งั นีเ้ ราจะให้มันมาอย่ตู รงกลาง แตต่ รงกลางนม้ี นั ไม่เหมือนกบั ข้างบน เพราะเราตอ้ งดูดว้ ยวา่ ถา้ มันอยกู่ ลางแล้วมันสมมาตรกันทั้งสองข้าง มนั ก็คอื ดีเหมอื นอยา่ งภาพสะพานนถ้ี า้ เราถา่ ยจากตรงกลางจะเหน็ ไดว้ า่ ทงั้ สองดา้ นมนั เทา่ กนั อยา่ งสวยงาม หรืออยา่ งในภาพนมี้ กี ารผสมระหว่างเทคนคิ กฎแหง่ สามกับตรงกลางเขา้ ดว้ ยกัน เราจะไดเ้ ห็นเงาสะทอ้ นจากผืนนำ้� เปน็ แกนกลาง อีกท้งั ยงั จัดต�ำแหนง่ ตน้ ไม้ใหไ้ ม่อยู่ตรง กลางเกินไปด้วย

3. เนน้ ดา้ นหน้าพร้อมฉากหลงัภาพทว่ั ไปทเ่ี ราถ่ายมักจะเหน็ เปน็ แบบ 2 มติ ิ แตเ่ ทคนคิ นจ้ี ะทำ� ให้ภาพของเราดูเป็น 3 มิติ ยิง่ ขึน้ ด้วยการเนน้ วตั ถุดา้ นหนา้ พรอ้ มกบั ท�ำให้เหน็ ฉากหลงั ไปด้วย อยา่ งเชน่ ภาพนำ�้ ตกนีใ้ ชเ้ ลนส์แบบกว้างในการถา่ ย โดยเนน้ ไปทก่ี องหนิ ด้านหนา้

หรืออย่างในภาพน้ีเราจะสงั เหตไดว้ า่ เขายืนถา่ ยทที่ า่ เรอื แบบใกล้มากๆและอยตู่ รงจดุ ด้านล่างของภาพ โดยเน้นไปทจี่ ดุ ของทีย่ ึดสมอเรอื เปน็ หลกั พร้อมกับให้กลอ้ งเห็นภาพขา้ งหลังอย่างชัดเจน

4. กรอบในกรอบตรงตามช่ือเลยก็คือเราถ่ายภาพผ่านกรอบ ให้ภาพน้ันอยู่ในกรอบอีกที เทนนิคนี้ก็เป็นอีกทางหนึ่งท่ีจะท�ำให้เราได้เหน็ ความลึกของภาพมากยิ่งขึ้น ไม่วา่ จะเป็นการถ่ายภาพประตู หน้าต่าง กรอบอะไรก็ตามแต่หรือบางทีกรอบก็ไม่จ�ำเป็นต้องเกิดจากสิ่งที่มนุษญ์สร้างข้ึนก็ได้ ธรรมชาติก็สามารถเป็นกรอบได้เช่นกัน ถ้าเรารู้จักหามุมมองให้เจอเหมือนอย่างภาพต้นไม้น้ีก็สามารถเปลี่ยนมันให้เป็นกรอบไดเ้ หมอื นกัน

5. เส้นน�ำทาง (เสน้ นำ� สายตา)นำ� ทางในที่นีห้ มายถงึ การน�ำทางสายตาคนดูใหไ้ ปสู่สิ่งท่เี ราอยากใหเ้ หน็ ซึ่งเส้นน้ีอาจจะเปน็ อะไรก็ได้ เชน่ ถนนพ้นื หรอื ก�ำแพงท่มี ีลายเปน็ เสน้ เหมือนอย่างภาพหอไอเฟลน้ี อกี ทั้งยงั ใชเ้ ทคนิคความสมมาตรอกี ดว้ ยและไมจ่ ำ� เปน็ ว่าเส้นนำ� ทางน้นั จะตอ้ งตรงไปหาจดุ หมาย เหมือนอย่างในภาพน้ีที่มเี ส้นทางที่ คด แตม่ ันก็น�ำทางออ้ มต้นไมต้ น้ ใหญไ่ ปได้ อกี ทั้งภาพนยี้ งั ใชเ้ ทคนิคกฎแหง่ สามด้วย

6. เสน้ ทแยงและสามเหลยี่ มเทคนิคน้ีจะท�ำให้ภาพเกิดความตึงแบบไดนามิคข้ึนอย่างชัดเจน งงล่ะว่าว่ามันคืออะไร มันค่อนข้างอธิบายยากนดิ หนึง ลอกนกึ ภาพเส้นแนวตั้งกับเส้นแนวนอน ท้งั สองเสน้ นี้ท�ำให้เรารู้ว่ามนั มัน่ คงเหมือนคนออกมาจากร้านเหล้าตอนตี 2 แล้วยนื ตรงได้ รู้เลยวา่ ไม่เมา แต่ถา้ คนน้ันยนื เป๋ๆ เอียงหน่อยๆ น่ันท�ำให้เรารสู้ ึกตึง ลุ้น ว่าจะล้มหรอื ไม่ล้ม นน่ั แหละคอื เทคนคิ นี้ มันท�ำให้เรามอี ารมณร์ ่วมไปด้วยและสามเหลี่ยมก็เป็นส่ิงหนึ่งท่ีท�ำให้เรารู้สึกอย่างนั้นได้เป็นอย่างดี เหมือนอย่างภาพสะพานนี้ ตัวสะพานเป็นสามเหล่ียมอยู่แลว้ อย่างชัดเจน แตถ่ ้าดดู ๆี การจดั องคป์ ระกอบท�ำให้เราได้เห็นสามเหลีย่ มทมี่ ากขน้ึ กวา่ เดิมภาพนี้ก็เช่นกัน มันอาจจะไม่เชิงเป็นสามเหล่ียมที่สมบูรณ์ แต่ภาพมันก็ทะแยงจนท�ำให้เกือบเป็นสามเหลีย่ ม ซ่ึงเราก็สามารถมองด้วยตาเปลา่ เหน็ ได้วา่ ภาพน้เี กดิ มุมขึ้นมา

7. ลวดลายและรายละเอียดธรรมชาติของคนเราแล้วมักจะต้องตากับส่ิงท่ีมีลวดลาย(แพทเทิร์น)เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นส่ิงท่ีมนุษย์สรา้ งข้ึนหรือธรรมชาตสิ ร้างขึ้น นน่ั จึงเปน็ เหตผุ ลว่าท�ำไมการถ่ายภาพแพทเทิร์นเหล่านี้จึงออกมาสวย แตต่ ้องมาพรอ้ มกบั รายละเอียดของมนั ด้วย อย่างภาพนี้เราจะได้เห็นพ้ืนห้ินที่มีลวดลาย ที่ส่งต่อไปยังส่ิงก่อสร้างท่ีอยู่ข้างหน้า ซึ่ง ก็เต็มไปด้วยลวดลายอีกเช่นเดียวกัน แต่ ภาพก็ยังไม่ทิ้งรายละเอียดของลวดลาย ซึง่ เราจะเหน็ ไดช้ ัดมาก ภาพน้ีเราก็จะได้เห็นรายละเอียดของหินที่ อยู่บนพ้ืน อาจจะไม่ชัดเท่ารูปแรก แตภ่ าพ นี้เล่นกับแสงที่ส่องเข้ามา ท�ำให้เราได้เห็น แพทเทิรน์ จากพื้น กำ� แพง และเพดาน ถา้ เรามองให้ดีๆ อีกนิดก็จะรู้ว่าภาพนี้ใช้ เทคนคิ กรอบในกรอบด้วย

8. กฎแหง่ เลขคี่ฟังดูอาจจะแปลกไปนิดส�ำหรับข้อนี้ แต่มันมีทฤษฎีท่ีบอกไว้ว่าเลขคี่นั้นเป็นเลขที่ดึงดูดสายตาของเราได้ดีที่สึดเพราะวา่ มันมองได้ง่าย ซ่ึงจรงิ ๆ แล้วมนั กแ็ ลว้ แตก่ รณไี ปอยา่ งเชน่ ในภาพนี้ เราจะเหน็ ได้วา่ มีโคมไฟอยู่ 3 ดวงพรอ้ มกบั คนอกี 3 คน ถ้าลองนกึ วา่ มแี ค่ 2 คน ภาพนก้ี ็อาจจะไมไ่ ด้สวยเหมือนอยา่ งภาพน้ีกไ็ ด้ อกี ทั้งยังใสเ่ ทคนคิ กรอบในกรอบมาอีกด้วย แล้วมาดูภาพน้กี ันบ้าง เราจะเห็นชายสองคนกำ� ลังนัง่ คยุ กนั อยู่ อย่างที่บอกวา่ กฎแหง่ เลขคี่น้นั ใชไ้ ด้ บางกรณเี ทา่ น้นั ภาพน้กี ็มีความงามอยใู่ นตัวอย่แู ลว้

9. เตมิ เตม็ กรอบการถ่ายให้เต็มกรอบก็คือการถ่ายภาพแบบที่ไม่เหลือพื้นท่ีว่ิงให้อย่างอ่ืนเลย โดยที่เราจะโฟกัสไปท่ีวัตถุหลักของเรา ซ่งึ จะทำ� ให้ผเู้ สพไดเ้ ห็นภาพทเ่ี ราตอ้ งการจะสื่อจัดเจน แต่เทคนิคน้กี ็ใชไ้ ดก้ ับบางกรณีเช่นเดยี วกัน อยา่ งภาพสงิ โตตัวนี้ เห็นไดช้ ดั เลยวา่ มาแบบ เต็มจอ ท�ำให้คนที่เหน็ ภาพไมต่ ้องสนใจอย่าง อ่ืนนอกจากสิงโตตัวนี้ และยังได้เห็นราย ละเอียดเช่นดวงตา เส้นขนอีกทั้งยังใช้กฎ แห่งสามในการถา่ ยภาพนด้ี ว้ ยภาพนก้ี เ็ ชน่ กนั เขาพยายามท่จี ะครอปให้เหลือขอบนิดๆ แต่จะยังท�ำให้เห็นรายละเอียดของสิ่งก่อสร้างให้ได้มากท่ีสุดเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่ากฎข้อน้ีเน้นการสื่ออารมณ์ไปยังวัตถุหลักของภาพเพียงส่ิงหนง่ึ และมักจะถา่ ยทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง

10. การทงิ้ พ้ืนที่จากก่อนหน้าท่ีแนะน�ำการท�ำให้เต็มกรอบ คราวนี้มาลองการทิ้งพื้นท่ีดูบ้าง ซ่ึงเทคนิคนี้จะท�ำให้ภาพออกมาเรียบง่ายสไตล์มนิ มิ อล ซึง่ กจ็ ะท�ำให้คนหันมาโฟกสั ที่วัตถุหลกั เชน่ เดียวกนัเหมือนอย่างภาพนี้เห็นได้ชัดเลยว่ารูปปั้นนั้นเด่นออกมาจากพื้นหลังท่ีเป็นฟ้าโล่งๆ ท�ำให้เราผ่อนคลายเหมือนมีพ้นื ที่หายใจเยอะมากขน้ึ เปน็ ที่มาว่าภาพแนวนี้ทำ� ให้ร้สู กึ สบาย ง่ายๆ11. ความเรยี บง่าย และ มนิ มิ อลอย่างท่ีพูดไปเม่ือสักครูเก่ียวกับความเรียบง่ายและมินิมอล ซ่ึงสองส่ิงนี้มาควบคู่กัน ความเรียบง่ายเป็นเคร่ืองมือที่ส�ำคญั สำ� หรบั การจัดองคป์ ระกอบภาพอยา่ งค�ำพดู ทว่ี ่า ‘less is more’ ก็คือน้อยๆ แตม่ หาศาล ในภาพกจ็ ะไมม่ ีอะไรมากแต่รสู้ กึ ทรงพลัง อาจจะเปน็ภาพที่ซูมเหมือนภาพน�้ำทค่ี า้ งอยบู่ นใบไม้ภาพนี้ มนั คือส่งิ ธรรมดา แตภ่ าพถ่ายทำ� ให้มันทรงพลงั ข้นึ ได้

หรือจะเป็นภาพต้นไม้ต้นเดียวในช่วงรุ่งอรุณน้ีก็ถ่ายออกมาให้ดูเรียบง่าย ลองคิดดูว่าถ้ามีต้นไม้มาอีกสองสามต้น กค็ งดูรกไปหนอ่ ย เต็มไปด้วยเทคนคิ มากมายเชน่ การทง้ิ พน้ื ท่ี อกี ท้งั ยังมกี ารใชก้ ฎแหง่ สามและ เสน้ น�ำทางอีกด้วย12. การแยกวตั ถุการใช้ความลกึ ตื้นของภาพนน้ั เป็นวธิ ีทงี่ า่ ยสำ� หรับการแยกองค์ประกอบของภาพ และวิธีทีใ่ ช้ก็คือท�ำให้ภาพขา้ งหลังเบลอไปเลยเพอ่ื ที่จะไมใ่ ห้มันรบกวนวตั ถทุ ีเ่ ราต้องการจะสือ่อย่างภาพน้ีแมวกำ� ลังซอ่ นอยู่ในกลอ่ งไม้ เขาไดต้ ัง้ คา่ รรู บั แสงไวท้ ่ี f3.5 ซ่งึ กว้างมากๆ และมนั ทำ� ใหฉ้ ากหลังเบลอดว้ ย ซ่งึ เทคนิคนก้ี ไ็ ด้ใชก้ ับภาพหยดน้ำ� บนใบไมท้ เี่ หน็ ไปกอ่ นหน้านี้

13. เปลย่ี นมุมมองภาพส่วนมากจะถา่ ยจากระดับสายตา ซงึ่ มันก็สูง 1-2 เมตรเท่านั้น ลองเปล่ยี นใหส้ งู ขึ้นหรอื ต่�ำลงดูสิ แลว้ จะเกดิ อะไรใหมข่ ้ึนเยอะและมากมายเหมอื นอย่างภาพนีท้ ป่ี ารสี ถ่ายจากดาดฟ้าของตกึ สูงอกี ที ทำ� ใหเ้ ราได้เหน็ อีกมุมมองหน่งึ ที่ไมค่ ่อยได้เหน็ บ่อยนักสังเกตวา่ จะมีเส้นน�ำสายตาด้วยถนนดา้ นลา่ งไปยงั หอไอเฟล ซง่ึ ตัง้ อยู่ค่อนไปทางขวาของภาพเชน่ กนัหรอื จะเปลย่ี นมมุ มองไปในที่ท่ีคนไม่คอ่ ยยนื ถา่ ยอยา่ งเชน่ ในนำ้� แบบนี้ แนน่ อนว่าตอ้ งมีเทา้ เปียกกนั บ้าง แตก่ ไ็ ดภ้ าพที่งดงามออกมา

14. ความสำ� คญั ของสีทฤษฎีของสีน้ันใช้ในหลายวงการมากไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์ นักออกแบบแฟช่ัน ตกแต่งภายใน จึงไม่แปลกที่สีของภาพน้นั จะสำ� คัญดว้ ยภาพในวงลอ้ สีนเี้ ราก็เคยเหน็ มาบา้ งในวิชาศิลปะ มนั ใช้ได้กบั ทุกงานจริงๆ ดูตวั อย่างจากภาพนี้ท่ีเล่นระหวา่ งสีฟา้ น้�ำเงนิ และสีเหลือง เปน็ สองสีทอ่ี ยู่คกู่ นั แล้วดู สวยงามมากๆ (การใช้สีในโทนเดยี วกนั )

อกี คสู่ หี นง่ึ ท่ถี ูกน�ำมาจบั คกู่ นั บอ่ ยๆ กค็ อื สฟี ้าน�้ำเงนิ และสแี ดง (การใช้สีในโทนตรงข้าม)15. กฎแหง่ พนื้ ท่ีเทคนคิ นจ้ี ะเชอ่ื มโยงกับเปา้ หมายของภาพท่กี �ำลังจะไป เชน่ ถา้ เราถา่ ยภาพรถท่กี ำ� ลังวงิ่ อยู่ ก็ควรทจ่ี ะเวน้ ท่ขี ้างหนา้ ไว้ และตัดพนื้ ท่ีขา้ งหลังออกไป เพ่อื บอกเป็นนัยว่ารถกำ� ลังเคล่ือนไปยงั พน้ื ทขี่ ้างหน้าเหมือนอย่างภาพรูปเรือล�ำนี้ เห็นได้ชัดว่าเรือก�ำลังว่ิงจากซ้ายไปขวา เพราะว่าเราเว้นท่ีไว้ให้มันได้เดินไป ซึ่งสมองของเราสามารถตัดสินไดเ้ องวา่ มนั จะพุง่ ไปทางไหน ถ้าเราถา่ ยจากมุมมองนี้

ไมใ่ ชแ่ ค่รถ แต่มันยังสามารถท�ำให้สายตาสามารถนำ� ทางไปไดด้ ว้ ย อยา่ งเช่นภาพน้ีท่นี ักดันตรอี ยูท่ างซา้ ย แตก่ ำ� ลังหนั หนา้ ไปทางขวา ซง่ึ ตาเรากต็ ะมองตามเขาแล้วผ่านคนทย่ี นื พิงราวไปสู่งคู่รกั ทีก่ ำ� ลงั เตน้ รำ� กันอยู่16. กฎแห่งซ้ายไปขวาเทคนิคนี้จะท�ำให้เรา “อ่าน” ภาพจากซ้ายไปขวาเหมือนอย่างที่เราอ่านหนังสือ ซ่ึงคนบนโลกส่วนมากก็จะอ่านหนังสือจากซ้ายไปขวา มีส่วนน้อยอย่างอาราบคิ ท่อี ่านจากขวาไปซ้ายภาพนี้กเ็ ชน่ กนั เราจะเหน็ วา่ หญิงสาวทกี่ ำ� ลังเดนิ กับสุนขั จากทางซ้ายไปขวามันดไู หลลื่นและคล่องตากว่า อกี ทั้งยังใช้เทคนิคกฎแห่งพ้ืนที่เสริมเพ่ือท�ำให้คนดูเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอีกด้วย ส่วนต้นไม้ที่อยู่ด้านข้างก็เป็นเทคนิคกรอบในกรอบ

17. ความสมดลุ ขององคป์ ระกอบอันแรกที่เราสอนไปก็คือกฎแห่งสาม ที่บอกเล่าถึงองค์ประกอบเพียงช้ินเดียวในภาพให้มาอยู่ด้านข้าง แต่ถ้ามีหลายวัตถุ กต็ ้องใช้เทคนคิ นช้ี ่วยอยา่ งเชน่ ภาพนที้ ี่มเี สาไฟขนาดใหญ่ ถ้าเราใชก้ ฎแห่งสาม เสาอาจจะไม่ไดช้ ดิ ขอบซา้ ยขนาดนี้ แตถ่ ้ามีหอไอเฟลอยูข่ ้างหลงั ก็จะสามารถปรับให้ภาพสมดลุ ได้อยา่ งนา่ เหลือเช่อื ยกมาอกี ภาพ เม่ือเสาไฟมันถ่วง ภาพไปด้านขวามากเกินไป ก็ ต้องใช้โบสถ์ที่อยู่ด้านซ้ายมา ชว่ ยถว่ งไว้ทำ� ใหภ้ าพดสู มดลุ อีก ท้ังยังท�ำให้เราเห็นถึงความลึก ของภาพอีกด้วย

18. สองสง่ิ เทยี บกนัเทคนคิ นม้ี ชี ื่อภาษาองั กฤษวา่ Juxtaposition ซง่ึ แปลไดว้ ่าการเทียบเคียง นนั่ กค็ อื เอาสองสง่ิ ทด่ี แู ตกตา่ งหรอืเออ้ื ต่อกนั มาวางติดกันและใหภ้ าพได้เลา่ เรอ่ื งราวของมันเองเหมือนอย่างภาพนี้ส่วนล่างเราจะเห็นแผงขายหนังสืออยู่เต็มไปหมด แต่ฉากหลังน้ันกลับบ้านสานที่ส�ำคัญนั่นก็คือ Notre Dame Cathedral ซง่ึ ทงั้ สองดขู ดั กนั แตพ่ อมาอย่ดู ว้ ยกนั กลบั เปน็ ภาพทีล่ งตัว ส่อื ให้เหน็ ปารสี ที่แตกตา่ งออกไปหรืออยา่ งในภาพนเ้ี ราจะเห็นรถรุ่นเก่าทจี่ อดอยู่พร้อมกับฉากหลงั เปน็ คาเฟท่ ่ดี ูเข้ากบั ยคุ ของ รถคันนีเ้ ป็นอยา่ งดี ถอื เปน็ ความบงั เอิญทล่ี งตัวอยา่ งหน่งึ

19. สามเหลี่ยมทองค�ำเทคนคิ น้ีใชค้ ล้ายๆ กบั กฎแหง่ สาม แต่แทนท่ีจะใช้ส่เี หลีย่ มผืนผ้า กลบั ไปใชส้ ามเหลียมแทน ซึ่งทำ� ใหจ้ ดุ โฟกัสจากมมุ หนง่ึ ไปสู่มุมหน่งึ อีกท้ังยงั มอี กี สองเส้นทม่ี าบรรจบกันทีเ่ สน้ ตรงกลาง ท�ำใหเ้ กดิ สามเหลย่ี มท่ีเทา่ กันดูจากภาพตัวอย่างน้ีได้ ภาพจะให้ความรู้สึกถึงเส้นท่ีว่ิงจากมุมบนขวาไปยังล่างซ้าย เส้นสามเหล่ียมเล็กด้านขวาก็ว่งิ ใกลๆ้ กับขอบตกึ และมุมของสามเหลยี่ มกย็ ังไปตรงกบั มุมสิ่งก่อสรา้ งอกี ด้วยนอกจากน้ยี งั ใชก้ ับกรณอี น่ื ได้ดว้ ย เช่นภาพนีท้ ใี่ ช้หัวของรปู ปัน้ ในการกำ� หนดทศิ ของเสน้ ได้ อย่างลงตัว เราสามารถมองใหม้ นั เป็นสามเหล่ยี มโดยอตั โนมัติ

20. สดั สว่ นทองคำ�สดั ส่วนทองค�ำคืออะไร มนั กค็ อื ภาพทตี่ ดั สัดสว่ นออกมาได้เท่ากนั แลว้ พอลากเส้นจากมุมสู่มุมไปเรื่อยๆ เราก็จะไดเ้ ป็นเส้นโค้งที่เหมือนก้นหอยแบบไมม่ ีสิน้ สุด และถา้ ภาพไหนทมี่ ีองค์ประกอบแบบนี้มันก็จะสวยงามมากๆสัดส่วนทองค�ำน้ีถูกค้นพบมานานกว่า 2,400 ปีแล้วตั้งแต่สมัยกรีก และถูกใช้มาในงานศิลปะหลากหลายชนิดและแน่นอนวา่ มันซับซอ้ นกวา่ เทคนิคไหนๆชา่ งภาพท่ถี า่ ยภาพนยี้ อมรับวา่ เขาไม่ได้ตง้ั ใจจะใหม้ ันออกมาเป็นสัดส่วนทองคำ� แต่พอเอามาเทยี บแลว้ มนั กลบัเขา้ กนั อยา่ งลงตวั ซึง่ นี่ก็บอกเหตผุ ลไมไ่ ดเ้ ช่นเดยี วกนัภาพนี้ก็เชน่ กัน อาจจะพูดได้วา่ มนั เป็นเรื่องของความรู้สึกดว้ ย ซึ่งการถา่ ยสดั สว่ นทองคำ�นนั้ ไม่จ�ำเป็นวา่ จะตอ้ งไปในทศิ ทางเดยี วกนั เสมอไป แตม่ นั อาจจะออกมาจากช่างภาพทฝี่ ึกฝน มาอยา่ งชำ�่ ชอง และตดั สินใจจัดมุมได้ออกมาพอดี โดยไมต่ ้องเปดิ สเกลอะไรมาเทยี บเลย

เหน็ ไดช้ ดั เลยวา่ ภาพเหล่านี้ไมไ่ ด้ใชเ้ พียงเทคนติ เดยี วในการถ่ายเราสามารถจับนน่ั ผสมนีอ้ อกมาเป็นภาพท่ีสวยๆ ในสไตล์เราได้ อย่าลมื จำ� แล้วน�ำไปใช้พร้อมกบั ฝกึ ฝนตวั เองบอ่ ยๆ ดว้ ยละ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook