หลกั การแบ่งงานกนั ทาตามความสามารถ • เป็นหลกั การท่ีสาคญั ที่สุดอยา่ งหน่ึงในการวิเคราะห์เก่ียวกบั แนว ทางการออกแบบองคก์ าร • เจา้ หนา้ ที่แต่ละคนจะปฏิบตั ิงานที่มีขอบเขตดา้ นภาระหนา้ ท่ีเฉพาะที่ ตนเองมีความรู้ความสามารถหรือมีความถนดั • แนวคิดของหลกั การน้ีคือ “ประสิทธิภาพในการผลิตจะเพมิ่ ข้ึนไดก้ ็ ดว้ ยการใชแ้ นวทางของการแบ่งงานกนั ทา”
หลกั การแบ่งงานกนั ทาตามความสามารถ (2) • อยา่ งไรกต็ ามจากการศึกษาพบวา่ การแบ่งงานกนั ทาตาม ความสามารถ มีปัญหา คือ – ตอ้ งใชค้ นและทุนเพ่มิ ข้ึนในการทางานชิ้นหน่ึง – ตน้ ทุนของการแบ่งงานกนั ทา จะเร่ิมสูงกวา่ การเพิม่ ประสิทธิภาพในการ ผลิต ทาใหต้ น้ ทุนต่อหน่วยของผลผลิตสูงข้ึน – ปัญหาของการแบ่งงานท่ีเหมาะสม มีความยงุ่ ยากมากสาหรับงานท่ีวดั ได ยาก เช่นกาหนดตาแหน่ง งานวางแผนอตั รากาลงั คน และงานอตั รา เงินเดือน เป็นงานที่เกี่ยวพนั กนั แยกออกจากกนั ลาบาก ทาใหบ้ างคร้ังมี ลกั ษณะกา้ วก่ายงานกนั
มิติของงาน • งานแต่ละงานก่อนท่ีจะไดร้ ับการออกแบบอยา่ งเป็นระบบน้นั ควรผา่ นการวิเคราะห์ในมิติต่างๆ โดยวิธีการพจิ ารณาตวั งานและ การติดต่อสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งงาน มีหลกั การอยู่ 5 ประการ 1. ทกั ษะท่ีหลากหลาย (Skill variety) 2. เอกลกั ษณ์ของงาน (Task identity) 3. ความสาคญั ของงาน (Task significance) 4. ความมีอิสระ (Autonomy) 5. ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั (Feedback)
มิตขิ องงาน (2) ทกั ษะท่ีหลากหลาย: • คือความสามารถที่แตกต่างหลากหลายที่เป็นท่ีตอ้ งการของการ ปฏิบตั ิงาน เอกลกั ษณ์ของงาน: • คือขอบเขตของงานท่ีบุคคลรับผดิ ชอบต้งั แต่ตน้ จนจบ ความสาคญั ของงาน: • คือผลกระทบของงานที่มีต่อผอู้ ่ืน อาจเป็นต่อสภาพแวดลอ้ ม ภายนอก หรือต่อชีวติ ของพนกั งานเอง
มติ ขิ องงาน (3) ความมีอิสระ: • ระดบั ของความมีอิสระของบุคคลในการปฏิบตั ิงานที่สามารถกาหนดหรือ ตดั สินไดว้ า่ งานจะถกู ปฏิบตั ิเม่ือไร อยา่ งไร หรือท่ีไหน • ยงิ่ มีอิสระสูงบุคคลยง่ิ รู้สึกมีความรับผดิ ชอบมาก ขอ้ มูลยอ้ นกลบั : • ปริมาณของขอ้ มูลซ่ึงบุคคลไดร้ ับจากผลของการปฏิบตั ิงาน ซ่ึงขอ้ มูลเหลา่ น้ี เราสามารถไดร้ ับการสะทอ้ นจากเพือ่ นร่วมงาน ผบู้ งั คบั บญั ชา หรือจากตวั คนทางานเอง
คาบรรยายลกั ษณะงาน • เป็นส่วนท่ีสาคญั ในการออกแบบงานต่อจากการแบ่งงานกนั ทาตาม ความถนดั และการกาหนดมิติของคุณลกั ษณะงาน • คาบรรยายลกั ษณะงานจะถกู เขียนโครงร่างข้ึนเพ่ือเป็นคูม่ ือแจง้ ให้ ทราบถึงความรับผดิ ชอบของงานซ่ึงงานแต่ละงานตอ้ งการ และเพ่ือ การปฏิบตั ิท่ีมีประสิทธิภาพ • ตาแหน่งงานยง่ิ สูงยงิ่ มีรายละเอียดของงานนอ้ ย ในขณะท่ีตาแหน่ง งานยง่ิ ต่ายง่ิ ตอ้ งมีรายละเอียดของงานมาก
คาบรรยายลกั ษณะงาน • ประโยชน์ของคาบรรยายลกั ษณะงาน – ใชใ้ นการระบุถึงความรับผดิ ชอบของงานแต่ละงาน ซ่ึงสามารถนาไปใช้ ในการรับสมคั รพนกั ใหม่ – บอกใหท้ ราบถึงขอบเขตของงานแตล่ ะงานเพ่อื กนั การทบั ซอ้ นหรือกา้ ว ก่ายงานซ่ึงกนั และกนั – ผบู้ ริหารสามารถใชเ้ พอ่ื ประเมินการทางานของสมาชิกในกลุ่ม
โครงสร้างองค์การ • หลงั จากการออกแบบงานแลว้ สิ่งที่ตอ้ งกระทาต่อมาคือ การ กาหนดโครงสร้างขององคก์ าร กาหนดสายการบงั คบั บญั ชา และ การจดั แผนกงาน • โครงสร้างองคก์ าร แบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆ 1. โครงสร้างองคก์ ารแบบสูง (Tall organizational structure) 2. โครงสร้างองคก์ ารแบบราบ (Flat organizational structure)
โครงสร้างองค์การแบบสูง • เป็นโครงสร้างขององคก์ ารขนาดใหญ่ • มีสายการบงั คบั บญั ชาลดหลนั่ กนั ลงมาตามลาดบั ช้นั อยา่ งซบั ซอ้ น และมากมาย • ขอ้ ดี – บุคคลท่ีมีความสามารถไตเ่ ตา้ ข้ึนสู่ตาแหน่งที่สูงข้ึนไปได้ • ขอ้ เสีย – ขอ้ มลู ขา่ วสารมกั ถกู บิดเบือนเน่ืองจากความสูงขององคก์ าร
โครงสร้างองค์การแบบราบ • เป็นโครงสร้างขององคก์ ารที่เริ่มก่อต้งั หรือเป็นองคก์ ารขนาดเลก็ • ขอ้ ดี – การส่งั การประสานงานท่ีรวดเร็ว – ขอ้ มลู ข่าวสารท่ีชดั เจน ไม่ถกู บิดเบือน • ขอ้ เสีย – พนกั งานท่ีมีความรู้ความสามารถไม่อาจไต่เตา้ ข้ึนสู่ตาแหน่งที่สูงได้ – อตั ราการออกจากงานสูง
Search