สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม กลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมตม้ ) ( 5 ชวั่ โมง ) ปงี บประมาณ ๒๕๖๓ โดย นางสาวนภิ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาตติ ระการ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอชาตติ ระการ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก
2 ก คำนำ การสรุปผลการจัดกิจกรรมอาชีพหลักสูตรกลุ่มสนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) เป็น การจัดเก็บ และรวบรวมข้อมูลการอบรมกลุ่มวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ต่อ ประชาชนผู้สนใจเปน็ การสนองตอบความตอ้ งการของประชาชนในพื้นทีเ่ พื่อให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดี ข้ึน ในกระบวนการเรียนรู้จะแตกต่างออกไปตามพื้นที่ในแต่ละพ้ืนท่ี กลุ่มเป้าหมาย วิถีการ ดาเนินชีวิตท่ีดีขึ้น สภาพแวดล้อม ล้วนแต่ส่งผลต่อการเรียนรู้ทั้งส้ิน กระบวนการเรียนรู้จะ ประกอบด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติเพ่ือฝึกทักษะในการเรียนรู้ให้แก่ประชาชน กลุ่มเป้าหมายให้สามารถนาความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปปรับประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต ตอ่ ไป สรุปผลการจัดกิจกรรมเล่มน้ี ทางผู้ดาเนินงานได้เรียบเรียงข้ึนเพ่ือสรุปผลการ จัดกิจกรรมกลุ่มสนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) และได้ใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่ ม่ันใจว่าข้อบกพร่องต่าง ๆ มักเกิดข้ึนได้เสมอ ดังนั้น จึงใคร่ขอความกรุณาจากผู้ใช้ทุกท่าน หากพบข้อผิดพลาดหรอื มีข้อเสนอแนะท่ีคิดว่าจะเป็นประโยชน์ กรุณาแจ้งให้ผู้จัดทาทราบด้วย จักขอบคุณยิ่ง ท้ังน้ีก็เพื่อจะได้นาไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขการสรุปผลการจัดกิจกรรม เพอ่ื พฒั นาอาชีพในโอกาสต่อไป นางสาวนภิ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาติตระการ ผู้จดั ทา สิงหาคม ๒๕๖๓
3 ข เรอื่ ง รายงานผลการจัดกจิ กรรมหลกั สตู รกลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมตม้ ) หนา้ คำนำ หลกั สตู รและเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ ง ก สารบัญ การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน บทที่ 1 สรปุ อภปิ ราย และขอ้ เสนอแนะ ข บทที่ 2 1 บทที่ 3 ๓ บทที่ 4 ๖ 1๓ ภาคผนวก 1๗ - ภาพกิจกรรม 1๘ - เอกสารเสนอจดั ตงั้ กลมุ่ ๒๐ - จัดทาโดย ๓๐
4 รายงานผลการจัดกิจกรรม บทที่ 1 กลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมตม้ ) ความเปน็ มา การจัดการศกึ ษาอาชีพในปจั จบุ ันมคี วามสาคญั มาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศ ให้ มีความรู้ ความสามารถและทกั ษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความ เข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน การพัฒนา 5 ศักยภาพของพ้ืนท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน เพ่ือแข่งขันได้ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจที่จะ ยกระดับการจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีดความ สามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้าง รายได้ ที่ม่ันคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับ การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมี คุณภาพ ท่ัวถึงและเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ มั่นคง มั่งค่ัง และมีงานทาอย่างยั่งยืน มีความสามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับ สากล ซ่ึงจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความมั่นคงให้แก่ ประชาชนและ ประเทศชาติ สภาพสงั คมปจั จุบนั มนษุ ยเ์ ราไดร้ ับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ ไปอย่างรวดเร็ว และไม่เพียงพอกับจานวนประชากรที่เพิ่มข้ึนทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะด้านการดารงชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากจะมีการ ประกอบอาชีพเพ่ือเป็นการเลี้ยงตัวเองและครอบครัวแล้ว ยังมีส่ิงที่ถือว่าเป็นภาระหนักคืออาหารเพ่ือ บริโภคประจาวัน จึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีมนุษย์เราจะต้องสร้างข้ึนหรือหามาทดแทนโดยวิธีการต่างๆ เพ่ือการ อยรู่ อด ขนมไทย เปน็ เอกลกั ษณด์ า้ นวฒั นธรรมประจาชาติไทย มีความละเอียดอ่อนประณีตในการ เลือกสรรวตั ถุดบิ วิธกี ารทาท่ีพถิ ีพถิ นั รสชาตอิ ร่อยหอมหวาน สสี นั สวยงาม รปู ลักษณช์ วนรับประทาน และ เปน็ ขนมท่ีมคี วามเกีย่ วขอ้ งกับคนไทยมาแต่อดีตจนถึงปจั จุบัน การประกอบอาชพี ธรุ กจิ ขนมไทย เปน็ อาชีพ อสิ ระในการทามาหากิน และสร้างรายไดใ้ หก้ ับตนเอง สถานที่ ณ ทที่ าการผใู้ หญบ่ ้าน หมู่ ๑ ตาบลชาติตระการ อาเภอชาตติ ระการ จังหวดั พิษณโุ ลก วนั / ระยะเวลาทจี่ ัดกจิ กรรม - ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ - หลกั สูตร ๕ ชั่วโมง - จานวน ๙ คน
5 วทิ ยากร นางจริ านนั ท์ แจง้ โถง ตาแหน่ง วิทยากร ตาแหน่ง ครู กศน.ตาบล ผรู้ บั ผดิ ชอบ นางสาวนิภาพร พระคาสอน
6 บทท่ี 2 หลักสูตรและเอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง การส่งเสริมการจดั กระบวนการเรียนรู้ ในพระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ ได้กาหนด บทบาทในการส่งเสริมการเรยี นรขู้ องรัฐ และสถานศึกษาต่าง ๆ ดงั นี้ 1. รัฐต้องสง่ เสริมการดาเนินงาน และการจัดตง้ั แหล่งการเรียนรตู้ ลอดชีวิตทุกรปู แบบ ไดแ้ ก่ ห้องสมุดประชาชน พพิ ิธภัณฑ์ หอศลิ ป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยาน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ศนู ย์การกีฬาและนันทนาการ แหล่งข้อมลู และแหล่งการเรียนรู้ อย่างเพียงพอ และมปี ระสิทธภิ าพ 2. ให้คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน กาหนดหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ัน พน้ื ฐานเพื่อความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองดีของชาติ การดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อ การศึกษาต่อ 3. ใหส้ ถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน มีหน้าที่จดั ทาสาระของหลกั สตู รในส่วนท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั สภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี อง ครอบครวั ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ 4. หลกั สูตรการศกึ ษาระดับต่าง ๆ ตอ้ งมีลักษณะหลากหลายเหมาะสมกับแต่ละระดบั โดยมุ่งพฒั นาคุณภาพชีวติ ของบคุ คล สาระของหลักสตู ร ทั้งทเ่ี ป็นวชิ าการ วิชาชพี ตอ้ งมุ่งพัฒนาคนให้มี ความสมดลุ ท้ังด้านความรู้ ความคดิ ความสามารถ ความดีงาม และความรบั ผิดชอบต่อสังคม 5. ให้สถานศกึ ษารว่ มกบั บคุ คล ครอบครวั ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วน ท้องถ่นิ เอกชน องค์กรเอกชน องคก์ รวชิ าชพี สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สังคมอืน่ สง่ เสรมิ ความเข้มแขง็ ของชมุ ชน โดยจัดกระบวนการเรยี นรู้ภายในชุมชน เพื่อใหช้ ุมชนมีการจดั การศึกษา อบรม มีการแสวงหาความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร และรู้จักเลอื กสรรภมู ปิ ญั ญา และวิทยาการต่าง ๆ เพือ่ พัฒนา ชุมชนในสอดคล้องกบั สภาพปัญหาและความต้องการ รวมท้ังหาวธิ กี ารสนบั สนนุ ใหม้ กี ารเปล่ียนแปลง ประสบการณ์การพัฒนาระหว่างชมุ ชน 6. ให้สถานศกึ ษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มปี ระสิทธิภาพ รวมทง้ั การ สง่ เสริมให้ผสู้ อนสามารถวจิ ยั เพือ่ พฒั นากระบวนการเรยี นรู้ทเี่ หมาะสมกับผ้เู รียนในแตล่ ะระดบั การศึกษา การศึกษาประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยเหลอื เอ้ือตอ่ การจัดกจิ กรรมการ เรยี นการสอน แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนรู้เพยี งอยา่ งเดียวไมส่ ามารถทาให้การจดั การศกึ ษาดาเนนิ ไปได้อย่างราบรนื่ ต้องอาศยั การส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรูใ้ นรูปแบบต่าง ๆ ด้วย การจดั การศึกษาที่ เกีย่ วขอ้ งกับภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินตอ้ งสอดคล้องกบั สภาพปัญหา และความต้องการของแต่ละท้องถิน่ ดว้ ย แนวคิดของการศกึ ษาตลอดชีวิต เปน็ การศกึ ษาทีม่ ีความจาเปน็ สาหรับบุคคลในทุกชว่ ง ชีวติ ต้ังแต่เกดิ จนตาย บุคคลมีความสามารถที่จะเรยี นรู้ไดต้ ลอดชีวิต การศกึ ษา มไิ ดส้ ิ้นสดุ เม่อื บุคคลจบจาก โรงเรยี นหรือสถาบนั การศกึ ษาการศึกษาตลอดชีวติ เนน้ ความเสมอภาคความเทา่ เทียมกันในโอกาสทาง การศึกษาการศกึ ษาตลอดชวี ิตควรมีความยดื หยุ่นหลากหลายรปู แบบ และวธิ ีการเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคน เรียนรสู้ ามารถเลอื กวิธีเรยี นท่เี หมาะสมกับความสามารถของตนการศึกษาตลอดชวี ิตมุ่งให้บคุ คลได้พัฒนา อยา่ งเตม็ ศักยภาพพฒั นาคุณภาพชีวิตและพง่ึ ตนเองได้ สง่ิ ท่ใี ห้บคุ คลเรียนรู้ควรสัมพันธเ์ ก่ียวข้องกบั วถิ ชี ีวติ ซง่ึ บคุ คลควรไดร้ ับความรู้และทักษะท่ีจาเปน็ ในการดาเนนิ ชีวิตและการประกอบอาชพี รวมทัง้ ทักษะในการ
7 แสวงหาความรู้ หรือมเี ครือ่ งมือในการแสวงหาความรตู้ ่อไป การศกึ ษาตลอดชวี ติ เป็นภาพรวมของการศึกษา ทัง้ หมดครอบคลุมการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับที่เกิดจากการผสมผสานระหวา่ งระบบการศกึ ษาทจ่ี ดั สดั สว่ นของการศกึ ษาไว้ 3 ประเภท คือ 1. การศึกษาในระบบ เปน็ การศกึ ษาทก่ี าหนดจุดมงุ่ หมาย วธิ ีการศึกษา หลักสตู ร ระยะเวลาของการศกึ ษา การวัดและการประเมนิ ผล ซึง่ เป็นเงอ่ื นไขสาคัญของการสาเร็จการศกึ ษาที่แนน่ อน 2. การศึกษานอกระบบ เป็นการศกึ ษาท่ีมคี วามยดื หยนุ่ ในการกาหนดจดุ มุ่งหมาย รปู แบบ วิธีการจดั การศึกษา ระยะเวลาของการศกึ ษา การวัดและการประเมนิ ผล ซึง่ เป็นเง่ือนไขสาคญั ของ การสาเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกบั สภาพปญั หาและความ ตอ้ งการของบคุ คลแต่ละกลุ่ม ตัวอย่าง เชน่ การจัดกลมุ่ เรียนตามความสนใจของผเู้ รยี น การเรยี นหรือการ ฝกึ อบรมหลักสูตรระยะสัน้ เป็นตน้ 3. การศกึ ษาตามอัธยาศัย เปน็ การศกึ ษาท่ีใหผ้ ูเ้ รยี นได้เรียนรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม ส่อื หรอื แหล่ง ความรู้อืน่ ๆ เชน่ การฝกึ ฝนและปฏบิ ตั งิ านกับพอ่ แม่ หรือ สถานประกอบการ การศึกษาด้วยตนเองจาก หนงั สือและส่ือต่าง ๆ เป็นต้น ปัจจุบันภารกิจของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ได้ขยายออกไปอย่าง กวา้ งขวาง สามารถแบ่งภารกิจหลักได้ 3 ประเภท คือ 1. สง่ เสริมการศึกษาในระบบโรงเรยี น โดยจัดกจิ กรรมเพ่ือสง่ เสริมการเรียนการสอนใน ระบบโรงเรยี นในรปู แบบของการใช้ส่ือเทคโนโลยีการศกึ ษา ส่อื รายการวทิ ยุ โทรทศั น์เพื่อการศกึ ษา สอ่ื การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม และการจัดนิทรรศการวทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา 2. จดั การศึกษานอกโรงเรยี น โดยมุ่งจัดการศึกษาให้กบั ประชาชนและผู้ดอ้ ยโอกาสที่อยู่ นอกระบบโรงเรยี นให้ได้รับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน อ่านออก เขยี นได้ รวมทัง้ การจัดการศึกษาสายสามญั และ สายอาชีพในรปู แบบต่าง ๆ เพือ่ ยกระดับการศึกษาและพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ให้กับกล่มุ เปูาหมาย 3. สง่ เสรมิ การศึกษาตามอัธยาศยั โดยจดั กจิ กรรมการเรยี นร้สู อดคลอ้ งกับวถิ ีชวี ติ อย่าง ต่อเนือ่ ง เพื่อใหป้ ระชาชนไดร้ ับขอ้ มลู ข่าวสารทจ่ี าเป็นและทันสมัย รูเ้ ทา่ ทันการเปลย่ี นแปลงของสังคมโลกที่ เป็นไปอยา่ งรวดเร็วในยุคโลกาภิวฒั น์ สามารถแสวงหาความรไู้ ดด้ ้วยตนเองอย่างตอ่ เน่ืองตลอดชวี ิตจาก แหล่งตา่ ง ๆ ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน ทีอ่ ่านหนงั สอื ประจาหมู่บา้ น ศนู ย์การเรียนชุมชน ศนู ย์วทิ ยาศาสตร์ เพื่อการศึกษา และรายการวิทยโุ ทรทัศน์ เป็นตน้ โดยสรุปภารกจิ ทง้ั หมดดังกลา่ ว ก็เพือ่ จัดการศึกษาตลอด ชีวติ ใหแ้ ก่ประชาชนทอี่ ยู่ทัง้ ในและนอกระบบโรงเรยี นให้มีโอกาสได้รบั การศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ทักษะอาชีพ และขา่ วสารข้อมูลที่ทันสมัยในทุกช่วงเวลาที่ตอ้ งการ ในรูปแบบของการศึกษาตลอดชีวติ จัดการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี เปน็ การศกึ ษาเพื่อพฒั นาความรคู้ วามสามารถและทกั ษะ ในการประกอบอาชีพของบคุ คลและกลุ่มบุคคล ซึง่ มจี ดุ มุง่ หมายในชวี ติ ที่ตา่ งกนั โดยมีสาระดงั นี้ 1. การเรยี นรู้อาชีพแบบองค์รวมที่ประชาชน ครู กศน.และผู้เกย่ี วข้องร่วมกนั จัดกจิ กรรม การเรยี นรู้ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจชมุ ชน 2. การออกแบบการเรียนร้งู านอาชพี ตามลกั ษณะของการจัดการศึกษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี ในรูปแบบการฝึกทักษะอาชพี การเข้าสอู่ าชีพ การพัฒนาอาชพี และการพฒั นาอาชพี ด้วยเทคโนโลยี 3. การเรยี นรู้จากการปฏบิ ัติจริงทบ่ี รู ณาการกบั วิถีชีวติ โดยใชว้ งจรกระบวนการคิด ทา จา แกป้ ัญหาและพฒั นา
8 4. การจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชพี ท่ีพัฒนาศักยภาพของบคุ คลและชุมชนทีส่ อดคล้อง กบั วิถีชีวิต โดยสง่ เสริมการรวมกลุม่ อาชีพ สร้างเครือข่ายอาชพี มรี ะบบการแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ความรู้และ ประสบการณ์ การทาอาชพี ภายใต้วฒั นธรรมของชมุ ชน มีกลยทุ ธ์เพ่อื การแข่งขนั ของชุมชน เปน็ ชมุ ชนท่ใี ช้ เทคโนโลยีในการบรหิ ารจัดการและพัฒนาอาชีพ กศน.อาเภอชาติตระการ ไดด้ าเนินการจัดกจิ กรรมตามรูปแบบการจดั กิจกรรมการเรียนการ สอนมีการบูรณาการการจัดการเรียนร้เู พอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั ผู้เรียน แสดงถึงภาพสาเรจ็ ในการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรยี น กิจกรรมการเรยี นรู้จากภูมิปัญญาท้องถ่ินทเี่ ปน็ ส่วนหนง่ึ ในการพฒั นาศักยภาพของผเู้ รียน ในการ จัดการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคญั การเรยี นการสอนมงุ่ เน้นประโยชนข์ องผูเ้ รียนเป็นสาคัญ จึงต้อง จัดใหผ้ ู้เรยี นไดเ้ รียนร้จู ากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัตใิ ห้ทาได้ คดิ เปน็ มนี สิ ัยรกั การเรียนรู้ และเกิดการใฝุ เรยี นอย่างต่อเนอ่ื งตามแนวคิดของการศึกษาตลอดชีวติ
9 บทที่ 3 การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ผดู้ าเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสนใจหลักสูตรขนมไทย(ขนมต้ม) ได้ ดาเนนิ การในการอบรม เก็บรวบรวมข้อมลู และการวิเคราะหข์ ้อมลู ดังนี้ 3.1 การดาเนนิ การจดั กิจกรรม 1. เตรยี มการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน - ประชมุ วางแผนรปู แบบการจัดกจิ กรรม - เลือกหลักสูตรวชิ าชพี ท่ีจะจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน - มอบหมายงานใหบ้ คุ ลากรท่ีเก่ียวข้อง - ติดต่อประสางานในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 2. วธิ กี ารดาเนนิ งาน - เขยี นขออนุญาตจดั ตั้งกลมุ่ วิชาชพี - เสนอขออนญุ าตจดั ตั้งกลุ่มวชิ าชีพ - เตรยี มการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 1. เตรียมการกอ่ นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน - การจดั เตรียมเอกสารการเรียนการสอน - ติดต่อสถานท่ี - ติดต่อวิทยากร - อน่ื ๆ 2. ติดตอ่ ประสานงานเครือขา่ ย - จดั การอบรมกลุ่มวชิ าชีพตามแผนท่วี างไว้ 1. ลงทะเบยี นผเู้ ขา้ ร่วมการกิจกรรมการเรยี นการสอน 2. วิทยากรให้ความรู้ เรื่องหลกั สูตรขนมไทย(ขนมตม้ ) 3. จดั กจิ กรรมกลมุ่ ยอ่ ย 4. สรปุ กิจกรรมยอ่ ย 5. ปดิ การอบรม - สรปุ รายงานผลการจดั กจิ กรรมกลุ่มสนใจ ขนมไทย(ขนมตม้ ) เปน็ รูปเลม่ - รายงานผลการจัดกิจกรรมกลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) ให้ผูท้ ่เี กีย่ วข้อง รบั ทราบ 3.2 ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรม ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรมหลักสูตรขนมไทย(ขนมต้ม) จานวน ๙ คน - เพศชาย จานวน - คน - เพศหญิง จานวน ๙ คน ผจู้ ดั กจิ กรรม จานวน 1 คน
10 3.3 เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการจดั กิจกรรม - ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ ไดจ้ ากการกรอกแบบสอบถามของผูเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม - ข้อมูลทุตยิ ภูมิ ศึกษาจากเอกสาร ขอ้ มลู ต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์แบบสอบถามในแต่ละสว่ น ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู สว่ นบุคคล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ตอนที่ 3 สรุปข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะ สรุปเปน็ ประเด็นทส่ี าคัญ สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล คือ คา่ เฉลี่ย โดยใช้สูตรดงั น้ี 3.4.1 ค่ารอ้ ยละ (%) P = F 100 n เมอื่ p แทน รอ้ ยละ F แทน จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม n แทน จานวนทั้งหมด 3.4.2 ค่าเฉลยี่ ( x ) x = x n เม่อื x แทน ค่าเฉลีย่ x แทน จานวนผูต้ อบแบบสอบถาม n แทน จานวนท้งั หมด 3.5 การวิเคราะหข์ อ้ มลู หมายถึง น้อยที่สดุ 1.00 – 1.50 หมายถึง น้อย 1.51 – 2.50 หมายถงึ ปานกลาง 2.51 – 3.50 หมายถึง มาก 3.51 – 4.50 หมายถงึ มากทีส่ ุด 4.51 – 5.00
11 ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน จากการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนวชิ าชพี กลุม่ สนใจหลักสตู รขนมไทย(ขนมต้ม) ได้มี การสารวจความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่ีมตี ่อรูปแบบการจดั กิจกรรม จานวน ๙ คน โดยวิธีการ ตอบแบบสอบถาม จงึ ได้มกี ารนาเสนอข้อมูลในรูปตารางประกอบคาบรรยาย โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ส่วนบคุ คล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (กิจกรรมการเรยี นการสอน) ตอนที่ 3 สรปุ ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะ สรปุ เป็นประเด็นทีส่ าคัญ
12 3.1 ตอนที่ 1 การวเิ คราะหข์ ้อมลู ทวั่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม ตารางท่ี 1 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามเพศ เพศ จานวน ( n = ๙ ) ร้อยละ ชาย - - หญิง ๙ ๑๐๐ รวม ๙ 100 จากตารางท่ี 1 ผลการศึกษาพบวา่ ผู้เข้ารว่ มอบรมท้ังหมด คอื เพศหญงิ คิดเปน็ ร้อยละ ๑๐๐ ตารางท่ี 2 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามอายุ อายุ จานวน ( n = ๙ ) รอ้ ยละ ตา่ กวา่ 15 ปี - - 15 – 39 ปี ๑ 40 – 59 ปี ๖ ๑๑.๑๑ 60 ปีขึ้นไป ๒ ๖๖.๖๗ ๙ ๒๒.๒๒ รวม 100 จากตารางที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า ผเู้ ขา้ ร่วมอบรมส่วนใหญ่ คือ ช่วงอายุระหวา่ ง 40 – 59 ปี คิดเป็นร้อยละ ๖๖.๖๗ รองลงมาชว่ งอายุ 60 ปขี ึน้ ไป คิดเป็นรอ้ ยละ ๒๒.๒๒ ตารางท่ี 3 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามระดับการศึกษาสงู สุด ระดบั การศกึ ษาสูงสุด จานวน ( n = ๙ ) ร้อยละ ประถมศึกษา ๕ ๕๕.๕๖ - มัธยมศกึ ษาตอนต้น ๒ - มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ๒ ๒๒.๒๒ ๙ ๒๒.๒๒ อื่นๆ ๑๐๐ รวม จากตารางท่ี 3 ผลการศึกษาพบวา่ ผู้เขา้ ร่วมอบรมสว่ นใหญ่มีระดบั การศึกษาสงู สดุ คือ ระดับ ประถมศกึ ษา คดิ เป็นร้อยละ ๕๕.๕๖ รองลงมาคือระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย คิดเปน็ ร้อยละ ๒๒.๒๒
13 ตารางท่ี 4 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามอาชีพ อาชพี จานวน ( n = ๙ ) รอ้ ยละ เกษตรกร ๗ ๗๗.๗๘ รับจา้ ง ๑ ๑๑.๑๑ คา้ ขาย - นักเรียน/นักศึกษา - - ๑ - อื่นๆ ๙ ๑๑.๑๑ รวม 100 จากตารางที่ 4 ผลการศึกษาพบว่า ผูเ้ ขา้ รว่ มอบรมสว่ นใหญป่ ระกอบอาชพี เกษตรกร คิดเปน็ ร้อยละ ๗๗.๗๘ ตารางที่ 5 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามรายไดต้ ่อเดือน รายไดต้ ่อเดือน จานวน ( n = ๙ ) ร้อยละ ตา่ กว่า 5,000 บาท ๙ ๑๐๐ 5,000 – 10,000 บาท - 10,001 – 20,000 บาท - - มากกว่า 20,000 บาท - - ๙ - รวม 100 จากตารางท่ี 5 ผลการศึกษาพบวา่ ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมสว่ นใหญ่ มีรายได้ 5,000 บาท คิดเป็นรอ้ ย ละ ๑๐๐
14 3.2 ตอนที่ 2 การวเิ คราะหข์ ้อมลู เกี่ยวกับความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรม ตารางท่ี 6 แสดงจานวน ร้อยละ และค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจของผู้เขา้ ร่วมอบรมที่มตี อ่ การจัดกจิ กรรม การเรยี นการสอน รายการ ระดบั ความพงึ พอใจ มากท่สี ดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อย คา่ เฉล่ยี อย่ใู น ทส่ี ดุ ระดบั 1.เน้ือหาวชิ าท่ีจดั การเรยี นร/ู้ ฝกึ อบรมตรง ๗ ๒ - - - 4.๗๘ มาก ตามความต้องการของทา่ นเพียงใด (๗7.78%) (2๒.22%) ทีส่ ดุ 2.วทิ ยากรมาให้ความรู้ตรงตามเวลา 6 3 - - - 4.๖๗ มาก (66.67%) (๓3.33%) ท่ีสดุ 3.วทิ ยากรมาให้ความร้คู รบตามหลกั สตู ร ๗ ๑ ๑ - - 4.๓3 มาก กาหนด (๗7.78%) (11.11%) (11.11%) - - - ๔.๓๓ มาก 4.ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของ ๗ ๑ ๑ - วิทยากร (๗7.78%) (11.11%) (11.11%) - - 4.๗๘ มาก ท่สี ดุ 5.จานวนส่ือ/อปุ กรณก์ ารฝกึ ประกอบการ ๗ ๒ 1 เรียนเพยี งพอเพียงใด (๗7.78%) (2๒.22%) (๑๐.00%) - 4.๖๗ มาก ท่สี ุด 6.ทา่ นไดร้ ับความรูแ้ ละสามารถฝกึ ทกั ษะได้ ๗ ๒ ๑ ตามท่ีคาดหวังมากน้อยเพยี งใด (๗0.00%) (2๐.00%) (11.11%) - ๔.๓๓ มาก 7.ความรทู้ ักษะทไี่ ดส้ ามารถนาไปใช้ ๗ ๑ ประกอบอาชพี ไดเ้ พยี งใด (๗7.78%) (11.11%) 8.สถานทีเ่ รียนเหมาะสมเพยี งใด 6 ๒ 1- - ๔.๒๒ มาก (66.67%) (2๐.00%) (๑๐.00%) 9.ท่านได้รบั โอกาสในการเรยี นรเู้ ทา่ เทียมกนั ๗ ๑ ๑- - 4.๓3 มาก เพยี งใด (๗7.78%) (11.11%) (11.11%) 10.ระยะเวลาในการเรยี น/กจิ กรรม ๗ ๑ ๑- - ๔.๓๓ มาก เหมาะสมเพียงใด (๗7.78%) (11.11%) (11.11%) 11.ความรทู้ ไี่ ด้รบั ค้มุ คา่ กบั เวลาและความ ๗ ๑ ๑- - ๔.๓๓ มาก ตัง้ ใจเพยี งใด (๗7.78%) (11.11%) (11.11%) 12.ทา่ นพงึ พอใจต่อหลกั สูตรนเี้ พยี งใด ๘๑ - - - 4.๘๙ มาก (88.89%) (11.11%) ทีส่ ุด รวมท้งั สิน้ ๘๒ ๑๙ 7 - - 4.50 มาก คา่ เฉลย่ี ถ่วงนา้ หนกั (๗๕.93%) (๑๗.59%) (๖.48%) ๔.๕๐ มาก
15 จากตารางที่ 6 จากการศกึ ษาพบว่า ผเู้ ข้ารว่ มอบรมสว่ นใหญ่มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรยี น การสอนหลักสตู รกลุม่ สนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x = 4.๕๐) โดยมีระดับความ พงึ พอใจมากทส่ี ุดในเรื่อง ท่านพงึ พอใจต่อหลกั สูตรนเ้ี พยี งใด คิดเป็น (x = ๔.๘๙ ) ระดับความพึงพอใจ รองลงมา คือ เน้ือหาวิชาท่ีจดั การเรยี นรู้/ ฝึกอบรมตรงตามความตอ้ งการของทา่ นเพียงใดและ จานวนสอื่ / อปุ กรณ์การฝึกประกอบการเรียนเพยี งพอเพยี งใด คิดเป็น ( x =4.๗๘ ) และระดับความพงึ พอใจระดับตา่ ทสี่ ุด คอื สถานท่ีเรยี นเหมาะสมเพียงใด คิดเปน็ ( x = ๔.๒๒) ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ - หมายเหตุ คิดคะแนนเฉพาะทีค่ วามพึงพอใจอยใู่ นระดับมากขึน้ ไป
16 บทที่ 4 สรปุ อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนกลมุ่ สนใจหลักสตู รขนมไทย(ขนมต้ม) มีจดุ ประสงค์ใน การจัดกิจกรรมดงั น้ี 1. เพ่อื ใหผ้ เู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมเกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ เกยี่ วกับกล่มุ สนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) 2. เพ่อื ให้ผูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรมมกี ารแลกเปลีย่ นแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั แนวทางการ จัดกิจกรรม 3. เพ่อื เป็นการลดรายจ่ายในครอบครวั และเป็นการพฒั นาคุณภาพชีวิตของผู้เข้ารว่ ม กจิ กรรมใหด้ ยี ิง่ ข้ึน 4. เพ่ือสง่ เสริมความรว่ มมือและการจดั กิจกรรมการเรียนรู้การศกึ ษาอาชีพของผูเ้ รยี น ผ้รู บั บรกิ ารกบั สถานศกึ ษา 5. เพือ่ รว่ มวเิ คราะห์ และสังเคราะหร์ ปู แบบ กระบวนการจัดและผลสาเรจ็ ทเ่ี กิดขึ้นจาก โครงการตามตวั ช้ีวัดทก่ี าหนดเป็นตัวชว้ี ัดความสาเร็จตามกลมุ่ เปาู หมายจากการ ประเมินเบ้ืองตน้ 6. เพื่อศึกษาผลการดาเนนิ งาน ประสิทธิภาพ และประสิทธผิ ลในการจดั การศึกษาอาชีพ การดาเนินการจดั กจิ กรรม 4.1 ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผูเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมหลักสตู รขนมไทย(การทาเปียกปนู กะทสิ ด) จานวน ๙ คน - เพศชาย จานวน - คน - เพศหญงิ จานวน ๙ คน ผ้จู ัดกิจกรรม จานวน 1 คน 4.2 เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการอบรม - ขอ้ มลู ปฐมภูมิ ได้จากการกรอกแบบสอบถามของผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรม - ข้อมูลทตุ ยิ ภูมิ ศึกษาจากเอกสาร ข้อมลู ต่าง ๆ ที่เกย่ี วข้อง 4.3 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์แบบสอบถามในแต่ละส่วน ดงั น้ี ตอนท่ี 1 ข้อมลู สว่ นบคุ คล ตอนท่ี 2 ประเมนิ ความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเดน็ ที่สาคญั
17 4.4 วธิ ีการวเิ คราะหข์ ้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผ้จู ดั ได้ดาเนนิ การ 2 ลกั ษณะ คือ 4.4.1 การสังเคราะหเ์ ชงิ คุณลกั ษณะ ผ้จู ัดกจิ กรรมทาการสังเคราะห์โดยใชว้ ิธีการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ 3 ด้าน คอื ข้อมลู ทั่วไป ข้อมลู ความพึงพอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน และขอ้ เสนอแนะ 4.4.2 การสังเคราะห์การอบรมเชงิ ปริมาณ ในการสงั เคราะห์การจดั กิจกรรมเชงิ ปริมาณ ผจู้ ัดกจิ กรรมแยกออกเป็น คณุ ลกั ษณะตา่ ง ๆ ในการสังเคราะหข์ ้อมลู ดงั น้ี 1. ขอ้ มูลเก่ยี วกับเพศ / อายุ 2. ขอ้ มลู ระดับความพึงพอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน 3. ข้อเสนอแนะ โดยเปรียบเทยี บจานวนคนคดิ เป็นรอ้ ยละในแต่ละส่วนของข้อมลู การอบรม พร้อม การบรรยายประกอบ สรุปผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนกลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) โดยใช้วิธีการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์จากแบบประเมนิ ความพงึ พอใจในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน และรูปแบบการจัดกิจกรรม สามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ 1. การสังเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมทัง้ หมดเป็นเพศหญงิ เนอ่ื งจากกลุ่มสนใจหลักสตู รขนมไทย(ขนมต้ม) เป็นงานทผ่ี ู้หญงิ ชอบเพราะเป็นงานเกย่ี วกับงานบา้ นงานเรือนและสามารถทาเปน็ อาชีพเสริมไดเ้ พิ่มรายได้ เพื่อลดคา่ ใช้จ่ายในครัวเรือนไดอ้ กี ทาใหร้ ้อยละทั้งหมดเป็นเพศหญงิ 1.1 ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมส่วนใหญ่เป็นมอี ายุอยู่ระหวา่ ง ๔๐ – ๕๙ ปี เน่อื งจากเปน็ ชว่ ง วยั ทว่ี า่ งจากการทางานหลักคือการเกษตร ซึง่ เหมาะกบั วัยนมี้ าก จงึ มผี ลทาให้การหาค่ารอ้ ยในช่วงนส้ี งู กวา่ ชว่ งอนื่ ๆ ผลการสังเคราะห์ทางจานวนของผู้เข้าร่วมกจิ กรรม จานวนผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ วชิ าชพี มี อยจู่ ากดั ส่วนใหญ่ผู้เรยี นจะมาเรียนตามที่กาหนด ไม่มีผ้เู รียนเกินจากเปูาหมายที่กาหนด ผลการคานวณ อาจมคี วามคาดเคลอ่ื นได้ ถา้ หากมผี เู้ รยี นเพิ่มขึน้ อีกจากกลุ่มเปาู หมายปกติ และงบประมาณการฝึกอบรมก็ มอี ยู่อยา่ งจากัด จากการศึกษาพบว่า จากการศกึ ษาพบว่า ผู้เขา้ รว่ มอบรมส่วนใหญ่มคี วามพงึ พอใจต่อการจดั การ เรยี นการสอนหลักสูตรกลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมตม้ ) โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( x = 4.๕๐) โดยมีระดบั ความพึงพอใจมากท่ีสุดในเรื่อง ท่านพงึ พอใจตอ่ หลักสตู รนี้เพยี งใด คิดเปน็ (x = ๔.๘๙ ) ระดับความพึง พอใจรองลงมา คือ เนื้อหาวชิ าท่ีจัดการเรียนรู้/ ฝกึ อบรมตรงตามความต้องการของท่านเพยี งใดและ จานวน ส่อื /อปุ กรณก์ ารฝึกประกอบการเรยี นเพียงพอเพยี งใด คิดเปน็ ( x =4.๗๘ ) และระดับความพึงพอใจระดบั ตา่ ที่สุด คือสถานท่เี รียนเหมาะสมเพยี งใด คดิ เปน็ ( x = ๔.๒๒)
18 อภปิ รายผล จากการดาเนนิ การกลุ่มวชิ าชพี พบประเด็นสาคัญที่สามารถนามาอภปิ รายผลไดด้ ังน้ี 1. ด้านกลุม่ เปาู หมาย 1.1 กลุม่ เปาู หมายสว่ นใหญ่ตอ้ งการเพยี งนาความรทู้ ี่ไดร้ ับจากการอบรมไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั 1.2 จากการดาเนนิ การพบวา่ กลมุ่ เปาู หมายท้ังหมดเป็นเพศหญงิ เนือ่ งจากเป็น งานทแี่ มบ่ า้ นทงั้ หลายมีความสนใจมาก 2. ด้านงบประมาณ 2.1 จากการดาเนินงานพบวา่ ค่าวสั ดุ อุปกรณ์ไม่ค่อยเพยี งพอตอ่ ความต้องการ ของกลมุ่ ผเู้ ขา้ รับการอบรม แต่ไดม้ ีการใช้อยา่ งอนื่ ทดแทน 3. ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน 3.1 จากการดาเนินงานพบวา่ กิจกรรมหลกั สตู รขนมไทย(ขนมตม้ )ได้ เน่ืองมาจากปัญหาเรื่องงบประมาณน้อยราคาวตั ถดุ บิ สูง 3.2 จากการดาเนนิ งานพบว่ากจิ กรรมต้องยดื หยุ่นตามสภาพกลมุ่ เปาู หมาย เนือ่ งมาจากสภาพชวี ิตความเปน็ อยู่ของกลุ่มเปูาหมายมสี ่วนสาคัญต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 4. ด้านสถานที่ 4.1 การดาเนินการอบรม ดา้ นสถานท่สี ามารถมกี ารเปลยี่ นแปลงไปไดต้ ามความ ตอ้ งการ และความเหมาะสมของผ้เู ข้ารว่ มการอบรม 4.2 ควรมีการใช้สถานทีข่ องส่วนรวม เพ่ือให้เกดิ ความเชอ่ื มโยง สัมพันธ์กนั ระหวา่ ง กศน. และชุมชน ข้อเสนอแนะในการดาเนินการกลุม่ วชิ าชีพคร้ังตอ่ ไป 1. ควรทาการศกึ ษาปัญหาความตอ้ งการของกลุ่มเปาู หมาย โดยใชเ้ ครือ่ งมือที่ หลากหลายรปู แบบ เพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มลู ท่ีถกู ต้อง ตรงตามความต้องการของผเู้ รยี นมากท่ีสุด 2. ควรศกึ ษาความต้องการของกลุ่มเปูาหมายในดา้ นตา่ ง ๆ ที่ตอ้ งการรับบริการจาก กศน. เพ่ือให้ทราบและสามารถจัดกิจกรรมตามหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกับความต้องการของท้องถนิ่ ได้ 3. ควรศกึ ษาผลกระทบจาการดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน โดยการศึกษา จากกลมุ่ เปูาหมาย และชมุ ชน 4. ควรเก็บขอ้ มลู ของผเู้ ขา้ รับการอบรมหลังการอบรมดว้ ยทุกคร้งั ขอ้ มูลความตระหนัก ในการจัดกจิ กรรมการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาอาชพี หลักสูตรขนมไทย(ขนมต้ม) ของสถานศกึ ษา มุ่งใหเ้ กิดความสอดคล้องกบั ความตอ้ งการของผู้เรยี น/ผู้รบั บริการเปน็ สาคัญ โดยมงุ่ เนน้ ความตอ้ งการของ ผู้เรยี น/ผู้รบั บรกิ ารเป็นแนวทางในการดาเนินงาน และได้มีการส่งเสริม สนบั สนุนใหบ้ ุคลากรในสถานศึกษา เหน็ ความสาคัญของการจดั หลกั สตู รวิชาชีพแต่ละหลักสูตร และปฏิบตั ิงานอย่างเปน็ ระบบอย่างมี ประสทิ ธิภาพ แต่การดาเนินการบางอยา่ งไมส่ ามารถทาใหบ้ รรลตุ ามแผนทีว่ างไวไ้ ด้ จงึ ทาให้ขอ้ มูลบางอย่าง เกดิ ความคลาดเคล่ือน
19 ข้อมูลการปฏบิ ตั ิ (ความพยายาม) เมื่อบุคลากรได้รับแนวทาง และนโยบายทางการศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชีพแลว้ ได้ดาเนนิ การ สารวจหาความตอ้ งการของกลุม่ เปาู หมายที่แท้จรงิ แต่เนื่องจากการเกบ็ ข้อมลู ไม่เปน็ ไปตามแผนทว่ี างไว้ ทา ใหไ้ มส่ ามารถดาเนินการจดั การศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชพี ตามความตอ้ งการของผู้เรียน/ผรู้ บั บรกิ ารได้ทว่ั ถึงทุก กลุม่ ทาให้ความพงึ พอใจของผู้สนใจน้อยลง จุดเด่นของกลุ่ม 1. มีความตอ้ งการ เหมือนกัน 2. กลุ่มเปาู หมายมคี วามรบั ผิดชอบ 3. กลมุ่ เปาู หมายมีความสามัคคี 4. กล่มุ เปาู หมายมคี วามสนใจในกิจกรรมการเรียนการสอนเปน็ อย่างดี 5. กล่มุ รจู้ กั ประยุกต์ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และวัตถดุ บิ ทดแทนกนั จุดควรพัฒนา (จุดด้อย) 1. การรวมกล่มุ เป็นกลุม่ อาชพี 2. มีผู้เขา้ ร่วมการอบรมบางสว่ นเอาเปรยี บผู้รว่ มการอบรมคนอ่ืน แนวทางการพฒั นา 1. ควรจดั หางบประมาณเพิ่มเตมิ หรอื การขอความสนบั สนุนจากแหลง่ ต่าง ๆ ในเรื่อง การจดั หาอปุ กรณใ์ นการเรยี นรู้และปฏิบัติ วิธกี ารพัฒนา 1. สร้างความเขา้ ใจทีด่ ีในการใชว้ ตั ถุดิบทม่ี ีอยู่ในท้องถน่ิ ในการจดั กิจกรรมการเรียนการ สอน ใหผ้ ู้เรียน/ผรู้ บั บริการเห็นความสาคัญ 2. ปรับวธิ กี ารจัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รยี น/ผ้รู ับบริการ ให้มคี วามยืดหยนุ่ โดยไม่ เนน้ หน่วยการเรียนรตู้ ามหลักสูตร แต่ใหย้ ดึ ตัวผู้เรียนเปน็ สาคญั แลว้ จึงนาผลการดาเนินงานมาปรับปรุง หลักสตู รขนมไทย(ขนมต้ม) ในครง้ั ตอ่ ไป
20 ภำคผนวก ภำพกิจกรรม
21 กลมุ่ สนใจ ขนมไทย(ขนมต้ม) จานวน ๕ ชม. ระหว่างวนั ท่ี ๒๕ กรกฎาคม 256๓ ณ ท่ีทาการผใู้ หญ่บ้าน หมู่ ๑ บา้ นชาตติ ระการ
22
23 จดั ทำโดย ท่ปี รึกษา ผอ.กศน.อาเภอชาติตระการ 1.นางพรสวรรค์ กนั ตง ครู ๒.นายรงุ้ ภธู ร ภาศรี ---------------------------------------------------------------- สง่ เสรมิ สนับสนนุ การจัดกิจกรรม 1.นางสาวภาณมุ าศ ยศปัญญา ครอู าสาสมคั รฯ ๒.นางสาวประยรู บุญประกอบ ครอู าสาสมคั รฯ ------------------------------------------------------------ ผูร้ ับผิดชอบ/ ผเู้ รยี บเรยี ง/ ผู้จัดพมิ พ์รูปเลม่ / ออกแบบปก นางสาวนิภาพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาตติ ระการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: