Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปกลุ่มอาชีพช่างตัดเย็บ

สรุปกลุ่มอาชีพช่างตัดเย็บ

Description: ช่างตัดเย็บ1

Keywords: ช่างตัดเย็บ

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั กจิ กรรม ชา่ งตดั เยบ็ ( ๓๕ ชวั่ โมง ) ปงี บประมาณ 2563 โดย นางสาวนภิ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาตติ ระการ ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอชาตติ ระการ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก

2 ก คำนำ การสรุปผลการจัดกิจกรรมอาชีพหลักสูตรช่างพื้นฐาน ช่างตัดเย็บ เป็นการ จัดเกบ็ และรวบรวมขอ้ มลู การอบรมกลมุ่ วชิ าชพี เพ่ือส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ต่อประชาชน ผู้สนใจเป็นการสนองตอบความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพ่ือให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใน กระบวนการเรียนรู้จะแตกต่างออกไปตามพ้ืนที่ในแต่ละพ้ืนที่ กลุ่มเป้าหมาย วิถีการดาเนิน ชีวิตที่ดีข้ึน สภาพแวดล้อม ล้วนแต่ส่งผลต่อการเรียนรู้ท้ังสิ้น กระบวนการเรียนรู้จะ ประกอบด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติเพื่อฝึกทักษะในการเรียนรู้ให้แก่ประชาชน กลุ่มเป้าหมายให้สามารถนาความรู้และประสบการณ์ท่ีได้ไปปรับประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต ตอ่ ไป สรุปผลการจัดกิจกรรมเล่มน้ี ทางผู้ดาเนินงานได้เรียบเรียงข้ึนเพื่อสรุปผลการ จดั กจิ กรรมกล่มุ อาชพี ช่างพ้ืนฐาน ช่างตัดเย็บ และไดใ้ ชค้ วามพยายามอย่างดีท่ีสุดแล้ว แต่ก็ยัง ไม่มั่นใจว่าข้อบกพร่องต่าง ๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ ดังน้ัน จึงใคร่ขอความกรุณาจากผู้ใช้ทุกท่าน หากพบขอ้ ผิดพลาดหรอื มีข้อเสนอแนะที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ กรุณาแจ้งให้ผู้จัดทาทราบด้วย จักขอบคุณย่ิง ทั้งนี้ก็เพ่ือจะได้นาไปเป็นข้อมูลในการปรับปรุงแก้ไขการสรุปผลการจัดกิจกรรม เพอ่ื พัฒนาอาชีพในโอกาสตอ่ ไป นางสาวนภิ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาติตระการ ผ้จู ัดทา สิงหาคม ๒๕๖๓

3 ข เรื่อง รายงานผลการจัดกิจกรรมหลักสตู รอาชีพชา่ งพืน้ ฐาน ช่างตัดเยบ็ หนา้ คำนำ หลักสตู รและเอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ ง ก สำรบัญ การดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ข บทที่ 1 สรปุ อภปิ ราย และข้อเสนอแนะ บทท่ี 2 1 บทที่ 3 ๒ บทท่ี 4 ๕ 1๒ ภาคผนวก 1๖ - ภาพกจิ กรรม 1๗ - เอกสารจัดตง้ั กลมุ่ ๒๐ - จดั ทาโดย ๓๕

4 รำยงำนผลกำรจดั กจิ กรรม บทท่ี 1 หลักสตู รอาชพี ชา่ งพน้ื ฐาน ชา่ งตัดเยบ็ ความเป็นมา การจัดการศึกษาอาชีพในปัจจุบันมีความสาคัญมาก เพราะเป็นการพัฒนาประชากรของ ประเทศให้มคี วามรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ แก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความ เข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ยกระดับการจัดการศึกษาเพ่ือเพ่ิมศักยภาพและขีดความ สามารถให้ ประชาชนได้มีอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ม่ันคง โดยเน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้าน ต่างๆ มุ่งพัฒนาคนไทยให้ได้รับการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึงและเท่า เทยี มกัน ประชาชนมรี ายไดม้ นั่ คง มงั่ คั่ง และมีงานทาอย่างยั่งยืนมีความ สามารถเชิงการแข่งขันท้ังในระดับ ภูมิภาคอาเซียนและระดับสากล ซึ่งจะเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ที่สร้างความม่ันคง ให้แก่ ประชาชนและประเทศชาติ สภาพสังคมในปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมาก อัตราประชากรเพ่ิมขึ้นเร่ือยๆ แต่ทรัพยากร กลับลดลง จึงมีความจาเป็นต้องใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่างจากัดให้เกิดความคุ้มค่ามากท่ีสุด โดยเฉพาะอย่าง ยงิ่ เรอื่ งของการประกอบอาชพี ด้านความคิดสรา้ งสรรค์ มคี วามจาเป็นที่จะต้องใช้ประโยชน์จากทรัพยากรให้ มีความคุ้มค่าย่ิงข้ึนอาชีพการทอผ้า จึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่จะเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้และการมีงาน ทาอย่างย่ังยืนของประชาชนช่วยให้มีรายได้ เล้ียงครอบครัว มีความกินดีอยู่ดี สามารถแก้ปัญหาความ ยากจนได้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ จึงได้จัดทา หลักสูตรชา่ งตัดเยบ็ ขน้ึ เพ่ือส่งเสรมิ ดา้ นอาชีพเป็นการฝึกทักษะพื้นฐานอาชีพ ซ่ึงเป็นแนวทางการประกอบ อาชีพ ทาใหป้ ระชาชนมรี ายได้เสรมิ สามารถนาไปประกอบอาชีพให้กบั ตนเองและครอบครวั ได้ สถานที่ ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี หมู่ ๙ ตาบลชาติตระการ อาเภอชาติตระการ จงั หวัดพษิ ณโุ ลก วนั / ระยะเวลาทจ่ี ดั กิจกรรม - ระหวา่ งวันที่ ๒๑ – ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ - เวลา 09.00 น. – 15.00 น. - หลักสูตร ๓๕ ชว่ั โมง - จานวน ๑๐ คน วิทยากร นางบวั ววิ ลาสม ผูร้ ับผดิ ชอบ ตาแหนง่ ครู กศน.ตาบล นางสาวนภิ าพร พระคาสอน

5 บทท่ี 2 หลักสูตรและเอกสารที่เกย่ี วขอ้ ง การส่งเสริมการจัดกระบวนการเรียนรู้ ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ได้กาหนด บทบาทในการส่งเสริมการเรยี นรขู้ องรัฐ และสถานศึกษาต่าง ๆ ดังน้ี 1. รฐั ต้องส่งเสริมการดาเนินงาน และการจดั ตัง้ แหลง่ การเรยี นรู้ตลอดชีวิตทุกรปู แบบ ได้แก่ ห้องสมุดประชาชน พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยาน วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ศูนยก์ ารกีฬาและนันทนาการ แหล่งข้อมูล และแหล่งการเรียนรู้ อย่างเพียงพอ และมีประสทิ ธภิ าพ 2. ให้คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน กาหนดหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานเพ่ือความเป็นไทย ความเป็นพลเมืองดีของชาติ การดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อ การศกึ ษาต่อ 3. ให้สถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน มหี น้าทจี่ ัดทาสาระของหลักสตู รในส่วนที่เกยี่ วข้องกบั สภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของ ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ 4. หลกั สตู รการศึกษาระดบั ตา่ ง ๆ ต้องมลี ักษณะหลากหลายเหมาะสมกบั แตล่ ะระดับ โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคล สาระของหลักสูตร ท้ังท่ีเป็นวิชาการ วิชาชีพ ต้องมุ่งพัฒนาคนให้มี ความสมดุล ทง้ั ด้านความรู้ ความคิด ความสามารถ ความดีงาม และความรับผิดชอบตอ่ สังคม 5. ใหส้ ถานศกึ ษารว่ มกบั บคุ คล ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชมุ ชน องคก์ รปกครองสว่ น ท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอ่ืน ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน โดยจัดกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชน เพ่ือให้ชุมชนมีการจัดการศึกษา อบรม มีการแสวงหาความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร และรู้จักเลือกสรรภูมิปัญญา และวิทยาการต่าง ๆ เพื่อพัฒนา ชุมชนในสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ รวมท้ังหาวิธีการสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลง ประสบการณ์การพัฒนาระหว่างชุมชน 6. ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรยี นการสอนท่มี ีประสทิ ธภิ าพ รวมทั้งการ ส่งเสรมิ ให้ผสู้ อนสามารถวิจยั เพื่อพฒั นากระบวนการเรยี นรูท้ ี่เหมาะสมกบั ผ้เู รยี นในแต่ละระดับการศึกษา การศึกษาประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยเหลือเอื้อต่อการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน แนวทางในการจดั กระบวนการเรยี นรู้เพยี งอย่างเดยี วไมส่ ามารถทาให้การจัดการศึกษาดาเนิน ไปได้อยา่ งราบร่ืน ต้องอาศยั การสง่ เสริมการจัดกระบวนการเรยี นรใู้ นรูปแบบต่าง ๆ ด้วย การจัดการศึกษาท่ี เกี่ยวข้องกับภูมปิ ญั ญาท้องถิ่นต้องสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของแต่ละท้องถิ่นดว้ ย แนวคิดของการศึกษาตลอดชีวิต เป็นการศึกษาที่มีความจาเป็นสาหรับบุคคลในทุกช่วง ชีวิตตัง้ แตเ่ กดิ จนตาย บุคคลมีความสามารถทจี่ ะเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต การศึกษา มิได้ส้ินสุดเมื่อบุคคลจบจาก โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาการศึกษาตลอดชีวิตเน้นความเสมอภาคความเท่าเทียมกันในโอกาสทาง การศึกษาการศึกษาตลอดชีวิตควรมีความยืดหยุ่นหลากหลายรูปแบบ และวิธีการเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคน เรียนรู้สามารถเลือกวิธีเรียนท่ีเหมาะสมกับความสามารถของตนการศึกษาตลอดชีวิตมุ่งให้บุคคลได้พัฒนา อย่างเต็มศักยภาพพัฒนาคุณภาพชีวิตและพ่ึงตนเองได้ ส่ิงท่ีให้บุคคลเรียนรู้ควรสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ซงึ่ บคุ คลควรไดร้ ับความรู้และทักษะที่จาเป็นในการดาเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ รวมทั้งทักษะในการ

6 แสวงหาความรู้ หรือมเี ครอื่ งมือในการแสวงหาความรูต้ ่อไป การศึกษาตลอดชีวิตเป็นภาพรวมของการศึกษา ทั้งหมดครอบคลุมการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับท่ีเกิดจากการผสมผสานระหว่างระบบการศึกษาที่จัด สดั สว่ นของการศกึ ษาไว้ 3 ประเภท คือ 1. การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาที่กาหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและการประเมนิ ผล ซึง่ เปน็ เงอ่ื นไขสาคญั ของการสาเรจ็ การศกึ ษาที่แนน่ อน 2. การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาที่มีความยดื หยุ่นในการกาหนดจดุ มงุ่ หมาย รปู แบบ วธิ ีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและการประเมินผล ซ่งึ เป็นเงอ่ื นไขสาคัญของ การสาเร็จการศึกษา โดยเน้ือหาและหลักสูตรจะตอ้ งมคี วามเหมาะสมสอดคลอ้ งกับสภาพปญั หาและความ ตอ้ งการของบคุ คลแต่ละกลุ่ม ตัวอยา่ ง เช่น การจดั กล่มุ เรียนตามความสนใจของผ้เู รยี น การเรียนหรือการ ฝกึ อบรมหลักสูตรระยะส้ัน เป็นต้น 3. การศึกษาตามอธั ยาศัย เปน็ การศกึ ษาที่ให้ผู้เรยี นได้เรียนรู้ดว้ ยตนเองตามความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สง่ิ แวดล้อม สอื่ หรอื แหล่ง ความรู้อนื่ ๆ เชน่ การฝึกฝนและปฏบิ ัตงิ านกับพอ่ แม่ หรอื สถานประกอบการ การศึกษาดว้ ยตนเองจาก หนงั สือและสื่อต่าง ๆ เป็นต้น ปจั จบุ ันภารกิจของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ได้ขยายออกไปอยา่ ง กว้างขวาง สามารถแบ่งภารกิจหลกั ได้ 3 ประเภท คือ 1. ส่งเสรมิ การศึกษาในระบบโรงเรยี น โดยจดั กิจกรรมเพ่ือสง่ เสรมิ การเรยี นการสอนใน ระบบโรงเรียนในรูปแบบของการใชส้ อื่ เทคโนโลยีการศึกษา สอ่ื รายการวทิ ยุ โทรทศั น์เพื่อการศึกษา สอ่ื การศึกษาทางไกลผา่ นดาวเทียม และการจัดนทิ รรศการวทิ ยาศาสตรเ์ พื่อการศึกษา 2. จัดการศึกษานอกโรงเรียน โดยมุ่งจัดการศึกษาให้กับประชาชนและผู้ด้อยโอกาสที่อยู่ นอกระบบโรงเรียนใหไ้ ด้รับการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน อ่านออก เขียนได้ รวมทั้งการจัดการศึกษาสายสามัญ และ สายอาชีพในรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือยกระดับการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มเปูาหมาย 3. ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับวิถีชีวิตอย่าง ตอ่ เนื่อง เพือ่ ใหป้ ระชาชนได้รบั ขอ้ มูลขา่ วสารที่จาเป็นและทนั สมัย รเู้ ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกท่ี เป็นไปอย่างรวดเร็วในยุคโลกาภิวัฒน์ สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตจาก แหล่งตา่ ง ๆ ได้แก่ หอ้ งสมุดประชาชน ที่อ่านหนังสือประจาหมู่บ้าน ศูนย์การเรียนชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์ เพ่ือการศึกษา และรายการวิทยุโทรทัศน์ เป็นต้นโดยสรุปภารกิจท้ังหมดดังกล่าว ก็เพื่อจัดการศึกษาตลอด ชีวิตให้แก่ประชาชนที่อยู่ท้ังในและนอกระบบโรงเรียนให้มีโอกาสได้รับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ทักษะอาชีพ และขา่ วสารขอ้ มลู ทีท่ ันสมยั ในทุกช่วงเวลาทตี่ ้องการ ในรูปแบบของการศกึ ษาตลอดชีวิต จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถและทักษะ ในการประกอบอาชพี ของบุคคลและกลุ่มบคุ คล ซึง่ มจี ดุ มุง่ หมายในชวี ิตทต่ี ่างกนั โดยมสี าระดังนี้ 1. การเรียนรู้อาชีพแบบองค์รวมที่ประชาชน ครู กศน.และผู้เกี่ยวข้องร่วมกันจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ เพอื่ ฟ้นื ฟเู ศรษฐกิจชุมชน 2. การออกแบบการเรียนรู้งานอาชีพตามลักษณะของการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ ในรปู แบบการฝกึ ทักษะอาชีพ การเขา้ สอู่ าชีพ การพฒั นาอาชพี และการพฒั นาอาชพี ด้วยเทคโนโลยี 3. การเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงที่บูรณาการกับวิถีชีวิต โดยใช้วงจรกระบวนการคิด ทา จา แก้ปญั หาและพัฒนา

7 4. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพที่พัฒนาศักยภาพของบุคคลและชุมชนท่ีสอดคล้อง กับวถิ ชี ีวติ โดยส่งเสริมการรวมกลุ่มอาชีพ สร้างเครือข่ายอาชีพ มีระบบการแลกเปล่ียนเรียนรู้ ความรู้และ ประสบการณ์ การทาอาชพี ภายใต้วฒั นธรรมของชมุ ชน มีกลยุทธเ์ พื่อการแขง่ ขันของชุมชน เป็นชุมชนที่ใช้ เทคโนโลยใี นการบรหิ ารจัดการและพฒั นาอาชีพ กศน.อาเภอชาตติ ระการ ไดด้ าเนนิ การจดั กิจกรรมตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนมีการบูรณาการการจัดการเรียนรู้เพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียน แสดงถึงภาพสาเร็จในการพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน กิจกรรมการเรียนรู้จากภูมิปัญญาท้องถ่ินที่เป็นส่วนหน่ึงในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ในการ จัดการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคัญ การเรียนการสอนม่งุ เน้นประโยชน์ของผูเ้ รียนเปน็ สาคัญ จึงต้อง จัดให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติให้ทาได้ คิดเป็น มีนิสัยรักการเรียนรู้ และเกิดการใฝุ เรยี นอย่างต่อเนื่องตามแนวคิดของการศึกษาตลอดชีวติ

8 บทที่ 3 การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้ดาเนนิ การจดั กิจกรรมการเรียนการสอนหลกั สตู รอาชพี ช่างพน้ื ฐาน ช่างตัดเยบ็ ได้ ดาเนนิ การในการอบรม เกบ็ รวบรวมข้อมูล และการวเิ คราะห์ข้อมูลดังน้ี 3.1 การดาเนินการจดั กิจกรรม 1. เตรยี มการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน - ประชุมวางแผนรูปแบบการจัดกิจกรรม - เลือกหลักสตู รวิชาชีพท่ีจะจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน - มอบหมายงานให้บคุ ลากรท่เี กย่ี วข้อง - ติดต่อประสางานในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน 2. วธิ ีการดาเนินงาน - เขยี นขออนุญาตจดั ตั้งกล่มุ วชิ าชพี - เสนอขออนุญาตจดั ต้ังกลุม่ วชิ าชพี - เตรยี มการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน 1. เตรียมการกอ่ นการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน - การจัดเตรยี มเอกสารการเรยี นการสอน - ติดต่อสถานท่ี - ตดิ ตอ่ วทิ ยากร - อน่ื ๆ 2. ตดิ ตอ่ ประสานงานเครือขา่ ย - จัดการอบรมกลมุ่ วชิ าชพี ตามแผนท่ีวางไว้ 1. ลงทะเบียนผเู้ ขา้ ร่วมการกิจกรรมการเรียนการสอน 2. วทิ ยากรให้ความรู้ เร่ืองหลกั สูตรอาชพี ชา่ งพ้นื ฐาน ช่างตัดเยบ็ 3. จัดกจิ กรรมกลุ่มย่อย 4. สรปุ กจิ กรรมย่อย 5. ปดิ การอบรม - สรุปรายงานผลการจัดกจิ กรรมกลมุ่ สนใจหลักสูตรอาชีพช่างพ้นื ฐาน ชา่ งตดั เยบ็ เปน็ รูปเล่ม - รายงานผลการจดั กจิ กรรมกลุม่ สนใจหลักสตู รอาชีพช่างพ้ืนฐาน ชา่ งตัดเย็บ ให้ผทู้ ่ีเกี่ยวข้องรบั ทราบ 3.2 ผ้เู ขา้ ร่วมกจิ กรรม ผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรมหลักสูตรอาชพี ชา่ งพื้นฐาน ชา่ งตดั เย็บ จานวน ๑๐ คน - เพศชาย จานวน - คน - เพศหญงิ จานวน ๑๐ คน ผู้จดั กิจกรรม จานวน 1 คน

9 3.3 เครือ่ งมือท่ใี ช้ในการจัดกิจกรรม - ข้อมลู ปฐมภมู ิ ไดจ้ ากการกรอกแบบสอบถามของผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม - ขอ้ มูลทตุ ิยภมู ิ ศึกษาจากเอกสาร ขอ้ มูลต่าง ๆ ที่เกีย่ วข้อง 3.4 การเกบ็ รวบรวมข้อมูล วเิ คราะห์แบบสอบถามในแต่ละสว่ น ดังนี้ ตอนที่ 1 ขอ้ มูลส่วนบุคคล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ตอนที่ 3 สรปุ ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ สรุปเป็นประเด็นทส่ี าคัญ สถติ ิที่ใช้ในการวิเคราะห์ขอ้ มูล คือ คา่ เฉลี่ย โดยใชส้ ตู รดงั นี้ 3.4.1 ค่าร้อยละ (%) P = F  100 n เมอ่ื p แทน ร้อยละ F แทน จานวนผู้ตอบแบบสอบถาม n แทน จานวนทงั้ หมด 3.4.2 ค่าเฉลยี่ ( x ) x = x n เม่อื x แทน ค่าเฉลี่ย  x แทน จานวนผูต้ อบแบบสอบถาม n แทน จานวนท้งั หมด 3.5 การวเิ คราะห์ข้อมูล หมายถึง น้อยทส่ี ุด 1.00 – 1.50 หมายถึง น้อย 1.51 – 2.50 หมายถึง ปานกลาง 2.51 – 3.50 หมายถึง มาก 3.51 – 4.50 หมายถึง มากที่สดุ 4.51 – 5.00

10 ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน จากการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนวิชาชีพหลักสูตรอาชพี ชา่ งพื้นฐาน ช่างตัดเยบ็ ได้มี การสารวจความพึงพอใจของผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมท่มี ีต่อรปู แบบการจัดกจิ กรรม จานวน ๑๐ คน โดยวธิ กี าร ตอบแบบสอบถาม จงึ ได้มีการนาเสนอข้อมลู ในรปู ตารางประกอบคาบรรยาย โดยแบง่ ออกเป็น 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ตอนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ตอนที่ 2 ประเมนิ ความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (กจิ กรรมการเรียนการสอน) ตอนท่ี 3 สรุปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเดน็ ทสี่ าคัญ

11 3.1 ตอนที่ 1 การวิเคราะห์ข้อมูลทัว่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตารางท่ี 1 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามเพศ เพศ จานวน ( n = ๑๐ ) ร้อยละ ชาย - - หญิง ๑๐ ๑๐๐ รวม ๑๐ 100 จากตารางท่ี 1 ผลการศึกษาพบว่า ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมทั้งหมด คือ เพศหญิง คิดเปน็ รอ้ ยละ ๑๐๐ ตารางที่ 2 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามอายุ อายุ จานวน ( n = ๑๐ ) ร้อยละ ต่ากว่า 15 ปี - - 15 – 39 ปี ๑ ๑๐ 40 – 59 ปี ๖ ๖๐ 60 ปขี ้ึนไป ๓ ๓๐ ๑๐ รวม 100 จากตารางท่ี 2 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่ คือ ช่วงอายรุ ะหวา่ ง 40 – 59 ปี คดิ เปน็ ร้อยละ ๖๐ รองลงมา คือช่วงอายรุ ะหว่าง 60 ปีข้นึ ไป คิดเปน็ รอ้ ยละ ๓๐ ตารางท่ี 3 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามระดบั การศึกษาสูงสดุ ระดับการศกึ ษาสงู สุด จานวน ( n = ๑๐ ) รอ้ ยละ ประถมศึกษา 3 30 1 10 มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 1 10 มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 5 50 ๑๐ 100 อ่นื ๆ รวม จากตารางที่ 3 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เข้าร่วมอบรมสว่ นใหญม่ รี ะดับการศึกษาสงู สดุ คือ ระดบั อนื่ ๆ คิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ รองลงมา คอื ประถมศึกษา คิดเปน็ ร้อยละ ๓๐

12 ตารางที่ 4 แสดงจานวน ร้อยละจานวนตามอาชีพ อาชพี จานวน ( n = ๑๐ ) ร้อยละ เกษตรกร ๘ ๘๐ รบั จ้าง ๒ ๒๐ ค้าขาย - - นกั เรยี น/นักศึกษา - - - - อ่นื ๆ ๑๐ 100 รวม จากตารางท่ี 4 ผลการศึกษาพบวา่ ผูเ้ ขา้ ร่วมอบรมส่วนใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกร คดิ เป็น ร้อยละ ๘๐ รองลงมา คือ อาชีพรับจ้าง คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๐ ตารางที่ 5 แสดงจานวน รอ้ ยละจานวนตามรายไดต้ ่อเดือน รายไดต้ อ่ เดือน จานวน ( n = ๑๐ ) รอ้ ยละ ตา่ กวา่ 5,000 บาท ๑๐ ๑๐๐ 5,000 – 10,000 บาท - 10,001 – 20,000 บาท - - มากกวา่ 20,000 บาท - - ๑๐ - รวม 100 จากตารางท่ี 5 ผลการศึกษาพบว่า ผู้เขา้ ร่วมอบรมทงั้ หมด มรี ายได้ 5,000 บาท คดิ เปน็ รอ้ ย ละ ๑๐๐

13 3.2 ตอนท่ี 2 การวิเคราะห์ข้อมลู เก่ียวกับความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรม ตารางท่ี 6 แสดงจานวน ร้อยละ และคา่ เฉลี่ยของความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รว่ มอบรมท่ีมีต่อการจัดกจิ กรรม การเรยี นการสอน รายการ ระดบั ความพึงพอใจ ปาน นอ้ ย น้อย มากทส่ี ดุ มาก กลาง ท่ีสุด คา่ เฉลยี่ อยใู่ น ๔.๘๐ ระดบั 1.เน้ือหาวชิ าที่จัดการเรียนรู้/ ฝึกอบรม ๘ ๒ - -- ๔.๗๐ มาก ตรงตามความตอ้ งการของท่านเพียงใด (๘๐.๐๐%) (๒๐.๐๐%) ๔.๗๐ ที่สุด 2.วทิ ยากรมาใหค้ วามรู้ตรงตามเวลา - -- ๔.๘๐ ๗ ๓ มาก 3.วทิ ยากรมาใหค้ วามรู้ครบตามหลกั สตู ร (๗๐.๐๐%) (๓๐.๐๐%) - -- ๔.๘๐ ทส่ี ดุ กาหนด 4.ความสามารถในการถา่ ยทอดความรู้ ๗ ๓ - -- มาก ของวทิ ยากร (๗๐.๐๐%) (๓๐.๐๐%) ทส่ี ดุ - -- 5.จานวนสอื่ /อุปกรณ์การฝกึ ประกอบการ ๘ ๒ มาก เรยี นเพยี งพอเพียงใด (๘๐.๐๐%) (๒๐.๐๐%) ที่สดุ ๘ ๒ มาก (๘๐.๐๐%) (๒๐.๐๐%) ทส่ี ุด 6.ทา่ นไดร้ บั ความรแู้ ละสามารถฝึกทกั ษะ ๗ ๓ - - - ๔.๗๐ มาก (๗๐.๐๐%) (๓๐.๐๐%) ที่สดุ ไดต้ ามที่คาดหวงั มากน้อยเพียงใด 7.ความรทู้ ักษะท่ีได้สามารถนาไปใช้ ๗ ๓ - - - ๔.๗๐ มาก ประกอบอาชีพได้เพียงใด (๗๐.๐๐%) (๓๐.๐๐%) ที่สดุ 8.สถานทเี่ รยี นเหมาะสมเพียงใด ๙๑ - - - ๔.90 มาก (๙๐.๐๐%) (๑๐.๐๐%) ทส่ี ดุ 9.ท่านไดร้ บั โอกาสในการเรยี นรู้เทา่ เทียม ๘ ๒ - - ๔.๘๐ มาก ทสี่ ุด กันเพยี งใด (๘๐.๐๐%) (๒๐.๐๐%) 10.ระยะเวลาในการเรยี น/กจิ กรรม ๘ ๒ - - - ๔.๘๐ มาก เหมาะสมเพยี งใด (๘๐.๐๐%) (๒๐.๐๐%) ทีส่ ุด 11.ความร้ทู ่ีได้รบั คุ้มคา่ กบั เวลาและความ ๗ ๓ - - - ๔.๗๐ มาก (๗๐.๐๐%) (๓๐.๐๐%) ทส่ี ดุ ตง้ั ใจเพียงใด 12.ทา่ นพึงพอใจต่อหลกั สูตรนี้เพียงใด ๙ ๑ - - - ๔.๙๐ มาก (๙๐.๐๐%) (๑๐.๐๐%) ทีส่ ดุ รวมท้ังสิ้น ๙๓ ๒๗ - - - 4.๗๘ มาก (๗๗.๕๐%) (๒๒.๕๐%) ทส่ี ุด ค่าเฉลีย่ ถว่ งน้าหนกั 4.๗๘ ระดับความคดิ เห็นมากท่ีสดุ

14 จากตารางที่ 6 จากการศึกษาพบว่า ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมสว่ นใหญม่ ีความพึงพอใจตอ่ การจัดการเรยี น การสอนหลักสตู รอาชพี ชา่ งพ้ืนฐาน ชา่ งตัดเยบ็ โดยรวมอยูใ่ นระดบั มากทีส่ ดุ ( x = 4.๗๘ ) โดยมีระดบั สถานที่เรยี นเหมาะสมเพียงใดและทา่ นพงึ พอใจต่อหลกั สูตรน้เี พยี งใด คดิ เป็น( x =4.๙๐ ) ระดับความพึง พอใจรองลงมา คือ เนื้อหาวชิ าทจ่ี ัดการเรียนรู้/ ฝกึ อบรมตรงตามความต้องการของท่านเพียงใด / ความสามารถในการถา่ ยทอดความรูข้ องวทิ ยากร/ จานวนส่ือ/อปุ กรณก์ ารฝึกประกอบการเรียนเพยี งพอ เพยี งใด/ทา่ นได้รับโอกาสในการเรยี นรู้เท่าเทยี มกันเพียงใดและระยะเวลาในการเรียน/กิจกรรมเหมาะสม เพียงใด คิดเป็น ( x =4.๘ๆ ) และระดับความพึงพอใจระดับต่าทสี่ ุด คอื วิทยากรมาให้ความรูต้ รงตาม เวลา/ วทิ ยากรมาใหค้ วามรู้ครบตามหลกั สตู รกาหนด/ ทา่ นได้รับความรู้และสามารถฝกึ ทักษะได้ตามท่ี คาดหวังมากน้อยเพยี งใด/ความรทู้ กั ษะทไี่ ดส้ ามารถนาไปใช้ประกอบอาชพี ได้เพยี งใดและความรูท้ ี่ไดร้ บั คมุ้ ค่ากับเวลาและความตั้งใจเพยี งใด คดิ เป็น ( x = ๔.๗๐) ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ - หมายเหตุ คดิ คะแนนเฉพาะที่ความพึงพอใจอยู่ในระดบั มากขึ้นไป

15 บทที่ 4 สรุป อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนหลักสตู รอาชีพชา่ งพ้ืนฐาน ชา่ งตัดเยบ็ มจี ุดประสงค์ใน การจดั กจิ กรรมดังน้ี 1. เพ่ือใหผ้ ู้เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ความเข้าใจ เก่ยี วกับหลกั สูตรอาชีพชา่ งพ้นื ฐาน ช่างตัดเยบ็ 2. เพื่อใหผ้ ู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมีการแลกเปลยี่ นแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับแนวทางการ จดั กิจกรรม 3. เพอ่ื เปน็ การลดรายจา่ ยในครอบครวั และเปน็ การพฒั นาคุณภาพชวี ิตของผเู้ ขา้ รว่ ม กจิ กรรมใหด้ ยี ิ่งขนึ้ 4. เพ่อื สง่ เสรมิ ความร่วมมือและการจดั กจิ กรรมการเรยี นรกู้ ารศกึ ษาอาชีพของผู้เรียน ผู้รบั บรกิ ารกับสถานศึกษา 5. เพอ่ื รว่ มวเิ คราะห์ และสังเคราะหร์ ูปแบบ กระบวนการจดั และผลสาเรจ็ ทเี่ กิดขึ้นจาก โครงการตามตัวชีว้ ัดที่กาหนดเป็นตวั ชว้ี ดั ความสาเร็จตามกล่มุ เปาู หมายจากการ ประเมนิ เบื้องต้น 6. เพอ่ื ศกึ ษาผลการดาเนนิ งาน ประสทิ ธิภาพ และประสทิ ธผิ ลในการจดั การศึกษาอาชพี การดาเนินการจัดกิจกรรม 4.1 ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรมหลักสูตรอาชพี ชา่ งพนื้ ฐาน ชา่ งตัดเย็บ จานวน ๑๐ คน - เพศชาย จานวน - คน - เพศหญิง จานวน ๑๐ คน ผูจ้ ดั กิจกรรม จานวน 1 คน 4.2 เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการอบรม - ขอ้ มูลปฐมภูมิ ได้จากการกรอกแบบสอบถามของผูเ้ ข้าร่วมกจิ กรรม - ขอ้ มลู ทุติยภมู ิ ศกึ ษาจากเอกสาร ขอ้ มลู ต่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง 4.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล วเิ คราะหแ์ บบสอบถามในแต่ละส่วน ดงั น้ี ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลสว่ นบคุ คล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเด็นท่ีสาคญั

16 4.4 วิธกี ารวเิ คราะห์ขอ้ มูล ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผูจ้ ดั ไดด้ าเนนิ การ 2 ลกั ษณะ คือ 4.4.1 การสังเคราะห์เชิงคุณลกั ษณะ ผู้จดั กิจกรรมทาการสงั เคราะหโ์ ดยใชว้ ธิ กี ารวิเคราะห์ สงั เคราะห์ 3 ดา้ น คอื ข้อมูลทั่วไป ขอ้ มูลความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และขอ้ เสนอแนะ 4.4.2 การสังเคราะหก์ ารอบรมเชิงปริมาณ ในการสังเคราะห์การจดั กิจกรรมเชิงปริมาณ ผู้จดั กจิ กรรมแยกออกเปน็ คุณลักษณะตา่ ง ๆ ในการสงั เคราะหข์ ้อมูลดงั น้ี 1. ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เพศ / อายุ 2. ข้อมลู ระดบั ความพึงพอใจในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน 3. ขอ้ เสนอแนะ โดยเปรียบเทยี บจานวนคนคิดเปน็ ร้อยละในแตล่ ะสว่ นของข้อมลู การอบรม พร้อม การบรรยายประกอบ สรปุ ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ผลการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนหลักสูตรอาชีพช่างพื้นฐาน ชา่ งตดั เยบ็ โดยใช้วธิ กี าร วิเคราะห์ สงั เคราะห์จากแบบประเมนิ ความพงึ พอใจในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และรปู แบบการ จดั กิจกรรม สามารถสรุปไดด้ ังนี้ 1. การสังเคราะหข์ ้อมลู ทั่วไปของผูต้ อบแบบสอบถาม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสว่ นใหญ่เป็นเพศหญงิ เน่ืองจากหลักสตู รอาชีพช่างพื้นฐาน ชา่ งตดั เย็บ เป็นงานท่เี ก่ยี วกับผู้หญิงโดยตรงและสามารถทาเป็นอาชพี เสรมิ ไดเ้ พ่ือลดค่าใชจ้ า่ ยโดยลดคา่ ช่างได้อีก ทา ใหร้ ้อยละส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 1.1ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมสว่ นใหญเ่ ป็นมอี ายุอย่รู ะหว่าง ๔๐ – ๕๙ ปีข้ึนไป เนื่องจาก เปน็ ชว่ งวัยของผใู้ ชแ้ รงงาน ซึ่งเหมาะกบั วัยน้ีมาก จงึ มผี ลทาให้การหาค่าร้อยในชว่ งนีส้ งู กว่าชว่ งอ่นื ๆ ผลการสงั เคราะห์ทางจานวนของผู้เข้าร่วมกจิ กรรม จานวนผ้เู ข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ วชิ าชีพมี อยู่จากัด ส่วนใหญ่ผเู้ รยี นจะมาเรยี นตามที่กาหนด ไม่มีผู้เรียนเกินจากเปาู หมายท่ีกาหนด ผลการคานวณ อาจมีความคาดเคล่ือนได้ ถา้ หากมผี เู้ รียนเพิ่มขนึ้ อีกจากกล่มุ เปูาหมายปกติ และงบประมาณการฝึกอบรมก็ มีอยู่อย่างจากัด 2. การวิเคราะห์ขอ้ มลู เกี่ยวกับความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน จากการศึกษาพบว่า ผู้เขา้ รว่ มอบรมส่วนใหญ่มีความพงึ พอใจต่อการจดั การเรียนการสอน หลกั สตู รอาชพี ชา่ งพ้ืนฐาน ชา่ งตัดเยบ็ โดยรวมอยใู่ นระดับมากทสี่ ุด ( x = 4.๗๘ ) โดยมรี ะดับสถานที่ เรียนเหมาะสมเพยี งใดและทา่ นพงึ พอใจต่อหลักสตู รน้เี พยี งใด คิดเปน็ ( x =4.๙๐ ) ระดับความพงึ พอใจ รองลงมา คือ เนื้อหาวชิ าที่จัดการเรยี นรู้/ ฝกึ อบรมตรงตามความต้องการของทา่ นเพยี งใด /ความสามารถ ในการถา่ ยทอดความรู้ของวทิ ยากร/ จานวนสอ่ื /อุปกรณ์การฝกึ ประกอบการเรยี นเพียงพอเพียงใด/ท่าน ไดร้ บั โอกาสในการเรียนรูเ้ ท่าเทียมกันเพยี งใดและระยะเวลาในการเรยี น/กจิ กรรมเหมาะสมเพยี งใด คิดเป็น ( x =4.๘ๆ ) และระดับความพงึ พอใจระดบั ต่าที่สดุ คอื วทิ ยากรมาให้ความรตู้ รงตามเวลา/ วิทยากรมาให้ ความรคู้ รบตามหลักสตู รกาหนด/ ท่านไดร้ ับความร้แู ละสามารถฝึกทักษะได้ตามทค่ี าดหวังมากน้อยเพียงใด/

17 ความรทู้ กั ษะที่ไดส้ ามารถนาไปใช้ประกอบอาชีพได้เพียงใดและความรทู้ ่ีได้รบั คุม้ ค่ากบั เวลาและความตง้ั ใจ เพยี งใด คดิ เปน็ ( x = ๔.๗๐) อภิปรายผล จากการดาเนินการกลุ่มวิชาชพี พบประเดน็ สาคัญทสี่ ามารถนามาอภปิ รายผลได้ดังน้ี 1. ดา้ นกลมุ่ เปูาหมาย 1.1 กลุม่ เปูาหมายสว่ นใหญต่ ้องการเพยี งนาความร้ทู ่ีได้รบั จากการอบรมไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั 1.2 จากการดาเนนิ การพบว่ากลุ่มเปาู หมายทง้ั หมดเป็นเพศหญงิ เน่อื งจากเป็น งานทเ่ี กี่ยวกับแม่บา้ นแมเ่ รือน 2. ด้านงบประมาณ 2.1 จากการดาเนนิ งานพบว่าคา่ วสั ดุ อุปกรณ์ไม่คอ่ ยเพียงพอต่อความต้องการ ของกลุม่ ผูเ้ ข้ารบั การอบรม แตไ่ ด้มีการใชอ้ ย่างอืน่ ทดแทน 3. ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 3.1 จากการดาเนนิ งานพบวา่ กิจกรรมหลกั สูตรอาชีพช่างพ้ืนฐาน ชา่ งตดั เยบ็ ได้ เนอื่ งมาจากปัญหาเร่ืองงบประมาณน้อยราคาวตั ถุดิบสงู 3.2 จากการดาเนนิ งานพบวา่ กิจกรรมต้องยืดหยนุ่ ตามสภาพกลุ่มเปาู หมาย เนอื่ งมาจากสภาพชีวติ ความเปน็ อยูข่ องกลุ่มเปาู หมายมสี ่วนสาคญั ตอ่ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 4. ด้านสถานที่ 4.1 การดาเนินการอบรม ดา้ นสถานทส่ี ามารถมกี ารเปลยี่ นแปลงไปได้ตามความ ต้องการ และความเหมาะสมของผู้เข้าร่วมการอบรม 4.2 ควรมีการใช้สถานทข่ี องส่วนรวม เพื่อให้เกิดความเชอื่ มโยง สัมพันธ์กนั ระหวา่ ง กศน. และชมุ ชน ข้อเสนอแนะในการดาเนินการกลุม่ วิชาชพี ครั้งต่อไป 1. ควรทาการศกึ ษาปัญหาความต้องการของกลุม่ เปาู หมาย โดยใชเ้ คร่อื งมือที่ หลากหลายรูปแบบ เพ่ือให้ได้ขอ้ มูลที่ถกู ต้อง ตรงตามความตอ้ งการของผู้เรียนมากทส่ี ุด 2. ควรศกึ ษาความต้องการของกลุม่ เปาู หมายในด้านต่าง ๆ ท่ีตอ้ งการรบั บรกิ ารจาก กศน. เพ่ือให้ทราบและสามารถจดั กิจกรรมตามหลกั สตู รให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถ่ินได้ 3. ควรศกึ ษาผลกระทบจาการดาเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยการศึกษา จากกลุม่ เปูาหมาย และชุมชน 4. ควรเกบ็ ขอ้ มูลของผเู้ ขา้ รับการอบรมหลงั การอบรมดว้ ยทุกคร้ัง ข้อมูลความตระหนัก ในการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาอาชพี หลักสูตรอาชีพช่างพ้ืนฐาน ช่างตดั เยบ็ ของ สถานศึกษามุ่งใหเ้ กดิ ความสอดคลอ้ งกับความต้องการของผู้เรยี น/ผ้รู ับบรกิ ารเปน็ สาคญั โดยมุง่ เนน้ ความ ต้องการของผ้เู รยี น/ผู้รับบรกิ ารเปน็ แนวทางในการดาเนนิ งาน และได้มกี ารส่งเสริม สนบั สนนุ ให้บคุ ลากรใน สถานศกึ ษาเห็นความสาคญั ของการจดั หลักสตู รวชิ าชีพแต่ละหลกั สูตร และปฏิบัติงานอยา่ งเป็นระบบอย่าง

18 มีประสิทธภิ าพ แต่การดาเนินการบางอย่างไมส่ ามารถทาให้บรรลุตามแผนท่ีวางไว้ได้ จึงทาใหข้ อ้ มูล บางอยา่ งเกดิ ความคลาดเคลือ่ น ข้อมูลการปฏบิ ตั ิ (ความพยายาม) เมื่อบุคลากรได้รับแนวทาง และนโยบายทางการศกึ ษาเพ่อื พัฒนาอาชีพแลว้ ไดด้ าเนินการ สารวจหาความต้องการของกล่มุ เปูาหมายท่แี ท้จรงิ แต่เนื่องจากการเก็บข้อมูลไม่เป็นไปตามแผนทีว่ างไว้ ทา ให้ไม่สามารถดาเนินการจดั การศกึ ษาเพื่อพัฒนาอาชีพตามความตอ้ งการของผเู้ รยี น/ผรู้ ับบริการได้ท่วั ถึงทุก กลุ่ม ทาใหค้ วามพึงพอใจของผู้สนใจน้อยลง จดุ เดน่ ของกลุ่ม 1. มีความตอ้ งการ เหมือนกัน 2. กลมุ่ เปูาหมายมคี วามรบั ผดิ ชอบ 3. กลมุ่ เปูาหมายมคี วามสามัคคี 4. กลุม่ เปาู หมายมคี วามสนใจในกจิ กรรมการเรียนการสอนเปน็ อย่างดี 5. กลมุ่ รู้จักประยุกตใ์ ชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ และวตั ถดุ บิ ทดแทนกัน จดุ ควรพฒั นา (จุดด้อย) 1. การรวมกลุม่ เป็นกลุม่ อาชีพ 2. มีผเู้ ขา้ รว่ มการอบรมบางสว่ นเอาเปรียบผรู้ ่วมการอบรมคนอ่ืน แนวทางการพัฒนา 1. ควรจัดหางบประมาณเพิ่มเติม หรือการขอความสนับสนุนจากแหลง่ ต่าง ๆ ในเรื่อง การจดั หาอปุ กรณใ์ นการเรยี นรู้และปฏบิ ัติ วธิ ีการพัฒนา 1. สร้างความเขา้ ใจท่ีดีในการใชว้ ัตถุดบิ ทีม่ ีอยูใ่ นท้องถิน่ ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการ สอน ให้ผู้เรยี น/ผ้รู ับบริการเห็นความสาคญั 2. ปรบั วธิ กี ารจัดกจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกับผเู้ รยี น/ผรู้ บั บริการ ให้มคี วามยืดหยนุ่ โดยไม่ เน้นหน่วยการเรยี นรตู้ ามหลกั สตู ร แต่ใหย้ ดึ ตวั ผ้เู รยี นเป็นสาคญั แลว้ จงึ นาผลการดาเนินงานมาปรบั ปรงุ หลกั สูตรอาชพี ชา่ งพนื้ ฐาน ช่างเชือ่ มในคร้งั ต่อไป

19 ภำคผนวก ภำพกิจกรรม

20 อำชพี ช่ำงพ้นื ฐำน ชา่ งตัดเย็บ จานวน 35 ชม. ระหว่างวนั ท่ี ๒๑ – ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ณ ศนู ยเ์ รยี นรชู้ มุ ชนท่องเทย่ี ว OTOP นวตั วถิ ี หมู่ ๙ ตาบลชาตติ ระการ

21

22

23 จัดทำโดย ท่ีปรึกษา ผอ.กศน.อาเภอชาติตระการ 1.นางพรสวรรค์ กันตง ครู 2.นายรุง้ ภธู ร ภาศรี ---------------------------------------------------------------- นางสาวภาณมุ าศ ยศปัญญา ครอู าสาสมคั รฯ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การจดั กจิ กรรม -------------------------------------------------- ผรู้ บั ผดิ ชอบ/ ผูเ้ รยี บเรียง/ ผู้จดั พิมพ์รูปเลม่ / ออกแบบปก นางสาวนภิ าพร พระคาสอน ครู กศน.ตาบลชาตติ ระการ