คำนำ การสรุปผลการจัดกิจกรรมอาชีพกลุ่มสนใจปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เป็นการจัดเก็บและ รวบรวมข้อมูลการอบรมกลุ่มวชิ าชีพ เพือ่ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ต่อประชาชนผู้สนใจเป็นการสนองตอบ ความต้องการของประชาชนในพื้นที่เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในกระบวนการเรียนรู้จะแตกต่างออกไป ตามพื้นที่ในแต่ละพื้นที่ กลุ่มเป้าหมาย วิถีการดาเนินชีวิตที่ดีขึ้น สภาพแวดล้อม ล้วนแต่ส่งผลต่อการ เรียนรู้ท้ังส้ิน กระบวนการเรียนรู้จะประกอบด้วยภาคทฤษฎี และภาคปฏิบตั ิเพื่อฝึกทักษะในการเรียนรู้ให้แก่ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้สามารถนาความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปปรับประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต ต่อไป สรุปผลการจัดกิจกรรมเล่มนี้ ทางผู้ดาเนินงานได้เรียบเรียงขึ้นเพื่อสรุปผลการจัดกิจกรรม กลุ่มสนใจ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์และได้ใชค้ วามพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าข้อบกพร่องต่าง ๆ มักเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนน้ั จึงใคร่ขอความกรุณาจากผู้ใช้ทุกท่าน หากพบข้อผิดพลาดหรือมีข้อเสนอแนะ ที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ กรุณาแจ้งให้ผู้จัดทาทราบด้วยจักขอบคุณยิ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้นาไปเป็นข้อมูลใน การปรบั ปรงุ แก้ไขการสรุปผลการจดั กิจกรรมเพือ่ พัฒนาอาชีพในโอกาสต่อไป นายอัษฎาพร พว่ งปิ่น ครู กศน.ตาบลป่าแดง นางสาวพรพนา โคกน้อย ครู ศรช.ตาบลป่าแดง สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
รายงานผลการจัดกจิ กรรม บทที่ 1 อาชพี กลมุ่ สนใจ ปลูกผักไฮโดรโปนกิ ส์ ความเปน็ มา หลักสูตรอาชพี กลมํุ สนใจปลกู ผกั ไฮโดรโปนิกส์เปน็ หลกั สูตรที่ได๎จัดทาหลักสูตรขึ้นในปีงบประมาณ 2564 โดยเนื้อหาหลักสูตร มาจากการสารวจความต๎องการในด๎านอาชีพของประชาชน ในหมํู 10 บ๎านนาล๎อม ตาบลปาุ แดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีความต๎องการให๎มีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชาดังกลําว เพอ่ื เปน็ อาชพี เสรมิ ในชุมชนและพัฒนาตอํ ยอดเป็นอาชพี หลักได๎ การสรปุ รายงานการจัดกจิ กรรมหลกั สูตร ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นสํวนหน่ึงท่ีสามารถนาไปใช๎ใน การจัดการศึกษานอกโรงเรยี น ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มีหลักการศึกษาที่มํุงให๎ผู๎เรียน คิดเป็น แกป๎ ัญหาเป็นเน๎นการเรยี นรแ๎ู บบบูรณาการ และการปฏบิ ตั ิจรงิ สอดคลอ๎ งกับวถิ ีชวี ิตนาไปประยุกต์ใช๎ในการ ดาเนินชีวิตและการประกอบอาชีพได๎ทันทีสามารถพัฒนาศักยภาพของผ๎ูเรียนให๎เห็นคุณคํามีความเช่ือม่ันในตนเอง สามารถพึ่งพาตนเองไดต๎ ลอดจนแสวงหาความรู๎ในการพัฒนาตนเองและสังคมอยํางตํอเน่ืองตลอดชีวิตโดยใช๎วิธีการ เรียนอยํางเหมาะสม ให๎ผู๎เรียนได๎เรียนร๎ูในการค๎นหาคาตอบได๎ด๎วยตนเอง การจะหาคาตอบได๎ด๎วยตนเองนั้น ผู๎เรียนต๎องมีทักษะ กระบวนการคิด วิเคราะห์ และลงมือฝึกปฏิบัติลองผิดลองถูกจนค๎นพบวิธีท่ีเหมาะสมท่ีสุด แนวทางสาคญั ในการดาเนนิ การตอ๎ งเริ่มจากตัวผ๎เู รยี น ให๎ผู๎เรยี นมโี อกาสไดเ๎ ลือกเรียน เพ่ือความเหมาะสมกับตัวของ ผู๎เรียนเอง โดยการนาข๎อมูลของผู๎เรียนแตํละคนมาใช๎ในการจัดกิจกรรมการเรียนร๎ูทั้งรายบุคคลและเป็นกลํุม เพื่อ เชอ่ื มโยงกบั หลกั สูตร และชมุ ชน การสรุปรายงานผลการจัดกิจกรรมกลุํมวิชาชีพปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นการสะท๎อนผลการ ดาเนินงาน อุปสรรค ปัญหาท่ีเกิดข้ึนจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อปรับปรุงหลักสูตรขนมไทยเป็นการ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต ศักยภาพของผู๎เรยี นให๎มีประสทิ ธิภาพตอํ ไป สถานที่ บา๎ นนาล๎อม หมูํที่ 10 ตาบลปุาแดง อาเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณโุ ลก งบประมาณ งบปี 2564 จานวน 2,500.- บาท วนั / ระยะเวลาทีจ่ ดั กิจกรรม - ระหวาํ งวันที่ 23 – 24 กุมภาพันธ์ 2564 - ระหวาํ งเวลา 09.00 – 15.00 น. - หลกั สตู ร 10 ชว่ั โมง - วันละ 5 ชว่ั โมง หมายเหตุ วทิ ยากร นางสาวนุชจรี แสนทน ผูร้ ับผดิ ชอบ นายอัษฎาพร พํวงปน่ิ ตาแหนงํ ครูกศน.ตาบลปาุ แดง นางสาวพรพนา โคกน๎อย ตาแหนํง ครู ศรช.ตาบลปาุ แดง สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
บทท่ี 2 หลกั สูตรและเอกสารทเี่ กี่ยวข้อง การสํงเสรมิ การจดั กระบวนการเรียนรู๎ ในพระราชบัญญัติการศึกษาแหํงชาติ ได๎กาหนดบทบาทใน การสงํ เสรมิ การเรยี นรข๎ู องรฐั และสถานศึกษาตําง ๆ ดังน้ี 1. รัฐตอ๎ งสํงเสรมิ การดาเนินงาน และการจัดตง้ั แหลํงการเรียนรตู๎ ลอดชีวิตทุกรปู แบบ ไดแ๎ กํ หอ๎ งสมดุ ประชาชน พพิ ธิ ภัณฑ์ หอศิลป์ สวนสัตว์ สวนสาธารณะ สวนพฤกษศาสตร์ อุทยานวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ศูนย์การกีฬาและนันทนาการ แหลํงข๎อมูล และแหลํงการเรียนรู๎ อยํางเพียงพอ และมีประสิทธิภาพให๎ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กาหนดหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานเพ่ือความเป็นไทย ความเป็น พลเมืองดีของชาติ การดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาตํอให๎สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มี หน๎าที่จดั ทาสาระของหลกั สูตรในสวํ นท่ีเก่ียวข๎องกับสภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท๎องถิ่น คุณลักษณะ อันพึงประสงค์ เพ่ือเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติหลักสูตรการศึกษาระดับตําง ๆ ต๎องมีลักษณะหลากหลายเหมาะสมกับแตํละระดับ โดยมํุงพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคล สาระของหลักสูตร ท้ังท่ี เป็นวิชาการ วิชาชีพ ต๎องมํุงพัฒนาคนให๎มีความสมดุล ทั้งด๎านความร๎ู ความคิด ความสามารถ ความดีงาม และ ความรบั ผิดชอบตํอสงั คมให๎สถานศึกษารํวมกับบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองสํวนท๎องถ่ิน เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น สํงเสริมความ เข๎มแข็งของชุมชน โดยจัดกระบวนการเรียนร๎ูภายในชุมชน เพื่อให๎ชุมชนมีการจัดการศึกษาอบรม มีการแสวงหา ความรู๎ ข๎อมูล ขําวสาร และรู๎จักเลือกสรรภูมิปัญญา และวิทยาการตําง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชนในสอดคล๎องกับสภาพ ปัญหาและความต๎องการ รวมท้ังหาวิธีการสนับสนุนให๎มีการเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การพัฒนาระหวํางชุมชนให๎ สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมท้ังการสํงเสริมให๎ผ๎ูสอนสามารถวิจัยเพ่ือพัฒนา กระบวนการเรยี นรูท๎ ี่เหมาะสมกับผเู๎ รียนในแตลํ ะระดบั การศึกษา การศกึ ษาประกอบด๎วยองค์ประกอบตําง ๆ ที่มีสํวนชํวยเหลือเอ้ือตํอการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน แนวทางในการจัดกระบวนการเรียนร๎ูเพียงอยํางเดียวไมํสามารถทาให๎การจัดการศึกษาดาเนินไปได๎อยําง ราบร่ืน ต๎องอาศัยการสํงเสริมการจัดกระบวนการเรียนร๎ูในรูปแบบตําง ๆ ด๎วย การจัดการศึกษาที่เก่ียวข๎องกับภูมิ ปญั ญาทอ๎ งถนิ่ ตอ๎ งสอดคลอ๎ งกับสภาพปัญหา และความต๎องการของแตํละท๎องถ่ินด๎วย แนวคิดของการศึกษาตลอดชีวิต เป็นการศึกษาที่มีความจาเป็นสาหรับบุคคลในทุกชํวงชีวิตตั้งแตํ เกิดจนตาย บุคคลมีความสามารถที่จะเรียนร๎ูได๎ตลอดชีวิต การศึกษา มิได๎ส้ินสุดเม่ือบุคคลจบจากโรงเรียนหรือ สถาบันการศึกษาการศกึ ษาตลอดชวี ติ เนน๎ ความเสมอภาคความเทําเทียมกันในโอกาสทางการศึกษาการศึกษาตลอด ชีวิตควรมีความยืดหยุํนหลากหลายรูปแบบ และวิธีการเพื่อเปิดโอกาสให๎ทุกคนเรียนร๎ูสามารถเลือกวิธีเรียนที่ เหมาะสมกับความสามารถของตนการศึกษาตลอดชีวิตมํุงให๎บุคคลได๎พัฒนาอยํ างเต็มศักยภาพพัฒนาคุณภาพชีวิต และพึ่งตนเองได๎ สิ่งท่ีให๎บุคคลเรียนรู๎ควรสัมพันธ์เกี่ยวข๎องกับวิถีชีวิต ซึ่งบุคคลควรได๎รับความร๎ูและทักษะที่จาเป็น ในการดาเนินชีวติ และการประกอบอาชีพ รวมทงั้ ทักษะในการแสวงหาความร๎ู หรือมีเครื่องมือในการแสวงหาความร๎ู ตํอไป การศึกษาตลอดชีวิตเป็นภาพรวมของการศึกษาทั้งหมดครอบคลุมการศึกษาทุกประเภท ทุกระดับท่ีเกิดจาก การผสมผสานระหวาํ งระบบการศึกษาทจ่ี ัดสดั สวํ นของการศึกษาไว๎ 3 ประเภท คอื 1. การศึกษาในระบบ เป็นการศึกษาท่ีกาหนดจุดมุํงหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลาของ การศึกษา การวดั และการประเมนิ ผล ซ่งึ เปน็ เง่ือนไขสาคัญของการสาเร็จการศกึ ษาที่แนนํ อน 2. การศกึ ษานอกระบบ เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยํุนในการกาหนดจดุ มุํงหมาย รปู แบบ วธิ กี ารจดั การศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวดั และการประเมนิ ผล ซงึ่ เปน็ เง่ือนไขสาคัญของการสาเร็จ สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
การศกึ ษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต๎องมีความเหมาะสมสอดคล๎องกับสภาพปัญหาและความต๎องการของบุคคล แตลํ ะกลุํม ตัวอยําง เชนํ การจัดกลมุํ เรียนตามความสนใจของผเ๎ู รียน การเรยี นหรอื การฝึกอบรมหลักสูตรระยะส้นั เป็นต๎น 3. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการศึกษาท่ีใหผ๎ ูเ๎ รียนไดเ๎ รียนรดู๎ ๎วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร๎อม และโอกาส โดยศกึ ษาจากบคุ คล ประสบการณ์ สังคม ส่ิงแวดลอ๎ ม ส่อื หรือแหลํงความรู๎อื่น ๆ เชนํ การฝึกฝนและปฏิบตั งิ านกับพํอแมํ หรือ สถานประกอบการ การศึกษาด๎วยตนเองจากหนงั สือและสอ่ื ตําง ๆ เปน็ ต๎น ปัจจบุ นั ภารกจิ ของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ได๎ขยายออกไปอยาํ งกว๎างขวาง สามารถแบํงภารกิจหลกั ได๎ 3 ประเภท คือ 1. สงํ เสริมการศึกษาในระบบโรงเรยี น โดยจดั กิจกรรมเพ่ือสํงเสรมิ การเรียนการสอนในระบบ โรงเรยี นในรูปแบบของการใช๎ส่ือเทคโนโลยีการศึกษา สอื่ รายการวิทยุ โทรทัศน์เพอ่ื การศึกษา ส่อื การศึกษาทางไกล ผํานดาวเทียม และการจดั นิทรรศการวทิ ยาศาสตร์เพ่ือการศกึ ษา 2. จัดการศึกษานอกโรงเรยี น โดยมงํุ จดั การศกึ ษาให๎กบั ประชาชนและผด๎ู อ๎ ยโอกาสท่ีอยํูนอกระบบ โรงเรียนให๎ได๎รับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน อํานออก เขียนได๎ รวมท้ังการจัดการศึกษาสายสามัญ และสายอาชีพใน รู ป แ บ บ ตํ า ง ๆ เ พ่ื อ ย ก ร ะ ดั บ ก า ร ศึ ก ษ า แ ล ะ พั ฒ น า คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ใ ห๎ กั บ ก ลํุ ม เ ปู า ห ม า ย 3. สํงเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู๎สอดคล๎องกับวิถีชีวิตอยํางตํอเน่ือง เพ่ือให๎ประชาชนได๎รับข๎อมูลขําวสารท่ีจาเป็นและทันสมัย รู๎เทําทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกท่ีเป็นไปอยําง รวดเร็วในยุคโลกาภิวัฒน์ สามารถแสวงหาความรู๎ได๎ด๎วยตนเองอยํางตํอเน่ืองตลอดชีวิตจากแหลํงตําง ๆ ได๎แกํ ห๎องสมดุ ประชาชน ที่อํานหนงั สอื ประจาหมํบู ๎าน ศูนย์การเรียนชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และรายการ วิทยุโทรทัศน์ เป็นต๎นโดยสรุปภารกิจท้ังหมดดังกลําว ก็เพื่อจัดการศึกษาตลอดชีวิตให๎แกํประชาชนที่อยํูทั้งในและ นอกระบบโรงเรียนใหม๎ โี อกาสได๎รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทักษะอาชีพ และขําวสารข๎อมูลท่ีทันสมัยในทุกชํวงเวลาท่ี ต๎องการ ในรปู แบบของการศึกษาตลอดชวี ิต จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ เป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาความร๎ูความสามารถและทักษะในการ ประกอบอาชพี ของบุคคลและกลุมํ บคุ คล ซ่งึ มจี ุดมุงํ หมายในชวี ิตท่ีตํางกัน โดยมีสาระดงั นี้ 1.การเรียนรูอ๎ าชีพแบบองค์รวมที่ประชาชน ครู กศน.และผ๎ูเกย่ี วขอ๎ งรํวมกนั จัดกิจกรรมการเรียนรู๎ เพอื่ ฟนื้ ฟเู ศรษฐกิจชุมชน 2. การออกแบบการเรียนรู๎งานอาชีพตามลักษณะของการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพใน รูปแบบการฝกึ ทักษะอาชีพ การเขา๎ สูํอาชพี การพัฒนาอาชีพและการพฒั นาอาชีพด๎วยเทคโนโลยี 3. การเรียนรู๎จากการปฏิบัติจริงท่ีบูรณาการกับวิถีชีวิต โดยใช๎วงจรกระบวนการคิด ทา จา แกป๎ ัญหาและพฒั นา 4. การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพที่พัฒนาศักยภาพของบุคคลและชุมชนท่ีสอดคล๎องกับวิถี ชีวติ โดยสํงเสริมการรวมกลุํมอาชีพ สร๎างเครือขํายอาชีพ มีระบบการแลกเปลี่ยนเรียนรู๎ ความรู๎และประสบการณ์ การทาอาชีพภายใต๎วัฒนธรรมของชุมชน มีกลยุทธ์เพ่ือการแขํงขันของชุมชน เป็นชุมชนท่ีใช๎เทคโนโลยีในการ บรหิ ารจดั การและพฒั นาอาชพี กศน.อาเภอชาติตระการ ได๎ดาเนินการจัดกิจกรรมตามรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมี การบรู ณาการการจัดการเรียนรู๎เพ่อื ให๎เหมาะสมกับผ๎ูเรียน แสดงถึงภาพสาเรจ็ ในการพฒั นาคุณภาพผู๎เรียน กิจกรรม การเรยี นร๎จู ากภมู ิปญั ญาท๎องถิ่นที่เป็นสํวนหน่ึงในการพัฒนาศักยภาพของผู๎เรียน ในการจัดการเรียนการสอนท่ีเน๎น ผู๎เรียนเป็นสาคัญ การเรียนการสอนมุํงเน๎นประโยชน์ของผ๎ูเรียนเป็นสาคัญ จึงต๎องจัดให๎ผ๎ูเรียนได๎เรียนร๎ูจาก สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
ประสบการณจ์ ริง ฝึกปฏิบตั ิให๎ทาได๎ คิดเป็น มีนิสัยรักการเรียนรู๎ และเกิดการใฝุเรียนอยํางตํอเนื่องตามแนวคิดของ การศกึ ษาตลอดชวี ติ ชือ่ หลักสูตรการปลูกพืชผักเกษตรอนิ ทรยี ธ์ รรมชาต(ิ การปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์) จานวน 10 ชวั่ โมง กลุม่ อาชพี เกษตรกรรม ความเปน็ มา การจดั การศึกษาอาชพี ในปัจจุบนั มคี วามสาคัญมาก เพราะจะเปน็ การพัฒนาประชากรของประเทศให๎มี ความรู๎ ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก๎ปัญหาการวํางงานและสํงเสริมความเข๎มแข็ง ให๎แกํเศรษฐกิจชุมชน ซ่ึงกระทรวงศึกษาธิการได๎กาหนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต๎กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา 5 ศักยภาพของพนื้ ทใ่ี น 5 กลํมุ อาชพี ใหมํ ให๎สามารถแขํงขันไดใ๎ น 5 ภูมภิ าคหลกั ของโลก “ร๎เู ขา ร๎ูเรา เทําทัน เพื่อ แขํงขันได๎ในเวทีโลก” ตลอดจนกาหนดภารกิจท่ีจะยกระดับการจัดการศึกษาเพ่ือเพิ่มศักยภาพและขีด ความสามารถให๎ประชาชนได๎มีอาชีพท่ีสามารถสร๎างรายได๎ที่ม่ันคง โดยเน๎นการบูรณาการให๎สอดคล๎องกับศักยภาพ ดา๎ นตําง ๆ มุํงพฒั นาคนไทยให๎ได๎รับการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพและการมีงานทาอยํางมีคุณภาพท่ัวถึงและเทําเทียม กัน ประชาชนมีรายได๎มั่นคง ม่ังค่ัง และมีงานทาอยํางย่ังยืน มีความสามารถเชิงการแขํงขันท้ังในระดับภูมิภาค อาเซยี นและระดับสากล ซ่ึงจะเปน็ การจัดการศกึ ษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหมํที่สร๎างความมั่นคงให๎แกํประชาชนและ ประเทศชาติ สภาพสังคมปัจจุบัน มนุษย์เราได๎รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงในด๎านตําง ๆ เชํน ด๎านเศรษฐกิจ การเมอื ง สังคมและสิ่งแวดล๎อมเป็นอยํางมาก ประชากรมนุษย์เพ่ิมขึ้นเร่ือย ๆ แตํทรัพยากรธรรมชาติถูกใช๎ไปอยําง รวดเร็ว และไมํเพียงพอกับจานวนประชากรท่ีเพิ่มข้ึนทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาตําง ๆ ตามมามากมาย โดยเฉพาะดา๎ นการดารงชวี ติ และชวี ิตความเป็นอยูขํ องประชาชน นอกจากจะมีการประกอบอาชีพเพ่ือเป็นการเล้ียง ตัวเองและครอบครัวแล๎ว ยังมีสิ่งที่ถือวําเป็นภาระหนัก คืออาหารเพ่ือบริโภคประจาวัน จึงจาเป็นอยํางยิ่งท่ีมนุษย์ เราจะตอ๎ งสร๎างข้ึนหรอื มาทดแทนโดยวิธีการตําง ๆ เพ่อื การอยํูรอด การพัฒนาหลักสูตรอาชีพจัดทาขึ้นโดยทาการศึกษา สารวจ และวางแนวทางการพัฒนาด๎านโครงสร๎าง พ้ืนฐาน การพัฒนาเกษตรกร และการพัฒนาด๎านการจัดการแบบบูรณาการ โดยใช๎หลักกระบวนการ “ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง” มาจัดกระบวนการเรียนรู๎ ให๎เกิดความเข๎มแข็ง และยั่งยืน ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงได๎จัดทาหลักสูตรการประกอบอาชีพการปลูกพืชผักโดยวิธีเกษตรอินทรีย์ โดยมีจุดมํุงหมายหลักเพื่อให๎ท๎องถิ่น และหนํวยงานในท๎องถน่ิ มีสวํ นรวํ มในการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม เปน็ การสร๎างรายได๎ ลดรายจํายในครัวเรือนและ การขยายโอกาสในการเขา๎ ถึงแหลํงทุนตาํ ง ๆ ควบคูํกับการฟ้ืนฟู และอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล๎อม ไปพร๎อมกับ การพฒั นาด๎านคุณธรรม จริยธรรม และมุํงเน๎นให๎เกษตรกรเกิดการรวมกลํุม และสร๎างเครือขํายระหวํางกลุํมองค์กร ตาํ ง ๆ ในชมุ ชน ดงั นั้น ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอชาติตระการ จงึ ไดจ๎ ดั หลกั สตู ร การปลูกพชื ผักเกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ(การปลกู ผักไฮโดรโปนกิ ส์)ขน้ึ เพื่อเปน็ หลักสตู รที่ผูเ๎ รยี นสามารถศกึ ษาและ นาไปประกอบเปน็ อาชีพหลกั หรอื อาชีพเสรมิ ได๎ เปน็ อกี อาชีพหนึ่งทเี่ ป็นชอํ งทางในการประกอบอาชีพของผ๎ูท่ี วํางงาน และผู๎ที่ต๎องการหารายไดเ๎ สริม ให๎กับครัวได๎อกี ด๎วย หลกั การของหลักสตู ร สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
1. เป็นการจัดหลกั สตู รด๎านเกษตรกรรม ที่มีความยดื หยนุํ ทัง้ ดา๎ นหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนร๎ู การ วัดและประเมินผล เน๎นบูรณาการให๎สอดคล๎องกับศักยภาพด๎านตําง ๆ 5 ด๎าน ได๎แกํ ศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติ ศักยภาพของพื้นที่ตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของภูมิประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวติ ของประชาชน และศกั ยภาพของทรัพยากรมนุษย์ ๒. การจดั การศกึ ษาการประกอบอาชีพการปลกู พชื ผกั เกษตรอินทรยี ์ธรรมชาติ(การปลูกผักไฮโดรโปร นิกส์) มงุํ เนน๎ ใหผ๎ ไ๎ู มํมีอาชีพ หรอื ผ๎ูมีอาชพี แล๎ว และต๎องการพัฒนาอาชพี ของตนให๎มคี วามม่ันคง โดยการจดั การศึกษา เป็นไปอยํางท่ัวถงึ เทําเทยี มกัน เนน๎ ความรู๎คํูคุณธรรม ๓. สงํ เสริมใหม๎ ีความรํวมมอื ในการดาเนนิ งานรํวมกับภาคีเครือขําย ๔. สงํ เสรมิ ให๎มีการเทยี บโอนความรูแ๎ ละประสบการณเ์ ข๎าสหํู ลกั สูตรการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ๕. การจัดการเรียนร๎ูมํุงเน๎นการอบรมสัมมนาเพ่ือพัฒนากลุํมเปูาหมาย ผู๎ไมํมีอาชีพหรือผ๎ูที่มีอาชีพแล๎ว และตอ๎ งการพฒั นาอาชพี ของตนเองให๎มคี วามมน่ั คง ให๎มคี วามพรอ๎ มท่ีจะทางานได๎อยํางมีประสิทธิภาพ จุดหมาย ๑. กลมุํ เปูาหมายสามารถประกอบอาชีพและสรา๎ งรายได๎ทีม่ ่นั คงให๎กบั ตนเอง ๒. กลมํุ เปูาหมายตัดสินใจประกอบอาชีพให๎สอดคล๎องกับศักยภาพตนเอง ชมุ ชน และสงั คม ๓. กลุมํ เปาู หมายมคี วามรู๎ ความเข๎าใจ และทกั ษะเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ การบริหารจดั การใน อาชพี ๔. กลุํมเปูาหมายมีโครงการประกอบอาชีพเพ่อื ใชเ๎ ปน็ แนวทางในการปฏบิ ัติตอํ ไปได๎ ๕. กลุมํ เปูาหมายมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ติ สานกึ ความรับผดิ ชอบตอํ ตนเอง ผู๎อืน่ และสังคม กลุ่มเปา้ หมาย 1. ผู๎ทไี่ มมํ ีอาชพี 2. ผูท๎ ่มี ีอาชีพและต๎องการพฒั นาอาชีพ 3. ระยะเวลาเรียนตลอดหลักสูตร จานวน ๑0 ช่ัวโมง แบํงเป็น 1. ภาคทฤษฎี จานวน 2 ชว่ั โมง 2. ภาคปฏิบัติ จานวน 8 ช่ัวโมง สอ่ื /วัสดอุ ุปกรณ์การเรียนรู้ ๑ .ส่อื สิ่งพิมพ์ ไดแ๎ กํ เอกสาร หนงั สอื ใบความร๎ู ๒. ภมู ปิ ญั ญาท๎องถิ่น 3. ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ตําง ๆ เชนํ อินเตอร์เน็ต สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
การวัดและประเมินผล 1. การสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นร๎ู/การตอบคาถาม/การมีสวํ นรวํ ม 2. การประเมนิ ผลจากการปฏิบัติ 3. การประเมนิ ผลจากผลผลติ เงอื่ นไขการผ่านการฝกึ อบรม 1. มีเวลาเรียนไมํน๎อยกวาํ ร๎อยละ 80 2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไมนํ อ๎ ยกวําร๎อยละ 60 หลักฐานการผา่ นการอบรม 1. หลักฐานการประเมนิ ผล 2. ทะเบียนคุมวฒุ บิ ตั ร 3. วุฒิบตั รออกโดยสถานศึกษา สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
โครงสรา้ งหลกั สูตรการการปลูกพืชผกั เกษตรอินทรียธ์ รร เร่ือง จดุ ประสงค์การเรียนรู๎ เ 1. ชํองทางการประกอบอาชีพ 1. ความสาคญั ของการประกอบ 1. ความสาคัญในกา การปลูกพชื ผกั เกษตรอนิ ทรีย์ อาชพี การปลกู พืชผักเกษตรอินทรยี ์ พชื ผักเกษตรอินทรยี ธรรมชาติ(การปลกู ผักไฮโดรโป ธรรมชาติ(การปลกู ผกั ไฮโดรโป ไฮโดรโปนิกส์) นกิ ส์) นิกส์) 2. ความรเู๎ บอ้ื งตน๎ เก 2. ความเป็นไปไดใ๎ นการประกอบ ปลูกพืชผกั เกษตรอนิ อาชีพการปลูกพชื ผักเกษตรอินทรีย์ ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์) ธรรมชาติ(การปลกู ผักไฮโดรโป นิกส์) 2.1 ความต๎องกา 3. แหลํงเรยี นร๎ู 2.2 การใชแ๎ รงงา 4. การตดั สินใจในการเลอื กอาชพี 2.3 การจดั หาวสั 2.4 การเลอื กทาเ 3. แหลํงเรียนรู๎ 4. ทศิ ทางการประก เกษตรอินทรยี ์ธรรมช นิกส)์ 2. ทักษะการประกอบอาชีพ 1. ขัน้ เตรยี มการประกอบอาชีพ 1. ขั้นเตรียมการประ การการปลูกพืชผักเกษตร การการปลูกพืชผกั เกษตรอนิ ทรยี ์ พืชผกั เกษตรอินทรยี อนิ ทรยี ธ์ รรมชาติ(การปลูกผัก ธรรมชาต(ิ การปลกู ผักไฮโดรโปร ไฮโดรโปรนิกส)์ ไฮโดรโปรนกิ ส)์ นกิ ส์) 2. ขั้นตอนการนากลว๎ ยมาแปรรปู 1.1 สถานท/่ี พ้นื ท เป็นกล๎วยฉาบ 1.2 การเตรียมวสั 1.3 การผลผลติ ท โดย นายอษั ฎาพร พ
รมชาติ(การปลูกผกั ไฮโดรโปรนิกส)์ จานวน ๑0 ช่วั โมง จานวนชั่วโมง เนอ้ื หา จัดกระบวนการเรียนร๎ู ทฤษฎี ปฏิบัติ 1 ชั่วโมง ารประกอบอาชีพการปลกู วทิ ยากรนาเสนอขอ๎ มลู ความสาคญั ยธ์ รรมชาติ(การปลกู ผัก ความเปน็ ไปไดใ๎ นการประกอบอาชพี การปลกู พชื ผักเกษตรอินทรยี ์ กีย่ วกับการทาอาชพี การ ธรรมชาติ(การปลกู ผักไฮโดรโปนิกส์) นทรีย์ธรรมชาติ(การปลกู ในแหลงํ เรยี นร๎ู และทิศทางการ ประกอบอาชีพการการปลกู พืชผัก ารของตลาด เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ(การปลูกผกั าน ไฮโดรโปนิกส์) โดยคานงึ ถึงความ สดุอุปกรณ์ เหมาะสม เลท่ตี ้งั กอบอาชพี การปลูกพชื ผัก ชาติ(การปลกู ผกั ไฮโดรโป ะกอบอาชีพการปลกู วทิ ยากรอธบิ ายเน้ือหาตามลาดับ 1 ชวั่ โมง 7 ช่วั โมง ยธ์ รรมชาติ(การปลกู ผัก ขัน้ ตอน พร๎อมสาธติ และให๎ผู๎เรยี น ฝึกปฏิบัติจรงิ ข้นั ตอนการปลูกผกั ท่ี ไฮโดรโปรนกิ ส์ สดุ ทางการเกษตรกลว๎ ย - การคัดเลือกเมลด็ พันธ์ - การคัดเลือกฟองน้า พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔
เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู๎ เ 3. ข้ันตอนการเก็บรักษาเพ่ือการ 1.4 ความร๎ทู เ่ี กี่ย จาหนาํ ยหรอื บริโภค อาชีพการการปลกู พ ธรรมชาติ(การปลูกผ 3. การบรหิ ารจัดการในการ 1. การบรหิ ารจัดการการปลกู 2. ขนั้ ตอนการนาผกั ประกอบอาชีพการปลูกพืชผัก พืชผกั เกษตรอนิ ทรีย์ธรรมชาติ(การ - การบรรจผุ ลติ ภ เกษตรอินทรีย์ธรรมชาติ(การ ปลูกผกั ไฮโดรโปนกิ ส์) ปลูกผกั ไฮโดรโปรนิกส์)) 2. การจดั การตลาดในการปลกู 3. ขัน้ ตอนการเก็บร เพ่อื บริโภค 1. การบริหารจดั กา อินทรียธ์ รรมชาต(ิ กา 1.1 การจดั การค ปลกู พชื ผักเกษตรอิน โดย นายอษั ฎาพร พ
เนอ้ื หา จัดกระบวนการเรียนรู๎ จานวนชั่วโมง ยวข๎องในการประกอบ ทฤษฎี ปฏบิ ัติ พืชผกั เกษตรอินทรีย์ - วิธีการเพราะต๎นกล๎าใน ผักไฮโดรโปรนกิ ส)์ ฟองน้า กออกจาหนําย - การนาต๎นกล๎าลงในแปลง ภณั ฑ์ ปลูกแบบนา้ ไหล รกั ษาเพ่ือการจาหนําย - การดูแลและการให๎น้าใหป๎ ยุ๋ ผกั ไฮโดรโปนกิ สแ์ บบน้าไหล - การปลกู โดยใชว๎ สั ดทุ ีอ่ ยํใู น ท๎องถิ่นเชํนไม๎ไผํ มาเป็นลาง ปลกู แทนลางพลาสติก - การใชก๎ ลํองโฟมบรรจุ อาหารทะเทแชเํ ข็งหรอื กะละมังมาใช๎ปลูกโดย วธิ กี ารปลูกน้านิ่ง และการ ดูแลในระบบปลูกแบบนา้ นง่ิ ารการปลกู พชื ผักเกษตร วิทยากรอธิบายเนื้อหาตามลาดับ 30 นาที 30 นาที ารปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์) พรอ๎ มยกตัวอยํางของจริง สาธติ ใหด๎ ู ควบคมุ คุณภาพในการการ และใหผ๎ ู๎เรยี นปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั การ นทรยี ธ์ รรมชาต(ิ การปลกู ควบคมุ คุณภาพ การคานวณตน๎ ทุน สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
เร่ือง จุดประสงค์การเรียนรู๎ เ พืชผักเกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมชาติ(การ ผกั ไฮโดรโปนกิ ส)์ ปลกู ผกั ไฮโดรโปนกิ ส์) การคัดเกรด 1.2 การลดตน๎ ทุน ทาความสะอาด และบรรจุภัณฑผ์ กั เพื่อสงํ จาหนาํ ย เกษตรอินทรยี ์ธรรมช 3. การวางแผนการดาเนนิ งาน นกิ ส์) 1.3 การวางแผนก 2. การจัดการตลาด เกษตรอนิ ทรยี ์ธรรมช นิกส์) 2.1 ข๎อมูลความต 2.2 การกระจายผ ผบ๎ู ริโภค 2.3 การวางแผนกา 2.4 การออกแบบ 3. การวางแผนการด โดย นายอษั ฎาพร พ
เน้ือหา จดั กระบวนการเรยี นร๎ู จานวนชั่วโมง ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ และการจัดการตลาด นในการการปลูกพชื ผกั ชาติ(การปลกู ผกั ไฮโดรโป การผลิต ดในการการปลูกพชื ผกั ชาต(ิ การปลกู ผักไฮโดรโป ต๎องการของลกู ค๎า ผลิตภัณฑแ์ ปรรปู ไปสํู ารตลาด บบรรจุภัณฑ์ ดาเนินงาน สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
11 บทที่ 3 การดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ผู๎ดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาชีพกลํุมสนใจปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ได๎ ดาเนินการในการอบรม เก็บรวบรวมข๎อมลู และการวเิ คราะหข์ อ๎ มูลดังนี้ 3.1 การดาเนนิ การจัดกิจกรรม 1. เตรียมการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน - ประชมุ วางแผนรูปแบบการจัดกิจกรรม - เลือกหลักสูตรวิชาชพี ทจี่ ะจัดกิจกรรมการเรียนการสอน - มอบหมายงานใหบ๎ ุคลากรท่เี กยี่ วขอ๎ ง - ตดิ ตํอประสางานในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 2. วธิ กี ารดาเนินงาน - เขยี นขออนุญาตจดั ตั้งกลุํมวิชาชีพ - เสนอขออนญุ าตจัดตั้งกลุํมวิชาชพี - เตรยี มการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 1. เตรียมการกอํ นการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน - การจดั เตรียมเอกสารการเรียนการสอน - ติดตอํ สถานที่ - ติดตอํ วิทยากร - อ่นื ๆ 2. ตดิ ตอํ ประสานงานเครือขาํ ย - จัดการอบรมกลํุมวิชาชีพตามแผนท่วี างไว๎ ลงทะเบียนผู๎เข๎ารวํ มการกจิ กรรมการเรยี นการสอน วิทยากรใหค๎ วามร๎ู เร่ือง จัดกจิ กรรมกลมํุ ยอํ ย สรุปกิจกรรมยํอย ปิดการอบรม - สรปุ รายงานผลการจัดกิจกรรมหลักสตู รวชิ าชพี ขนมไทยเปน็ รปู เลมํ - รายงานผลการจดั กจิ กรรมหลักสตู รวชิ าชีพปลกู ผกั ไฮโดรโปรนิกส์ให๎ผูท๎ ่ี เก่ยี วข๎องรับทราบ 3.2 ผู๎เข๎ารวํ มกจิ กรรม เปูาหมาย ผู๎เขา๎ รํวมกิจกรรม ๘ คน ผ๎เู ข๎ารวํ มกจิ กรรมหลักสตู รปลูกผักไฮโดรโปรนกิ ส์ จานวน 10 คน คิดเป็น 125 % - เพศชาย ๓ คน - เพศหญงิ จานวน ๗ คน - ผจ๎ู ัดกจิ กรรมจานวน ๒ คน สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
12 3.3 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช๎ในการจัดกิจกรรม ข๎อมลู ปฐมภมู ิ ได๎จากการกรอกแบบสอบถามของผเู๎ ข๎ารํวมกิจกรรม ขอ๎ มูลทุตยิ ภูมิ ศึกษาจากเอกสาร ข๎อมลู ตําง ๆ ท่ีเกี่ยวข๎อง 3.4 การเก็บรวบรวมข๎อมูล วเิ คราะหแ์ บบสอบถามในแตํละสวํ น ดังนี้ ตอนท่ี 1 ขอ๎ มลู สํวนบคุ คล ตอนที่ 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ตอนท่ี 3 สรปุ ข๎อคิดเห็นและข๎อเสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเด็นที่สาคัญ สถติ ทิ ่ใี ช๎ในการวเิ คราะห์ขอ๎ มูล คือ คาํ เฉล่ยี โดยใชส๎ ตู รดังน้ี 3.4.1 คาํ ร๎อยละ (%) P = 100 เมื่อ p แทน ร๎อยละ F แทน จานวนผ๎ูตอบแบบสอบถาม n แทน จานวนทง้ั หมด 3.4.2 คาํ เฉล่ีย ( x ) = เมื่อ x แทน คําเฉลย่ี แทน จานวนผ๎ูตอบแบบสอบถาม x แทน จานวนท้งั หมด n 3.5 การวเิ คราะหข์ ๎อมูล หมายถึง มคี วามพึงพอใจน๎อยท่ีสดุ 0.00 –2.49 หมายถงึ มีความพึงพอใจน๎อย 2.50 – 2.99 สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
13 3.00 – 3.74 หมายถึง มคี วามพึงพอใจปานกลาง 3.75 – 4.49 หมายถึง มคี วามพึงพอใจมาก 4.50 – 5.00 หมายถึง มีความพึงพอใจมากท่สี ดุ ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาชีพหลักสูตรปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ ได๎มีการสารวจ ความพึงพอใจของผู๎เข๎ารํวมกิจกรรมท่ีมีตํอรูปแบบการจัดกิจกรรม จานวน 10 คน โดยวิธีการตอบ แบบสอบถาม จงึ ได๎มกี ารนาเสนอข๎อมูลในรปู ตารางประกอบคาบรรยาย โดยแบํงออกเป็น 3 สวํ น ได๎แกํ ตอนที่ 1 ข๎อมลู สวํ นบคุ คล ตอนท่ี 2 ประเมินความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู๎ (กจิ กรรมการเรียนการสอน) ตอนท่ี 3 สรุปข๎อคิดเหน็ และข๎อเสนอแนะ สรปุ เปน็ ประเด็นทีส่ าคญั 3.1 ตอนท่ี 1 การวิเคราะหข์ อ๎ มูลทั่วไปของผตู๎ อบแบบสอบถาม ตาราง แสดงจานวน รอ๎ ยละจานวนตามเพศ เพศ จานวน ( n = 10 ) รอ๎ ยละ ชาย 3 30 หญงิ ๗ 70 รวม ๑๐ 100 จากตาราง ผลการศึกษาพบวํา ผ๎ูเขา๎ รวํ มกิจกรรมสวํ นใหญํเป็นเพศหญิง คิดเปน็ ร๎อยละ ๗๐ เพศชายร๎อยละ ๓๐ ตาราง แสดงจานวน รอ๎ ยละจานวนตามอายุ อายุ จานวน ( n = 10 ) รอ๎ ยละ ต่ากวาํ 15 ปี - - 15 – ๒9 ปี - ๓๐ – ๓๙ ปี 1 10 40 – ๔9 ปี 4 40 ๕๐ – ๕๙ ปี 5 50 60 ปขี ึ้นไป - - ๑๐ ๑๐ รวม จากตาราง ผลการศึกษาพบวาํ ผูเ๎ ข๎ารวํ มอบรมสํวนใหญํ คือชวํ งอายรุ ะหวําง ๕๐ – ๕๙ ปี คิดเป็นร๎อยละ ๕0 รองลงมาคอื ๕๐ – ๖๙ ปี คดิ เปน็ รอ๎ งละ ๔๐ และชํวงอายุ ๓๐ – ๓๙ ปี รอ๎ ยละ ๑๐ สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
14 ตาราง แสดงจานวน ร๎อยละจานวนตามระดับการศึกษา ระดับการศกึ ษาสงู สุด จานวน ( n = 10 ) รอ๎ ยละ ต่ากวําประถมศึกษา - - ประถมศกึ ษา 2 20 มธั ยมศกึ ษาตอนตน๎ - - มัธยมศกึ ษาตอนปลาย - - ปริญญาตรี 2 20 อ่นื ๆ 6 60 รวม 10 100 จากตาราง ผลการศึกษาพบวาํ ผูเ๎ ข๎ารวํ มอบรมสวํ นใหญํมีการศกึ ษาระดับอ่ืน ร๎อยละ ๖๐ ประถมศกึ ษา และปริญญาตรีเทําๆกนั คิดเปน็ ร๎อยละ ๒๐ ตาราง แสดงจานวน รอ๎ ยละจานวนตามอาชพี อาชีพ จานวน ( n = 10 ) ร๎อยละ เกษตรกร 10 100 รบั จา๎ ง - คา๎ ขาย - - นกั เรยี น/นักศึกษา - - 10 - รวม 100 จากตาราง ผลการศึกษาพบวํา ผ๎เู ข๎ากลุํมท้ังหมดประกอบอาชพี เกษตรกร คิดเปน็ ร๎อยละ 100 ตาราง แสดงจานวน ร๎อยละจานวนตามรายไดต๎ ํอเดือน รายได๎ตอํ เดอื น จานวน ( n = 10 ) ร๎อยละ ตา่ กวาํ 5,000 บาท 10 100 5,001– 10,000 บาท - 10,001 – 20,000 บาท - - มากกวาํ 20,000 บาท - - 10 - รวม 100 จากตาราง ผลการศึกษาพบวํา ผเู๎ ขา๎ รํวมอบรมทง้ั หมดมรี ายไดต๎ ํอเดอื นต่ากวาํ 5,000 บาท คดิ เป็นร๎อยละ 100 สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
15 3.2 ตอนท่ี 2 การวเิ คราะหข์ อ๎ มูลเก่ยี วกบั ความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรม ตาราง แสดงจานวน ร๎อยละ และคาํ เฉลย่ี ของความพงึ พอใจของผ๎เู ขา๎ รวํ มอบรมที่มีตํอการจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอน ระดับความพงึ พอใจ ท่ี ประเด็นการถาม ๕๔ ๓ ๒ ๑ คําเฉลี่ย อยํูในระดับ มากท่ีสดุ มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ยทสี่ ดุ กลาง ตอนที่ ๑ ความพึงพอใจดา้ นเนือ้ หา 4.78 มากทสี่ ุด ๑ เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 82 4.8 มากที่สดุ (80%) (20%) ๒ เนื้อหาเพยี งพอต่อความตอ้ งการ 7 3 4.7 มากที่สดุ (70%) (30%) ๓ เนื้อหาปจั จุบันทนั สมัย 82 4.8 มากที่สดุ (80%) (20%) ๔ เนื้อหามปี ระโยชน์ตอ่ การนาไปใช้ 8 2 4.8 มากทส่ี ดุ ในการพฒั นาคุณภาพชีวิต (80%) (20%) ตอนท่ี ๒ ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม 4.78 มากที่สดุ ๕ การเตรยี มความพร้อมกอ่ นอบรม 8 2 4.8 มากทส่ี ุด (80%) (20%) ๖ การออกแบบกิจกรรมเหมาะสม 7 3 4.7 มากทส่ี ุด กบั วัตถุประสงค์ (70%) (30%) ๗ การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 8 2 4.8 มากทสี่ ุด (80%) (20%) ๘ การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับ 82 4.8 มากทส่ี ุด กลมุ่ เปา้ หมาย (80%) (20%) ๙ วธิ ีการวัดผล/ประเมนิ ผล 82 4.8 มากที่สดุ เหมาะสมกับวตั ถปุ ระสงค์ (80%) (20%) ตอนท่ี ๓ ความพึงพอใจตอ่ วิทยากร 4.8 มากที่สดุ ๑๐ วิทยากรมีความรคู้ วามสามารถใน 8 2 4.8 มากที่สดุ เรอ่ื งทถี่ า่ ยทอด (80%) (20%) ๑๑ วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้ 8 2 4.8 มากที่สดุ สือ่ เหมาะสม (80%) (20%) ๑๒ วิทยากรเปดิ โอกาสใหม้ สี ่วนรว่ ม 8 2 4.8 มากทส่ี ดุ และซกั ถาม (80%) (20%) ตอนที่ ๔ ความพงึ พอใจดา้ นการอานวยความสะดวก 4.8 มากทส่ี ุด ๑๓ สถานที่ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละส่ิง 82 4.8 มากทส่ี ุด อานวยความสะดวก (80%) (20%) ๑๔ การส่อื สาร การสร้างบรรยากาศ 8 2 4.8 มากที่สุด เพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ (80%) (20%) ๑๕ การบริการ การช่วยเหลือและ 8 2 4.8 มากที่สดุ การแก้ปญั หา (80%) (20%) ตอนที่ ๕ ความพงึ พอใจดา้ นการนาความรไู้ ปใช้ 4.8 มากทีส่ ุด ๑๖ สามารถนาความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไป 8 2 4.8 มากทสี่ ุด สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
ประยกุ ตใ์ ช้ในการปฏิบัตงิ านได้ (80%) (20%) 16 ๑๗ สามารถนาความรไู้ ปเผยแพร/่ 8 2 4.8 มากท่ีสดุ ถา่ ยทอดแกช่ มุ ชนได้ (80%) (20%) 4.8 มากท่ีสดุ ๑๘ มีความม่นั ใจและสาม 4.80 มากทสี่ ุด 8 2 รวม (80%) (20%) 142 38 (79 %) (21 %) จากตาราง จากการศกึ ษาพบว่า ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรมมคี วามพึงพอใจ 1. ตอนท่ี ๑ ความพึงพอใจด๎านเนอ้ื หา อยูใํ นระดบั มากทสี่ ุด ( x = 4.78 ) 2. ตอนท่ี ๒ ความพงึ พอใจด๎านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม อยใูํ นระดับ มากทส่ี ดุ ( x = 4.78 ) 3. ตอนที่ ๓ ความพงึ พอใจตํอวิทยากร อยูํในระดบั มากทสี่ ุด ( x = 4.8 ) 4. ตอนท่ี ๔ ความพงึ พอใจดา๎ นการอานวยความสะดวก อยใูํ นระดับ มากท่สี ุด( x = 4.8 ) 5. ตอนที่ ๕ ความพึงพอใจด๎านการนาความรู๎ไปใช๎ อยํูในระดับ มากที่สดุ ( = 4.8 ) จากกจิ กรรมการฝกึ อาชีพระยะสนั้ ปลูกผักไฮโดรโปรนกิ ส์ พบวาํ ผ๎ูเขา๎ รํวมกิจกรรมมคี วามพงึ พอใจ ด๎านการนาความร๎ูไปใช๎อยํูในระดับมากทสี่ ดุ ( x = 4.80 ) ตอนท่ี 3 ขอ้ เสนอแนะ พบว่าผเู้ ข้าร่วมการอบรมมคี วามคดิ เห็น และข้อเสนอแนะ ดังน้ี ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมมีส่วนร่วมเปน็ อย่างมาก มีรปู แบบการอบรมทดี่ มี าก ใหค้ วามเป็นกนั เอง ทาให้ผู้รว่ มการ สมั มนา กลา้ ซกั ถาม แลกเปล่ียนความคิดเห็น อยากให้มีวัสดอุ ปุ กรณ์มากกว่านี้ หมายเหตุ คิดคะแนนเฉพาะทค่ี วามพึงพอใจอยใู่ นระดบั มากข้นึ ไป สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
17 บทท่ี 4 สรุป อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนกลํุมวชิ าชีพกลุมํ สนใจปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มจี ดุ ประสงค์ใน การจัดกจิ กรรมดงั น้ี 1. เพ่ือให๎ผเ๎ู ขา๎ รวํ มกจิ กรรมเกดิ ความร๎ูความเขา๎ ใจ เก่ยี วกับการปลูกผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ 2. เพื่อให๎ผเู๎ ข๎ารวํ มกิจกรรมมกี ารแลกเปล่ียนแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั แนวทางการจดั กิจกรรมของตนเอง 3. เพื่อเป็นการลดรายจาํ ยในครอบครวั และเปน็ การพฒั นาคุณภาพชีวิตของผ๎เู ข๎ารํวมกิจกรรมให๎ดยี ่ิงข้ึน 4. เพ่อื สํงเสริมความรวํ มมือและการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู๎การศกึ ษาอาชีพของผูเ๎ รยี น รบั บรกิ ารกับ สถานศกึ ษา 5. เพ่ือรํวมวิเคราะห์ และสังเคราะห์รปู แบบ กระบวนการจัดและผลสาเร็จทเี่ กิดข้นึ จากโครงการตามตวั ชวี้ ัดท่ี กาหนดเปน็ ตัวชว้ี ดั ความสาเร็จตามกลํมุ เปาู หมายจากการประเมนิ เบื้องตน๎ 6. เพื่อศึกษาผลการดาเนนิ งาน ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการจัดการศึกษาอาชีพกลุํมสนใจ การดาเนินการจดั กจิ กรรม 4.1 ผ๎ูเข๎ารํวมกิจกรรม ผู๎เขา๎ รํวมกจิ กรรมหลักสูตรวิชาชีพกลมุํ สนใจปลูกผักไฮโดรโปนกิ ส์ จานวน 10 คน - เพศชาย จานวน ๓ คน - เพศหญิง จานวน 7 คน ผูจ๎ ดั กจิ กรรมจานวน ๒ คน 4.2 เครอื่ งมือทใี่ ช๎ในการอบรม ข๎อมูลปฐมภูมิ ได๎จากการกรอกแบบสอบถามของผเู๎ ขา๎ รํวมกจิ กรรม ข๎อมูลทตุ ิยภมู ิ ศึกษาจากเอกสาร ข๎อมลู ตําง ๆ ทเี่ กีย่ วข๎อง 4.3 การเก็บรวบรวมข๎อมูล วิเคราะห์แบบสอบถามในแตํละสวํ น ดังนี้ ตอนที่ 1 ข๎อมลู สวํ นบุคคล ตอนท่ี 2 ประเมินความพงึ พอใจในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ตอนที่ 3 ข๎อเสนอแนะ สรุปเปน็ ประเดน็ ทีส่ าคญั 4.4 วิธีการวเิ คราะหข์ ๎อมลู ในการวเิ คราะห์ขอ๎ มูล ผ๎ูจดั ไดด๎ าเนินการ 2 ลักษณะ คือ 4.4.1 การสงั เคราะห์เชิงคุณลกั ษณะ ผ๎จู ัดกจิ กรรมทาการสงั เคราะหโ์ ดยใช๎วธิ กี ารวิเคราะหส์ งั เคราะห์ 3 ดา๎ น คือ ข๎อมลู ท่วั ไป ข๎อมูลความ พึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน และขอ๎ เสนอแนะ 4.4.2 การสังเคราะหก์ ารอบรมเชิงปริมาณ ในการสังเคราะห์การจัดกิจกรรมเชิงปริมาณ ผูจ๎ ดั กิจกรรมแยกออกเป็นคุณลักษณะตําง ๆ ในการสงั เคราะห์ ขอ๎ มลู ดงั นี้ข๎อมลู เกยี่ วกับเพศ / อายขุ ๎อมลู ระดบั ความพงึ พอใจในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนข๎อเสนอแนะ สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
18 โดยเปรยี บเทียบจานวนคนคดิ เป็นรอ๎ ยละในแตลํ ะสํวนของข๎อมูลการอบรม พร๎อมการบรรยายประกอบ สรุปผลการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนวชิ าชีพปลกู ผกั ไฮโดรโปรนิกส์โดยใชว๎ ิธีการวิเคราะห์ สังเคราะหจ์ ากแบบประเมนิ ความพึงพอใจในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน และรปู แบบการจัดกิจกรรม สามารถสรุปไดด๎ ังน้ี การสังเคราะห์ข๎อมลู ทั่วไปของผ๎ูตอบแบบสอบถาม ผ๎เู ข๎ารํวมกิจกรรม เพศชาย จานวน ๓ คน เพศหญงิ จานวน 7 คน เน่อื งจากเป็นงานท่เี หมาะสมกบั เพศ หญงิ และเป็นงานถนัด อีกทง้ั เป็นงานทผ่ี ๎หู ญิงชอบ พัฒนาเป็นรายได๎เสรมิ ของครอบครวั อกี ทางหนึง่ ผเ๎ู ขา๎ รวํ ม กิจกรรมสํวนใหญํเป็นมีอายุอยูํระหวาํ ๕๐ – ๕๙ ปี เนอ่ื งมาจากเป็นชํวงวยั ท่ตี อ๎ งทางานเพ่อื หารรายไดแ๎ ละเปน็ อาชพี ท่ีต๎องหารายได๎เลีย้ งดูครอบครวั จึงทาให๎ในชํวงน้ีสงู กวําชวํ งอนื่ ๆ การวเิ คราะหข์ อ้ มลู เกย่ี วกบั ความพงึ พอใจในการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน จากการศึกษาพบวํา ผเู๎ ข๎ารวํ มกจิ กรรมมคี วามพึงพอใจ 1. ตอนที่ ๑ ความพึงพอใจด๎านเน้ือหา อยํูในระดับมากท่สี ุด ( x = 4.78 ) 2. ตอนท่ี ๒ ความพงึ พอใจด๎านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม อยใูํ นระดับ มากทส่ี ดุ ( x = 4.78 ) 3. ตอนท่ี ๓ ความพงึ พอใจตํอวิทยากร อยํูในระดับ มากทสี่ ุด ( x = 4.8 ) 4. ตอนท่ี ๔ ความพงึ พอใจด๎านการอานวยความสะดวก อยใูํ นระดับ มากทีส่ ุด( x = 4.8 ) 5. ตอนที่ ๕ ความพงึ พอใจดา๎ นการนาความร๎ูไปใช๎ อยใูํ นระดับ มากที่สุด( = 4.8 ) จากกจิ กรรมการฝึกอาชีพระยะสั้นปลกู ผกั ไฮโดรโปรนกิ ส์ พบวาํ ผ๎ูเข๎ารํวมกจิ กรรมมีความพึงพอใจ ด๎านการนาความร๎ไู ปใช๎อยูํในระดับมากทสี่ ุด ( x = 4.80 ) อภิปรายผล จากการดาเนนิ การกลุํมวชิ าชพี พบประเดน็ สาคัญท่สี ามารถนามาอภิปรายผลได๎ดังนี้ 1. ดา๎ นกลํุมเปูาหมาย 1.1 กลํมุ เปาู หมายสํวนใหญํตอ๎ งการนาความร๎ทู ่ีได๎รับจากการอบรมไปใชใ๎ น ชีวิตประจาวนั และนาไปใช๎เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก เพอื่ เป็นการลดรายจาํ ยในครวั เรอื นและเพิม่ รายได๎ ใหก๎ ับตนเอง 1.2 จากการดาเนนิ การพบวาํ กลุํมเปาู หมายทัง้ หมดเป็นประชาชนทัว่ ไป เน่ืองมาจาก เปน็ การเรยี นที่เรียนรู๎ได๎ 2. ดา๎ นงบประมาณ - จากการดาเนินงานพบวําวัสดุ อปุ กรณ์มคี วามเพียงพอตํอความตอ๎ งการของกลํุมผ๎ู เขา๎ รบั การอบรมวสั ดุไมสํ ามารถหาซอ้ื ไดใ๎ นท๎องถ่ินเพราะวัสดอุ ปุ กรณ์ไมํมีในท๎องตลาดใกลบ๎ า๎ น 3. ด๎านกิจกรรมการเรียนการสอน - จากการดาเนนิ งานพบวาํ กิจกรรมต๎องยืดหยํุนตามสภาพกลุมํ เปูาหมาย เน่ืองมาจาก สภาพชวี ิตความเป็นอยูขํ องกลมํุ เปูาหมายมีสวํ นสาคญั ตํอการจดั กจิ กรรมการเรียนรู๎ 4. ด๎านสถานท่ี สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
19 4.1 การดาเนินการอบรม ดา๎ นสถานที่สามารถมีการเปลีย่ นแปลงไปได๎ตามความ ต๎องการ และความเหมาะสมของผูเ๎ ข๎ารวํ มการอบรม 4.2 ควรมกี ารใช๎สถานทขี่ องสวํ นรวม เพ่อื ให๎เกิดความเชอื่ มโยง สมั พนั ธก์ ันระหวําง กศน. และชมุ ชน ขอ้ เสนอแนะในการดาเนินการกลมุ่ วิชาชพี ครัง้ ตอ่ ไป 1. ควรทาการศกึ ษาปัญหาความตอ๎ งการของกลมุํ เปาู หมาย โดยใชเ๎ ครอ่ื งมือทห่ี ลากหลาย รปู แบบ เพื่อให๎ได๎ขอ๎ มลู ทถี่ ูกต๎อง ตรงตามความต๎องการของผ๎เู รียนมากท่สี ุด 2. ควรศกึ ษาความต๎องการของกลมํุ เปาู หมายในดา๎ นตําง ๆ ทต่ี ๎องการรบั บรกิ ารจาก กศน. เพอื่ ใหท๎ ราบและสามารถจัดกิจกรรมตามหลกั สตู รให๎สอดคลอ๎ งกบั ความตอ๎ งการของท๎องถนิ่ ได๎ 3. ควรศึกษาผลกระทบจาการดาเนินการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน โดยการศึกษาจาก กลมุํ เปาู หมาย และชุมชน 4. ควรเก็บข๎อมูลของผู๎เข๎ารับการอบรมหลังการอบรมด๎วยทุกครงั้ ขอ้ มูลความตระหนกั ในการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพ่อื พฒั นาอาชพี หลกั สตู รปลูกผกั ไฮโดรโปรนิกส์ของสถานศึกษา มงุํ ให๎เกดิ ความสอดคลอ๎ งกบั ความตอ๎ งการของผูเ๎ รียน/ผ๎รู ับบรกิ ารเปน็ สาคญั โดยมํุงเน๎นความตอ๎ งการของ ผู๎เรียน/ผู๎รบั บรกิ ารเปน็ แนวทางในการดาเนินงาน และได๎มีการสงํ เสริม สนบั สนนุ ใหบ๎ คุ ลากรในสถานศกึ ษาเห็น ความสาคญั ของการจดั หลักสูตรวิชาชพี แตํละหลักสูตร และปฏบิ ตั งิ านอยํางเป็นระบบอยํางมีประสิทธิภาพ เพอ่ื ใหเ๎ กิดคุณภาพในการทางาน ขอ๎ มูลการปฏิบตั ิ (ความพยายาม) เมือ่ บุคลากรได๎รับแนวทาง และนโยบายทางการศึกษาเพอ่ื พฒั นาอาชีพแล๎ว ได๎ดาเนินการ สารวจหาความตอ๎ งการของกลํุมเปาู หมายทแี่ ท๎จริงโดยการรํวมทาประชาคมหรือรํวมประชุมกบั กลมุํ ผ๎ูนา เพ่ือให๎ ไดร๎ บั ข๎อมลู ความตอ๎ งการท่แี ทจ๎ รงิ ของชมุ ชน และนามาจดั การเรยี นการสอนด๎านอาชพี จดุ เด่นของกลุ่ม 1. มีความตอ๎ งการ เหมือนกัน 2. กลมํุ เปาู หมายมีความสนใจในกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นอยาํ งดี 3. กลุํมเปูาหมายมคี วามสามัคคี ชํวยงานกนั ดีพอสมควร 4. กลมํุ เปูาหมายมคี วามรบั ผิดชอบ 5. กลมํุ เปาู หมายร๎ูจกั นาวสั ดุ อุปกรณ์ และวัตถุดบิ ท่ีมใี นท๎องถนิ่ มาใช๎ จดุ ควรพัฒนา (จุดด้อย) การรวมกลุํมเป็นกลํุมอาชพี กลํุมสนใจ แนวทางการพัฒนา 1. ควรพฒั นาการใช๎วัตถดุ บิ ที่มีอยูํในทอ๎ งถน่ิ ในกจิ กรรมการเรียนการสอนให๎มากกวําน้ี 2. ควรจัดหางบประมาณเพิ่มเติม หรือการขอความสนบั สนนุ จากแหลงํ ตาํ ง ๆ ในเร่ืองการ จัดหาวตั ถุในการเรียนรู๎ สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
20 วิธีการพฒั นา 1. สรา๎ งความเขา๎ ใจที่ดใี นการใชว๎ ตั ถดุ บิ ที่มีอยใํู นท๎องถ่นิ ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ใหผ๎ ๎เู รยี น/ผ๎ูรบั บริการเห็นความสาคัญ 2. ปรับวธิ กี ารจดั กิจกรรมให๎เหมาะสมกบั ผ๎เู รยี น/ผ๎ูรบั บริการ ให๎มคี วามยืดหยํุนโดยไมเํ นน๎ หนวํ ยการเรยี นรต๎ู ามหลกั สูตร แตํใหย๎ ึดตัวผ๎ูเรยี นเป็นสาคญั แล๎วจงึ นาผลการดาเนินงานมาปรบั ปรุงหลักสูตร วชิ าชพี กลมุํ สนใจปลกู ผักไฮโดรโปรนิกส์ในครัง้ ตํอไป สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
21 ภาคผนวก สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งปิ่ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
22 รปู กจิ กรรมปลกู ผักไฮโดรโปรนิกส์ สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
23 สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
24 สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
25 จัดทาโดย ท่ีปรึกษา ผอ.กศน.อาเภอชาติตระการ 1.นางพรสวรรค์ กนั ตง ครูชานาญการ 2.นายรง๎ุ ภธู ร ภาศรี ครูผู๎ชํวย ๓.นางสาวชมพูนุช ลว๎ นมงคล ---------------------------------------------------------------- วําท่ี พ.ต.บุญสงํ วันชน่ื ครูอาสาสมคั รฯ ผน๎ู เิ ทศ ผ้รู ับผิดชอบ/ ผูเ้ รียบเรยี ง/ ผจู้ ัดพิมพ์รปู เลม่ / ออกแบบปก นายอษั ฎาพร พํวงปน่ิ ครู กศน.ตาบลปาุ แดง อ.ชาตติ ระการ จ.พษิ ณโุ ลก นางสาวพรพนา โคกนอ๎ ย ครู ศรช.ตาบลปุาแดง อ.ชาติตระการ จ.พษิ ณโุ ลก สรุปผลการดาเนินงาน ประจาปี งบประมาณ ๒๕๖๔ โดย นายอษั ฎาพร พว่ งป่ิ น ครูกศน.ตาบลป่ าแดง
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: