Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Intermediate Part1

Intermediate Part1

Published by nattarinrada, 2022-08-03 04:18:59

Description: Intermediate Part1

Search

Read the Text Version

วธิ ีคาํ นวณพืนทสี าํ หรับทาสี 1.2 m และถ้าบ้านมีหน้าตา่ ง 6 บาน ประตู 3 1m บาน -หน้าต่าง 2 m 1 x 1.2 x 6 = 7.2 ตร.ม. -ประตู 0.8 x 2 x 3 = 4.8 ตร.ม. พืนทีจริงทาสภี ายนอก 0.8 m 152 – (7.2+4.8) = 140 ตร.ม. 2. หาพืนทีหน้าต่างและประตโู ดยใช้วธิ ีการคาํ นวณเหมอื นเดมิ จากนนั นําไปลบออกจากพืนที รวมภายนอกทีได้จากข้อแรก

วธิ ีคาํ นวณพืนทสี าํ หรับทาสี ตวั อยา่ ง - สีทาทบั หน้ารุ่น Studio Shield ทาได้พืนที 30 -35 ตร.ม./กล./เทียว ดงั นนั จะใช้สที งั หมด 140 ÷ 30 = 4.66 แกลลอน แตท่ าทบั หน้า 2 เทยี ว 4.66 X 2 = 9.32 แกลลอน ดงั นันซอื สีประมาณ ขนาด 5 GL 2 ถัง หรือขนาด 2.5 GL 4 ถัง 3. นาํ ผลลลพั ธ์ทไี ด้จากข้อ 2 หารด้วยจาํ นวนพืนทีครอบคลมุ ตอ่ ตร.ม. / เทยี ว / กล. ของสีแตล่ ะประเภททีเขยี นอยขู่ ้างกระป๋ องสี

วธิ ีคาํ นวณพืนทสี าํ หรับทาสี 12 ม. 4.5 ม. 11 ม. - กว้าง 4.5 เมตร ยาว 11 เมตร และสงู 12 เมตร (มี 4 ห้อง) พืนทีภายนอก {(4.5x4)+11} x 2 x 12 = 696 ตร.ม (ยงั ไม่หักประตูหน้าต่างนะ)

วธิ ีคาํ นวณพืนทสี าํ หรับทาสี 2.5 ม. 6 ม. 7 ม. - กว้าง 5 เมตร ยาว 7 เมตร และสงู 2.5 เมตร (ฝังหน้าบ้านไมม่ ีผนงั ) พืนทีภายใน {6+7+7} x 2.5 = 50 ตร.ม (ยงั ไม่หกั ประตูหน้าต่างนะ)

ปัญหาสีทวั ไปและแนวทางแก้ไข

มปี ัจจยั อะไรบ้างทีสง่ ผลตอ่ การเกิดปัญหาสี 1. การเตรียมพืนผิว >>> พืนผิวไมส่ ะอาด, ไม่เรียบร้อย 2. การใช้งาน >>> ใช้งานผิดประเภท, ผ้ใู ช้งานไมม่ ีความรู้ความเข้าใจในผลติ ภณั ฑ์, ผสม ผิด Base , ผิดขนาด ผิดสตู ร 3. สภาพแวดล้อม >>> ฝนตก นําทว่ ม แดดร้อนจดั แรงสนั สะเทอื น ความชืน 4. ผลติ ภณั ฑ์หมดอายุ เสอื มสภาพ, เครืองผสมสขี ดั ข้อง

1. ปัญหาสบี วมพองจากความชืนขอบชายลา่ ง สาเหตเุ กิดจาก : ความชืนสงู ตงั แต่ 19% ดนั จากใต้ดนิ ขนึ ตามแนวคานสงู จากพืนประมาณ 30-40 ซม. แล้วระเหยเอา ความชืนคายออกมาสผู่ นงั ภายนอก จงึ ทําให้ฟิล์มสที ีทานนั บวมพองหลดุ ลอกได้ (เกิดมากหรือน้อยขนึ อย่กู บั พืนที โดยเฉพาะพืนทีดนิ ถมทบั แหล่งนําเดมิ จะพบปัญหาดงั กลา่ วได้มากกวา่ พืนดนิ ทวั ไป)

1. ปัญหาสบี วมพองจากความชืนขอบชายลา่ ง ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1.สําหรับผนงั เดิมทีพบฟิ ล์มสีบวมพอง 2.สาํ หรับผนงั ทวั ไปบริเวณขอบ 3. ทําความสะอาดพืนผวิ โดยการปัดฝ่นุ หลดุ ลอกล่อนแนะนําให้ใช้เกรียงโป๊ ว ชายลา่ งทีฟิล์มสเี ดมิ ไมบ่ วมพอง ออก แล้วทงิ ให้พืนผิวระเหยเอาความชืน แซะฟิล์มสที ีเกิดปัญหาหลดุ ลอกออก แนะนําให้ขดั ลบู ด้วยกระดาษ ออกมาประมาณ 1-2 วนั (ขนึ อย่กู บั ให้มากทีสดุ ทรายหยาบ สภาพแวดล้อม)

1. ปัญหาสีบวมพองจากความชืนขอบชายลา่ ง (สาํ หรับบริเวณพืนผิวความชืนไมส่ งู มากประมาณ 17-30%) 4. ทาสีรองพืนปนู อเนกประสงค์ สตู รนํามนั สีขาว Captain Perfex Primer จํานวน 1-2 เทียว โดยไม่ต้องผสมหรือเจือจางใดๆ และทงิ ให้สี แห้งประมาณ 4-6 ชม.กอ่ นทาสที บั หน้า (ควรกลงิ เกลียให้ฟิล์มสรี องพืน ขาวมากทีสดุ )

1. ปัญหาสบี วมพองจากความชืนขอบชายลา่ ง (สาํ หรับพืนผิวทีมีความชืนสงู 30-50%) เป็นการแนะนาํ จากประสบการณ์ไมส่ ามารถอ้างอิงได้ทกุ บริเวณ ทีเกิดปัญหา 4. ทาสีรองพืนด้วย สีอีพ็อกซีชนดิ 2 สว่ น Captain ExyGuard Sealer โดยให้ผสม ส่วน A กบั ส่วน B รวมกนั ตามอตั ราสว่ น 4 : 1 (หรือผสม ตามชดุ ) แล้วเตมิ ทนิ เนอร์กัปตัน CT-30 เพิมอีกประมาณ 5 % แล้วคน + สใี ห้เข้ากนั อีกครัง และทงิ ไว้ให้สที าํ ปฏิกิริยาประมาณ 4-5 นาที ก่อน นําไปทาจํานวน 1 เทียว ทิงให้สีแห้งทาทบั หน้าได้ประมาณ 6 ชม.

2. ปัญหาสที าไม่กลบพืนผิว (สีทาไมข่ นึ ) สามารถเป็นได้ทงั 2 กรณีคอื เฉดสเี ข้มโทนแมส่ หี รือเฉดสีขาว 2.1 สเี ข้มเฉด (-6,-7) หรือสผี สม Base 2.2 สขี าวหรือเฉดสอี ่อน ทีทาไม่ D โทนสวา่ งทีทาไมก่ ลบพืนผิว กลบพืนผวิ

2. ปัญหาสที าไม่กลบพืนผวิ (สที าไมข่ นึ ) 2.1 สีเฉดเข้ม (-6,-7) หรือสผี สม Base D ทีทาไม่กลบพืนผิว สาเหตเุ กดิ จาก สีผสมนําเพมิ มากจนเกินไป ทาสีบาง กดและรีดลกู กลงิ มากจนเกินไป (สีเข้ม Base D ไม่ต้องผสมนํา) เพราะต้องการทาได้พืนทีมาก ไมไ่ ด้ทาสชี นั กลางเบส C ก่อนทาสีเข้ม พืนผิวเดิมทีกระดํากระด่างแต่ลกู ค้าใช้นํายารอง พืนปนู เก่าใส จงึ ทําให้สีทาขนึ ยากกวา่ ปกติ

2. ปัญหาสที าไมก่ ลบพืนผิว (สีทาไมข่ นึ ) ขันตอนการแก้ไขปัญหา สาํ หรับสเี ฉดเข้ม (-6,-7) หรือสผี สม Base D เตรียมพืนผิว ทาสีรองพนื ปนู ทาสีชันกลาง ทาสที ับหน้า ให้เรียบร้ อย ใหม่หรือ Base C เฉดสีเข้ม สีรองพนื ปนู Base D (Under coat) 2 เทยี ว อเนกประสงค์สี 1 เทยี ว ไม่ผสมนํา ขาว ไม่ผสมนํา 1 เทยี ว

2. ปัญหาสีทาไมก่ ลบพืนผวิ (สีทาไม่ขนึ ) ขนั ตอนการแก้ไขปัญหา สําหรับสีเฉดเข้ม (-6,-7) หรือสีผสม Base D 1. ทาสีรองพืนใหมห่ รือสีรองพืนปนู อเนกประสงค์สขี าวจํานวน 1 เทียวให้ ฟิล์มสีขาวสมาํ เสมอกนั 2. ทาสชี นั กลาง (Under Coat) ทีเป็น เฉดสีออ่ น Base C จํานวน 1 เทียว (ไมต่ ้องผสมนํา)

2. ปัญหาสที าไมก่ ลบพืนผิว (สที าไมข่ นึ ) ขนั ตอนการแก้ไขปัญหา สาํ หรับสเี ฉดเข้ม (-6,-7) หรือสผี สม Base D 3. เฉดสเี ข้ม Base D ไมต่ ้องผสมนํา 4. ทาสีทบั หน้าสีเข้มจาํ นวน 2 เทียว เมือทาเสร็จจะพบว่าฟิ ล์มสสี วยเข้มสวา่ ง และสมําเสมอกนั มากกวา่ ทาสเี ข้มจาํ นวน 3 เทียวโดยไมม่ สี ีชนั กลาง

2. ปัญหาสที าไม่กลบพืนผวิ (สีทาไมข่ นึ ) 2.2 สีขาวหรือเฉดสีอ่อน ทีทาไมก่ ลบพืนผวิ สาเหตเุ กิดจาก ผสมนําเพมิ มากเกนิ 15% จนสีเหลวมากเกินไป ช่างทาสีบาง กดและรีดลกู กลงิ มากจนเกินไป ทาสีรองพนื ไมส่ มําเสมอกนั หรือใช้นํายารองพืนปนู เห็นดา่ งขาวตามแนวรอยโป๊ วเนืองจากไม่ได้ทารองพืน เก่าสตู รนํามนั ใส (ยงั เหน็ พืนเดิมสกปรก) ทบั ไปก่อน

2. ปัญหาสที าไมก่ ลบพืนผวิ (สีทาไมข่ นึ ) สาํ หรับสขี าวหรือเฉดสอี ่อน ขนั ตอนการแก้ไขปัญหา 1. ถ้าผนงั เดมิ เป็นเฉดสีเข้มควรเลือกใช้สีรองพืนปนู อเนกประสงค์สตู รนํามนั สขี าว เชน่ Captain Perfex Primer หรือ Pammastic Speed Primer แทนนํายารองพืนปนู เก่าใส 2. ไม่แนะนําให้ใช้สี Base A แทนสีเบอร์เฉดสี ขาว เพราะสี Base A ไม่มีแม่สีผสมทชี ่วยในเรือง ของการกลบพนื ผวิ ได้

2. ปัญหาสีทาไม่กลบพืนผิว (สที าไมข่ นึ ) สาํ หรับสีขาวหรือเฉดสีอ่อน ขนั ตอนการแก้ไขปัญหา 3. สีเกรดสงู ฟิ ล์มสกี งึ เงา เฉดสีขาวแนะนําให้ ผสมนําให้น้อยทสี ดุ 5% 4. ควรกลิงสโี ดยการปลอ่ ยเนือสี และใช้การเกลีย ฟิ ล์มสใี ห้ขาวสมําเสมอกนั ไมค่ วรกดรีดลกู กลงิ มาก จนเกินไป เพราะจะทําให้ฟิล์มสที ีทานนั บางได้

3. ปัญหาสีเพียน ทีทําให้สที าต่องานหรือทาเกบ็ งานไม่ได้นนั สนั นิษฐานว่าสาเหตเุ กิดจาก ? 1. แม่สหี มดขณะทําการผสมสี 2. เครืองผสมสีขนึ error แมส่ ีลงไมค่ รบ อดุ ตนั ข้นหนืด ไหลเป็นฟองอากาศ ขณะผสม 3. กระบอกแม่สีมีการปนเปือนแม่สีอนื หรือ เทเตมิ แมส่ ีผดิ พลาด 4. ผสมสีผดิ Base หรือ เลือกขนาดผสมสีผิด 5. บาง Version เก่า-ใหม่ อาจมกี ารปรับสตู รสบี างเฉด 6. ผสมสตู รสตี า่ งผลิตภณั ฑ์ (เอาสตู ร Longlife ไปฉีดใส่ Base ParaShield เนืองด้วยราคาแม่สที ีถกู กว่า)

3. ปัญหาสเี พียน ทีทําให้สที าตอ่ งานหรือทาเก็บงานไม่ได้นนั สนั นิษฐานว่าสาเหตเุ กิดจาก ? 7. สที ีผสมนํามากเกิน 15% ขนึ ไป จะทาํ ให้เฉดสเี พียนไปจากเดมิ และทําให้นําสี เกิดการแยกชนั ได้งา่ ย(เป็นได้ทงั เฉดสเี ข้มและสีออ่ น) 8. นําสีเหลอื เสียบดู เน่าหรือสีแข็งตวั มาแต้มเก็บงาน(เฉดสจี ะขาวขนึ ) 9. ระยะเวลาการเก็บงานมีผลตอ่ ฟิ ลม์ สเี ดมิ ทีทาไว้ โดยเฉพาะผนงั ภายนอกทีได้รับ สภาวะแวดล้อมตลอด (แสงแดด, ฝ่นุ , ฝน) ทาํ ให้เหน็ ความตา่ งระหว่างความเงา ของฟิ ล์มสีได้ 10. ลกู ค้าซือสีผสมผา่ นหลายร้าน เฉดสีอาจจะเพียนได้ เพราะแต่ละร้านการ maintenance ไม่เท่ากนั (หรือสจี ากโรงงานกบั ซือทีร้าน)

4. ปัญหาฟิ ลม์ สีหลดุ ลอกลอ่ นเป็นแผน่ สาเหตเุ กดิ จาก : 1. อาจเกิดจากความชืนจากผนงั ปนู ภายใน (มีนํารัวซมึ ตามรอยแตกร้าว) 2. การเตรียมพืนผวิ เดิมไมด่ ี ผนงั ยงั มี ฝ่นุ ชอลก์ หรือล้างทําความอะอาด พืนผวิ ไมด่ ี 3. ไม่ได้ทาสรี องพืน หรือเลอื กใช้สรี อง พืนไมเ่ หมาะกบั สภาพพืนผวิ เดมิ 4. ฟิล์มสีเดิมเสือมสภาพตาม กาลเวลา ทามาหลายปี 5. พืนผิวเดมิ อาจมีความมนั ลืนทําให้ ไมเ่ กิดการยดึ เกาะกบั สีทบั หน้าทีทา

5. ปัญหาฟิล์มสบี วมพอง สาเหตเุ กดิ จาก : 1. เกดิ จากความชืนภายในผนงั ปนู หรือคอนกรีตดนั ตวั ออกมา ทะลถุ งึ ชนั ฟิล์มสี (ระเหย) 2. อาจเกิดจากผนงั อีกฝังของ พืนผวิ ปนู ไมไ่ ด้ฉาบปนู หรือผนงั ฝังตรงข้ามมนี ํารัวซมึ

6. ปัญหาฟิ ล์มสเี ป็นฝ่นุ ชอล์ก สาเหตเุ กิดจาก : 1. ฟิล์มสีเดมิ เสือมสภาพตามการเวลาหรือกาวที ผสมอยใู่ นเนือสีเสอื มสภาพ 2. สเี ดมิ ทีทามีคณุ ภาพตํา ไมท่ นตอ่ แสงแดด UV 3. สที ีใช้อาจมีการปลอมแปลงหรือเตมิ แปง้ เพือเพิม เนือ และประหยดั คา่ ใช้จา่ ย 4. อาจเกิดจากสภาพอากาศทีรุนแรงมาก เชน่ แดด จดั หรือสภาพความชืนสงู ตลอดเวลา

7. ปัญหารอยแตกร้าว แตกร้ าวขนาดเล็ก แตกร้าวขนาดไมเ่ กิน 5 mm. แตกร้ าวขนาดใหญ่โครงสร้ าง สาเหตุเกิดจาก : 1. เกิดจากผนงั ปนู หรืออาคารมีการเคลอื นตวั ตามแรงสนั สะเทือนจากสภาพแวดล้อม 2. เกิดจากโครงสร้างอาคารทรุดตวั ตามกาลเวลา 3. เกิดจากการฉาบผนงั ทีไมไ่ ด้คณุ ภาพ (ไมบ่ ม่ นํา) ผวิ หน้าปนู จึงแตกระแหงได้งา่ ย

7. ปัญหารอยแตกร้าว ขนั ตอนการแก้ไขปัญหา รอยแตกร้าวขนาดเลก็ ใช้ Acrylic Filler อดุ โป๊ ว 1 รอบ (แห้ง 1 ชม.) รอยแตกร้ าวขนาดใหญ่ไม่เกนิ 5 mm ใช้ 302 Acrylic Sealant อดุ โป๊ ว 2 รอบ หมายเหตุ : ถ้ารอยแตกร้าวทีมกี ารให้ตวั หรือรอยตอ่ ระหวา่ ง Precast ให้ใช้วสั ดอุ ดุ โป๊ วประเภท PU Sealant

8. ปัญหาคราบเชือราและตะไคร่นํา Captain Mold Killer Anti VAB สาเหตุเกดิ จาก : 1. ตะไคร่นําจะเกิดภายนอกตามบริเวณทีมีความชืนสะสมหรือบริเวณทางนําไหลผา่ นสมาํ เสมอ เช่นบา่ รับนํา 2. เชือราเกิดได้ทงั ภายนอกและภายในแต่พบเจอได้บอ่ ยคือภายในบริเวณทมี คี วามชืน อากาศไมถ่ า่ ยเทและเป็นมมุ อบั ไมโ่ ดนแดด หรือบริเวณฝา้ เพดานใกล้ชอ่ งเครืองปรับอากาศ

9. ปัญหาสชี ําดา่ งจากวสั ดยุ ิปซมั หรือปนู ฉาบผวิ บาง สาเหตุเกดิ จาก : เกิดจากวสั ดปุ นู ฉาบผวิ บางหรือยปิ ซมั ทีใช้ในโป๊ วเกบ็ งาน บริเวณดงั กลา่ วมีการดดู นําสีและคายความดา่ ง ออกมามากกวา่ ผนงั ทวั ไป ทําลายฟิล์มสที ีทาทบั หน้าให้ ซีดด่างขาว / ฟิล์มสีทีทานนั ด้านกว่าปกตไิ ด้ / หรือสง่ ผล ทาํ ให้บริเวณดงั กลา่ วดา่ งขาวทาไมก่ ลบทงั ทีทาทบั หลายรอบ ขันตอนการแก้ไขปัญหา หลงั จากโป๊ วเก็บงาน ควรทําการขดั ตกแต่งพืนผวิ เสร็จ เป็นทีเรียบร้อยแนะนําให้ทาสีรองพืนทบั เฉพาะบริเวณ รอยโป๊ วดงั กลา่ ว 1 เทียวก่อนทีจะทาสที บั หน้า เพือลด การดดู ซมึ และการคายด่างของวสั ดอุ ดุ โป๊ ว

10. ปัญหาสซี ีดจาง (Fading/Poor Color Retention) สาเหตเุ กดิ จาก : 1. นําสีทาภายในไปทาภายนอก (เพราะแมส่ ที าภายใน บางชนิดจะไม่ทนตอ่ แสงแดด UV) 2. ใช้สคี ณุ ภาพตํา แมส่ ไี มท่ นตอ่ แสงแดด UV ขันตอนการแก้ไขปัญหา ควรเลอื กใช้เฉดสที ีเหมาะสมกบั สภาพหน้างาน เพราะแมส่ ีบางประเภทไมแ่ นะนําให้ทาภายนอก

10. ปัญหาสีซีดจาง (Fading/Poor Color Retention)

11. ปัญหาสดี า่ ง (Alkali Discoloration) สาเหตเุ กดิ จาก : 1. เกดิ จากการรีบทาสใี นขณะทีผนงั ปนู ฉาบยงั ไมเ่ ซต็ ตวั หรือแห้งสนิทดี 30 วนั 2. เกดิ จากผนงั ปนู บางส่วนยงั มี ความชืนสะสมอย่ภู ายในเนือปนู (สภาพแวดล้อมทีทําให้ผนงั ปนู แห้งช้า) 3. ผนงั ปนู มรี อยแตกร้าวนําฝนสามารถ ซมึ เข้าได้แล้วชะเอาคราบดา่ งปนู ออกมาทาํ ลายฟิลม์ สใี ห้ซีดดา่ งขาวได้ เชน่ กนั

11. ปัญหาสีดา่ ง (Alkali Discoloration) ขันตอนการแก้ไขปัญหา ผนงั ปนู ฉาบควรทงิ ให้ปนู แห้งเซ็ตตวั 30 วนั ความชืนไมเ่ กิน 16% กอ่ นทาสีรอง พืน หากจําเป็นต้องเร่งงานสแี นะนําให้ทารองพืนปนู อเนกประสงค์ สตู รนํามนั Captain Perfex Primer หรือ Pammastic Speed Primer แต่ต้องทิงผนงั ปนู ให้เซ็ตตวั ประมาณ 2 สปั ดาห์ ก่อนทาสีรองพืน Pammastic Speed Captain Perfex Primer Primer

12. ปัญหาผนงั เป็นรูตามด (Pin Hole) สาเหตเุ กดิ จาก : 1. ถ้าเป็นผนงั ปนู ฉาบทวั ไปอาจเกดิ จากขนาดเมด็ ทราย หยาบทีไม่ได้ร่อน เมือนํามาผสมแล้วฉาบจะมโี อกาสเกิดรู ตามดได้บางบริเวณ 2. ถ้าเป็นผนงั skim อาจเกิดจากการฉาบหนาในรอบ เดียว ทําให้เกิดการดนั ฟองอากาศทีมอี ย่ภู ายในเนือปนู ส กิมออกมา (การคลายความร้อนของปนู ฉาบบาง)

12. ปัญหาผนงั เป็นรูตามด (Pin Hole) ขันตอนการแก้ไขปัญหา ผนงั ทีพบปัญหารูตามด แนะนําให้ฉาบตกแต่งพืนผิวด้วย 102 Skim Quik สามารถเปิดใช้งานได้ทนั ที ด้วยเกรียง ฉาบ (อตั ราการใช้งาน 0.5-1.5 ตร.ม.ต่อ 1 กก. ต่อ หนา 1 มลิ ) และควรฉาบบางในแต่ละเทียว 102 Skim Quik

13. ปัญหาคราบสงิ สกปรกตามทางนําไหล (Dirt Pick Up) สาเหตุเกดิ จาก : 1. มกั เกิดตามสนั บา่ รับนํา เกิดจากฟิล์มสีทีทามี ความยืดหย่นุ สงู พเิ ศษทําให้อมฝ่นุ ดําหรือคราบ เขมา่ มากกวา่ ปกติ เมอื มีนําฝนชะล้างจงึ เกิด คราบเส้นสดี ําและฝังแน่นได้งา่ ย 2. อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมทรี ุนแรงเช่น อาคารใกล้บริเวณทางดว่ น ขันตอนการแก้ไขปัญหา หลกี เลียงการใช้สชี นิดฟิลม์ สยี ืดหยนุ่ สําหรับ อาคารทีมสี นั บา่ รับนําไหลค่อนข้างมาก

14. ปัญหาฟิ ล์มสกี ดั เป็นรอยยน่ สาเหตเุ กดิ จาก : (ส่วนมากจะเกดิ กับสนี ํามัน) 1. เกิดจากทนิ เนอร์ตวั ทาํ ละลายของสที บั หน้าเทียว สดุ ท้ายมีความแรงมากกวา่ ฟิ ลมส์ เี ดมิ ทีอยชู่ นั ล่าง 2. หรือเกิดจากสีชนั ลา่ งยงั ไมแ่ ห้งสนิทดี แล้วทาสที บั ไปอีก จงึ เกิดการดงึ ตวั ทาํ ให้ฟิ ลม์ สพี องย่น ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1. ควรเลอื กใช้ผลิตภณั ฑ์รองพืนและทบั หน้าทีมีความ แรงของทนิ เนอร์เทา่ กนั 2. ควรทาสใี นแต่ละเทียวไม่ให้หนาจนเกินไป และควร ให้ฟิล์มสีแห้งสนิทแตล่ ะเทียว 3. ถ้าบริเวณทีพบปัญหาควรขดั ออกให้เรียบด้วกระ ดาษทรายหยาบ แล้วทาตามข้อ 1-2

15. ปัญหาฟิ ลม์ สแี ตกเป็นลายแบบหนงั จระเข้ (Alligatoring) สาเหตุเกดิ จาก : (ส่วนมากจะเกิดกับสีนาํ มัน) 1. ทาสีหนาจนเกินไปในเทียวเดียว 2. ทาสีทบั บริเวณวสั ดอุ ดุ โป๊ วทียงั ไม่แห้งสนทิ ดี จงึ เกดิ การดงึ ฟิล์ม สีทบั หน้า 3. ทาสีทบั หน้าในขณะทีสีชนั แรกยงั แห้งไมส่ นิทดี (อากาศร้อนจะ เร่งให้สีผวิ ด้านบนแห้งเร็วกวา่ ผวิ ลา่ ง ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1. ควรเลือกใช้ผลติ ภณั ฑ์รองพนื และทบั หน้าทีมคี วามแรงของทนิ เนอร์เท่ากนั 2. ควรทาสีในแต่ละเทียวไมใ่ ห้หนาจนเกินไป และควรให้ฟิ ล์มสีแห้งสนิทแต่ละเทียว 3. บริเวณทีพบปัญหาควรขดั ออกด้วกระดาษทรายหยาบ แล้วทาตามข้อ 1-2 4. ถ้าเป็นผนงั ปนู อาจจะต้องทําการฉาบผิวบางเพอื ให้พืนผวิ เรียบเนยี นก่อนทาสี

16. ปัญหาคราบดาํ บริเวณรอยโป๊ ว PU Sealant สาเหตเุ กดิ จาก : วสั ดอุ ดุ โป๊ ว PU Sealant โดยทวั ไปจะขบั คราบ นํามนั ออกถึงชนั ฟิ ล์มสที บั หน้า จงึ ทําให้ฝ่นุ ผง หรือเขมา่ ดาํ สามารถยดึ เกาะเป็นคราบดําได้งา่ ย (เชด็ ออกได้ยาก) ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1. ควรเลอื กใช้วสั ดอุ ดุ โป๊ ว PU Sealant ทีมคี ณุ ภาพสงู ที ไมข่ บั คราบนํามนั 2. ให้ PU Sealant เซต็ ตวั เป็นอย่างน้อย 7 วนั กอ่ น ดําเนนิ การทาสี (รอให้ PU ขบั คราบออกมา) 3. ถ้าบริเวณทีพบปัญหาควรทาบล็อกคราบดงั กล่าวด้วยสี รองพนื อีพอ็ กซี ExyGuard Sealer Clear จํานวน 1 เทียว ก่อนทีจะทาสีทบั หน้าตามระบบ

17.ปัญหาฟิ ลม์ สที าฝา้ หลดุ ลอกลอ่ นเป็นแผน่ สาเหตเุ กดิ จาก : 1. ฝ่ นุ ผงยปิ ซมั หลงั จากการขดั โดยจดุ ทีมี ความเสียงหลดุ ลอกงา่ ยคือขอบรอยฉาบ (สงั เกตจากฟิล์มสีจะบวมหลงั จากทาสีจริง เทียวแรกเพราะความชืนของสีจริงจะเข้าไป ดงึ สีรองพนื ให้บวมฝ่ นุ และไมเ่ กาะกบั พืน กระดาษ 2. ใช้สีรองพืนปนู ใหม่ จะมีโอกาสเกิดฟิล์ม สีทาฝา้ หลดุ ลอกได้ โดยขนึ อยกู่ บั ปริมาณ ฝ่ นุ ยปิ ซมั หลงั จากการขดั 3. ความชืนของแผน่ ฝา้ ยปิ ซมั ทีติดตงั (หาก บริเวณดงั กลา่ วมีนํารัวซมึ จากด้านบน)

17.ปัญหาฟิ ลม์ สีทาฝา้ หลดุ ลอกลอ่ นเป็นแผ่น หลงั จากฉาบแต่งพนื ผวิ เสร็จเป็นทีเรียบร้อยดีแล้ว แนะนําให้ทาสรี อง พนื ปนู อเนกประสงค์ Captain Perfex Primer หรือนํายารองพืนปนู เก่า สตู รนํามนั ทาจํานวน 1 เทียว ทาตามบริเวณแนวรอยโป๊ วยิปซมั หรือทาทงั แผงฝา้ ยปิ ซมั เพอื บล็อกฝ่ นุ ผงยิปซมั จากการขดั และช่วย เรืองการยดึ เกาะของสีทบั หน้า **ระวังหากนําสที าผนัง ภายในด้านมาทาฝ้าเพดาน จะเพมิ โอกาสให้ฟ้อง รอยต่อฝ้าหรือฟ้องรอยเกบ็ งานได้ดังรูป

18.ปัญหาคราบขีเกลือ (Efflorescence) สาเหตุเกดิ จาก : เกิดจากนําฝนซมึ เข้าไปตามรอยแตกร้าวของผนงั ปนู ละลายเกลือทีอย่ใู นเนือปนู ออกมา เมือนําระเหยตวั ออกไปจงึ เกิดคราบเกลือเป็น ผลกึ เลก็ ๆ สีขาว ตดิ ผนงั ตามแนวรอยแตกของปนู หรืออาจเกิดจากนํารัวซมึ จากผนงั ห้องนําหรือพืนทีซกั ล้างหรือท่อรัวซมึ ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1. ซอ่ มแซมบริเวณทีพบรอยแตกร้าวและซอ่ มแซมจดุ ทีมีนํารัวซมึ จากภายในอาคารก่อน 2. แนะนําให้ทาสีรองพนื ปนู อเนกประสงค์ Captain Perfex Primer หรือ Pammastic Speed Primer 3. ทาสีทบั หน้าด้วยสีนําอะคริลิกคณุ ภาพสงู เช่น ParaShield Coolmax จํานวน 2 เทียว

19. ปัญหาคราบนําตาล (Brown Stain) สาเหตุเกดิ จาก : 1. ความชืนชายล่างหรือบริเวณจดุ ทีมกี ารรัวซมึ ของนําทําปฏกิ ริ ิยา กบั ทรายไมส่ ะอาดทีผสมอยใู่ นปนู ละลายเอาคราบนําตาลซมึ ออกมาบนฟิล์มสี (ขนึ ตามแนวความชืนดนั ตวั ) 2. อาจเกิดจากสนิมเหลก็ จากภายในปนู ทีมคี วามชืนหรือบริเวณนนั มีนํารัวซมึ ละลายเอาคราบนําสนิมซมึ ออกมาบนฟิล์มสีได้เช่นกนั ขันตอนการแก้ไขปัญหา 1. ซอ่ มแซมบริเวณทีพบรอยแตกร้าวและซ่อมแซมจดุ ทีมีนํารัวซมึ จาก ภายในอาคารก่อน 2. แนะนําให้ทาสีรองพนื ปนู อเนกประสงค์ Captain Perfex Primer หรือ Speed Primer จํานวน 2 เทียวเพอื บลอ็ กคราบนําตาลดงั กล่าว ก่อนทาสีทบั หน้าตาม ระบบ

20. ปัญหาสีนํามนั ดําด้าน แต่ลกู ค้านําไปทาแล้วไมด่ ้าน สาเหตเุ กิดจาก : ลกู ค้าเปิดใช้งานทนั ทีโดยทีไมไ่ ด้คนนําสีให้เข้ากนั ดกี อ่ นใช้งาน เพราะเรซินนํามนั ใสเหลอื งนนั จะลอยหน้า สว่ นผสม เคมีทีทาํ ให้ฟิ ลม์ สดี ้านนนั นอนอยกู่ ้นกระป๋ อง ขันตอนการแก้ไขปัญหา แนะนําวา่ กอ่ นขายให้ลกู ค้าควรทําการคนเนือสใี ห้เข้ากนั ดี 2 นาทีหรือนําไปเขยา่ เครืองประมาณ 5 นาที

21. ปัญหาสนี ํามนั สีขาว เหลอื งตวั ในทีไม่มีแสงแดด สาเหตเุ กดิ จาก : ธรรมชาติของเนือเรซนิ ทีแปรเปลียนสภาพเฉดสใี นทีไมม่ ีแสงแดด ให้เหลืองตวั ได้เร็วกว่าสนี ํามนั ทีทาภายนอก ขันตอนการแก้ไขปัญหา แนะนําในสภาวะทีไมม่ แี สงแดดสอ่ งถึง ใช้เป็นผลติ ภณั ฑ์สนี ําอะคริลกิ สขี าวแทน หรือเปลยี นเฉดสคี รีมหรือเทาชว่ ย

22. ปัญหาสีบดู เนา่ เสียเหมน็ แขง็ ตวั เป็นก้อน สาเหตุเกิดจาก : 1.เกิดจากสีทีผา่ นการผสมนําแล้วใช้งานไมห่ มด หรือนําสีทีใช้ไมห่ มดแล้วมาเทรวมกนั จึงทําให้เกิดสภาะแวดล้อมที เหมาะสมให้เกิดจลุ นิ ทรีย์และแบคทีเรีย ภายในเนือสี+นํา (ซงึ เป็นอาหารอยา่ งดี ถึงแม้วา่ ปิดฝา) 2. สที ีมีเนือแปง้ มากหรือสีเกรดกลาง-ล่าง ถ้าผ่านการผสมนําแล้วจะมีโอกาสเกิดสบี ดู เน่าเสียได้เร็ว ขันตอนการแก้ไขปัญหา ควรแบ่งใช้สี ระหวา่ งสที ีผสมนําและสีทียงั ไมผ่ สมนํา และไมค่ วรนํามาผสมรวมกนั หากใช้ไม่หมด

23. ปัญหาสีรองพืนกนั สนิมแยกชนั เป็นก้อนแข็ง (ใช้วิธีการจ่มุ ส)ี สาเหตุเกิดจาก : เกิดจากการใช้ทนิ เนอร์ทีมีความแรงสงู เชน่ ทินเนอร์ 3A นํามาผสมสีรองพืนกนั สนมิ ในปริมาณที มากกว่ากําหนด 10% จงึ ทําให้เกิดการแยกชนั ระหว่างเนือเรซนิ กบั ผงแมส่ อี อกไซด์ได้งา่ ย เกิดเป็น ตะกอนดินได้เร็ว และเมอื นําไปใช้งานจะไมเ่ กิดการ ยดึ เกาะ สามารถขดู ลอกออกโดยง่าย ขันตอนการแก้ไขปัญหา แนะนําให้ใช้นํามนั สนหรือทินเนอร์ทีผสมสีรองพืนตามที บริษัทกําหนดดีทีสดุ และควรใช้ผสมในปริมาณที พอเหมาะตามมาตฐานทีระบไุ ว้ข้างถงั

จบการนําเสนอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook