รายงานวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอน

รายงานการวิจยั ในช้นั เรียน เร่อื ง การศึกษาความพงึ พอใจในการจดั การเรยี นการสอนของผสู้ อน โครงการผลติ ครเู พอื่ พฒั นาทอ้ งถิ่น วทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งธนบรุ ี นายพงศพ์ ิพฒั น์ คาหอม ตาแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย รายงานวิจยั ในชั้นเรียนนเี้ ปน็ ส่วนหน่ึง ในปกี ารศึกษา 2560วิทยาลยั สารพัดชา่ งธนบรุ ี สังกดั สานกั งานคณะกรรมการอาชวี ศึกษา

กหัวข้อวิจัย การศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครเู พอื่ พัฒนาท้องถน่ิ วิทยาลยั สารพดั ชา่ งธนบรุ ีผ้เู ขยี น นายพงศ์พพิ ฒั น์ คาหอมตาแหน่ง ครผู ูช้ ่วยประเภทวชิ า ชา่ งอตุ สาหกรรมแผนกวชิ า ชา่ งยนต์ปีการศกึ ษา 2560 บทคดั ย่องานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครเู พ่ือพัฒนาท้องถ่ิน วทิ ยาลัยสารพดั ช่างธนบุรี ของนกั ศึกษาวิชาชา่ งซอ่ มเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน รุ่นที่ 4 ปีการศึกษา 2560 ด้วยการทาแบบสอบถามความพึงพอใจในการพิจารณา 5 ด้าน ของการจัดการเรยี นการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถน่ิ ได้แก่ ดา้ นความรบั ผิดชอบ ดา้ นเทคนิคการสอน ด้านความเป็นครู ด้านการส่งเสริมผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้านสนับสนุนการเรียนรู้ ด้วยการหลังจากได้รับข้อมูลการตอบแบบสอบถามความพึงพอใจ ได้นามาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ แล้วนาข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยสถิติความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Anova) และเปรียบเทียบรายคู่ด้วยวิธีการทางเชฟเฟ่ (Schaeffer) ผลการวิจัยพบว่าความพึงพอใจโดยผลเฉล่ียภาพรวมความพึงพอใจที่มีต่อผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.68 ซ่ึงผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก จากข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่างให้มีการปรับปรงุพฤติกรรม ทักษะทางดา้ นปฏบิ ตั ิ เพื่อสร้างความชานาญงานใหม้ ากขน้ึ สว่ นการศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจ ในตัวแปรอิสระช่วงอายุที่ต่างกันมีความพึงพอใจแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05คำสำคัญ : ครูเพื่อพฒั นาทอ้ งถ่ิน/ ความพงึ พอใจของกลุ่มตวั อยา่ ง / การเปรยี บเทยี บความพึงพอใจ

ข กิตติกรรมประกาศการวิจยั เรือ่ ง การศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพือ่ พัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี สามารถสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีจนสมบูรณ์เป็นเล่มรายงาน ก็ด้วยความอนเุ คราะหแ์ ละความช่วยเหลอื ในดา้ นตา่ ง ๆ จากบุคคลทา่ นตา่ ง ๆ ดังน้ีขอขอบคณุ อาจารย์สธุ า กรอบพดุ ซา ซึ่งเป็นอาจารย์ท่ีปรกึ ษาและคอยใหค้ าแนะนาในการดาเนนิ งานในการวิจยั ครง้ั นี้ขอขอบคุณ อาจารย์สุธา กรอบพุดซา, อาจารย์ปฐวี เหลี่ยมจุ้ย และอาจารย์วัฒนพงศ์ เชาว์โน ที่ได้ให้ความอนเุ คราะหใ์ ห้คาปรึกษาช้แี นะในการสร้างแบบสอบถาม และวเิ คราะหแ์ บบสอบถามความพงึ พอใจในดา้ นต่าง ๆขอขอบคุณวิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรีท่ีได้อนุเคราะห์ในการนาแบบสอบถาม ใช้เพื่อหาตัวแปรที่ศึกษาและระดับคณุ ภาพความพงึ พอใจของผเู้ รียนขอขอบคุณบิดา มารดา ท่ีคอยให้คาปรึกษาพร้อมทั้งช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายและคอยเป็นกาลังใจตลอดเวลาจนรายงานวิจัยสาเร็จลุลว่ งไปดว้ ยดี ขอขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งนอกจากน้ยี ังตอ้ งขอขอบพระคุณทุกท่านทีป่ ระสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้ตง้ั แตเ่ กิด จนถงึ ปัจจบุ ัน รวมทั้งนักเรียน นกั ศึกษาทกุ ทา่ นทม่ี สี ว่ นชว่ ยให้งานวิจยั สาเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยดี

ค สารบัญบทคัดยอ่ หนา้กิตตกิ รรมประกาศ กสารบัญรายการตาราง ข ค จบทท่ี 11. บทนา 1 1 1.1 ท่มี าและความสาคัญของปญั หา 1 1.2 วตั ถุประสงคข์ องการวิจัย 2 1.3 สมมติฐานของการวิจัย 2 1.4 ประโยชนท์ ีค่ าดวา่ จะไดร้ ับ 2 1.5 ขอบเขตของการวิจยั 1.6 นยิ ามศัพท์เฉพาะ2. เอกสารงานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 3 2.1 แนวคดิ เกีย่ วกบั ความหมายของความพงึ พอใจ 3 2.2 แนวคิดเกีย่ วกบั ทฤษฎที ่ีเก่ยี วข้องกับความพงึ พอใจ 3 2.3 แนวความคดิ ข้ันตอนการสรา้ งเครอ่ื งมอื วดั และแบบประเมินความพึงพอใจ 4 2.4 งานวจิ ยั ที่เกย่ี วขอ้ ง 5 2.5 กรอบแนวคิดงานวจิ ัย 73. วธิ ีการดาเนนิ การวจิ ยั 8 3.1 กลมุ่ เป้าหมาย 8 3.2 เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ยั 8 3.3 วธิ กี ารสร้างและหาคุณภาพเครื่องมอื 8 3.4 วธิ กี ารนานวัตกรรมลงสู่การปฏบิ ัติ 9 3.5 สถิติท่ีใช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล 9 3.6 เกณฑก์ ารประเมินความสาเร็จของนวัตกรรม 104. ผลการศกึ ษาและวเิ คราะห์ข้อมลู 114.1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ทั่วไปของผูต้ อบแบบสอบถามความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนของผสู้ อน โครงการผลิตครเู พอ่ื พฒั นาทอ้ งถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรขี อง 11กลุ่มตวั อยา่ ง

งสารบัญ (ต่อ) 4.2 ผลการศึกษาความพงึ พอใจในการจดั การเรียนการสอนของผสู้ อนโครงการผลิตครู หน้า เพ่อื พฒั นาท้องถ่นิ วิทยาลยั สารพัดชา่ งธนบุรี ของกลุ่มตัวอยา่ ง 12 4.3 ผลการศึกษาเปรียบเทียบความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนของผสู้ อน 13 โครงการผลติ ครูเพ่ือพฒั นาท้องถน่ิ วทิ ยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง 165. สรปุ อภิปราย และข้อเสนอแนะ 16 5.1 สรุปผลการวจิ ัย 16 5.2 อภปิ รายผลการวิจยั 17 5.3 บทเรียนทไ่ี ด้เรียนรู้ 17 5.4 ขอ้ เสนอแนะ 18เอกสารอา้ งอิง 20ภาคผนวก 20 ก. แบบสอบถามความพึงพอใจ 22 ข. แสดงผลการหาค่าดัชนีความสอดคลอ้ ง (IOC) ของแบบสอบถาม 24 ค. รายนามผู้เช่ียวชาญ 26ประวัติผวู้ จิ ัย

จ รายการตารางตาราง หนา้4.1 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลทว่ั ไปของผูต้ อบแบบสอบถามความพึงพอใจในการจดั การเรยี น 11 การสอนของผ้สู อน โครงการผลติ ครูเพอื่ พฒั นาทอ้ งถ่นิ วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบรุ ี4.2 แสดงผลการศกึ ษาความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนของผสู้ อน โครงการผลิตครูเพ่อื 12 พฒั นาท้องถิน่ วทิ ยาลัยสารพดั ชา่ งธนบุรี4.3 แสดงผลการศกึ ษาเปรยี บเทยี บความพึงพอใจในการจดั การเรยี นการสอนของผู้สอน โครงการ 14 ผลิตครูเพ่อื พฒั นาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดชา่ งธนบรุ ี จาแนกตามชว่ งอายุ4.4 แสดงรายละเอียดผลการศึกษาเปรียบเทยี บความพงึ พอใจในการจดั การเรียนการสอนของ 14 ผสู้ อนโครงการผลิตครูเพื่อพฒั นาท้องถิน่ วิทยาลยั สารพัดช่างธนบรุ ี จาแนกตามช่วงอายุ4.5 แสดงผลการทดสอบความแตกต่างค่าเฉลยี่ ความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอน ของผู้ สอนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น วทิ ยาลัยสารพัดช่างธนบรุ ี จาแนกตามช่วงอายุ มรี าย 15 ด้านแตกต่างกันในรายคู่ จึงทาการทดสอบความแตกตา่ งของค่าเฉลย่ี รายคู่ตามวิธีการ Sharfferข.1 แสดงผลการหาคา่ ดัชนีความสอดคล้อง IOC ของแบบสอบถามความพึงพอใจในการจดั การ 23 เรียนการสอน ของผสู้ อนโครงการผลติ ครเู พ่อื พัฒนาทอ้ งถ่นิ วทิ ยาลัยสารพัดช่างธนบุรี

บทที่ 1 บทนำ1.1. ที่มำและควำมสำคัญของปญั หำการศกึ ษาเปรยี บเสมือนเครอ่ื งมือในการเปลีย่ นแปลงคนทัง้ ด้านพฤติกรรมและจิตใจ เพราะการศึกษา มีขัน้ ตอนและกระบวนการทจี่ ะช่วยใหบ้ คุ คลไดร้ บั ความรู้ ความเข้าใจ เพ่ือพฒั นาศกั ยภาพของตนเอง และพัฒนาทักษะความสามารถในด้านต่าง ๆ ท่ีจะนาไปใช้ในการดารงชีวิตและปรับเปลี่ยนไปตามสภาพการศึกษาด้านอาชีพจึงมีความสาคัญ เนื่องจากเป็นการส่งเสริมและฝึกฝนให้คนออกไปประกอบอาชพีตามความถนัดของแต่ละคน การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องอาศัยปัจจัยท่ีสาคัญ คือ ครู อาจารย์และบุคคลากรทางการศึกษา ท่ีมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการจัดการเรยี นการสอน และกระบวนการปฏริ ูปการศกึ ษาด้วยผู้วิจัยได้รับผิดชอบสอนในหลักสูตรวิชาชีพระยะส้ัน และเป็นนักศึกษาโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิน่ ได้มีการจัดการเรียนการสอนกับช่วงอายุท่ีมวี ัยแตกต่างกนั สง่ ผลต่อการทาความเข้าใจและการพิจารณาในด้านความเหมาะสมต่าง ๆ ท่ีมีความหลากหลายทั้งความรู้ และลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ปัญหาที่เกิดขึ้นในการเรยี นการสอนที่มีความแตกต่างกันของช่วงวัยในการหาความรู้จะมีความแตกตา่ งกันออกไป ทาใหก้ ารเรยี นรไู้ มเ่ ป็นไปตามรปู แบบการเรยี นรู้ที่คาดหวังจากการสือ่ สาร เพือ่ ส่งต่อในการเรยี นการสอนจากท่ีมาและ คว าม สา คัญ ใน ก าร เรียน รู้ ทาง ผู้วิ จัยไ ด้ ตร ะ หนัก ถึง คว าม ส าคัญ ใน ก าร ปรั บปรุ ง แ ล ะพฒั นาการเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกับความตอ้ งการของผเู้ รยี นอย่างแทจ้ รงิ ทาใหเ้ หน็ ว่าในการเรยี นรู้การเรยี นการสอน เพือ่ พจิ ารณาประเมนิ การเรียนรู้ การจัดการเรยี นการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่นจะแสดงให้เห็นความสาคัญในการเรยี นรู้ได้เช่นเดียวกนั ทางผู้วิจัยเลยทาการคิดและหาขอ้ มูลเกยี่ วกับการสร้างแบบประเมิน เพอ่ื สรา้ งและหาแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาทเ่ี กิดข้ึน ใช้ในการจัดการเรยี นการสอนทมี่ ีความแตกต่างของช่วงวัย ให้ไดพ้ ฒั นาและไดร้ ับการแกไ้ ขได้ดียง่ิ ขน้ึ ไป1.2 วตั ถุประสงคข์ องกำรวจิ ัย1.2.1 เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนในการจัดการเรียนการสอน ของผู้สอนโครงการผลิตครูเพื่อพฒั นาท้องถนิ่ วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี1.2.2 เพ่ือเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้เรียนในการจัดการเรยี นการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพฒั นาท้องถ่ิน วทิ ยาลยั สารพดั ช่างธนบรุ ี1.3 สมมติฐำนของกำรวิจัย1.3.1 ความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างท่ีมีต่อการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพฒั นาท้องถิ่น วิทยาลยั สารพดั ช่างธนบรุ ี อยู่ในเกณฑ์ พึงพอใจมากขนึ้ ไป1.3.2 ผู้เรียนท่ีมีช่วงอายุต่างกัน มีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่อื พัฒนาท้องถ่นิ วทิ ยาลัยสารพดั ชา่ งธนบรุ ี โดยรวมและรายด้านแตกต่างกัน

21.4 ประโยชนท์ ี่คำดวำ่ จะได้รบั1.4.1 ทราบระดับความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน เพ่ือทราบระดับความพงึ พอใจ และสามารถนาขอ้ มูลที่ได้ไปใชป้ รับปรงุ แก้ไข ในการเตรยี มความพรอ้ มอยา่ งเข้มสาหรับผสู้ อนโครงการผลติ ครเู พ่ือพัฒนาท้องถ่ิน1.4.2 ทราบผลตา่ งของระดบั ความพงึ พอใจผ้เู รยี นในแต่ละชว่ งวยั เพือ่ นาไปปรบั ใช้ และพฒั นาศกั ยภาพความรู้ ความสามารถ ในการเพิ่มระดบั ความพึงพอใจของแต่ละดา้ น ของกล่มุ ตัวอย่างให้เท่ากนั1.5 ขอบเขตของกำรวจิ ยั1.5.1 ตัวแปรที่จะศกึ ษา1) ตวั แปรอิสระ ช่วงอายนุ กั ศกึ ษา2) ตัวแปรตาม ความพึงพอใจของผู้เรียนในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือ พฒั นาท้องถ่ิน วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบุรี1.5.2 ประชากร คือ นักศึกษาหลักสูตรระยะส้ัน วิชาช่างซ่อมเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีน แผนกวิชาช่างยนต์วทิ ยาลยั สารพดั ช่างธนบุรี ร่นุ ที่ 4 ปกี ารศกึ ษา 25601.5.3 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาหลักสูตรระยะสั้น วิชาช่างซ่อมเครื่องยนต์แก๊สโซลีน แผนกวิชาช่างยนต์ วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบรุ ี รุ่นท่ี 4 ปกี ารศกึ ษา 2560 ที่1.5.4 ช่วงเวลาในการศกึ ษาทดลอง คอื รนุ่ ที่ 4 ปีการศกึ ษา 25601.5.5 เครื่องมอื ท่ีใช้ในการศกึ ษาแบบสอบถามความพึงพอใจท่มี ตี ่อการจดั การเรยี นการสอนของผสู้ อนโครงการผลติ ครูเพอื่ พัฒนาทอ้ งถิ่นวิทยาลยั สารพดั ชา่ งธนบรุ ี1.6 นิยำมศพั ทเ์ ฉพำะ1.6.1 ความพึงพอใจ หมายถึง ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อบุคคลหรือส่ิงใดสิ่งหนึ่ง ซ่ึงความพึงพอใจจะเกิดขึ้นเม่ือ ได้รับการตอบสนองความต้องหรือบรรลุตามเป้าหมายของบุคคลน้ัน ๆ สามารถสังเกตความพึงพอใจได้จากพฤติกรรมที่แสดงออกของแต่ละบุคคล อันได้แก่ สายตา คาพูดและท่าทางที่บุคคลแสดงออกมา

บทที่ 2 เอกสารงานวจิ ยั ท่ีเกยี่ วข้องจากการจัดทารายงานวิจัยในช้ันเรียน เรื่อง การศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ต้องอาศัยแนวคิดโดยมีความสัมพันธท์ เ่ี ก่ียวเนื่องกับงานวิจยั เพอื่ สรา้ งองค์ความรู้ในการจดั ทารายงานวิจยั ได้ โดยในการสืบค้นคร้ังนน้ี าเสนอหัวขอ้ ดงั นต้ี ่อไปนี้แนวคดิ และทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้องกับงานวิจัย2.1 แนวคดิ เกย่ี วกับความหมายของความพงึ พอใจ2.2 แนวคิดทฤษฏีที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความพงึ พอใจ2.3 แนวความคิดข้ันตอนการสร้างเครอ่ื งมอื วดั และแบบประเมินความพึงพอใจ2.4 งานวจิ ัยทเ่ี กีย่ วขอ้ ง2.5 กรอบแนวคิดงานวิจยั2.1 แนวคิดเกยี่ วกับความหมายของความพงึ พอใจในการให้ความหมายของ ความพงึ พอใจ (Satisfaction) ระดับความรูส้ กึ ในทางบวกของบุคคลต่อสิง่ หน่ึงสิ่งใด ซึ่งอาจมีการแปลความหมายได้หลายแบบ ซึ่งนักวิชาการและนักจิตวิทยา ได้ให้ความหมายของความพงึ พอใจไว้ ดังนี้เตอื นใจ เกษณียบุตร (2546) กล่าววา่ ความพึงพอใจ หมายถงึ ความรู้สกึ ชอบหรือยินดีเต็มใจหรือมีเจตคตทิ ่ีดขี องบุคคลต่อสิง่ ใดสง่ิ หนึ่ง ความพอใจจะเกิดขึ้นเมื่อได้รับการตอบสนองความต้องการท้งั ทางวัตถุและดา้ นจติ ใจMullin (1985) กล่าวว่าความพึงพอใจเป็นทัศนคติของบุคคลท่ีมีต่อสิ่งต่าง ๆ หลาย ๆ ด้านเป็นสภาพภายในทมี่ ีความสัมพนั ธ์กับความรู้สึกของบุคคลที่ประสบความสาเรจ็ ในงานทั้งด้านปรมิ าณและคุณภาพเกิดจากการท่ีมนุษย์มีแรงผลักดันบางประการในตนเอง และพยายามจะบรรลุเป้าหมายบางอย่างเพื่อที่จะสนองตอบความต้องการ หรือความคาดหวังที่มีอยู่และเม่ือบรรลุเปา้ หมายน้นั แล้วจะเกิดความพึงพอใจ เปน็ ผลสะทอ้ นกลบั ไปยังจดุ เรมิ่ ต้น เปน็ กระบวนการหมุนเวียนต่อไปอกีHornby (2000) ความพึงพอใจ หมายถึง ความร้สู ึกท่ดี ีเมอ่ื ประสบความสาเร็จ หรือไดร้ ับสิ่งที่ต้องการให้เกดิ ขึ้นเป็นรู้สกึ ที่พอใจจากความหมายความพึงพอใจท่ีกล่าวไว้ข้างตน้ สามารถสรปุ ได้ว่าความพงึ พอใจ หมายถึง ความรูส้ ึกท่ีดีท่ีมีต่อบุคคลหรือส่ิงใดส่ิงหนึ่ง ซ่ึงความพึงพอใจจะเกดิ ข้ึนเมือ่ ได้รับการตอบสนองความต้องหรือบรรลุตามเป้าหมายของบุคคลนั้น ๆ สามารถสังเกตความพึงพอใจได้จากพฤติกรรมที่แสดงออกของแต่ละบคุ คล อันได้แก่ สายตา คาพูดและท่าทางทบี่ คุ คลแสดงออกมา2.2 แนวคดิ ทฤษฏที เี่ กี่ยวกบั ความพงึ พอใจแนวคิดและทฤษฏีที่เก่ียวข้องกับความพึงพอใจมีผลต่อการพัฒนาแบบสอบถาม เพื่อสร้างให้มีแนวโน้มคาถามใหเ้ หมาะสมกับสง่ิ ท่จี ะประเมิน ในงานวิจยั ในครัง้ น้ีได้นาแนวคิดมาประยุกต์ใช้ดังนี้

4Maslow (1970) ซง่ึ กล่าวถึง ความตอ้ งการพื้นฐานของมนษุ ย์ (Human basic needs) แบง่ ออกเป็น 5ขั้น ได้แก่ ความต้องการท่ีเป็นความจาเป็นต่อการอยู่รอด ความต้องการทางกาย เป็นความต้องการข้ันพ้ืนฐานท่ีเป็นความจาเป็นต่อการอยู่รอดของชีวิตมนุษย์ ขั้นท่ีสองความต้องการความมั่นคงปลอดภัยต่อมาขั้นท่ีสามความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ ขั้นท่ีส่ีต่อมาเป็นความต้องการการยอมรบันบั ถอื และขนั้ สดุ ทา้ ยขั้นท่ีห้า ความตอ้ งการท่จี ะบรรลถุ ึงความสาเรจ็ สมหวงั ในความต้องการท่ีอยากจะสาเร็จตามความนึกคิดหรือความคาดหวังทะเยอทะยานใฝ่ฝันภายหลังจากที่มนษุ ย์ได้รับการตอบสนองความต้องการทั้ง 4 ข้ันอย่างครบถ้วนแล้ว ความต้องการในข้ันน้ีจะเกิดข้ึนและมักเป็นความต้องการที่เป็นอสิ ระเฉพาะแต่ละคน ซงึ่ ตา่ งมีความนกึ คดิ ใฝฝ่ ันทอ่ี ยากได้รบั ผลสาเรจ็ ในสงิ่ สูงสดุ ในทศั นะของตนMurray (1967) กล่าวไว้เกี่ยวกับ ความต้องการท่ีประกอบด้วยความต้องการ 4 ประการ คือความต้องการความสาเรจ็ ความตอ้ งการความสมั พันธ์ ความต้องการอิสระ และความต้องการอานาจ ซง่ึ ความตอ้ งการเหลา่ นี้อาจเกิดขึ้นพร้อมกัน โดยบางด้านสูง บางดา้ นต่ากไ็ ด้ และไมจ่ าเปน็ ตอ้ งเกดิ ขน้ึ เรียงเปน็ ลาดบัMaynard W.Shelly (1975) ได้กล่าวถึงทฤษฎีความพึงพอใจว่าเป็นความรู้สึกสองแบบของมนุษย์ คือความรูส้ กึ ทางบวกและความรู้สึกทางลบ ความรสู้ ึกทางบวกเปน็ ความรู้สึกท่เี ม่อื เกิดขนึ้ แล้วจะทาให้เกิดความสุข ความสุขนเี้ ปน็ ความรสู้ กึ ท่ีแตกตา่ งจากความรสู้ ึกทางบวกอ่ืนๆ กลา่ วคอื เปน็ ความรสู้ กึ ท่มี ีระบบย้อนกลบั สามารถทาให้เกดิ ความสขุ หรือความรู้สึกทางบวกเพิ่มข้ึนไดอ้ ีก ดังนัน้ จะเหน็ ไดว้ า่ ความสุขเป็นความร้สู ึกที่สลับซับซ้อน และความสุขน้ีจะมีผลต่อบุคคลมากกว่าความรู้ทางบวกอื่นๆ ส่งิ หนง่ึ ทจ่ี ะทาให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจของมนุษย์ ได้แก่ทรัพยากร หรือสิ่งเร้า การวิเคราะห์ระบบความพึงพอใจ คือการศึกษาว่าทรัพยากรหรือสิ่งเร้า แบบใดเป็นส่ิงท่ีต้องการที่จะทาให้เกิดความพอใจ และความสุขแก่มนษุ ย์ ความพอใจจะเกิดได้มากท่สี ดุ เม่ือมีทรพั ยากรทุกอยา่ งทเ่ี ปน็ ความต้องการครบถว้ นจากแนวคดิ ทีเก่ยี วข้องกับความพึงพอใจ คือการตอบสนองความต้องการทีน่ ามาจากความรู้สกึ ทางบวกที่ทาให้เกิดความสุข จะเกิดขึ้นได้จากส่ิงท่ีต้องการให้เกิดความพอใจของมนุษย์ ทั้งความต้องการความสาเร็จ ความต้องการอสิ ระ ความตอ้ งการอานาจ ความตอ้ งการความปลอดภยั ในความต้องการขอแตบ่ คุ คลจะตอบสนองถึงความพงึ พอใจไดเ้ มอ่ื มคี วามครบถ้วน2.3 แนวความคดิ ขัน้ ตอนการสรา้ งเครื่องมอื วัดและประเมนิ ความพึงพอใจเชิดศักดิ์ โฆวาสินทร์ (2525) ได้กล่าวถึง ข้ันตอนการสร้างเครื่องมือวัดและประเมินความพึงพอใจโดยมลี กั ษณะ ดงั ต่อไปน้ี1) รวบรวมข้อความทเ่ี ก่ียวข้องกับเร่อื งทีต่ ้องการวัด2) พิจารณาว่าต้องการวัดความพึงพอใจของใคร ที่มีต่ออะไร และให้ความหมายของความพึงพอใจและสิง่ ท่ีจะวดั น้ันให้แนน่ อน3) เมื่อตีความหมายของส่ิงที่ต้องการวัดแน่นอนแล้ว ก็สร้างข้อความในแต่ละข้อน้ัน ๆ ให้ครอบคลุมเนอื้ หาในหัวขอ้ เหล่าน้ัน ซึ่งมีลกั ษณะ ดังน้ีก. ต้องเปน็ ข้อความท่ีเขียนในแง่ความรู้สึก ความเชอ่ืข. ข้อความทบ่ี รรจใุ นสเกลจะต้องประกอบดว้ ยข้อความท่ีเปน็ บวกและลบคละกนั ไปค. ขอ้ ความในแตล่ ะข้อตอ้ งสนั้ เขา้ ใจง่าย ชดั เจน ไม่กากวม4) เมอื่ ไดข้ อ้ ความเพียงพอแล้วกบ็ รรจุลงในสเกล โดยมตี วั เลอื ก 5 ตัวเลือกดงั น้ี คือ พงึ พอใจมากท่ีสดุ พึงพอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย และพงึ พอใจน้อยท่สี ุด

55) การกาหนดน้าหนักในการตอบตัวเลือกต่าง ๆ แต่ละข้อ ซ่ึงในการกาหนดน้าหนักว่าตัวเลือกใดจะมีนา้ หนกั เท่าใดน้นั ตามแบบลิเคริ ท์ (Likert’s rating scale)6) ตรวจสอบข้อความท่ีสร้างขึ้นโดยให้ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน ให้ระบุข้อบกพร่อง การใช้ภาษา ความเข้าใจตรงกัน นามาปรับปรงุ แกไ้ ข7) ทดลองก่อนนาไปใช้จรงิ8) ปรบั ปรงุ ขอ้ ความและเลือกข้อความท่มี ีคุณภาพ9) นาแบบสอบถามไปใช้กับกลมุ่ ตัวอย่างตอ่ ไปจากการสบื ค้นงานวิจยั ขา้ งต้นขั้นตอนการสรา้ งเครื่องมือวัดและประเมนิ ความพึงพอใจของ เชิดศักดิ์ โฆวาสินธุ์ (2525) ได้มีความสอดคล้องกับ ประพาเพ็ญ สุวรรณ (2526) ทาให้ผู้วิจัยสรุปได้ว่าในขั้นตอนการสร้างเครื่องมือวัดและประเมินความพึงพอใจ มีข้ันตอนดังข้างต้นที่กล่าวมา คือเป็นการวัดความพงึพอใจแบบมาตราส่วนประมาณค่าตามแบบลิเคิร์ท (Likert’s Rating scale) โดยการแสดงความรู้สึกความพึงพอใจเปน็ 5 ระดบั2.4 งานวิจยั ที่เก่ียวข้องงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการวจิ ัย เรื่อง การศึกษาความพึงพอใจท่ีมีต่อผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพฒั นาทอ้ งถ่ิน วิทยาลยั สารพดั ชา่ งธนบุรี มผี ู้ศกึ ษาวิจัยท่เี กย่ี วข้องไว้ ซึ่งได้นามาเสนอดังน้ีชูศกั ดิ์ นายะสุนทรกลุ (2551) ได้ศกึ ษาความพงึ พอใจต่อการจัดการเรียนการสอนอาชีวศกึ ษา ระบบทวิภาคี ของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง วทิ ยาลัยเทคนิคราชบุรี พบว่า มีความพึงพอใจโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่นักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี มีระดับความพึงพอใจสูงสุด ได้แก่ ด้านการวัดผลและประเมินผล รองมาตามลาดับได้แก่ ด้านหลักสูตร ด้านวธิ กี ารสอน และด้านครูผสู้ อนเสาวณีย์ สนธเิ ณร (2546) ไดศ้ ึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพชัน้ สูง ท่ีมีต่อการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ คณะวิชาบริหารธรุ กิจ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาเอ่ยี มละออพบวา่ นกั ศกึ ษามคี วามคดิ เหน็ ต่อ ดา้ นสื่อการเรยี นการสอน อยู่ในระดบั มากทกุ ข้อ ด้านสื่อการเรยี นการสอน นกั ศกึ ษามคี วามคดิ เหน็ แตกต่างกันอย่างไม่มีนยั สาคญั ทางสถติ ิธีระวุฒิ กิตติศิวารักษ์ (2546) ได้ศึกษาความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้เรียนท่ีมีต่อการเรียนภาษาต่างประเทศสถาบันสอนภาษาต่างประเทศสมาคม YMCA เชียงใหม่โดยมีวัตถุประสงค์เพอ่ื ศึกษาเปรียบเทยี บความคาดหวัง และความพึงพอใจระหว่างกลุ่มนกั เรยี นนกั ศกึ ษาและกลมุ่ ผู้ทางาน กลุ่มท่มี ุ่งเอาประโยชน์ และกลมุ่ ทม่ี งุ่ ตอบสนองอารมณ์และจติ ใจ โดยใชค้ วามคาดหวงั ดงั ต่อไปน้ีเปน็ เกณฑใ์ นการวัดผลการวิจัย 1. ด้านเนื้อหาวิชาหลักสูตร 2. ด้านกิจกรรมการเรยี นการสอน 3. ด้านลักษณะครูผูส้ อน4. ด้านปัจจัยสนับสนุนการเรียนการสอน 5. ด้านประยุกต์ใช้มีจานวนกลุ่มตัวอย่างท้ังส้ิน 359 คน ผลวิจัย พบว่ากลุ่มนักเรียนนักศึกษา และกลุ่มผู้ทางาน กลุ่มที่มุ่งเอาประโยชน์ และกลุ่มท่ีมุ่งตอบสนองอารมณ์และจิตใจ มีความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการเรียนภาษาต่างประเทศสถาบันสอนภาษาตา่ งประเทศไมแ่ ตกต่างกันอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้เรียนที่มี

6ตอ่ การเรยี นภาษาต่างประเทศสถาบันสอนภาษาต่างประเทศสมาคม YMCA เชยี งใหมม่ ีความสัมพันธก์ ันในทางบวกอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั .015เสน่ห์ ศรีวิลัย (2545) ไดศ้ ึกษาความคิดเหน็ ของนกั ศึกษาชา่ งอุตสาหกรรมท่มี ีต่อการศกึ ษาระบบทวิภาคีหลกั สตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ ในวิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวดั ราชบุรใี น 6 ดา้ น คือด้านหลกั สูตร ดา้ นครูผู้สอน ด้านวิธีการสอน ด้านสื่อการเรียนการสอน ด้านการประเมินผลการสอน และด้านสถานประกอบการ และศึกษาความสมั พนั ธ์ของผลสมั ฤทธริ์ ะหวา่ งการเรยี นกบั ความคิดเหน็ ของนักศกึ ษาช่างอุตสาหกรรมที่มีต่อการศึกษาระบบทวิภาคี การศึกษาวิจัยพบว่านักศึกษาช่างอุตสาหกรรม มีความคิดเห็นต่อการศึกษาระบบทวิภาคีโดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านหลักสูตร ด้านครูผู้สอน ด้านวิธีการสอน ด้านการประเมินผลการสอนและด้านสถานประกอบการ มีความคิดเห็นในระดับมาก ส่วนด้านส่ือการเรียนการสอนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง และผลการศึกษาความสัมพันธ์ พบว่า โดยรวมมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 โดยมีความสมั พนั ธ์กันในระดบั ต่า และเป็นความสมั พันธก์ ันไปในทางลบ เม่อื พจิ ารณาเป็นรายดา้ น ทุกดา้ นมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผลสัมฤทธ์ิระหว่างเรียนกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 และ .05 โดยมีความสัมพนั ธก์ นั ในระดับต่า และความสมั พันธ์เป็นไปในทิศทางบวกและลบBarker, Diane S. (1988) ได้ทาการศกึ ษาแนวทางที่มีผลตอ่ องคป์ ระกอบในการบริการส่ือการสอน โดยได้ทาการศึกษาความเข้าใจของผู้สอนต่อองค์ประกอบหลายๆ อย่างท่ีจะมีผลต่อการใช้ส่ือการสอนการบริการส่อื การสอน กลุม่ ตวั อย่างท่ีใช้ศกึ ษาเปน็ อาจารย์ในระดบั อุดมศึกษา ผลการวิจัยพบว่าผู้สอนส่วนใหญ่ใช้ทรัพยากรหลายๆ อย่างในการท่ีจะดึงดูดความสนใจของนักศึกษา โดยมีการส่งเสริมและเพ่ิมประสบการณ์ในการเรยี นรูใ้ นชัน้ เรียนให้มากข้ึนทรัพยากรที่จะมาใชก้ ็ได้แก่ ส่อื การสอน ฟลิ ม์ ภาพยนตร์วีดิโอเทป และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับภาพและเสียงอืน ๆ นอกจากนี้ยังพบว่าศูนย์บริการส่ือการสอนยังคงมีบทบาทและมีความสาคัญที่สุดต่อผู้สอนในการใช้ส่ือการสอนในช้ันเรียน การพัฒนาเจ้าหนา้ ท่ีสาหรับบรหิ ารยังคงมีบทบาทสาคัญต่อตัวอาจารย์ที่จะใช้สื่อการสอน และทรัพยากรการสอนอ่นื ๆ อีกด้วยและสื่อการสอนนนั้ ควรจะได้ถูกพิจารณาคัดเลือกจากเจ้าหน้าท่ีท่ีมีความรู้ก่อนที่จะส่งมอบส่ือนนั้ ให้แก่ผู้สอนEsin, Joseph Okon (1989) ได้ทาการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนที่มีความรู้และประสบการณ์เก่ียวกับการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ เพื่อการศึกษาผลการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้สอนมีความรู้และประสบการณ์เก่ียวกับการใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ด้านการศึกษาค่อนข้างจา กัดโดยเฉพาะอย่างย่ิงหากไม่ได้รับการศึกษาด้านไมโครคอมพิวเตอร์มาก่อน อาจก่อให้เกิดความวิตกกังวลเก่ียวกับการใช้ไมโครคอมพวิ เตอร์เพอ่ื การศกึ ษาได้ สว่ นในดา้ นการเรียนการสอนนัน้ พบว่า ผูส้ อนสว่ นใหญไ่ มม่ ีความรู้ความสามารถและประสบการณก์ ารสอนอยา่ งเพยี งพอในการใช้ไมโครคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือการศึกษา ในการเรยี นการสอนวชิ าต่าง ๆKoontz R. (1992) ได้ศกึ ษาวิจยั เก่ียวกบั การประเมนิ ทัศนคติของนักศกึ ษาฝึกสอนที่มตี ่อการเลือกใช้สื่อการสอน ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษายังขาดทักษะที่ดีในการเลือก และการใช้สื่อการสอนวิชา ในการเลือกและการใชส้ ่อื การสอนเปน็ ปจั จยั สาคัญทจ่ี ะช่วยพัฒนาทศั นคติของนกั ศึกษา

7จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่กล่าวมาข้างต้น ในการศึกษาความพึงพอใจท่ีมีต่อการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น จะส่งเสริมต่อการพัฒนาการทางานและการปรับปรุงปฏิบัติตนของนักศึกษาในโครงการ เพื่อให้ตอบรับสภาวะการทางานในการสอนท่ีเกิดขึน้ ในดา้ นตา่ ง ๆ ท่ไี ด้เพือ่ ท่จี ะได้สรา้ ง หรอื นาเอานวัตกรรมทางการศกึ ษามาใช้เพื่อปรบั ปรุงแก้ไขให้การเรียนการสอนในเนื้อหา ส่งเสริมให้ผู้สอนสามารถเปล่ียนแปลงพฤติกรรม ทาให้เกิดการสร้างการเรียนรู้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ท่ีกาหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การเรียนการสอนบรรลุเปา้ หมายตามหลักสูตรทก่ี าหนดไว้และกระตนุ้ ใหผ้ เู้ รียนเกดิ ความสนใจท่ีจะค้นคว้าหาความรตู้ ่อไป2.5 กรอบแนวคดิ งานวจิ ยัการวิจัยเร่อื ง ความพงึ พอใจทม่ี ีต่อการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครเู พ่ือพัฒนาท้องถ่ินวิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี โดยได้พิจารณาผลการวิจัยใน 5 ด้าน คือ ด้านความรับผิดชอบ ด้านเทคนิคการสอน ด้านความเป็นครู ด้านการส่งเสรมิ ผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้านสนับสนุนการเรียนรู้ นามาแสดงเปน็กรอบแนวคิดความสมั พนั ธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกบั ตัวแปรตามได้ดังน้ี ตวั แปรอิสระ ตวั แปรตามชว่ งอายุของนักศกึ ษา 1. ด้านความรับผิดชอบ 2. ด้านเทคนคิ การสอน 3. ด้านความเป็นครู 4. ดา้ นการส่งเสริมผู้เรียนเป็นสาคัญ 5. ดา้ นสนับสนุนการเรยี นรู้

บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ การวิจยัในการดาเนินการศึกษา เรื่อง การศึกษาความพงึ พอใจการจัดการเรยี นการสอนของผสู้ อน โครงการผลิตครเู พือ่ พัฒนาท้องถน่ิ วทิ ยาลัยสารพัดชา่ งธนบรุ ี มีรายละเอียดการดาเนนิ การดังข้อหวั ต่อไปนี้3.1 กลมุ่ เป้าหมาย3.2 เครือ่ งมือที่ใช้ในการวิจัย3.3 วิธกี ารสร้างและหาคณุ ภาพเครือ่ งมือ3.4 วิธกี ารนานวตั กรรมลงส่กู ารปฏบิ ตั ิ3.5 สถติ ิทีใ่ ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู3.6 เกณฑ์การประเมนิ ความสาเร็จของนวัตกรรม3.1 กลุม่ เป้าหมายนกั ศกึ ษาแผนกวชิ าช่างยนต์ ทเ่ี รียนในรายวชิ าช่างซ่อมเครอ่ื งยนต์แก๊สโซลีน กลมุ่ ที่ 4 ปกี ารศกึ ษา 2560จานวน 7 คน3.2 เครือ่ งมือทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยัแบบสอบถามความพึงพอใจการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่นวทิ ยาลยั สารพัดช่างธนบรุ ี ของกลมุ่ ตัวอยา่ ง3.3 วธิ ีการสร้างและหาคณุ ภาพเครื่องมือขั้นตอนการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาทอ้ งถิ่น วทิ ยาลัยสารพัดชา่ งธนบรุ ี ของกล่มุ ตวั อยา่ งก. รวบรวมขอ้ ความทเ่ี กี่ยวข้องกับเร่อื งท่ตี อ้ งการวัดข. พิจารณาว่าต้องการวัดความพงึ พอใจของใคร ที่มีต่ออะไร และให้ความหมายของความพึงพอใจและสง่ิ ทีจ่ ะวดั นัน้ ให้แน่นอนค. ตีความหมายของสิ่งท่ีต้องการวัดแน่นอนแล้ว ก็สร้างข้อความในแต่ละข้อนั้น ๆ ให้ครอบคลุมเน้ือหาในหวั ขอ้ เหลา่ น้ันง. เมื่อได้ขอ้ ความเพียงพอแลว้ ก็บรรจลุ งในสเกล โดยมีตวั เลือก 5 ตัวเลือก ดังนี้ ไดแ้ ก่ พงึ พอใจมากทสี่ ุดพงึ พอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจนอ้ ย และพึงพอใจน้อยทส่ี ุดจ. กาหนดน้าหนักในการตอบตัวเลือกต่าง ๆ แต่ละข้อ ซึ่งในการกาหนดน้าหนักว่าตัวเลือกใดจะมีน้าหนกั เทา่ ใดน้ัน ตามแบบลเิ คิร์ท (Likert’s Rating scale) 5 ระดบัฉ. ตรวจสอบข้อความที่สร้างข้ึนโดยให้ผู้เช่ียวชาญ 5 คน ให้ระบุข้อบกพร่อง การใช้ภาษา ความเข้าใจตรงกัน นามาปรบั ปรงุ แกไ้ ขช. ทดลองก่อนนาไปใช้จริงซ. ปรบั ปรุงข้อความและเลอื กข้อความที่มีคณุ ภาพฌ. นาแบบสอบถามไปใช้กับกลุ่มตวั อยา่ งตอ่ ไป

93.4 วธิ กี ารนานวตั กรรมลงสกู่ ารปฏบิ ตั ินาผลการทาแบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษา มาทาการวิเคราะห์ผลท่ีนักศึกษาได้ทาการประเมนิ ไปแล้ว มาทาการสรปุ ผลแบบสอบถาม3.5 สถติ ทิ ีใ่ ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล1) การหาคา่ ความเทีย่ งตรง ระหว่างขอ้ คาถามกับวตั ถปุ ระสงค์เชงิ พฤตกิ รรม พิชติ ฤทธ์จิ รูญ (2545) IOC = R (3.1) Nเม่อื IOC หมายถงึ ดชั นีความสอดคลอ้ งระหว่างข้อสอบกับวัตถุประสงค์ R หมายถงึ ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผูเ้ ชยี่ วชาญ N หมายถึง จานวนผู้เชีย่ วชาญ2) การคานวณคา่ มชั ฌมิ าเลขคณติ ของผลต่างของคะแนนจะคานวณได้จากสตู ร (พชิ ิต ฤทธ์จิ รูญ, 2545) x = x (3.2) Nเมอ่ื x หมายถงึ คา่ เฉล่ียของคะแนน  x หมายถึง ผลรวมของคะแนน N หมายถึง จานวนนักศกึ ษาซ่งึ เปน็ กล่มุ ตวั อย่าง3) สตู รการหาค่าเบย่ี งแบนมาตรฐาน บญุ ธรรม กจิ ปรดี าบรสิ ุทธิ์ (2543)S.D. = N x2 - ( x)2 (3.3) Nเมอ่ื S.D. หมายถงึ คา่ เบ่ียงเบนมาตรฐาน x หมายถงึ คะแนนแต่ละคน  x หมายถึง ผลรวมของคะแนน N หมายถงึ จานวนนักศกึ ษาซง่ึ เป็นกลุ่มตัวอย่าง

104) การหาความแตกต่างระหว่างค่าเฉล่ียของกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 2 กลุ่ม โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดยี ว (One-Way Analysis of Variance) (ชศู รี วงศ์รตั นะ, 2546)F = MSa (3.4) MSwเมอื่ F หมายถึง ค่าทีใ่ ช้พจิ ารณา (F-Distribution)MSa หมายถงึ ความแปรปรวน (Mean Square) ระหว่างกลุ่มMSw หมายถงึ ความแปรปรวน (Mean Square) ภายในกลุ่ม3.6 เกณฑก์ ารประเมนิ ความสาเร็จของนวัตกรรมความพึงพอใจการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี อยใู่ นเกณฑ์ พงึ พอใจมากข้ึนไป

บทที่ 4 ผลการศกึ ษาและวเิ คราะห์ข้อมลูการนาเสนอผลการวิเคราะหข์ ้อมูลการศึกษา เร่ืองการศึกษาความพงึ พอใจในการจัดการเรยี นการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพฒั นาท้องถ่ิน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลได้แสดงผลการวเิ คราะห์ ดงั ตอ่ ไปน้ี4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผ้สู อน โครงการผลิตครเู พอ่ื พฒั นาทอ้ งถนิ่ วิทยาลัยสารพดั ชา่ งธนบุรี ของกลมุ่ ตัวอยา่ ง4.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาทอ้ งถิน่ วิทยาลัยสารพัดชา่ งธนบุรี ของกลุม่ ตัวอย่าง4.3 ผลการศกึ ษาเปรยี บเทยี บความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน วิทยาลยั สารพัดชา่ งธนบุรี จาแนกตามอายุ ระดับการศกึ ษา ของกลมุ่ ตัวอยา่ ง4.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพดั ชา่ งธนบุรี ของกลุ่มตวั อย่างจากการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถ่ิน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี สามารถนามาจาแนกข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถามท้ังหมด 7 คน ไดด้ ังตารางที่ 4.1ตารางที่ 4.1 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลติ ครูเพอ่ื พฒั นาท้องถนิ่ วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบุรี ของกลมุ่ ตัวอย่าง ข้อมูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน ร้อยละ1. จาแนกตามชว่ งอายุ1.1 ชว่ งอายุ 21 ปี - 30 ปี 2 28.571.2 ช่วงอายุ 31 ปี - 50 ปี 3 42.851.3 ช่วงอายุ 50 ปี ขึน้ ไป 2 28.572. จาแนกตามระดบั การศึกษา2.1 ระดับมธั ยมศึกษา 2 28.572.2 ระดับปริญญาตรี 4 57.142.3 ระดบั ปรญิ ญาโทขึน้ ไป 1 14.28จากตารางที่ 4.1 แสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จานวนทั้งหมด 7 คน ในการแยกจาแนกตามช่วงอายุ 21-30 ปี จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 28.57 ตามช่วงอายุ 31-50 ปีจานวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 42.85 และตามช่วงอายุ 50 ปีข้ึนไป จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 28.57

12ในสว่ นของการจาแนกระดับการศึกษา ระดบั การศกึ ษามัธยมศกึ ษา จานวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 28.57ในระดับปรญิ ญาตรี จานวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 57.14 และระดับปริญญาโทขึ้นไป จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 14.284.2 ผลการศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ของกลุ่มตวั อย่างจากการนาแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถ่ิน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ให้กับกลุ่มตัวอย่าง ซ่ึงเป็นนักศึกษาหลักสูตรระยะส้ัน แผนกวชิ าช่างยนต์ วทิ ยาลยั สารพัดช่างธนบุรี ปีการศึกษา 2560 จานวน 7 คน นาผลการวเิ คราะหด์ ้านความคดิ เหน็ และความพึงพอใจของกลุม่ ตัวอย่าง มาทาการวิเคราะหส์ ามารถสรุปผลได้ดังตารางที่ 4.2ตารางที่ 4.2 แสดงผลการศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่อื พัฒนาทอ้ งถ่นิ วทิ ยาลยั สารพัดช่างธนบุรี ของกลมุ่ ตัวอย่าง หวั ขอ้ สาหรบั การพิจารณา ผลการวเิ คราะห์ข้อมลู1. ดา้ นความรับผดิ ชอบ คา่ เฉล่ยี S.D. ระดบั ความ1.1 ความตรงตอ่ เวลา พึงพอใจ1.2 การเตรยี มการสอน1.3 ความตัง้ ใจและความกระตือรือรน้ ในการสอน 3.42 0.78 ปานกลาง1.4 ความครบถ้วนในการสอนตามเนื้อหาของรายวชิ า 2.85 0.69 ปานกลาง 3.57 1.27 มาก ผลเฉลีย่ ด้านความรบั ผดิ ชอบ 3.28 1.11 ปานกลาง2. ด้านเทคนคิ การสอน 3.28 - ปานกลาง2.1 เทคนคิ และวิธีการถ่ายทอดความรู้2.2 การบูรณาการ 3.00 0.82 ปานกลาง 4.00 0.82 มาก ผลเฉลี่ยด้านเทคนิคการสอน 3.50 - ปานกลาง3. ดา้ นความเปน็ ครู3.1 คุณสมบัตขิ องผู้สอน 3.42 0.53 ปานกลาง3.2 การสอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรมที่ดีงาม 4.14 0.89 มาก3.3 การรับฟงั ความคดิ เหน็ และข้อวิจารณจ์ ากผเู้ รียน 3.85 0.89 มาก 3.80 - มาก ผลเฉล่ียด้านความเป็นครู

13 หัวขอ้ สาหรบั การพิจารณา ผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู4. ด้านการสง่ เสริมผเู้ รียนเป็นสาคญั คา่ เฉลย่ี S.D. ระดบั ความ4.1 ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถคิด วิเคราะหอ์ ยา่ งมเี หตุผล พึงพอใจ4.2 ให้ขอ้ มูล ชีแ้ นะ แหล่งค้นคว้าหาความรู้เพม่ิ เติม4.3 จดั เน้อื หาและกจิ กรรมให้สอดคลอ้ งกบั ความสนใจ 4.28 0.75 มาก4.4 ผูเ้ รียนทราบวธิ ีประเมิน และมสี ่วนร่วมในการกาหนด 4.00 0.57 มาก4.5 ใหค้ ณุ คา่ กับความคิดเหน็ และกระบวนการคดิ 3.42 0.78 ปานกลาง 3.14 0.89 ปานกลาง ผลเฉล่ยี ด้านการส่งเสรมิ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ 4.28 0.95 มาก5. ด้านสนบั สนนุ การเรยี นรู้ 3.82 - มาก5.1 ใชส้ ื่อการสอนทส่ี ง่ เสรมิ การเรียนรทู้ ่เี หมาะสม5.2 ใช้ส่ือการสอนท่ีสอดคลอ้ งกับเน้ือหาวชิ า 3.85 0.37 มาก5.3 ใช้สิง่ สนบั สนนุ การเรียนรทู้ ่หี ลากหลาย 4.14 0.89 มาก 4.00 0.82 มาก ผลเฉล่ียดา้ นการสนับสนุนการเรยี นรู้ 4.00 - มาก ผลเฉล่ียภาพรวมท่ีมตี อ่ ผูส้ อน 3.68 - มากจากตารางท่ี 4.2 แสดงการวิเคราะห์แบบสอบถามความคิดเห็นและความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพอื่ พฒั นาทอ้ งถิ่น วทิ ยาลยั สารพดั ช่างธนบรุ ี ของกลมุ่ ตวั อยา่ ง สามรถสรุปไดท้ ง้ั 5 ด้าน วา่ ด้านความรับผิดชอบของผ้สู อน มคี า่ เฉลย่ี เท่ากับ ( x = 3.28) ซง่ึ ผลการประเมินของอย่ใู นเกณฑ์ ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง ในทางส่วนดา้ นเทคนิคการสอน มีคา่ เฉลย่ี เท่ากับ ( x =3.50 ) ซึ่งผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจปานกลาง ส่วนทางด้านความเป็นครูมคี ่าเฉล่ยี เทา่ กบั ( x = 3.80 ) ซ่งึ ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก ทางสว่ นของด้านการส่งเสรมิ ผู้เรียนเป็นสาคญั มีค่าเฉลย่ี เท่ากับ ( x = 3.82 ) ซึง่ ผลการประเมนิ อยู่ในเกณฑ์ ระดบั ความพึงพอใจมาก และส่วนของทางด้านสนับสนุนการเรียนรู้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ( x = 4.00 ) ซ่ึงผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก ในการสรุปผลเฉล่ียภาพรวมความพึงพอใจที่มีต่อผู้สอนโครงการผลิตครูเพอ่ื พัฒนาทอ้ งถ่ิน มคี ่าเฉลีย่ เท่ากับ ( x = 3.68 ) ซง่ึ ผลการประเมนิ อยู่ในเกณฑ์ ระดบัความพึงพอใจมาก และในส่วนของการพิจารณาข้อเสนอแนะของนักศึกษา ได้ให้ความคิดเห็นเก่ียวกับผู้สอนในการปรับปรุงพฤติกรรม การวางตัวในการสอน และการเพิ่มทักษะทางด้านปฏิบัติ เพื่อสร้างความชานาญในงานสอนให้มากยิ่งข้ึน

144.3 ผลการศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผ้สู อน โครงการผลิตครเู พอ่ื พัฒนาท้องถ่นิ วทิ ยาลัยสารพัดชา่ งธนบรุ ีจาแนกตามช่วงอายุ ของกลมุ่ ตัวอย่างตารางที่ 4.3 แสดงผลการศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลติ ครเู พ่อื พัฒนาท้องถนิ่ วิทยาลัยสารพดั ชา่ งธนบรุ ี จาแนกตามอายุ ด้านในการพิจารณา 21-30 ปี 31-50 ปี 50 ปีข้ึนไป F Sig x S.D. x S.D. x S.D.ด้านความรบั ผดิ ชอบ 4.00 0.00 2.67 0.38 3.50 0.70 5.71 0.67ด้านเทคนิคการสอน 3.25 0.35 3.50 0.00 3.75 1.06 0.40 0.64ดา้ นความเปน็ ครู 3.67 0.47 3.56 0.52 4.33 0.00 2.11 0.24ดา้ นการสง่ เสริมผู้เรียนเปน็ สาคญั 3.60 0.28 3.46 0.46 4.60 0.28 5.75 0.06ด้านสนับสนุนการเรยี นรู้ 4.00 0.47 3.66 0.67 4.50 0.23 1.43 0.34รวมรายดา้ น 3.70 0.31 3.37 0.24 4.13 0.45 3.28 0.14จากตารางท่ี 4.3 ผลการศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอนโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี จาแนกตามอายุ พบว่านักศึกษาท่ีมีช่วงอายุต่างกันมคี วามพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนโดยรวมรายดา้ น แตกต่างกันอย่างไม่มนี ัยสาคญัทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั .05ตารางที่ 4.4 แสดงรายละเอยี ดผลการศึกษาเปรยี บเทียบความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลติ ครเู พอ่ื พฒั นาทอ้ งถนิ่ วิทยาลยั สารพดั ชา่ งธนบรุ ี จาแนกตามอายุ ด้านในการพจิ ารณา แหลง่ ความ df SS MS Fด้านความรบั ผิดชอบ แปรปรวน ระหวา่ งกล่มุ 2 2.26 1.131 5.71ดา้ นเทคนคิ การสอน 4 0.79 0.198 ภายในกลุม่ 6 3.05ด้านความเปน็ ครู รวม 2 0.25 0.12 0.40 ระหวา่ งกลมุ่ 4 1.25 0.31 ภายในกลุม่ 6 1.50 รวม 2 0.78 0.39 2.11 4 0.74 0.18 ระหว่างกลุ่ม 6 1.52 ภายในกลมุ่ รวม

15 ด้านในการพจิ ารณา แหลง่ ความ df SS MS Fดา้ นการส่งเสรมิ ผ้เู รยี นเปน็ สาคญั แปรปรวน ระหวา่ งกลมุ่ 2 1.68 0.84 5.75ดา้ นสนบุ สนนุ การเรียนรู้ ภายในกล่มุ 4 0.58 0.14 6 2.27รวมรายด้าน รวม 2 0.83 0.41 1.42 ระหวา่ งกลมุ่ 4 1.16 0.29 ภายในกลุ่ม 6 2.00 รวม 2 0.70 0.35 3.28 ระหวา่ งกลุ่ม 4 0.42 0.10 ภายในกลุ่ม 6 1.13 รวมจากตารางท่ี 4.4 พบว่า นักศึกษาหลักสูตรระยะส้ัน วิชาช่างซ่อมเครื่องยนต์แก๊สโซลีน รุ่นที่ 4 ปีการศึกษา 2560 จาแนกตามช่วงอายุ มีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนต่างกัน อย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถติ ิ .05ตารางที่ 4.5 แสดงผลการทดสอบความแตกต่างค่าเฉล่ียความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอน ของผ้สู อน โครงการผลิตครูเพือ่ พัฒนาท้องถน่ิ วิทยาลยั สารพดั ช่างธนบุรี จาแนกตามอายุ มีรายด้านแตกต่างกนั ในรายคู่ จงึ ทาการทดสอบความแตกตา่ งของคา่ เฉลีย่ รายคู่ตามวิธก๊ าร Schaefferกลุม่ ตัวอยา่ ง μ 21-30 ปี 31-50 ปี 50 ปขี ้ึนไป 3.70 3.37 4.13 21-30 ปี 3.70 31-50 ปี 3.37 0.33 0.7650 ปขี ้นึ ไป 4.13 0.33จากตารางท่ี 4.5 พบว่า นักศึกษาระดับหลักสูตรระยะสั้น สาขาวิชาช่างซ่อมเคร่ืองยนต์แก๊สโซลีนจาแนกตามอายุ มคี วามพงึ พอใจ รวมรายด้านแตกตา่ งกันอย่างไมม่ ีนัยสาคัญทางสถิติ .05

บทที่ 5 สรปุ อภิปราย และข้อเสนอแนะในการวิจัยการศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี เมื่อได้ข้อมูลจากแบบสอบถาม จะเห็นได้ว่าจากกระบวนการวเิ คราะห์ทั้งหมด สามารถสรุปไดด้ ังตอ่ ไปน้ี5.1 สรุปผลการวจิ ยัจากการวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม จานวน 7 คน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจในการจัดการเรยี นการสอนของนักศึกษา โดยรวมอยใู่ นค่าเฉลย่ี ระดับความพึงพอใจมาก และเมื่อพจิ ารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านความรับผดิ ชอบ มีคา่ เฉล่ยี เท่ากับ ( x = 3.28) ซึ่งผลการประเมินอย่ใู นเกณฑ์ ระดบั ความพึงพอใจปานกลาง ในส่วนดา้ นเทคนิคการสอน มีคา่ เฉล่ยี เท่ากับ ( x = 3.50 ) ซง่ึ ผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจปานกลาง ทางด้านความเป็นครู มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ( x =3.80 ) ซงึ่ ผลการประเมนิ อยู่ในเกณฑ์ ระดบั ความพงึ พอใจมาก ทางส่วนของด้านการส่งเสริมผู้เรยี นเป็นสาคัญ มีคา่ เฉล่ยี เท่ากบั ( x = 3.82 ) ซึ่งผลการประเมนิ อยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก และสว่ นของทางด้านสนับสนุนการเรียนรู้ มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ( x = 4.00 ) ซึ่งผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก โดยผลเฉลี่ยภาพรวมความพึงพอใจท่ีมตี ่อผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่อื พฒั นาทอ้ งถิ่นมีค่าเฉล่ียเท่ากับ ( x = 3.68 ) ซ่ึงผลการประเมินอยู่ในเกณฑ์ ระดับความพึงพอใจมาก ในส่วนของการพิจารณาคาถามข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่าง ได้ให้ข้อเสนอแนะ ในการปรับปรุงพฤติกรรม ทักษะทางด้านปฏิบัติ เพ่ือสร้างความชานาญงานให้มากขน้ึ ในการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียความพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอน จาแนกตามอายุ ระดับการศึกษา ตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ปรากฏผลในการทดสอบสมมติฐานขอ้ ที่ 1 นกั ศึกษาทม่ี อี ายุตา่ งกนั มีความพงึ พอใจในการจัดการเรยี นการสอน โดยรวมและรายด้านแตกตา่ งกันอยา่ งไม่มนี ัยสาคัยทางสถติ ิ สว่ นการทดสอบสมมตฐิ านขอ้ ท่ี 2 นกั ศกึ ษาทม่ี ีวฒุ ิการศึกษาต่างกนั มคี วามพงึ พอใจในการจัดการเรียนการสอน โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญทางสถติ ิ5.2 อภิปรายผลการวจิ ยัจากผลการศึกษาค้นคว้า ความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษาท่ีมีต่อครูผู้สอนโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถ่ิน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความรับผิดชอบด้านเทคนคิ การสอน ดา้ นความเป็นครู ด้านการสง่ เสรมิ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ ดา้ นสนับสนุนการเรยี นรู้ ผลในการศึกษาพบว่า ผลเฉล่ียภาพรวมท่ีมีต่อครูผู้สอน มีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้เป็นเพราะการเรียนการสอน ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่นกั ศึกษามุ่งหวงั คือ แนวทางการสอนมีความเหมาะสมกับผู้เรียน ด้านความมรับผิดชอบต่อการสอนมีความพึงพอจส่วนมากอยู่ในระดับปานกลาง มาจากการได้รับมอบหมายงานท่ีต้องรบั ผิดชอบมากขึ้น รวมท้ังด้านเทคนิคการสอนในหลักสูตรระยะสั้นท่ีมีระดัยเท่ากัน ในการปรับตัวต่อการสอนในหลักสูตรระยะส้ันที่มีการเรียนการสอนที่เข้ม และมีความลึกของเนื้อหาวิชาการทาให้ในการประเมินอาจยังใช้เวลาท่ียังไม่เหมาะสมต่อการประเมินจากการปรับตัวเม่ือ

17เข้ามาสอน ในส่วนของด้านความเป็นครู ด้านส่งเสริมผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้านสนับสนุนการเรียนรู้ มีแนวโน้มในทางเดียวกัน เน่ืองจากเป็นส่ิงที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงในการเรียนการสอนมาก แต่มันอยู่ในลักษณะของจิตทท่มี ีต่อการเรียนการสอน เพอ่ื ทีจ่ ะส่งเสรมิ การเรยี นให้ผเู้ รยี นได้เรยี นรู้เป็นสาคญั ทาให้นา้ หนกั ในการเรยี นการสอนของผู้สอนมีผลเฉลี่ยภาพรวมทอี่ ยใู่ นระดับมาก5.3 บทเรยี นทไี่ ด้เรียนรู้แนวทางการศึกษาความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี ส่งผลต่อการพัฒนาผู้สอน ในด้านความรับผิดชอบ ด้านเทคนิคการสอน ดา้ นความเป็นครู ด้านการสง่ เสรมิ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ดา้ นสนับสนุนการเรียนรู้ เพอ่ื ทีจ่ ะใหผ้ ูส้ อนเกิดการปรับปรุง เม่ือทราบระดับความพึงพอใจของผู้เรียน ในแต่ละช่วงอายุ และวุฒิการศึกษาที่มีความต้องการในรปู แบบการเรยี นทแี่ ตกตา่ งกัน5.4 ขอ้ เสนอแนะ5.4.1 ข้อเสนอแนะสาหรบั การนาผลการวิจัยไปใช้1) ศึกษาเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้บริหารสถานศึกษา หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการผลิตครูท่ีจบใหม่สามารถนาไปปรบั ปรงุ กระบวนการพัฒนานักศึกษาครใู หเ้ หมาะสมกับสภาพปัญหาที่เกิดขนึ้ ใหไ้ ด้พฒั นานกั ศกึ ษาของโครงการตรงตามความตอ้ งการของหลักสูตรทรี่ องรับ2) ศึกษาเพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาผู้สอนทั้งด้านความรับผิดชอบ ด้านเทคนิคการสอน ด้านความเป็นครู ดา้ นการส่งเสรมิ ผ้เู รียนเปน็ สาคัญ ด้านสนับสนนุ การเรยี นรู้5.4.2 ขอ้ เสนอแนะสาหรับการวิจยั ครั้งต่อไป1) ศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอน ระดับหลักสูตรระยะส้ัน วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี เพื่อเป็นแนวทางในการเพิ่มระดับความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของนักศกึ ษาให้อยใู่ นระดับมากขึน้ ไป2) ศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของนักศึกษา ระดับหลักสูตรระยะส้นัวทิ ยาลยั สารพดั ชา่ งธนบรุ ี เพอื่ ใหว้ ทิ ยาลยั มีข้อมูลครบในทกุ สาขาวิชา จะไดน้ าผลทีไ่ ดศ้ กึ ษาเปรียบเทียบตอ่ ไป

18 เอกสารอ้างอิงชูศรี วงศ์รัตน, 2541, เทคนิคการใช้สถิติเพ่ือการวิจัย, เทพนิมิตการพิมพ์, พิมพ์ครั้งที่ 7, กรุงเทพฯ,หนา้ 21-57.ชูศักด์ิ นายะสุนทรกุล, 2551, รายงานวิจัยเร่ือง ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ของนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพช้นั สงู วทิ ยาลยั เทคนคิ ราชบรุ ี, วทิ ยาลยั เทคนิคราชบุรี, หน้า 13-21.เชดิ ศกั ด์ิ โฆวาสินธุ์, 2525, การวดั ผลการศึกษา, สานกั ทดสอบทางการศึกษาและจติ วทิ ยา มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒประสานมติ ร, กรุงเทพมหานคร, หนา้ 146.เตอื นใจ เกษณยี บตุ ร, 2546, รายงานการวจิ ยั ความพึงพอใจของผปู้ กครองตอ่ การบริหารการศึกษา,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, หน้า 4.ธีระวุมิ กิตติศิวารักษ์ , 2546, รายงานวิจัยเรื่อง ความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีตอ่การเรียนภาษาต่างประเทศสถาบันสอนภาษาต่างประเทศ สมาคม YMCA, วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตร์มหาบัณฑติ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, หนา้ 1-54.พิชิต ฤทธิ์จรูญ, 2545, หลักการวัดและประเมินผล, สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,กรุงเทพฯ, หนา้ 95-134.เสน่ห์ ศรวี ิลัย, 2545, รายงานวิจยั เรอ่ื ง ความคดิ เหน็ ของนักศึกษาชา่ งอุตสาหกรรมท่ีมตี อ่ การศึกษาระบบทวิภาคี หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพในวิทยาลัยอาชีวศึกษา จังหวัดราชบุรี, วิทยานิพนธ์ปรญิ ญาการศกึ ษามหาบณั ฑติ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ, หน้าบทคดั ย่อ.เสาวณีย์ สนธิเณร, 2546, ความคิดเห็นของนักศึกษาระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพชั้นสูง ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ คณะวิชาบรหิ ารธรุ กจิ วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาเอีย่ มละออ,วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบณั ฑิต มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ, หน้าบทคดั ยอ่ .ประพาเพ็ญ สุวรรณ, 2526, การวัดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมอนามัย, ไทยวัฒนาพานิช,กรงุ เทพมหานคร, หนา้ 45-46.Barker, Diane S. , 1988, Factors affecting policy in educational media services,(Dissertation Abstracts International 49, p.1007.Esin, Joseph Okon, 1989, A study of the relationship between teacher knowledgeexperience and their apprehension about the use of microcomputer in publicschools, Dissertation Abstracts International 50, p. 419–A.Hornby A. F., 2000, Advance learner’s dictionary ( 8thed) , Oxford University, London,England, p.90.

19Koontz, R., 1992, An assessment of teacher traines’ attitudes toward selected instruc-tionnal media, Dissertation Abstracts International 52, p.43.Maslow, Adraham Harold, 1970, Motivation and Personality, Harper and Row, New York,p. 35.Maynard W. Shelly, 1975, Responding to Social Change, Dowden Hutchision & Press,Pennsylvania, pp. 252-268Mullins, L. J. , 1985, Management and organizational behaviour, Pitman Publishing,London, England, p. 280.Murray, H. A., 1967, Autobiography. In E. G. Boring & G. Lindzey (Eds.), A history ofpsychology in autobiography, Vol. 5, pp. 283–310).

ภาคผนวก ก. แบบสอบถามความพงึ พอใจ

21 แบบสอบถามความพงึ พอใจ เรื่อง ความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนของผู้สอน โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนา ท้องถนิ่ ทมี่ ตี ่อนกั ศึกษาหลักสูตรระยะส้นั วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบรุ ีคาชี้แจง้ โปรดทำเครื่องหมำย  ลงในวงกลมหนำ้ ขอ้ ควำมทต่ี รงกบั ควำมเปน็ จรงิ และมีระดับควำมพึงพอใจตอนท่ี 1 แบบสำรวจข้อมูลท่วั ไปของนกั ศกึ ษำ1. อำยุ  15 - 20  20 - 30  30 – 50  50 ขึ้นไป2. ระดบั กำรศึกษำ  ประถมศึกษำ มธั ยมศกึ ษำ  ปริญญำตรี  ปรญิ ญำโทขนึ้ ไปตอนท่ี 2 แบบสอบถำมควำมพึงพอใจ ในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของนักศึกษำโครงกำรผลิตครูเพื่อพัฒนำท้องถิ่น วิทยำลัยสำรพัดช่ำงธนบุรี ด้ำนควำมรับผิดชอบ ด้ำนเทคนิคกำรสอน ด้ำนควำมเป็นครู ด้ำนกำรส่งเสริมผเู้ รียนเปน็ สำคญั ดำ้ นสนับสนนุ กำรเรียนรู้รายละเอยี ดความพงึ พอใจในการประเมิน1. ด้านความรบั ผดิ ชอบ1.1 ควำมตรงต่อเวลำ   1.2 กำรเตรยี มกำรสอน   1.3 ควำมต้ังใจและควำมกระตือรอื รน้ ในกำรสอน   1.4 ควำมครบถ้วนในกำรสอนตำมเนื้อหำของรำยวชิ ำ   2. ด้านเทคนิคการสอน2.1 เทคนคิ และวธิ กี ำรถำ่ ยทอดควำมรู้   2.2 กำรบูรณำกำร   3. ดา้ นความเปน็ ครู3.1 คณุ สมบตั ิของผสู้ อน   3.2 กำรสอดแทรกคณุ ธรรม จรยิ ธรรมทด่ี ีงำม   3.3 กำรรบั ฟงั ควำมคิดเห็นและข้อวิจำรณจ์ ำกผู้เรียน   4. ด้านการสง่ เสริมผู้เรียนเป็นสาคัญ4.1 ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นสำมำรถคดิ วิเครำะหอ์ ยำ่ งมเี หตผุ ล     4.2 ให้ขอ้ มูล ชแี้ นะ แหล่งคน้ คว้ำหำควำมรู้เพิ่มเติม   4.3 จดั เนอื้ หำและกิจกรรมให้สอดคลอ้ งกบั ควำมสนใจ     4.4 ผู้เรียนทรำบวิธีประเมิน และมสี ว่ นรว่ มในกำรกำหนด     4.5 ใหค้ ุณคำ่ กับควำมคิดเหน็ และกระบวนกำรคดิ   5. ดา้ นสนบั สนุนการเรียนรู้5.1 ใช้ส่ือกำรสอนท่สี ง่ เสริมกำรเรยี นรู้ท่เี หมำะสม   5.2 ใช้สื่อกำรสอนที่สอดคล้องกบั เน้อื หำวชิ ำ   5.3 ใชส้ ง่ิ สนบั สนุนกำรเรียนรู้ท่หี ลำกหลำย   

ภาคผนวก ข. แสดงผลการหาคา่ ดชั นีความสอดคลอ้ ง (IOC) ของแบบสอบถาม

23ตารางที่ ข.1 แสดงผลการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ของแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการ เรยี นการสอนของผสู้ อนโครงการผลิตครูเพ่ือพัฒนาทอ้ งถิน่ วทิ ยาลยั สารพัดชา่ งธนบรุ ี ผเู้ ชยี่ วชาญขอ้ รายละเอยี ดความพงึ พอใจในการประเมนิ คนท่ี คนท่ี คนท่ี ∑R IOC 1231 ดา้ นความรับผดิ ชอบ1.1 ความตรงตอ่ เวลา +1 +1 +1 3 1.001.2 การเตรียมการสอน +1 +1 +1 3 1.001.3 ความตั้งใจและความกระตอื รอื ร้นในการสอน +1 +1 +1 3 1.001.4 การดแู ลประสานงานกบั ผเู้ รยี น +1 0 +1 3 0.661.5 ความสามารถในการถ่ายทอดงาน 0 0 +1 3 0.332 ด้านเทคนคิ การสอน2.1 เทคนิค และวธิ ีการถ่ายทอดความรู้ +1 +1 +1 3 1.002.2 การบูรณาการ +1 +1 +1 3 1.002.3 การกาหนดเวลาในการฝกึ อบรม +1 0 0 3 0.332.4 การให้ความรใู้ หม่ในการทางานเพม่ิ เตมิ 0 +1 +1 3 0.663 ดา้ นความเป็นครู3.1 คณุ สมบตั ิของผู้สอน +1 +1 +1 3 1.003.2 การสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมทีด่ ีงาม +1 +1 +1 3 1.003.3 การรบั ฟังความคิดเหน็ และข้อวจิ ารณ์จากผู้เรียน +1 +1 +1 3 1.004 ด้านสง่ เสริมผู้เรยี นเปน็ สาคญั4.1 สง่ เสริมให้ผู้เรียนสามารถคดิ วเิ คราะห์อยา่ งมเี หตุผล +1 +1 +1 3 1.004.2 ใหข้ ้อมลู ชแ้ี นะ แหลง่ ค้นคว้าหาความรู้เพม่ิ เตมิ +1 +1 +1 3 1.004.3 จัดเนื้อหาและกจิ กรรมให้สอดคลอ้ งกับความสนใจ +1 +1 +1 3 1.004.4 ผ้เู รยี นทราบวิธีการประเมนิ และมีสว่ นร่วมการกาหนด +1 +1 +1 3 1.004.5 ใหค้ ณุ ค่ากับความคดิ เหน็ และกระบวนการคิด +1 +1 +1 3 1.004.6 ส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียนมางานร่วมกับผอู้ ่ืน +1 +1 0 3 0.664.7 สง่ เสริมให้ผู้เรยี นทางานรว่ มกับชมุ ชน +1 +1 0 3 0.665 ดา้ นสนบั สนนุ การเรียนรู้5.1 ใชส้ ่ือการสอนที่ส่งเสรมิ การเรยี นรทู้ ี่เหมาะสม +1 +1 +1 3 1.005.2 ใช้สื่อการสอนที่สอดคลอ้ งกับเน้อื หาวชิ า +1 +1 +1 3 1.005.3 ใช้ส่ิงสนบั สนุนการเรยี นรทู้ ่หี ลากหลาย +1 +1 +1 3 1.005.4 ใช้เครื่องมือเครือ่ งจักรท่ีเหมาะสมในการเรียน 0 0 +1 3 0.335.5 การจัดส่งิ แวดลอ้ มเออ้ื อานวยตอ่ การเรียน 0 +1 +1 3 0.66

ภาคผนวก ค. รายนามผ้เู ชี่ยวชาญ

251. นายสธุ า กรอบพดุ ซา รายนามผเู้ ชยี่ วชาญ2. นายปฐวี เหล่ยี มจุ้ย3. นายวัฒนพงศ์ เชาวโ์ น ครูประจาแผนกวิชาช่างยนต์ วิทยาลัยสารพดั ชา่ งธนบุรี ครปู ระจาแผนกวชิ าช่างยนต์ วิทยาลัยสารพัดช่างเพชรบุรี ครูประจาหมวดวชิ าอตุ สาหกรรมศิลป์ โรงเรยี นบ้านแป้งวิทยา

26ชือ่ - สกุล ประวัตผิ วู้ ิจัยวัน เดอื น ปีเกิดประวัติการศึกษา นายพงศพ์ พิ ัฒน์ คาหอมระดบั ปรญิ ญาตรี 13 สงิ หาคม 2536ประสบการณท์ างานและการสอน ครศุ าสตร์อุตสาหกรรมบณั ฑติ ภาควชิ า ครศุ าสตรเ์ คร่อื งกล สาขา วศิ วกรรมเครอ่ื งกล มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบรุ ี ฝึกงานทางด้านการตรวจสอบระบบท่อและโครงสร้าง ตัวเรอื บริษัท มาซนั จากดั ระยะเวลา 2 เดือน ฝึกสอน วิชาเช้ือเพลิงและวัสดุหล่อล่ืน โรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชพี ) ระยะเวลา 1 ภาคเรียน ปีการศกึ ษา 2/2558 ฝึกสอน วิชางานจักรยานยนต์, วิชางานถอดประกอบ เครื่องกลเบื้องต้น, วิชาเทอร์โมไดนามิกส์, วิชากลศาสตร์ ของไหล วิชาส่งถ่ายกาลัง วิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี ระยะเวลา 2 ภาคเรยี น ปกี ารศึกษา 2559 ทางานทางด้านควบคุมงาน ประมูลราคางานระบบปรับ อากาศ ระบายอากาศ และระบบสุขาภบิ าล ตาแหน่งวศิ วกร เคร่ืองกล บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จากัด ระยะเวลา 7 เดือน ทางานทางด้านการสอน ในรายวิชาช่างซอ่ มเครือ่ งยนต์แก๊ส โซลีน ตาแหน่งครูผู้ช่วย วิทยาลัยสารพัดช่างธนบุรี จนถึง ปจั จุบัน