จงั หวัดปราจนี บุรี ศลิ าแลงศรีมโหสถ เป็นดินที่ถูกนํ้าเหล็กออกไซด์แทรกข้ึนมาเช่ือมประสาน ทำ�ใหเ้ กดิ เปน็ ชั้นแขง็ พบท่ีเมืองโบราณศรีมโหสถ ตำ�บลโคกปบี อำ�เภอศรมี โหสถ ซงึ่ เปน็ สถานทที่ มี่ ชี อื่ เสยี งของจงั หวดั ปราจนี บรุ ี และเปน็ แหลง่ ศลิ าแลงสำ�หรบั ใชก้ อ่ สรา้ งเมอื งโบราณศรมี โหสถ เช่น กำ�แพง ผนังอาคาร พน้ื อาคาร ทางเดนิ เป็นต้น ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวทิ ยา PRACHIN BURI Si Mahosot Laterite is the geological symbol of Prachin Buri Province. The laterite was ศิลาแลง หรือแลง (Laterite) เป็นวัสดุ formed from soil that was soaked and later cemented by iron oxide solution to form ธรรมชาติที่เกิดข้ึนเฉพาะบริเวณมรสุมเขตร้อน hard layers of laterite. The laterite was reported at Si Mahosot historical site located คนเอเชียรู้จักนำ�มาใช้ก่อสร้างกำ�แพง วัด หรือ 48 in Khok Pip Subdistrict, Si Mahosot District. Si Mahosot laterite was used as main โบราณสถานต่างๆ โดยท่ัวไปจะพบศิลาแลงอยู่ construction materials for the building of ancient city of Si Mahosot. บนผิวดินหรือใต้ผิวดินเพียงเล็กน้อย จึงจัดเป็น ตะกอนพ้ืนผิวท่ีเกิดจากกระบวนการผุพังทาง ธรณีวิทยา ศิลาแลงมีลักษณะเป็นรูพรุน มีสแี ดง สนี ํา้ ตาลแดง และสอี ฐิ ซ่ึงขึน้ อยกู่ ับ ปรมิ าณของเหล็กและแมงกานีส เพราะว่า แร่เหล็กออกไซด์ ได้แก่ แร่ฮีมาไทต์ เป็น สว่ นประกอบหลกั ของศลิ าแลง อะลมู เิ นยี ม เป็นอีกธาตุหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของ ศิลาแลง โดยจะอยู่ในรูปของแร่บอกไซต์ ส่วน แมงกานีสจะมีลักษณะเป็นเม็ดหรือเป็นก้อน เกิดจากสารละลายที่ถูกชะล้างลงมาตกทับถม เช่นเดียวกบั เหลก็ และอะลมู ิเนยี ม ศิลาแลงกับลูกรังมีความสัมพันธ์กันโดยตรง กับหินและแร่ โดยทั่วไปในบ่อลูกรังมักพบช้ัน ศิลาแลงอยู่ใต้ช้ันดินท่ีมีสารอินทรีย์ และใต้ชั้น ศลิ าแลงลงไปจะเปน็ ดนิ เหนยี วสเี ทา-ขาวมจี ดุ ประสแี ดง สีส้ม เรียกว่า “ลูกรัง” ซ่ึงวางตัวอยู่เหนือชั้นเศษหิน แนวหนิ ผุ และชัน้ หินดานซงึ่ อยู่ล่างสดุ
จงั หวดั ปตั ตานี หนิ แกรนติ สชี มพู ปัตตานี เป็นหินอัคนีที่มีขนาดผลึกใหญ่ พื้นสีเทาเจือ สีชมพู มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณโ์ ดดเด่น พบ ตามเนนิ เขาและเทอื กเขาทตี่ อ่ เนอื่ งมาจากเทอื กเขาบโู ด อำ�เภอมายอ และอำ�เภอสายบุรี นอกจากน้ียังพบตาม เทอื กเขาคาราครี ี รอยตอ่ กบั จงั หวดั ยะลา โดยหนิ แกรนติ ท่ีนิยมทำ�เป็นหินประดับ นำ�มาจากแหล่งหินแกรนิต ทุ่งคล้า อำ�เภอสายบุรี และแหล่งหินแกรนิตลางา อำ�เภอมายอ ธรณวี ทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินแกรนิตสีชมพูปัตตานีเป็นส่วนหนึ่งของหินแกรนิตแนว ตอนกลาง (Central Belt Granite) บริเวณภาคใต้ของประเทศ เน้ือหิน ประกอบดว้ ยแรอ่ ลั คาไลเฟลดส์ ปารแ์ ละควอตซเ์ ปน็ สว่ นใหญ่ หนิ แกรนติ ดังกล่าวเกิดจากการชนกันของแผ่นเปลือกโลกในยุคไทรแอสซิก หรือ ประมาณ ๒๔๕ - ๒๐๐ ล้านปีท่ีผ่านมา ส่งผลให้เปลือกโลกบางส่วน หลอมเหลวและตกผลึกใหม่เป็นหินแกรนิต เม่ือหินเย็นตัวลงแร่อัลคาไล เฟลด์สปาร์บางชนิดในเน้ือหินได้เปล่ียนสภาพหรือเปล่ียนชนิดแร่ ส่งผล ให้สีของหินแกรนิตในบางบริเวณเปลี่ยนจากสีขาวอมเทาซ่ึงเป็นสีเดิม กลายเป็นสีนํ้าตาล ชมพู แดง ทำ�ให้หินมีความสวยงามโดดเด่น และมี คณุ สมบัตเิ ป็นหินประดบั ได้ PATTANI 49 Pattani Pink Granite is the geological symbol of Pattani Province. This granite exhibiting beautiful large phenocrysts with grayish pink background is unique for the province. The granite pluton crops out as small hills and mountain range of Khao Bu Do in Mayo and Sai Buri Districts and of Kharakhiri Mountain located along the Pattani - Yala boundary. Granite of Thung Khla site in Sai Buri District and Langa site in Mayo District are among the most favourite granite for interior decoration.
จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา ดนิ เหนียวอยุธยา เป็นดินเหนียวสีนํ้าตาลเข้ม เนื้อแน่น เหนียว พบ บริเวณที่ราบน้ําท่วมถึงริมแม่น้ําเจ้าพระยา ใช้สำ�หรับการ เพาะปลกู หรอื ทำ�นาของชมุ ชนในจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา ซง่ึ เปน็ ทต่ี งั้ ของราชธานเี กา่ และเปน็ อขู่ า้ วอนู่ าํ้ ของประเทศ รวมทง้ั ใชท้ ำ�อฐิ กอ่ สร้างต้ังแต่โบราณ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ิทยา สภาพธรณสี ัณฐานของจงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยาเป็นทรี่ าบลมุ่ อยใู่ น ภาคกลางตอนลา่ ง ในบรเิ วณทนี่ า้ํ ทะเลเคยทว่ มถงึ มตี ะกอนทะเลอยขู่ า้ งลา่ ง เกิดจากตะกอนลำ�นํ้าผสมกับตะกอนทะเลในสภาพนํ้ากร่อย ด้วยลักษณะ ของพ้ืนท่ีราบท่ีมีการระบายนํ้าไม่ดี การไหลบ่าของน้ําผิวดินช้าและการ ยอมให้น้ําซึมผ่านได้ช้า ทำ�ให้ดินท่ีเป็นตะกอนขนาดละเอียดมากมีสภาพ PHRA NAKHON SI AYUTTHAYA เปน็ กรดมากขนึ้ ตามความลกึ โดยดนิ ชน้ั บนเปน็ ดนิ เหนยี ว สเี ทาเขม้ มสี ภาพ 50 The geological symbol of Phra Nakhon Si Ayutthaya Province is Ayutthaya Clay. This dark brown, stiff and massive clay have been เปน็ กรดปานกลาง (pH 6) ดนิ ชน้ั ล่างตอนบนเปน็ ดนิ เหนียวมสี เี ทา สีน้ําตาล found extensively on the Chao Phraya floodplain. The Ayutthaya clay ปนเทา หรือสีเทานํ้าตาล มีจุดประสีแดง มีสภาพเป็นกรดจัด (pH 5.5) have been utilized as fertile soils for vegetation and growing rice for และพบจดุ สีเหลืองฟางข้าว ทคี่ วามลึก ๑๐๐ - ๑๕๐ เซนติเมตร พบรอยไถล people of Ayutthaya, the former capital of the country. The clay has ระหวา่ งดินชั้นบนกบั ดนิ ชน้ั ลา่ ง และพบผลกึ ยปิ ซัมทเ่ี กดิ จากการรวมตัวของ also been raw materials for the production of construction bricks since แคลเซยี มกบั กำ�มะถนั ในดนิ สำ�หรบั ดนิ ชนั้ ลา่ งสดุ พบวา่ มกี ำ�มะถนั สงู และมี the ancient time. สภาพเปน็ กรดจดั ถงึ จดั มาก (pH 5 - 4.5)
จงั หวดั พะเยา ถา่ นหินลกิ ไนต์พะเยา เป็นเช้ือเพลิงธรรมชาติชนิดถ่านหินลิกไนต์ เกิด จากการสะสมตะกอนในทะเลสาบเม่ือ ๑๓ ล้านปีก่อน พบที่อำ�เภอเชียงม่วนและอำ�เภอปง ซึ่งเป็นแหล่งผลิต ถ่านหินท่ีสำ�คัญในอดีต ปัจจุบันจังหวัดพะเยาได้ร่วมมือ กับกรมทรัพยากรธรณีในการพัฒนาเหมืองถ่านหิน ซึ่ง หมดสัญญาสัมปทานแล้ว ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพโบราณเชื่อมโยง กับวนอทุ ยานไดโนเสารแ์ กง่ หลวง อำ�เภอเชียงมว่ น ซงึ่ พบ ซากฟอสซลิ ไดโนเสารต์ วั แรกในภาคเหนอื ของประเทศไทย ธรณีวทิ ยา PHAYAO ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Deposited during the middle Miocene time around 13 million years ago, ลิกไนต์ (Lignite) เป็นถ่านหินชนิดหน่ึง Phayao Lignite is a type of fossil fuels found in Chiang Muan and Pong ท่ีมีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลัก มีไฮโดรเจน Basins. The former inhibits better coal quality (lignite to bituminous) than ไนโตรเจน ออกซิเจน และซัลเฟอร์ประกอบอยู่ด้วย the latter. Other fossils of both animals and plants are also abundant. This เพียงเล็กน้อย จัดเป็นถ่านหินคุณภาพตํ่า แหล่ง represents geological study sites of the province where ancient biodiversity ถ่านหินในจังหวัดพะเยามี ๒ แหล่งใหญ่ คือ exists with paleontological connection with Kaeng Luang Dinosaur Forest Park แอ่งเชียงม่วน และแอ่งปง โดยแอ่งเชียงม่วนพบ located in Chiang Muan District where the first dinosaur fossil in Northern ช้ันดินดานปนถ่านและชั้นถ่านหินคุณภาพระดับ Thailand has been reported. ลิกไนต์ถึงบิทูมินัสบริเวณรอยต่อระหว่างอำ�เภอ เชยี งมว่ นกบั ตำ�บลบา้ นสระ และบรเิ วณหว้ ยผาลาด ชั้นหินถูกปิดทับด้วยกรวดทรายทางน้ํา พบซาก ดึกดำ�บรรพ์เป็นจำ�นวนมาก เช่น กระดูกและฟันของช้างโบราณ ๔ งา เตตระโลโฟดอน (Tetralophodon sp.) จระเข้ ปลา อีเก้ง หมู ลิงอุรังอุตัง และเมล็ดพืชโบราณ มีอายุอยู่ในช่วง สมัยไมโอซีนตอนกลาง ส่วนแอ่งปงพบถา่ นหนิ บริเวณห้วยทราย และห้วยสงิ ห์ เกิดเปน็ ชน้ั บางๆ เปน็ ถ่านหินชนิดคา่ ความรอ้ นตํ่า ยังไมเ่ หมาะแกก่ ารนำ�ไปใช้งาน 51
จงั หวัดพงั งา แรด่ บี กุ ธรณีวทิ ยา เป็นแร่โลหะชนิดหนึ่งท่ีแข็ง หนัก มีผิววาวคล้ายเพชร มีสี สินแร่ดีบุกในประเทศไทยท้ังหมดเป็นแร่ น้ําตาลหรอื ดำ�แต่สีผงมีสีขาว ใชเ้ คลอื บโลหะอน่ื เช่น เหล็ก ทองแดง แคสซิเทอไรต์ มีรูปผลึกเป็นแท่งสี่เหลี่ยมส้ันๆ และทองเหลอื ง เพอ่ื ตา้ นทานการกดั กรอ่ น ไมเ่ ปน็ พษิ ตอ่ รา่ งกาย จงึ ใช้ ปลายเป็นรูปพีระมิด สีของแร่มีสีนํ้าตาลหรือดำ� สีผง ทำ�ภาชนะบรรจุอาหาร ใช้ทำ�แบริงสำ�หรับงานเคร่ืองกลในเร่ืองเพลา สขี าว โปรง่ แสง วาวแบบโลหะ คลา้ ยเพชรถงึ กึ่งโลหะ ทุกประเภท ใช้ผลิตแกว้ เนือ้ ทบึ เคร่อื งป้นั ดินเผา เครือ่ งถ้วยชาม และ หรอื ดานคลา้ ยดนิ กม็ ี ความแขง็ ระดบั ทำ�ใหต้ ะไบเหลก็ เคร่อื งเคลอื บ แร่ดีบุกพบทีอ่ ำ�เภอตะกัว่ ป่า อำ�เภอคุระบรุ ี อำ�เภอเมอื ง และกระจกเปน็ รอยได้ หนกั กวา่ แรโ่ ลหะชนดิ อนื่ แรด่ บี กุ พังงา และในทะเลอันดามัน ในอดีตแร่ดีบุกเคยเป็นแร่เศรษฐกิจ จงั หวดั พงั งามกี ารเกดิ สมั พนั ธก์ บั หนิ แกรนติ แนวตะวนั ตก อันดับหน่ึง โดยจังหวัดพังงาเป็นจังหวัดหนึ่งท่ีผลิตและส่งออกแร่ ท่ีแทรกดันตัวขึ้นมาในช่วงปลายของมหายุคมีโซโซอิก มากเปน็ อนั ดับตน้ ของประเทศ จึงมักพบสายแร่ดีบุกตามพื้นที่หินแกรนิต หรือส่วนท่ี ผุพังหลุดออกมาและถูกพัดพาไปสะสมตามเชิงเขา ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ตามแอ่ง ท่ีราบ และในท้องทะเล แร่ที่พบเกิดร่วมกับ แรด่ ีบุกมหี ลายชนิด เชน่ วลุ แฟรไมต์ ชไี ลต์ แรต่ ระกลู ไนโอเบียม-แทนทาลัม อิลเมไนต์ โมนาไซต์ ซีโนไทม์ และเซอร์คอน PHANG-NGA The geological symbol of Phang-nga Province is Tin. Most of the tin ore in Thailand is cassiterite, which is a brown or black tetragonal mineral usually occurs in prismatic crystals of adamantine luster, high specific 52 gravity and white streak. Due to its resistance to erosion and post no toxic to human body, tin is widely used for food containers, machine and ceramic industries. The mineral formed in association with Western Granite that intruded during the late Mesozoic Era.
จงั หวดั พัทลงุ หนิ ปนู ชัยบุรี เป็นหินปูนสีเทาอ่อนที่เกิดในทะเลเมื่อ ประมาณ ๒๒๐ ลา้ นปีก่อน พบท่เี มอื งชัยบรุ ี ซ่งึ เปน็ เมอื งโบราณสมยั อาณาจกั รศรอี ยธุ ยา ในเขตจงั หวดั พัทลุง หินปูนหมวดหินชัยบุรีเป็นหนึ่งในชั้นหิน แบบฉบับยุคไทรแอสซิกของประเทศไทย และเป็น แหล่งหินอตุ สาหกรรมก่อสรา้ งท่สี ำ�คญั ของจงั หวดั ธรณวี ิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หนิ ปนู ชยั บรุ พี บตามเขาหนิ ปนู ลกู โดด บรเิ วณอำ�เภอ ชัยบุรีและอำ�เภอเมืองพัทลุง ประกอบด้วยหินปูน หินปูน เน้ือปนโดโลไมต์ และหินโดโลไมต์ สีเทาอ่อนถึงเทาเข้ม ช้นั บางถึงชนั้ หนามาก แสดงช้ันดี ช้ันหนิ วางตวั ในแนวเหนอื - ใต้ เอียงเทไปทางทิศตะวันออก มีความหนาของชั้นหินปูน ตอ่ เนอ่ื งประมาณ ๔๐๐ - ๕๐๐ เมตร หนิ ปนู ชยั บรุ เี กดิ จากการ สะสมตะกอนคาร์บอเนตในทะเลช่วงยคุ ไทรแอสซิก ในสภาพ ของแอ่งตะกอนทะเลทม่ี คี วามสงบน่ิง ยาวนาน ภายหลังจาก การเคล่ือนตัวของช้ันเปลือกโลก แอ่งตะกอนทะเลดังกล่าว ได้เกิดการยกตัวพ้นระดับน้ําทะเล กลายเป็นเทือกเขาหินปูน ชยั บุรี ซง่ึ เปน็ สถานทส่ี ัญลักษณข์ องจงั หวดั พัทลงุ ในปจั จบุ ัน PHATTHALUNG 53 The geological symbol of Phatthalung Province is Chaiya Buri Limestone, a light gray limestone deposited in marine environment about 220 million years ago. Named after one of the ancient city during the Ayutthaya period, the Chaiya Buri limestone commonly crops out as isolated hills in Mueang Phatthalung and Chaiya Buri Districts. This rock unit represents one of the type sections of Triassic sedimentary rock in Thailand. It is also an important source of industrial rocks of the province.
จังหวดั พิจติ ร แร่ทองค�ำ เป็นแร่โลหะมีคุณค่าทางเศรษฐกิจสูง ใช้ทำ� เครอ่ื งประดบั ทำ�เหรยี ญและทองแท่งเพอ่ื การลงทนุ เป็น หลกั ประกนั ในการซอ้ื ขายแลกเปลยี่ นเงนิ ตราตา่ งประเทศ ใชใ้ นวงการทนั ตแพทย์เปน็ ตวั นำ�ไฟฟา้ ทด่ี สี ำ�หรบั เครอ่ื งมอื วทิ ยาศาสตร์วงจรอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์และอปุ กรณใ์ นอากาศยาน ปัจจุบัน จังหวัดพิจิตรมีการผลิตและส่งออกแร่ทองคำ�สูง เปน็ อนั ดบั หนงึ่ ของประเทศ โดยมแี หลง่ แรท่ องคำ�ทสี่ ำ�คญั อยู่หลายแห่งที่แหล่งเขาพนมพา อำ�เภอวังทรายพูน และแหล่งแร่ทองคำ�ชาตรี รอยต่อระหว่างจังหวัดพิจิตร กับจงั หวดั เพชรบรู ณ์ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ทิ ยา ทองคำ�โดยทัว่ ไปมักเกิดเปน็ เมด็ กลม เป็นแผน่ เปน็ เกลด็ หรือเป็นไรเล็กๆ หรืออาจพบเป็นมวลก้อน ลักษณะไม่แน่นอน มีสีเหลืองทองเข้ม แต่สีจะอ่อนจางลงหากมีโลหะเงินปน สีผง สีเหลืองทองเหมือนกับสีตัว เป็นโลหะท่ีอ่อนตัว ตีแผ่เป็นแผ่น บางๆ และดึงเป็นเส้นลวดได้ ทึบแสง วาวแบบโลหะ ทองคำ� ละลายได้เฉพาะในกรดกัดทองเท่านั้น สำ�หรับแหล่งแร่ทองคำ� เขาพนมพาเปน็ แหลง่ ทพ่ี บทองคำ�เกดิ ในสายแรค่ วอตซท์ เ่ี กดิ จาก การสะสมตัวของสารซิลิกาจากน้ําร้อน (hydrothermal fluid) ตัดผ่านหนิ ชนิดต่างๆ ทั้งหินอคั นี หนิ ตะกอน และหนิ แปร และ สายแร่ท่ีมีลักษณะเป็นหินกรวดเหลี่ยม (breccia) มีแร่ควอตซ์ เป็นเนอ้ื พื้นดว้ ย โดยพบแร่ทองคำ�ทมี่ ีขนาดใหญเ่ ท่าเม็ดถวั่ เขียว จนถึงขนาดมองไม่เหน็ เม็ดแร่ PHICHIT Gold is the geological symbol of Phichit Province. Important gold deposits include Khao Phanom Pha, Wang Sai 54 Phun District and Chatree Gold Deposit located along the boundary of Phichit and Phetchabun Provinces. Gold is found in two types of veins: hydrothermal quartz vein that cross-cuts other geological rock units; and breccia with quartz matrix.
จังหวดั พิษณุโลก หินทรายภูหนิ ร่องกล้า เป็นหินทรายสีขาวอมแดง ที่เกิดจากการสะสมตัว ของตะกอนแม่นาํ้ ในอดตี เมอ่ื ๑๑๐ ลา้ นปกี ่อน อยใู่ นอทุ ยาน แห่งชาติภูหินร่องกล้า อำ�เภอนครไทย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทสี่ ำ�คญั ของประเทศเนอื่ งจากมภี มู ปิ ระเทศทส่ี วยงามแปลกตา เป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะทางธรณีวิทยาโครงสร้างที่โดดเด่น และยงั มีความสำ�คัญทางประวัตศิ าสตรข์ องไทย ธรณีวิทยา PHITSANULOK ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Deposited along the ancient river around 110 million years ago, Phu Hin หินทรายภูหินร่องกล้าจัดอยู่ในหมวดหินภูพาน กลุ่มหิน Rong Kla Sandstone represents one of the rock units in Phu Phan Formation 55 โคราช ประกอบด้วยหินทรายปนกรวด และหินทรายขนาด of the Khorat Group. This reddish white sandstone unit crops out in Phu ปานกลางถึงหยาบ สีเทาขาว ขาวอมแดงถึงสีนํ้าตาล เม็ดกรวด Hin Rong Kla National Park located in Nakhon Thai District. Its unique and ทป่ี ะปนอยเู่ ปน็ พวกแร่ควอตซ์ เชริ ์ต แจสเปอร์ เศษหินทราย และ beautiful landscapes, including “Lan Hin Taek” and “Lan Hin Pum” formed เศษหนิ ทรายแป้ง เกดิ จากการสะสมตัวและตกตะกอนจากแม่นํ้า by the weathering and erosion processes through time, have made it the โคง้ ตวัดในชว่ งยคุ ครเี ทเชยี สตอนต้น การเคลื่อนทีข่ องเปลอื กโลก geological symbol of Phitsanulok Province. ทำ�ให้ช้ันหินยกตัวเป็นเทือกเขา และต่อมาได้เกิดกระบวนการ กัดกร่อนทางธรณีวิทยาตามผิวหน้าของช้ันหิน ทำ�ให้แสดง ลกั ษณะทางธรณวี ทิ ยาโครงสรา้ งทนี่ า่ สนใจและเปน็ เอกลกั ษณ์ อาทิ ลานหินแตก และลานหินปุ่ม ลานหินแตกเป็นลานหินกว้างที่มีร่องขนาดใหญ่ และลึก เป็นแนวขนานกันหรือตัดกัน ร่องลึกที่สุดประมาณ ๒๐ เมตร กวา้ งทส่ี ดุ ประมาณ ๒ เมตร เกดิ จากชน้ั หนิ ทรายถกู แรงบบี อดั จาก ธรรมชาติ ทำ�ใหม้ กี ารโกง่ งอและแตกอยา่ งเปน็ ระบบ ประกอบกบั อทิ ธพิ ลการกัดเซาะของนาํ้ ทำ�ใหร้ อยแตกนั้นกวา้ งและลกึ ขน้ึ ลานหินปุ่มมีลักษณะเป็นปุ่มหินยอดมนขนาดต่างๆ โผล่ ให้เห็นเป็นจุดๆ บางบริเวณเกิดเป็นกลุ่ม เป็นผลจากน้ําฝนและ นํ้าผิวดินกัดเซาะเน้ือหินตามแนวรอยแยกจนผุกร่อนเป็นร่องลึก คงเหลือไว้แตเ่ นื้อหนิ ทรายตรงกลางเป็นกอ้ นปุม่ มน
จงั หวดั เพชรบุรี หนิ ปนู เขานางพนั ธุรตั ธรณวี ิทยา เป็นหินปูนท่ีเกิดในทะเลน้ําต้ืนในอดีตเมื่อ ๒๘๐ หินปูนเขานางพันธุรัตจัดอยู่ในกลุ่มหินราชบุรี ล้านปีก่อน พบตามแนวเขายาวประมาณ ๓ กิโลเมตร มีลักษณะเป็นช้ันหินท่ีมีการสลับกันของหินปูนสีเทา ทางทศิ ตะวนั ออกของจงั หวดั เพชรบรุ ี หนิ ปนู เขานางพนั ธรุ ตั ถึงเทาเข้ม หินปูนท่ีมีหินเชิร์ตเป็นกระเปาะ และหินปูน หรอื เขาเจ้าลายใหญ-่ เขาจอมปราสาท อยู่ในเขตวนอุทยาน เนื้อโดโลไมต์ช้ันหนาถึงไม่แสดงชั้น พบหินทรายและ เขานางพันธุรัต ตำ�บลเขาใหญ่ อำ�เภอชะอำ� มีลักษณะ หินดินดานแทรกช้ันบ้าง ภายในเน้ือหินปูนมักพบ ทางภูมิทัศน์เป็นประติมากรรมทางธรรมชาติท่ีสวยงาม ซากดึกดำ�บรรพจ์ ำ�พวกฟวิ ซูลินิด แบรคิโอพอด ปะการงั และเป็นเอกลักษณ์ มองดูคล้ายนางยักษ์พันธุรัตนอนอยู่ แอมโมนอยด์ และไครนอยด์ หนิ ปนู ดงั กลา่ วเกดิ จากการ โดยมีโกศอยู่ทางทิศใต้ และปลายเท้าหันไปทางทิศเหนือ สะสมตวั ของตะกอนคารบ์ อเนตในทะเลชว่ งยคุ เพอรเ์ มยี น ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเท่ียวที่สำ�คัญและเป็นสัญลักษณ์ ตอนกลาง ภายหลังการสะสมตะกอน เปลือกโลก ของจังหวัดเพชรบุรี ได้เคลื่อนตัวและเกิดการคดโค้งโก่งงอ ส่งผลให้แอ่ง ตะกอนดังกล่าวถูกยกตัวขึ้นมาโผล่พ้นระดับนํ้าทะเล ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด กลายเป็นเทือกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ต่อมาน้ําฝน ได้ทำ�หน้าที่ชะล้างละลายสารแคลเซียมคาร์บอเนต ในหนิ ปนู ออกทลี ะนอ้ ยจนเกดิ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศสงู ตา่ํ หยักแหลม เปน็ เขานางพนั ธรุ ตั ในปัจจุบัน PHETCHABURI The N-S oriented and 3 km long Limestone of Nang Phanthurat Mountain is a part of Permian Ratburi Limestone located in Nang Phanthurat Forest Park, Khao Yai Subdistrict, Cha-am District. It exhibits a beautiful and unique natural sculpture of landscape that its shape as seen from the east side looks like a sleeping female 56 giant, Nang Phanthurat (a character from “Sang Thong”, a famous Thai literature). The famous Limestone of Nang Phanthurat Mountain, the important tourism site of the province, is thus the geological symbol of Phetchaburi.
จังหวัดเพชรบรู ณ์ ซากดกึ ดำ�บรรพป์ ะการงั ซากดึกดำ�บรรพ์ปะการังมีรูปทรงโดดเด่นเป็นกอช่อ สวยงามและเป็นลักษณะท่ีหายาก ใช้เป็นหลักฐานบ่งบอกอายุ และสภาพการเกิดสะสมตัวในบรรพกาล พบบริเวณอำ�เภอ ชนแดน จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ตอ่ เนอ่ื งไปทางอำ�เภอเนนิ มะปราง จังหวดั พิษณโุ ลก ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั เม่ือประมาณ ๓๔๐ ล้านปีก่อน พื้นแผ่นดินของเพชรบูรณ์ เป็นทะเลตื้น สภาพภูมิอากาศเป็นแบบร้อนช้ืน มีการสะสมตัวของ ตะกอนโคลนและทรายเป็นส่วนใหญ่ บางบริเวณน้ําทะเลใสและสงบ ต่อเนื่องอย่างยาวนาน มีปะการังและสัตว์น้ําอื่นๆ อยู่ทั่วไป เกิดเป็น หินปูนชั้นหนาท่ีมีซากดึกดำ�บรรพ์หลายชนิดปะปนอยู่ด้วยโดยเฉพาะ ซากปะการัง หลังจากน้ันเกิดการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลก อีกหลายคร้ัง แผ่นดินยกตัวข้ึนเป็นภูเขาและมีการสึกกร่อนของช้ันหิน กลายเปน็ เทอื กเขาหนิ ปนู ทม่ี ที วิ ทศั นส์ วยงาม และเปน็ หนิ ปนู คณุ ภาพดี ดงั ทป่ี รากฏในปจั จบุ นั หนิ ปนู ดงั กลา่ วเปน็ สว่ นหนง่ึ ของหมวดหนิ ผานกเคา้ PHETCHABUN 57 Unique and rare Coral Reef Fossils with outstanding beautiful shape of cluster occur in Chon Daen District with its extending toward Noen Maprang District, Phitsanulok Province. This fossil formed during the sedimentation of Pha Nok Khao Limestone Formation deposited about 340 million years ago. After the area was uplifted and eroded, it exhibits a beautiful mountain landscape with limestone of good quality.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั แพร่ แรว่ ุลแฟรม บริเวณดอยโง้ม บ้านปนิ อำ�เภอลอง เคยเปน็ แหล่งแร่ วลุ แฟรมและแรพ่ ลวงแหลง่ ใหญข่ องประเทศ แรว่ ลุ แฟรมนำ�ไป ใช้ในอุตสาหกรรมผสมเหล็กให้มีความแข็งแกร่ง ทำ�อุปกรณ์ ไฟฟา้ สว่ นแร่พลวงใชใ้ นอตุ สาหกรรมโลหะผสม แร่วุลแฟรม ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของ จงั หวัดแพร่ ธรณีวิทยา แหล่งแร่ท่ีดอยโง้ม อำ�เภอลอง เป็นแร่วุลแฟรม และแรพ่ ลวง แรส่ ว่ นใหญเ่ ปน็ วลุ แฟรมชนดิ ferberite สดี ำ� อมนา้ํ ตาล ผวิ วาวกง่ึ โลหะถึงแบบยางสน ติดแม่เหล็กแรง มีผลึกเป็นแผ่นซ้อนกันเป็นชั้น แร่พลวงพบน้อยกว่าและ เป็นชนิด stibnite สีขาวผิววาวแบบไข่มุก มีผลึกเป็นแท่ง สายแร่เกิดแทรกตามแนวแตกของรอยเล่ือนขึ้นมาใน หินโคลน หินทรายแป้งของหมวดหินวังชิ้น หินท่ีนำ�นํ้าแร่ ขน้ึ มาคอื หนิ แกรนติ ยคุ ไทรแอสซกิ ตอนปลาย บางสว่ นของ นํ้าแร่ที่สะสมตัวในโพรงของหินกรวดเหลี่ยมจะพบเป็น ผลึกแรท่ สี่ วยงาม PHRAE A large wolframite (ferberite) and stibnite deposit of the country is located around Doi Ngom area in Ban Pin, Long District. The ore occur as hydrothermal vein along fault planes that cut through mudstone and sandstone beds of Wang Chin Formation. 58 The source rock is granite of the late Triassic period. Wolframite is widely used in steel and electronic industries whereas stibnite is utilized in alloy industry. Due to its importance, wolframite is chosen to be the geological symbol of Phrae Province.
จังหวดั ภเู ก็ต ทรายชายหาดภเู ก็ต ทรายชายหาดภูเก็ตเป็นทรายที่เกิดจาก การผุพังสลายของหินแกรนิตของตัวเกาะภูเก็ต ผ่าน กระบวนการชะล้างจากกระแสนํ้าและคลื่น ทำ�ให้ ไดห้ าดทรายทข่ี าวและสวยงาม บรเิ วณน้ยี ังเป็นแหล่ง สะสมตวั ของแรด่ บี กุ และแรห่ ายากดว้ ย แตใ่ นปจั จบุ นั ทรายชายหาดภูเก็ตเป็นพื้นท่ีท่องเท่ียวท่ีสำ�คัญของ ประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเท่ียวมาชมความงาม ของทรายชายหาดภูเกต็ เปน็ จำ�นวนมาก ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั เกาะภเู กต็ ประกอบดว้ ยหนิ ๒ ประเภทใหญๆ่ คอื หนิ แกรนติ บริเวณดา้ นตะวันตกของตวั เกาะ เป็นแหล่งกำ�เนดิ ของหาดทราย ท่ีสวยงามทั้งหลายของภูเก็ต และหินโคลนและหินทรายบริเวณ ดา้ นตะวนั ออกของตวั เกาะ เปน็ หาดหนิ ทแี่ สดงชน้ั หนิ โผลใ่ หเ้ หน็ สวยงาม หนิ แกรนติ บรเิ วณนย้ี งั เปน็ ตน้ กำ�เนดิ ของแรด่ บี กุ โดยใน อดตี จงั หวดั ภเู กต็ รวมทงั้ พน้ื ทใ่ี นทะเลเคยเปน็ แหลง่ ผลติ แรด่ บี กุ แหลง่ ใหญข่ องประเทศ ทรายชายหาดภเู กต็ มที รายแกว้ ทเี่ กดิ จาก การผุพังสลายตัวของหินแกรนิต ผลจากอิทธิพลของกระแสน้ํา และคลื่นลมทำ�ให้ทรายชายหาดส่วนใหญ่เหลือส่วนประกอบเป็น แรค่ วอตซส์ ขี าว ซง่ึ เปน็ แรท่ คี่ งทนตอ่ การสกึ กรอ่ นไดด้ ที สี่ ดุ เกดิ แนว สันดอนทรายเป็นแหล่งสะสมทรายแก้วได้อย่างดี บางบริเวณ จะมีทรายสีดำ�ท่ีมีสารอินทรีย์จำ�พวกรากพืชและซากไม้ทับถมอยู่ ดา้ นบน หนาประมาณ ๑ เมตร PHUKET 59 The Phuket White Sandy Beach is a product of the weathering, erosion and transportation caused by water current and waves resulting in beautiful white sandy beach. The area is also a deposit site for tin and rare earth minerals. The source rock of white sand and minerals mentioned is granite located along the western side of the island. As one of the most important tourism sites of the country where a great number of tourists come to admire its beauty, Phuket White Sandy Beach is thus the geological symbol of the province.
จงั หวัดมหาสารคาม เกลือหนิ มหาสารคาม จังหวัดมหาสารคามมีขุมทรัพย์เกลือหินมหึมาอยู่ใต้ดิน เป็นที่มาของช่ือหมวดหินมหาสารคาม มีอุตสาหกรรมผลิต เกลือสินเธาว์หลายแห่ง นำ�ไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและ ในอุตสาหกรรมเคมี เช่น โซดาแอช โซเดียมไบคาร์บอเนต คอสติกโซดา ทำ�กรดเกลือและคลอรีน เกลือหินมหาสารคาม เป็นตัวแทนทรพั ยากรธรณสี ัญลกั ษณ์ของจงั หวดั มหาสารคาม MAHA SARAKHAMท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ิทยา Maha Sarakham Rock salt represents the geological symbol of Maha Sarakham Province. The tremendous amount of rock salt deposit is underneath the area of ตามมาตรฐานลำ�ดับช้ันหินกำ�หนดให้ชั้นเกลือหินและ the province. Rock salt and associated minerals include gypsum and a group แร่โพแทชท่ีมีหินโคลนและหินทรายแป้งแทรกสลับจัดอยู่ใน of Potassium-Magnesium and Calcium Chlorite salts deposited as a result of หมวดหินมหาสารคาม ชั้นเกลือหินพบต่อเน่ืองท่ัวไปใต้ผิวดิน evaporation of sea water in the closed basin. The deposition occurred along ของอีสาน เกิดจากการตกตะกอนสะสมตัวจากการระเหย ของน้ําเค็มในแอ่งปิดอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เม่ือความ 60 with mudstone and siltstone interbedded to form an important rock unit that เขม้ ขน้ ของนาํ้ เกลอื มากขนึ้ เกลอื แรท่ อ่ี ยใู่ นนา้ํ จะเรมิ่ ตกตะกอน named after the province “Maha Sarakham Formation”. เปน็ ชนั้ ๆ เรม่ิ จากแรย่ ปิ ซมั แรเ่ กลอื หนิ และกลมุ่ แรโ่ พแทสเซยี ม แมกนีเซียม และแคลเซียมคลอไรต์ เกลือหินมีสีขาวใส โปร่งแสง ผลึกเป็นรูปลูกบาศก์หรือเป็นเม็ดสมานแน่นและมี รสเค็ม สำ�หรับแร่โพแทชเป็นช่ือกลุ่มแร่ มีแร่หลายชนิด เช่น แร่ซิลไวต์ มีสีขาวขุ่นแบบเทียนไข แร่คาร์นัลไลต์ มีสีชมพู สีขาวใส สีส้ม แร่แทชีไฮไดรด์ เย้ิมละลายในอากาศได้ง่าย มสี เี หลอื ง สสี ม้ สขี าว พนื้ ทท่ี ม่ี เี กลอื หนิ อยใู่ ตด้ นิ จะมคี ราบเกลอื ละลายนา้ํ ซมึ ขน้ึ มาบนดนิ ใหเ้ หน็ เปน็ คราบสขี าว ทำ�ใหเ้ กดิ ดนิ เคม็ ทไ่ี ม่เหมาะกับการเพาะปลูก แต่บางแห่งใชท้ ำ�นาเกลอื ได้
จงั หวัดมกุ ดาหาร หินทรายภูผาเทบิ ภูผาเทิบอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ ตำ�บลนาสีนวน อำ�เภอเมืองมุกดาหาร เป็น ประตมิ ากรรมทางธรรมชาตทิ ส่ี วยงามของหนิ ทราย ทีเ่ รยี งซ้อนทับกนั มีรูปทรงแปลกตาท้งั รปู หินจระเข้ มงกุฎ เก๋งจีน จานบิน และหินบางก้อนมีรูปทรง คล้ายเพิงผาที่กันแดดกันฝนได้ ภาษาถ่ินเรียก ลักษณะเช่นน้ีว่า “เทิบ” หินทรายภูผาเทิบจึงเป็น ทรัพยากรธรณสี ัญลักษณข์ องจงั หวดั มกุ ดาหาร ธรณวี ทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินทรายภูผาเทิบตามมาตรฐานลำ�ดับช้ันหินของ ประเทศ จัดอยู่ในหมวดหินภูพาน กลุ่มหินโคราช อายุ ประมาณ ๑๑๐ ล้านปี บริเวณภูผาเทิบเป็นกลุ่มชั้นหิน แสดงรูปร่างลักษณะต่างๆ เกิดจากกระบวนการผุพัง สึกกร่อนตามธรรมชาติของช้ันหินที่มีความทนทานต่อ การผุพังไดไ้ ม่เทา่ กนั โดยมีน้ํา ลม และสภาพภมู อิ ากาศ เปน็ ตวั เรง่ ทำ�ใหห้ นิ ผพุ งั เรว็ ขน้ึ หนิ ทรายภผู าเทบิ มสี ขี าวขนุ่ สีน้ําตาลแกมแดง เน้ือเม็ดทรายมีขนาดปานกลางถึง หยาบ และมักมชี น้ั บางๆ ของก้อนกรวดขนาดเล็กปะปน อยดู่ ว้ ย จะทนต่อการผุพังได้ดีกวา่ จงึ มีรปู ทรงยืน่ ออกมา เปน็ เพงิ ผาหรอื เทบิ ในขณะทส่ี ว่ นทโ่ี คง้ เวา้ เปน็ หนิ ทรายแปง้ จะมีเนื้อละเอยี ดกวา่ และความคงทนน้อยกวา่ MUKDAHAN 61 Phu Pha Thoeb Sandstone located in Phu Pha Thoeb National Park, Na Si Nuan Subdistrict, Mueang Mukdahan District is the geological symbol of Mukdahan Province. It is a beautiful natural sculpture made of sandstone beds of Phu Phan Formation, Khorat Group. Differential weathering and erosion process have shaped the Phu Pha Thoeb landscape to various figures that are similar to a number of features such as a crocodile, a crown, a Chinese pavilion, a space craft, etc. Some of these figures can be used as a shelter that provides a cover from sunlight and rain, referred to as “Thoeb” in the local word.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวัดแม่ฮ่องสอน แรฟ่ ลอู อไรต์ จังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นพ้นื ท่ที ่มี ีการ ผลิตแร่ฟลูออไรต์มากในอดีต และปัจจุบัน มแี หลง่ ศกั ยภาพทางแรอ่ ยทู่ แ่ี หลง่ แรห่ ว้ ยยะ อำ�เภอปาย และแหลง่ แรแ่ มล่ าหลวง อำ�เภอ แมล่ านอ้ ย แรฟ่ ลอู อไรตจ์ งึ ถกู เลอื กใหเ้ ปน็ ทรพั ยากรธรณสี ญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ธรณีวิทยา แร่ฟลูออไรต์เกิดได้หลายแบบ เช่น แบบสายแร่นํ้าร้อนแทรกผ่าน ตามรอยแตกในหินแกรนิตหรือในช่องว่างของหินปูน หินโดโลไมต์ และแบบ แทนทใ่ี นหินชนดิ อ่นื เชน่ หนิ ปูน หนิ ดนิ ดาน และหนิ ทราย แร่ฟลูออไรต์ในทาง การค้าอาจเรียก “ฟลูออร์สปาร์” มีความแข็งน้อย ถูกขูดขีดเป็นรอยได้ง่าย บางครั้งจึงเรียกว่า “พลอยอ่อน” มีเนื้อโปร่งแสงถึงโปร่งใส มีสีต่างๆ เช่น ม่วง เขียว เหลือง และมักพบเป็นผลึกแบบลูกเต๋าหรือเป็นมวลมีแนวแตกเรียบ มีประโยชน์ใช้เป็นฟลักซ์ในการถลุงโลหะหลายชนิด ใช้ทำ�กรดเกลือ และใช้ใน อุตสาหกรรมอนื่ ๆ อกี หลายประเภท MAE HONG SON Fluorite, sometimes referred to as “fluorspar”, usually occurs in hydrothermal vein in granite, limestone and dolomite or a replacement in limestone, shale and sandstone. Fluorite is utilized as a flux in smelting and various industries. Mae Hong Son Province used to be an area where high amount of fluorite had been extracted. Presently, high mineralized 62 potential area is located at Huai Ya deposit, Pai District, and Mae La Luang deposit, Mae La Noi District. Its importance has made fluorite a geological symbol of Mae Hong Son Province.
จังหวดั ยโสธร หินทรายภูถ้ําพระ วดั ภถู าํ้ พระ บา้ นหนิ โหงน่ ตำ�บลกดุ แห่ อำ�เภอเลงิ นกทา เปน็ สถาน ปฏิบัติธรรมท่ีมีช่ือเสียง เป็นเนินเขาลูกโดดที่มีความสูงจากท่ีราบประมาณ ๓๐ เมตร มลี านหนิ ทมี่ หี นิ รปู ทรงแปลกตามากมาย เปน็ แอง่ นา้ํ เพงิ ถาํ้ เปน็ ที่ ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำ�นวนมาก รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของภูแผงม้า และภผู าผ้งึ ทางดา้ นตะวันออกไดช้ ดั เจน หนิ ทรายภูถา้ํ พระ บริเวณลานหิน ในวดั เปน็ สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ยโสธรนอกจากนย้ี งั พบเปน็ ลานหนิ ตามเนนิ เขา ในเขตอำ�เภอไทยเจริญ อำ�เภอกุดชุม และอำ�เภอเลงิ นกทา ธรณีวิทยา YASOTHON ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Phu Tham Phra Temple, Ban Hin Ngone, Kut Hae Subdistrict, Loeng Nok Tha District ภูถ้ําพระตามมาตรฐานลำ�ดับชั้นหิน is a famous place for Dhamma practicing. It is an isolated hill with an approximate 63 ของประเทศ จัดเป็นส่วนหนึ่งของหมวดหิน height of 30 meters above its flat base. On the rocky platform, there are rocky figures พระวิหาร กลุ่มหินโคราช ประกอบด้วยหินทราย of various strange shapes to one’s view including small puddles, as well as a number และหินทรายปนกรวด สีขาว เทาขาว เน้ือหินละเอียด of rock shelters where a large number of Buddha images were enshrined. One may ถึงหยาบ และมีหินทรายแป้งแทรกสลับชั้นบ้าง find locations of scenic viewpoint overlooking the eastern sides of Phu Phaeng Ma เปน็ ชนั้ หนิ ทต่ี กตะกอนบนแผน่ ดนิ ตามทางนา้ํ ประสาน and Phu Pha Phueng. As a part of Phra Wihan Formation of the Khorat Group, the สายโบราณ เมื่อประมาณ ๑๓๐ ล้านปีกอ่ น ตอ่ มาเมอ่ื White Phu Tham Phra Sandstone is the geological symbol of Yasothon Province. ประมาณ ๕๕ - ๔๐ ล้านปที ผี่ ่านมา เกดิ การเคล่อื นตวั Other similar features of rocky platform may also be found in Thai Charoen, Kut Chum ของแผ่นเปลือกโลก ส่งผลให้แผ่นดินบริเวณน้ียกตัว and Loeng Nok Tha Districts. สูงข้ึน หลังจากน้ันเกิดการกัดเซาะผุพังของชั้นหิน ตามธรรมชาติ ชน้ั หนิ บรเิ วณรอยแตกจะผพุ งั ไดเ้ รว็ กวา่ ปกติ รวมท้ังหินแต่ละชนิดก็มีความทนทานต่อการ สึกกร่อนไม่เท่ากัน ทำ�ให้เกิดลักษณะภูมิประเทศเป็น ภูเขาลูกโดดและมีช้ันหินรูปทรงโค้งเว้าแสดงลวดลาย สวยงามของช้นั หินและชน้ั เฉยี งระดับดังในปจั จุบัน
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั ยะลา หนิ ออ่ นยะลา หินอ่อนยะลามีเนื้อละเอียดสีชมพู เป็นหินอ่อน ท่ีมีชื่อเสียงมาก มีความสวยงามและลักษณะโดดเด่น เป็น หนิ ออ่ นทมี่ เี นอื้ แรเ่ หลก็ ออกไซดห์ รอื แรฮ่ มี าไทตป์ นในเนอ้ื หนิ ทำ�ให้แสดงสีของแร่มลทินออกมา พบบริเวณภูเขากำ�ป่ัน เขตตำ�บลหนา้ ถํ้า อำ�เภอเมอื งยะลา ธรณีวทิ ยา หินอ่อนในประเทศไทยส่วนใหญ่ มีการเกิดสัมพันธ์กับความร้อนที่ได้จาก การแทรกตัวขึ้นมาของหินแกรนิตในระดับ ลกึ มากใตผ้ วิ ดนิ หนิ ออ่ นยะลาเกดิ จากการ แปรสภาพของหินปูนของกลุ่มหินราชบุรี ในยุคเพอร์เมียนตอนกลาง หรือประมาณ ๒๖๕ ล้านปีก่อน ตามบริเวณแนวแปร สัมผัสกับหินแกรนิตยุคไทรแอสซิก ทำ�ให้ หินปูนเกิดการหลอมละลายและตกผลึก ใหม่ของแร่แคลเซียมคาร์บอเนตให้มีผลึก ท่ใี หญ่ขึน้ กลายเปน็ หินอ่อนในปัจจุบัน YALA Fine-grained pink marble of Yala has long been famous from its beauty and uniqueness. Yala Marble was formed as a result of contact metamorphism occurred along the contact zone between the Permian limestone of Ratburi 64 Group and the Triassic Granite. The presence of Iron oxide or hematite in the rock texture as an impurity contributes to its pinkish color. Yala Marble is found along Kam Pan Hill in Na Tham Subdistrict, Mueang Yala District.
จังหวดั รอ้ ยเอด็ หอยนํา้ จืดโพนข้นี ก โพนข้ีนกเป็นซากหอยอัดตัวแน่น พบบริเวณทุ่งกุลา ร้องไห้ โพนครกน้อย ตำ�บลสระคู อำ�เภอสุวรรณภูมิ จังหวัด รอ้ ยเอด็ ซงึ่ มเี รอื่ งเลา่ วา่ บรเิ วณทงุ่ กลุ ารอ้ งไหเ้ คยเปน็ ทะเลสาบ มาก่อน ต่อมาเกิดการทะเลาะกันของเมืองท่ีอยู่ริมทะเลสาบ พญานาคจงึ บนั ดาลใหท้ ะเลสาบแหง้ เหอื ด บรรดาสตั วน์ า้ํ ตา่ งๆ นน้ั ตายหมด เน่าเหมน็ คลุง้ ฟ้าไปถงึ พระนาสกิ ของพระอนิ ทร์ พระอินทร์จึงให้นกอินทรีสองผัวเมียมากินซากสัตว์ท่ีตาย ให้หมด นกอนิ ทรกี นิ ซากสตั ว์อยูเ่ ปน็ เวลาครงึ่ เดอื นและได้ ถา่ ยมลู ทง้ิ ไวเ้ ปน็ กองใหญม่ ากปรากฏอยทู่ ก่ี ลางทงุ่ กลุ ารอ้ งไห้ เรียกวา่ “โพนขีน้ ก” หรือ “โพนขนี้ กอินทรี” ในทุกวันนี้ ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ซากหอยโพนข้ีนกประกอบด้วยซากหอย หลายชนิดมีทั้งหอยขมนํ้าจืดประเภทท่ีมีฝาเดียว สกุล Viviparus และหอยกาบประเภทท่ีมีสองฝาสกุล Cardiidae เกาะจับตัวกันแน่นเป็นช้ันหนาต้ังแต่ ๑๐ - ๓๐ เซนติเมตร ซึ่งสะสมตัวตามแอ่งน้ําหรือ ทะเลสาบยุคโฮโลซนี เมอื่ ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ปกี ่อน ROI ET 65 Phon Khi Nok is made of compacted pieces of freshwater shells located in Thung Kula Rong Hai, Phon Khrok Noi, Sa Khu Subdistrict, Suwannaphum District, Roi Et Province. These compacted shells comprise various types of shells including mainly of mollusks of Viviparus family and cockle (bivalve) of Cardiidae family. These shells aggregated and packed into a thick bed of 10 - 30 cm occurred along the pond or lake existed during the Holocene time approximately 10,000 years ago. Phon Khi Nok Fresh Water Shells represents the geological symbol of Roi Et Province.
จงั หวดั ระนอง ดินขาวหาดส้มแป้น ดนิ ขาวหาดสม้ แปน้ เปน็ ดนิ ขาวคณุ ภาพสงู ทใ่ี ชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ ในการจัดทำ�เซรามิกและเคร่ืองสุขภัณฑ์ของบริษัทช้ันนำ�ของไทย และต่างประเทศ เนื่องจากมีความขาวและมีความละเอียดมาก นอกจากนย้ี งั นำ�ไปใชใ้ นงาน OTOP ในพน้ื ทอ่ี กี ดว้ ย พบตามเชงิ เขา หินแกรนิตทางทิศตะวันออกของตัวเมืองระนอง ครอบคลุมพื้นท่ี กว่า ๒๐ ตารางกิโลเมตร บริเวณบ้านหาดส้มแป้น-บ้านทุ่งคา ตำ�บลหาดส้มแปน้ อำ�เภอเมืองระนอง ซง่ึ เป็นพนื้ ที่ทำ�เหมืองดบี ุก/ ทงั สเตนเดมิ ดนิ ขาวหาดส้มแปน้ จึงเป็นทรัพยากรธรณีสญั ลักษณ์ ประจำ�จงั หวัด ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดRANONG ธรณีวิทยา Hat Sompaen Kaolinite, the geological symbol of Ranong Province, is a very fine white-grained high quality kaolinite. It is used as raw materials for the manufacturing ดินขาวหาดส้มแป้นเป็นดินขาวที่เกิดแบบผุพัง of ceramics and sanitary ware of the leading companies in Thailand and abroad. อยกู่ บั ทขี่ องหนิ แกรนติ โดยกระบวนการสารละลายนา้ํ รอ้ น It is also used for the production of OTOP’s goods. Kaolinite is a product of the เริ่มจากการแทรกตัดของสายควอตซ์ แอพไลต์ และ weathering process on granite thus most deposits are located along the granite เพกมาไทต์ เข้ามาในหินแกรนิตยุคครีเทเชียส ส่งผลให้ เน้ือหินแกรนิตผุพัง เกิดกระบวนการเปล่ียนเป็นแร่ดิน 66 foothills around the area of Ban Hat Sompaen-Ban Thung Kha, Hat Sompaen หรือ Kaolinization โดยแร่อัลคาไลเฟลด์สปาร์ท่ีเป็นแร่ Subdistrict, Mueang Ranong District, covering an area of approximately ประกอบหลักในเนื้อหินเปลี่ยนสภาพเป็นแร่เคโอลิไนต์ 20 square kilometers. ทำ�ใหเ้ กิดช้นั ดนิ ขาวชน้ั หนาปกคลมุ พน้ื ทดี่ งั ปจั จบุ นั
จังหวัดระยอง ทรายแก้ว จังหวัดระยองเป็นแหล่งทรายแก้วที่ใหญ่แห่งหนึ่งของ ประเทศ พบตามชายหาดเก่าริมทะเล ใช้ประโยชน์มากใน อตุ สาหกรรมแกว้ และกระจก เครอ่ื งปนั้ ดนิ เผา และเปน็ ผงขดั สนมิ เหล็ก ทรายแก้วเปน็ ทรัพยากรธรณสี ญั ลักษณข์ องจงั หวัดระยอง ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ทรายแก้วคือทรายท่ีสะอาด มีส่วน ประกอบของแร่ควอตซ์ท่ีมีเปอร์เซ็นต์ของซิลิกา มากกวา่ รอ้ ยละ ๙๕ และมีเปอรเ์ ซ็นต์ของเหลก็ ตํา่ ส่วนใหญ่เป็นเม็ดทรายละเอียด มีการคัดขนาด ดีมาก มีความมนดี สีขาวใส ทรายแก้วส่วนใหญ่ ผุพังมาจากหินท่ีมีแร่ควอตซ์เป็นส่วนประกอบ หลกั เชน่ หินแกรนิต และจากกระบวนการชะลา้ ง ตามธรรมชาติโดยกระแสน้ํา คลื่นและลม หินและ แร่จะค่อยๆ ผุพังสลายไป และสุดท้ายจะเหลือ แร่ควอตซ์ซ่ึงมีความคงทนต่อการผุพังมากกว่าแร่ และหินชนิดอ่นื ลมจะเป็นตวั จกั รสำ�คญั ท่ีชว่ ยคดั ขนาดของเม็ดทรายและพัดไปสะสมตัวเป็นแหล่ง ทรายแกว้ ในปจั จุบัน RAYONG 67 One of the largest silica sand deposits is located along the old sandy beach of Rayong Province. Silica sand, consisting mostly of quartz with silica oxide content higher than 95 percent and very low iron content, is widely used in various industries: glass, mirror, ceramics and rust removal abrasive material. It is usually well sorted with good roundness, white to transparent. Silica sand is a product of weathering and erosion process with the work of water current, waves and wind. As an important geological resource of the province, Silica Sand is therefore the geological symbol of the province.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวัดราชบุรี แร่เฟลด์สปาร์ จังหวัดราชบุรีมีการผลิตแร่เฟลด์สปาร์ซึ่งเป็น วัตถุดิบท่ีจำ�เป็นในอุตสาหกรรมเซรามิก โดยเฉพาะ โพแทสเซียมเฟลด์สปาร์บดท่ีใช้ในการผลิตเซรามิก คุณภาพสูง พบบริเวณอำ�เภอสวนผ้ึง อำ�เภอจอมบึง กง่ิ อำ�เภอบา้ นคา แรเ่ ฟลดส์ ปารไ์ ดร้ บั การคดั เลอื กใหเ้ ปน็ ทรพั ยากรธรณีสญั ลักษณข์ องจังหวดั ราชบุรี ธรณีวทิ ยา พื้นท่ีชายแดนด้านตะวันตกของอำ�เภอสวนผ้ึง ประกอบด้วยหินไบโอไทต์แกรนิต เน้ือสองขนาด อายุ ๘๐ - ๕๕ ลา้ นปี เปน็ หนิ ทีเ่ กดิ รว่ มกบั แรด่ บี กุ และทงั สเตนแรเ่ ฟลดส์ ปารเ์ ปน็ ชอ่ื รวมประกอบดว้ ย แร่หลายชนิด โดยท่ัวไปมีผลึกเป็นรูปแบน มักเกิดเปน็ ผลกึ แฝด มีสีขาวถงึ สีเขม้ วาวแบบ แกว้ และแบบมกุ เปน็ แรป่ ระกอบหนิ ทส่ี ำ�คญั ของหินอัคนี แบ่งตามส่วนประกอบออกเป็น โ พ แ ท ส เ ซี ย ม เ ฟ ล ด์ ส ป า ร์ แ ล ะ โ ซ เ ดี ย ม เฟลด์สปาร์ ซึ่งจะพบทั้งสองชนิดในพ้ืนที่ สวนผึ้ง ในสายเพกมาไทต์ส่วนใหญ่เป็น แรโ่ พแทสเซียมเฟลดส์ ปาร์ พบตดั เข้าไป ในหินท่ีแกก่ วา่ หรือหินแกรนติ RATCHABURI Feldspar is being produced in Ratchaburi Province as raw material necessary for ceramic industry, especially potassium feldspar powder used in high quality ceramic production. Feldspar is present in porphyry 68 biotite granite as well as pegmatite veins found in Suan Phueng and Chom Bueng Districts and Ban Kha Sub-district. Feldspar is thus selected as the geological symbol of Ratchaburi Province.
จังหวัดลพบรุ ี หินภเู ขาไฟเพอร์ไลต์ จังหวัดลพบุรีเป็นแหล่งหินภูเขาไฟท่ีเกิดปะทุขึ้นมา ในสมัยบรรพกาล หินเพอร์ไลต์เป็นหินภูเขาไฟชนิดหนึ่ง ท่ีมีประโยชน์หลากหลาย เช่น ใช้เป็นสารปรับปรุงดินเพื่อ การเกษตร ใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างและอุตสาหกรรม เครอื่ งกรอง พบในหลายบริเวณ เช่น เขาฝาละมี เขาถาํ้ พระ อำ�เภอสระโบสถ์ และอำ�เภอโคกเจรญิ หินภเู ขาไฟเพอร์ไลต์ เปน็ ทรพั ยากรธรณีสัญลกั ษณข์ องจังหวดั ลพบุรี ธรณวี ทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินภูเขาไฟเพอร์ไลต์มีส่วนประกอบทางเคมีเหมือนหิน ไรโอไลต์เนอื้ หนิ เปน็ แกว้ เกอื บทงั้ หมดอาจมผี ลกึ แรเ่ ฟลดส์ ปารแ์ ละ ไมกาปนบา้ ง หนิ เพอรไ์ ลตเ์ กดิ จากการเยน็ ตวั อยา่ งรวดเรว็ ของลาวา มหี ลายสตี ง้ั แตส่ ดี ำ�ถงึ สเี ขยี วออ่ น หลงั จากการเยน็ ตวั อยา่ งรวดเรว็ ของลาวา นํ้าท่ีถูกรวมเขา้ ไปในเนื้อหินเพอรไ์ ลตจ์ ะทำ�ให้เนอ้ื ในหนิ เพอรไ์ ลตเ์ กดิ การขยายตวั แลว้ แตกตวั เปน็ วงซอ้ นกนั คลา้ ยกลบี หอม พรอ้ มกบั มคี ณุ สมบตั สิ ะทอ้ นแสงคลา้ ยมกุ หนิ เพอรไ์ ลตจ์ ะขยายตวั เม่ือได้รับความร้อน หลังจากถูกเผาที่ระดับความร้อนท่ีเหมาะสม เนื้อภายในของหินเพอร์ไลต์จะเป็นรูพรุน นํ้าหนักเบา สามารถ ลอยน้ําได้ และเป็นฉนวนกันความร้อน ความเย็น และเสียงดัง ไดเ้ ปน็ อยา่ งดีอกี ทงั้ รพู รนุ ของหนิ เพอรไ์ ลตย์ งั เปน็ ตวั กรองไดอ้ กี ดว้ ย ดงั นัน้ หินเพอรไ์ ลตจ์ งึ ถูกนำ�มาใชใ้ นอตุ สาหกรรมต่างๆ มากมาย LOP BURI 69 Perlite is a volcanic glass having the same chemical composition with rhyolite. It is being used in construction and filtration industries, and also used to improve agricultural soil quality due to its high porosity. Perlite is found in a number of sites including Khao Falami, Khao Tham Phra, Sa Bot and Khok Charoen Districts. Perlite is the geological symbol of Lop Buri province.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั ลำ�ปาง ถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ เหมืองลิกไนต์แม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย อำ�เภอแม่เมาะ เป็นเหมืองเปิดขนาด ใหญ่ของทวีปเอเชีย มีกำ�ลังการผลิตถ่านหินมากกว่า ปีละ ๑๖ ล้านตัน และมีปริมาณสำ�รองของถ่านหิน มากที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีกำ�ลังผลิตกระแส ไฟฟ้า ๒,๔๐๐ เมกะวัตต์ ถ่านหินลิกไนต์แม่เมาะ คอื ทรพั ยากรธรณสี ัญลักษณข์ องจงั หวัดลำ�ปาง ธรณีวิทยา ลิกไนต์คือถ่านหินประเภทหนึ่ง มีสีน้ําตาลเข้มจนถึงดำ� มีความช้ืนสูง มีคาร์บอนประกอบอยู่ประมาณร้อยละ ๕๕ - ๖๕ โดยนํ้าหนัก และเมื่อนำ�ไปเผาจะให้ความร้อนต่ําประมาณ ๘,๓๐๐ บีทียูต่อปอนด์ ช้ันถ่านหินลิกไนต์ในแอ่งแม่เมาะมีทั้งหมด ๕ โซน ใหญ่ๆ เกิดจากการสะสมตัวของพืชหญ้าในบึงหรือทะเลสาบน้ําจืด ขนาดใหญ่ในยุคนีโอจีนหรือเมื่อประมาณ ๑๓ ล้านปีก่อน และ เกิดแทรกสลับในชั้นหินโคลนสเี ทาของหมวดหนิ นาแขมท่ีมคี วามหนา มากกว่า ๔๐๐ เมตร มีปริมาณสำ�รองของถ่านหินลิกไนต์เหลืออยู่ อีกประมาณ ๑,๐๔๗ ล้านตัน ช้ันหินในแอ่งแม่เมาะถูกรอยเลื่อน ตัดผ่านหลายแนว เป็นผลทำ�ให้ช้ันถ่านหินบริเวณขอบแอ่งถูกดึง ข้ึนมาใกล้ผิวดิน ในทางกลับกันช้ันถ่านหินบริเวณกลางแอ่งจะอยู่ ลึกใตผ้ ิวดิน LAMPANG With over 16 million tons annual production and the highest coal reserve of the country, the Electricity Generating Authority of Thailand’s (EGAT) Mae Moh lignite mine is the largest open-pit mine in Asia with its present electricity generating capacity of 2,400 megawatts. Lignite usually has carbon content between 55 - 65 percent by weight, with low heating value of 8,300 BTU per pound. Lignite was found interbedded with mudstone of Na Khaem 70 Formation deposited in large fresh-water swamp during the Neogene time or around 13 million years ago. Lignite beds were later cut by a series of faults. Mae Moh Lignite is the geological symbol of Lampang Province.
จังหวัดลำ�พูน ถา่ นหินซบั บิทูมินสั ลี้ ท่ตี ำ�บลล้แี ละตำ�บลดงดำ� อำ�เภอลี้ จังหวัดลำ�พนู เคยเป็นแหล่งสะสมตัวของถ่านหินซับบิทูมินัสแหล่ง ใหญ่และมีคุณภาพดีของประเทศ นำ�ไปเป็นเช้ือเพลิงใน อุตสาหกรรมปูนซเี มนตแ์ ละอุตสาหกรรมอ่ืนๆ มากมาย ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ซับบิทูมินัสเป็นถ่านหินประเภทหนึ่ง สีดำ�วาว มี คาร์บอนประกอบร้อยละ ๖๕ - ๘๐ มีความชื้นสูงแต่ นอ้ ยกวา่ ถา่ นหนิ ลกิ ไนต์ เมอื่ เผาจะใหค้ า่ ความรอ้ นระหวา่ ง ๘,๓๐๐ - ๑๓,๐๐๐ บีทียูต่อปอนด์ ถ่านหินซับบิทูมินัส เกิดจากการสะสมตัวของพืชยืนต้นยุคพาลีโอจีนหรือ เมื่อประมาณ ๔๐ ลา้ นปีกอ่ น ในบงึ และทะเลสาบนํ้าจดื ขนาดใหญ่ ผลจากการเคลอื่ นตวั ของเปลอื กโลกทำ�ใหข้ อบ แอ่งด้านตะวันออกของแอ่งลี้ท่ีมีช้ันถ่านหินอยู่ด้วย ยกตวั ขนึ้ มาใกลผ้ วิ ดนิ และบางบรเิ วณชนั้ ถา่ นหนิ โผล่ให้เห็นบนผิวดิน ชน้ั ถ่านหินเกดิ แทรกสลับ ในช้ันของหินโคลนสีเทา ซ่ึงบางส่วนเป็นหิน น้าํ มัน บางแห่งมถี ่านหนิ ชัน้ เดยี วหนา แตอ่ ีก บริเวณมีถ่านหิน ๒ ช้ัน บริเวณน้ีเคยมีเหมือง ถ่านหินหลายเหมอื ง LAMPHUN 71 The large and good quality sub-bituminous deposits were found and mined in Li and Dong Dam Subdistricts, Li District, Lamphun Province. Sub-bituminous coal usually contains approximately 65 - 80 percent of carbon content with heating value of 8,300 - 13,000 BTU per pound. This sub-bituminous formed as the deposition of perennials in fresh-water ponds or large lakes during the early Paleogene or around 40 million years ago. Sub-bituminous has been used as fuel source in cement and other industries. Li Sub-bituminous is the geological symbol of Lamphun Province.
จงั หวัดเลย แรเ่ หลก็ แร่เหล็กเป็นวัตถุดิบสำ�คัญในอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก และเหล็กกล้า และยังเป็นวัสดุสำ�หรับผงขัดมัน แร่เหล็กใน จังหวัดเลยพบมากบริเวณภูยางและภูเฮียะ อำ�เภอเชียงคาน บริเวณบ้านไร่ทาม บ้านติ้วน้อย อำ�เภอเมืองเลย และบริเวณ บา้ นปากปวน อำ�เภอวงั สะพุง LOEIท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ิทยา Iron minerals are important raw materials in iron and steel production industry, as well as material for polishing powder. Iron minerals found in Loei include แร่เหล็กคือแร่ที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ magnetite, specularite, hematite, goethite, and limonite. Most of these deposits หลัก ที่พบมากในจังหวัดเลยคือ แร่แมกนีไทต์ are either occurred as vein or sedimentary replacement types, with some แร่สเปกคูลาไรต์ แร่ฮีมาไทต์ แร่เกอไทต์ และแร่ contact metamorphism and placer deposits. Iron deposits are located in Phu ลิโมไนต์ ลักษณะโดยรวมของแร่ที่มีธาตุเหล็กเป็นหลัก Yang and Phu Hia, Chiang Khan District; Ban Rai Tham, Ban Tew Noi, Mueang จะหนัก มีสีสนิม คือ น้ําตาลเหลือง นํ้าตาลแดง นํ้าตาลดำ� วาวแบบโลหะ แมเ่ หลก็ มกั ดดู ตดิ ตง้ั แตแ่ รงมากจนถงึ ออ่ นขน้ึ กบั 72 Loei District; and Ban Pak Puan, Wang Saphung District. Due to its widely แร่แต่ละชนิด แร่แมกนีไทต์มีสีผงที่ขีดดูกับกระเบื้องไม่เคลือบ abundant, Iron Mineral is the geological symbol of Loei Province. เป็นสีดำ� ขณะท่ีแร่ฮีมาไทต์ให้สีแดงเลือดหมู แร่สเปกคูลาไรต์ มเี งาแบบโลหะวาววบั กวา่ แรเ่ หลก็ ชนดิ อน่ื สว่ นแรเ่ กอไทตม์ กั มี รูปร่างแบบพวงองุ่น สีแร่นํ้าตาลออกเหลือง แหล่งแร่เหล็ก ในจังหวัดเลยส่วนใหญ่มีกำ�เนิดแบบเป็นสายแร่ และเกิดแบบ แทนท่ีในช้ันหิน แต่ก็มีบางบริเวณที่เกิดแบบแปรสัมผัส บาง บรเิ วณหักผพุ งั ตกสะสมเปน็ ลานตามไหลเ่ ขาหรือเชิงเขา
จงั หวดั ศรสี ะเกษ หนิ ทรายมออีแดง ผามออีแดงเป็นลานหินทรายกว้างริมหน้าผา อยู่ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำ�เภอกันทรลักษ์ ติด เขตแดนไทย-กัมพชู า เป็นจุดชมทัศนียภาพทิวเขาพนมดงรกั แผ่นดินเขมรต่ํา และสามารถมองเห็นปราสาทพระวิหาร ซ่ึงอยู่ห่างออกไปทางด้านทิศใต้ประมาณ ๑ กิโลเมตร และบริเวณหน้าผาที่อยู่ต่ําลงไปจะมีภาพสลักหินนูนต่ํา ศิลปะเขมร พุทธศตวรรษท่ี ๑๕ หินทรายมออีแดง เป็นทรัพยากรธรณสี ญั ลักษณข์ องจังหวดั ศรสี ะเกษ ธรณีวิทยา SI SA KET ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Mo I-Daeng is a wide rock platform with high cliff located within Khao Phra Wihan บริเวณผามออีแดงและสระตราวประกอบด้วย National Park, Kantharalak District, along the Thai-Cambodia border. This is the 73 ชั้นหินทราย หินทรายปนกรวด หินกรวดมน สีขาว scenic view point of Phanom Dong Rak Mountain overlooking the lower Khmer สีเทาขาว เนื้อเม็ดตะกอนขนาดปานกลางถึงหยาบ region. From the same location, one may still see Phra Wihan Stone Sanctuary, which ช้ันหินวางตัวในแนวเกือบราบ เม็ดกรวดประกอบด้วย located approximately 1 km to the south. Further down at the base of the cliff, there ควอตซ์ เชิร์ตสีเทาและดำ� และหินควอร์ตไซต์ จัดอยู่ are a number of bas-reliefs belonging to Khmer art around 15th Buddhist Century. ในหมวดหินพระวิหาร กลุ่มหินโคราช ในยุคครีเทเชียส Sedimentary rocks of the area are those belong to Phra Wihan Formation, Khorat ตอนตน้ (Early Cretaceous ประมาณ ๑๓๐ ลา้ นปกี อ่ น) Group deposited during the early Cretaceous time or around 130 million years ago. ซึ่งเกิดจากการสะสมตะกอนในทางน้ําประสานสาย The Mo I-Daeng Sandstone is the geological symbol of Si Sa Ket Province. หลักฐานจากช้ันเฉียงระดับแสดงว่าทางน้ําโบราณ ทีก่ อ่ ให้เกดิ หนิ ทรายไหลไปทางทศิ ตะวนั ตก
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวดั สกลนคร หินทรายเทือกเขาภพู าน หินทรายเทือกเขาภูพานเป็นทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของ จังหวัดสกลนคร ไดม้ าจากบริเวณเทือกเขาภพู าน ซง่ึ เปน็ สถานทีต่ ง้ั ของ พระตำ�หนกั ภพู านราชนเิ วศน์ จงั หวดั สกลนคร เปน็ หนิ ทรายของกลมุ่ หนิ โคราชที่มคี วามแข็งแกร่ง เปน็ ตวั พยงุ โครงสรา้ งของเทอื กเขาภพู านใหม้ ี ความสงู เดน่ จนถงึ ปัจจบุ ัน ธรณีวทิ ยา เทือกเขาภูพานประกอบด้วยชั้นหินของ กลุ่มหินโคราช เช่น หินทรายแป้ง หินทราย และ หินกรวดมน ที่เกิดสะสมตัวบนบกในยุคจูแรสซิก- ครเี ทเชยี สหรอื ประมาณ๑๖๐-๑๐๐ลา้ นปที ผี่ า่ นมา ตอ่ มาเมอ่ื ประมาณ ๔๐ ลา้ นปกี ่อน แผน่ เปลือกโลก อินเดียเคล่ือนท่ีเข้าชนกับแผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย สง่ ผลทำ�ใหช้ น้ั หนิ เรม่ิ โกง่ ตวั ยกขน้ึ เปน็ แนวเทอื กเขา มีโครงสร้างหลักแบบรูปประทุน และต่อมาช้ันหิน เกิดการสึกกร่อนผุพังจากการกัดเซาะของนํ้าและ ลม จงึ มกั พบชนั้ หนิ ทรายซงึ่ มคี วามแขง็ และทนทาน ตอ่ การผพุ งั ไดด้ วี างตวั เปน็ สว่ นบนของยอดเขา เกดิ ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ หนา้ ผาและนาํ้ ตกทสี่ วยงาม SAKON NAKHON The Phu Phan Mountain Range Sandstone is the geological symbol of Sakon Nakhon Province. The mountain is where the Phu Phan Ratchaniwet Palace is situated. Phu Phan Mountain is underlain by sandstone of the Khorat 74 Group comprising siltstone, sandstone and conglomerate that deposited under the continental environment during the Jurassic - Cretaceous times or around 160 - 100 million years ago.
จังหวัดสงขลา หนิ ทรายเกาะยอ หินทรายเกาะยอเป็นหน่วยหินฐานรากที่รองรับ จังหวัดสงขลา พบโผล่เป็นเทือกเขาหรือเนินเขาต่อเน่ือง ในแนวเหนือ-ใต้ บริเวณพื้นที่รอบๆ แอ่งสงขลา เช่น ตาม แนวเทือกเขาน้ํากระจาย เทือกเขาคอหงส์ และเขานํ้าค้าง สำ�หรับชั้นหินท่ีโผล่ให้เห็นชัดเจนและเป็นสัญลักษณ์ของ จงั หวดั อยทู่ เ่ี กาะยอ ทะเลสาบสงขลาตอนนอก อำ�เภอเมอื ง สงขลา ธรณีวทิ ยา SONGKHLA ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั As a basement rock unit underlying the provincial area, the Ko Yo Sandstone is the หนิ ทรายเกาะยอมคี วามหนาประมาณ๑๕๐เมตร geological symbol of Songkhla Province. The rock continually crops out along the 75 เกิดจากการสะสมตัวในทะเลต้ืนท่ีมีสภาพการสะสม N-S trending around Songkhla basin, e.g. Nam Krachai, Kho Hong and Nam Khang ตะกอนที่ค่อนข้างรุนแรง ในยุคคาร์บอนิเฟอรัส Mountains. Ko Yo Sandstone is approximately 150 meters thick deposited under high ตอนต้นหรือประมาณ ๓๕๐ ล้านปีก่อน ตาม energy environment during the early Carboniferous period or around 350 million ม า ต ร ฐ า น ก า ร แ บ่ ง ลำ� ดั บ ชั้ น หิ น ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ years ago. The typical outcrop is located at Ko Yo in the outer part of Songkhla Lake, จัดเป็นส่วนหน่ึงของหมวดหินยะหา ท่ีมีส่วนล่าง Mueang Songkhla District. เป็นหินดินดานสีดำ� ส่วนกลางเป็นหินดินดาน ช้ั น บ า ง ส ลั บ กั บ หิ น เ ชิ ร์ ต ท่ี พ บ ซ า ก เ ร ดิ โ อ ล า เ รี ย และส่วนบนซ่ึงเป็นส่วนท่ีพบมากที่สุดคือหินทราย เกาะยอ ประกอบด้วยหนิ ทรายเนื้อซลิ กิ า เม็ดละเอียด สีขาวถึงเทาเหลือง เป็นชั้นดี ต่อมามีการปะทะกัน ของแผ่นเปลือกโลก เกิดการแทรกดันของหินแกรนิต ยุคไทรแอสซิก ส่งผลให้แอ่งตะกอนดังกล่าวยกตัว และคดโค้งโก่งงอกลายเป็นเทือกเขาในแนวเหนือ-ใต้ และเม่ือเวลาผ่านไป มีการกัดเซาะตามธรรมชาติ จากสภาวะภูมิอากาศและกระแสคล่ืน ช้ันหินทราย เกาะยอซึ่งส่วนใหญ่เป็นชั้นหินทรายที่มีองค์ประกอบ ของซิลิกาสูง และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง จึงคงเหลืออยู่ ทำ�ให้เกิดภูมิประเทศของเกาะยอ ในปัจจุบนั
จังหวัดสตูล หินทรายตะรุเตา เกาะตะรเุ ตา อทุ ยานแหง่ ชาตติ ะรเุ ตา จงั หวดั สตลู เปน็ สถานท่ีพบหินตะกอนท่ีมีอายุแก่ท่ีสุดของประเทศ เป็นสถานที่ ประวัติศาสตร์ใช้กักขังนักโทษการเมืองในอดีต และปัจจุบัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียง มีภูมิทัศน์แสดง การวางตวั ของชน้ั หนิ และหาดทรายทส่ี วยงาม หนิ ทรายตะรเุ ตา เ ป็ น ตั ว แ ท น ท รั พ ย า ก ร ธ ร ณี สั ญ ลั ก ษ ณ์ ข อ ง จั ง ห วั ด ส ตู ล พบช้ันหินในหลายบริเวณ เช่น อ่าวพันเตมะละกา อ่าวสน และอา่ วเมาะและ SATUNท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวิทยา The oldest sedimentary rocks in Thailand have been found in Tarutao Island National Park, Satun Province. The island is also famous as historical site หินทรายตะรุเตาเป็นส่วนหน่ึงของกลุ่มหินตะรุเตา พบโผล่ used as a jail for detenu in the past. Presently, the place is famous as เป็นโขดหาดหินบริเวณด้านตะวันตกของตัวเกาะ เป็นหินทราย a natural tourism site. The site inhibits geological landscape that shows สีน้ําตาลแดง สีม่วงแดง เน้ือละเอียดถึงหยาบ แสดงชั้นหิน beautiful beach and stratigraphic feature of sedimentary rocks of the ขนาดบางๆ และชั้นเฉียงระดับ แทรกสลับกับหินดินดานชั้นบาง Tarutao Group. The rock group is believed to be deposited under shallow พบซากดึกดำ�บรรพ์พวกไทรโลไบต์ชนิด Eosaukia buravasi ทั้งท่ี marine environment around 500 million years ago. The Tarutao Sandstone เป็นส่วน glabella และส่วน genal spine, Thailandium solum, Saukiella tarutaoensis และ Coreanocephalus planulatus 76 represents the geological symbol of Satun Province. The rock also crops และแบรคิโอพอด แสดงว่าเกิดสะสมตัวในทะเลตื้น ในยุค out in various sites, e.g. Ao Phan Te Malaka, Ao Son, Ao Mo Lae. แคมเบรียนตอนปลาย หรือประมาณ ๕๐๐ ล้านปีก่อน และจาก การเทียบเคียงชนิดของซากดึกดำ�บรรพ์ทำ�ให้ทราบว่า ผืนเปลือก โลกบริเวณนี้แต่เดิมอยู่ทางซีกโลกใต้ ผลจากการเคลื่อนที่ของแผ่น เปลือกโลกและการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ําทะเลทำ�ให้กลายเป็น เกาะตะรเุ ตาในปัจจุบัน
จงั หวัดสมุทรปราการ ดินดอนสามเหลยี่ มปากแมน่ า้ํ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ํา (delta) เป็นดินดอนสามเหล่ียม ปากแม่นํ้าแห่งเดียวของประเทศไทย ท่ีมีแนวนํ้าชนกันของน้ําจืดและนํ้าเค็ม เห็นได้ชัดเจน เป็นที่มาของชื่อแม่นํ้าเจ้าพระยา ซ่ึงแต่เดิมเรียกปากน้ํา บางเจา้ พระยา นอกจากนยี้ งั เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทมี่ ชี อ่ื เสยี งของจงั หวดั อกี ดว้ ย พบบริเวณปากแม่น้ําเจ้าพระยา ระหว่างตำ�บลท้ายบ้านกับตำ�บลบางปูใหม่ อำ�เภอเมืองสมุทรปราการ ธรณวี ิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั บริเวณจังหวัดสมุทรปราการเป็นปาก แม่น้ําเจ้าพระยาที่ไหลออกทะเล ตะกอนที่แม่น้ํา เจ้าพระยาพามาจากทางต้นน้ํา เม่ือไหลลงทะเล ปะทะกบั อทิ ธิพลของคลนื่ ลมทะเล ก็จะตกสะสมตวั บริเวณปากแม่นํ้า ก่อเกิดลักษณะภูมิประเทศ แบบเนินรูปพัดยื่นไปทางทะเล หรือท่ีเรียกว่า ดนิ ดอนสามเหลย่ี มปากแมน่ า้ํ ประกอบดว้ ยตะกอน โคลนและทรายแปง้ เนอื้ นม่ิ สเี ทา ขนาดละเอยี ดมาก มขี นาดเลก็ กวา่ ๖๔ ไมครอน หรือ ๑/๖๔ มลิ ลิเมตร แรเ่ คลย์สว่ นใหญเ่ ป็นแรเ่ คโอลิไนตแ์ ละอิลไลต์ SAMUT PRAKAN 77 This is the only delta of the country where river water and salt water interface is clearly seen in the area. It used to be called Bang Chao Phraya estuary, and then named the river as the Chao Phraya River. The delta is the result of the sedimentation of particles carried over from the river to deposit at the mouth of the river. The sediments include mud, and silts with some clay minerals, e.g. kaolinite and illite. The Chao Phraya Delta extends between Thai Ban and Bang Pu Mai Subdistricts, Mueang Samut Prakan District.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวดั สมทุ รสงคราม ดนิ ด�ำ อัมพวา ดินดำ�อัมพวาเป็นดินท่ีอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การเกษตร ปลกู พชื สวนอำ�เภออมั พวาเปน็ ชมุ ชนประวตั ศิ าสตรส์ มยั รตั นโกสนิ ทร์ เดิมเรียกกันว่า แขวงบางช้าง ซึ่งเป็นต้นราชนิกุล “ณ บางช้าง” และปัจจุบันเป็นแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วท่ีสำ�คญั ของประเทศไทย ธรณีวิทยา ดนิ ดำ�อมั พวาเปน็ ตะกอนสมยั โฮโลซนี มีอายุตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ ปีจนถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยดินสีนํ้าตาลเข้ม เทาเข้มถึงดำ� เน้ือแน่นเหนียว เป็นดินเคลย์ปนทรายแป้ง มีฮิวมัสมาก เกิดจากการสะสมตัวภายใต้ สภาพแวดลอ้ มแบบทรี่ าบนาํ้ ทว่ มถงึ ของแมน่ าํ้ แม่กลองท่ีล้นตลิ่งเป็นประจำ� จึงเป็นดินท่ี อุดมสมบูรณเ์ หมาะแกก่ ารเพาะปลกู ทกุ ชนิด SAMUT SONGKHRAM The Amphawa Black Soil is a good fertilizer suitable for agriculture, and thus the geological symbol of Samut Songkhram Province. The sedimentation occurred during the Holocene or from 10,000 years ago to the present in the Mae Klong River’s floodplain. Amphawa District is a community with a long history. During 78 the early Ratanakosin time, the community was called “Khwaeng Bang Chang”, the origin of a member of a royal family “Na Bang Chang”. Presently, Amphawa is one of the important tourism sites of Thailand.
จงั หวัดสมุทรสาคร ดนิ เคลยท์ ะเล ดนิ เคลยท์ ะเลเปน็ ตะกอนทะเลในอดตี ทพ่ี บสะสมตวั อย่างกว้างขวางในที่ลุ่มภาคกลาง รวมท้ังพื้นที่ของจังหวัด สมุทรสาคร เป็นหลักฐานแสดงว่าพื้นที่น้ีในอดีตเคยเป็น ทะเลต้ืนมาก่อน และนํ้าทะเลได้ลดระดับลง ถอยร่นมาอยู่ ดังที่เห็นในปัจจุบนั ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ดินเคลย์ทะเลเป็นตะกอนท่ีเกิดสะสมตัวใน ทะเลสมัยโฮโลซีนเมอ่ื ประมาณ ๑๐,๐๐๐ ปีท่ผี ่านมา ในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง จากกระบวนการน้ําขึ้น น้ําลงพัดพาตะกอนละเอียดเข้ามาสะสมตัวตาม ชายฝ่งั ทะเลบรเิ วณทร่ี าบนา้ํ ข้นึ ถงึ (tidal flat) ทำ�ให้ เกิดภูมิประเทศแบนราบกว้างขวาง และพัฒนา เป็นปา่ ชายเลนทอี่ ดุ มสมบรู ณ์ มีความหนาเปลี่ยนไป ตามสถานทป่ี ระมาณ ๑ - ๑๕ เมตร ชัน้ ดินเคลยท์ ะเล มีลักษณะเป็นตะกอนเนื้อนิ่ม สีเทาอมเขียว ขนาด ละเอยี ดมาก แรเ่ คลยส์ ว่ นใหญเ่ ปน็ ชนดิ มอนตโ์ มรลิ โลไนต์ และอิลไลต์ มีเกล็ดเกลือปนมาก มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน และมักพบแทรกสลับด้วยช้ันตะกอนทรายและทราย แป้ง รวมท้งั มซี ากพืชผแุ ละเปลอื กหอยปนอยู่ดว้ ย SAMUT SAKHON 79 Marine Clay is referred to marine sediments that widely deposited in tidal flat area during the Holocene time or around 10,000 years ago over the central plain including the area of Samut Sakhon Province. Soft greenish gray Marine Clay of various thickness ranging from 1 - 15 meters thick is the geological symbol of Samut Sakhon. It indicates that the area used to be the shallow sea before the sea level moved down to the present level.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวัดสระแกว้ หนิ ออ่ นแดงสระแกว้ หินอ่อนส่วนใหญ่จะมีสีออกโทนอ่อน หินอ่อนสีแดง จะมีน้อยในธรรมชาติและเป็นสีที่ตลาดนิยม ทำ�ให้มีราคาแพง กว่าหินอ่อนสีอ่ืน ในประเทศไทยพบแหล่งหินอ่อนสีแดงเพียง ๒ - ๓ แหง่ พบบรเิ วณเหมืองหินออ่ น เขาผาผึ้ง อำ�เภอคลองหาด ธรณวี ทิ ยา หินอ่อนท่ีเขาผาผ้ึงมีสีแดง นํ้าตาลแดง เน้ือละเอียดถึงปานกลาง พบซากดึกดำ�บรรพ์ พวกไครนอยด์และเศษซากหอยเห็นเป็นชิ้นสีขาว กระจายอยทู่ ว่ั ไปในเนอื้ หนิ เปน็ ชน้ั หนาถงึ หนามาก จดั อยใู่ นหมวดหนิ เขาตางอ็ กยคุ เพอรเ์ มยี นตอนกลาง หรือประมาณ ๒๗๐ ล้านปี สีแดงของหินอ่อน ไมใ่ ช่สแี ตก่ ำ�เนดิ แตเ่ กิดจากการปนของธาตุเหลก็ ที่อยู่ในเน้ือหินและตามแนวรอยแตก เกิดสีแดง ซึมไปท่ัวเนอ้ื หนิ SA KAEO Due to its rare occurrence, the Sa Kaeo Red Marble has become a popular construction material with higher price than marble of other colors. There are only a few red marble mines in Thailand, e.g. the marble mine at Khao Pha Phueng, Khlong Hat District. Marble of Khao Pha Phueng is fine- to medium-grained, red to reddish brown, and belongs to Khao 80 Ta Ngok Formation deposited during the middle Permian time or around 270 million years ago. Crinoids and shell fragments are also present. The reddish color in the marble is a result of iron impurity within the rock mass.
จงั หวดั สระบรุ ี หินอ่อนสระบรุ ี จังหวัดสระบุรีเป็นเมืองแห่งหินอ่อน มีหินอ่อนมาก หลายชนิด จึงมีอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวกับหินอ่อนมากมาย ท้ังนำ� ไปตัดเป็นแผ่นทำ�เป็นหินประดับอาคาร และทำ�เป็นแท่ง แกะสลกั เปน็ รปู ทรงตา่ งๆเปน็ แหลง่ สรา้ งงานนำ�รายไดจ้ ำ�นวนมาก มาสู่จังหวัด หินอ่อนสระบุรีเป็นทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของ จังหวัด เพราะมีลักษณะเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีคุณภาพเทียบ ไดก้ บั หนิ ออ่ นชน้ั ดขี องตา่ งประเทศ เปน็ หนิ ออ่ นสขี าวเทา สขี าว เปน็ สที น่ี ยิ มของตลาด จงึ ไดร้ บั การคดั เลอื กนำ�ไปประดบั อาคาร สำ�นักงานและบ้านเรือนทั่วประเทศ หินออ่ นสระบุรพี บบริเวณ เนินเขาในเขตอำ�เภอพระพุทธบาทและตำ�บลหน้าพระลาน อำ�เภอเฉลิมพระเกยี รติ จังหวัดสระบรุ ี ธรณวี ทิ ยา SARABURI ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั Saraburi is the land of marble with numbers of industries associated. Marble has หินอ่อนสระบุรีมีสีขาวเทา สีขาว เน้ือละเอียด been used as material for interior and exterior decoration, marble carving, etc. Due 81 ปานกลาง มีมลทินเจือปนน้อยและเป็นมวลหนา มีส่วน to its unique and beautiful patterns with a world class quality, this white to grayish ประกอบเกือบทั้งหมดเป็นแร่แคลไซต์ จึงมีคุณสมบัติ white Saraburi Marble is the geological symbol of the province. The marble as part เหมาะสำ�หรับทำ�เป็นหินประดับและบดเป็นผงแคลเซียม of the Saraburi Group was formed as a result of contact metamorphism between คารบ์ อเนต บางบรเิ วณปนดว้ ยหนิ ออ่ นสเี ทา มเี นอ้ื ไมส่ มา่ํ เสมอ limestone and granite. The marble is found along the hills in Phra Phutthabat District. ภายในเนื้อหินมักพบซากดึกดำ�บรรพ์เกิดร่วมด้วย เม่ือนำ� ไปตัดเป็นแผ่นจึงมีลวดลายของซากดึกดำ�บรรพ์ที่แปลกตา บางคร้ังพบร้ิวลายของแร่เหล็กออกไซด์ตัดผ่านช้ันหิน ทำ�ให้หินอ่อนมีสีออกแดง เน่ืองจากการปนของมลทิน เหล็กออกไซด์ภายในเนื้อหิน หินอ่อนบริเวณน้ีเกิดตาม บริเวณแนวแปรสัมผัสระหว่างชั้นหินปูนของกลุ่มหินสระบุรี ยคุ เพอร์เมยี นตอนกลาง หรือประมาณ ๒๗๐ - ๒๖๐ ล้านปี ท่ีผ่านมา กับหินแกรนิตยุคไทรแอสซิกท่ีแทรกดันขึ้นมา ความร้อนจากหินแกรนิตนอกจากทำ�ให้หินปูนแปรเป็น หินอ่อนแล้ว กระบวนการดังกล่าวยังช่วยกำ�จัดสารมลทิน ทอ่ี ยใู่ นชน้ั หนิ ปนู เดมิ ออกไปตามธรรมชาติ จงึ ทำ�ใหก้ ลายเปน็ หนิ อ่อนเนื้อสะอาดในปัจจุบัน
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั สงิ ห์บรุ ี ทรายแม่นา้ํ เจ้าพระยา ทรายเป็นทรัพยากรธรณีท่ีจำ�เป็นในอุตสาหกรรมก่อสร้าง แหล่งทรายขนาดใหญ่ถูกพัดพามาตามแม่น้ําโดยเฉพาะแม่นํ้า เจ้าพระยาท่ีเป็นสายเลือดใหญ่ของประเทศ จังหวัดสิงห์บุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้นำ� “ทรายแม่น้ําเจ้าพระยา” ตามลำ�น้ําและ บ่อทรายบนบกในแหล่งท่ีเป็นทรายของแม่น้ําเจ้าพระยาในอดีต เช่น ที่อำ�เภอบางระจัน อำ�เภอค่ายบางระจัน มาใช้สนับสนุน อตุ สาหกรรมต่างๆ ของจังหวดั อย่างแพร่หลาย ธรณวี ทิ ยา เม่ือหินแตกหักผุพังและถูกพาเคลื่อนย้ายไปตาม กระแสนํ้าและลม เกิดการกระแทกกันเองของกรวดระหว่าง การพัดพา ทำ�ให้ก้อนกรวดแตกและมีขนาดเม็ดเล็กลงตาม ระยะทางทถ่ี กู พดั พาไป กลายเปน็ เมด็ ทรายทรายแปง้ และโคลน ในทสี่ ดุ ทรายแมน่ าํ้ เจา้ พระยาทส่ี งิ หบ์ รุ มี สี นี า้ํ ตาลออ่ น ขนาดเมด็ หยาบถึงละเอียด เป็นทรายท่ีถูกพัดพามาโดยแมน่ าํ้ เจา้ พระยา เกดิ สะสมตัวตามคงุ้ น้ําและก่อตัวเป็นเกาะกลางน้ํา SING BURI Sand is an important materials for construction industry. Large sand deposits accumulated along the rivers including the Chao Phraya River, the main blood vessel of the country. Sing Buri is one of the provinces that makes use the Chao Phraya River Sand deposits 82 within the river and along the river deposits over the river floodplain, e.g. Bang Rachan and Khai Bang Rachan Districts. The Chao Phraya River Sand is the geological symbol of Sing Buri Province, comprising fine- to coarse-grained brown sands.
จังหวดั สโุ ขทยั หนิ ออ่ นสโุ ขทัย หินอ่อนสุโขทัยเป็นหินประดับที่มีความโดดเด่นทางสีและริ้วลาย มีลักษณะเฉพาะสวยงามเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะ หินอ่อนสีชมพู หรือหินอ่อนชมพูสุโขทัย สีเทาขาว และเทาเหลือง พบท่ัวไป ตามเขาลูกโดดและเทือกเขาแนวเหนือ-ใต้ ทางตะวันตกของจังหวัด ตั้งแต่ อำ�เภอทงุ่ เสลย่ี ม อำ�เภอศรสี ำ�โรง และอำ�เภอบา้ นดา่ นลานหอย มกี ารทำ�เหมอื ง หนิ อ่อนบรเิ วณอำ�เภอทุ่งเสล่ียมและอำ�เภอบา้ นดา่ นลานหอย ธรณีวิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินอ่อนสุโขทัยเป็นหินแปรชนิดหน่ึงที่ประกอบ ด้วยแร่แคลไซต์เป็นองค์ประกอบหลัก เกิดตามบริเวณ แนวแปรสัมผัสระหว่างช้ันหินปูนเดิมที่เกิดจากตะกอน ทะเลช่วงยุคเพอร์เมียนตอนกลาง หรือประมาณ ๒๗๐ ลา้ นปที ผ่ี า่ นมา กบั หนิ แกรนติ ซง่ึ แทรกดนั ขนึ้ มาใตห้ นิ ปนู ในชว่ งยคุ ไทรแอสซกิ เมอ่ื ประมาณ ๒๐๐ ลา้ นปที ผี่ า่ นมา ความรอ้ นทหี่ นิ ปนู ไดร้ บั จากหนิ แกรนติ ตามแนวสมั ผสั ส่งผลให้เนื้อหินปูนเกิดการหลอมละลายและตกผลึก แร่ใหม่ ทำ�ใหม้ ีผลกึ ทใี่ หญข่ น้ึ หินออ่ นบริเวณอำ�เภอ ทุ่งเสลี่ยมมักมีผลึกโตกว่าหินอ่อนท่ีพบบริเวณ อำ�เภอบ้านด่านลานหอย สำ�หรับสีของหินอ่อนท่ีมี ความหลากหลาย เน่ืองจากมลทินประเภทต่างๆ โดยเฉพาะเหลก็ ออกไซด์ เชน่ แรฮ่ มี าไทต์ ไดเ้ ขา้ ไป ปะปนตามเนอื้ หนิ ในขณะทกี่ ำ�ลงั เปน็ หนิ ออ่ นหรอื แทรกตามรอยแตกเรียบภายในช้ันหิน SUKHOTHAI 83 With outstanding color and stripes, Sukhothai Marble is an important material for interior decoration, especially the pink marble with some light gray and yellowish gray. The marble formed as a result of contact metamorphism along the contact zone between the Permian limestone and Triassic granite that intruded beneath the limestone around 200 million years ago. The marble is cropped out along isolated hills with the N-S-oriented mountain located to the west of the province extending from Thung Saliam to Ban Dan Lan Hoi Districts.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั สุพรรณบรุ ี หินปนู อทู่ อง หินปูนพบทั่วไปทางด้านตะวันตกของอำ�เภออู่ทอง ทงั้ เปน็ เขาลกู โดดและเทอื กเขา หลายบรเิ วณเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว และเป็นแหล่งหินอุตสาหกรรมก่อสร้างที่สำ�คัญนำ�รายได้มาสู่ จังหวัด เป็นทรพั ยากรธรณสี ญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั ธรณีวิทยา หนิ ปนู อทู่ องเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกลมุ่ หนิ ทงุ่ สง เกดิ สะสม ตวั ในทะเลนา้ํ ตน้ื ในชว่ งยคุ ออรโ์ ดวเิ ชยี นตอนกลาง หรอื ประมาณ๔๗๐-๔๖๐ลา้ นปผี า่ นมาประกอบดว้ ยหนิ ปนู เน้อื โคลน สีเทาดำ� สลับกับหินดินดานเป็นช้นั ชัดเจน ในเน้อื หินมักแสดงร้วิ ขนานและลายแถบช้นั บางสลับ สีอ่อนและสีเข้ม ต่อมาเม่ือประมาณ ๒๐๐ ล้านปี ทผ่ี า่ นมา เกดิ การแทรกดนั ของหนิ แกรนติ ความรอ้ น จากหนิ แกรนติ ทำ�ใหห้ นิ ปนู และหนิ ดนิ ดานตามแนวสมั ผสั แปรสภาพตกผลึกแร่ใหม่ให้ผลึกแร่ท่ีโตกว่าเดิม กลายเป็น หนิ ออ่ นและหนิ แคลกซ์ ลิ เิ กต SUPHAN BURI U Thong Limestone is the geological symbol of Suphan Buri Province. The limestone belongs to the Ordovician Thung Song Group that was locally metamorphosed by intrusion of Triassic granite some 200 million years ago. Limestone is commonly 84 found over the western part of U Thong District as both isolated hills and mountain ranges. These limestone sites have become tourism sites and sources for construction industry that draw significant income into the province.
จงั หวัดสรุ าษฎร์ธานี แร่ยิปซัม แร่ยิปซัมเป็นวัตถุดิบสำ�คัญในการผลิต ปูนซีเมนต์ การทำ�ปูนปลาสเตอร์ การทำ�แผ่นยิปซัม ฝา้ เพดานกนั ความรอ้ นการปรบั สภาพความเคม็ ของดนิ และในงานตกแต่งอาคารและเครื่องประดับ อีกหลายอย่าง แหล่งแร่ยิปซัมในจังหวัด สุราษฎร์ธานีเป็นแหล่งใหญ่ของประเทศ จึงเหมาะสมเป็นทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ ของจังหวดั พบหลายบริเวณ เช่น บ้านส้อง อำ�เภอบา้ นนาสาร อำ�เภอเวยี งสระ อำ�เภอ กาญจนดษิ ฐ์ และอำ�เภอดอนสัก ธรณีวิทยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั แรย่ ปิ ซมั มเี นอื้ ออ่ นเลบ็ ขดู เขา้ และโปรง่ แสงเปน็ ชื่อทั่วไปที่ใช้เรียกแทนแร่หลายชนิด แหล่งแร่ยิปซัม ของไทยส่วนใหญ่เป็นแร่อะลาบาสเตอร์ (alabaster) มีลักษณะเนื้อละเอียด เป็นมวลเม็ดคล้ายน้ําตาลทราย บางส่วนเป็นแร่ซาทินสปาร์ (satin spar) ลักษณะ เป็นมวลรวม เน้ือเป็นเส้นใยสีขาววาวแบบใยไหม และ แร่เซเลไนต์ (selenite) เปน็ ผลกึ ใหญ่ ใสไม่มสี ี เนื้อแนน่ วาวแบบมกุ แหลง่ แรย่ ปิ ซมั ของไทยเกดิ จากการตกตะกอน ในแอ่งที่มีการระเหยของน้ําสูงอย่างต่อเนื่อง ได้ช้ันแร่ ยปิ ซมั หนา จากนนั้ จงึ ถกู ทบั ถมลกึ ลงทลี ะนอ้ ยและคอ่ ยๆ เปล่ียนไปเปน็ แอนไฮไดรต์ SURAT THANI 85 Gypsum is the geological symbol of Surat Thani Province. It is an important raw material for cement industry, plaster and thermal insulated gypsum board, saline soil improvement, as well as building decoration and ornamentation. The gypsum of Surat Thani is considered as one of the largest deposit of the country, consisting mainly of alabaster with some satin spar and selenite. It occurred in Ban Song, Ban Na San, Wiang Sa, Kanchanadit and Don Sak Districts.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวดั สรุ ินทร์ หนิ ตะกรัน ภเู ขาไฟลอยนํ้า การพบหินตะกรันภูเขาไฟใช้เป็นหลักฐานว่าในอดีต เคยมีปากปล่องภูเขาไฟโบราณอยู่ในบริเวณน้ัน หินตะกรัน ภูเขาไฟบางก้อนสามารถลอยนํ้าได้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งแปลก ประหลาดมหัศจรรย์และเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะ ซ่ึง พบมากบรเิ วณวนอทุ ยานพนมสวายตำ�บลนาบวั และตำ�บลสวาย อำ�เภอเมอื งสุรินทร์ และทวี่ ัดพนมศลิ าราม จังหวัดสุรนิ ทร์ ธรณวี ิทยา หินตะกรันภูเขาไฟ หรือเรียกเป็นภาษา อังกฤษว่า scoria มักมีสีคล้ําและมีรูพรุนมาก ประกอบด้วยชิ้นส่วนหินภูเขาไฟซ่ึงถูกระเบิด กระจายขึ้นไปในอากาศ แล้วแข็งตัวตกลงมายัง พน้ื โลกโดยมกี ารเยน็ ตวั อยา่ งรวดเรว็ ทำ�ใหห้ นิ ตะกรนั ภูเขาไฟมีรูพรุนของฟองอากาศคล้ายกับฟองนํ้า แตเ่ นอื่ งจากหนิ ตะกรนั ภเู ขาไฟสเี ขม้ มสี ว่ นประกอบ ของแร่สีเข้มเป็นส่วนใหญ่ซึ่งทำ�ให้หินมีน้ําหนัก มากขึ้น ทำ�ให้หินตะกรันภูเขาไฟบางก้อนเท่าน้ัน ท่ีสามารถลอยน้ําได้ คาดว่าหินตะกรันภูเขาไฟ ดังกล่าวอยู่ตามปากปล่องภูเขาไฟโบราณซึ่งอยู่ บรเิ วณเขาพนมสวายและวดั พนมศลิ าราม และเกดิ ปะทขุ ้ึนมาเมื่อประมาณ ๙ แสนปีทีผ่ า่ นมา SURIN The presence of scoria indicates that there was a volcanic vent located within the area. Scoria is a bomb-size, dark color, pyroclast that is generally very vesicular due to the escape of volcanic gases before solidification. Some pieces of scoria may float in water due to its vesicular nature, which may be viewed as miraculous and unique. Floating Scoria, 86 thus, is the geological symbol of Surin Province that distributed around the ancient volcanic vents in Khao Phanom Sawai and Phanom Sila Ram Temple around 900,000 years ago.
จังหวัดหนองคาย กรวดแมน่ า้ํ โขง แม่น้ําโขงเป็นแม่นํ้าสายสำ�คัญของโลก ไหลผ่านหลาย ประเทศ มีต้นน้ําอยู่ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และไหล ออกทะเลท่ีประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม แม่น้ําโขง บรเิ วณจงั หวดั หนองคายจะเป็นพรมแดนกนั้ กบั ประเทศสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว กรวดแม่น้ําโขงจึงเป็นท่ีรวมของหิน ทม่ี ถี นิ่ กำ�เนดิ ในหลายประเทศ พบตามทอ้ งนา้ํ ทรี่ าบตะพกั รมิ นา้ํ ท้ังสองฝ่ังของแม่นํ้าโขง ที่อำ�เภอศรีเชียงใหม่ อำ�เภอเมืองหนองคาย และอำ�เภอ โพนพสิ ัย ธรณวี ทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั กรวดแม่นํ้าโขงเกิดจากการแตกหักของ หนิ ในลมุ่ นา้ํ โขงและถกู พดั พามาโดยกระแสนาํ้ ตามลำ�นํ้าโขง กรวดแม่นํ้าโขงประกอบด้วย หินหลากหลายชนิดและหลากสี มีความมน ดี ซ่ึงเกิดจากการขยับกลิ้งและเคล่ือนตัว ของก้อนกรวดและถูกขัดสีโดยกระแสน้ํา และตะกอนที่อยู่ในน้ํา ก้อนกรวดท่ีมีความ มนดี โดยปกติมักถูกแปลความหมายว่า ถูกพัดพามาไกล แต่ในหลายกรณีก้อนกรวด อาจขยับตัวเกือบอยู่กับที่หรือเคล่ือนตัวไป ไม่มากก็ทำ�ให้ก้อนกรวดมนได้เช่นกัน เช่น กรวดที่พบตามร่องห้วย ตามหาดกรวด และ กรวดในกมุ ภลักษณ์ NONG KHAI 87 The Mekong River is one of the important river of the world that flows through a number of countries and reaches the South China Sea in Vietnam. The river in Nong Khai forms as border between Thailand and Lao People’s Democratic Republic. Mekong Gravels thus contain various kinds and colors of gravels from many countries.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจงั หวดั หนองบวั ลำ�ภู หอยหนิ ห้วยเดอื่ บริเวณบ้านห้วยเดื่อ ตำ�บลโนนทัน อำ�เภอเมือง หนองบัวลำ�ภู พบซากฟอสซิลหอยสองฝาที่สมบูรณ์มาก มีทั้ง ตวั เลก็ ตวั ใหญ่ บางตวั มนี า้ํ หนกั ถงึ ประมาณครงึ่ กโิ ลกรมั ปจั จบุ นั ได้เก็บรวบรวมหอยหินโบราณไว้ที่พิพิธภัณฑ์หอยหินโบราณ ๑๕๐ ล้านปี เพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทาง ธรณีวิทยา หอยหินห้วยเดื่อเป็นทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของ จังหวดั หนองบวั ลำ�ภู ธรณวี ิทยา หอยหินท่ีบ้านห้วยเดื่อเป็นซากหอยน้ําจืด ประเภทหอยสองฝา หรือหอยกาบคู่ (Bivalve) ชนิด Trigonioides (s.s) trigonus และชนิด Trigonioides cf. gaungsiensis พบอยเู่ ปน็ หยอ่ มๆ ในชน้ั หนิ กรวดมน ท่ีแทรกอยู่กับช้ันหินทรายสีเทาปนเหลือง สลับกับ ช้ันหินทรายแป้ง สีแดงปนเทา ในหมวดหินเสาขัว ส่วนบนสุด สะสมตัวในช่วงปลายของยุคครีเทเชียส ตอนต้น หรือ ๑๒๐ ล้านปีก่อน บริเวณแหล่งหอยหิน บ้านห้วยเดื่อยังพบซากหอยฝาเดียวน้ําจืดและ ฟนั จระเขน้ า้ํ จดื รวมอยดู่ ว้ ยซากดกึ ดำ�บรรพบ์ า้ นหว้ ยเดอ่ื พบมากในทะเลสาบน้ําจืดหรือบึงเล็กๆ ซึ่งหอยกาบคู่ อาศัยอยู่เป็นหย่อมๆ ตามขอบทะเลสาบนํ้าจืดหรือ บึงเล็กๆ NONG BUA LAM PHU Found at Ban Huai Duea, Non Than Subdistrict, Mueang Nong Bua Lam Phu, fresh-water Huai Duea Bivalve Fossils of large and small sizes with near perfect condition were reported. Some of the bivalves weigh as much as 0.5 kilograms. The fossils were found within conglomerate beds interbedded in the yellowish gray sandstone and grayish red siltstone of Sao Khua Formation deposited in the early Cretaceous or around 120 88 million years ago. Most of these fossils have been kept and displayed at the museum as a geological learning site and geotourism site. The Huai Duea Bivalve Fossil is the geological symbol of Nong Bua Lam Phu Province.
จังหวัดอ่างทอง ทรายบกอ่างทอง ทรายบกอ่างทองเป็นทรัพยากรธรณีท่ีสำ�คัญใน อุตสาหกรรมก่อสร้าง พบกระจายอยู่ในหลายอำ�เภอ ได้แก่ อำ�เภอป่าโมก อำ�เภอเมืองอ่างทอง อำ�เภอวิเศษชัยชาญ และ อำ�เภอโพธ์ิทอง ซึ่งเป็นแหล่งทรายขนาดใหญ่คุณภาพดี ส่งไป ขายในจงั หวดั ตา่ งๆ ของภาคกลาง สรา้ งรายไดแ้ ละอาชพี ให้แก่ คนจังหวดั อา่ งทองเปน็ จำ�นวนมาก ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั จังหวัดอ่างทองต้ังอยู่บนที่ราบลุ่มเจ้าพระยา มีแมน่ าํ้ สำ�คญั ๒ สายไหลผา่ น คือ แมน่ าํ้ เจ้าพระยาและ แม่นํ้าน้อย ตะกอนดินทรายถูกพัดพามาตามความแรง ของกระแสน้ําและเกิดการสะสมตัวเมื่อกระแสน้ําอ่อน กำ�ลงั ลง โดยตะกอนทรายจะสะสมตวั บรเิ วณฝ่ังตรงข้าม กับคุ้งนํ้า เป็นช้ันหนา เป็นทรายหยาบปนกรวดเล็กน้อย ถึงทรายละเอียด มีความมนดี สีนํ้าตาลอ่อนถึงน้ําตา ลอมเหลือง ประกอบด้วยแร่ควอตซ์และเศษหิน ชนิดต่างๆ สำ�หรับทรายบกอ่างทองก็คือทรายของแม่น้ํา เจ้าพระยาและแม่น้ําน้อยในอดีต ท่ีสะสมตะกอนทราย ไว้ และเมื่อเวลาผา่ นไป แม่นาํ้ ไดเ้ ปล่ยี นเส้นทางการไหล ทำ�ให้กลายเปน็ ทรายบกดังทป่ี รากฏในปจั จบุ นั ANG THONG 89 Ang Thong Province is situated on the Chao Phraya central floodplain with two important rivers: the Chao Phraya and Noi Rivers. Sands occurred as the point bar deposits of the meandering stream to form thick sand beds all over the floodplain. Ang Thong Sands is an important geological resource for construction industry. It is found distributing in many districts including Pa Mok, Mueang Ang Thong, Wiset Chai Chan and Pho Thong Districts. This is a large sand deposit with high quality. The sand is sold in a number of provinces in the central plain and brings a lot of income to the province, as well as creates many jobs for the people of Ang Thong.
จังหวดั อ�ำ นาจเจริญ หินทรายแก่งโขง หนิ ทรายแกง่ โขงโผลเ่ ปน็ ชนั้ หนิ ใหเ้ หน็ ชดั เจน และเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดท่ีลานหินเจดีย์ หรือ ลานธาตุ วนอทุ ยานภูสิงห์ - ภูผาผงึ้ ตำ�บลเหล่าพรวน อำ�เภอเมืองอำ�นาจเจริญ โดยพบเป็นพลาญหินยาว ต่อเนื่องตามเนินเขาในแนวตะวันออก - ตะวันตก มีลักษณะเป็นหน้าผาทางทิศเหนือ ลาดเทลงมา ทางทศิ ใต้ ลานหนิ เจดยี แ์ หง่ นแ้ี สดงแทง่ หนิ ขนาดใหญ่ หลายแท่งมีรูปร่างท่ีสวยงามแปลกตา แท่งหิน บางอันมีลักษณะคล้ายเจดีย์ ซึ่งเป็นท่ีมาของช่ือ สถานที่แห่งนี้ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำ�คัญ ของจังหวดั ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณวี ทิ ยา หินทรายจากแก่งโขงมีหลายสี ได้แก่ สีขาว สีเหลือง สีแดง แต่สีขาวเป็นสีหิน แตก่ ำ�เนดิ เมอื่ กาลเวลาผา่ นไปสหี นิ อาจเปลย่ี นเปน็ สแี ดงได้ หนิ ทรายแกง่ โขงมเี นอ้ื หยาบ ถงึ ละเอยี ดและมกั มกี อ้ นกรวดปน เปน็ สว่ นหนง่ึ ของหมวดหนิ ภพู าน กลมุ่ หนิ โคราชเกดิ จาก การสะสมตะกอนของกรวดและทรายท่ีถูกพัดพามาโดยแม่นํ้าขนาดใหญ่เม่ือประมาณ ๑๑๐ ลา้ นปกี อ่ น หรอื ชว่ งยคุ ครเี ทเชยี สตอนตน้ ในเนอ้ื หนิ มรี อ่ งรอยใหเ้ หน็ เปน็ แนวหรอื ชนั้ ที่สำ�คัญอยู่ ๒ แบบ คอื ช้นั หนิ เหน็ เปน็ แนวเกอื บราบ แสดงถึงการสะสมของเมด็ ตะกอน ในแต่ละช่วงเวลา และแนวชั้นเฉียงระดับ วางตัวทำ�มุมชันเอียงเทไปทางทิศตะวันตก ใชเ้ ปน็ หลกั ฐานถงึ ทศิ ทางนา้ํ นา้ํ โบราณไหลไปทางทศิ ตะวนั ตก ตอ่ มาเปลอื กโลกเกดิ การ เคล่ือนตัวและคดโค้งโก่งงอ เกิดเป็นแนวเทือกเขาภูพานหลังจากน้ัน การกัดเซาะผุพัง ตามธรรมชาติ ช้นั หินทรายจะมคี วามทนทานต่อการกัดกร่อนสงู กวา่ จะคงเหลืออยู่เปน็ ชะง่อนหน้าผาและปรากฏเป็นรูปร่างหรือลักษณะธรณีสัณฐานท่ีสวยงามแปลกตา ในขณะท่ชี น้ั หนิ ทท่ี นทานต่อการผพุ งั น้อยกวา่ จะกลายเป็นชัน้ โค้งเวา้ ในปัจจุบัน AMNAT CHAROEN Kaeng Khong Sandstone, a provincial geological symbol, is located at Lan Hin Chedi or Lan That, Phu Singh - Phu Pha Phueng Forest Park, Lao Phruan Subdistrict, Mueang Amnat Charoen District. The rock continually cropped out over the long rocky platform oriented in an E-W direction with a cliff side (escarpment) to the north and the dip slope toward the south. This sandstone belongs to Phu Phan 90 Formation of the Khorat Group deposited during the early Cretaceous or around 110 million years ago. A number of rock statues in the Lan Hin Chedi area show beautiful figures, some look similar to chedi (pagoda). That is how the place has got its name.
จังหวัดอุดรธานี แร่โพแทช-ซิลไวต์ ใต้พื้นดินอีสานรองรับด้วยเกลือหินและโพแทชจำ�นวน มหาศาล เปน็ ทรพั ยากรธรณขี มุ ทรพั ยข์ องชาตทิ รี่ อการบรหิ ารจดั การ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดรวมท้ังลดผลกระทบต่อชุมชน แร่โพแทช ชนดิ แรซ่ ิลไวต์ (KCl) จะมีส่วนประกอบเปน็ ธาตุโพแทสเซยี ม (K) สูง ซึ่งเป็นธาตุหลักที่จำ�เป็นสำ�หรับทำ�ปุ๋ยในเกษตรกรรม แร่โพแทช- ซิลไวต์เป็นทรัพยากรธรณีสัญลักษณ์ของจังหวัดอุดรธานี เน่ืองจาก พบแร่ซิลไวต์มากบริเวณอำ�เภอเมืองอุดรธานีและอำ�เภอประจักษ์- ศิลปาคม ธรณีวทิ ยา UDON THANI ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั The Northeastern Part of Thailand is underlain by tremendous amount of thick rock salt โพแทชเป็นช่ือกลุ่มแร่ท่ีประกอบด้วยแร่ and potash beds which belong to Maha Sarakham Formation. These minerals deposited หลายชนิด เช่น แร่ซิลไวต์ แร่คาร์นัลไลต์ และแร่ as a closed sea evaporated during the late Cretaceous or around 90 million years ago. แทชีไฮไดรต์ แต่แร่ซิลไวต์เป็นแร่ท่ีสำ�คัญที่สุดของ Sylvite is a mineral resource treasure of the country to be sustainably managed for the แร่โพแทช แร่ซิลไวต์มีผลึกรูปลูกบาศก์และรูปผลึก benefit of the people. Sylvite (KCl) is the principal ore mineral of potassium compound ทรงแปดด้านผสมกัน ปกติพบเกิดเป็นมวลเม็ด to be used as a part of fertilizer for agriculture. Sylvite is widely distributed in Mueang เกาะกันแน่น มักจะไม่มีสีหรือมีสีขาว หากมีมลทิน Udon Thani and Prachaksinlapakhom Districts. The Sylvite-Potash is thus the geological อ่ืนๆ ปะปนอยู่ อาจมีสีนํ้าเงิน เหลือง และแดงบ้าง symbol of Udon Thani Province. เลก็ นอ้ ยสผี งสขี าวจะมลี กั ษณะโปรง่ ใสวาวแบบแกว้ รอยแตกขรุขระ ละลายน้ํา มีรสเค็มแต่เฝ่ือนกว่า เกลือหินหรือเฮไลต์ โดยท่ัวไปซิลไวต์มักเกิดแบบ ทุติยภูมิ โดยเกิดแทนท่ีในคาร์นัลไลต์ หลังจากท่ี เกลอื หนิ ตกผลกึ แลว้ ซลิ ไวต์จะเป็นแรห่ นง่ึ ที่ตกผลกึ หลังสุดในลำ�ดับการตกผลึกของแหล่งหินเกลือ ในประเทศไทยพบแหล่งแร่โพแทชและเกลือหินเป็น ช้ันหนาอยู่ใต้แผ่นดินอีสาน จัดเรียงลำ�ดับช้ันหิน อยู่ในหมวดหินมหาสารคาม เกิดสะสมตัวเนื่องจาก การระเหยแห้งของนํ้าในแอ่งแบบปิดท่ีอยู่ใกล้ทะเล ในช่วงยุคครีเทเชียสตอนปลาย หรือเม่ือประมาณ ๙๐ ลา้ นปีทผ่ี ่านมา 91
จังหวดั อุตรดิตถ์ แร่ทัลก์ แรท่ ลั กเ์ ปน็ แรอ่ ตุ สาหกรรมทสี่ ำ�คญั ทนความรอ้ น ได้สูง และไม่นำ�กระแสไฟฟ้า ใช้เป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้า เป็นส่วนประกอบของเคร่ืองสำ�อาง เครื่องป้ันดินเผา สี กระดาษ และอุตสาหกรรมอีกหลายชนิด เป็นแร่ท่ีมี ความอ่อนมากที่สุด ขูดเป็นรอยได้ด้วยเล็บและใช้มีดตัด เป็นช้ินได้ มีผิวลื่นมือ มีความวาวแบบมุกและแบบ น้ํามันฉาบ ในประเทศไทยพบเพียงไม่ก่ีแห่ง และพบมาก ทีอ่ ำ�เภอท่าปลา อำ�เภอเมืองอตุ รดติ ถ์ ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัด ธรณีวิทยา แรท่ ลั กม์ กั พบเปน็ แรท่ ตุ ยิ ภมู ิ ทเี่ กดิ จากการแปรสภาพ มาจากแร่และหินแมกนีเซยี มซลิ ิเกต เช่น โอลิวีน ไพรอกซีน แอมฟิโบล และหินเซอร์เพนทิไนต์ ในประเทศไทยมีการ กำ�เนิดสัมพันธ์กับหินอัลตราเมฟิกท่ีพบบริเวณรอยตะเข็บ ธรณี (suture zone) ทเ่ี กดิ จากการชนกนั ของแผน่ เปลอื กโลก แร่ทัลก์มีลักษณะของผลึกเป็นแผ่นบางๆ รูปส่ีเหล่ียม ขนมเปียกปูนและรูปหกเหลี่ยม แผ่นแร่มักเกาะกันเป็นกลุ่ม แสดงร้ิวลายขนาน หรือแผ่เป็นรูปรัศมี หากเป็นมวล เนอ้ื แนน่ เรยี กวา่ “สตไี ทต”์ (steatite) หรอื หนิ สบู่ (soapstone) สีเขียวแอ๊ปเปิ้ล เทา ขาว หรือขาวเงิน สำ�หรับหินสบู่ จะมสี เี ทาแกห่ รือเขยี ว ล่ืนมอื UTTARADIT Talc is an important industrial mineral. It has a characteristic soapy or greasy feel, easily cut or scratch with a knife or fingernails. It is used as a filler, coating and dusting agent in ceramics, paper, color, electrical insulation, cosmetics and other industries. Talc is a common secondary mineral derived by alteration (hydration) of nonaluminous magnesium silicates 92 such as olivine, pyroxene and serpentinite in basic igneous rocks. The mineral is found in a few sites in Thailand and most abundant in Tha Pla and Mueang Uttaradit Districts where tectonic suture zone is present.
จังหวดั อทุ ัยธานี หินชสี ต์ หินชีสต์มีสีเทาอ่อน สลับสีเทาดำ� ผิวหิน มันวาวเป็นประกายสวยงาม แสดงร้ิวขนานโค้งงอ บิดย้วยน้อยๆ แบบลูกคลื่นของผลึกแร่ที่เรียงตัว เกือบขนานกัน พบได้ท่ัวไปบริเวณชั้นหินริมถนน ในพ้ืนท่ีอำ�เภอบ้านไร่และอำ�เภอลานสัก จังหวัด อทุ ัยธานี ธรณีวทิ ยา ทรพั ยากรธรณี สญั ลกั ษณข์ องจงั หวดั หินชีสต์เป็นหินแปรชนิดหน่ึงที่ถูกเปลี่ยนสภาพ มาจากหินดินดาน อันเนื่องมาจากความกดดันและ ความร้อน เน้ือหินแสดงการเรียงตัวโค้งงอบิดย้วยเป็น แถบขนานกันของผลึกแร่ท่ีมีลักษณะเป็นแผ่นบาง หรือเป็นแท่ง เช่น แร่ไมกา แร่คลอไรต์ และแร่ฮีมาไทต์ เน้ือหินเปราะและแตกง่าย ในบางบริเวณมีแร่การ์เนต เกิดร่วมด้วย หินชีสต์ของพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีมีอายุ ประมาณยุคไซลูเรียน - ดีโวเนียน หรือประมาณ ๔๐๐ ล้านปีก่อน UTHAI THANI 93 Light to dark gray Schist with beautiful luster is a strong foliated crystalline rock formed by dynamic metamorphism with well developed parallelism of the minerals present, particularly those of lamellar or elongate prismatic habit, e.g. mica and chlorite. Schist found in Ban Rai and Lan Sak Districts was formed approximately 400 million years ago or during the Silurian - Devonian.
ท ัรพยากรธรณี ัสญลักษณ์ของ ัจงหวัดจังหวัดอบุ ลราชธานี หินทรายผาแตม้ หนิ ทรายผาแตม้ มลี กั ษณะเนอื้ หยาบสขี าว วางตวั เปน็ ลานหนิ กวา้ งท่ผี าแตม้ เขตอทุ ยานแหง่ ชาตผิ าแต้ม อำ�เภอโขงเจยี ม จงั หวัด อุบลราชธานี ซ่ึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นท่ีอยู่ด้านตะวันออกสุด ของประเทศ บริเวณหน้าผาจะมีภาพเขียนสียุคก่อนประวัติศาสตร์ อายปุ ระมาณ ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ ปี มากกว่า ๓๐๐ ภาพ ธรณีวทิ ยา บริเวณผาแต้มประกอบด้วยหมวดหินภายในกลุ่มหินโคราช จำ�นวน ๒ หมวดหิน ที่เกิดจากการสะสมตัวของตะกอนทางนํ้าเมื่อประมาณ ๑๒๐ - ๑๑๐ ล้านปีก่อน ได้แก่ หมวดหินเสาขัว พบในส่วนล่างของผาแต้มรวมท้ังส่วนหน้าผาท่ีพบภาพเขียนโบราณ ประกอบดว้ ยหนิ ทรายแปง้ หนิ ทราย และหนิ โคลน ดา้ นบนหนา้ ผาปดิ ทบั ดว้ ยหนิ ทรายชน้ั หนา หรอื ทีเ่ รียกวา่ “หนิ ทรายผาแตม้ ” ของหมวดหินภพู าน เปน็ หนิ ทรายเนื้อหยาบสีขาว ในเน้อื หนิ มักมีกรวดปน และมีความแข็งแกร่งทนต่อการสึกกร่อนได้ดีกว่าช้ันหินของหมวดหินเสาขัว จึงทำ�ให้เกิดลักษณะภมู ปิ ระเทศเปน็ หน้าผาที่มีลานหนิ กวา้ งปดิ ทับ UBON RATCHATHANI Pha Taem is a famous landmark with rock platform and a high cliff located to the easternmost part of the country within Pha Taem National Park in Khong Chiam District. Pha Taem Sandstone belongs to Phu Phan Formation covering the upper part that constitutes white coarse-grained sandstone. Pha Taem sandstone is underlain by sandstone, siltstone and mudstone of Sao Khua Formation where over 300 pre-historical paintings with an 94 approximate age of 3,000 - 4,000 years ago are also present. Pha Taem sandstone is more resistant than the rocks of Sao Khua Formation thus resulted in high cliff and rock platform landscape on top.
บรรณานกุ รม กรมทรพั ยากรธรณ.ี ความหลากหลายทางชวี ภาพของสงิ่ มชี วี ติ ดกึ ด�ำ บรรพใ์ นประเทศไทย. พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑. กรงุ เทพฯ: อมรินทร์พริ้นต้ิงแอนด์พับลิชชง่ิ , ๒๕๕๐. . ท่องโลกธรณี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ความมหัศจรรย์แห่งมรดกโลก. พิมพ์คร้ังที่ ๑. กรุงเทพฯ: อมรนิ ทร์พริ้นต้ิงแอนด์พับลชิ ชิ่ง, ๒๕๕๓. . ธรณวี ิทยาประเทศไทย. กรุงเทพฯ: กรมทรัพยากรธรณ,ี ๒๕๕๐. . ๑๑๐ ปี กรมทรัพยากรธรณี : ตำ�นานสืบสานห้าแผ่นดิน. กรุงเทพฯ: กรมทรัพยากรธรณี, ๒๕๔๔. . ๑๑๙ ปี กรมทรัพยากรธรณี (จัดพิมพ์เน่ืองในโอกาสครบรอบ ๑๑๙ ปี แห่งการ สถาปนากรมทรพั ยากรธรณี). กรงุ เทพฯ: กรมทรัพยากรธรณ,ี ๒๕๕๔. วิกิพีเดีย. ตราประจำ�จงั หวัดของไทย. (สบื คน้ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ จาก http://th.wikipedia.org)
ทรัพยากรธรณี สัญลกั ษณข์ องจังหวัด จดั ทำ�โดย คณะกรรมการคดั เลือกและจดั ทำ�ข้อมูลเอกสาร กรมทรัพยากรธรณี หนิ หรือแรส่ ัญลักษณ์ของจังหวัด ถนนพระรามท ่ี ๖ เขตราชเทว ี กรงุ เทพฯ ๑๐๔๐๐ อธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี โทรศัพท์ ๐-๒๖๒๑-๙๕๐๐ รองอธิบดกี รมทรพั ยากรธรณี เวบ็ ไซต์ www.dmr.go.th ผแู้ ทนคณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชด�ำ ริ เลขมาตรฐานสากลประจำ�หนงั สือ (ISBN) นายกสมาคมธรณวี ทิ ยาแหง่ ประเทศไทย ๙๗๘-๙๗๔-๒๒๖-๔๗๑-๐ หวั หน้าภาควิชาเทคโนโลยีธรณี มหาวิทยาลัยขอนแก่น พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑ หวั หน้าภาควิชาธรณีวทิ ยา จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ จ�ำ นวน ๑,๕๐๐ เลม่ หวั หนา้ ภาควิชาธรณีวทิ ยา มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ คณะทีป่ รึกษา หวั หนา้ ภาควชิ าฟิสิกส์ มหาวิทยาลัยมหิดล วทิ ยาเขตกาญจนบุรี นายนทิ ศั น์ ภูว่ ัฒนกุล อธิบดกี รมทรัพยากรธรณี หัวหนา้ สาขาวิชาเทคโนโลยีธรณี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี ุรนารี นายทศพร นชุ อนงค์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ผอู้ ำ�นวยการสำ�นกั ทรพั ยากรแร่ นายนพพล ศรีสขุ รองอธบิ ดีกรมทรพั ยากรธรณี ผู้อ�ำ นวยการสำ�นกั ธรณวี ิทยา นายพล เชาวด์ ำ�รงค์ นายสุวัฒน์ ตยิ ะไพรชั นายสวุ ภาคย์ อิม่ สมุทร คณะอนกุ รรมการจัดทำ�หนงั สือ นักเขยี นและนกั วิชาการทีป่ รึกษา ทรัพยากรธรณี สญั ลักษณ์ของจังหวัด นายพล เชาวด์ �ำ รงค์ เรยี บเรยี งตน้ ฉบับ นายทศพร นชุ อนงค์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี นายประชา คุตตกิ ลุ เรยี บเรียงตน้ ฉบับ นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต ผอู้ �ำ นวยการสำ�นกั ธรณีวทิ ยา ออกแบบและจดั ทำ�รูปเล่ม นายพล เชาว์ด�ำ รงค ์ ข้าราชการบ�ำ นาญ ฝ่าย Amarin Publishing Services นายประสาท พาศริ ิ ผู้อำ�นวยการส�ำ นักงานงานเลขาธิการ กปร. บริษัทอมรนิ ทร์พรนิ้ ตงิ้ แอนดพ์ ับลชิ ชิง่ จำ�กัด (มหาชน) นางสดุ า ละเอยี ดจิต กระทรวงมหาดไทย ๖๕/๑๖ ถนนชัยพฤกษ ์ (บรมราชชนนี) เขตตล่งิ ชนั กรงุ เทพฯ ๑๐๑๗๐ ผศ.วิชยั จทู ะโกสทิ ธ์ิกานนท ์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย โทรศัพท ์ ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐ ต่อ ๑๒๐๐, ๑๒๑๓ นายวฒั นา ตันเสถยี ร กรมทรพั ยากรธรณี โทรสาร ๐-๒๔๒๒-๙๐๙๑ นางงามพิศ แยม้ นยิ ม ข้าราชการบำ�นาญ แยกสแี ละพมิ พ์ท่ี นายสมหมาย เตชวาล กรมทรพั ยากรธรณี สายธรุ กจิ โรงพมิ พ์ บริษัทอมรนิ ทรพ์ ร้นิ ตง้ิ แอนด์พับลิชช่ิง จำ�กัด (มหาชน) นายสุวฒั น์ ติยะไพรัช กรมทรพั ยากรธรณี ๖๕/๑๖ ถนนชัยพฤกษ ์ (บรมราชชนนี) เขตตลิ่งชนั กรุงเทพฯ ๑๐๑๗๐ นายสุวภาคย์ อิ่มสมทุ ร กรมทรพั ยากรธรณี โทรศัพท ์ ๐-๒๔๒๒-๙๐๐๐, ๐-๒๘๘๒-๑๐๑๐ นายกติ ติ ขาววเิ ศษ กรมทรพั ยากรธรณี โทรสาร ๐-๒๔๓๓-๒๗๔๒, ๐-๒๔๓๔-๑๓๘๕ นางสาวปานใจ สารพันโชติวิทยา กรมทรัพยากรธรณี นางสาวมยรุ ี ธรรมานุสาร กรมทรพั ยากรธรณี ขอ้ ความและภาพในหนงั สอื น้ีสงวนลขิ สทิ ธ์ติ ามกฎหมาย ถา้ จะนำ�ไปเผยแพร่ซา้ํ ไม่วา่ จะเป็นบางส่วน หรือทง้ั หมดต้องได้รับการยินยอมเป็นลายลักษณ์อกั ษรจากกรมทรพั ยากรธรณี
“วทิ ยาการทกุ อย่างมิใช่มีข้ึนในคราวหน่ึงคราวเดยี วได้ หากแต่คอ่ ยๆ สะสมกนั ขน้ึ มาทีละเล็กละนอ้ ยจนมากมายกวา้ งขวาง การเรยี นวทิ ยาการกเ็ ชน่ กนั บคุ คลจำ�จะต้องค่อยๆ เรยี นรู้ใหเ้ พ่มิ พูนขึน้ มาตามล�ำ ดับ ใหค้ วามรทู้ ี่เพม่ิ พูนขึ้นน้ันเกิดเปน็ รากฐานรองรบั ความรู้ที่สงู ขน้ึ ลึกซงึ้ กว้างขวางขึ้นต่อๆ ไป” (พระบรมราโชวาท ในพธิ ีพระราชทานปรญิ ญาบัตรแกผ่ ู้สำ�เร็จการศึกษา จากมหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๙)
Search