การเดิน ที่จะเปลี่ยนคุณ เป็นคนหุ่นดี การเดิน ลดความอ้วนมีจริงหรอ บอกเลยค่ะ ว่า มีจริง! เพราะแค่ก้าวเดิน คุณก็ผอมได้ และที่สำคัญ การเดินยังมีประโยชน์มากมายอีกด้วย เราคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวร่างกายแบบนี้เป็นอย่างดี เพราะร้อยละ 95 ของชีวิตนั้นคือการเดิน ฉะนั้น กิจกรรมนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับ คนที่เริ่มต้นออกกําลังกายและไม่มีทักษะด้านนี้เลย เรามาดูกันว่าการเดิน มีประโยชน์อย่างไร และแตกต่างจากการออกกําลังกายประเภทอื่นๆ หรือไม่ ประโยชน์ มหาศาลจากการเดิน 1.บรรเทาอาการเจ็บปวด เพราะเป็นการเคลื่อนไหว อย่างเป็นธรรมชาติ จึงทําให้ข้อต่อที่ติดขัด หรือเคลื่อนไหวลําบากทํางานได้คล่องแคล่วขึ้น 2.ป้ องกันหวัด ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเพราะมีภูมิคุ้มกัน สูงขึ้น 3.นอนหลับง่ายและหลับลึก จึงทําให้เกิดการซ่อมแซม เซลล์ส่วนที่สึกหรอ 4.ป้ องกันโรคเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ภาวะระดับน้ําตาลในเลือดสูง โรคความดันโลหิต ภาวะไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน หรือโรคข้อเข่าเสื่อม 5.เลือดลมเดินคล่อง จึงช่วยให้สมองแล่น อารมณ์ แจ่มใส 6. มีอายุยืนยาวขึ้น
หลากหลายวิธีเดิ น ต่อไปนี้ ผู้เขียนจะแนะนํ ารูปแบบการเดิน ซึ่งมีหลากหลาย ทั้ง การเดินช้าๆ ทั่วไป จนถึงการเดินระดับมืออาชีพ เพื่อให้ผู้อ่าน ได้เลือกตามความชอบของตนเอง เดินออกกําลังกายทั่วไป เช่ น การเดินตามสวนสาธารณะ ในฤดูร้อนนี้ แนะนํ าให้ ตื่นเช้ ากันสั กนิ ด เพื่อจะได้เดิน ในสภาพอากาศไม่ร้อนจัด และยังทําให้ ได้ สู ดอากาศสดชื่ น ช่ วยให้ สมองปลอดโปร่ง นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมเดินออกกําลังกาย ทําให้ เราไม่เหงา เหมาะสํ าหรับผู้สู งอายุ ที่ ไม่ค่อยมีกิจกรรมทํา และผู้ที่ ชอบสั งคมของ การออกกําลังกาย ซึ่ งจะช่ วยให้ เกิดความรู้สึ ก ส นุ ก แ ล ะ มี กํ า ลั ง ใ จ ใ น ก า ร อ อ ก กํ า ลั ง ก า ย สํ าหรับมือใหม่โดยเฉพาะผู้สู งอายุ ควรเริ่มเดินโดยใช้ ความเร็วปกติอย่างน้ อย ครั้งละ 30 นาที เพื่อช่ วยบริหารข้อต่อและ ฝึ กความอดทนของกล้ามเนื้ อและหั วใจ แล้วค่อยๆ เพิ่มเวลาเป็ น 45-60 นาที นอกจากนี้ การเดินยังเป็ นกิจกรรมครอบครัว ที่ ทุกคนสามารถทําร่วมกันได้ในวันหยุด เพื่อเชื่ อมความสั มพันธ์ของทุกคน
เดินบนลู่วิ่งในฟิตเนส เป็ นทางเลือกหนึ่งในการเดิน เพราะเราสามารถใช้บริการ ได้เกือบตลอดทั้งวัน โดยทั่วไปจะเปิ ดให้บริการตั้งแต่ เวลา 6.00 – 22.00 น. และส่วนใหญ่จะติดตั้งเครื่อง ปรับอากาศ จึงไม่ต้องกลัวความร้อน เหมาะสําหรับบุคคล ที่ชอบออกกําลังกายแบบไม่วุ่นวาย เ ป็ น ที่ นิ ย ม ข อ ง ก ลุ่ ม ค น ทํ า ง า น โ ด ย ใ ช้เ ว ล า ห ลัง เ ลิก ง า น ม า อ อ ก กํ า ลัง ก า ย แ ล ะ ห ลัง จ า ก อ อ ก กํ า ลัง ก า ย เ ส ร็จ ก็ มีห้ อ ง อ า บ น้ำ ไ ว้ บ ริก า ร เ พื่ อ ช่ว ย ใ ห้ รู้สึ ก ส บ า ย ตัว ก่ อ น ก ลับ บ้ า น ก า ร เ ดิน บ น ลู่ วิ่ง แ ล ะ ก า ร เ ดิน อ อ ก กํ า ลัง ก า ย ทั่ ว ไ ป มีเ ท ค นิ ค เ ห มือ น กัน แ ล ะ ช่ว ย เ ผ า ผ ล า ญ พ ลัง ง า น ไ ด้ ค รั้ง ล ะ ป ร ะ ม า ณ 2 0 0 - 4 0 0 กิ โ ล แ ค ล อ รี น อ ก จ า ก นี้ ก า ร เ ผ า ผ ล า ญ พ ลัง ง า น ยัง ขึ้น อ ยู่ กับ ค ว า ม เ ร็ว ใ น ก า ร เ ดิน แ ต่ ก า ร เ ดิน บ น ลู่ วิ่ง จ ะ เ ผ า ผ ล า ญ พ ลัง ง า น ไ ด้ น้ อ ย ก ว่ า ก า ร เ ดิน บ น พื้น ดิน ทั่ ว ไ ป การเดินแบบบริสก์วอล์ค (Brisk Walk) เป็ นการเดินแบบมีระเบียบแบบแผน มีเทคนิ คคล้ายการเดิ นออกกําลังกายทั่ วไปตาม สวนสาธารณะและการเดินบนลู่วิ่ง แต่แตกต่างกัน ที่จังหวะก้าวค่อนข้างเร็วแต่สม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินมากขึ้น ซึ่งถือว่าจริงจังมากกว่าการเดิ นออกกําลังกายทั่ วไป ซึ่งจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึงชั่วโมงละ 300-500 กิโลแคลอรี
การเดินสลับวิ่ง เป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจอย่างเป็นจังหวะ และเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้มาก (หากจัดโปรแกรมการเดินสลับวิ่งดีๆ และร่างกายรับไหว จะสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 1,000 กิโลแคลอรี) แนะนําว่า ควรเดินสลับวิ่งหลังจากฝึกเดินจนระบบหัวใจ สามารถปรับตัวได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงเห็นว่าหลายๆ หน่วยงานเลือกการเดิน-วิ่งเป็นสื่อกลางสําหรับ การจัดกิจกรรมเพื่อการกุศล และยังช่วยให้ตัวเอง ได้ออกกําลังกายอีกด้วย เดินจงกรม เป็นการเดินเพื่อออกกําลังจิตตามหลักธรรมะ เพื่อบริหารจิต ฝึกการตามรู้ให้เกิดสติในปัจจุบัน ขณะ และยังมีการกล่าวถึงประโยชน์ของการเดิน จงกรมตามภาษาธรรมว่า ทําให้มีความอดทน มีความพากเพียรดี มีอาพาธน้อย ช่วยย่อยอาหาร มีสติ และสมาธินานขึ้น การเดินถอยหลัง ช่วยกระตุ้นการทํางานของกล้ามเนื้อ เส้นประสาท เส้นเลือดฝอย สมอง และช่วยให้ความคิดโลดแล่น และการทรงตัวดีขึ้น วิธีเดินคือ ให้ก้าวเท้าไปด้านหลัง ค่อยๆ ถ่ายน้ำหนักตัว ลงไปที่กลางฝ่าเท้าแล้วเคลื่อนไปที่ส้นเท้า ก้าวเท้าช้าๆ ช่วงแรกอาจมีอาการมึนงงบ้างเล็กน้อย ค่อยๆ ฝึกไปจนเกิดความชํานาญ อาจลองฝึก บนลู่วิ่งก่อน โดยการจับลู่วิ่งไว้แล้วเดินถอยหลัง
การเดินเพื่อพัฒนาบุคลิกภาพ เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเดินของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิด บุคลิกภาพที่ดี สง่างาม และโดดเด่น สร้างความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น การเดินทนหรือ การเดินประเภทแข่งขัน เป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจอย่างเป็นจังหวะและ เพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้มาก (หากจัดโปรแกรมการ เดินสลับวิ่งดีๆ และร่างกายรับไหวจะสามารถเผาผลาญ พลังงานได้ถึง 1,000 กิโลแคลอรี) แนะนํ าว่าควรเดินสลับ วิ่งหลังจากฝึกเดินจน ระบบหัวใจสามารถปรับตัวได้ใน ระดับหนึ่ งแล้ว จึงเห็นว่าหลายๆ หน่ วยงานเลือกการเดิน- วิ่งเป็นสื่อกลางสําหรับการจัดกิจกรรมเพื่อการกุศล และ ยังช่วยให้ตัวเองได้ออกกําลังกายอีกด้วย คําแนะนํ าเพิ่มเติม การวางเท้าจําเป็นต้องวางส้นเท้าลงก่อน เสมอ การบิดช่วงเอวเล็กน้ อยจะช่วยให้แขนและขาเคลื่อนไหว สัมพันธ์กันอย่างราบรื่น การเดินทนสามารถเผาผลาญ พลังงานได้มาก เพราะต้องเดินแข่งกับเวลา ตนเอง และผู้อื่น โดยที่ยังต้องเดินให้ถูกต้องตามกฎกติกาอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่อง ค่อนข้างยาก และจากชื่อคงพอจะเดาออกว่า การแข่งขันแต่ละ ครั้งต้องใช้เวลานาน โดยมีระยะทางเริ่มต้นที่ 3,000 เมตร 5,000 เมตร 10 กิโลเมตร หากเป็นการแข่งขันระดับ นานาชาติจะมีระยะทางถึง 20 กิโลเมตรเลยทีเดียว แล้วคุณจะพบความมหัศจรรย์ของการเดินและหลงรัก การออกกําลังกายประเภทนี้อย่างไม่รู้ตัว
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: