รายงาน เรื่อง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้าว จัดทำโดย เด็กหญิง ปิยวาส แก้วทรัพย์ ชั้นมัถยมศึกษา ปีที่ 3 เลขที่13 เสนอ อาจาร์ย อมรรัตน์ อ่อนจันทร์สกุล โรงเรียนสาคลีวิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัถยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา
คำนำ รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่ อเป็ นส่วนหนึ่ งของวิชา วิทยาการคำนวณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อให้ได้ ศึกษาหาความรู้ในเรื่องขั้นตอนการทำรายงานและ ได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่ อเป็ นประโยชน์แก่การเรียน นักศึกษาและผู้ที่สนใจ ผู้จัดทำหวังว่ารายงานฉบับนี้จะให้ความรู้ และเป็น ประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ ท่านที่กำลังหาข้อมูลเรื่อง นี้อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้ อมรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
สารบัญ บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้าว
เนื้อเรื่อง พระราชพิธีที่สื่อให้เห็นถึงความห่วงใยของพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรแล้ว โครงการส่วนพระองค์ต่างๆ ในพระตำหนักจิตรลดารโหฐานของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เช่น โครงการโรงสีข้าวตัวอย่าง และนาข้าวทดลอง ศัพท์ภาษาอังกฤษของคำว่า โรงสีข้าว คือ rice mill ซึ่งคำว่า mill สามารถใช้ได้ หลายความหมายไม่ว่าจะแปลว่าโรงงานผลิตสินค้า เครื่องโม่ เครื่องบด หรือแปล ว่าเครื่องสี หรือโรงสีได้ด้วยเช่นกัน ส่วนคำว่า นา นั้น ภาษาอังกฤษแปลได้หลาย คำทั้ง farmland, farm, rice field, paddy field หรือ rice paddy ซึ่งคำ ว่า paddy นั้นแปลว่า นาข้าว และแปลว่าข้าวเปลือกได้ด้วย เพราะข้าวเป็นอาหารหลักของประเทศ จึงมีอยู่มากมายหลายชนิด แต่ถ้าจะจำแนก เป็นชนิดหลักๆ ก็สามารถจำแนกได้ตามสภาพพื้นที่เพาะปลูก และฤดูกาลปลูก ชนิดของข้าวตามสภาพพื้นที่เพาะปลูกนั้น จำแนกได้เป็นสามประเภท คือ 1. ข้าวไร่ Upland riceเป็นข้าวที่ปลูกได้ทั้งบนที่ราบและที่ลาด ชัน นิยมปลูกกันมากในบริเวณที่ราบสูงโดยไม่ต้องใช้น้ำมากตามไหล่เขาทางภาค เหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เนื้อที่เพาะ ปลูกทั้งประเทศไม่มากนัก แค่ร้อยละ 10 ของพื้นที่ปลูกทั่วประเทศเท่านั้น ที่ภาษา อังกฤษเรียกว่า upland rice ก็เพราะปลูกในที่ราบสูงของพื้นที่นั้น 2. ข้าวนาสวน หรือนาดำ Lowland riceสามารถปลูกในที่ลุ่ม ทั่วไปในสภาพที่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวตั้งแต่ปลูกจนกระทั่งก่อนเก็บเกี่ยว ข้าว นาสวนนิยมปลูกกันมากแทบทุกภาคของประเทศ เนื้อที่เพาะปลูกอยู่ที่ประมาณ ร้อยละ 80 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั่วประเทศ และที่ใช้คำว่า lowland rice ก็เพราะ ปลูกในที่ลุ่ม ไม่ใช่ที่ราบสูงเหมือนข้าวไร่
3. ข้าวขึ้นน้ำ หรือข้าวนาเมือง Floating riceเป็นข้าวที่ปลูกในแหล่งที่ ไม่สามารถรักษาระดับน้ำได้ จึงต้องใช้ข้าวพันธุ์พิเศษที่เรียกว่า ข้าวลอย หรือข้าวฟ่างลอย ส่วนมากปลูกแถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี พิจิตร อ่างทอง ชัยนาท และสิงห์บุรี มีเนื้อที่เพาะปลูกไม่มาก ประมาณร้อยละ 10 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งประเทศ คำว่า float แปลได้หลายอย่าง แต่ความหมายหลักคือ ลอย หรือล่องลอย เลยเป็นความ หมายของการปลูกข้าวประเภทนี้ ส่วนชนิดที่แบ่งตามฤดูปลูก คือ 1. ข้าวนาปี หรือข้าวนาน้ำฝน คือ ข้าวที่ปลูกในฤดูการทำนาปกติ จึงใช้ภาษา อังกฤษตรงตัวว่า in-season rice เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมและเก็บเกี่ยวสิ้น สุดไม่เกินกุมภาพันธ์ 2. ข้าวนาปรัง คือ ข้าวที่ปลูกนอกฤดูการทำนาปกติ ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า off- season rice คือเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม นิยมปลูกในพื้นที่ที่มีการชลประทานดี เช่น ใน ภาคกลาง เป็นต้น ถ้าทุกคนให้ความสำคัญกับข้าว โดยไม่ เห่อ อาหารฝรั่ง ดังเช่นที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พวกเราเสมอมา อาหารหลักของชาติที่ ให้ประโยชน์และคุณค่าเอนกอนันต์ชนิดนี้ก็จะยังคงความสำคัญ และคงเป็นสัญลักษณ์ของ โภชนาการไทยสืบไป
3. ข้าวขึ้นน้ำ หรือข้าวนาเมือง Floating riceเป็นข้าวที่ปลูกในแหล่งที่ ไม่สามารถรักษาระดับน้ำได้ จึงต้องใช้ข้าวพันธุ์พิเศษที่เรียกว่า ข้าวลอย หรือข้าวฟ่างลอย ส่วนมากปลูกแถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี พิจิตร อ่างทอง ชัยนาท และสิงห์บุรี มีเนื้อที่เพาะปลูกไม่มาก ประมาณร้อยละ 10 ของเนื้อที่เพาะปลูกทั้งประเทศ คำว่า float แปลได้หลายอย่าง แต่ความหมายหลักคือ ลอย หรือล่องลอย เลยเป็นความ หมายของการปลูกข้าวประเภทนี้ ส่วนชนิดที่แบ่งตามฤดูปลูก คือ 1. ข้าวนาปี หรือข้าวนาน้ำฝน คือ ข้าวที่ปลูกในฤดูการทำนาปกติ จึงใช้ภาษา อังกฤษตรงตัวว่า in-season rice เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมและเก็บเกี่ยวสิ้น สุดไม่เกินกุมภาพันธ์ 2. ข้าวนาปรัง คือ ข้าวที่ปลูกนอกฤดูการทำนาปกติ ภาษาอังกฤษจึงใช้คำว่า off- season rice คือเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม นิยมปลูกในพื้นที่ที่มีการชลประทานดี เช่น ใน ภาคกลาง เป็นต้น ถ้าทุกคนให้ความสำคัญกับข้าว โดยไม่ เห่อ อาหารฝรั่ง ดังเช่นที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีแก่พวกเราเสมอมา อาหารหลักของชาติที่ ให้ประโยชน์และคุณค่าเอนกอนันต์ชนิดนี้ก็จะยังคงความสำคัญ และคงเป็นสัญลักษณ์ของ โภชนาการไทยสืบไป
บรรณานุกรรม ข้อมูลโดย มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมถ์ ลิขสิทธิ์ © 2016-2017 มูลนิธิชัยพัฒนา (The Chaipattana Foundation) สงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งหมด
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: