Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนที่ 8 อารยธรรมกรีกและโรมัน

แผนที่ 8 อารยธรรมกรีกและโรมัน

Published by nujaree, 2020-12-05 03:29:53

Description: แผนที่ 8 อารยธรรมกรีกและโรมัน

Search

Read the Text Version

ประวตั ศิ าสตร์สากล ม. 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 อารยธรรมตะวนั ตกสมัยโบราณ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 อารยธรรมกรีกและอารยธรรมโรมนั เวลา 2 ช่ัวโมง 318

อารยธรรมกรีกและโรมันอยู่บริเวณใดของทวปี ยโุ รป อารยธรรม อารยธรรม โรมนั กรีก บริเวณ บริเวณ ประเทศ อิตาลีใน ประเทศกรีซ ปัจจุบนั ในปัจจุบนั 319

4. อารยธรรมกรีก 320

4.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถนิ่ นาน ดนิ แดนของชาวกรีกบนแผ่นดนิ ในทวปี ยุโรปแบ่งได้เป็ น 3 ส่วน คอื ภาคเหนือ ภาคกลาง บริเวณคาบสมุทร เพโลพอนนีซัส – แควน้ มาซิโดเนีย – นครทีบส์ (Thebes) (Macedonia) – นครเดลฟี (Delphi) – นครรัฐสปาร์ตา (Sparta) – เทสซาลี – ช่องเขาเทอร์มอปิ เล – โอลิมเปี ย (Olympia) (Thessaly) และอิไพรัส (Epirus) (Thermopylae) – ยอดเขาพาร์แนสซสั (Parnassus) – แควน้ แอตติกะ (Attica) ซ่ึงมี เมืองหลวง คือ นครรัฐเอเธนส์ (Athens) 321

4.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถนิ่ นาน  สภาพภูมิประเทศของดินแดนกรีซเตม็ ไปดว้ ยภูเขาและเนินเขาซ่ึงแบ่งแผน่ ดิน กรีซออกเป็ นที่ราบหุบเขามากมาย ภูเขาเป็ นอุปสรรคสาคัญในการติดต่อ ระหวา่ งผคู้ นที่อยอู่ าศยั ตามท่ีราบหุบเขาต่าง ๆ หมู่บา้ นตามหุบเขาจึงปกครอง เป็ นอิสระต่อกนั สภาพการเมืองในดินแดนกรีซจึงมีลกั ษณะแตกแยกเป็ นรัฐ เลก็ ๆ จานวนมาก  สภาพภมู ิศาสตร์ของดินแดนกรีซไม่เหมาะกบั การเพาะปลกู จึงไม่สามารถผลิต พืชผลได้เพียงพอ ชาวกรีกจึงนิยมทาการค้าขายโดยเส้นทางทะเล และมี ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เหล็ก ทอง เงิน และหินอ่อน ซ่ึงนิยมนามาสร้าง บา้ นเรือนจานวนมาก 322

4.2 อารยธรรมกรีกสมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์  มีการต้งั ถิ่นฐานบา้ นเรือนในดินแดนกรีซเม่ือประมาณ 4,000 ปี ก่อน คริสตศ์ กั ราช  พบเครื่องมือทาดว้ ยหิน เครื่องป้ันดินเผามีลวดลายประดบั และมีคุณภาพ  ประชากรดารงชีวติ ดว้ ยการเกษตรเป็นหลกั  ลกั ษณะส่ิงก่อสร้างบางแห่งมีลกั ษณะคลา้ ยป้ อมปราการ  สนั นิษฐานวา่ มีการจดั ระเบียบการปกครองในชุมชนกนั แลว้ ราว 3,000–2,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช เกาะครีตในทะเลอีเจียนรู้จกั ใชโ้ ลหะไดแ้ ก่ ทองแดง สาริด เขา้ ใจวา่ คงรับมาจากอารยธรรมอียปิ ตโ์ บราณ เน่ืองจากเกาะครีตต้งั อยทู่ างตอนใตส้ ุดของกรีซ ใตเ้ กาะครีตลงไปคืออียปิ ต์ โดยมีทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอยรู่ ะหวา่ งกลาง 323

4.3 อารยธรรมกรีกสมยั ประวตั ิศาสตร์ อารยธรรม  เกิดข้ึนบนเกาะครีต ไมนวน  ชาวครีตหรือชาวครีตนั (Cretan) เป็นชนพ้นื เมืองของเกาะน้ี  ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพคา้ ขาย  อารยธรรมเจริญสูงสุดระหวา่ ง 1,800–1,500 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช เรียกวา่ สมยั วงั  อารยธรรมไมนวนถูกพวกไมซีเนียน จากผนื แผน่ ดินใหญ่รุกราน 324

4.3 อารยธรรมกรีกสมยั ประวตั ศิ าสตร์ อารยธรรม  เจริญรุ่งเรืองอยปู่ ระมาณ 1,400–1,100 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช ไมซีเน  ศนู ยก์ ลางอยทู่ ่ีเมืองไมซีเนบนคาบสมุทรเพโลพอนนีซสั  บรรพบุรุษของชาวไมซีเนียน คือ พวกเอเคียน (Achaean) ซ่ึง มีความสามารถในการรบและการคา้  อารยธรรมของชาวไมเนียนท่ีสาคญั เช่น ตวั อกั ษรไมซีเนียน การสร้างถนน สะพาน รู้จกั ส่งท่อน้าแบบประปา  นบั ถือเทพเจา้ หลายองคร์ วมท้งั เทพเจา้ ซูส (Zeus) ซ่ึงชาวกรีก ในสมยั ต่อมานบั ถือเป็นเทพเจา้ สูงสุด  อารยธรรมไมซีเนสิ้นสุดลงเพราะถกู พวกดอเรียน (Dorian) ซ่ึงเป็นกรีกอีกเผา่ หน่ึงรุกราน 325

4.4 นครรันของกรีก การปกครอง • แบ่งเป็นนครรัฐ (city-state) ชาวกรีกเรียกวา่ โพลิส (polis) • ในยคุ คลาสสิก ทุกนครรัฐมีอิสระในการปกครองท่ีแตกต่างกนั • บางนครรัฐปกครองในระบอบกษตั ริยแ์ ละบางนครรัฐปกครอง ในระบอบคณาธิปไตย • ในเวลาตอ่ มาหนั มาปกครองในระบอบประชาธิปไตย ศูนย์กลาง • ประมาณ 500 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราชศนู ยก์ ลางความเจริญอยทู่ ่ี นครรัฐเอเธนส์ (Athens) 326

4.4 นครรันของกรีก สมยั พระเจ้า • เรียกวา่ ยคุ เฮลเลนิสติก (Hellenistic Age) เป็นยคุ ท่ีกรีกขยาย อเลก็ ซานเดอร์ ดินแดนครอบคลุมอียปิ ต์ เอเชียไมเนอร์ เปอร์เซีย ไปจนถึงอินเดีย มหาราช สงครามกบั • เอเธนส์เป็นฝ่ ายชนะ เอเธนส์กลายเป็นผนู้ าของนครรัฐต่างๆ เปอร์เซีย • จดั ต้งั สมาพนั ธรัฐแห่งหม่เู กาะเดลอส (Delos) เป็นท่ีเกบ็ รักษา สมบตั ิ ซ่ึงต่อมากย็ า้ ยไปอยทู่ ี่เอเธนส์ ความมงั่ คง่ั ของเอเธนส์ได้ ทาใหเ้ อเธนส์เขา้ สู่สงครามเพโลพอนนีเชียน (Peloponnesian) สงคราม • เป็นสงครามเอเธนส์กบั สปาร์ตา เพโลพอนนีเชียน • นาความเส่ือมมาสู่นครรัฐกรีก 327

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก สถาปัตยกรรม นิยมสร้างวหิ ารสาหรับเทพเจา้ โดยสร้างบนเนินเลก็ ๆ มีช่ือเรียกวา่ อะครอโพลิส (Acropolis) วหิ ารทส่ี าคญั คอื วหิ ารพาร์เธนอน (Parthenon) 328

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก สถาปัตยกรรม ลกั ษณะเสากรีกมี 3 แบบ ดอริก (Doric order) ไอออนิก (Ionic order) คอรินเธียน (Corinthian order) เนน้ ความแขง็ แรง เรียวยาวกวา่ แบบดอริก เนน้ ความหรูหรา ประดบั เสาส่วนกลางใหญ่และเรียว หวั เสาโคง้ มว้ นลงมา ยอดเสาดว้ ยลายใบไม้ ข้ึนเลก็ นอ้ ย หวั เสาเรียบ ท้งั สองขา้ ง ทาใหเ้ สาดูเพรียว ปรากฏในยคุ เฮลเลนิสติก 329

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก ประติมากรรม สะทอ้ นลกั ษณะธรรมชาตินิยม อยา่ งแทจ้ ริง เทพเจ้ากรี กมี ลักษณะเป็ น ม นุ ษ ย์ มี อ า ร ม ณ์ ค ว า ม รู้ สึ ก เคล่ือนไหวเหมือนจริง  สมยั คลาสสิกจะสร้างงานประติมากรรม แบบเปลือยที่เนน้ กายวภิ าคศาสตร์  ส่วนสมยั เฮเลนิสติกงานประติมากรรม มกั แสดงถึงความทุกข์ยาก ความทรมาน ความเจ็บปวด และความชราของมนุษย์ 330

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก จติ รกรรม งานจิตรกรรมยคุ แรก ๆ ของกรีกที่หลงเหลือมาถึงทุกวนั น้ีส่วนใหญ่จะ เป็ นงานจิตรกรรมบนภาชนะของใชต้ ่าง ๆ ท่ีทาจากเครื่องป้ันดินเผา เช่น ไหเหลา้ โถเหลา้ แกว้ เหลา้ ในระยะแรกนิยมใช้สีแดงเป็ นพ้ืน และวาดรู ปคนเป็ นสี ดาเรี ยกว่า แจกนั ลวดลายคนสีดา (Black Figure Vase) ต่อมาในยุคคลาสสิกรูปวาด และสีพ้นื จะสลบั สีกนั มีช่ือวา่ แจกนั ลวดลายคนสีแดง (Red FigureVase) 331

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก จติ รกรรม  รูปท่ีวาดเป็นเร่ืองราวจากเทพปกรณมั (mythology) และมหากาพยข์ องโฮเมอร์  นับไดว้ ่าเป็ นงานศิลปะท่ีล้าค่า กลายเป็ นแม่แบบของจิตรกรรมบนภาชนะท่ี นิยมในสมยั ตอ่ มา  ในยุคเฮลเลนิสติก กรีกไดค้ น้ พบเทคนิคใหม่ในการวาดภาพประดบั ฝาผนัง ขนาดใหญ่โดยใชห้ ินหรือกระเบ้ืองสีมาประดบั เรียกวา่ โมเสก (mosaic) ซ่ึงมี ความคงทนถาวร  ภาพโมเสกน้ีไดร้ ับความนิยมมาก และไดถ้ ่ายทอดต่อไปยงั จกั รวรรดิโรมนั จน กลายเป็นมรดกทางวฒั นธรรมสืบทอดกนั มาตราบเท่าทุกวนั น้ี 332

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก นาฏกรรม  การละครของกรีกมีความเกี่ยวพนั ใกลช้ ิดกบั เทศกาลบวงสรวงและเฉลิมฉลอง ใหแ้ ก่เทพเจา้ ไดโอนิซสั (Dionysus) ซ่ึงเป็นเทพเจา้ แห่งความสมบูรณ์พนู สุข  การแสดงละครน้ีแพร่หลายอย่างมากในยุคคลาสสิก จนในที่สุดก็พฒั นาเป็ น ละครประเภทโศกนาฏกรรม (tragedy) และสุขนาฏกรรม (comedy) การละครของกรีกน้ีนบั วา่ เป็นมรดกล้าค่า ทางวฒั นธรรมอยา่ งหน่ึงทก่ี รีกไดม้ อบใหแ้ ก่ชาวโลก และยงั คงมีอิทธิพลสาคญั ต่อวงการละครตะวนั ตก ในปัจจุบนั 333

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก วรรณกรรม มหากวีโฮเมอร์ มหากาพย์อเิ ลยี ด โอดสิ ซีย์ ไดร้ ับการยกยอ่ งในแง่ของโครงเรื่อง ความไพเราะ จินตนาการ ตลอดจน อารมณ์ท่ีถา่ ยทอดออกมาไดอ้ ยา่ งงดงาม ซ่ึงถือกนั วา่ เป็นงานที่เป็นแม่แบบ ของงานวรรณกรรม กรีกมีงานประพนั ธ์อื่น ๆ ที่ถือเป็นมรดกทางวฒั นธรรมที่สาคญั และเป็นการเร่ิมตน้ หรือจุดกาเนิดของวชิ าปรัชญาและประวตั ิศาสตร์ 334

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก วรรณกรรม วรรณกรรมอน่ื ทส่ี าคัญ  อุตมรัฐ (The Republic) ของเพลโต  จริยศาสตร์ (Ethics) ของอาริสโตเติล  ประวตั ิศาสตร์ (History) ของเฮโรโดตสั  ประวตั ิศาสตร์สงครามเพโลพอนนีเชียน (History of Peloponnesian War) ของ ทซู ิดิดีส 335

4.5 มรดกของอารยธรรมกรีก วทิ ยาการอนื่ ๆ คณติ ศาสตร์ • เกิดทฤษฎีปิ ทาโกรัส (Pythagoras) • เกิดเรขาคณิตแบบยคู ลิด (Euclid) ฟิ สิกส์ • อาร์คิมีดีสแห่งเซียราคิวส์ (Archimedes) เป็นผคู้ ิดระหดั วดิ น้าแบบเกลียวลูกรอกชุด • ต้งั กฎคานดีดคานงดั /พบวธิ ีหาปริมาตรวตั ถุดว้ ยการแทนที่น้า การแพทย์ • ฮิปโปคราตีส (Hippocrates) เป็นบิดาแห่งการแพทย์ • เฮโรฟิ ลสั แห่งแคลซีดอน เป็นบิดาแห่งกายวิภาคศาสตร์และเป็นคนแรกที่ตดั ชิ้นส่วน มนุษยเ์ พ่อื ศึกษาและพบวา่ สมองเป็นศนู ยก์ ลางของระบบประสาท ภูมศิ าสตร์ • เอราทอสทินีส (Eratosthenes) คานวณเสน้ รอบโลกได้ ประวตั ศิ าสตร์ • เฮโรโดตสั (Herodotus) เขียนหนงั สือประวตั ิศาสตร์เป็นภาษากรีก 336

5. อารยธรรมโรมนั อารยธรรมโรมนั กาเนิดในบริเวณ คาบสมุทรอิตาลี ซ่ึงต้งั อยทู่ างตอนใต้ ของทวปี ยโุ รป ลกั ษณะภมู ิประเทศ ส่วนใหญ่เป็ นภูเขาและเนินเขา บริเวณท่ีราบมีนอ้ ย 337

5.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถนิ่ นาน ลกั ษณะภูมิประเทศ  เนื่องจากบริเวณตอนกลางของคาบสมุทร เป็ นท่ีราบเล็ก ๆ จึงทาให้การต้ังถิ่นฐาน ของชุมชนอยู่อย่างกระจัดกระจายเป็ น ชุมชนเลก็ ๆ  พ้นื ที่การเกษตรมีไม่มากนกั  เมื่อมีประชากรเพิ่มมากข้ึน บริเวณดงั กล่าว จึงไม่สามารถรองรับการเกษตรที่ขยายตวั ได้ จึงเป็ นสาเหตุให้ชาวโรมันขยายดินแดน ไปยงั ดินแดนอ่ืน ๆ 338

5.1 ปัจจยั ทางภูมิศาสตร์กบั การต้งั ถน่ิ นาน ลกั ษณะภูมอิ ากาศ  ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน  สภาพอากาศอบอุ่น  มีฝนตกในฤดหู นาว  อากาศแหง้ แลง้ ในฤดแู ลง้ ทรัพยากรธรรมชาติ  มีทรัพยากรแร่ธาตุอุดมสมบรู ณ์ พอสมควร เช่น เหลก็ สงั กะสี เงิน หินออ่ น ยปิ ซมั เกลือ และโพแทช  มีทรัพยากรป่ าไม้  ทรัพยากรดินมีจานวนจากดั 339

5.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถน่ิ นาน  ปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ส่งผลใหป้ ระชากรชาวโรมนั เป็นคนที่ขยนั อดทน มีระเบียบวนิ ยั ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบอยา่ งเคร่งครัด  สามารถขยายอาณาเขตยดึ ครองดินแดนของชนเผา่ อื่น ๆ เช่น  ดินแดนของพวกอิทรัสกนั  ดินแดนรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  ชาวโรมนั ไดร้ ับอารยธรรมจากดินแดนต่าง ๆ ที่เขา้ ยดึ ครองผสมผสาน กบั อารยธรรมโรมนั ของตนเอง 340

5.2 อารยธรรมโรมันสมยั ประวตั ศิ าสตร์ ชาวโรมนั มีความเช่ือตามตานานวา่ กรุงโรมสถาปนาข้ึนบนเนินเขา 7 ลูก เม่ือ 753 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช โดยพ่ีนอ้ งฝาแฝดช่ือ โรมูลุส (Romulus) และ เรมุส (Remus) ซ่ึงเติบโตจากน้านมและการเล้ียงดูของสุนขั ป่ า จากหลกั ฐานทางโบราณคดีและประวตั ิศาสตร์พบว่าบริเวณท่ีต้งั ของกรุง โรมปัจจุบนั มีพวกอทิ รัสกนั (Etruscan) ซ่ึงรับอารยธรรมของกรีกครอบครองอยู่ ก่อน นอกจากพวกอิทรัสกนั แลว้ ยงั มีผอู้ พยพจากเผ่าอื่น ๆ เช่น พวกละตินซ่ึง เป็ นบรรพบุรุษของชาวโรมัน ซ่ึงต่อมาได้ขับไล่กษัตริย์อิทรัสกันออกจาก บลั ลงั ก์ และจดั ต้งั โรม จัดต้งั สาธารณรันและ ชนช้นั สูง เรียกวา่ พวกพาทริเชียน (patrician) แบ่งชนช้ันเป็ น 2 ชนช้ัน ราษฎร เรียกวา่ เพลเบียน (plebeian) 341

5.2 อารยธรรมโรมันสมยั ประวตั ิศาสตร์ พวกเพลเบียนไดม้ ีสิทธิออกกฎหมายร่วมกบั พวกพาทริเชียน เป็นการออกประมวล กฎหมายเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรฉบบั แรกของโรมนั กฎหมายสิบสองโตะ๊ นบั เป็นมรดกชิ้นสาคญั ของโรม (Law of the Twelve Tables) ที่ถือกนั วา่ เป็นแม่บทของ กฎหมายโลกตะวนั ตก ระหว่าง 264–146 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช โรมนั ทาสงครามพิวนิก (Punic Wars) กบั พวกคาร์เทจที่ต้งั อาณาจกั รในบริเวณภาคเหนือของทวีปแอฟริกา คาร์เทจเป็ น ฝ่ ายพ่ายแพแ้ ละตอ้ งสูญเสียอาณาจกั ร เป็ นการเปิ ดโอกาสให้โรมนั ไดเ้ ป็ นเจา้ ทะเล เมดิเตอร์เรเนียน และเป็ นรัฐท่ีมีอานาจมากที่สุดในขณะน้ัน โดยผูกขาดการค้า ระหวา่ งยุโรปตะวนั ตกกบั ยุโรปตะวนั ออกและเอเชียไมเนอร์ จนมีฐานะมงั่ คง่ั และ มีอานาจปกครองดินแดนอนั กวา้ งใหญ่ไพศาล 342

5.2 อารยธรรมโรมันสมยั ประวตั ิศาสตร์ 343 ออคเทเวยี น (Octavian) ไดร้ ับสมญานามวา่ ออกสั ตสั (Augustus) สภาโรมนั ยกยอ่ งใหเ้ ป็น จกั รพรรดิพระองคแ์ รกของจกั รวรรดิโรมนั โรมนั เจริญถึงขีดสูงสุดและสามารถขยาย อานาจและอิทธิพลไปทว่ั ท้งั ทวปี ยโุ รป เอเชียตะวนั ตก และแอฟริกาเหนือ มีการสร้างถนนทวั่ ไปเพอ่ื ความสะดวกใน การลาเลียงสินคา้ และทหาร ตลอดจน ส่งเสริมศิลปวฒั นธรรมในแขนงต่าง ๆ

5.2 อารยธรรมโรมนั สมัยประวตั ศิ าสตร์  คริสตศ์ ตวรรษท่ี 1 คริสตศ์ าสนาเผยแผเ่ ขา้ สู่กรุงโรม แต่กถ็ กู ตอ่ ตา้ นอยา่ งรุนแรง  ค.ศ. 313 จกั รพรรดิคอนสแตนตินมหาราช ประกาศกฤษฎีกาใหเ้ สรีภาพในการนบั ถือคริสตศ์ าสนา ทาใหค้ ริสตศ์ าสนาไดร้ ับการยอมรับอยา่ งแพร่หลาย  ปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 4 จกั รวรรดิโรมนั เป็นจกั รวรรดิของคริสตศ์ าสนา  คริสตศ์ ตวรรษท่ี 5 จกั รวรรดิโรมนั ออ่ นแอลง  กรุงโรมถกู พวกอนารยชนเผา่ เยอรมนั หรือเผา่ กอท (Goth) เขา้ ปลน้ สะดมหลายคร้ัง  จกั รพรรดิของโรมนั องคส์ ุดทา้ ยถกู อนารยชนขบั ออกจากบลั ลงั กใ์ น ค.ศ. 476  ถือเป็นการสิ้นสุดของจกั รวรรดิโรมนั และประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณที่สืบทอดมา ต้งั แต่การเกิดอารยธรรมในลุม่ น้าไทกริส-ยเู ฟรทีสและลุม่ น้าไนล์ 344

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมัน อารยธรรมกรีก ไดร้ ับอิทธิพลท้งั ทางตรงและทางออ้ มจาก เช่น  วธิ ีการต่อเรือ  การใชต้ วั อกั ษร  การใชเ้ หรียญกษาปณ์  มาตราชง่ั ตวง วดั  งานศิลปะแขนงตา่ ง ๆ ศิลปวฒั นธรรมของโรมนั จะสะทอ้ นใหเ้ ห็นบุคลิกภาพของชาวโรมนั 345 วา่ เป็นนกั ปฏิบตั ิมากกวา่ ชาวกรีก

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมนั สถาปัตยกรรม ไม่นิยมสร้างวหิ ารขนาดใหญ่ 346 ถวายเทพเจา้ อยา่ งกรีก แตส่ ร้างอาคารตา่ ง ๆ เพือ่ สนองความตอ้ งการของรัฐ และประโยชน์ใชส้ อยของ สาธารณชน โคลอสเซียม (Colosseum) โรงมหรสพขนาดใหญ่ จุผชู้ มไดถ้ ึง 67,000 คน สร้างข้ึนเพอื่ การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจของประชาชน เช่น เป็นท่ีแสดงกีฬาต่อสูก้ บั สิงโต

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมัน สถาปัตยกรรม  มีการสร้างสถานที่อาบน้าสาธารณะ (public baths) เพ่ือเป็ นสถานท่ีพบปะ สังสรรค์ ออกกาลงั กาย อ่านหนงั สือ และเล่นเกมตา่ ง ๆ  สร้างประตูเมือง ท่อส่งน้า ถนน และสะพานขนาด ใ ห ญ่ ท่ี แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ความสามารถเชิงวิศวกรรม เ พื่ อ ค ว า ม ส ะ ด ว ก ใ น ก า ร ค ม น า ค ม ข น ส่ ง แ ล ะ เคลื่อนทพั ในจกั รวรรดิ 347

เร่ืองน่ารู้... “ท่อระบายนา้ ” ชาวโรมนั เป็ นพวกท่ีชอบอาบน้า ภายในเมืองจึงมีการจดั ส่งน้าเป็ น 2 ประเภท คือ 1. น้าท่ีมีคุณภาพดี ใชส้ าหรับดื่ม 2. น้าคุณภาพที่ต่ากวา่ ใชส้ าหรับการอาบน้า โดยมีการสร้างท่อระบายน้าไวใ้ ตพ้ ้ืนเมือง และสามารถส่งน้าเสีย ภายในเมืองให้ไหลลงสู่แม่น้าไทเบอร์ ซ่ึงในปัจจุบนั น้ีท่อระบายน้าน้ีก็ยงั สามารถใชไ้ ดด้ ี 348

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมัน ประติมากรรม ประติมากรรมของโรมนั จะสะทอ้ นบุคลิกภาพของมนุษย์ อยา่ งสมจริงตามธรรมชาติ มีสัดส่วนงดงามเหมือนกรีก ชาวโรมนั เช่ือวา่ การแกะสลกั รูป ใหเ้ หมือนจริงท่ีสุดจะช่วยรักษา วญิ ญาณของผนู้ ้นั เม่ือตายไปแลว้ ไวไ้ ด้ 349

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมนั วรรณกรรม  ในระยะแรกเป็นการบนั ทึกพงศาวดาร ตวั บทกฎหมายตา่ ง ๆ ตลอดจนตารา ทางการทหารและการเกษตรเท่าน้นั  แต่ต่อมาในราวช่วง 100 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช เมื่อภาษาละตินไดพ้ ฒั นาจน กลายเป็นภาษาที่สละสลวยแลว้ ชาวโรมนั จึงหนั มานิยมการแต่งคาประพนั ธ์ งานประพนั ธ์ของโรมนั มวี ัตถุประสงค์ทแี่ ตกต่างจากกรีก  งานประพนั ธ์ของกรีกมีสีสนั และจินตนาการที่กวา้ งไกล  งานประพนั ธ์ที่เป็นของโรมนั แท้ ๆ จะมีวตั ถุประสงคท์ ่ีจะรับใชจ้ กั รวรรดิของ ตน งานประเภทน้ีจะสดุดีความยงิ่ ใหญ่ของชาวโรมนั 350

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมนั ปฏทิ นิ วศิ วกรรม  เดิ มชาวโรมันใช้ปฏิ ทิ น จนั ทรคติ  โรมันประสบความสาเร็จใน การสร้างถนนคอนกรี ตที่มี  เม่ือ 45 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช ความแขง็ แรงทนทาน สองขา้ ง จูเลียส ซีซาร์ ให้ใช้ปฏิทิน ถนนมีท่อระบายน้าและมีหลกั จูเลียนซ่ึงเป็ นแบบสุริ ยคติ บอกระยะทาง  ปฏิทินจูเลียนใช้มานานถึง  สร้างท่อส่งน้าหลายแห่งเพื่อ 1,600 ปี จึงมีการปรับปรุ ง น า น้ า จ า ก ภูเ ข า ไ ป สู่ เ มื อ ง เป็ นปฏิทินเกรกอเรี ยนใน ใกลเ้ คียง ค.ศ. 1582 351

5.3 มรดกของอารยธรรมโรมนั กฎหมาย  ในระยะแรกกฎหมายโรมนั ไม่ไดเ้ ขียนเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร และมี ลกั ษณะผสมกลมกลืนกบั ศาสนา  ในท่ีสุดกไ็ ดม้ ีการตรากฎหมายสิบสองโต๊ะ เพอ่ื ใหค้ วามยตุ ิธรรมแก่ชาว โรมนั อยา่ งทดั เทียมกนั ใน 450 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช  ประมวลกฎหมายโรมนั น้ีเป็นรากฐานของประมวลกฎหมายของประเทศ ตา่ ง ๆ เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน สกอตแลนด์ ญี่ป่ ุน  จกั รพรรดิจสั ติเนียน (Justinian ค.ศ. 527–565) แห่งจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ออก ไดร้ วบรวมและจดั ประมวลกฎหมายโรมนั เป็นหมวดหม่แู ละ ทิ้งไวเ้ ป็นมรดกอนั ล้าค่าของโลกตะวนั ตก 352

สรุปความรู้ • อารยธรรมกรีกมีแหล่งกาเนิดจากบริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลอีเจียน และบริเวณหมู่เกาะต่าง ๆ ในทะเลอีเจียน ก่อตัวเป็ นอารยธรรม ไมนวนและไมซีเน ต่อมาพฒั นาเป็ นนครรัฐ กรีกมีพฒั นาการในดา้ น วิทยาการต่าง ๆ ท่ีตกทอดสู่คนรุ่นหลงั มากมาย เช่น การสร้างวิหาร บูชาเทพเจ้า การแสดงนาฏกรรมซ่ึงมีอิทธิพลต่อวงการละคร ตะวนั ตก รวมถึงวรรณกรรม คณิตศาสตร์ การแพทย์ ประวตั ิศาสตร์ และระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย • อารยธรรมโรมนั มีแหล่งกาเนิดจากบริเวณคาบสมุทรอิตาลี ซ่ึงโรมนั ได้รับอิทธิพลมาจากอารยธรรมกรีกอีกทอดหน่ึง ชาวโรมนั นามา ปรับใชแ้ ละสร้างอารยธรรมท่ีย่ิงใหญ่ข้ึนมา มรดกทางวฒั นธรรมที่ สาคญั คือ กฎหมาย เช่น กฎหมายสิบสองโตะ๊ กฎหมายจสั ติเนียน 353


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook