ประวตั ิศาสตร์สากล ม. 4–6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 ผลกระทบของการขยาย อทิ ธิพลของประเทศในยุโรป แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 ทวปี เอเชีย เวลา 1 ช่ัวโมง 638
นักเรียนคดิ ว่าทวีปเอเชียมี ความสาคญั ต่อชาติตะวันตก อย่างไร เป็นแหลง่ วตั ถุดิบ ของชาติตะวนั ตก 639
3. ทวปี เอเชีย 3.1 การเมืองการปกครอง เมื่อชาวยุโรปเข้ามาหาผลประโยชน์ในดินแดนเอเชียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทาใหเ้ กิดความเปลี่ยนแปลงท้งั ดา้ นการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม และ ศิลปกรรม อานาจและบทบาททางการเมืองของชนช้นั ปกครองพ้ืนเมือง และสถาบนั ทางการเมือง แบบเดิม ถูกทดแทนด้วยผู้ปกครองชาวตะวนั ตกและสถาบนั ทางการเมืองการปกครองแบบ ใหม่ท่ีดาเนินอย่างเป็ นระบบและมีประสิทธิภาพ ในอาณานิคมบางแห่งสถาบันทาง การเมืองเดิมถูกยกเลิกไป แต่บางแห่งยงั คงเดิมอยู่ แต่อานาจและบทบาททางการเมืองถูก ถ่ายโอนไปที่ขา้ หลวงท่ีเป็ นชาวตะวนั ตก และดินแดนบางแห่งถูกกาหนดให้เป็ นดินแดน อารักขา และชาวตะวนั ตกเขา้ ควบคุมดา้ นการทหาร การคลงั และการต่างประเทศ 640
3.1 การเมืองการปกครอง ชนช้ันปกครองพ้ืนเมือง การเมอื งการปกครอง สถาบันการเมืองเดิมยัง และสถาบนั ทางการเมือง ในทวปี เอเชีย อยู่ แต่อานาจโอนไปยงั แ บ บ เ ดิ ม ถู ก แ ท น ที่ ด้ ว ย ข้าหลวงชาวตะวันตก ผปู้ กครองชาวตะวนั ตก เ ช่ น อิ น เ ดี ย ม ล า ยู กัมพูชา เวียดนาม หมู่ เกาะอนิ เดยี ตะวนั ออก ชาวตะวนั ตกเขา้ ควบคุมดา้ นการทหาร ดินแดนบางแห่งถูกกาหนดให้ การคลงั และการต่างประเทศ เป็ นดินแดนในอารักขา 641
จีน3.1 การเมืองการปกครอง ไม่ได้เป็ นอาณานิคมของชาติตะวนั ตก แต่ดินแดนบางส่วนกลายเป็ นเขตอิทธิพลของ ชาวตะวนั ตก พอ่ คา้ จีนกบั พอ่ คา้ ชาวองั กฤษมีความขดั แยง้ กนั จีนนาไปสู่สงครามฝ่ิ น เม่ือ ค.ศ. 1839 จนี เป็ นฝ่ ายแพ้สงครามและยอมทาสนธิสัญญาหนานจิงกบั องั กฤษใน ค.ศ. 1842 และยกเกาะ ฮ่องกงให้แก่องั กฤษ รวมท้งั เปิ ดเมอื งท่า 5 เมอื ง ออกตอ้ นรับพอ่ คา้ ต่างชาติ ใหส้ ิทธิสภาพ นอกอาณาเขตแก่ชาวต่างชาติที่อาศยั อยใู่ นจีน สนธิสัญญาทาให้จีนเสียเปรียบ หลังทาสนธิสัญญาหนานจิงกับอังกฤษ จีนต้องทา สนธิสัญญากบั ชาติต่าง ๆ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เป็ นการเปิ ดโอกาสให้ประเทศ ต่าง ๆ เข้ามาแข่งขนั กนั แสวงหาผลประโยชน์ในจีน เม่ือใกลส้ ิ้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 บรรดาอ่าวและเมืองท่าท่ีสาคญั ของจีนกลายเป็ นเขตเช่าของพ่อคา้ ต่างชาติ การคา้ ริมฝั่ง ทะเลและการคา้ ภายในประเทศถกู พอ่ คา้ ต่างชาติเขา้ ควบคุม 642
3.1 การเมืองการปกครอง เ มื่ อ ช า ว ต ะ วัน ต ก น า ก า ร ชนพ้ืนเมืองรู้จกั การเรียกร้องในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย เขา้ มามีส่วนร่วมในการปกครองมาก เขา้ มาเผยแพร่ ทาให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการปกครอง ข้ึน รู้จกั ที่จะต่อรองกบั ชาติตะวนั ตก มากกวา่ จะก่อความรุนแรง 643
3.2 เศรษฐกจิ เป้ าหมายสาคัญของจักรวรรดินิยมตะวันตกอยู่ท่ีการ เปล่ียนแปลงระบบเศรษฐกิจของสังคมและพ้ืนเมืองในเอเชีย ให้กลายเป็ นแหล่งป้ อนวตั ถุดิบสาหรับอุตสาหกรรมของโลก ตะวนั ตก และเป็ นตลาดระบายสินคา้ อุตสาหกรรม ท้งั การ บงั คบั โดยตรง การบงั คบั โดยผ่านดา้ นภาษีอากร การปล่อย สินเชื่อ การสร้างแรงจูงใจทางด้านการลงทุน ทาให้ระบบ เศรษฐกิจแบบพอยงั ชีพเดิมตอ้ งเส่ือมสลายไป วิถีชีวิตของ ชาวนาและคนช้ันล่างส่ วนใหญ่ถูกครอบงาจากระบบ เศรษฐกิจแบบตลาดท่ีมุ่งผลิตเพ่ือขายและหารายได้เพ่ือหา สินคา้ อุปโภคบริโภค 644
3.2 เศรษฐกจิ เป้ าหมายสาคัญของจักรวรรดินิยม คือ การเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจของสังคม พ้ืนเมืองในเอเชียใหก้ ลายเป็นแหล่งป้ อนวตั ถุดิบสาหรับอุตสาหกรรมของโลกตะวนั ตก ทาให้ระบบเศรษฐกิจแบบพอยงั ชีพแบบเดิมตอ้ งเส่ือมสลายไป วิถีชีวิตของชาวนาและ คนช้นั ล่างเริ่มถูกครอบงาจากระบบเศรษฐกิจแบบตลาดท่ีมุ่งผลิตเพื่อขาย และหารายได้ เพอ่ื หาซ้ือสินคา้ บริโภค อนิ เดยี – ผลิตสินคา้ ในระบบอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบต่อสินคา้ แบบด้งั เดิมของอินเดีย สินคา้ ขาเขา้ เป็นสินคา้ ฟ่ มุ เฟื อย ช่างฝีมือของอินเดียจานวนมากกลายเป็ นผตู้ กงาน ญี่ป่ นุ –รัฐบาลลงทุนในกิจกรรมอุตสาหกรรมหนกั เช่น อุตสาหกรรมเหลก็ และเหลก็ กลา้ มีการสร้างทางรถไฟเพอื่ อานวยความสะดวกในการขนส่งสินคา้ และก่อต้งั ธนาคาร 645
3.2 เศรษฐกจิ อุตสาหกรรมเป็ นรายได้ หลกั ของประเทศญี่ป่ ุน 646
3.3 สังคม รัฐแบบใหม่ ระบบราชการ และการผลิตในระบบทุนนิยม นาไปสู่การขยายตวั ของสงั คมเมืองซ่ึงเป็นท้งั ศนู ยร์ าชการและศนู ยก์ ลางการคา้ ระบบเศรษฐกิจแบบใหม่น้ีการเกษตรแบบพอยงั ชีพในชนบทเสื่อมลง ความ เจริญกระจุกอยู่ในตัวเมือง ทาให้ผูค้ นหล่งั ไหลเขา้ สู่เมืองในอัตราสูง นาไปสู่ วฒั นธรรมเมืองมากข้ึน เช่น จาการ์ตา บอมเบย์ ยา่ งกงุ้ สิงคโปร์ ไซ่ง่อน วถิ ีชีวติ แบบด้งั เดิมของชาวพ้ืนเมืองเปล่ียนไปเลียนแบบชาวตะวนั ตก เช่น การ แต่งกาย ค่านิยม การศึกษา นอกจากน้ีการเติบโตของจานวนประชากรและปัญหา ของแหล่งเส่ือมโทรมกต็ ามมาอยา่ งหลีกเล่ียงไม่ได้ 647
3.3 สังคม อนิ เดยี – ระบบวรรณะเส่ือมลง และเจริญเติบโตอยู่ในสังคมแคบ ๆ เช่น หมู่บา้ น ชนบท นอกจากน้ีการศึกษายงั ใชห้ ลกั สูตรขององั กฤษ ซ่ึงเป็ นพ้ืนฐานท่ีสาคญั ท่ีทาให้ชาว อินเดียมีการศึกษาในเวลาตอ่ มา ญ่ีป่ ุน – สังคมญี่ป่ ุนสมยั โบราณมีการแบ่งชนช้ันตามหลกั การของลทั ธิขงจื๊อ คือ ซามูไร ชาวนา ช่างฝี มือ และพอ่ คา้ ในสมยั เมจิ มีการยกเลิกระบบชนช้นั 4 ชนช้นั และ ประกาศยกเลิกสิทธิพิเศษของซามูไร ประชาชนทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกนั ต่อมารัฐบาล ปรับปรุงการศึกษาโดยการจดั ต้งั โรงเรียนและมหาวทิ ยาลยั ในทอ้ งถิ่นต่าง ๆ ชาวเอเชียที่อยภู่ ายใตร้ ะบอบอาณานิคมมีโลกทศั น์ท่ีกวา้ งข้ึน ก่อใหเ้ กิดสานึกเกี่ยวกบั การอยรู่ ่วมกนั ของภาษา วฒั นธรรม และการเมืองภายใตก้ ารปกครองของชาวตะวนั ตก 648
3.4 วฒั นธรรม ชาวเอเชียมีวฒั นธรรมหลากหลายซ่ึงเป็ นวฒั นธรรมแบบเฉพาะกลุ่ม แต่ เมื่อชาวตะวนั ตกเขา้ มาทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวฒั นธรรมของชนหมู่มาก เช่น ภาษา ชาวอินเดียโบราณใชภ้ าษาแตกต่างกนั มาก เมื่อองั กฤษเขา้ มาปกครองอินเดียไดน้ าภาษาองั กฤษเขา้ มาเป็นภาษาราชการ จึงทาให้เป็ นส่ือกลางของความเขา้ ใจในหมู่คนอินเดียดว้ ย เนื่องจากอินเดียมี ภาษาทอ้ งถิ่นเป็นจานวนมากและไม่สามารถเขา้ ใจภาษาซ่ึงกนั และกนั ได้ ดา้ นศาสนา ชาวตะวนั ตกกไ็ ดน้ าคริสตศ์ าสนาเขา้ มาเผยแผ่ เช่น ในฟิ ลิปปิ นส์ สเปน ได้นาคริ สต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกเข้ามาเผยแผ่จนกลายเป็ นศาสนาที่มี ชาวฟิ ลิปปิ นส์นบั ถือมากที่สุด และเป็นส่วนหน่ึงในวถิ ีชีวิตของชาวฟิ ลิปปิ นส์ 649
3.5 ศิลปกรรม ชาวเอเชียรับศิลปกรรมตะวนั ตกในรูปแบบผสมผสาน คือ ใชว้ ิธีคิดแบบเป็ นเหตุ เป็ นผลของชาวตะวนั ตกรวมกับมรดกทางปัญญาท่ีมีอยู่ในการสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปกรรม ต่อมาศิลปกรรมตะวนั ตกก็มีรูปแบบชดั เจนข้ึนจนกลายเป็ นแบบตะวนั ตก อยา่ งแทจ้ ริง สถาปัตยกรรม – หลงั จากเมืองโตเกียวถูกไฟไหมใ้ นปี ค.ศ. 1872 ถนนสายหลกั ของเมืองกินซ่าท่ีก่อสร้างดว้ ยอิฐ และมีการใชต้ ะเกียงก๊าซให้แสงสวา่ ง ไดม้ ีการจา้ งให้ สถาปนิกจากประเทศองั กฤษเขา้ มาอานวยการสร้าง นอกจากน้ียงั มีการสร้างตึกแบบ ยโุ รป เช่น ตึกโระกเุ มะอิคงั ซ่ึงเป็นสถานที่จดั เล้ียงแบบตะวนั ตก 650
3.5 ศิลปกรรม จิตรกรรม – มีการวาดภาพตามแบบ ยโุ รป เช่น ผลงานของขรัวอินโข่ง จิตรกร เอกในสมยั รัชกาลที่ 4 วาดภาพแบบสามมิติ ซ่ึงแตกต่างจากจิตรกรรมไทยประเพณีแบบ สองมิติ จิตรกรรมฝี มือของขรัวอินโขง่ 651
3.5 ศิลปกรรม วรรณกรรม – มีการเปลี่ยนแปลงทางการใชภ้ าษา คือ ใชภ้ าษาพดู ในการเขียน วรรณกรรมแทนภาษาเขียนท่ีใช้อยู่เดิม เน่ืองจากภาษาพูดเข้าใจได้ง่าย วรรณกรรมจึงเป็นท่ีแพร่หลายในหมู่ผอู้ ่านอยา่ งกวา้ งขวาง รวมท้งั มีแนวคิดใหม่ ๆ ในการสร้างสรรคเ์ น้ือเร่ืองของวรรณกรรมอยา่ งแนวคิดสัจนิยมท่ีนกั เขียนจีน และญ่ีป่ ุนสะทอ้ นให้เห็นความทุกขข์ องกรรมกรในโรงงานอุตสาหกรรม ความ เส่ือมโทรมของสงั คม 652
เร่ืองน่ารู้ “มิยาโมโต มูซาชิ” มิยาโมโต มูซาชิ นกั ดาบผยู้ งิ่ ใหญ่ท่ีไดร้ ับการขนานนามวา่ เป็ นเทพ แห่งดาบ เน่ืองจากไม่เคยแพก้ ารดวลดาบเลยแมแ้ ต่คร้ังเดียว แต่อยา่ งไรก็ตามเม่ือมูซาชิเขา้ ร่วมกองทพั ของโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ซ่ึง ทา้ ยท่ีสุดเป็นฝ่ ายแพส้ งครามและมีชีวติ ท่ีลาบาก หลงั จากน้นั มซู าชิกก็ ลบั มามีชื่อเสียงอีกคร้ังจากการสอนนกั ดาบดว้ ย กลยทุ ธ์ นิโตริว หรือการใชด้ าบสองมือ 653
ตอบคาถาม 1. เมื่อได้รับอทิ ธิพลของตะวนั ตก ทาให้ระบบวรรณะประเทศใดเสื่อมคลายลง อินเดีย 2. สนธิสัญญาฉบับใดทที่ าให้จนี ต้องยกเกาะฮ่องกงให้องั กฤษ หนานจิง 3. ยุคสมัยใดของญป่ี ่ ุนทยี่ กเลกิ การแบ่งคนออกเป็ น 4 ชนช้ัน เมจิ 654
สรุปความรู้ • เมื่อชาวยุโรปเข้ามาหาผลประโยชน์ในดินแดนเอเชีย ในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 19 เกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ได้แก่ การเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม และศิลปกรรม 655
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: