หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 แบ่งเป็ น 7 เรื่อง ศิลปวฒั นธรรม การขยาย การฟื้ นฟู สมยั ใหม่ อทิ ธิพลของ ศิลปวทิ ยา ชาติตะวนั ตก ยุคภูมธิ รรม พฒั นาการ การปฏริ ูป และแนวคดิ ของยโุ รปสมยั ใหม่ ศาสนา ประชาธิปไตย 465 การปฏิวตั ทิ าง กาเนิดรัฐชาติ วทิ ยาศาสตร์ และการปฏวิ ตั ิ อุตสาหกรรม
ประวตั ศิ าสตร์สากล ม. 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พฒั นาการของยุโรปสมยั ใหม่ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 การขยายอทิ ธิพลของชาติตะวนั ตก การฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา เวลา 1 ชั่วโมง 466
1. ถ้าจะเดินทางไปจงั หวดั ทีไ่ ม่รู้จกั นักเรียนจะทา อย่างไร 2. ในอดตี การขยายอทิ ธิพลของชาตติ ะวนั ตก สามารถทาได้อย่างไร 1. สอบถามผรู้ ู้ ดูแผนที่ 2. สารวจเส้นทางเดินเรือ 467
1. ขยายอทิ ธิพลของชาติตะวนั ตก การขยายอิทธิพลของชาติตะวนั ตก การสารวจเส้นทางเดินเรือ สาเหตุของการสารวจเสน้ ทางเดินเรือ การคน้ พบเสน้ ทางเดินเรือสู่ดินแดนทางตะวนั ออกและ การคน้ พบโลกใหม่ของชาติตะวนั ตก ผลของการคน้ พบดินแดนของชาติตะวนั ตก 468
1.1 การสารวจเส้นทางเดนิ เรือ ค.ศ. 1450–1750 ยคุ การสารวจเส้นทาง พอ่ คา้ ตะวนั ตกสามารถ เดินเรือและขยายอิทธิพล คา้ ขายโดยตรงกบั ประเทศ ทางเศรษฐกิจ ตะวนั ออก สามารถควบคุมเส้นทาง มีการจดั ต้งั สถานีการคา้ ต้งั แต่ การเดินเรือทาใหต้ ะวนั ตก การคา้ เคร่ืองเทศบริเวณ เมืองบาสรา (อิรัก) (Basra) คน้ พบทวปี อเมริกา ช่องแคบมะละกา บริเวณอ่าวเปอร์เซียถึง เกิดเมืองท่าสาคญั ทาง ประเทศญี่ป่ ุน ชายฝั่งมหาสมุทร ท้งั ในทวปี อเมริกาเหนือ แอตแลนติก และอเมริกาใต้ 469
470
471
1.2 สาเหตุของการสารวจเส้นทางเดนิ เรือ • ยุคฟ้ื นฟูศิลปวิทยาเกิดข้ึนเม่ือ ค.ศ. 1350–1650 เมื่อเกิดการติดต่อกบั โลกตะวนั ออกใน สงครามครูเสด (ค.ศ. 1096–1291) ซ่ึงเป็นสงครามศาสนาระหวา่ งคริสตศ์ าสนิกชนตะวนั ตก กบั พวกมุสลิมตะวนั ออกกลาง และการฟ้ื นตวั ของเมืองท่ีเกิดข้ึนในเวลาใกลเ้ คียงกนั • ชาวยุโรปมีโอกาสสัมผสั กบั อารยธรรมของโลกตะวนั ออก วิชาความรู้ต่าง ๆ ที่เก่ียวกบั ปรัชญา คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และวิทยาการอ่ืน ๆ ของกรีกและมุสลิมก็เขา้ มาในสังคม ตะวนั ตก จึงทาใหป้ ัญญาชนเร่ิมตรวจสอบความรู้ของตนเอง 472
1.2 สาเหตุของการสารวจเส้นทางเดนิ เรือ แผนท่ีโลกที่โตเลมีเขียนไว้ แสดงดินแดนและน่านน้าที่อยใู่ กลป้ ระเทศกรีซไดถ้ กู ตอ้ งชดั เจน เช่น คาบสมุทรไอบีเรียและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่บริเวณที่ห่างไกลออกไปแสดงไวอ้ ยา่ งคลุมเครือ 473
1.2 สาเหตุของการสารวจเส้นทางเดนิ เรือ • การแสวงหาความรู้เกย่ี วกบั ธรรมชาตริ อบตวั ผลกั ดนั ใหช้ าวยโุ รปหนั มาสนใจต่อความ ลลี้ บั ของทะเลทกี่ ้นั ขวางพวกเขากบั โลกตะวนั ออก มีการศึกษาความรู้ทางภูมิศาสตร์ โดยเฉพาะความรู้ทางภูมศิ าสตร์และแผนทข่ี องโตเลมี (Ptolemy) ซ่ึงเป็นนกั ดาราศาสตร์ และนกั คณิตศาสตร์ชาวกรีก • ความสนใจเกี่ยวกบั ทะเลมีมากข้ึนเม่ือพวกมุสลมิ สามารถเข้ายดึ กรุงคอนสแตนตโิ นเปิ ล (ปัจจุบนั คือ นครอิสตนั บลู ในประเทศตุรกี) และดินแดนไบแซนไทน์ท้งั หมดใน ค.ศ. 1453 มีผลทาให้การค้าระหว่างตะวนั ตกกบั ตะวนั ออกชะงกั แตส่ ินคา้ ตา่ ง ๆ จาก ตะวนั ออก เช่น ผา้ ไหม เคร่ืองเทศ ยารักษาโรคกย็ งั เป็นที่ตอ้ งการของชาติตะวนั ตก • หนทางเดยี วทพ่ี ่อค้าจะทาการค้ากบั ตะวนั ออกได้ คอื ต้องตดิ ต่อค้าขายทางทะเลเท่าน้ัน 474
1.2 สาเหตุของการสารวจเส้นทางเดนิ เรือ • ความรู้เกี่ยวกบั การใช้เข็มทศิ และการพฒั นารูปทรงและขนาดของเรือให้มีความเหมาะสม มีความคงทนแน่นหนา ทาให้เรือสามารถแล่นในมหาสมุทรไดด้ ีข้ึน พร้อมท้งั ติดอาวุธ ปื นใหญ่ ทาให้ชาติตะวนั ออกต่าง ๆ ตอ้ งยินยอมเปิ ดสัมพนั ธไมตรีดว้ ย และมีผลทาให้ อทิ ธิพลของชาตติ ะวนั ตกหลง่ั ไหลเข้าสู่โลกตะวนั ออกได้อย่างกว้างขวาง • ชาวตะวันตกต้องการเครื่องเทศมาใช้ในการถนอมอาหารและปรุงอาหารให้มีรสชาติดีข้ึน และมุ่งแสวงหาแหล่งแร่เงินและแร่ทองคา ซ่ึงเช่ือว่ามีอยมู่ ากทางซีกโลกใต้ เพ่ือนาไปซ้ือ สิ่งของต่าง ๆ จากประเทศตะวนั ออก และใชจ้ ่ายเป็นคา่ จา้ งทหารและเจา้ หนา้ ท่ีรัฐต่าง ๆ 475
1.2 สาเหตุของการสารวจเส้นทางเดนิ เรือ เรือเดินสมุทรในช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 15 ซ่ึงโปรตุเกสใชใ้ นการสารวจโลกใหม่ 476 โดยพฒั นามาจากเรือหาปลาในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาตติ ะวนั ตก โปรตุเกสและสเปน • เจ้าชายเฮนรีนาวกิ ราช (Henry the Navigator) แห่งโปรตุเกส ทรงจดั ต้งั โรงเรียนราชนาวีข้ึน ทาใหว้ ิทยาการการเดินเรือพฒั นา และทาใหน้ กั เดินเรือของโปรตุเกสเดินทางจนถึง แหลม กรีนในทวปี แอฟริกา • บาร์โธโลมวิ ไดแอส (Bartholomeu Dias) เป็นผสู้ ามารถเดนิ เรือผ่านแหลมก๊ดู โฮปไดส้ าเร็จ และวสั โก ดา กามา (Vasco da Gama) สามารถแล่นเรือไปจนถึงเอเชีย และข้ึนฝั่งที่เมืองกา ลิกตั (Calicut) ของอินเดีย • ค.ศ. 1492 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ชาวเมืองเจนัว เดินทางไปสารวจเส้นทางเดินเรือไป ประเทศจนี โดยข้ามมหาสมุทรแอตแลนตกิ และค้นพบทวปี อเมริกา • ปลายศตวรรษที่ 15 เกิดการแข่งขนั อานาจทางทะเลและเศรษฐกิจระหว่างสเปนและ โปรตุเกส เกิดสนธิสัญญาทอร์เดซียสั (Treaty of Tordesillas) นาไปสู่การครอบครองทวปี อเมริกาใต้ของสเปนเกอื บท้ังหมด และการสร้างจกั รวรรดทิ างทะเลของโปรตุเกสในเอเชีย 477
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาติตะวนั ตก โปรตุเกสและสเปน • โปรตุเกสประสบความสาเร็จในการจากดั อานาจของมุสลิม ยดึ เมอื งกวั (Goa) เป็น ศนู ยบ์ ญั ชาการของสนั นิบาตมุสลิม และเป็นเมืองหลวงของจกั รวรรดิโปรตุเกส ตะวนั ออก ค.ศ. 1511 อาฟองโซ เดอ อลั บเู กร์เก ขา้ หลวงโปรตุเกสประจาตะวนั ออกได้ ขยายอิทธิพลเขา้ ยดึ มะละกาซ่ึงเป็นชุมทางเดินเรือสินคา้ จากอินเดีย อาหรับ อียปิ ต์ และ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทาใหห้ ม่เู กาะอินดิสตะวนั ออกท้งั หมดตกอยภู่ ายใตอ้ ิทธิพลของ โปรตุเกสและสร้างความมงั่ คงั่ ใหแ้ ก่โปรตุเกสจากการผกู ขาดการคา้ เครื่องเทศ • เฟอร์ดนิ ันด์ มาเจลลนั (Ferdinand Magellan) สามารถเดินเรือขา้ มมหาสมุทรแปซิฟิ ก ที่ต้งั ชื่อวา่ มาเรปาซิฟิ โก ซ่ึงแปลวา่ ทะเลสงบ แลว้ มาข้ึนฝั่งหมู่เกาะฟิ ลิปปิ น และ สามารถพิสูจนไ์ ดว้ า่ อเมริกาและเอเชียต้งั อยคู่ นละทวีป 478
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาติตะวนั ตก โปรตุเกสและสเปน (ต่อ) • เซบาสเตยี น เดล กาโน (Sebastian del Cano) ลูกเรือของมาเจลลนั สามารถเดนิ เรือวคิ โตริโอ (Victorio) จนมาพบโมลุกกะหรือหมู่เกาะเครื่องเทศ และสามารถเดินเรือหลบ โปรตุเกสซ่ึงคุมการค้าในหมู่เกาะแห่งนีก้ ลบั สเปนได้สาเร็จ เรือวิคโตริโอเขา้ เทียบ ท่าสเปนใน ค.ศ. 1522 ถอื ว่าเป็ นเรือลาแรกทแ่ี ล่นรอบโลกได้สาเร็จ • การคน้ พบเสน้ ทางเดินเรือมายงั ตะวนั ออกของวสั โกดา กามา และมาเจลลนั มีความสาคญั คือ เป็นการเปิ ดน่านน้าใหเ้ รือจากทวีปยโุ รปมายงั ทวีปเอเชียทาง มหาสมทุ รอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิ ก ทาให้อารยธรรมตะวนั ตกเข้ามายงั ทวปี เอเชีย ทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงท้งั ดา้ นการปกครอง เศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม • ค.ศ. 1580 เกิดความผนั ผวนทางการเมืองในโปรตุเกส และตกอยใู่ นอานาจของสเปน จนถึง ค.ศ. 1640 479
เมืองกวั 480
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาตติ ะวนั ตก เฟอร์ดินนั ด์ มาเจลลนั นกั สารวจ ดินแดนชาวโปรตุเกส ผรู้ ับอาสา กษตั ริยส์ เปนควบคุมกองเรือ ในการคน้ หาเสน้ ทางเดินเรือ สายใหม่มาทางตะวนั ออก 481
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออก และการค้นพบ โลกใหม่ของชาตติ ะวนั ตก ฮอลนั ดา • ฮอลนั ดาหรือเนเธอร์แลนดเ์ คยตกอยใู่ ตก้ ารปกครองของพระเจา้ ฟิ ลิปที่ 2 แห่งสเปน ก่อนหนา้ น้ีชาวดตั ช์ ทาหนา้ ท่ีเป็นพอ่ คา้ คนกลางในการคา้ เคร่ืองเทศในยโุ รปมาโดยตลอด โดยการส่งเรือไปรับเครื่องเทศจาก โปรตุเกสที่ท่าเรือลิสบอน เมื่อฮอลนั ดาก่อกบฏและแยกตัวเป็ นอิสระใน ค.ศ. 1581 สเปนพยายาม ปราบปรามแต่ไม่สาเร็จ • โปรตุเกสปิ ดท่าเรือลิสบอนใน ค.ศ. 1580 ฮอลนั ดาจึงใชก้ องทพั เรือเขา้ ยึดอานาจการคา้ เครื่ องเทศของ โปรตุเกสได้ • ใน ค.ศ. 1598 ฮอลนั ดาไดจ้ ดั ต้งั สถานีการคา้ ในเกาะชวา และต่อมาไดจ้ ดั ต้งั บริษทั อินเดียตะวนั ออกของ ฮอลนั ดาข้ึน เพื่อควบคุมการคา้ ในหมู่เกาะเครื่องเทศ • การครอบครองหมู่เกาะเครื่องเทศของฮอลนั ดามีผลกระทบ คือ ใน ค.ศ. 1606 บริษทั อินเดียตะวนั ออกของ ฮอลนั ดาไดส้ ่งวลิ เลม็ เจนซ์ คุมเรือดุฟเกนจากบนั ดา เพอื่ ไปคน้ หาเกาะทองคาที่เชื่อวา่ อยทู่ างทิศใตแ้ ละทิศ ตะวนั ออกของเกาะชวา การเดินเรือคร้ังน้ีทาให้เจนซ์และลูกเรือชาวดตั ช์เป็ นคนขาวกลุ่มแรกท่ีไดเ้ ห็น ทวปี ออสเตรเลีย ทาใหฮ้ อลนั ดาไดร้ ับยกยอ่ งวา่ เป็นชาติแรกท่ีคน้ พบทวปี ออสเตรเลียเป็นคร้ังแรก 482
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาติตะวนั ตก องั กฤษ • องั กฤษในสมยั ของสมเดจ็ พระราชินีนาถเอลิซาเบทท่ี 1 ไดท้ าสงครามกบั สเปนและสามารถรบชนะ กองทพั เรือสเปนได้และกลายเป็ นแรงกระตุน้ และสร้างความเชื่อมนั่ ให้องั กฤษเดินทางแสวงหา ผลประโยชนใ์ นการคา้ และสร้างอิทธิพลในตะวนั ออก • ใน ค.ศ. 1591 องั กฤษไดส้ ่งกองเรือเดินทางออ้ มแหลมก๊ดู โฮปมายงั อินเดียเป็นคร้ังแรก • ค.ศ. 1600 บริษทั อินเดียตะวนั ออกขององั กฤษก็ไดร้ ับพระราชทานกฎบตั รจากสมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบทที่ 1 ใหม้ ีสิทธิพิเศษทางการคา้ ต้งั แต่แหลมก๊ดู โฮปถึงช่องแคบมาเจลลนั • ต่อมาองั กฤษสลายอานาจทางทะเลของโปรตุเกสที่ควบคุมมหาสมุทรอินเดีย จนเขา้ มามีอิทธิพลใน อินเดียและอ่าวเปอร์เซีย ต้งั แต่น้นั องั กฤษกก็ ลายเป็นคแู่ ขง่ ทางการคา้ กบั ฮอลนั ดาในตะวนั ออก 483
1.3 การค้นพบเส้นทางเดนิ เรือสู่ดนิ แดนทางตะวนั ออกและการค้นพบ โลกใหม่ของชาติตะวนั ตก องั กฤษ • หลงั ค.ศ. 1660 องั กฤษไดท้ าสงครามชนะฮอลนั ดาและฝรั่งเศส ทาใหฝ้ ร่ังเศสหมดโอกาสควบคุม ตลาดการคา้ ในตะวนั ออก ส่วนฮอลนั ดายงั สามารถควบคุมช่องแคบมะละกาและมีอานาจใน การคา้ เคร่ืองเทศในหม่เู กาะอินดิสตะวนั ออกต่อไป • รัฐบาลองั กฤษเขา้ มามีบทบาทแทนบริษทั อินเดียตะวนั ออกขององั กฤษและดาเนินนโยบายสร้าง อิทธิพลในตะวนั ออกอยา่ งเต็มที่ โดยยดึ ดินแดนต่าง ๆ เป็ นอาณานิคมของตน เช่น อินเดีย พม่า มลายู สิงคโปร์ 484
1.4 ผลของการค้นพบดนิ แดนของชาตติ ะวนั ตก การเผยแผ่ศาสนา การค้นพบโลกใหม่ทาให้อารยธรรมยุโรปเร่ิ มหลั่งไหลไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของโลก ประเทศผบู้ ุกเบิกถือโอกาสนาคริสตศ์ าสนาไปเผยแผใ่ นประเทศ อาณานิคมโดยสนั ติวธิ ีและวธิ ีบงั คบั การเผยแผแ่ บบสนั ติวิธีคือ การใชบ้ าทหลวงเผยแผศ่ าสนา ส่วนวธิ ีบงั คบั คือ การบงั คบั ใหค้ นพ้นื เมืองหนั มานบั ถือคริสตศ์ าสนา คนที่ไม่นบั ถือคริสต-์ ศาสนาถือเป็นพวกนอกรีต (heresy) และใชว้ ิธีการที่เรียกวา่ ศาลศาสนา (inquisition) เพื่อบีบบงั คบั ในคริสตศ์ ตวรรษที่ 16 สเปนใชศ้ าสนาเป็นเครื่องมือในการส่งกองทหาร 485 เขา้ ทาลายลา้ งอารยธรรมของชนเผา่ มายา (Maya) แอสเตก็ (Aztec) และ อินคา (Inca) ในทวีปอเมริกาใต้ ซ่ึงใชเ้ หตุผลวา่ ชนพ้ืนเมืองเหล่าน้ีเป็นพวก นอกศาสนา และบีบบงั คบั ใหน้ บั ถือคริสตศ์ าสนานิกายโรมนั คาทอลิก
1.4 ผลของการค้นพบดนิ แดนของชาตติ ะวนั ตก การเปลยี่ นแปลงเศรษฐกจิ และระบบการค้า การขยายอิทธิพลของยโุ รปทาลายระบบสมาคมอาชีพ (guild) การคน้ พบดินแดนใหม่และ การจดั ต้งั สถานีการคา้ และอาณานิคมช่วยให้ชาติตะวนั ตกขยายตวั ทางการคา้ อย่างรวดเร็ว จนเกิดการปฏิวตั ิทางการคา้ (commercial revolution) มีการแลกเปล่ียนซ้ือขายสินค้า อยา่ งกวา้ งขวาง ใชเ้ งินตราและเกิดระบบพาณิชยนิยม รัฐบาลของกษตั ริยเ์ ขา้ ควบคุมการผลิตและการคา้ เน้น การส่งออก กีดกนั สินคา้ นาเขา้ และแสวงหาอาณานิคมเพ่ือเป็ นแหล่งวตั ถุดิบและเป็ นแหล่ง ระบายสินคา้ คริสตศ์ ตวรรษที่ 16–17 โลกตะวนั ตกยดึ ถือนโยบายแข่งขนั ทางเศรษฐกิจ แสวงหาทรัพยากร กนั อยา่ งหนกั มีการก่อต้งั บริษทั ร่วมทุน (joint stock company) เปิ ดโอกาสใหบ้ ุคคลร่วมลงทุน เพ่ือขยายการคา้ และผกู ขาดสินคา้ โดยรัฐหรือกษตั ริยใ์ หก้ ารสนบั สนุน 486
1.4 ผลของการค้นพบดนิ แดนของชาติตะวนั ตก ต่อมาพ่อคา้ นายทุนไดเ้ ขา้ มามีบทบาทในบริษทั ร่วมทุนดว้ ยจนมีฐานะร่ารวย กลายเป็ นชน ช้นั สูงที่มีบทบาททางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ตลอดจนเป็ นผนู้ าการเปลี่ยนแปลงทางดา้ น วฒั นธรรม และเป็นคู่แข่งของขนุ นางเจา้ ของท่ีดิน จนเกิดความขดั แยง้ และแยง่ ชิงอานาจกนั ข้ึน กลายเป็นปัญหาสาคญั ภายในประเทศ นาไปสู่การเปลี่ยนแปลงในแนวทางใหม่ท้งั ดา้ นระบบ การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของโลกตะวนั ตกในคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 และ 19 การคา้ มีการขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว การคน้ พบแร่เงินและทองในทวีปอเมริกา และการหลงั่ ไหล ของแร่ที่มีค่ามาสู่ทวีปยุโรป ทาให้เกิดการปฏิวตั ิราคา สินคา้ อุปโภคบริโภคมีราคาสูงข้ึน หลายเท่าตวั ในคริสตศ์ ตวรรษที่ 16 และ 17 การเปลี่ยนแปลงราคาสินคา้ ก่อให้เกิดภาวะเงิน เฟ้ อ สังคมและเศรษฐกิจแบบเก่าสิ้นสุดลง รัฐบาลพยายามหาวิธีการใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายรับให้ ทนั กบั รายจ่าย ซ่ึงคนยากจนจะไดร้ ับผลกระทบตอ่ การปฏิวตั ิราคาคร้ังน้มี าก 487
1.4 ผลของการค้นพบดนิ แดนของชาตติ ะวนั ตก การเปลย่ี นแปลงด้านอนื่ ๆ อ อ ส เ ต ร เ ลี ย แ ล ะ นิ ว ซี แ ล น ด์ ด้านสิ่งแวดล้อม เกิดการกระจาย ต้น ย า ง พ า ร า จ า ก บ ร า ซิ ล เป็นดินแดนที่ชาวตะวนั ตกได้ และแพร่พนั ธุ์สัตวแ์ ละพืชไปทว่ั มาปลูกในแถบทะเลใต้ บุกเบิกในปลายศตวรรษที่ 18 โลก เช่น ชาวดัตช์นาต้นกาแฟ และขยายไปยงั อินโดนีเซีย มีการนาเอาแกะไปแพร่พนั ธุ์ จากตะวันออกกลางมาปลูกที่ มาเลเซีย ภาคใต้ของไทย จนปัจจุบนั เป็ นผูผ้ ลิตขนแกะ เกาะชวาเพื่อเป็ นพืชเศรษฐกิจ จนกลายเป็ นแหล่งผลิต ที่มีปริ มาณมากกว่าคร่ึ งหน่ึ ง แทนเคร่ืองเทศ และกลายเป็ น ยางพาราที่สาคญั ของโลก ของปริมาณที่ผลิตไดท้ ว่ั โลก สินคา้ สาคญั ของภูมิภาคน้ี ข้าวโพด มันฝรั่งเป็ นพืชผลท่ีมี ชาวสเปน โปรตุเกส และองั กฤษไดข้ ยายอิทธิพลเขา้ สู่ดินแดน คุณค่าทางอาหารท่ีสาคญั ของทวีป อื่น ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงข้ึนท้งั 2 ฝ่ าย มีพฒั นาการด้าน อเมริกา และแพร่หลายกลายเป็ น วิชาการและเทคโนโลยมี ากข้ึน เช่น การเดินเรือ สารวจดินแดน อาหารสาคญั ของชาวยุโรป เอเชีย ใหม่ ๆ การทาสงคราม ส่วนดินแดนอาณานิคมก็จะรับภาษา และแอฟริกา ศาสนา และวฒั นธรรมของชาติตะวนั ตกเขา้ มา 488
สาเหตุทท่ี าให้มีการฟื้ นฟูศิลปวทิ ยาคอื อะไร เพื่อตอ้ งการใหบ้ ุคคลในอดุ มคติมีความรู้ ความสามารถในทุก ๆ ดา้ น และมีความรู้ ความสามารถทางวิชาการ การศึกษา การกีฬา และงานดา้ นศิลปวฒั นธรรม 489
2. การฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา (Renaissance) การฟื้ นฟูศิลปวิทยา หมายถึง การเกิดใหม่ (rebirth) ของการศึกษา การฟ้ื นฟูอุดมคติ ศิลปะ และวรรณกรรมของกรีกและโรมนั เป็ นยุคเร่ิมตน้ ของการแสวงหาสิทธิเสรีภาพ และความคิดอนั ไร้ขอบเขตของมนุษยท์ ี่เคยถูกจากดั โดยกฎเกณฑ์และขอ้ บงั คบั ของ คริสตศ์ าสนา สมยั ฟ้ื นฟูศิลปวิทยาเร่ิมตน้ ในราวคริสตศ์ ตวรรษที่ 14 และสิ้นสุดลงในก่ึงกลางคริสต์- ศตวรรษที่ 17 โดยถือวา่ เป็นจุดเชื่อมตอ่ (transitional period) ของประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง และสมยั ใหม่ 490
2.1 สาเหตุของการฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา การขยายตวั ทางการคา้ ทาให้ฐานะทางการเงินของชาวยุโรป โดยเฉพาะในอิตาลี มง่ั คง่ั ข้ึนเป็นลาดบั จึงหนั มาสนบั สนุนงานดา้ นศิลปะและวทิ ยาการ เกิดแนวคิดใหม่ที่ มุ่งหวงั ให้บุคคลในอุดมคติมีความรู้ความสามารถในทุก ๆ ดา้ น ซ่ึงรวมท้งั ความรู้ ความสามารถทางวิชาการ การกีฬา และงานทางดา้ นศิลปกรรม ฉะน้นั บรรดาเจา้ นคร รัฐในนครอิตาลี เช่น ที่เมืองฟลอเรนซ์และเมืองมิลาน จึงหันมาสนับสนุนงาน ศิลปวทิ ยาเป็นจานวนมาก สาเหตุอีกประการหน่ึง คือ ท่ีต้ังของนครรัฐต่าง ๆ ในอิตาลีเป็ นแหล่งความ เจริญรุ่งเรืองของจกั รวรรดิโรมนั ฉะน้นั บรรดานกั ปราชญแ์ ละศิลปิ นต่าง ๆ ในอิตาลีจึง ให้ความสนใจเป็ นพิเศษต่อศิลปะและวิทยาการของชาวโรมนั มีการนาขอ้ เขียนและ ผลงานตลอดจนรูปแบบของศิลปะโรมนั มาศึกษากนั อยา่ งละเอียด 491
2.1 สาเหตุของการฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา เศรษฐกิจในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ทาให้ทศั นคติต่อการครองชีพของชาวยุโรป เปล่ียนแปลงไป กลายเป็ นคนท่ีมองโลกในแง่ดีและเริ่มปฏิเสธกฎเกณฑ์อนั เขม้ งวด ของฝ่ ายศาสนจกั ร ยงิ่ ไปกวา่ น้นั การทุจริต ละโมบ และการซ้ือขายตาแหนง่ สมณศกั ด์ิ ของพวกพระ ทาให้คนเร่ิมเสื่อมศรัทธาในคริสต์ศาสนา และหันไปให้ความสนใจ ผลงานสร้างสรรคข์ องเพอ่ื นมนุษยด์ ว้ ยกนั สงครามครูเสดและการล่มสลายของจกั รวรรดิไบแซนไทน์ใน ค.ศ. 1453 ทาให้ วิทยาการท่ีสืบทอดเอาไวห้ ลง่ั ไหลกลบั คืนไปทางตะวนั ตกอีกคร้ัง โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง ในคร่ึงหลงั ของคริสตศ์ ตวรรษที่ 15 ประชาชนและนกั ปราชญท์ างตะวนั ออกไดอ้ พยพ เขา้ สู่แหลมอิตาลี พร้อมกบั นาหนังสือวิทยาการของกรีก–โรมนั เขา้ มาดว้ ย ทาให้มี ตน้ ฉบบั เดิมของศาสตร์ต่าง ๆ ไวศ้ ึกษากนั อยา่ งกวา้ งขวาง 492
2.2 แนวคดิ ใหม่สมัยฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา • ในสมยั กลางชาวตะวนั ตกส่วนใหญ่เป็ นคริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่า ทุกคนเกิดมา มีบาปติดตวั มาแต่กาเนิด การมีชีวติ ในโลกปัจจุบนั จึงเป็นการไถ่บาปเพื่อเตรียมตวั เขา้ สู่สรวงสวรรค์ของพระเจา้ ซ่ึงทศั นคติดงั กล่าวทาให้ชาวตะวนั ตกหมดความ สนใจต่อความสวยงามของโลกท้งั ดา้ นการดาเนินชีวติ การศึกษา งานศิลปวทิ ยา • เมื่อเกิดการฟ้ื นฟูศิลปวิทยาแนวคิดทางโลกของชาวตะวันตกก็ เปล่ียนไป เร่ิมเห็นว่าแทจ้ ริงมนุษยส์ ามารถพฒั นาชีวิตของตนเอง ใหด้ ีและมีคุณคา่ โดยการศึกษาเรียนรู้จากงานเขียนและวรรณกรรม ของกรี กและโรมันโบราณที่ สอดแทรกปรั ชญาและแนวทางใน การดาเนินชีวติ ใหม้ ีความสุขในโลกปัจจุบนั 493
2.2 แนวคดิ ใหม่สมยั ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา เกิดลทั ธิมนุษยนิยม นกั มนุษยนิยมเป็นผศู้ รัทธาในคริสต-์ (humanism) ศาสนา แตไ่ ม่ปิ ดก้นั ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถของปัจเจกบุคคล ใหค้ วามสนใจโลก มีลกู ศิษยแ์ ละผนู้ ิยมงานเขียนคลาสสิกและ ปัจจุบนั แทนการมุ่งหนา้ ไดร้ ับเชิญใหเ้ ป็นราชเลขาธิการและอาจารย์ ไปสู่สวรรค์ ประจาราชสานกั ของนครอิตาลี ฟรันเซสโก เปทราก ศึกษาการใชภ้ าษาละติน 494 (Francesco Petrarch) ใหถ้ กู ตอ้ ง และสนใจงาน เป็ นบิดาแห่งมนุษยนิยม วรรณกรรมคลาสสิก
2.2 แนวคดิ ใหม่สมัยฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา เปทราก นกั ปราชญช์ าวอิตาลี ผไู้ ดร้ ับการยกยอ่ งวา่ เป็นบิดาแห่งมนุษยนิยม 495
2.2 แนวคดิ ใหม่สมยั ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา ศิลปะยคุ น้ีหลุดพน้ จากอิทธิพลของ งานวรรณกรรมดา้ นนาฏกรรมรับ คริสตศ์ าสนา หนั ไปนิยมวธิ ีของกรีก– อิทธิพลของกรีกมาปรับใชใ้ หเ้ ขา้ กบั โรมนั ท่ีเนน้ ความเป็นธรรมชาติ รสนิยมของชาวตะวนั ตก ศิลปิ นที่สาคญั ไดแ้ ก่ มเี กลนั เจโล งานประพนั ธ์ยงั แสดงใหเ้ ห็นถึงความ บูโอนาร์โรตี (Michelangelo ขดั แยง้ ของความคิดในกรอบและ Buonarroti) เลโอนาร์โด ดา วนิ ชี กฎเกณฑท์ ี่เคร่งครัดของคริสตศ์ าสนา ภาพเขียนที่มีชื่อเสียง คือ ภาพอาหารม้ือ (Leonardo da Vinci) สุดทา้ ย เขียนเป็นภาพพระเยซูคริสตก์ บั และราฟาเอล (Raphael สาวกนงั่ ท่ีโตะ๊ อาหารก่อนจะถูกนาไป ตรึงที่ไมก้ างเขน 496
2.2 แนวคดิ ใหม่สมัยฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา ปิ เอตา (Pieta) เป็ นผลงานประติมากรรม ที่สาคญั ของมีเกลนั เจโล 497
2.2 แนวคดิ ใหม่สมยั ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา ภาพโมนาลซิ า (Mona Lisa) เป็ นงานจิตรกรรมที่สาคญั ของเลโอนาร์โด ดา วินชี สมยั ฟ้ื นฟศู ิลปวทิ ยา 498
2.2 แนวคดิ ใหม่สมัยฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา ราฟาเอล ภาพท่ีมีชื่อเสียง คือ ภาพพระแม่ พระบุตร และจอห์น แบปติสต์ ที่แสดงความรักของแม่ ที่มีต่อบุตร ภาพเหมือนจริงท่ีมีชีวติ จิตใจ เนน้ ความเป็น ปัจเจกบุคคล 499
2.2 แนวคดิ ใหม่สมยั ฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา งานประพนั ธ์ร้อยแก้วและร้อยกรอง งานวรรณกรรมด้านนาฏกรรมหรือบทละคร เป็ นงานท่ีแสดงถึงความขัดแย้งของ ไดร้ ับอิทธิพลของบทละครกรีก นามาปรับใช้ ค ว า ม คิ ด ใ น ก ร อ บ แ ล ะ ก ฎ เ ก ณ ฑ์ท่ี เขา้ กบั รสนิยมของชาวตะวนั ตกในสมยั น้นั เคร่งครัดของคริสตศ์ าสนา บทร้อยกรองซอนเนต ของเปทราก วิลเลียม เชกสเปี ยร์ บทละครที่สาคญั คือ โรเมโอ ดิแคเมอรอน ของโจวนั นี บอกกชั โช และจูเลียต เวนิสวาณิช คิงเลียร์ แมคเบท และ เป็ นนิยายชวนหวั ฝันคืนกลางฤดูร้อน เป็นบทละครสะทอ้ นอารมณ์ อุปนิสัย การตัดสินใจของมนุษย์ในภาวการณ์ เ จ้ า ผู้ค ร อ ง น ค ร ที่ บ ร ร ย า ย ถึ ง ศิ ล ป ะ ก า ร ต่าง ๆ กนั ปกครองของเจา้ นครจากการประพนั ธ์ของ งานสร้างสรรคท์ างดา้ นศิลปวฒั นธรรมของสังคม มาคีอาเวลลี และยูโทเปี ยของเซอร์ทอมัส- ตะวันตกได้วางรากฐานความเจริญด้านต่าง ๆ ให้แก่ชาติตะวนั ตก และทาให้ชาวยุโรปกา้ วเขา้ สู่ มอร์ กล่าวถึงเมืองในอุดมคติท่ีปราศจาก ยคุ สมยั ใหม่ในคริสตศ์ ตวรรษที่ 16 ความเลวร้าย 500
สรุปความรู้ • การสารวจเส้นทางเดินเรือ เพ่อื คน้ หาเสน้ ทาง เดินเรือสู่ดินแดนอื่น ๆ ในภูมิภาคต่าง ๆ การขยายอทิ ธิพล • จุดมุ่งหมายในการเผยแผศ่ าสนา การคา้ ขาย ของชาติตะวนั ตก และการถ่ายทอดอารยธรรม การฟื้ นฟูศิลปวทิ ยา • เป็นการเกิดใหม่ของการศึกษา • การฟ้ื นฟอู ุดมคติ ศิลปะ และวรรณกรรมของกรีก และโรมนั • เร่ิมตน้ ราวคริสตศ์ ตวรรษที่ 14 และสิ้นสุดใน ก่ึงกลางคริสตศ์ ตวรรษที่ 17 501
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: