หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 แบ่งเป็ น 5 เร่ือง อารยธรรม เมโสโปเตเมยี อารยธรรมโรมนั อารยธรรม ลุ่มนา้ ไนล์ อารยธรรม ตะวนั ตก สมยั โบราณ อารยธรรม ชนชาติเก่าแก่บาง กรีก กลุ่มในเอเชีย ไมเนอร์และ ดนิ แดนใกล้เคยี ง 262
ประวตั ศิ าสตร์สากล ม. 4–6 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 อารยธรรมตะวนั ตกสมยั โบราณ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เวลา 2 ช่ัวโมง 263
เอเชียตะวนั ตกอยู่บริเวณใด และเป็ นแหล่งกาเนิด อารยธรรมใด อยบู่ ริเวณทิศตะวนั ตก ของทวปี เอเชีย เป็ นแหล่งกำเนิด อำรยธรรมเมโสโปเตเมีย 264
1. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อำรยธรรมเมโสโปเตเมีย เป็นแหลง่ อำรยธรรมแห่งแรกของโลก กำเนิดข้ึนในบริเวณลุม่ น้ำ 2 สำย คือ แม่น้ำไทกริส (Tigris) แม่น้ำยเู ฟรทีส (Euphrates) บริเวณน้ีเป็นท่ีรำบอนั สมบูรณ์ท่ำมกลำงทะเลทรำยและเขตภูเขำ จึงทำใหก้ ลุม่ ชนต่ำง ๆ อพยพเขำ้ มำต้งั ถ่ินฐำน และผลดั กนั สร้ำงอำรยธรรมสืบเน่ืองตอ่ กนั มำ 265
1.1 ปัจจยั ทางภูมิศาสตร์กบั การต้งั ถน่ิ นาน ทำงตะวนั ตกจดท่ีรำบ ทำงดำ้ นเหนือจดทะเลดำ ซีเรียและปำเลสไตน์ และทะเลแคสเปี ยน อาณาเขตตดิ ต่อ ทำงตะวนั ตกเฉียงใต้ ทำงตะวนั ออกจด จดคำบสมุทรอำระเบีย ท่ีรำบสูงอิหร่ำน ดินแดนเมโสโปเตเมียเป็นดินแดนท่ีครอบคลุมอำณำเขตกวำ้ งขวำง พ้นื ที่ตอนบนของลุ่มน้ำมีลกั ษณะเป็นพ้นื ท่ีรำบท่ีสูงกวำ่ ทำงตอนใต้ และจะลำดต่ำลงมำยงั พ้ืนท่ีรำบลุ่ม ตอนล่ำง พ้ืนที่ตอนบนของลุ่มน้ำจึงมีควำมแหง้ แลง้ กำรเกษตรจะตอ้ งใชร้ ะบบชลประทำน ส่วนพ้ืนท่ีรำบลุ่มตอนล่ำงเป็นท่ีรำบต่ำ เป็นที่รำบดินดอนที่อุดมสมบูรณ์ 266
นิเวเวห์ ดินแดนเมโสโปเตเมีย 267
1.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถนิ่ นาน ลกั ษณะภูมอิ ากาศ เป็ นแบบทะเลทรำยและก่ึงทะเลทรำย อำกำศแห้งแลง้ มีฝนตกน้อยมำก ควำมช้ืนไม่ เพียงพอ การเพาะปลกู ตอ้ งอำศยั น้ำจำกแม่น้ำท้งั สองเป็นหลกั ทรัพยากรธรรมชาติ ดินอันอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพำะดินเหนียว แร่ธำตุ คือ เหลก็ และเกลือ แต่มีไม่มำกนกั 268
1.1 ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์กบั การต้งั ถน่ิ นาน ปัจจยั ทำงภูมิศำสตร์มีผลต่อกำรต้งั ถ่ินฐำนของชนกลุ่มต่ำง ๆ ที่อพยพเขำ้ มำอย่ใู นดินแดนน้ี เม่ือ ประมำณ 3,500 ปี ก่อนคริสตศ์ กั รำช โดยต้ังถิ่นฐำนเป็ นชุมชน ร่วมมือกันปรับปรุงพ้ืนท่ีด้วยกำรควบคุมระบบน้ำ ขยำยพ้ืนที่ทำง กำรเกษตร ทำใหส้ ำมำรถเพ่ิมผลผลิตและขยำยตวั เป็นชุมชนเมืองไดใ้ นเวลำต่อมำ ลกั ษณะชุมชนท่ีต้งั ถิ่นฐำนในแหล่งอำรยธรรมเมโสโปเตเมีย เป็นชนหลำยกลุ่มหลำยเผำ่ ผลดั กนั มำ ต้งั ถ่ินฐำนและมีอำนำจในดินแดนแถบน้ี ไดแ้ ก่ พวกสุเมเรียน (Sumerian) พวกแอคคดั (Akkad) พวกอำมอไรต์ (Amorite) พวกอสั ซีเรียน (Assyrian) พวกคำลเดียน (Chaldean) หลงั จำกน้นั มีพวกฮิตไทต์ (Hittite) ซ่ึงมีเช้ือสำยอินโด-ยโู รเปี ยน ประชำกรหลำยเผำ่ พนั ธุ์เหล่ำน้ีได้ เข้ำมำต้งั ถิ่นฐำนในบริเวณลุ่มน้ำไทกริสและลุ่มน้ำยูเฟรทีส ทำให้พฒั นำกำรของอำรยธรรมมี ลกั ษณะกำรผสมผสำนของกลุ่มชนท่ีเขำ้ มำอยใู่ หม่กบั ชุมชนด้งั เดิม 269
ชนเผ่าทสี่ าคญั มี 3 ชนเผ่า ได้แก่ 1. ชนเผำ่ ซูเมอร์ หรือ ชำวสุเมเรียน อยแู่ ถบรำบลุ่มแม่น้ำ ไทกรีส-ยเู ฟรตีส 2. เผ่ำอินโด-ยูโรเปี ยน อยู่แถบเอเชียไมเนอร์ เช่น เปอร์เซีย , ฮิตไทต์ 3. เผ่ำเซมิติค ได้แก่กลุ่มชนอำหรับและฮิบรู อำศัย บริเวณทะเลทรำย เช่น ชำวอำคำเดียน , ชำวแอคคตั , ชำวอำมอไรต,์ ชำวคสั ไซต,์ ชำวอสั ซีเรียน, ชำวคำลเดียน 270
1.2 ชาวสุเมเรียน เป็ นชนเผ่ำแรกที่มีอำนำจครอบครองดินแดนเมโสโปเตเมียซ่ึงอยรู่ ะหว่ำง แม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยเู ฟรทีส และสำมำรถปกครองชนพ้ืนเมืองเผำ่ ต่ำง ๆ ท่ีต้งั รกรำกด้งั เดิมไดใ้ นระยะเวลำอนั ส้ัน วฒั นธรรมของพวกสุเมเรียนจึงถือเป็ นจุดเร่ิมตน้ ของกำรเกิดอำรยธรรมใน แถบลุ่มน้ำไทกริส–ยเู ฟรทีส ชาวสุเมเรียน เน่ืองจำกเมโสโปเตเมียเป็ นดินแดนแห่งควำมแตกต่ำงทำง เป็ นพวกแรก ธรรมชำติ ท่ีอำกำศมกั แปรปรวนอยเู่ สมอ บำงคร้ังมีอุณหภูมิ ทที่ าระบบ สูงและร้อนจดั แต่ในขณะเดียวกนั กอ็ ำจมีพำยฝุ นตกหนกั จน ชลประทานได้ เกิดน้ำท่วมอยำ่ งฉบั พลนั ชำวสุเมเรียนจึงสร้างทานบใหญ่สองฟำกฝั่งแม่น้ำ สร้ำง คลองระบายน้า เขื่อนก้ันน้า ประตูน้า และอ่างเก็บน้า เพ่ือ ระบำยน้ำไปยงั บริเวณท่ีแหง้ แลง้ ท่ีอยหู่ ่ำงไกลออกไป 271
1.2 ชาวสุเมเรียน สังคมของชาวสุเมเรียนยกย่องเกรงกลวั เทพเจ้า และถือเป็ น หน้าทขี่ องทุกคนทต่ี ้องรับใช้เทพเจ้าอย่างซ่ือสัตย์ เพอื่ ให้ พระองค์ทรงเมตตาและไม่ลงโทษด้วยภัยธรรมชาติต่าง ๆ พวกสุเมเรียน นิยมสร้ำงศำสนสถำน ขนำดใหญ่เรียกวำ่ ซิกกแู รต (ziggurat) ซ่ึงมีรูปแบบสถำปัตยกรรม คลำ้ ยพรี ะมิดข้นั บนั ได เป็นสญั ลกั ษณ์ที่ประทบั ของ เทพเจำ้ ต่ำง ๆ 272
1.2 ชาวสุเมเรียน พวกสุเมเรียนเป็ นชนกล่มุ แรกทรี่ ู้จักประดษิ น์อกั ษรได้ราว 3,500 ปี ก่อนคริสต์ศักราช เรียกว่า อกั ษรลม่ิ หรือคูนิฟอร์ม (cuneiform) อักษรลิ่มเป็ นส่ิ งประดิษฐ์ที่ชำว สุ เมเรี ยนนำเอำไม้สลักลงบน แ ผ่ น ดิ น เ ห นี ย ว เ ปี ย ก ๆ เ ป็ น สัญลกั ษณ์ต่ำง ๆ แทนควำมหมำย ของคำแลว้ นำไปตำกใหแ้ หง้ อักษรล่ิมประดิษฐ์เพ่ือประโยชน์ ทำงศำสนกิจ และกำรบันทึกของ พวกพระ อกั ษรล่ิมน้ีนบั วำ่ เป็นหลกั ฐำนท่ีเป็น ลำยลักษณ์อักษรที่เก่ำแก่ท่ีสุ ด ในทำงประวตั ิศำสตร์ 273
1.2 ชาวสุเมเรียน วทิ ยาการท่สี าคญั วรรณกรรมทส่ี าคัญ พวก สุ เมเรี ยน มี ควำม เจ ริ ญท ำงด้ำ น คณิตศำสตร์ ปฏิทิน และกำรชงั่ ตวง วดั มหากาพย์กลิ กาเมช (Epic of Gilgamesh) รู้จักกำรแบ่งวันออกเป็ น 24 ชั่วโมง กลำงวนั 12 ชวั่ โมง กลำงคืน 12 ชว่ั โมง เป็ นเร่ืองการผจญภยั ของวรี บุรุษ ทแี่ สวงหาชีวติ อนั เป็ นอมตะ กำรแบ่งมุมรอบจุดเป็ น 360 องศำ มุมฉำก เป็น 90 องศำ นักประวตั ิศาสตร์เข้าใจว่าการเขยี น พนั ธสัญญาเดมิ หรือพระคมั ภรี ์เก่า นอกจำกน้ียงั รู้จกั วิธีคูณ หำร กำรยกกำลงั อนั เป็ นส่วนหนึ่งของพระคมั ภีร์ไบเบิล ก ำ ร ถ อ ด ร ำ ก ที่ ส อ ง แ ล ะ ที่ ส ำ ม ก ำ ร คำนวณหำพ้ืนที่ของวงกลม กำรกำหนด ซ่ึงกล่าวถงึ น้าท่วมโลก มำตรำชั่ง ตวง วดั และกำรนับวนั เดือนปี คงได้รับอทิ ธิพลจากมหากาพย์นี้ แบบจนั ทรคติ 274
1.3 อาณาจกั รบาบิโลเนีย หลงั จำกท่ีพวกสุเมเรียนเส่ือมอำนำจลง พวกอำมอไรต์ (Amorite) ไดต้ ้งั อำณำจกั รบำบิโล- เนีย (Babylonia) ข้ึนมำ มีเมืองหลวงที่เมืองบำบิโลน อำณำจกั รบำบิโลเนียเป็ นอำณำจักร อำณำจกั รบำบิโลเนียเร่ิมอ่อนแอและถูก ที่เขม้ แข็ง มีกำรปกครองแบบรวม พวกฮิตไทต์ (Hittite) ซ่ึงอพยพมำจำก ศูนย์ (centralization) มีกำรเก็บภำษี ตอนเหนือและใต้ เข้ำปล้นสะดมเมื่อ อำกรและกำรเกณฑ์ทหำร รั ฐ 1,590 ปี ก่อนคริสตศ์ กั รำช ควบคุมกำรคำ้ ต่ำง ๆ อยำ่ งใกลช้ ิด ต่อมำพวกฮิตไทต์ก็เสี ยอำนำจให้แก่ พวกคสั ไซต์ (Kassite) ซ่ึงมำจำกเทือกเขำ ซำกรอสและเข้ำครอบครองกรุ งบำบิ - โลนเป็นเวลำถึง 400 ปี 275
1.3 อาณาจกั รบาบโิ ลเนีย ผลงานทส่ี าคญั ของอาณาจักรบาบิโลเนีย ประมวลกฎหมำยของพระเจำ้ ฮมั มูรำบี (The Code of Hammurabi) จำรึกอยบู่ นแผน่ ศิลำ ยดึ ถือหลกั ตำต่อตำ ฟันต่อฟัน (an eye for an eye, a tooth for a tooth) ในกำรลงโทษ กล่ำวคือให้ ใชก้ ำรทดแทนควำมผิดดว้ ยกำร กระทำอยำ่ งเดียวกนั 276
1.4 จกั รวรรดอิ สั ซีเรีย ในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสตศ์ กั รำช พวกอสั ซีเรียน (Assyrian) ไดเ้ ขำ้ ยดึ ครอง กรุงบำบิโลนและอำณำจกั รตำ่ ง ๆ ในเอเชียตะวนั ตก พวกอสั ซีเรียนเป็นนกั รบที่กลำ้ หำญ มีวินยั ใชอ้ ำวธุ ทำดว้ ยเหล็กซ่ึงมี ประสิทธิภำพ ศูนย์กลางในการปกครอง เมืองนิเนเวห์ (Nineveh) ความเช่ือของพวกอสั ซีเรียน กษตั ริยเ์ ป็นตวั แทนของเทวรำช (human representative) ชำวอสั ซีเรียนนิยมสร้ำงวงั ใหม้ ีขนำดใหญ่โตมโหฬำรมำกกวำ่ ศำสนสถำน 277
1.4 จกั รวรรดอิ สั ซีเรีย มรดกทำงศิลปกรรมท่ีสำคญั ของพวกอสั ซีเรียน ไดแ้ ก่ กำรสลกั ภำพนูนต่ำ (base relief) ซ่ึง แสดงภำพเก่ียวกบั ชีวติ ประจำวนั ของชำวอสั ซีเรียน มีกำรรวบรวมงำนเขียนท่ีเป็นแผน่ จำรึกต่ำง ๆ ไวใ้ นหอ้ งสมุดท่ีเมืองนิเนเวห์ถึง 22,000 แผน่ นบั วำ่ เป็นหอ้ งสมุดท่ีมีขนำดใหญ่ที่สุดในสมยั น้นั ศิลปวฒั นธรรม ของอสั ซีเรียเจริญถึง ขีดสูงสุดในสมยั พระเจำ้ อสั ชูร์บำนิ- ปำล (Assurbanipal 668–627 ปี ก่อน คริสตศ์ กั รำช) 278
1.5 อาณาจกั รคาลเดยี พวกคำลเดียน (Chaldean) สำมำรถเขำ้ ยึดกรุงนิเนเวห์ไดส้ ำเร็จเมื่อ 612 ปี ก่อน คริสตศ์ กั รำช ต่อมำได้สถำปนำกรุงบำบิโลนข้ึนเป็ นเมืองหลวงอีกคร้ังหน่ึง และจัดต้ังเป็ น อำณำจกั รบำบิโลเนียใหม่ อำณำจักรบำบิโลเนียใหม่เจริ ญรุ่ งเรื องมำกในสมัยพระเจ้ำเนบูคัดเนซซำร์ (Nebuchadnezzar 605–562 ปี ก่อนคริสตศ์ กั รำช) เมื่อ 539 ปี ก่อนคริสตศ์ กั รำช อำณำจกั รบำบิโลเนียใหม่ถูกกองทพั เปอร์เซียเขำ้ โจมตี และผนวกเขำ้ เป็ นส่วนหน่ึงของจักรวรรดิเปอร์เซีย จึงนับว่ำประวตั ิศำสตร์ของ ดินแดนเมโสโปเตเมียไดส้ ิ้นสุดลง 279
1.5 อาณาจกั รคาลเดยี วทิ ยาการ มีกำรสร้ำงวงั และวิหำรขนำดใหญ่ และมีกำรสร้ำงสวนลอยแห่งบำบิโลนซ่ึง แสดงใหเ้ ห็นถึงควำมรู้ดำ้ นกำรชลประทำน มีกำรปรับปรุงดำ้ นเกษตรกรรมและเริ่มตน้ งำนดำ้ นวิทยำศำสตร์ โดยเฉพำะ อยำ่ งยง่ิ ดำ้ นดำรำศำสตร์ o มีกำรแบ่งสัปดำห์ออกเป็น 7 วนั วนั ละ 12 คำบ คำบละ 120 นำที o มีกำรพยำกรณ์กำรเกิดสุริยปุ รำคำ o มีกำรนำควำมรู้โหรำศำสตร์มำใชใ้ นกำรทำนำยโชคชะตำของมนุษย์ 280
สรุปความรู้ • อำรยธรรมเมโสโปเตเมียเป็ นแหล่งอำรยธรรมแห่งแรก ของโลก • กำเนิดข้ึนในบริเวณลุ่มน้ำ 2 สำย คือ แม่น้ำไทกริสและ ยูเฟรทีสซ่ึงเป็ นแหล่งท่ีอุดมสมบูรณ์ จึงเป็ นปัจจยั ทำง ภูมิศำสตร์ที่ทำให้ชุมชนต่ำง ๆ อพยพเขำ้ มำต้งั ถ่ินฐำน เช่น ชำวสุเมเรียน จกั รวรรดิอสั ซีเรีย อำณำจกั รคำลเดีย ผลดั กนั สร้ำงสรรคอ์ ำรยธรรมสืบต่อกนั มำ 281
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: