ยคุ สมัยและหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ การแบ่งยุคสมยั ยุคสมัยและ หลกั ฐานทาง ทาง หลกั ฐานทาง ประวตั ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์
ประวตั ศิ าสตร์สากล ยุคสมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา 1 ช่ัวโมง
การศึกษาประวตั ศิ าสตร์มจี ุดมุ่งหมายเพอ่ื อะไร • ศึกษาพฤติกรรมของมนุษยใ์ นอดีต และสร้างความตระหนกั วา่ อดีตเป็น บทเรียนสาคญั สาหรับปัจจุบนั และอนาคต ผู้ทศี่ ึกษาประวตั ศิ าสตร์ควรมีพนื้ ฐานความรู้เกยี่ วกบั เรื่อง ด • ผศู้ ึกษาประวตั ิศาสตร์จะตอ้ งมีความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกบั เวลาและยุคสมยั ทาง ประวตั ิศาสตร์ เพ่ือใหร้ ู้วา่ เหตุการณ์ใดเกิดข้ึนก่อน และเหตุการณ์ใดเกิดหลงั รวมท้งั สามารถเลือกหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ที่เหมาะสมมาใชใ้ นการทา ความเขา้ ใจเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์
12 ส่ิง ดน่าจะเกดิ ขนึ้ ก่อนกนั เพราะอะไร? • หลกั ฐานหมายเลข 1 เกิดข้ึนก่อน เพราะหลกั ฐานหมายเลข 1 คือ เคร่ืองมือ หินกะเทาะยคุ หินเก่า ซ่ึงถือเป็นหลกั ฐานสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ • ส่วนหลกั ฐานหมายเลข 2 คือ หลกั ศิลาจารึก เกิดข้ึนทีหลงั เนื่องจากเป็ น หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร จึงเป็นหลกั ฐานสมยั ประวตั ิศาสตร์
1. การแบ่งยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ การแบ่งยคุ สมยั สมยั ก่อน ยคุ หิน ทาง ประวตั ศิ าสตร์ ยคุ โลหะ ประวตั ิศาสตร์ สมยั ประวตั ศิ าสตร์ การแบ่งยคุ สมยั ใน ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ออก การแบ่งยคุ สมยั ใน ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตก ปัจจุบนั องคก์ ารยเู นสโกไดก้ าหนดอายยุ คุ สมยั เพิ่มข้ึนอีก 1 สมยั คือ สมยั ก่ึงก่อนประวตั ิศาสตร์ ซ่ึงมนุษย์ ในสงั คมน้นั ยงั ไม่รู้จกั การใชต้ วั อกั ษรบนั ทึกเรื่องราวของตนเอง แต่มีผคู้ นจากสงั คมอ่ืนไดเ้ ดินทางผ่าน และไดบ้ นั ทึกเรื่องราวเอาไว้
1.1 สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ ช่วงเวลาท่ีมนุษยย์ งั ไม่รู้จกั ใชต้ วั หนงั สือ ยงั ไม่มีเอกสารใด ๆ ท่ีจดบนั ทึกเรื่องราวใหม้ นุษยใ์ นยคุ หลงั ทราบได้ การศึกษาเร่ืองราวในสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์จึงตอ้ งอาศยั การสันนิษฐานและการ ตีความจากหลกั ฐานทางโบราณคดีและหลกั ฐานทางสภาพแวดลอ้ ม สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์สามารถแบ่งเป็น 2 ยคุ ยคุ หิน ยคุ โลหะ
1.1 สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ ยุคหิน ยคุ หินเก่า ตอนต้น เคร่ืองมอื หินเป็ น 2,500,000– 2,500,000– ขวานกะเทาะ 10,500 ปี 180,000 ปี แบบกาป้ัน เคร่ืองมอื หิน • ม นุ ษ ย์ ยุ ค น้ี เ ร่ิ ม ท า ตอนกลาง แหลมคม มดี ้าม เคร่ื องมือเคร่ื องใช้ด้วย 180,000–49,000 ปี เครื่องมือทาจากหิน และกระดูกสัตว์ หินอยา่ งง่าย ตอนปลาย เข็มเยบ็ ผ้า หัวลูกศร 49,000–10,500 ปี • ใชว้ สั ดุจาพวกหินไฟ
1.1 สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ ยคุ หินเก่า การดารงชีวติ สภาพสงั คม 2,500,000– 10,500 ปี หาของป่ า ลา่ สัตว์ สงั คมลา่ สตั ว์ เร่ร่อนไปตามฝงู สัตว์ มีการอยรู่ วมกนั เป็น มีการวาดภาพตามผนงั ถ้า ครอบครัว เช่น ถ้าลาสโก ประเทศ มีการแบ่งหนา้ ท่ีกนั ฝร่ังเศส ผชู้ ายออกลา่ สตั ว์ ผหู้ ญิงดูแลเดก็ และหา ผลไม้ ทาใหเ้ กิดเคร่ืองมือและ ภาษาพดู
1.1 สมัยก่อนประวตั ิศาสตร์ ยุคหิน ยุคหินกลาง ทาเคร่ืองจักสาน/ 10,500–10,000 ปี เคร่ืองมือเคร่ือง ช้มีความ ประณีตมากขนึ้ การดารงชีวิต สภาพสังคม รู้จกั การเล้ียงสตั ว์ สังคมล่าสตั ว์ มีการเพาะปลกู มีการประกอบอาชีพประมง ล่าสตั ว์ ยงั คงเร่ร่อนไปตาม แหลง่ ที่อุดมสมบรู ณ์ เช่น แหล่งน้า ชายฝั่ง ทะเล
1.1 สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยุคหิน ยคุ หิน หม่ เครื่องมือประณตี ขึน้ ทาจาก 10,000–4,000 ปี หิน กระดูก เขาสัตว์ ท่ี การดารงชีวติ สาคัญ เช่น ขวานหินด้ามไม้ เคยี วหินเหลก็ ไฟด้ามไม้ อาศยั รวมกนั เป็นหมู่บา้ น สภาพสงั คม มีการเพาะปลกู เล้ียงสัตว์ สงั คมเกษตรกรรม ต้งั หลกั แหลง่ บริเวณลมุ่ น้า มีความซบั ซอ้ นข้ึน รู้จกั ทาเคร่ืองป้ันดินเผา มีการจดั สถานะทางสังคม มีการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหวา่ งชุมชน ทาเครื่องจกั สาน มีการแลกเปลี่ยนคา้ ขาย
1.1 สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ มนุษยย์ คุ หินใหม่มีความเชื่อและมีการประกอบพิธีกรรมในรูปแบบตา่ ง ๆ เพอ่ื บชู าส่ิงเหนือธรรมชาติ หลกั ฐานสาคญั เช่น สโตนเฮนจใ์ นประเทศองั กฤษ สนั นิษฐานวา่ เป็นสถานท่ี ประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อหรือเคร่ืองมือทางดาราศาสตร์ในยคุ หินใหม่
1.1 สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยุคโลหะ ยคุ สาริด เคร่ืองมอื เคร่ือง ช้ทาจากสาริดซึ่งเป็ น (4,000–2,700 ปี ) โลหะผสมระหว่างทองแดงกบั ดบี ุก พบเคร่ืองมอื ทาจากดนิ เผา หิน และแร่ สภาพสงั คม ชุมชนเมือง มีการจดั ระเบียบสังคมเป็นชนช้นั ต่าง ๆ สงั คมมีพฒั นาการไปสู่ความเป็นรัฐ
1.1 สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์ ยคุ โลหะ ยุคเหลก็ มกี ารหลอมเหลก็ เป็ นเครื่องมือ (2,700–2,000 ปี ) เคร่ือง ช้ และเคร่ืองประดบั ต่าง ๆ สภาพสงั คม เมื่อผลิตเหลก็ ได้ ทาใหส้ ามารถ สร้างกองทพั ได้ สังคมพฒั นาเป็นรัฐ และกลายเป็น อาณาจกั รในเวลาตอ่ มา
1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร์ เป็นสมยั ที่มีการจดบนั ทึกดว้ ยตวั อกั ษร แตล่ ะสังคมจะเร่ิมตน้ สมยั ประวตั ิศาสตร์ไม่พร้อมกนั การศึกษาประวตั ิศาสตร์สากลมีความแตกต่างกนั ระหวา่ งการศึกษาประวตั ิศาสตร์ตะวนั ออกกบั ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตก ประวตั ิศาสตร์ แบ่งตามช่วงเวลาของแตล่ ะราชวงศห์ รือ ตะวนั ออก ศนู ยก์ ลางอานาจเป็นเกณฑใ์ นการแบ่งยคุ สมยั ประวตั ิศาสตร์ ใชเ้ หตุการณ์สาคญั ทางประวตั ิศาสตร์เป็น ตะวนั ตก เกณฑใ์ นการแบ่งยคุ สมยั
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ จนี แนวความคิดในการจดั แบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์จีนใชพ้ ฒั นาการ ทางอารยธรรมและช่วงเวลาที่ราชวงศต์ ่าง ๆ มีอานาจในการปกครอง เป็นหลกั เกณฑใ์ นการจดั แบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์จีน สามารถแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็น ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั โบราณ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั กลาง ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ปัจจุบนั
1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร์ ปปรระะววตั ตัิศิศาสาสตตรร์จ์จีนีนสสมมยั ยัโโบบรราณาณ o เริ่มในสมยั ราชวงศช์ าง 1,570–1,045 ปี ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั กลาง ก่อนคริสตศ์ กั ราช ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ปัจจุบนั o มีการวางรากฐานด้านการปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คม o มีอกั ษรโบราณเขียนลงบนกระดองเต่า ใชใ้ นการเสี่ยงทาย o ช่วงสมยั ราชวงศ์โจว ราชวงศ์ฉินมีการ รวมศูนยอ์ านาจเป็ นจกั รวรรดิไดช้ ัดเจน ในสมยั ราชวงศฮ์ นั่
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั โบราณ o เป็นช่วงปรับตวั เพื่อรับอิทธิพลต่างชาติ ปรปะรวะตั วิศตั าิศสาตสรต์จรีน์จสีนมสยัมกยั ลกาลงาง o เกิดการแบ่งแยกดินแดนก่อนท่ีจะมีการ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ปัจจุบนั รวมประเทศได้ในราชวงศ์สุย ในสมยั ราชวงศ์ซ่ง เป็ นช่วงสมัยของความ เจริญรุ่งเรืองทางศิลปวฒั นธรรม o ชาวมองโกลสามารถยดึ ครองประเทศจีน และสถาปนาราชวงศห์ ยวน
1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั โบราณ o เริ่มตน้ สมยั ราชวงศห์ มิงข้ึนปกครองจีน ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั กลาง หลงั จากน้นั ราชวงศช์ ิงข้ึนปกครองแทน ปปรระะววตั ตัิศิศาสาสตตรร์จ์จีนีนสสมมยั ยัใใหหมม่ ่ เป็ นช่วงที่จีนไดร้ ับการยกยอ่ งว่าประสบ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ปัจจุบนั ความสาเร็จเกือบทุกดา้ น นกั วชิ าการบาง ท่านถือว่าประวตั ิศาสตร์จีนสมัยใหม่ เริ่มตน้ เมื่อคร้ังราชวงศช์ ิง (ค.ศ. 1644) o ช่วงปลายสมยั ราชวงศช์ ิงเป็นช่วงเวลาท่ี ประเทศจีนถูกคุกคามจากชาติตะวนั ตก o จีนแพ้อังกฤษในสงครามฝิ่ น (ค.ศ. 1839–1842) ราชวงศ์ชิงสิ้นสุดลงใน พ.ศ. 1911
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั โบราณ o เร่ิมตน้ ใน ค.ศ. 1911 ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั กลาง o จีนปฏิวตั ิการเปล่ียนแปลงการปกครอง ประวตั ิศาสตร์จีนสมยั ใหม่ ปปรระะววตั ตัิศิศาาสสตตรร์จ์จีนีนสสมมยั ยัปปัจัจจุบุบนั นั ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็ น ระบอบสาธารณรัฐ (ค.ศ. 1911–1949) โดย ดร.ซุน ยตั เซน (Sun Yat-sen) o พรรคคอมมิวนิสต์ได้ปฏิวัติและได้ ปกครองจีน จึงเปลี่ยนการปกครองเป็ น ระบอบคอมมิวนิสต์ต้ังแต่ ค.ศ. 1949 จนถึงปัจจุบนั
1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร์ อนิ เดยี แนวความคิดในการจดั แบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ อินเดียใชพ้ ฒั นาการของอารยธรรมอินเดียและ เหตุการณ์สาคญั เป็นหลกั สามารถแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็น ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั โบราณ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั กลาง ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ปัจจุบนั
1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร์ ปปรระะววตั ตั ิศิศาาสสตตรร์อ์อินินเเดดียียสสมมยั ยั โโบบรราาณณ o เริ่มต้นในสมัยมหากาพย์ (900–600 ปี ก่อน ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั กลาง คริสตศ์ กั ราช) ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ปัจจุบนั o มีการใชต้ วั อกั ษรบนั ทึกเรื่องราว o อินเดียรวมตวั คร้ังแรกในราชวงศ์มคธ (600– 322 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช) o รวมตวั กนั อยา่ งแทจ้ ริงในสมยั ราชวงศ์ เมารยะ (322–184 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช) o อินเดียเข้าสู่สมยั แห่งความแตกแยกและการ รุ กรานจากภายนอก ท้ังจากพวกกรี กและ กุษาณะ เป็ นช่วงเวลาของการผสมผสานทาง วฒั นธรรม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เจริญข้ึน แทนพระพทุ ธศาสนา
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั โบราณ o ค.ศ. 535–1526 เป็ นช่วงเวลาแห่งความ ปปรระะววตั ตัิศิศาสาสตตร์รอ์อินินเดเดียียสสมมยั ยกั กลลางาง วนุ่ วายทางการเมืองและรุกรานจากต่างชาติ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ใหม่ โดยเฉพาะมุสลิม ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ปัจจุบนั o สามารถแบ่งไดเ้ ป็นสมยั แห่งความแตกแยก ทางการเมือง (ค.ศ. 535–1200) และสมยั สุลต่านแห่งเดลี (ค.ศ. 1200–1526)
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั โบราณ o ช่วงเวลาน้ีเรียกว่า สมัยจกั รวรรดิมุคัล ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั กลาง (Mughal Empire ค.ศ. 1526–1858) ปปรระะววตั ตัิศิศาสาสตตรร์อ์อินินเดเดียียสสมมยั ยัใหใหมม่ ่ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ปัจจุบนั o องั กฤษไดเ้ ขา้ ปกครองอินเดียโดยตรงใน ค.ศ. 1858 จนถึง ค.ศ. 1947 อินเดียจึง ไดร้ ับเอกราชจากองั กฤษ
1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั โบราณ ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั กลาง ประวตั ิศาสตร์อินเดียสมยั ใหม่ ปปรระะววตั ตัิศิศาาสสตตรร์อ์อินินเดเดียียสสมมยั ยัปปัจัจจุบุบนั นั o เร่ิ มข้ึนภายหลังได้รับเอกราชและถูก แบ่งแยกออกเป็ นประเทศต่าง ๆ ได้แก่ อินเดีย ปากีสถาน และบงั กลาเทศ
1.2 สมัยประวตั ศิ าสตร์ ตะวนั ตก นกั ประวตั ิศาสตร์ตะวนั ตกแบ่งยคุ สมยั ออกไดเ้ ป็น 4 สมยั ประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ ประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง ประวตั ิศาสตร์สมยั ใหม่ ประวตั ิศาสตร์สมยั ปัจจุบนั
1.2 สมัยประวตั ิศาสตร์ ปปรระะววตั ตั ิศิศาาสสตตรร์ส์สมมยั ยัโโบบรราาณณ o เร่ิมข้ึนเม่ือ 3,500 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราชเป็น ประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง ช่วงเวลาที่อารยธรรมเมโสโปเตเมียและ ประวตั ิศาสตร์สมยั ใหม่ อารยธรรมอียิปตเ์ ป็ นอารยธรรมที่เก่าแก่ ประวตั ิศาสตร์สมยั ปัจจุบนั ท่ีสุดในโลก o สิ้นสุดเมื่อ ค.ศ. 476 เม่ือจกั รวรรดิโรมนั ตะวนั ตกล่มสลาย
1.2 สมยั ประวตั ศิ าสตร์ ประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ o เป็ นช่วงที่ตะวนั ตกรับอิทธิพลจากคริสต-์ ปปรระะววตั ตั ิศิศาาสสตตรร์ส์สมมยั ยักกลลาางง ศาสนาเป็นอยา่ งมาก ท้งั ทางดา้ นการเมือง ประวตั ิศาสตร์สมยั ใหม่ เศรษฐกิจ สงั คม และศิลปวฒั นธรรม ประวตั ิศาสตร์สมยั ปัจจุบนั o สงั คมในสมยั กลางยงั มีลกั ษณะเป็นสังคม ระบบฟิ วดลั (feudalism)
1.2 สมยั ประวตั ิศาสตร์ o เป็ นสมัยแห่งความรุ่ งเรื องทางศิลป- วทิ ยาการของอารยธรรมตะวนั ตกและแผ่ ประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ อิทธิพลไปยงั ดินแดนอ่ืน ๆ ประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง ปปรระะววตั ตัิศิศาาสสตตรร์ส์สมมยั ยัใใหหมม่ ่ o มีการสารวจเสน้ ทางเดินเรือ ประวตั ิศาสตร์สมยั ปัจจุบนั o เป็นยคุ การปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตร์ o เป็นยคุ แห่งการรู้แจง้ o สิ้นสุดลงเมื่อ ค.ศ. 1945 เมื่อสงครามโลก คร้ังที่ 2 ยตุ ิ
1.2 สมยั ประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์สมยั โบราณ ประวตั ิศาสตร์สมยั กลาง ประวตั ิศาสตร์สมยั ใหม่ ประวปตั ิรศะาสวตั ิศร์าตสะตวรนั ์สตมกยัสปมัจยั จปุบัจนัจุบนั o เป็นช่วงสมยั หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ซ่ึง มีผลกระทบรุนแรงทว่ั โลก และก่อใหเ้ กิด การเปล่ียนแปลงท้ังทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม การเมืองการปกครองต่อสงั คมโลก ในปัจจุบนั
สรุปความรู้ • การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์มีข้ึนเพื่อให้เกิดความสะดวกในการศึกษา ประวตั ิศาสตร์ • การแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์แบ่งไดเ้ ป็น 2 สมยั ไดแ้ ก่ สมยั ก่อน ประวตั ิศาสตร์ และสมยั ประวตั ิศาสตร์ • ผศู้ ึกษาประวตั ิศาสตร์จะตอ้ งมีความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกบั เวลาและยคุ สมยั ทาง ประวตั ิศาสตร์ เพอ่ื ใหร้ ู้วา่ เหตุการณ์ใดเกิดข้ึนก่อน และเหตุการณ์ใดเกิดหลงั
สรุปความรู้ ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ สมยั โบราณ สมยั กลาง สมยั ใหม่ สมยั ปัจจุบนั วฒั นธรรมหยางเชาและ จีนสมยั โบราณ (1,570 ปี ก่อน จีนสมยั กลาง จีนสมยั ใหม่ จีนสมยั ปัจจุบนั คริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. 220) (ค.ศ. 220–1368) (ค.ศ. 1368–1911) (ค.ศ. 1911–ปัจจบุ นั ) หลงชาน ประมาณกวา่ 5,000 ปี มาแลว้ อินเดียสมยั กลาง อินเดียสมยั ใหม่ อินเดียสมยั ปัจจุบนั (ค.ศ. 535–1526) (ค.ศ. 1526–1947) (ค.ศ. 1947–ปัจจุบนั ) เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร อินเดียสมยั โบราณ (900 ปี ก่อน และคมั ภีร์พระเวท ประมาณ คริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. 535) ตะวนั ตกสมยั กลาง ตะวนั ตกสมยั ใหม่ ตะวนั ตกสมยั ปัจจุบนั 1,000 ปี ก่อนคริสตศ์ กั ราช (ค.ศ. 476–ค.ศ. 1453) (ค.ศ. 1453–1945) (ค.ศ. 1945–ปัจจบุ นั ) ประมาณ 350,000 ปี มาแลว้ ตะวนั ตกสมยั โบราณ (3,500 ปี จนถึง 3,000 ปี ก่อน ก่อนคริสตศ์ กั ราช–ค.ศ. 476) คริสตศ์ กั ราช
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: