คู่มือสำหรับครูหลักสูตรต้านทุจริต ม.6

คู่มือสาหรับครูชุดหลกั สตู รต้านทจุ รติ ศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 หนว่ ยท่ี ๑ การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชน์สว่ นรวม

คู่มือสาหรับครูชดุ หลักสตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 เฉลยใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ให้นักเรียนดูคลปิ วดิ ีโอ \"กาฝาก\" สือ่ การเรียนรู้ความแตกต่างระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวม และ คลิปวีดีโอ \"คณุ วา่ ใครชนะ\" ส่อื การเรียนรคู้ วามแตกต่างระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน และผลประโยชนส์ ่วนรวมและตอบคาถามต่อไปนี้ ๑. เน้อื หาของคลิปวิดีโอเกย่ี วกบั เรื่องอะไร และสะทอ้ นความคิดของนักเรียนอย่างไร แนวคาตอบ เน้ือหาคลิปวดิ ีโอเกย่ี วกับเรอ่ื งผลประโยชน์ส่วนตนและ สว่ นรวม สะท้อนความคดิ ของนักเรียน(พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน) ๒ ผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถงึ อะไร แนวคาตอบ ๑) ผลประโยชน์ส่วนตนคือ การกระทาท่ีส่งผลกบั ตนเอง เทา่ นนั้ ๒) ผลประโยชน์ส่วนรวมคอื การกระทาทส่ี ง่ ผลกับผูอ้ ่นื โดยทั่วไปและคานงึ ถงึ ผลประโยชนส์ ว่ นรวมและของชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง ๓ ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม เป็นอย่างไร และมีความสาคัญตอ่ ประเทศชาตแิ ละ สงั คมโลกอย่างไร แนวคาตอบ ผลประโยชน์ส่วนตนคอื การกระทาท่ีสง่ ผลกับตนเองเทา่ นนั้ และผลประโยชน์สว่ นรวมคอื การกระทาท่ีส่งผลกับผ้อู ื่นโดยท่วั ไป มคี วามสาคญั ตอ่ ประเทศชาติและสงั คมโลกเป็นอย่างมากถ้าทุกคนเห็นแก่ประโยชน์สว่ น ตนขาดจติ สานกึ ในหน้าท่ที ่จี ะปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ มีการใช้ อานาจทางราชการโดยมิชอบในการดาเนนิ กจิ กรรมเพ่ือเอื้อประโยชน์ตอ่ ตนเอง กลมุ่ พรรค พวกพ้อง เหนือผลประโยชน์ส่วนรวม ย่อมส่งผลกระทบต่อสถาบันราชการและ สร้างความเสยี หายต่อประเทศชาติและประชาชน

คมู่ อื สาหรับครูชดุ หลักสตู รตา้ นทุจริตศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 หน่วยที่ ๒ ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ

คู่มือสาหรับครูชดุ หลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ใบกิจกรรมที่ ๑ ระดมพลงั ความคดิ ประเดน็ “การแสดงออกซ่งึ ความไม่ทนต่อการทจุ ริตในการสอบ” สถานการณ์ที่ ๑ นักเรียนจะทาอยา่ งไร เม่ือรมู้ าวา่ เพ่อื นในห้องส่วนใหญ่วางแผนจะทุจริตในการสอบและ ไดช้ วนใหน้ กั เรียนเขา้ ร่วมกระบวนการทจุ ริตดว้ ย แนวคาตอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียนโดยให้อยูใ่ นดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน) ระดมความคิด กลั่นกรองความคิด สรปุ ความคิด

ค่มู อื สาหรับครูชุดหลกั สตู รตา้ นทุจริตศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ใบงานที่ ๒ เรื่อง การลงโทษทางสังคม นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้เรื่อง “การลงโทษทางสังคม”และดูคลิปวิดีโอ เร่ืองโทษทุจรติ การเลือกตัง้ แล้วตอบคาถามดงั นี้ ๑. การลงโทษทางสงั คม คืออะไร แนวคาตอบ การลงโทษโดยสังคม (Social Sanctions) หมายถึง ปฏิกิริยาปฏิบัติทางสังคม เป็น มาตรการควบคุมทางสังคมที่ต้องการให้สมาชิกในสังคมประพฤติปฏิบัติตามมาตรฐานหรือ กฎเกณฑ์ท่ีสังคมกาหนด โดยมีท้ังด้านลบและด้านบวก การลงโทษโดยสังคมเชิงลบ (Negative Social Sanctions) เป็นการลงโทษ โดยการกดดนั และแสดงปฏิกิริยาต่อต้านพฤติกรรมของบุคคล ทไ่ี มป่ ฏิบตั ิตามกฎเกณฑข์ องสงั คม ทาใหบ้ ุคคลนนั้ เกิดความอับอายขายหน้า สาหรับการลงโทษ โดยสังคมเชิงบวกหรือการกระตุ้นสังคมเชิงบวก (Positive Social Sanctions) เป็นการ แสดงออกในเชิงสนับสนุนหรือให้รางวัลเป็นแรงจูงใจเพ่ือให้บุคคลในสังคมประพฤติปฏิบัติตาม กฎเกณฑ์ของสังคม ๒. การลงโทษทางสังคมมีกีด่ ้าน อะไรบ้าง และอธบิ ายพอสงั เขป แนวคาตอบ การลงโทษทางสังคมมี 2 ด้าน คอื ด้านบวกและดา้ นลบ การลงโทษโดยสงั คมเชิงบวก (Positive Social Sanctions) จะอยู่ในรปู ของการให้การ สนบั สนุนหรือการสร้างแรงจูงใจ หรือการใหร้ างวัล ฯลฯ แก่บุคคลและสงั คม เพื่อให้ประพฤติ ปฏิบัตสิ อดคล้องกับปทสั ถาน (Norm) ของสงั คมในระดับชมุ ชนหรือในระดบั สังคม การลงโทษโดยสังคมเชิงลบ (Negative Social Sanctions) จะอย่ใู นรปู แบบของการใชม้ าตรการ ต่าง ๆ ในการจัดระเบยี บสังคม เชน่ การว่ากล่าวตักเตือน ซงึ่ เปน็ มาตรการขั้นต่าสุดเร่ือยไป จนถึงการกดดนั และบีบคัน้ ทางจิตใจ (Moral Coercion) การตอ่ ตา้ น (Resistance) และการ ประท้วง (Protest) ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่วา่ จะโดยปจั เจกบุคคลหรือการชมุ นมุ ของมวลชน ๓. จากคลิปวดิ โี อนกั เรียนคิดว่าการทจุ รติ การเลือกตั้งทางการเมืองส่งผลตอ่ นักเรียน ประเทศและ โลกอย่างไรบ้าง แนวคาตอบ ส่งผลกระทบเชงิ ลบในภาพรวมต่อการพัฒนาประเทศในแทบ ทุกดา้ น เชน่ เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศ

คู่มอื สาหรับครูชุดหลกั สตู รต้านทุจรติ ศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 หน่วยท่ี ๓ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ

คู่มอื สาหรับครูชดุ หลักสตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง “ความพอเพียงประสานเสียงต้านความทจุ รติ ” คาชแ้ี จง ศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง ความพอเพยี งกบั การตอ่ ตา้ นการทุจริต แล้วตอบคาถามต่อไปน้ี ๑. ความพอเพยี ง หมายถงึ แนวคาตอบ พระราชดารสั พระราชทานแก่บคุ คลตา่ ง ๆ ที่เขา้ เฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเน่ืองในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวงั ดุสติ วนั ศกุ รท์ ่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๔๑ “...คาว่าพอเพียง มีความหมายกว้างออกไปอีก ไม่ได้หมายถึงการมีพอสาหรับใช้ของตัวเอง มีความหมาย ว่าพอมี พอกนิ พอมีพอกินนี้ ถ้าใครได้มาอยู่ที่นี่ ในศาลาน้ีเม่ือ ๒๔ ปี ๒๕๑๗ ถึง ๒๕๔๑ ก็ ๒๔ ปีใช่ไหม วันนั้นได้ พูดถึงว่า เราคว รจะปฏิบัติให้ พอมีพอกิน พอมี พอกิ นนี้ก็แปล ว่าเศรษฐ กิจพอเพียงนั่นเองถ้ า แต่ละคนพอมี พอกินก็ใช้ได้ ยิ่งถ้าทั้งประเทศพอมีพอกินก็ยิ่งดีและประเทศไทยก็เวลานั้น ก็เร่ิมจะเป็นไม่พอมี พอ กนิ บางคนกม็ ีมาก บางคนกไ็ ม่มีเลย สมัยก่อนน้ีพอมีพอกิน มาสมัยน้ีชักจะไม่พอมีพอกิน จึงต้องมีนโยบายท่ีจะทา เศรษฐกิจพอเพียง เพ่อื ที่จะให้ทุกคนมพี อเพียงได้...” ๒. “ ๓ หว่ ง ๒ เงอื่ นไข คืออะไร ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง จงอธิบายพอสังเขป แนวคาตอบ คุณลักษณะที่สาคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วย ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข คือ แนวทาง การดาเนินชวี ติ ใหอ้ ย่บู นทางสายกลางตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือพ้นจากภัยและวิกฤติการณ์ ตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดขึ้นก่อให้เกดิ คุณภาพชวี ติ ทด่ี อี ย่างมัน่ คงและย่งั ยนื  ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดตี ่อความจาเป็นไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไปและ ตอ้ งไมเ่ บียดเบยี นตนเองและผอู้ ่ืน  ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจดาเนินการเรื่องต่าง ๆ อย่างมีเหตุผลตามหลัก วิชาการ หลักกฎหมาย หลักศีลธรรม จริยธรรมและวัฒนธรรมที่ดีงาม คิดถึงปัจจัยท่ีเก่ียวข้องอย่างถ่ีถ้วน โดย คานึงถงึ ผลทีค่ าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ จากการกระทานั้น ๆ อยา่ งรอบคอบ  มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการ เปลยี่ นแปลงดา้ นเศรษฐกิจ สังคม ส่งิ แวดลอ้ มทีจ่ ะเกิดขนึ้ เพื่อใหส้ ามารถปรับตัวและรับมือไดอ้ ยา่ งทนั ทว่ งที เง่ือนไขในการตดั สินใจในการดาเนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๑. เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องรอบด้านความ รอบคอบที่จะนาความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในการ ปฏิบตั ิ ๒. เงือ่ นไขคุณธรรม ท่จี ะต้องเสริมสรา้ ง ประกอบดว้ ย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความ ซ่ือสัตย์สุจริตและมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ติปัญญาในการดาเนนิ ชวี ติ

คู่มือสาหรับครูชุดหลกั สตู รตา้ นทุจรติ ศึกษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ๓. การต้านการทุจรติ หมายถึง แนวคาตอบ วิธีหรือแนวทางปฏิบัติท่ีจะไม่ให้เกิดการใช้อานาจที่ได้มาหรือการใช้ทรัพย์สินท่ีมีอยู่ในทางมิชอบ เพื่อ ประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว เพ่ือน คนรู้จัก หรือประโยชน์อ่ืนใดอันมิควรได้ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อประโยชน์ ของผูอ้ ่ืน ๔. จงบอกวธิ กี ารตา้ นการทุจรติ มากลุ่มละ ๓ วิธี พรอ้ มอธบิ ายพอสังเขป แนวคาตอบ ๑. สร้างวฒั นธรรมองคก์ รที่ซือ่ สัตย์และยดึ มั่นในความเป็นธรรม ๒. ไม่รับสินบนหรือติดสินบน แก่ผู้มีส่วนได้เสียในเร่ืองที่ตนทาหน้าท่ีรับผิดชอบ ท้ังโดยตรงหรือโดยอ้อม เพ่ือให้ ไดม้ าซ่ึงประโยชน์ในทางมชิ อบ ๓. หากพบเหน็ การกระทาทเ่ี ขา้ ขา่ ยการทุจริตที่มีผลเกี่ยวข้องท้ังทางตรงหรือทางอ้อม ควรแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้อง รับทราบเพอ่ื ท่จี ะไดห้ าแนวทางในการแก้ไขและป้องกันต่อไป

ค่มู อื สาหรับครูชุดหลกั สตู รต้านทจุ รติ ศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ใบงานที่ ๒ เรือ่ ง “พอเพียงเรยี นรู้ สูก่ ารปฏบิ ตั ิ” คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นช่วยกันระดมความคดิ จะนาหลกั ความพอเพียงลงสู่การปฏิบัติ แล้วเติมคาลงในช่องว่าง แนวคาตอบ มวี นิ ยั ในการใช้จา่ ยอย่างมี จิตอาสารู้จักช่วยเหลอื สังคม เหตุมีผลอย่างพอประมาณ หรือชุมชน ตัวอย่างกิจกรรม ประหยดั เทา่ ท่ีจาเปน็ เช่น บนั ทึกบญั ชีรายรับ-รายจ่าย เชน่ จัดกจิ กรรมช่วยเหลอื ผ้ดู ้อยโอกาส พอเพียงเรียนรู้ ส่กู ารปฏิบตั ิ สรา้ งสมดลุ ของ รู้จักประหยัดใช้และกนิ อย่าง ทรัพยากรธรรมชาติ ตัวอย่าง ประมาณตน มเี หตผุ ล ไม่ กิจกรรม เชน่ รว่ มอนรุ ักษ์ ฟุ่มเฟือย ตัวอย่างกิจกรรม ทรพั ยากรธรรมชาติ เช่น นาของเหลอื ใชม้ าทาให้ เกดิ ประโยชน์ ใช้สง่ิ ของต่างๆ อย่างประหยดั /ค้มุ ค่า

ค่มู ือสาหรับครูชดุ หลักสตู รต้านทุจริตศึกษา ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 หน่วยที่ ๔ พลเมอื งกับความรับผิดชอบตอ่ สังคม

คูม่ อื สาหรับครูชดุ หลกั สูตรต้านทจุ รติ ศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 ใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง “พลเมืองทรี่ ับผิดชอบต่อการป้องกนั การทุจรติ ” คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นเลา่ เร่อื งการปฏิบตั ิตนของตนเองทแี่ สดงถงึ ความเป็นพลเมืองที่รบั ผดิ ชอบต่อการปอ้ งกัน การทจุ รติ มาอยา่ งน้อย ๑ เหตกุ ารณ์ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรียนโดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน) .............................................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ .................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................... ................ ................................................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... .

คมู่ อื สาหรับครูชดุ หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ใบงานท่ี ๒ เรื่อง “ถอดบทเรยี นความเปน็ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบต่อสังคม” คาชี้แจง ให้นักเรยี นเขียนแผนผงั มโนทศั น์ถอดบทเรียนเกี่ยวกับความเป็นพลเมอื งกับความรบั ผิดชอบต่อสงั คม แนวคาตอบ เคารพกฎหมายและปฏบิ ัติ เคารพสิทธซิ ่งึ กนั และกนั ตามกฎระเบยี บ พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ปฏิบัตติ ามหน้าทีข่ องชาวไทยตามที่ รับผดิ ชอบต่อตนเอง สังคม บัญญัตไิ วใ้ นรฐั ธรรมนญู ชุมชนและประเทศชาติ

ค่มู อื สาหรับครูชดุ หลกั สูตรตา้ นทจุ รติ ศึกษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6