หนว่ ยการเรยี นรู้องิ มาตรฐาน รหสั วชิ า ส 21103 รายวิชา สงั คมศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 ผู้จดั ทำ นายณรงค์ฤทธิ์ ประดิษฐแ์ ท่น กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนน้ำปลกี ศึกษา สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศกึ ษาเขต 29
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง เศรษฐศาสตรเ์ บื้องต้น รหสั วชิ า ส 21103 รายวิชา สังคมศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ปีการศกึ ษา 2562 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 2 ชั่วโมง ผสู้ อน นายณรงคฤ์ ทธิ์ ประดษิ ฐ์แทน่ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ 1.1มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 3.1 เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้ทรัพยากรทมี่ ีอยู่จำกัดไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพและคมุ้ ค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งเพ่ือการดำรงชีวิตอยา่ งมีดลุ ยภาพ 1.2 ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ส 3.1 ม.1/1 อธิบายความหมายและความสำคัญของเศรษฐศาสตร์ 2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เศรษฐศาสตรม์ คี วามสำคญั ทงั้ ในระดบั บคุ คลและครวั เรือน ระดับผผู้ ลติ และระดบั ประเทศ ดงั นน้ั ทกุ คนจึงควรทำความ เข้าใจเกยี่ วกบั ขอบขา่ ยและเปา้ หมายของวชิ าเศรษฐศาสตร์ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเติม(รายวิชาเพ่มิ เติม) 1) ความหมายและความสำคญั ของเศรษฐศาสตรเ์ บื้องตน้ 2) ความหมายและความสำคญั ของทรัพยากร ความขาดแคลน การเลือกและคา่ เสียโอกาส 3.2.สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ (ถ้าม)ี ................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................. .......................................................................................................... 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น (เฉพาะทีเ่ กดิ ในหน่วยการเรียนรนู้ )้ี 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4.4 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4.5 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (เฉพาะที่เกิดในหนว่ ยการเรียนรนู้ ้)ี
5.1คณุ ลักษณะอนั พ่งึ ประสงค์ (ตามหลักสูตรแกนกลาง) 1)รักชาติศาสน์ กษัตรยิ ์ 2) ซ่ือสัตย์สจุ ริต 3) มีวินยั 4) ใฝเ่ รียนรู้ 5) อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6)มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7) รักความเปน็ ไทย 8)มีจิตสาธารณะ 5.2คุณลกั ษณะตามหลกั สตู รมาตรฐานสากล 1) มีความร้พู ื้นฐานในยคุ ดจิ ิตอล วิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ เทคโนโลยี รภู้ าษาพหวุ ฒั นธรรมตระหนกั สำนกึ ระดับโลก 2) สามารถคดิ ประดษิ ฐ์อย่างสร้างสรรค์ ปรับตวั ใฝร่ ู้ ใฝเ่ รียนวเิ คราะห์ สังเคราะห์ สรปุ สร้างองคค์ วามรู้ 3) มที ักษะส่อื สารอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 4) มีความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 5) มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทักษะผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 (3Rs8Cs 2Ls) (กำหนดลอยไว้ถา้ จดั กิจรรมทม่ี ีการปฏิบัต/ิ กลมุ่ /ช้นิ งาน/โครงงานจะเกิดอยู่แล้ว) 1. ทักษะในสาระวิชาหลัก (3Rs) 1.1 Reading(อา่ น) 1.2 (W)Riting(เขียน) 1.3(A)Rithemetics(คณิตฯ) 2. ทกั ษะการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม(8Cs) 2.1 Critical ThinkingandProblem Solving (การคิดวิจารณญาณและแกป้ ญั หา) 2.2 Creativity and Innovation(การสรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม) 2.3 Cross-culturalUnderstanding(ความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม) 2.4 Collaboration, TeamworkandLeadership (การทำงานเป็นทมี ภาวะผ้นู ำ) 2.5 Communications,Information,and MediaLiteracy(การสือ่ สารสารสนเทศ) 2.6 Computing andICTLiteracy(ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลย)ี 2.7 Career and LearningSkills(ทกั ษะอาชีพและการเรียนร)ู้ 2.8 Compassion (คุณธรรมเมตตากรณุ าระเบยี บวินยั ) 7. บูรณาการกิจกรรมสะเตม็ ศกึ ษา (จาก STEM สู่ STEAM) 1.S(Science):ระบเุ น้อื หา/กจิ กรรม ................................................................................................................................... 2.T(Technology):ระบเุ น้อื หา/กิจกรรมการใชค้ อมพวิ เตอรส์ บื ค้นออกแบบ ................................................................................................................................... 3.E (Engineering):ระบุเนอื้ หา/กจิ กรรม ................................................................................................................................... 4.A(Art):ระบเุ นอื้ หา/กิจกรรมการออกแบบโครงสรา้ งปา้ ยนเิ ทศ 5.M(Mathematics):ระบเุ น้ือหา/ กจิ กรรม ...................................................................................................................................
8. การบรู ณาการตามพระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ (เฉพาะทีเ่ กิดในหน่วยการเรียนรูน้ ้)ี 8.1 บรู ณาการสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น 8.2 บรู ณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง 8.3 บรู ณาการหอ้ งเรยี นสเี ขยี ว 8.4อ่ืนๆ......โรงเรยี นคุณธรรม..... 9. การบรู ณาการและเตรียมความพร้อมในการสอบ Pre O-NET, O-NET, PISA มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชีว้ ดั 10.ชน้ิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด) (กรณเี ป็น STEAM ควรแบ่งกลุ่ม มอบหมายงาน ชน้ิ งาน) -
11.การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ดั เครอ่ื งมือ คะแนน เกณฑผ์ า่ น ความก้าวหนา้ ข้นั ต่ำ ของผู้เรียน -ทำแบบทดสอบ ก่อนเรียน -แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั หลังเรยี น เรยี นจำนวน10 ขอ้ 10 คะแนน 5คะแนน 1.ด้านความรู้ (K) - ตรวจผลงานตามแบบฝึกหัด -แบบฝึกหัดท่ี 1.1 -สังเกตพฤตกิ รรม -แบบฝึกหัดท่ี 1.2 15 คะแนน 7.5 คะแนน 2.ด้านทกั ษะกระบวนการ(P) และประเมนิ ผลงานและการ -แบบปฏบิ ัติกจิ กรรมกลุ่ม 15 คะแนน 7.5 คะแนน ปฏิบตั กิ จิ กรรมกล่มุ -แบบประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ 10 คะแนน 5 คะแนน กจิ กรรมกล่มุ 10 คะแนน 5 คะแนน 3.ด้านสมรรถนะสำคญั ของ -สงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ -แบบประเมินสมรรถนะ ผู้เรียน 5 ประการ -ประเมินผลงานและการปฏบิ ตั ิ สำคญั ของผ้เู รียน5 4.ดา้ นทักษะผเู้ รยี นใน ศตวรรษท่ี 21 (21st กจิ กรรมกลุ่ม ประการ 10 คะแนน 5 คะแนน Century Skills) 5 คะแนน 5.ด้านการนำหลักปรชั ญา -สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ -แบบประเมินทกั ษะผู้เรียนใน 5 คะแนน ของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ 5 คะแนน -ประเมินผลงานและการปฏบิ ตั ิ ศตวรรษท่ี 21 (21stCenturySkills) 50คะแนน 6.ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) กจิ กรรมกลุม่ 10 คะแนน -สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ -แบบประเมนิ การนำหลักปรชั ญา -ประเมนิ ผลงานและการปฏิบตั ิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ กจิ กรรมกลุ่ม 10 คะแนน - สังเกตพฤติกรรม -แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ การเรยี นรู้ และการรว่ มกิจกรรม ประสงค์ -ประเมนิ คุณลักษณะ 10 คะแนน อนั พึงประสงค์จากการเรยี นรู้ และการรว่ มกิจกรรม รวม 100ะแนน
12.กจิ กรรมการเรยี นรู้ *นักเรียนสวดมนตบ์ ูชาพระรตั นตรัยและทำสมาธกิ ่อนเรยี นทกุ ช่วั โมง นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่องท่ี 1 เรอ่ื ง เศรษฐศาสตรก์ บั การดำรงชวี ิตจำนวนเวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง วิธสี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ : เทคนคิ กลุ่มสบื คน้ ขนั้ นำเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพกิจกรรมด้านเศรษฐกจิ กบั การดำรงชวี ิตเช่นการซ้อื ขายในตลาดสดห้างสรรพสนิ คา้ การประกอบ อาชีพต่างๆฯลฯแลว้ ตอบคำถามดงั น้ี - กิจกรรมในแต่ละภาพสง่ ผลดตี ่อเศรษฐกิจของประเทศอยา่ งไร - กิจกรรมในภาพใดมคี วามสมั พนั ธก์ ันพรอ้ มทัง้ อธบิ ายเหตผุ ล 2. ครูอธิบายเช่อื มโยงให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ กจิ กรรมต่างๆในภาพน้นั แสดงถงึ วถิ กี ารดำเนินชวี ติ ของมนุษยท์ างด้านเศรษฐกิจ ทัง้ ในระดบั ครัวเรอื นระดับผผู้ ลติ และระดับประเทศซึง่ สง่ ผลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ขน้ั สอน 1. ครแู บ่งนักเรียนเป็นกลุ่มกล่มุ ละ4 คนคละกันตามความ สามารถคือเก่งปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนขา้ ง ออ่ นและออ่ น และให้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มมือกันศึกษาความรู้พนื้ ฐานเก่ยี วกับเศรษฐศาสตร์ จากหนงั สอื เรียนหนงั สอื ค้นควา้ เพมิ่ เตมิ และแหล่งข้อมลู สารสนเทศในหัวข้อต่อไปน้ี 1) ความหมายของวชิ าเศรษฐศาสตร์ 2) ความสำคญั ของวชิ าเศรษฐศาสตร์ในระดบั บคุ คลและครัวเรือนระดบั ผผู้ ลิตและระดับประเทศ 2. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ 3. สมาชกิ แตล่ ะคนรว่ มกนั อภปิ รายความรู้ท่ีตนได้ไปศึกษามาให้สมาชกิ คนอืน่ ๆในกลุ่มฟงั จนมีความเข้าใจท่ชี ดั เจน 4. สมาชกิ ในกล่มุ จบั คกู่ ันเป็น2 คู่ ใหแ้ ต่ละคู่รว่ มมอื กันทำใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง เศรษฐศาสตรก์ ับการดำรงชวี ิต โดยนำ ความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษาค้นควา้ และความรเู้ ดิมมาเปน็ พ้ืนฐานในการทำ 5. ครูใหน้ กั เรียนทำกิจกรรมตามตวั ชวี้ ัด: กิจกรรมท่ี 1.3จากแบบวดั ฯเปน็ การบ้าน ข้นั สรปุ 1. สมาชิกทุกคนในกลุ่มชว่ ยกนั สรปุ ขอบข่ายและเป้าหมายในการศึกษาวชิ าเศรษฐศาสตร์ แลว้ เขียนเปน็ บทสรปุ โดยใชส้ ำนวนของตนเอง หรือเขียนเป็นผังมโนทศั น์ 2. ตัวแทนกลมุ่ นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี นโดยมีครูเปน็ ผูต้ รวจสอบความถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพม่ิ เตมิ 3. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ ว่านักเรยี นจะสามารถนำความรู้เกย่ี วกับเปา้ หมายของวชิ าเศรษฐศาสตรไ์ ปเปน็ แนว ทางการประยุกต์ใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ในชวี ติ ประจำวนั ได้อยา่ งไรบา้ งโดยครเู ปน็ ผ้เู สรมิ เพิ่มเตมิ นักเรยี นตอบ คำถามกระตนุ้ ความคดิ
เร่อื งท่ี 2 เรอ่ื ง ทรัพยากรในทางเศรษฐศาสตร์ จำนวนเวลาเรียน 1 ชัว่ โมง วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมือ: เทคนิคคคู่ ิดสส่ี หาย ข้ัน นำเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันยกตวั อยา่ งปจั จยั สำคญั ในการผลิต สนิ ค้าหลายๆประเภทหรือหลายๆชนดิ ซึง่ นกั เรยี นสามารถตอบไดห้ ลากหลายจาก ประสบการณเ์ ดมิ ของนกั เรียน 2. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจวา่ ทรัพยากรในทางเศรษฐศาสตร์ หรือท่เี รยี กวา่ ปจั จยั การผลติ ซึ่งเปน็ ส่ิงทีน่ ำมาใช้ในการผลติ สนิ คา้ และบริการเพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของมนษุ ย์ สามารถแบ่งออกได้เปน็ 4ประเภทคือ 1) ทดี่ นิ 2) แรงงาน 3) ทนุ 4) ผู้ประกอบการ 3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ขัน้ สอน 1. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่ม(กลมุ่ เดมิ จากแผนการจดั การเรยี นรู้ 1)รว่ มกนั ศกึ ษาความรูเ้ รื่องทรพั ยากรในทางเศรษฐศาสตร์ จากหนังสอื เรยี น หนงั สอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศจากนั้นช่วยกนั สรปุ ประเดน็ สำคญั ของเร่ืองทศี่ กึ ษาลงในแบบบนั ทกึ การอ่านโดยครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใน ส่วนท่ีบกพร่อง 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ จบั คูก่ ันเปน็ 2คู่ ใหแ้ ตล่ ะคู่ชว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 1.2เร่อื งทรัพยากรในทางเศรษฐศาสตร์ เมื่อทำเสรจ็ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคผู่ ลดั กัน อธบิ ายผลงานของตนใหส้ มาชกิ อกี คหู่ นง่ึ ภายในกลมุ่ ฟงั และช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบในใบงานที่ 1.2 4. นักเรยี นทำกจิ กรรมตามตัวชี้วดั :กจิ กรรมท่ี 1.5จาก แบบวดั ฯเปน็ การบา้ น 5. นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ข้นั สรุป ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรปุ ความรเู้ รอื่ งทรพั ยากรในทางเศรษฐศาสตร์ ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มมอื กนั บนั ทึกสรปุ ความรเู้ รอ่ื งเศรษฐศาสตรเ์ บอื้ งต้น โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนดดงั น้ี 1)การอธบิ ายความสาคญั ของวชิ าเศรษฐศาสตร์ 2)การอธบิ ายขอบขา่ ยของวชิ าเศรษฐศาสตร์ 3)การอธบิ ายทรพั ยากรในทางเศรษฐศาสตร์ นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1
13. สือ่ การเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้ 13.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น เศรษฐศาสตร์ ม.1 2) แบบวดั และบันทึกผลการเรยี นรู้ เศรษฐศาสตร์ ม.1 3) หนังสอื คน้ คว้าเพิม่ เติม (1) วนั รกั ษ์ ม่ิงมณนี าคนิ . (2545). เศรษฐศาสตร์เบื้องต้นสำหรับบุคคลทว่ั ไป. กรงุ เทพฯ : สำนักพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร.์ (2) จรนิ ทร์ เทศวานิช. (2537). หลักเศรษฐศาสตรเ์ บอ้ื งตน้ . กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์. 4) บตั รภาพ 5) ใบงานที่ 1.1 เร่ือง เศรษฐศาสตร์กบั การดำรงชีวติ 6) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ทรพั ยากรในทางเศรษฐศาสตร์ 11. แหล่งเรยี นร้ใู นหรือนอกสถานที่ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ - http://lpn.nfe.go.th/web_lpn8/index.htm - http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-10-27871.html
บนั ทึกการนิเทศจากฝ่ายบริหาร(สง่ ก่อนจัดการเรยี นรู้ 1 สัปดาห)์ ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ เหน็ ควรอนุญาตให้ใช้ประกอบการจัดการเรยี นรู้ได้ โดยมขี อ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม คือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………… ……………… ไมเ่ หน็ ควรอนญุ าตให้ใชป้ ระกอบการจดั การเรียนรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………… ………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..… ……………………… ลงชอื่ ......................................................... (นางเสงย่ี ม หริ ัญสิงห์) หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ............/......................../.............. ความเหน็ ผบู้ รหิ าร/ผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย อนญุ าตให้ใชป้ ระกอบการจดั การเรียนรไู้ ด้ โดยมขี ้อเสนอแนะเพิ่มเติมคือ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………… ………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..… ……………………… ไม่อนุญาตให้ใชป้ ระกอบการจัดการเรียนรู้ เพราะ ……………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..…… ………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..………… ………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………..… ……………………… ลงชอื่ ......................................................... (นายสเุ มธ หนอ่ แก้ว) ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนน้ำปลกี ศกึ ษา ............/......................../............
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบที่ถูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1.ขอ้ ควำมเกย่ี วกบั เศรษฐศำสตรข์ อ้ ใดถกู ตอ้ งทส่ี ดุ 6. ขอ้ ใดกลำ่ วถงึ ปัจจยั กำรผลติ ไดค้ รบถว้ นทส่ี ุด ก. วชิ ำทม่ี คี วำมสำคญั กบั กำรดำเนนิ ชวี ติ ก.ปัจจยั กำรผลติ กำรบรโิ ภค ข. วชิ ำทต่ี อบสนองควำมตอ้ งกำรของมนุษย์ ข.ทด่ี นิ ทนุ ผบู้ รหิ ำรผบู้ รโิ ภค ค. วชิ ำทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เศรษฐกจิ ในระดบั ประเทศ ค.ทด่ี นิ คนสถำนประกอบกำรทนุ ง. วชิ ำทใ่ี หค้ วำมสำคญั กบั กำรจดั สรรทรพั ยำกรใหเ้ กดิ ง. ทด่ี นิ แรงงำนทนุ ผปู้ ระกอบกำร ประโยชน์อยำ่ งคมุ้ คำ่ 7. ผรู้ วบรวมปัจจยั กำรผลติ คอื ใคร 2. กลำ้ และแกว้ จดั สรรรำยไดป้ ระจำเดอื นไปซอ้ื สนิ คำ้ ตำ่ งๆ ก. ผปู้ ระกอบกำร ข. ผบู้ รโิ ภค อย่ำงเหมำะสมคมุ้ ค่ำและเกดิ ประโยชน์สงู สดุ สอดคลอ้ ง ค. รฐั บำล กบั ขอ้ ใด ง. ผผู้ ลติ ก. กำรตดั สนิ ใจในกำรซอ้ื ของผผู้ ลติ 8. ผใู้ ดตอ้ งยอมรบั ควำมเสย่ี งทจ่ี ะเกดิ จำกกำรผลติ และกำรบรหิ ำร ข. กำรมคี วำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรข์ องผผู้ ลติ จดั กำรในองคก์ ร ค. ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภค ง. กำรมคี วำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรข์ องผบู้ รโิ ภค ก.ผผู้ ลติ 3.ชะเอมและเพอ่ื นตดั สนิ ใจดำเนนิ ธรุ กจิ อย่ำงถกู ตอ้ งนนั้ ข.ผบู้ รโิ ภค ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ ใดเป็นสำคญั ค.ธนำคำร ก. ภำวะกำรเป็นผนู้ ำ ง.ผปู้ ระกอบกำร ข. ควำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตร์ 9. กำรทท่ี รพั ยำกรกำรผลติ ทม่ี อี ย่อู ยำ่ งจำกดั เกดิ ภำวะขำดแคลน ค. นโยบำยทำงเศรษฐกจิ ของรฐั จะสง่ ผลทำใหเ้ กดิ ปัญหำใด ง. กำรตดิ ตำมควำมเคล่อื นไหวของธุรกจิ ก.ผลผลติ ต่ำ 4.เศรษฐศำสตรจ์ ุลภำคเป็นกำรศกึ ษำพฤตกิ รรมทำง ข.กำรเลกิ ผลติ สนิ คำ้ เศรษฐกจิ ในขอ้ ใด ค.ควำมตอ้ งกำรสนิ คำ้ ของมนุษยม์ มี ำกขน้ึ ก. ปัญหำกำรวำ่ งงำนปัญหำเงนิ เฟ้อ ง. กำรแยง่ ชงิ ทรพั ยำกรและกำรกกั ตุนสนิ คำ้ ข. ระดบั บคุ คลทม่ี คี วำมสมั พนั ธก์ บั สว่ นรวม 10. มลู คำ่ สงู สุดของผลประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั จำกกำรเลอื กท่ี ค. กำรออมกำรลงทุนกำรจำ้ งงำนกำรคลงั ตอ้ งสละไปหมำยถงึ อะไร ง. สว่ นยอ่ ยระดบั บคุ คลหรอื องคก์ รธรุ กจิ หน่วยใด ก. ตน้ ทนุ คำ่ เสยี โอกำส หน่วยหนง่ึ ข. ทรพั ยำกรมจี ำกดั 5.ขอ้ ควำมใดสอดคลอ้ งกบั เศรษฐศำสตรม์ หภำค ค. ควำมขำดแคลน ก. ผผู้ ลติ ผบู้ รโิ ภค ง. กำรเลอื ก ข. กำรกำหนดรำคำของสนิ คำ้ 11. สภำวะทท่ี รพั ยำกรมไี มเ่ พยี งพอกบั ควำมตอ้ งกำรของมนุษย์ ค. ปัจจยั กำรผลติ กำรบรโิ ภค สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ควำมใด ง. รำยไดป้ ระชำชำติ กำรพฒั นำเศรษฐกจิ ก. ปัจจยั กำรผลติ ข. ผบู้ รโิ ภคมนี ้อย ค. ควำมขำดแคลน ง. ทรพั ยำกรมนี ้อย
12. บรษิ ทั ไหมไทยตอ้ งกเู้ งนิ จำกธนำคำรเพอ่ื มำซอ้ื ทด่ี นิ 14. แรงงำนในทำงเศรษฐศำสตร์ หมำยถงึ ขอ้ ใด และปลกู สรำ้ งโรงงำนขอ้ ควำมน้สี อดคลอ้ งกบั ปัจจยั กำรผลติ ในเรอ่ื งใด ก. กรรมกรผทู้ ำงำนหนกั ในสถำนประกอบกำร ก. ทุนทด่ี นิ ข. ทรพั ยำกรมนุษยท์ เ่ี ป็นผใู้ ชก้ ำลงั กำยและกำลงั ข. บรษิ ทั ทด่ี นิ ควำมคดิ ในกำรผลติ สนิ คำ้ ค. โรงงำนทด่ี นิ ค. ทรพั ยำกรประเภทหนง่ึ ซง่ึ มคี วำมสำคญั ในกำร ง. ผผู้ ลติ แรงงำน ผลติ สนิ คำ้ ประเภทตำ่ งๆ 13. ปีน้บี รษิ ทั ผลติ เงำะกระป๋ องลดปรมิ ำณกำรผลติ เงำะลง ง. ผมู้ คี วำมรนู้ ้อยจงึ ตอ้ งใชแ้ รงงำนในกำรทำงำน เพรำะฝนตกน้อยทำใหผ้ ลผลติ ของเงำะในแต่ละสวนน้อยลงสอดคลก้ บั มำกกวำ่ ใชส้ ตปิ ัญญำ ขอ้ ควำมใด 15. ขอ้ ควำมเกย่ี วกบั ควำมสำคญั และประโยชน์ของวชิ ำ ก. กำรเลอื ก เศรษฐศำสตร์ ขอ้ ใดถูกตอ้ งทส่ี ุด ข. กำรขำดแรงงำน ก.ผผู้ ลติ เป็นผทู้ ไ่ี ดร้ บั ผลตอบแทนหรอื กำไรสงู สุด ค. กำรเสยี โอกำส ข.เศรษฐศำสตรม์ คี วำมสำคญั ต่อรฐั บำลมำกกวำ่ ง. กำรขำดแคลน องคก์ รอ่นื ค.ควำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรก์ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนแ์ ก่ หลำยฝ่ ำย ง.ผทู้ ไ่ี ดร้ บั ประโยชน์ทำงเศรษฐศำสตรม์ ำกทส่ี ดุ คอื ประชำชน เฉลย มฐ.ส3.1ม.1/1 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 15 เฉลย 1. ง 2. ง 3. ข 4. ง 5. ง 6. ง 7. ก 8. ง 9. ง 10. ก 111.. คค 122.. กก 31.3.ขง 144.. ขง 155.. คง 6. ค 7. ค 8. ง 9. ง 10. ก 1
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. บรษิ ทั ไหมไทยตอ้ งกเู้ งนิ จำกธนำคำรเพอ่ื มำซ้อื ทด่ี นิ 6. ชะเอมและเพอ่ื นตดั สนิ ใจดำเนินธรุ กจิ อยำ่ งถกู ตอ้ งนนั้ และปลูกสรำ้ งโรงงำนขอ้ ควำมน้สี อดคลอ้ งกบั ปัจจยั ขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ ใดเป็นสำคญั กำรผลติ ในเรอ่ื งใด ก.กำรตดิ ตำมควำมเคล่อื นไหวของธรุ กจิ ก. ผผู้ ลติ แรงงำน ข.นโยบำยทำงเศรษฐกจิ ของรฐั ข. โรงงำนทด่ี นิ ค.ควำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตร์ ค. บรษิ ทั ทด่ี นิ ง. ภำวะกำรเป็นผนู้ ำ ง. ทนุ ทด่ี นิ 7. เศรษฐศำสตรจ์ ุลภำคเป็นกำรศกึ ษำพฤตกิ รรมทำง 2. ปีน้บี รษิ ทั ผลติ เงำะกระป๋ องลดปรมิ ำณกำรผลติ เงำะลง เศรษฐกจิ ในขอ้ ใด เพรำะฝนตกน้อยทำใหผ้ ลผลติ ของเงำะในแตล่ ะสวน ก.สว่ นยอ่ ยระดบั บคุ คลหรอื องคก์ รธรุ กจิ หน่วยใด มนี ้อยลงสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ควำมใด หน่วยหนง่ึ ก. กำรเสยี โอกำส ข.กำรออมกำรลงทนุ กำรจำ้ งงำนกำรคลงั ข. กำรขำดแคลน ค.ระดบั บคุ คลทม่ี คี วำมสมั พนั ธก์ บั สว่ นรวม ค. กำรขำดแรงงำน ง. ปัญหำกำรว่ำงงำนปัญหำเงนิ เฟ้อ ง. กำรเลอื ก 8. ขอ้ ควำมเกย่ี วกบั ควำมสำคญั และประโยชนข์ องวชิ ำ 3.กำรทท่ี รพั ยำกรกำรผลติ ทม่ี อี ย่อู ยำ่ งจำกดั เกดิ ภำวะ เศรษฐศำสตร์ ขอ้ ใดถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ขำดแคลนจะสง่ ผลทำใหเ้ กดิ ปัญหำใด ก.ผทู้ ไ่ี ดร้ บั ประโยชน์ทำงเศรษฐศำสตรม์ ำกทส่ี ุด ก. กำรแยง่ ชงิ ทรพั ยำกรและกำรกกั ตุนสนิ คำ้ คอื ประชำชน ข. ควำมตอ้ งกำรสนิ คำ้ ของมนุษยม์ มี ำกขน้ึ ข.ควำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรก์ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ ค. กำรเลกิ ผลติ สนิ คำ้ หลำยฝ่ ำย ง. ผลผลติ ต่ำ ค.เศรษฐศำสตรม์ คี วำมสำคญั ตอ่ รฐั บำลมำกกวำ่ องคก์ รอ่นื 4. มลู คำ่ สงู สดุ ของผลประโยชน์ทจ่ี ะไดร้ บั จำกกำรเลอื กท่ี ง.ผผู้ ลติ เป็นผทู้ ไ่ี ดร้ บั ผลตอบแทนหรอื กำไรสงู สดุ ตอ้ งสละไปหมำยถงึ อะไร ก. กำรเลอื ก 9. แรงงำนในทำงเศรษฐศำสตร์ หมำยถงึ ขอ้ ใด ข. ควำมขำดแคลน ก. ทรพั ยำกรประเภทหนง่ึ ซง่ึ มคี วำมสำคญั ในกำร ค. ทรพั ยำกรมจี ำกดั ผลติ สนิ คำ้ ประเภทตำ่ งๆ ง. ตน้ ทนุ คำ่ เสยี โอกำส ข. ทรพั ยำกรมนุษยท์ เ่ี ป็นผใู้ ชก้ ำลงั กำยและกำลงั ควำมคดิ ในกำรผลติ สนิ คำ้ 5.สภำวะทท่ี รพั ยำกรมไี มเ่ พยี งพอกบั ควำมตอ้ งกำร ค. ผมู้ คี วำมรนู้ ้อยจงึ ตอ้ งใชแ้ รงงำนในกำรทำงำน ของมนุษย์ สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ควำมใด มำกกวำ่ ใชส้ ตปิ ัญญำ ก.ทรพั ยำกรมนี ้อย ง. กรรมกรผทู้ ำงำนหนกั ในสถำนประกอบกำร ข.ควำมขำดแคลน ค.ปัจจยั กำรผลติ ง. ผบู้ รโิ ภคมนี ้อย
10. ผใู้ ดตอ้ งยอมรบั ควำมเสย่ี งทจ่ี ะเกดิ จำกกำรผลติ 13. ผรู้ วบรวมปัจจยั กำรผลติ คอื ใคร และกำรบรหิ ำรจดั กำรในองคก์ ร ก. ผผู้ ลติ ก. ผปู้ ระกอบกำร ข. รฐั บำล ข. ผบู้ รโิ ภค ค. ผบู้ รโิ ภค ค. ธนำคำร ง. ผปู้ ระกอบกำร ง. ผผู้ ลติ 14. กลำ้ และแกว้ จดั สรรรำยไดป้ ระจำเดอื นไปซอ้ื สนิ คำ้ ตำ่ งๆ 11. ขอ้ ใดกล่ำวถงึ ปัจจยั กำรผลติ ไดค้ รบถว้ นทส่ี ุด อยำ่ งเหมำะสมคมุ้ ค่ำและเกดิ ประโยชน์สงู สุด ก. ทด่ี นิ แรงงำนทนุ ผปู้ ระกอบกำร สอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ข. ทด่ี นิ คนสถำนประกอบกำรทนุ ก. กำรตดั สนิ ใจในกำรซอ้ื ของผผู้ ลติ ค. ทด่ี นิ ทุนผบู้ รหิ ำรผบู้ รโิ ภค ข. ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภค ง. ปัจจยั กำรผลติ กำรบรโิ ภค ค. กำรมคี วำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรข์ องผผู้ ลติ ง. กำรมคี วำมรทู้ ำงเศรษฐศำสตรข์ องผบู้ รโิ ภค 12. ขอ้ ควำมใดสอดคลอ้ งกบั เศรษฐศำสตรม์ หภำค ก. ผผู้ ลติ ผบู้ รโิ ภค 15. ขอ้ ควำมเกย่ี วกบั เศรษฐศำสตรข์ อ้ ใดถกู ตอ้ งทส่ี ดุ ข. ปัจจยั กำรผลติ กำรบรโิ ภค ก. วชิ ำทใ่ี หค้ วำมสำคญั กบั กำรจดั สรรทรพั ยำกรใหเ้ กดิ ค. กำรกำหนดรำคำของสนิ คำ้ ประโยชน์อยำ่ งคมุ้ คำ่ ง. รำยไดป้ ระชำชำติ กำรพฒั นำเศรษฐกจิ ข. วชิ ำทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั เศรษฐกจิ ในระดบั ประเทศ ค. วชิ ำทต่ี อบสนองควำมตอ้ งกำรของมนุษย์ ง. วชิ ำทม่ี คี วำมสำคญั กบั กำรดำเนนิ ชวี ติ เฉลย มฐ.ส3.1ม.1/1 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 1. ง 2. ข 3. ก 4. ง 5. ข 11. ก 12. ง 13. ง 14. ง 15. ก 1 15 6. ค 7. ก 8. ข 9. ข 10. ก
แบบประเมินต่างๆท้ายแผน
แบบบันทกึ คะแนนหลงั เรยี น(มีหรอื ไมก่ ไ็ ด้) เลขท่ี ชือ่ -สกลุ แบบฝกึ แบบฝกึ สอบ การปฏบิ ตั ิ สมรรถนะ ทักษะ ปรัชญา คณุ ลกั ษณะ คะแนน หัดที่ 1 หดั ที่ 2 ยอ่ ย งานกลุ่ม สำคญั ของ ผู้เรียน ของ อนั พงึ เตม็ ผู้เรียน ในศตวรรษ เศรษฐกจิ ประสงค์ ที่ 21 พอเพยี ง 10 10 10 10 10 10 10 10 80 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 20. 21. 22. 23. 24. 25.
เลขท่ี ชื่อ-สกลุ แบบฝกึ แบบฝกึ สอบ การปฏบิ ตั ิ สมรรถนะ ทักษะ ปรัชญา คณุ ลักษณะ คะแนน หดั ที่ 1 หดั ที่ 2 ย่อย งานกลุ่ม สำคญั ของ ผู้เรียน ของ อนั พงึ เตม็ ผู้เรียน ในศตวรรษ เศรษฐกจิ ประสงค์ ที่ 21 พอเพยี ง 10 10 10 10 10 10 10 10 80 26. 27. 28. 29. 30. 31. 32. 33. 34. 35. 36. 37. 38. 39. 40. 41. 42. 43. 44. 45. 46. 47. 48. 49. 50.
กระดาษคำตอบ คะแนน เรอ่ื ง............................................................. ตัวอยา่ ง: 1.คำตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ คือขอ้ ก ง ตัวอย่าง ก ข ค 0X กขคง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 5ประการ (10คะแนน) สำหรบั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ….. ผรู้ บั การประเมิน/กลุ่ม.........................................................................ระดบั ชั้น/หอ้ ง.................. ผปู้ ระเมิน ตอนเอง เพือ่ น ครู ประเมินคร้ังที่ ..............................วนั ที่ ...................เดือน....................................พ.ศ............... เรอ่ื งทีเ่ รียนรู้......................................................................................................................................... คำชี้แจง : ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วทำเครอ่ื งหมาย ✓ใหต้ รงกับระดบั คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรับ หลกั ฐาน มาก กลาง ที่สุด ปรงุ ที่เดน่ ชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) 1.ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรบั – ส่งสาร ในการสือ่ สาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเองโดยใช้ภาษาอย่าง เหมาะสม 1.3 ใช้วธิ ีการสือ่ สารทเี่ หมาะสม 1.4 วิเคราะหแ์ สดงความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตุผล 1.5 เขียนบนั ทึกเหตกุ ารณป์ ระจำวันแล้ว เล่าใหเ้ พือ่ นฟังได้ 2.ความสามารถ 2.1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ ในการคิด สงั เคราะห์ 2.2 มีทกั ษะในการคิดนอกกรอบอย่าง สร้างสรรค์ 2.3 สามารถคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ 2.5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเกีย่ วกบั ตนเองได้
ระดบั คณุ ภาพ สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรบั หลกั ฐาน มาก กลาง ทีส่ ุด ปรุง ที่เดน่ ชัด (5) (4) (3) (2) (1) (0) 3.ความสามารถ 3.1สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคตา่ งๆ ในการแกป้ ัญหา ทีเ่ ผชิญได้ 3.2 ใช้เหตุผลในการแก้ปญั หา 3.3 เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการเปลยี่ นแปลงใน สงั คม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรู้มาใช้ในการ ป้องกนั และแกไ้ ขปญั หา 3.5 สามารถตัดสินใจได้เหมาะสมตามวยั 4.ความสามารถ 4.1 เรียนรู้ดว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั ในการใช้ทกั ษะ 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกบั ผอู้ ื่นได้ ชีวติ 4.3 นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชนใ์ น ชีวติ ประจำวัน 4.4 จัดการปัญหาและความขดั แย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่สง่ ผล กระทบต่อตนเอง 5.ความสามารถ 5.1เลือกและใช้เทคโนโลยไี ด้เหมาะสมตามวยั ในการใช้ 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยไี ปใชพ้ ฒั นาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หาอยา่ ง สร้างสรรค์ 5.5 มีคุณธรรมจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี
ข้อสงั เกต หลกั ฐาน ร่องรอยอื่น ๆ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤติกรรมที่ดเี ด่นเป็นทยี่ อมรบั และเปน็ แบบอย่างทีด่ ี ให้ 5 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติชัดเจน ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั บิ างคร้ัง ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมที่ไมป่ ฏิบตั ิเลย ให้ 0คะแนน นำคะแนนท้ังหมดรวมกนั ไดค้ ะแนนเตม็ 125คะแนนแล้วหาร12.5จะได้คะแนนเต็ม10คะแนน เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ชว่ งคะแนน ความหมาย 9 -10 ดีมาก 7-8 ดี 5–6 ปานกลาง 3–4 น้อย 0–2 น้อยที่สุด ผลการประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 5 ประการ อยใู่ นระดับ ดีมาก ดี ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด สรปุ ผลการประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 5 ประการ ผ่าน ไม่ผ่าน(ผ่าน ต้องมีคะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนขนึ้ ไป) ลงชือ่ …………………………….………………….ผปู้ ระเมิน (นายณรงคฤ์ ทธิ์ ประดิษฐแ์ ทน่ ) ………../……………../…….….
แบบประเมินทกั ษะผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills) (10คะแนน) ผรู้ บั การประเมิน/กลุ่ม........................................................................ระดบั ชั้น/หอ้ ง.................. ผปู้ ระเมิน ตอนเอง เพื่อน ครู ประเมินครั้งที่ .......................วนั ที่ ......................เดือน.........................................พ.ศ............... เรอ่ื งทีเ่ รียนรู้................................................................................................................................ คำชีแ้ จง :ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแล้วทำเครอ่ื งหมาย ✓ใหต้ รงกบั ระดบั คณุ ภาพ ระดับคุณภาพ ทกั ษะผเู้ รียนด้าน รายการประเมิน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรับ หลักฐาน มาก กลาง ที่สดุ ปรงุ (0) ทีเ่ ดน่ ชดั (5) (4) (3) (2) (1) ทักษะผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21(21st CenturySkils) ทักษะในสาระ 1.Reading(อา่ นออก) วิชาหลัก (Core 2.(W)Riting(เขยี นได)้ Subjects–3Rs) 3.(A)Rithemetics(คิดเลขเปน็ ) ทกั ษะการเรยี นรู้ 1.Critical Thinking and Problem และนวัตกรรม Solving(ทกั ษะด้านการคิดอย่างมี วิจารณญาณ (Learning and และทักษะในการแก้ปัญหา) InnovationSkils– 2.CreativityandInnovation(ทกั ษะด้านการ 8Cs) สร้างสรรค์ และนวัตกรรม) 3.Cross-culturalUnderstanding(ทกั ษะด้านความ เข้าใจความตา่ งวัฒนธรรมตา่ งกระบวนทัศน)์ 4.Colaboration,Teamworkand Leadership(ทกั ษะ ด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ ำ) 5.Communications, Information,andMedia Literacy(ทักษะด้านการสือ่ สารสารสนเทศและ รู้เท่าทันสือ่ ) 6.Computingand ICTLiteracy(ทกั ษะด้าน คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและ การสือ่ สาร)
ทกั ษะผเู้ รียน รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ด้าน ดี ดี ปาน น้อย น้อย ปรบั หลกั ฐาน มาก กลาง ที่สุดปรงุ (0) ที่เดน่ ชดั (5) (4) (3) (2) (1) 7.CareerandLearning Skils(ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้) 8. Compassion (มีคณุ ธรรมมเี มตตา กรุณามรี ะเบียบวินัย) ทักษะการเรยี นรู้และภาวะผนู้ ำ(2Ls) ทักษะการเรียนรู้ 1.Learning(ทักษะการเรยี นรู้) และภาวะผนู้ ำ 2.Leadership(ภาวะผนู้ ำ) (2Ls) ข้อสังเกต หลกั ฐาน รอ่ งรอยอื่น ๆ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤติกรรมที่ดเี ดน่ เปน็ ทยี่ อมรับและเป็นแบบอยา่ งที่ดี ให้ 5 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิชัดเจน ให้ 3 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน - พฤติกรรมที่ไม่ปฏิบัติเลย ให้ 0คะแนน นำคะแนนท้ังหมดรวมกนั ไดค้ ะแนนเต็ม65คะแนนแล้วหาร6.5จะได้คะแนนเต็ม10คะแนน
เกณฑ์การแปลความหมายของช่วงคะแนน ช่วงคะแนน ความหมาย 9 -10 ดีมาก 7-8 ดี 5– 6 ปานกลาง 3– 4 น้อย 0– 2 น้อยที่สุด ผลการประเมินทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 อยู่ในระดบั ดีมาก ดี ปานกลาง น้อย น้อยทีส่ ดุ สรุปผลการทักษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ 21 ผ่าน ไม่ผ่าน(ผา่ น ต้องมีคะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนขนึ้ ไป) ลงชื่อ…………………………….………………….ผปู้ ระเมิน (นายณรงค์ฤทธิ์ ประดิษฐ์แทน่ ) ………../……………../…….….
แบบประเมินการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ (10 คะแนน) สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ….. ผรู้ บั การประเมิน/กลุม่ ................................................................ระดบั ชั้น/หอ้ ง.................. ผปู้ ระเมิน ตอนเอง เพือ่ น ครู ประเมินคร้ังที่ ..............................วนั ที่ .................เดือน......................................พ.ศ............... เร่อื งทีเ่ รียนรู้......................................................................................................................................... คำชีแ้ จง : ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วทำเครอ่ื งหมาย ✓ใหต้ รงกับระดบั คณุ ภาพ ระดบั พฤตกิ รรม ที่ คณุ ลักษณะ /พฤติกรรมบง่ ชี้ เกิด เกิด ไม่เกิด คะแนน เสมอ บางครั้ง ทไ่ี ด้ (2) (1) (0) 1. ความพอประมาณ 2. ความมีเหตมุ ผี ล 3. มีภมู ิคมุ้ กนั ที่ดใี นตัว 4. เง่อื นไขความรู้(รอบรู้ รอบคอบ ระมัดระวงั ) 5. เงอ่ื นไขคุณธรรม รวมคะแนน ขอ้ สงั เกต หลกั ฐาน รอ่ งรอยอืน่ ๆ .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน คุณลกั ษณะเกิดบอ่ ยครั้งให้ 2คะแนนบางครั้งให้ 1คะแนนไม่เกิดเลยให้ 0คะแนน สรุปผลการประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผ่าน ไม่ผ่าน(ผ่าน ต้องมีคะแนนต้ังแต่ 5 คะแนนขนึ้ ไป) ลงชื่อ…………………………….………………….ผปู้ ระเมิน (นายณรงค์ฤทธิ์ ประดิษฐแ์ ท่น) ………../……………../…….….
การหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ ครูผู้สอนใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในขนั้ เตรยี มการสอน/จัดการเรยี นรู้ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภมู ิคุ้มกันท่ดี ีในตวั อปุ กรณ์ จดั เตรียมเครอ่ื งอปุ กรณใ์ น จัดเตรียมเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ จดั เตรียมเครอ่ื งมอื อปุ กรณ์ให้ การเรียนการสอนให้ ใหเ้ หมาะสมกบั กิจกรรม งานสำเร็จตามวัตถปุ ระสงค์ เหมาะสมกบั กิจกรรมและ เพื่อใหก้ ิจกรรมดำเนินบรรลุ จำนวนผเู้ รียน วตั ถปุ ระสงค์ เวลา วิเคราะหก์ ิจกรรมให้ ใหก้ ิจกรรมสำเร็จภายในเวลา ใหก้ ิจกรรมสำเร็จภายในเวลาที่ สอดคล้องกบั เวลา2ชั่วโมง ทีเ่ กิด เกิด สื่อ จดั เตรียมสือ่ ใหม้ ี ใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้ที่ เตรียมสือ่ ใหส้ อดคล้องกบั ความสัมพันธ์ ถูกต้องตามรูปแบบ กิจกรรมเพื่อใหเ้ กิดชิน้ งานตรง กับกิจกรรมการเรียนสอน ตามวตั ถปุ ระสงค์ เงอ่ื นไขความรู้ รอบรู้เน้ือหากระบวนการถ่ายทอดความรู้สผู่ ู้เรียน เง่อื นไขคุณธรรม มีความขยนั หม่นั เพียร รับผดิ ชอบ และเอาใจใสน่ ักเรียน นกั เรยี นได้ เรยี นร้ทู ่จี ะอยอู่ ยา่ งพอเพยี งอยา่ งไรบา้ ง จากกิจกรรมการเรยี นรนู้ ี้ ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การมีภูมิคุม้ กันท่ดี ีในตัว • การใช้วัสดุ สิ่งของเหลอื ใช้ • เหน็ คณุ ค่าของวัสดเุ หลือใช้ที่มอี ยู่ • มีความรู้ในการคดั เลือกวัสดใุ น ภายในท้องถิ่น ในท้องถนิ่ ท้องถิ่น • จัดสรรเวลาใหพ้ อประมาณกับ • นักเรียนเกิดทกั ษะกระบวนการคิด • วางแผนในการทำกิจกรรมเปน็ กิจกรรม การแก้ปัญหาขั้นตอนการทำงาน ลำดับขั้นตอน ตามกระบวนการทำงาน • จัดกิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั • มีการจดั เตรียมวัสดุ อปุ กรณ์ นักเรียน • มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มคา่ เพื่อใช้ในการทำกิจกรรม • นักเรียนเกิดประสบการณ์ตรง • มีการจดบันทกึ ลำดับขั้นตอน • นกั เรียนเกิดความภาคภูมใิ จใน การทำงาน ตนเอง • มีทกั ษะกระบวนการทำงาน เง่อื นไขความรนู้ ักเรียนเรียนรู้วธิ ีการเลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และขั้นตอนใช้การทำงาน เงอ่ื นไขคณุ ธรรม นกั เรียนมีคณุ ธรรมมีระเบยี บวินยั ในการทำงาน
มิติวตั ถุ มิติสงั คม มิติสิ่งแวดลอ้ ม มิติวัฒนธรรม • มีความรู้ในการ • มีทักษะกระบวนการ • มีความรู้ในการเลือก • สร้างผลิตภณั ฑ์ เลือกวัสดุ ทำงานอยา่ งเปน็ วสั ดเุ หลือใช้จาก จากวัสดเุ หลือใช้ • มีความรู้ในการ • ระบบ มีการวาง ชมุ ชน เป็นเอกรกั ษ์ของ ออกแบบ ท้องถิ่น แผนการทำงานอยา่ ง • ชว่ ยลดขยะภายใน • มีการวางแผน ลำดับข้ันตอนการ เปน็ ขั้นตอนช่วยเหลือ ชุมชนลดปญั หา ทำงาน เกื้อกูลแบ่งปันตอ่ มลพิษต่อสิ่งแวดลอ้ ม ผอู้ ืน่ • เลือกใช้วัสดุมาใช้ ทำกล่องใสด่ ินสอ • มีทักษะในการ บำรงุ รกั ษาอุปกรณ์ • เหน็ คณุ คา่ ของวัสดุ เหลือใช้ในชมุ ชน
Search
Read the Text Version
- 1 - 28
Pages: