การสอ่ื สารและการสบื คน้ สารสนเทศ ผ่านระบบเครอื ข่าย
การส่ือสารและการสืบค้นสารสนเทศผ่านระบบเครือข่าย การสื่อสาร คือกระบวนการสาหรับแลกเปล่ียนสาร รูปแบบอยา่ งง่ายของสาร คือ จะตอ้ งส่งจากผสู้ ่งสารหรืออุปกรณ์เขา้ รหสั ไปยงั ผรู้ ับสารหรืออุปกรณ์ถอดรหสั องค์ประกอบข้นั พืน้ ฐานของระบบ องคป์ ระกอบข้นั พ้นื ฐานของระบบส่ือสารโทรคมนาคม สามารถจาแนกออกเป็นส่วนประกอบไดด้ งั ต่อไปน้ี 1. ผู้ส่งข่าวสารหรือแหล่งกาเนิดข่าวสาร (source) อาจจะเป็นสญั ญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณภาพ ขอ้ มูล และเสียงเป็นตน้ ในการติดต่อส่ือสารสมยั ก่อนอาจจะใชแ้ สงไฟ ควนั ไฟ หรือท่าทางต่าง ๆ กน็ บั วา่ เป็นแหล่งกาเนิดข่าวสาร จดั อยใู่ นหมวดหมู่น้ีเช่นกนั 2. ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของขา่ วสาร (sink) ซ่ึงจะรับรู้จากสิ่งท่ีผสู้ ่งขา่ วสารหรือแหล่งกาเนิดขา่ วสารส่งผา่ นมาใหต้ ราบใดที่ การติดต่อสื่อสารบรรลุวตั ถุประสงค์ ผรู้ ับสารหรือจุดหมายปลายทางของขา่ วสารกจ็ ะไดร้ ับขา่ วสารน้นั ๆ ถา้ ผรู้ ับสารหรือ จุดหมายปลายทางไม่ไดร้ ับข่าวสาร กแ็ สดงวา่ การสื่อสารน้นั ไม่ประสบความสาเร็จ กล่าวคือไม่มีการสื่อสารเกิดข้ึนนนั่ เอง 3. ช่องสัญญาณ (channel) ในที่น้ีอาจจะหมายถึงส่ือกลางหรือตวั กลางท่ีขา่ วสารเดินทางผา่ น อาจจะเป็นอากาศ สายนาสญั ญาณต่าง ๆ หรือแมก้ ระทง่ั ของเหลว เช่น น้า น้ามนั เป็นตน้ เปรียบเสมือนเป็นสะพานที่จะใหข้ า่ วสารขา้ มจากฝั่งหน่ึงไปยงั อีกฝ่ังหน่ึง 4. การเข้ารหัส (encoding) เป็นการช่วยใหผ้ สู้ ่งขา่ วสารและผรู้ ับข่าวสารมีความเขา้ ใจตรงกนั ในการสื่อความหมาย จึงมีความจาเป็นตอ้ งแปลงความหมายน้ี การเขา้ รหสั จึงหมายถึงการแปลงขา่ วสารใหอ้ ยใู่ นรูปพลงั งานท่ีพร้อมจะส่งไปในส่ือกลาง ทางผสู้ ่งมีความเขา้ ใจตอ้ งตรงกนั ระหวา่ งผสู้ ่งและผรู้ ับ หรือมีรหสั
เดียวกนั การสื่อสารจึงเกิดข้ึนได้ 5. การถอดรหัส (decoding) หมายถึงการท่ีผรู้ ับข่าวสารแปลงพลงั งานจากสื่อกลางให้กลบั ไปอยใู่ นรูปข่าวสารที่ส่งมาจากผสู้ ่งข่าวสาร โดยมีความเขา้ ในหรือรหสั ตรงกนั 6. สัญญาณรบกวน (noise) เป็นสิ่งที่มีอยใู่ นธรรมชาติ มกั จะลดทอนหรือรบกวนระบบอาจจะเกิดข้ึนไดท้ ้งั ทางดา้ นผสู้ ่งขา่ วสาร ผรู้ ับข่าวสาร และช่องสญั ญาณ แต่ในการศึกษาข้นัพ้นื ฐานมกั จะสมมติใหท้ างดา้ นผสู้ ่งขา่ วสารและผรู้ ับขา่ วสารไม่มีความผดิ พลาด ตาแหน่งท่ีใช้วิเคราะห์มกั จะเป็นที่ตวั กลางหรือช่องสญั ญาณ เมื่อไรท่ีรวมสญั ญาณรบกวนดา้ นผสู้ ่งข่าวสารและดา้ นผรู้ ับข่าวสาร ในทางปฎิบตั ิมกั จะใช้ วงจรกรอง (filter) กรองสญั ญาณแต่ตน้ ทาง เพื่อใหก้ ารส่ือสารมีคุณภาพดียงิ่ ข้ึนแลว้ คอ่ ยดาเนินการ เช่น การเขา้ รหสั แหล่งขอ้ มูล เป็นตน้ข่ายการส่ือสารข้อมูล หมายถึง การรับส่งขอ้ มูลหรือสารสนเทศจากท่ีหน่ึงไปยงั อีกที่หน่ึง โดยอาศยั ระบบการส่งขอ้ มูล ทางคล่ืนไฟฟ้าหรือแสง อุปกรณ์ที่ประกอบเป็นระบบการสื่อสารขอ้ มูลโดยทว่ั ไปเรียกวา่ข่ายการส่ือสารข้อมลู (Data Communication Networks)องค์ประกอบพืน้ ฐาน 1. หน่วยส่งขอ้ มูล (Sending Unit) หรือ ผสู้ ่งข่าวสารหรือแหล่งกาเนิดข่าวสาร (Source) อาจจะเป็นสญั ญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณภาพ ขอ้ มูล และเสียงเป็นตน้ 2. ช่องทางการส่งขอ้ มูล (Transmisstion Channel)ในที่น้ีอาจจะหมายถึงสื่อกลางหรือตวั กลาง ท่ีขา่ วสารเดินทางผา่ น อาจจะเป็นอากาศ สายนาสญั ญาณต่าง ๆ หรือแมก้ ระทง่ั ของเหลว เช่น น้า น้ามนั เป็นตน้ เปรียบเสมือนเป็นสะพานที่จะใหข้ ่าวสารขา้ มจากฝั่งหน่ึงไปยงั อีก ฝั่งหน่ึง 3. หน่วยรับขอ้ มลู (Receiving Unit) หรือผรู้ ับขา่ วสาร เป็นจุดหมายปลายทางของข่าวสาร ซ่ึง จะรับรู้จากสิ่งท่ีผสู้ ่งข่าวสาร หรือแหล่งกาเนิดขา่ วสารส่งผา่ นมาใหต้ ราบใดท่ี การ ติดต่อสื่อสารบรรลุวตั ถุประสงค์ ผรู้ ับสารหรือจุดหมายปลายทางของขา่ วสารกจ็ ะไดร้ ับ ขา่ วสารน้นั ๆ
วตั ถุประสงค์หลกั ของการนาการสื่อการข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรประกอบด้วย 1. เพอ่ื รับขอ้ มูลและสารสนเทศจากแหล่งกาเนิดขอ้ มูล 2. เพอ่ื ส่งและกระจายขอ้ มูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 3. เพอื่ ลดเวลาการทางาน 4. เพอ่ื การประหยดั ค่าใชจ้ ่ายในการส่งขา่ วสาร 5. เพอ่ื ช่วยขยายการดาเนินการองคก์ าร 6. เพ่อื ช่วยปรับปรุงการบริหารขององคก์ ารการสืบค้นข้อมูล คำวำ่ \"กำรสืบคน้ \" (Retrieval) หมำยถึง กำรสืบเสำะคน้ หำเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง ซ่ึงอำจจะไดร้ ับคำตอบในรูปของบรรณำนุกรม ตน้ ฉบบั เอกสำร คำตอบท่ีเฉพำะเจำะจง ตวั เลข หรือขอ้ ควำมของเรื่องน้นั ในที่น้ีควำมหมำยเนน้ หนกั ไปทำงดำ้ นกำรคน้ หำขอ้ มูลโดยใชเ้ คร่ืองมือช่วยคน้ประเภทท่ีเป็นส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น ระบบฐำนขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ของหอ้ งสมุด ฐำนขอ้ มูล CD-ROM/DVD ฐำนขอ้ มูลออนไลน์ Internet และ search engine ต่ำง ๆ เป็นตน้ ..กำรคน้ หำขอ้ มูลใหไ้ ดร้ วดเร็ว ถูกตอ้ งแม่นยำ และตรงตำมควำมตอ้ งกำร จำเป็นตอ้ งอำศยั ทกั ษะและพ้ืนฐำนควำมรู้เกี่ยวกบั กำรสืบคน้ ขอ้ มูล เช่น วธิ ีกำรใชเ้ ครื่องมือช่วยคน้ แต่ละชนิด กำรใชค้ ำหรือวลี (keyword) ใหส้ อดคลอ้ งกบั เรื่องที่กำลงั คน้ หำ กำรเลือกรูปแบบกำรคน้ ใหเ้ หมำะสมกำรใชค้ ำเช่ือม (and, or, not, with, adjacent..) เพื่อกำหนดขอบเขตกำรคน้ ใหม้ ีควำมเฉพำะเจำะจงมำกข้ึน ซ่ึงจะทำใหไ้ ดผ้ ลกำรคน้ /รำยกำรขอ้ มูล ที่ถูกตอ้ งตรงตำมควำมตอ้ งกำรมำกท่ีสุดระบบเครือข่าย (Network) ระบบเครือข่ายจะหมายถึง การนาคอมพิวเตอร์ต้งั แต่ 2 เคร่ืองข้ึนไปมาเชื่อมต่อกนั เพ่อื จะทาการแชร์ขอ้ มูล และทรัพยากรร่วมกนั เช่น ไฟลข์ อ้ มูลและเครื่องพมิ พ์\"ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ หรือระบบเน็ตเวริ ์ก คือกลุ่มของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ท่ีถูกนามาเช่ือมต่อกนั เพื่อใหผ้ ใู้ ชใ้ นเครือขา่ ยสามารถติดต่อส่ือสาร แลกเปลี่ยนขอ้ มูล และใชอ้ ุปกรณ์ต่างๆ ในเครือขา่ ยร่วมกนั ได\"้ เครือข่ายน้นั มีหลายขนาด ต้งั แต่ขนาดเลก็ ท่ีเช่ือมต่อกนั ดว้ ยคอมพิวเตอร์เพียงสองสามเคร่ือง เพอ่ื ใชง้ านในบา้ นหรือในบริษทั เลก็ ๆ ไปจนถึงเครือขา่ ยขนาดใหญ่ที่เช่ือมต่อกนั ทว่ั โลก ส่วน Home Network หรือเครือข่ายภายในบา้ น ซ่ึงเป็นระบบ LAN( Local Area Network) จะไดพ้ บต่อไปน้ี เป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเลก็ ๆ หมายถึงการ
นาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ มาเช่ือมต่อกนั ในบา้ น ส่ิงท่ีเกิดตามมากค็ ือประโยชน์ในการใช้คอมพิวเตอร์ดา้ นต่างๆ เช่น1. การใชท้ รัพยากรร่วมกนั หมายถึง การใชอ้ ุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องพิมพร์ ่วมกนั กล่าวคือ มีเคร่ืองพิมพเ์ พยี งเคร่ืองเดียว ทุกคนในเครือขา่ ยสามารถใชเ้ คร่ืองพมิ พน์ ้ีได้ ทาใหส้ ะดวกและประหยดั ค่าใชจ้ ่าย เพราะไม่ตอ้ งลงทุนซ้ือเครื่องพิมพห์ ลาย2. การแชร์ไฟล์ เมื่อคอมพิวเตอร์ถูกติดต้งั เป็นระบบเน็ตเวิร์กแลว้ การใชไ้ ฟลข์ อ้ มูลร่วมกนั หรือการแลกเปล่ียนไฟลท์ าไดอ้ ยา่ งสะดวกรวดเร็ว ไม่ตอ้ งอุปกรณ์เกบ็ ขอ้ มูลใดๆ ท้งั สิ้นในการโอนยา้ ยขอ้ มูลตดั ปัญหาเรื่องความจุของส่ือบนั ทึกไปไดเ้ ลย ยกเวน้ อุปกรณ์ในการจดั เกบ็ ขอ้ มูลหลกั อยา่ งฮาร์ดดิสก์ หากพ้ืนที่เตม็ กค็ งตอ้ งหามาเพมิ่3. การติดต่อสื่อสาร โดยคอมพิวเตอร์ท่ีเชื่อมต่อเป็นระบบเน็ตเวริ ์ก สามารถติดต่อพดู คุยกบั เครื่องคอมพิวเตอร์อื่น โดยอาศยั โปรแกรมส่ือสารที่มีความสามารถใชเ้ ป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ได้เช่นเดียวกนั หรือการใชอ้ ีเมลภ์ ายในก่อใหเ้ ครือขา่ ย Home Network4. การใชอ้ ินเทอร์เน็ตร่วมกนั คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องท่ีเชื่อมต่อในระบบ เน็ตเวริ ์กสามารถใชง้ านอินเทอร์เน็ตไดท้ ุกเคร่ือง โดยมีโมเดม็ ตวั เดียว การสืบค้นข้อมูลห้องสมุดการสืบค้นหน้าหลกั การสืบคน้ โดยหนา้ หลกั จะประกอบไปดว้ ยช่องแสดงรายการต่างๆใชพ้ ิมพค์ าคน้ ของคา ทวั่ ไปหรือคาเฉพาะ โดยแสดงคาคน้ ข้ึนตน้ ที่พิมพ์ และคาต่อไปตามลาดบัขน้ั ตอนการสืบค้น - เลือกหวั ขอ้ ของการสืบคน้ ท่ีช่องประเภทการสืบคน้ ตามความตอ้ งการ เช่น ผแู้ ต่ง, ช่ือเรื่อง, หวั เร่ือง หรือ เลขเรียกหนงั สือ จากน้นั คลิกเลือกรายการที่ตอ้ งการ - คลิกเลือกฐานขอ้ มูลที่ตอ้ งการสืบคน้ เช่น หนงั สือ/วารสาร/โสตทศั นวสั ดุ หรือ ดรรชนีวารสาร - พิมพค์ าคน้ ท่ีตอ้ งการสืบคน้ ที่คอลมั ภ์ พมิ พค์ าสืบคน้ เพ่ือหาช่ือทีตอ้ งการ คลิกท่ี สืบคน้การแสดงรายละเอยี ดรายการตวั เล่ม - คลิกที่หมายเลขประจาตวั เล่ม (Item Barcode) เพ่ือเลือกดูรายละเอียดของรายการตวั เล่มน้นั ๆ
- รายการตวั เล่มใหร้ ายละเอียดของแต่ละ Item รวมถึง Copy number ที่มีอยใู่ นแต่ละระเบียนโดยจะใหร้ ายละเอียดดงั น้ี • Barcode คือ หมายเลยประจาตวั เล่ม • Item Class คือ ประเภทของตวั เล่ม • Shelf Location คือ สถานท่ีจดั เกบ็ ตวั เล่มวา่ อยหู่ อ้ งสมุดไหน • Call Number คือ เลขเรียกหนงั สือและบอกถึงหมวดหมู่ของ หนงั สือบนช้นั เกบ็การสืบค้นแบบสืบค้นทวั่ ไป การสืบคน้ แบบสืบคน้ ทวั่ ไป จะใหป้ ระโยชน์ในการควบคุมคาคน้ และ โครงสร้างรายการโยงของหอ้ งสมุดลกั ษณะการสืบคน้ จะเอ้ือใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถสืบคน้ ในความ หมายท่ีแคบลงจากหวั ขอ้ ทว่ั ไปใหเ้ ป็นหวั ขอ้ ท่ีเฉพาะเจาะจงหรือผใู้ ชไ้ ม่รู้คาท่ีแน่นอนกส็ ามารถ สืบคน้ ได้ขน้ั ตอนการสืบค้น - เลือกประเภทการสืบคน้ เป็น สืบคน้ ทวั่ ไป จะปรากฏหนา้ จอ สืบคน้ ทวั่ ไป - เลือกหวั ขอ้ ของการสืบคน้ ที่ช่องประเภทการสืบคน้ เช่น ผแู้ ต่ง, ช่ือเรื่อง, หวั เรื่อง หรือเลขเรียกหนงั สือ จากน้นั คลิกเลือกรายการท่ีตอ้ งการ - คลิกเลือกฐานขอ้ มูลท่ีตอ้ งการสืบคน้ เช่น หนงั สือ/วารสาร/โสต หรือ ดรรชนีวารสาร - พมิ พค์ าคน้ ที่ตอ้ งการสืบคน้ ที่คอลมั ภ์ คาหรือวลี คลิกที่ สืบคน้การสืบค้นแบบคาสาคญั การสืบคน้ โดยใชค้ าสาคญั ในการสืบคน้ จาก ช่ือผแู้ ต่ง, ช่ือเร่ือง, หวั เร่ือง หรือ คาทุกคาจาก ทุก Field ทีมีการจดั เกบ็ ในฐานขอ้ มูล และสามารถสืบคน้ โดยการเช่ือมคาแบบตรรกบูลีน และ, หรือ, ไม่ ในการเชื่อมคาไดม้ ากกวา่ 2 คาคน้ข้ันตอนการสืบค้น - เลือกประเภทการสืบคน้ รูปแบบคาสาคญั - เลือกฐานขอ้ มูลที่ตอ้ งการสืบคน้ - เลือกประเภทคาคน้ เช่น ผแู้ ต่ง, ช่ือเร่ือง หรือ หวั เรื่อง - ใส่คาคน้ ที่ช่องวา่ ง สามารถใส่คาคน้ ไดม้ ากกวา่ 1 คา - สามารถเลือกรูปแบบการผสมคาได้ เช่น และ, หรือ, ไม่ และ ใกลเ้ คียง • และ คือ ผลการสืบคน้ ท่ีปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้
• หรือ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้ และผลการสืบคน้ ท่ีมีคาสืบคน้ คาใดคาหน่ึง • ไม่ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ คาแรกแต่จะตอ้ งไม่มีคา สืบคน้ ท่ี2 • ใกลเ้ คียง คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ คาแรกภายในคาคา สืบคน้ ท่ี 2การสืบค้นแบบเชี่ยวชาญ การสืบคน้ แบบ เชี่ยวชาญเป็นการสืบคน้ สาหรับผใู้ ชง้ านที่มีความเช่ียวชาญในการสร้างคา และการผสม สาหรับการสืบคน้การสืบค้น - คลิกเลือกการสืบคน้ แบบเช่ียวชาญ - เลือกฐานขอ้ มูล - พมิ พค์ าคน้ ในช่องวา่ ง • ตอ้ งการสืบคน้ โดยผแู้ ต่ง พมิ พ์ a: • ตอ้ งการสืบคน้ โดยหวั เรื่อง พิมพ์ s: • ตอ้ งการสืบคน้ โดยชื่อเร่ือง พิมพ์ t: - คลิกสืบคน้ เพอ่ื สืบคน้ รายการน้นัการสืบค้นแบบหลายฐานข้อมูล การสืบคน้ แบบ หลายฐานขอ้ มูล เป็นการสืบคน้ จากหลายฐานขอ้ มูล ในเวลาเดียวกนัการสืบค้น - คลิกเลือกการสืบคน้ เป็น หลายฐานขอ้ มูล - เลือกประเภทการสืบคน้ เช่น ช่ือเร่ือง, ผแู้ ต่ง, หวั เร่ือง,ทุกเขตขอ้ มูล - ใส่คาคน้ ที่ช่องวา่ ง สามารถใส่คาคน้ ไดม้ ากกวา่ 1 คา - สามารถเลือกรูปแบบการผสมคาได้ เช่น และ, หรือ, ไม่ และ ใกลเ้ คียง • และ คือ ผลการสืบคน้ ท่ีปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้ • หรือ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้ และผลการสืบคน้ ท่ีมีคาสืบคน้ คาใดคาหน่ึง • ไม่ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ คาแรกแต่จะตอ้ งไม่มีคา สืบคน้ ที่2 • ใกลเ้ คียง คือ ผลการสืบคน้ ท่ีปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ คาแรกภายในคาคา สืบคน้ ท่ี 2
- เลือกฐานขอ้ มูลที่ตอ้ งการสืบคน้ โดยคลิกที่ช่อง หรือ คลิก ท้งั หมด เพือ่ เลือกสืบคน้ ทุก ฐานขอ้ มูลพร้อมกนั - คลิก สืบคน้ เพอื่ สืบคน้ หลายฐานขอ้ มูลพร้อมกนัการสืบค้นแบบคาสาคญั รายการหลกั เป็ นลกั ษณะการสืบคน้ ที่จะสืบคน้ จาก รายการควบคุมรายการหลกั ซ่ึงไดแ้ ก่ ชื่อผแู้ ต่ง ช่ือ เร่ือง และหัวเร่ือง โดยเราสามารถท่ีจะจากดั การสืบคน้ ไดด้ ว้ ยการใช้ และ,หรือ,ไม่,ใกลเ้ คียง รูปแบบของคาคน้ ทุกคา,คาหรือวลี,ตรงคาข้ันตอนการสืบค้น - เขา้ สู่หนา้ จอการสืบคน้ และเลือกลกั ษณะการสืบคน้ แบบคาสาคญั รายการหลกั ในหนา้ จอการสืบคน้ - เลือกประเภทของคาสืบคน้ ท่ีช่อง ในหนา้ จอการสืบคน้ แบบคาสาคญั รายการหลกั โดยการกาหนดคา่ ไดแ้ ก่ ชื่อเรื่อง,หวั เรื่องรายการหลกั ,หวั เร่ืองรายการหลกั LC(Library of CongressSubject),ผแู้ ต่ง - เลือกลกั ษณะคาสืบคน้ จาก รูปแบบขอ้ มูลซ่ึงไดแ้ ก่ • ทุกคา คือ ผลการสืบคน้ จะตอ้ งปรากฏคาสืบค้นน้ันๆในส่วนใดของผล การสืบคน้ กไ็ ด้ • คาหรือวลี คือ ผลการสืบคน้ จะตอ้ งปรากฏคาสืบคน้ น้ันๆ โดยคาสืบคน้ จะตอ้ งอยตู่ ิดกนั หรือเป็นวลีเดียวกนั เท่าน้นั • ตรงคา คือ ผลการสืบคน้ จะตอ้ งปรากฏคาสืบคน้ น้ันๆ โดยคาสืบคน้ จะ ปรากฏอยสู่ ่วนตน้ ของผลการสืบคน้ เท่าน้นั - เลือกคาเช่ือมคาสืบคน้ โดยจะมีความหมายในการสืบคน้ ต่างกนั ดงั น้ี • และ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้ • หรือ คือ ผลการสืบคน้ ท่ีปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ ท้งั หมดทุกคาสืบคน้ และผลการสืบคน้ ที่มีคาสืบคน้ คาใดคาหน่ึง • ไม่ คือ ผลการสืบคน้ ที่ปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบค้นคาแรกแต่จะตอ้ งไม่มีคา สืบคน้ ที่2 • ใกลเ้ คียง คือ ผลการสืบคน้ ท่ีปรากฏจะตอ้ งมีคาสืบคน้ คาแรกภายในคาคา สืบคน้ ที่ 2 - ใส่คาสืบคน้ ใน คาหรือวลี และในการสร้างคาสืบคน้ สามารถใช้ ฐานขอ้ มูลไดอ้ ีกดว้ ย และสามารถกาหนด หนงั สือ/วารสาร/โสตหรือดรรชนีวารสาร ได้ จากน้นั คลิกป่ ุม สืบคน้ เพื่อทาการสืบคน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: