พระเกียรติคุณแห่งจอมเทพวนิ ยั ธร “กวนอู” คำนำ ภาพวาดหรอื รปู ป้ันบุรษุ ร่างสูงใหญ่ผมู้ ีใบหน้าสีแดง มีหนวดเคราสีดายาวพริว้ สะบดั มอื กมุ งา้ ว ลายมังกร แตง่ กายด้วยชดุ นักรบ มองดเู ด่นเป็นสง่าน่าเกรงขาม น้อยคนนักทีจ่ ะไม่รู้วา่ นั่นคือ “เทพเจ้ากวน อู” ผซู้ ึง่ เกือบ 2,000 ปีก่อน ได้ถือกาเนดิ มาในยุคสามก๊ก เพื่อสรา้ งวีรกรรมอนั ยิ่งใหญ่ ดังนั้นแมท้ ่านจะละ จากโลกนีไ้ ปแล้ว ทว่าชื่อเสียงและคาสรรเสริญยังคงเล่ืองลอื ระบือไกลมิรู้จบ ทั้งน้ีไม่ต้องสงสัยเลย เพราะ หากท่านได้ศึกษาพระประวัติของพระองค์ท่านแล้วจะยิ่งตระหนักในพระเกียรติคุณอนั สูงส่ง อนั ยากจะหา ผใู้ ดเสมอเหมือนได้ แท้จรงิ แล้วพระเกียรติคณุ คณุ ธรรม ตลอดจนพระจริยวัตรอนั งดงามของพระองค์ท่านมีมากเปน็ เอนกอนันต์ แต่ในทีน่ ีไ้ ด้หยิบยกมาเพียงบางแงม่ ุม และบางกรณียกิจเท่าน้ัน ท่ามกลางกระแสโลกปจั จบุ ัน ซึง่ เต็มไปด้วยความลุ่มหลงสบั สนอลหมา่ นขาดแบบอย่างการสร้าง คณุ งามความดีเพื่อชีวติ เพื่อสงั คม มลู นิธิหวงั เป็นอย่างยิ่งว่า พระเกียรตคิ ณุ แหง่ จอมเทพวินยั ธร “กวนอู” เล่มน้ี ผใู้ ฝป่ ฎิบตั ิธรรม ตลอดจนอนุชนทั้งหลายจะได้ศกึ ษา และน้อมนามาเป็นแนวทางในการดาเนินชีวติ เพือ่ จะได้ลุถึงความดีในขั้นบริบูรณ์พรอ้ มตอ่ ไป จอมเทพวนิ ัยธร \" กวนอู\" เทพเจ้ำแห่งควำมซือ่ สัตย์ เหตกุ ำรณใ์ นวัยเยำว์ ตามหลักทางประวัติศาสตร์ จากหนงั สือจดหมายเหตุ \"สามก๊ก\" และ \"จดหมายเหตุที่สาคญั ในอาเภอยุ่นเฉิง มณทลซานซี\" มีบันทึกไว้วา่ \" ในปีท่ี ๓ แหง่ รชั กำลเอี่ยนสี่ สมัยรำชวงคต์ งฮั่น กวนอไู ด้ถอื กำเนดิ ณ. หมู่บ้ำนฉำงผิง อำเภอย่นุ เฉิง มณฑลซำนซี\" ซึง่ กค็ ือปีพุทธศักราช ๗๐๓ หรอื คริสตศกั ราช ๑๖๐ ตามประวตั ิ ท่านกวนอู แซ่ \"กวน\" ช่อื \" หวี\"่ มสี มญาว่า \"ฉางเขิน\" มีชือ่ รองว่า \"หยุ่นฉาง\" เปน็ ชาวตาบลเจียเหลี ยง (ไกเหลียง) อาเภอยุ่นเฉิง เมืองเหอตง (ฮอต๋ัง) กล่าวกันว่าตั้งแต่เปน็ เด็ก ท่าน ชอบอ่านประวัติศาสตร์ ชุนชิวเป็นชีวติ จิตใจ จึงทาให้มีอุปนิสัยรกั ความเปน็ ธรรม และรอบรู้การทหารชอบสู้ กับคนที่เก่งกว่า ไม่รังแกคนอ่อนแอกว่า เป็นคนมีศีลมีสัตย์ รคู้ ณุ คนเจ็บแล้วจาจนตาย ปกติจะถ่อมตนตอ่ คนที่ตา่ ต้อย แตก่ บั ผมู้ ีอานาจชวั่ ช้า ท่านจะทรนงไว้ตัว ไม่ยอมก้มหัวให้
มีคุณลกั ษณะคือ รูปร่างสูงใหญ่ถึง 6 เชยี ะ (ประมาณ 198 ซม.) หนวดยาว 1 เชยี ะครึ่ง (ประมาณ 49.5 ซม.) ใบหนา้ แดงเหมอื นผลพทุ ราสกุ รมิ ฝปี ากแดงด่งั แต้มชาด คิวเหมือนตวั หนอนไหม ตายาวดั่งนกกา ระเวกเปน็ ผู้ยึดมั่นคุณธรรมเหนอื สิง่ ใด ซื่อสัตย์และกตัญญยู ิ่ง อาวธุ คู่กาย คอื ง้าวรปู จนั ทร์เสีย้ ว ประดับลายมงั กรยาว 11 เชยี ะ (ประมาณ 3 เมตร 63 เซนติเมตร) หนัก 82 ช่งั (65.6 กิโลกรมั ) งา้ วนมี้ ีชื่อเรียกเฉพาะว่า \"ชิงหลง เยีย่ น เย่ เตา\" หรือง้าวมงั กร เขียวจนั ทร์เสยี้ วระรน่ื (บางแหง่ แปลว่า ง้าวนิลมังกรจนั ทร์ฉงาย) ขณะย่างเข้าวัยหนุ่ม ตอนที่ท่านกวนออู ายุ 19 ปี ลกู ชายเจ้าเมืองสมคบกับนายอาเภอก่อกรรมทา ช่ัวสารพัด สร้างแต่เร่อื งเดือดร้อนแก่ชาวบ้านไปท่วั ครั้งสดุ ท้ายใช้อานาจบีบบังคับข่มขนื หญิงสาวผู้หน่งึ แต่ เมือ่ คดีความถึงขั้นศาล เรื่องกลบั ตาลปัตถ์... กลายเปน็ ว่าหญิงสาวผบู้ ริสทุ ธิ์ถูกตัดสินให้ต้องโทษจาคกุ ฝา่ ยคนชว่ั ช้าสามานย์กลบั พ้นผิด ในเวลานนั้ ......ชายหนุ่มกวนอู ซึง่ ตดิ ตามมาฟังการพจิ ารณาคดี ตั้งแตต่ ้นถึงกับบันดาลโทสะสุด ขีด พุ่งเขา้ ทบุ ต่อยลูกชายเจ้าเมืองจนเสียชวี ิตคามอื จากน้ันจงึ ตามไปวางเพลิงทีว่ ่าการอาเภอ พังประตหู อ้ ง ขงั ช่วยหญิงสาวออกมาจากคุก สว่ นตัวเองรีบหนีไปยังศาลเจ้าแห่งหน่งึ เวลาน้ันเจ้าเมืองได้นากาลังททารตดิ ตามมาทัน จึงส่ังให้ลอ้ มศาลเจ้า และจดุ ไฟเผาหวังจะใช้ไฟ คอกให้ตายไปตามกัน แตท่ ว่าชายหนุ่มกวนอู กลบั วิง่ ทะลวงฝ่าเปลวเพลิงทีก่ าลังลุกโหม ตรงออกมาฆ่าเจ้า เมืองตายไปอีกคน แมร้ าษฎรชาวบ้านทั้งหลายจะอนุโมทนาในเหตุการณ์ครั้งน้ี แตก่ ฎหมายบ้านเมืองใช่ว่าจะพลอย เห็นดีเหน็ ชอบไปด้วย ฉะนน้ั ....กวนอผู กู้ ระทาการเย้ยกฎหมาย จึงต้องหนีอาญาแผ่นดิน เร่ร่อนไปหลายหัว เมืองเป็นเวลาถึง 6 ปี พี่น้องร่วมสำบำน ใน สวนท้อ จนกระทั่งมาถึงเมือง จวงเสีย้ ว (ตุ้นกวน) ยามนั้นใน รัชกาลพระเจ้าเลนเต้ เกิดทุพภิกขภัย แผน่ ดินแหง้ แล้ง โรคภัย ระบาดไปท่ัว บรรดาขนั ทีและข้าราชกาลผู้มีอทิ ธิพลรวมกลุ่ม กันแสวงหาผลประโยชน์จนขดั แย้งแก่งแย่งอานาจกัน บ้านเมืองเกิดจราจลระส่าระสาย ประชาชนเดือดรอ้ นไปทกุ หย่อมหญ้า ซ้าร้ายยงั มกี ลุ่มโจรใชส้ ัญญลกั ษณ์เหลอื งโพกศรี ษะ เรียกว่า โจรโพกผ้าเหลือง ออกปล้นฆ่าราษฎรก่อความวุ่นวาย ไปทว่ั ร้อนถึงราชสานกั ฮ่นั ....พระเจ้าเลนเต้จัดทพั ออกไป
ปราบปราม แตก่ ลบั ถูกฝา่ ยโจรโพกผา้ เหลืองตแี ตกพ่ายไปหลายหน หาผู้ใดต้านทานได้ไม่ จงึ ทรงมีพระราช โองการไปยงั หัวเมืองท้ังหลาย ให้หาชายฉกรรจ์ผกู้ ล้ามาเปน็ ทหารอาสาปราบโจร หากสาเร็จจะปูน บาเหนจ็ ให้เป็นขนุ นางได้รับความชอบ ขณะนั้นเมืองตุ้นกวน มชี ายผู้หน่งึ ชือ่ เล่าปี่ เปน็ บตุ รเล่าหง บิดาเสียชีวติ ยงั อยู่แตผ่ เู้ ป็นมารดา แท้จรงิ ท่านสืบเชือ้ พระวงศ์พระเจา้ ฮั่นเกงเต้ตามลาดบั ศกั ดิแ์ ลว้ .... ท่านเล่าปี่เปน็ อาของพระเจ้าเหยี้ นเต้ อนิจจา....กาลเวลาผา่ นไป ตกมาถึงลกู หลานรนุ่ ที่ 18 กลบั ยากจนเขญ็ ใจไร้ทรัพย์ ต้องทอเสื่อขายเลีย้ งชพี เมือ่ ท่านเล่าปี่อ่านประกาศราชโองการที่ประตูเมืองแล้ว ก็ทอดถอนใจใหญ่ ขณะนั้นมีชายอีกผหู้ น่ึงชือ่ เตียว หยุ ซึ่งบงั เอิญยืนอยู่ข้างหลังมองดูอยู่ จงึ พดู ขึ้นว่า \"เป็นชำยไม่ชว่ ยบ้ำนเมือง กลับมำยืนถอนหำยใจ เป็นลูกผชู้ ำยประสำอะไร\" ท่านเล่าปี่หนั มากล่าวว่า \"ขำ้ คดิ อำสำแผ่นดิน รวบรวมผูก้ ลำ้ ปรำบโจรร้ำย แต่กจ็ นใจทีต่ วั ไร้ทรัพย์ จงึ ไม่อำจสำน อุดมกำรณใ์ หบ้ รรล\"ุ เตียวหยุ ได้ยินดงั นั้น กห็ ัวเราะเสียงดัง แล้วกล่าวว่า \"เรอ่ื งทรัพยส์ ินเงนิ ทอง.....ตัวข้ำพอมีอยู่ แตข่ ัดสนด้วยคนมีฝีมือกล้ำหำญ\" เมือ่ ท้ังสองเห็น ว่าแท้จรงิ ต่างก็มีจุดหมายอันเดียวกัน ทาให้รสู้ ึกต้องอัธยาศยั จงึ ชวนกันไปสนทนาต่อทีร่ า้ นสรุ ากลางตลาด ขณะนั้น ท่านกวนอใู นวยั ฉกรรจ์ ขับเกวียนเข้ามาเทียบหน้าร้านรอ้ งเรียกขอซือ้ สุราว่า ให้เอามาเร็ว ๆ จะรีบ ไปอาสาศึกรบกบั ไอ้พวกโจรโพกผา้ เหลือง ทั้งเล่าปี่และ เตียวหยุ เหน็ รปู ร่างที่องอาจอกี ท้ังใบหนา้ แดง หนวดดายาว ลักษณะที่ผิดแปลกกว่า มนุษย์ธรรมดาทาให้สะกิดใจ ทั้งสองจงึ เชิญท่านกวนอูมาร่วมโต๊ะเพือ่ ทาความรจู้ ัก คร้ันสนทนาซักถาม จึงรู้ว่าชื่อ กวนอู ได้ฆ่าราชการช่วั ทีข่ ม่ เหงผคู้ นแล้วหนีมา เม่ือเหน็ ประกาศจงึ หวังอาสาไปปราบโจร เล่าปี่และเตยี วหยุ เห็นมคี วามคิดตรงกนั จึงชวนกวนอูมาร่วมคณะ กวนอไู ด้ฟังก็ดีใจยิง่ เตียวหุย จงึ กล่าวเชิญชวนใหไ้ ปกระทาสัตย์สาบานเป็นพี่นอ้ งกันที่บ้านของตน เล่าปี่และกวนอูได้ยินเช่นนนั้ กม็ ีความ ยินดีตกลงไปบ้านเตียวหยุ ตามคาเชิญ คร้ันรงุ่ ข้ึน ในสวนท้อหลังบ้าน.... ยามที่ดอกท้อกาลงั บานสะพร่ังเตม็ สวน เตียวหยุ จึงจดั โต๊ะตั้ง เครือ่ งสักการะบูชาเทพยดาฟ้าดิน แล้วชายชาตรที ้ังสามจงึ คกุ เข่าลงจดุ ธปู เทียนบชู า กระทาสัตย์สาบาน กล่าวปฎิญาณพร้อมกนั ว่า \"แมม้ ิไดเ้ กิดวนั เดือน ปี เดียวกัน แตย่ ินดีตำยวนั เดือน ปี เดียวกัน จำกนี้ไป จะร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือผูต้ กทกุ ข์ได้ยำก
ปกปอ้ งค้มุ ครอง ผู้ตกอยู่ในอันตรำย ตอ่ เบื้องสูง.... ทดแทนคุณชำติบ้ำนเมือง ต่อเบื้องลำ่ ง.... พิทกั ษค์ วำมผำสุกของอำณำประชำรำษฎร์\" เมื่อเสรจ็ พธิ ี จึงเหน็ พ้องต้องกนั ว่า เล่าปี่ได้ลกั ษณะผมู้ ีบุญหนักและมอี าวุโส.... เปน็ พี่ใหญ่ กวนอู ผู้ซึง่ ถึงจะกลวั อาญาแผ่นดนิ แต่ก็ไม่มากไปกว่าจะทนดคู นชัว่ ช้าข่มเหงคนดีได้.... เป็นพีร่ อง ส่วนเตียวหุย ผู้ซึ่งอายนุ ้อยกว่าเพื่อน.... เป็นน้องสดุ ท้อง บทลำนำ \"สำบำนในสวนทอ้ \" ยามจราจลาจลบ้านเมืองสับสน.... ได้พบคนรใู้ จ ดอกท้อแย้มยิ้มบานไสว.... ส่องแท่นบวงสรวง น้อมกราบคารวะ.......... ปณิธานตง้ั ไว้... สร้างสันติสุข ทดแทนคณุ ชาติ ประกาศ วีรกรรม น้อมกราบคารวะ.......... จงรักภักดีใจหาญกล้า.... ทุกข์ยากร่วมฟันฝ่า.... สัญญาไม่แยกกนั น้อมกราบคารวะ......... ถึงตายไม่แปรผนั .... ดนิ .... ฟ้า.... ตะวัน....จนั ทร์ ยิง่ เสริมใจกล้าแกร่ง.... ทวนยาวกมุ มัน่ .... งา้ วกระบี่แกวงไกว พีน่ อ้ งสามชาย...... มงุ่ ไปกลางไฟสงคราม พี่นอ้ งสามชาย..... มงุ่ ไป...... สมรภูมิ...... เฮย. หล่องำ้ วมงั กรฯ ออกรบเปน็ ปฐมฤกษ์ เล่าปี่ กวนอู และเตียวหุย ได้รวบรวมชาวบ้านสมคั รพรรคพวกเป็นกองกาลงั อาสาสมัครจานวน กว่า 500 คน ในการน้ีมีพอ่ ค้าขายม้าร่วมบริจาคม้าให้ 50 ตวั และเหลก็ จานวน 100 หาบ เล่าปี่ได้สร้างเสือ้ เกราะสาหรบั กองกาลงั อาสา และหาช่างมาตีเหล็กเปน็ กระบี่คู่สองเล่มสาหรบั เป็นอาวุธคู่กาย เตียวหยุ ได้ทวนยาว 1 อัน ส่วนกวนอูคุมช่างใหต้ ีเป็นก้าวยาว 1 1 ศอก มนี ้าหนกั ถึง 82 ช่งั
ซึง่ ใช้เป็นอาวธุ ประจากายตลอดชีวติ ในการออกรบคร้ังแรก ฝ่ายโจรโพกผ้าเหลืองมีกาลัง 5,000 คน มากกว่าถึง 10 เท่า แตท่ ว่าท่าน กวนอไู ด้ใช้ง้าวฟันนายทัพโจรผู้คุมกองกาลังจนลาตัวขาดกระเด็นสองท่อน พวกโจรท้ังหมดเสียขวัญพากัน แตกหนกี ระเจดิ กระเจิง ด้วยชยั ชนะอนั ราวกับปาฏิหารย์ของท้ังสามพี่น้องร่วมสาบาน ทาให้ชื่อเสียงลือไปทวั่ หวั เมือง ข้างเคียง ครั้นเมืองใดได้รับอนั ตราย เพราะพวกโจรโพกผา้ เหลืองทีก่ ระจายกนั ออกไปปล้น ก็จะเชิญกอง กาลงั อาสานีไ้ ปช่วยปราบ เป็นเวลาหลายปีที่ต้องกราศกึ เพื่อบาบดั ทกุ ข์ปดั เป่าเภทภยั แก่เหลา่ ทวยราษฎร์ บางคราวต้อง ผจญความทุกข์ลาบากแสนเขญ็ แต่เมอ่ื ใดทีไ่ ด้อยู่ด้วยกนั พร้อมหน้า ท้ังสามพี่น้องจะร่วมกินข้าวโต๊ะ เดียวกัน นอนเตียงเสมอกนั และในยามทีต่ ้องพลดั พรากจากกันไกล กย็ ังสง่ ใจหว่ งหายิ่งกว่าพี่น้องร่วม สายโลหิต ต่างไม่เคยลืมคาสตั ย์สาบานทีม่ ตี ่อกันเลยจนช่วั ชีวิต คุณธรรม มั่น คง ครั้งทีท่ รราชย์โจโฉยกทพั มาทาศึกกบั เล่าปี่ ด้วยกาลังที่ เหนอื กว่าจึงตที พั เล่าปี่แตกพ่าย ทหารส่วนใหญ่ถูกจบั ไปเปน็ เชลย เล่า ปี่ตอ้ งหนีไปต้ังหลักใหม่ ข้างเตียวหุยแตกขบวนทพั แยกไปอยู่บนเขา ส่วนท่านกวนอูนั้นคุ้มกนั ท่านฮูหยินภรรยาและบตุ รของเล่าปี่อยู่อกี เมืองหน่งึ เมือ่ โจโฉบกุ มาถึง ได้ใชแ้ ผนล่อเสือออกจากถ้า แล้วยกทัพ เข้ายึดเมือง พร้อมกับสง่ั ทหารเผาเมืองทนั ที ท่านกวนอูเวลาน้ันตกอยู่ ในวงลอ้ มของทหารโจโฉบนเนินเขานอกกาแพงเมอื ง เห็นไฟลกุ ไหม้ทวั่ เมืองเป็นหว่ งพี่สะใภ้และหลานยิง่ นัก ตลอดทั้งคืนพยายามตีฝา่ วงล้อม ทีห่ นาแน่นออกไป แต่จนกระท่งั สว่างก็ยังหาทางหลุดออกไปไม่ได้ โจโฉ มหาอามาตย์ชั่วคิดจะเป็นเจ้าครองแผ่นดิน เคยเห็นฝีมอื ท่านกวนอมู าแล้ว และอยากได้มาเป็นกาลงั จงึ สง่ จางเหลียวมาเจรจาเกลีย้ กล่อมโดยแจ้งว่าใหเ้ ข้ามาสวามิภักดิ์เสียโดยดี เพราะว่าภรรยาและบตุ รของ เล่าปี่เวลาน้ที ่านโจโฉใหท้ หารคุ้มกันดแู ลปลอดภยั ดี ท่านกวนอูโกรธยิ่งนกั แตจ่ างเหลียวกลับหวั เราะ แล้วกล่าวท้วงติงว่า \"ถ้าท่านจะดึงดันร้ันสู้รบต่อไป ถึงตายกย็ ังมีโทษติดตัวไป 3 ประการ... ข้อที่หน่งึ ท่านเป็นพีน่ อ้ งรว่ มสาบานของเล่าปี่ มาบัดนีพ้ ีข่ องท่านแตกทพั ไปแล้ว ถ้าท่านสู้รบจนตัว ตาย ภายหน้าเล่าปี่ตั้งหลักได้กลบั มาหาท่านแตท่ ่านกลับด่วนตายไปเสียก่อน จะพบหนา้ กันได้อย่างไร ?
ข้อทีส่ อง เล่าปี่มอบหมายหน้าทีไ่ ห้ท่านรับผดิ ชอบครอบครวั หากวันนที้ ่านสู้จนตวั ตาย ใครเล่าจะ ดแู ลครอบครวั ของเล่าปี่ตอ่ ไป ? ข้อที่สาม ท่านมคี วามสามารถท้ังบุ๋นและบู๊ น่าจะถนอมชีวิตไว้ช่วยเล่าปี่ พิทักษ์ราชวงศฮ์ นั่ ต่อไป มี แตค่ วามกล้าไม่กลวั ตายเช่นนจี้ ะมีคาอะไร มิสู้รกั ษาตัวรอดไว้เพือ่ ประกอบคณุ ปู การในวันข้างหนา้ มิดกี ว่า หรอื ?\" ท่านกวนอฟู ังแลว้ ก็เหน็ จริงตามคากล่าว แตห่ ากจะให้สวามิภักดิไ์ ปอยู่กบั โจโฉ กต็ ้องอยู่ภายใต้ เง่ือนไข 3 ข้อ คือ \"1. ต้องถือว่าเปน็ การสวามิภกั ดิต์ อ่ พระเจ้าเหี้ยนเต้ แห่งราชวงศฮ์ ั่น มิใช่ต่อโจโฉผู้เป็นอามาตย์ 2. ครอบครวั ของ เล่าปี่พี่ชาย จะต้องได้รบั การปฏิบตั ิอย่างสมเกียรติ สมศกั ดิศ์ รึ ผใู้ ดจะล่วงลา้ กร้ากรายเข้าไปรบกวนไม่ได้โดยเด็ดขาด 3. หากภายหน้า...... วันใดทีร่ ขู้ ่าวว่าพี่ชายอยู่หนใด โจโฉต้อง ยินยอมให้ไปหาได้ในทนั ทึ ถ้าโจโฉยินยอมทาตามเง่อื นไขทั้ง 3 นี้ ก็จะยอมอยู้ดว้ ย\" เมื่อฑูตจางเหลียวนาความไปแจ้งต่อโจโฉ โจโฉท้ังลงั เลและหนกั ใจอยู่ไม่น้อย แตจ่ างเหลียวกแ็ นะ ว่า \" ความจริงเรอ่ื งนี้ไม่น่าหนกั ใจเลย ท่านกใ็ ช่วา่ จะด้อยกว่าเล่าปี่ ทากต่อไปท่านมหาอามาตย์ ปฎิบัติตอ่ เขาอย่างดีเลิศ กวนอูต้องซาบซึง้ น้าใจไมตรีเปน็ แน่แท้\" โจโฉได้ฟังจางเหลียวช้ีแจงเช่นนั้นกเ็ ข้าใจ จงึ ตกปากรับคาทันที ฝา่ ยท่านกวนอพู ร้อมด้วยภรยิ าและบุตรของเล่าปี่เม่อื ตกอยู่ใน เอือ้ มมอื ของโจโฉแล้ว โจโฉก็ พยายามทาดีต่อท่านกวนอูสารพัด ท้ังมอบ ข้าวของเงินทอง ผา้ แพรต่วน ขนสตั ว์ เป็นบาเหนจ็ รางวลั มากมาย ตลอดเวลาโจโฉยงั ปฏิบัติตอ่ ท่านกวนอเู สมึอนเปน็ อาคันตุกะสาคัญ โดยทกุ สามวนั กินโต๊ะหนหนึ่ง ทุกห้าวันจัดเลี้ยงใหญ่หนหนึง่ ดว้ ยหมายจะโน้มน้าว จิตใจท่านกวนอใู ห้ผูกพันหันเหและตีตวั ออกห่างจาก เล่าปี่ แตท่ ว่าท่านกวนอู กลับปฎิบตั ิตอบอย่างเยน็ ชา ทุกเวลามสี ติสารวม ไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกบั อามิส สินจ้างรางวลั ใด ๆ เมือ่ ทาดไี ม่เปน็ ผล โจโฉจงึ เปลี่ยนมาใช้เล่หเ์ พทบุ าย โดยฉวยโอกาส ในระหว่างการรอนแรม เดินทัพ เพือ่ ให้น้าใจของท่านกวนอแู ปรเปลีย่ นจาก เล่าปี่ เมือ่ หยดุ เดินทัพตาบลใด.... พอตกค่าก็จดั ให้ท่าน กวนอกู ับภรรยา เล่าปี่อยู่รว่ มกระโจมเดียวกนั เนื่องจากโจโฉคาดการณว์ ่าอารมณ์แหง่ ชายหญิงงามอยู่ ใกล้ชิด เสมือนน้ามนั กบั เช้ือไฟพร้อมทีป่ ะทุลุกโชนด้วยเรือ่ ง ทีไ่ ม่งาม นบั เป็นเล่หก์ ลหมายเปิดช่องให้ท่าน กวนอคู ิดล่วงเกินพีส่ ะใภ้ จะได้ เสียน้าใจจนถึงข้ันแตกหักกับเล่าปี่ แตก่ ารณก์ ลับผิดคาด..... เพราะท่านกวนอูออกมายืนอยู่หน้ากระโจม พร้อมมือกมุ ง้าวมังกรไวมั ั่น ไม่ว่าพายุทรายจะซดั สาดหรอื อากาศจะหนาวเหน็บ จนหมิ ะกองท่วมเท้า ท่านกย็ ังคงยืนเปน็ ยาม
รกั ษาการณอ์ ย่างสงบนิ่งโดยไม่ ไหวติงไม่ขยบั เขยอี้ นแม้แต่นอ้ ย เป็นเชน่ นตี้ ลอดทั้งคนื จนฟ้าสาง ทกุ ๆ วัน เหตกุ ารณด์ ังกล่าวถกู รายงานให้โจโฉทราบอย่างละเอียดโดยเหล่า ทหารที่พลดั เปลีย่ นเวรยามมาเฝ้า สงั เกตไม่ขาดระยะ ถึงกระน้ันโจโฉกย็ งั ไม่เลิกล้มเล่หเ์ พทบุ าย ในคราวทีย่ ึดหมู่บ้านใดทีพ่ อให้พักทพั ได้ ก็สั่ง การให้ ภรรยาของเล่าปี่ไปพกั รวมหอ้ งเดียวกับท่านกวนอู แต่จติ ใจท่ำนกวนอกู ย็ งั หนกั แน่นมั่นคงดุจขนุ เขำ ท่ำนกลบั จดุ เทียน นง่ั อ่ำนหนังสือชุนชิว เฝำ้ อยนู่ อกประตูตำมลำพงั ตลอดคนื จนสว่ำงคำตำ โดยมิได้มีอำกำรอิดโรยถอยกำลงั ปรำกฎให้ เหน็ แมแ้ ตน่ อ้ ย กำรเคำรพ ให้เกียรติพส่ี ะใภ้ ไม่เห็นแก่นอน เป็นกำรปิดชอ่ งทำงมิใหเ้ กิดข้อครหำ นินทำ อีกท้ังคอยพิทักษ์ปกปอ้ งใหอ้ บอนุ่ ใจ คณุ ธรรมอนั งดงำมและ มน่ั คงดังนี้ถูกจำรกึ ไว้ใน ภำพวำดและรูปสลกั ใหเ้ รำไดพ้ บเห็นตรำบจนทกุ วันนี้ จวบจนกระทงั่ ถึงเมอื ง ฮโู ต๋ โจโฉได้มอบคฤหาสน์หลังใหญ่ให้โดยมี เรือนพัก 2 หลงั ตรงกลาง เป็นชานรบั รอง ท่านกวนอูพานกั อยู่หลังนอก ใหพ้ ีส่ ะใภอ้ ยู่หลังใน....ทกุ ๆ 3 วนั ท่านกวนอจู ึงเข้าเยีย่ ม พี่สะใภ้ครั้งหน่งึ โดยทุกคร้ังท่านจะน่งั ถามทกุ ข์สขุ เพียงแค่นอกประตู ไม่เคยกร้ากรายเข้า ข้างในเลยเรือ่ งน้ี ทาให้โจโฉรู้สึกท้อใจยิ่งนกั แตถ่ ึงอย่างไรกต็ าม เพอื่ เป็นการเอาใจ.... โจโฉยังสั่งให้จัดหาคณะ มโหรีมาบรรเลงขับกล่อมทกุ วัน ทว่ากวนอกู ็มิได้ชื่นชอบติดใจแตอ่ ย่างใด ยิง่ กว่านั้น โจโฉ ยังส่งสาวงามสิบกว่านางไปมอบเปน็ กานัล แต่ ท่านกวนอู กลับส่งั หญิงทั้งหมดให้ไปเปน็ สาวใชค้ อยปรนนิบัติดแู ลพีส่ ะใภ้ โดยไม่ให้ เหลอื ไว้ขา้ งกายแม้แต่ นางเดียว ซือ่ สัตยภ์ กั ดี มเิ สื่อมคลำย วันหนง่ึ ในงานรว่ มวงกินเลี้ยง โจโฉเหลอื บเหน็ เสื้อผ้าที่ท่านกวนอสู วม ไส่อยู่ดเู ก่าคร่าคร่าเพราะ กราศกึ ผ่านสนามรบมาโชกโชน จึงส่งั เจ้าหน้าที่ นาชุดใหมท่ ี่ตดั ดว้ ยผ้าแพรพรรณอย่างดมี ามอบให้ ท่าน กวนอรู ับไว้โดยสวม ใส่ชั้นใน แล้วใช้ชุดตัวเก่าคร่าคร่าสวมทับไว้ช้ันนอก โจโฉเห็นเช่นนนั้ รสู้ ึก ฉงนสงสัย จงึ ถามว่า \"ทำไมทำ่ นถึงได้ประหยดั ปำนนึ้ ?\" ท่านกวนอูก็ตอบตามประสาซือ่ ว่า \"มิใช่ เรือ่ งประหยดั หรอก แต่เปน็ เพรำะเสือ้ เก่ำชดุ นี้พเ่ี ลำ่ ปีเ่ ปน็ ผ้ใู ห้ เสื้ออยู่ก็เหมือนยงั ได้ ดูต่ำงหน้ำ ของใหม่แม้จะดีเลิศเพียงไร...ข้ำก็ มิอำจลืมเกำ่ เพรำะไดใ้ หม่ \" โจโฉได้ฟังแล้ว ก็รู้สึกท้อแท้ ที่ไม่อาจเอาชนะใจท่านกวนอไู ด้ ในวัน ตอ่ มา โจโฉ สังเกตุเหน็ มา้ ของท่านกวนอซู บู ผอมจนน่าเวทนา จงึ สัง่ ให้คน รับใช้นาม้าเซ็กเธายึดมาจากลิโป้เพื่อมอบให้ ท่านกวนอูดีใจมากถึงกับ คุกเข่าลงขอบคุณถึงสามครั้ง ปากก็พรา่ กล่าวขอบคุณซ้าแล้วซ้าอีกจนโจโฉ แปลกใจมาก จึงเอ่ยถามว่า
\" ถ้ำเคยมอบสำวงำม เพชรนิลจินดำ ท้งั ข้ำวของเงินทองใหต้ ัง้ มำกมำย ทำ่ นไม่เคยสนใจ ใยดีจะรบั ไว้ ไฉนวันนึไ้ ดใ้ ห้เจ้ำสัตว์เดรัจฉำน เพียงตัวเดียว กลบั ขอบใจถึงปำนนี้ ?\" ท่านกวนอูตอบออกมาจากใจจรงิ ว่า \" เพรำะข้ำรูจ้ กั ม้ำเซ็กเธำดี......... แตก่ อ่ นเคยเปน็ มำ้ คู่กำยลิโป้ สำมำรถวิ่งได้ไกลพันลี้ไม่ เคยเหนือ่ ย สกั วนั หนึ่งขำ้ งหน้ำหำกทรำบว่ำ พีเ่ ลำปีอ่ ย่ทู ่ใี ด ขำ้ จะได้อำศัยมันพำไปพบหนำ้ ท่ำนพ่ใี น ชั่ววนั เดืยว\" คาตอบของท่านกวนอู ทาเอาโจโฉน้อยไจ และบ่นกบั จางเหลียวว่า ตนได้พยายามทาทกุ วิถีทาง แล้ว กย็ งั ไม่สามารถมัดใจท่านกวนอูไว้ได้ ทกุ ลมหายใจเข้าออกเฝัาแตค่ ิดจะกลับไปพบหนา้ พีช่ าย เมึอ่ จางเหลียวนาความในใจของโจโฉไปเล่า ทานองยกเอาบญุ คุณ ขึน้ มาอัางบ้าง ท่านกวนอูได้กล่าวรบั ด้วยน้าใจกว้างขวาง และเปิดเผยว่า \"อนั ท่จี รงิ โจโฉก็มีน้ำใจต่อเรำมำก แตค่ วำมจงรักภกั ดีย่อม เหนือกวำ่ อยำ่ งไรก็ตำม ลูกผชู้ ำยไม่ลืมบญุ คุณใครง่ำย ๆ จะตอ้ งหำ โอกำสทดแทนให้จงได้\" และสจั จะวาจานี้ก็ได้เปน็ ทีป่ ระจักษ์ เพราะทุกครั้งที่โจโฉพ่ายแพ้ ถึงคราวคับขนั ท่านกวนอูจะไว้ ชีวติ แลว้ ปล่อยให้ โจโฉ หนีรอดไปทุกที กาลต่อมาเมื่อท่านกวนอลู ่วงรู้ถึงที่พานักของเล่าปี่ พี่รว่ มสาบาน ก็รีบไปลาโจโฉ แต่โจโฉทราบ ก่อนหนา้ แล้วจึงแสรง้ ทาเป็นป่วยไม่รบั แขก ท่านกวนอไู ปขอเข้าพบอยู่หลายครั้งกถ็ กู บ่ายเบีย่ ง ทาให้รแู้ น่แก่ ใจว่าโจโฉ ไม่ รกั ษา สจั จะ ท่านกวนอูจงึ มิรีรออีกต่อไป รบี กลับไปเตรียมกาลโดยรวบรวมของ กานลั ที่โจโฉเคยมอบให้ ท้ังหมด ใส่ลงในหบี โหญ่ปิดผนึกอย่างแน่นหนา แล้ว นาไปวางคืนไว้ให้โจโฉในทีอ่ นั ควร พร้อมท้ังตราประจา ตาแหน่งก็แขวนไวั ให้เห็น ทุกสิง่ ทกุ อย่างที่โจโฉใหท้ ่านกวนอูมไิ ด้นาติดตวั ไปเลย นอกเสียจาก ม้าเชก็ เธา เพียงตวั เดียวเท่านั้น เมือ่ เชิญพีส่ ะใภ้ออกเดินทาง กาลังจะจากไป โจโฉทราบเรื่องก็โกรธ หนกั ส่งั ใหท้ ุกด่าน เตรียมพร้อมสกัดกั้นไม่ใหท้ ่านไปได้ ทว่า....นายด่าน ท้ังหลายหรือจะ รบั มือไหว ท่านกวนอูตะลุยฝา่ ไป 5 ด่าน ได้สงั หารผอู้ คุม ดา่ นไปถึง 6 นาย โจโฉเหน็ ท่าไม่ดีจึงส่งั การให้ม้าเร็วเร่งนาใบเบิกทางไปมอบใท้ท่าน กวนอู ท้ังนีเ้ พึอ่ หวังบุญคณุ ไว้ วันหนา้ อนั เป็นนิสัยเจ้าเล่ห์ของโจโฉนั่นเอง
รับจวิ ฉองเปน็ ผูถ้ ือง้ำวมังกรฯ หลังจากที่ท่านกวนอูได้ปกป้องคุ้มกนั พี่สะใภ้ ให้รอดพ้น อันตราย ทั้ง 5 ด่านมาได้ กระ ทงั่ ลถุ ึงยังภูเขาโงจิวสนั พบฝงู ม้า และคนกลุ่มหน่งึ ในจานวนน้ันมีชายผทู้ นึ่ง ร่างกายกายาสูงใหญ่ ผวิ หน้าดาคล้า หนวดเครา หงิกงอข้ึนรกปรกคางจบถึงต่างหู ขม่ี ้า ถือทวน ท่วงท่าสง่าองอาจ เขาคอื \" จิวฉอง\" เปน็ ชาวเมืองกวางสี จวิ ฉองผู้น้ีเป็นจอมพลัง สองแขนกายาแข็งแรงมาก สามารถยก ของ หนักได้ถึง 1000 ชั่ง ในอดีตเคยเปน็ ขุนพลแหง่ กองโจรโพก ผา้ เหลือง ซึ่งต่อมากองโจรพ่ายแพ้เหล่าทหาร จึงแตกกระเจงิ แยกไปคนละทิศละท าง ส่วนใหญ่ ระเห เร่รอ่ นไปตามยถากรรม ตวั จวิ ฉองเอง ได้ยินกิตติศัพท์อันเลื่องลือระบือไกลของท่านกวนอมู า นานแลว้ คราวนีไ้ ด้พบเข้า จรงิ ๆ ความรสู้ ึกมีท้ังดีใจ ทั้งพร่นั พรึงหวาดเกรง จึงรีบลงจากหลังม้าทรุดตวั ลงคานบั พร้อมกับแจ้งว่า \"ข้าน้อยได้ยินช่อื เสียงอนั เกรึยงไกรของท่านขุนพลมาช้านาน ไม่นกึ เลยว่าจะมีบุญวาสนาได้พบจริง ๆ วนั นี้ หากท่านขุนพลไม่รังเกียจ ที่ข้าน้อยต่าต้อยด้อยค่า ข้าน้อยขอน้อมอาสาเปน็ ข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ จงรัก ภ้กดี จะขอติดตามท่านขนุ พลไปทกุ หนทุกแห่ง แมต้ ายกไ็ ม่หวน่ั \" ท่านกวนอูเห็นท่าทีอนั สัตย์ซือ่ และวาจาทีจ่ ริงใจ จงึ รับไว้เป็นผู้ตดิ ตาม โดยมอบหมายใหเ้ ป็น นายทหารคนสนิท มีหนา้ ที่ถืองา้ วมงั กร ซึง่ หนกั ถึง 82 ชง่ั ตั้งแต่บดั น้ัน. รบั กวนเป๋งเปน็ ลูกบญุ ธรรม ระหว่างการเดินทางจะไปพบเล่าปี่พี่ชายร่วมสาบาน ท่านกวนอไู ด้หยดุ พกั ที่บ้านหลังหนึง่ ชายชราเจ้าของ บ้านชื่อ กวนติง้ พอทราบข่าวว่าท่านกวนอจู ะมาขออาศัยพกั ค้างคนื จงึ รบี ถ่อไม้เท้ายันกายออกมาต้อนรับ ถีงหนา้ ลานบ้าน ผเู้ ฒ่ากวนติ้ง มบี ุตรชาย 2 คน คนโตชอ่ื กวนหนงิ มีนิสยั ชอบเล่าเรียนเขียนอ่าน สว่ นน้องชื่อ กวน เป๋ง กลับมีนิสยั ชอบการต่อสู้ผู้เฒ่าเจ้าของบ้านจึงเรียกลูกชายทั้งสองใหเ้ ข้ามากราบคานบั ท่านกวนอพู ร้อม กับกล่าวขีน้ ว่า \"ข้ำพเจำ้ คดิ อย่เู สมอว่ำอยำกใหก้ วนเปง๋ ลูกชำยคนเลก็ ซึ่งชอบกำรต่อสู้ ได้มีโอกำส ติดตำมรับใชท้ ่ำนขุนพล ไมท่ รำบว่ำท่ำนขุนพลจะกรณุ ำเห็นเปน็ ประกำรใด \" ท่านกวนอจู งึ ถามว่า \"ปีน้ีกวนเป๋งอายุเท่าไหร่ ?\" กวนตงิ้ ผู้เป็นบิดาตอบว่า \" ๑๘ ปีเต็มพอดี\" ท่านกวนอูจงึ กล่าวว่า \" ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ในเมือ่ ท่านผเู้ ฒ่ามีความต้ังใจเช่นนี้ ประกอบกับตัวข้าไม่มลี กู ข้ากจ็ ะรบั กวน
เป๋งไว้เป็นลูกบญุ ธรรมกแ็ ล้วกัน\" กวนเป๋งได้ยินดงั นั้นรู้สกึ ดีใจเปน็ ล้นพน้ รีบเข้าไปก้มกราบคารวะท่านกวนอู พรอ้ มกบั เรียกขาน \"ท่านพ่อ\" อย่างสนิทใจ จากน้ัน กวนเป๋งได้ตดิ ตามท่านกวนอูไปตามหาเล่าปี่ เม่อื ได้พบกันแลว้ จึงหวนกลบั มาหาเตียวหยุ ดังนนั้ สามสิงหพ์ ี่นอ้ งจงึ ได้อยู่พร้อมหน้ากนั อีกคร้ัง บุกถ้ำเสือด้วยงำ้ วมังกรฯเลม่ เดียว ในอดีตเล่าปี่เคยขอยืมเมอื งเกงจวิ๋ จากชุนกวน เพื่อใชเ้ ป็นฐานในการทาศกึ ต้านโจโฉ บดั นีซ้ นุ กวน ต้องการจะทวงคืน แต่ท่านกวนอูผู้ได้รบั มอบหมายใหร้ ักษาเมืองเกงจวิ๋ ไม่ยอม ซุนกวนจงึ วางอบุ ายใหโ้ ลซก ขนุ นางตาแหนง่ สมุหกลาโหมนากองกาลงั ไปตั้งยังปากลาน้าลกเค้า แล้วสง่ เทียบเชญิ ท่านกวนอไู ปงานเลี้ยง ทีค่ ่าย ขณะเดียวกนั กว็ างแผนให้มอื เพชรฆาตจานวน 50คน คอยซุ่มอยู่รอบ ๆ บริเวณงานเลี้ยง เตรียมพร้อมจะสังหารท่านกวนอู ทางฝ่ายกวนเป๋งลูกบุญธรรม และนายทหารทั้งหลายทราบข่าวการเชญิ ก็รู้สกึ หวาดหวั่นใจ ด้วย เห็นชัดว่าฝ่ายนั้นตอ้ งมอี ุบายแฝงอยู่อย่างแน่นอนจึงพยายามทดั ทานขอร้องมิใช่ท่านกวนอเู ดินทางไปร่วม แตท่ ่านกวนอกู ลับหวั เราะและบอกกบั ทุกคนว่า \" ขำ้ ทรำบดีว่ำเป็นเลห่ ก์ ลอุบำยของซุนกวน แต่หำกไมไ่ ปชำวเมืองกังตั๋งจะหมิ่นว่ำเรำ กลวั \" ดงั นนั้ ท่านกวนอู จงึ ออกเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงตามคาเชญิ แต่ทว่าการน้ีให้ใช้เรอื เลก็ เพียงลา เดียว ซึ่งใชฝ้ พี าย ๒๐ นาย และให้จวิ ฉองนายทหารคนสนิทถือง้าวมังกรฯ รว่ มมาด้วยเท่านั้น เมื่อเรอื แล่นข้ามฟากไปจวนถึง เตรียมชะลอเข้าเทึยบท่า โลซกรีบขมีขมนั ออกมารอรับด้วยความ ลิงโลดใจ ต่อเม่อื ได้ยืนประจันหน้าท่านกวนอูขวญั กาลังใจของโลซกถึงกบั หดหายดับวูบลงทนั ที ทั้งนเี้ พราะ ....ดว้ ยท่วงท่าอนั องอาจสง่างามผสมกับเปน็ จอมทัพ ยิ่งกว่าน้ันท่านกวนอูแต่งกายราวกบั จะเย้ยคม ศาสตราวธุ ของชาวกังตั๋ง ไม่มเี กราะป้องกันตัวแม้สกั ช้ินสวมไส่แต่เส้ือแพรสีมว่ งโพกศรษี ะด้วยผ้าสีขาว จะ มีขนุ พลคนใดกล้าเหยียบย่างเข้ามาในดินแดนที่ภยันตรายท้ังหลายพร้อมจะจโู่ จมบดขยี้เช่นน้ี โลซกทาใจอยู่สักพกั แล้วจงึ ก้าวเข้าไปคานับกล่าวทกั ทายตามธรรมเนียม จากน้ันท่านกวนอูกเ็ ดิน เข้าสู่ค่ายของโลซกอย่างไม่สะทกสะท้าน ระหว่างรบั ประทานอาหารเลี้ยง ท่านกวนอูยงั คงสงบสารวม กระ ท่ังเมื่อโลซกดืม่ เหล้าจนหนา้ ตึง ได้ที่ จึงเอ่ยปากเจรจาความทีเ่ ตรยี มไว้ว่า \" เดิมทที ำ่ นเลำ่ ปีเ่ คยบอกว่ำ ขอยืมเมืองเกงจิ๋วเปน็ กำรชั่วครำวเมือ่ ยึดเมืองเสฉวนไดจ้ ะ
คนื ให้ บดั นีพ้ วกทำ่ นก็ยึดเสฉวนได้ตง้ั นำนแลว้ แตไ่ ฉนยังไม่ยอมคืนเกงจว๋ิ ให้แควน้ หวู เชน่ นี้ไม่เป็น กำรเสียสัตยว์ ำจำดอกหรือ ?\" ท่านกวนอจู งึ บอกปัดไปว่า \"ท่ำนสง่ เทียบเชิญเรำให้มำกินเลี้ยง แต่กลับเอำเรอ่ื งกำรเมือง มำเจรจำ จนทำให้เสีย บรรยำกำศ ยอ่ มเป็นกำรไมเ่ หมำะสม \" โลซกไม่ยอมออ่ นข้อรีบกล่าวต่อไปว่า \" เดิมนนั้ ท่านเล่าปี่เคยเอ่ยปากว่าจะแบ่งเมืองเสฉวน เลงเหลง และฮุยเฮี๋ยงให้ แตท่ ่านก็ไม่ ยินยอม ไม่ไร้เหตุผลไปหนอ่ ยหรือ ?\" ท่านกวนอเู หน็ โลชกรกุ เร้าไม่ยอมเลิกจงึ โต้กลับทันทีว่า \"พวกเรำพำกนั เสีย่ งเปน็ เสีย่ งตำย ทุ่มชวี ิตทำศึกโดยไม่มีหวังจะได้แมท้ ีด่ นิ เพียงคบื เพียง ศอก ตอบแทนเปน็ บำเหน็จรำงวลั ควำม เหนื่อยยำกเลยกระนน้ั หรอื ? ทข่ี ้ำอตุ สำ่ หถ์ ่อรำ่ งข้ำมน้ำ มำรว่ มงำนใน วน้ นี้ ก็เพื่อจะทวงถำมเอำบำเหน็จรำงวัลแผน่ ดินเหลำ่ นึ้แหละ ! \" ท่านกวนอูกับโลซกปะทะคารมกันอยู่นานพอดู จนจวิ ฉองทนเฉย อยู่ไม่ได้ จงึ ออกปากแสดงความ คิดเห็นขนึ้ มาบ้าง ท่านกวนอูกแ็ สร้งทาเปน็ โกรธจิวฉองว่า ช่างไรมั ารยาททีส่ อดเรึ่องของผใู้ หญ่ ว่าแล้ว ท่านกวนอูจงึ ทาที เข้าไปแย่งเอาง้าวทีจ่ ิวฉองประคองอยู่มาถือไว้เสียเอง พร้อมกับไล่จิวฉอง ออกไปข้าง นอก ท้ังนีก้ ็เพือ่ ให้จิวฉองออกไปส่งสัญญานเรียกเรือกลับมารบั ทกุ อย่างลว้ นเปน็ ไปตามอุบายทีไ่ ด้ซักซ้อม กนั ไว้แลว้ บัดนีท้ ่านกวนอตู กอยู่ท่ามกลางวงลอ้ มของผู้ปองรา้ ยแต่เพียงลาพัง ทว่าก็หาได้หวาดหวนั่ แต่ อย่างใดไม่ ทั้งนีก้ ็เพราะมนั่ ใจในเพือ่ นแท้คู่กายตน คอื ง้าวมังกรฯหนัก ๘๒ ช่ังน่ันเอง ขณะน้ันท่านกวนอู แสรง้ ทาเปน็ เมา มอื ขวาสบัดงา้ วฉวดั เฉวียน สว่ นมือซ้ายก็ฉวยแขนโลซกมาคล้องไว้แน่น แล้ว บอก วา่ \" วนั นี้เรำมำกินเลีย้ ง อยำกคุยเร่อื งเกงจว๋ิ กันเลย ไวโ้ อกำสหนำ้ เมื่อท่ำนได้เป็นแขกของ ข้ำท่เี กงจว๋ิ ค่อยพูดกนั ใหมน่ ะ\" ว่าแล้วก็ฉุดเอาตัวโลซกออกจากกระโจมค่ายงานเลี้ยง ประหนึง่ ว่า ชวนให้มาส่งรมิ ท่านาด้วยกัน เวลานั้นบรรดามอื เพซรฆาตทีแ่ อบซุ่มรอคอย จังหวะว่า เมอ่ื ใดทีโ่ ลซกทิงจอกเหล้า น่นั คอื สัญญาณส่งให้ ลงมอื ก็จะกรูกัน ออกมาสงั หารท่านกวนอูทนั ที แตเ่ หตกุ ารณ์ไม่ได้เปน็ ไปตามแผน ตวั โลซกเองได้แตท่ าตาปริบ ๆ จับจอกเหล้าไว้แน่นไมก่ ล้าให้ หลดุ มอื เพราะแม้ชีวติ ของตนกแ็ ขวนอยู่บน เส้นด้าย ไม่อาจรไู้ ด้ว่าจะถกู ปลิดออกจากร่างในวินาทีใด เมือ่ ถูกทั้งกึ่งลากกึง่ ฉดุ มาถึงรมิ ตลิ่ง พอดีเรอื ทีจ่ ิวฉองออกไปเรียก มาถึง ท่านกวนอจู งึ ปล่อยมือที่คล้อง แขนจบั โลซกไว้ แล้วก้าวลงเรอื พร้อม กบั กล่าวว่า
\"ขอบใจท่ีท่ำนโลซกมำส่ง...... ขอให้อยู่ดีเถิด \" เมือ่ ทหารชักใบเรือข้ึน เรือลาน้อยแลน่ ละล่วิ ไปกบั กระแสนา้ ขณะที่ ท่านกวนอูยงั คงยืนโบกมือ อาลาโลซกอยู่ ณ หวั เรือนน่ั เอง บทลำนำ \"ลอ่ งสำยน้ำ \" ลมโบกโชย...... สายน้าพรพู ร้อย ส่งเรือนอ้ ยแล่นทะยาน คลื่นครนื คราน ฤๅเทียบหวั ใจองอาจ ถ้าเสอื บึงมงั กร ไม่เคยพรั่น ทวนกระบี่ ข้าฝ่าฟัน มาเท่าใด หาใช่จมหาย ไปในหมู่วรี บุรุษ แตเ่ ด่นสดุ ...... จารึกจดจาร สัตย์ซื่อถอื คณุ ธรรม ใจไม่ไหวหว่นั หนกั แนน่ ปานไท่ซานภผู าใหญ่ จงรักภกั ดีไม่คลอนคลาย ถึงตัวตายใจไม่สะเทือน คาสาบานสวนท้อ...... พน่ี ้องคล้องใจ มน่ั คงประหนง่ึ ภูผามหาสมุทร งา้ วนิลมังกรจันทร์ฉงาย...... งา้ วนิลมังกรจนั ทร์ฉงาย...... ของคู่กายชีวาข้า...... ปฎิเสธเกีย่ วดองกบั ซนุ กวน เมื่อเล่าปี่สถาปนาตนขนึ้ เปน็ \"เจ้าแห่งฮันต๋ง\" ได้แต่งต้ัง ท่านกวนอู เป็นแมท่ ัพหน้า ตาแหน่ง \"ขุนพลหา้ ดาว\" ซึ่งหากจะ กล่าวถึงชือ่ เสียง ท่านกวนอูในเรอ่ื งความกล้าหาญเยี่ยมยทุ ธและ ซื่อสตั ย์ภักดี มิใช่หอมหวล เฉพาะ โจโฉ เท่านั้น แต่ยังเปน็ ทีช่ ืน่ ชอบของ ซนุ กวน เจา้ แหง่ แคว้นหวูอีกด้วย เมือ่ ได้ทราบว่ากวนอูมี บตุ รซี ึ่งยังมิได้ออกเรือน จงึ แตง่ ตง้ั ให้ จกู ัดกิ๋น เป็น พ่อสื่อมาที่ เมืองเกงจวิ๋ ทั้งนีซ้ นุ กวนก็หมายใจว่า จกู ดั กิน๋ ผนู้ ีเ้ ป็นพี่ชายของ
ท่านขงเบ้งผู้ดารงตาแหน่งอัครเสนาบดี ที่ปรึกษาของเล่าปี่ คงจะสามารถ เกลี้ยกล่อมใหท้ ่านกวนอเู ข้า เกี่ยวข้องกับตนได้สาเรจ็ เมือ่ จูกัดกิ๋นมาถึง ท่านกวนอูได้ถามขนึ้ ว่า \" ท่ำนเดินทำงมำ มีกิจ ธรุ ะประกำรใดหรอื ?\" จู กัดกิ๋นตอบว่า \" กำรมำของข้ำพเจำ้ คร้ังนี้ เพือ่ สมำนฉันทใ์ ห้สองตระกูลญำติดี ตอ่ กัน ทำ่ นซุนกวน นำย ขำ้ ฯ มีลกู ชำยคนหนึ่ง มีควำมเฉลียวฉลำดยิ่ง ไดข้ ่ำวว่ำท่ำนขนุ พลมีลกู สำวคนหนึง่ จงึ ใคร่มำขอเกึ่ ยวดองเปน็ ทอง แผน่ เดึยวกนั จะไดร้ ว่ มแรงแข็งขัน ทำลำยล้ำงก๊กโจโฉ ให้ย่อยยบั ดบั สญู ไป \" ครั้นท่านกวนอไู ด้ฟงั เชน่ น้ัน รเู้ ล่ท์กลที่ชนุ กวนจะใช้การสมรสมาตี สนทิ กบั ตน อกี ท้ังเหน็ ว่าซุน กวนเป็นคนมกั ใหญ่ใฝส่ ูง จึงถึงกบั บันดาลโทสะ ตวาดใส่ทูตจูกดั กิน๋ ว่า \"พูดพล่อย ๆ ลูกสำวเรำจะให้ไปแต่งกับลูกสนุ ัขได้อย่ำงไร ? นึถ่ ำ้ ไม่เห็นแก่น้องชำยเจ้ำ ข้ำ จะกดุ หว้ เจ้ำท้งิ เสียเดี๋ยวนี้ !\" กล่าวจบกส็ ง่ั ทหารให้ขบั ไล่ออกไป จูกัดกิ๋นหัวซุกหัวซุนรบี กลบั ใป รายงานผู้เป็นนาย ซนุ กวนโกรธจัด ถึงกบั ตัดสินใจหันไปจบั มึอกบั โจโฉวางแผนเข้ายึด เมอื งเกงจวิ๋ ฮวั โต๋หมอเทวดำรักษำท่ำนกวนอู ครั้งหนง่ึ .... ในการปะทะกองทัพใหญ่ของโจโฉ โจหยินเป็นทพั ข้าศกึ ซึง่ ยืนอยู่บนกาแพงเมอื ง เห็นท่านกวนอสู วมเพียงเสือ้ เกราะแผ่น อกเท่านั้น จงึ ส่งั ให้พลธนูมือฉมัง ๕๐๐ นาย ระดมยิงเข้าใส่พรอ้ มกัน ท่านกวนอูเหลือบเหน็ กลุ่มลกู เกาทัณฑพ์ ุ่งมาที่ตนราวหา่ ฝน รับชักม้า กลบั แต่ไม่ทนั จึงถกู ลกู เกาทัณฑ์ อาบยาพิษดอกหนง่ึ ปักเข้าทีแ่ ขนขวา อย่างจัง จนพลัดตกจากหลังมา้ ข่าวท่านกวนอูถูกลกู เกาทัณฑอ์ าบยาพิษ ได้แพร่ออกไปอย่าง รวดเร็ว ไม่นาน....... ฮวั โต๋ผู้ซึง่ ไดัรบั สมญาวา่ หมอเทวดา จึงรบี รดุ มาขอ เยี่ยม เมอ่ื กวนเป๋งบุตรบุญธรรมนาหมอฮวั โต๋เข้าสู่กระโจมที่พกั คร้ันทา ความเคารพ และ ทักทายกันตามธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว หมอฮวั โต๋จึง ขอตรวจดูอาการ หลงั จากพิจารณาอย่างถีถ่ ้วนแลว้ สักครู่....... ทมอ เทวดาถึงกับถอน หายใจพร้อมกบั แจ้งว่า \"มนั เปน็ ลกู เกำทัณฑอ์ ำบยำพิษ บดั นึ้พิษร้ำยได้แทรกซึมเข้ำถึง กระดกู แล้ว หำกไม่รบี รักษำแขนขวำของท่ำนอำจตอ้ งตัดทิง้ \"
ท่านกวนอูจงึ ถามว่า \" ถ้าเช่นนน้ั .... จะมีวธิ ีใดรกั ษาได้บ้าง \" หมอฮวั โต๋ตอบว่า \" กำรรักษำ.... ต้องปกั เสำใหญ่ขึน้ ต้นหนึง่ นำปลอกเหล็กตอกติด กับตวั เสำ แลว้ เอำ แขนขวำทบ่ี ำดเจ็บสอดเข้ำไนปลอกพร้อมกบั ใช้ เชือกมัดมือตรงึ กับเสำไวใ้ หแ้ นน่ จำกนนั้ ใชม้ ีดกรีด ปำกแผลใหเ้ ปิดออก แล้วขูดเอำยำพิษในกระดูกออกมำดว้ ยมีดปลำยโคง้ เสร็จจึงป้ำยดว้ ย ตัวยำ แลว้ เย็บปิดปำกแผล ข้ำพเจ้ำหว่ันแต่วำ่ ทำ่ นแม่ทัพจะไมอ่ ำจ ทนไหว ดงั นน้ั จึงอยำกใหใ้ ช้ผ้ำปิดตำ ในระหว่ำงทำกำรรักษำ...... ทำ่ น แม่ทัพจะเห็นเปน็ ประกำรใด ?\" พอฟงั คาชีแ้ จงจบ ท่านกวนอูกลับหวั เราะแล้วตอบว่า \"ขำ้ ถอื วำ่ ควำมตำยเป็นเรื่องเลก็ เสมอมำ แลว้ ใยแค่กำรรักษำ ตอ้ งปักเสำเอำปลอกรัดมัด มือใหย้ ิง่ ยำก ข้ำยินยอมให้ทำ่ นหมอดำเนิน กำรได้ทกุ อย่ำงขอแต่เพียงอยำ่ ปิดตำหรอื รัดแขนมัดมือ เลย ข้ำอยำกดูว่ำ จะทนเจบ็ ไดส้ ักแคไ่ หน\" เมือ่ ท่านกวนอูยืนยนั เช่นนน้ั หมอฮัวโต๋จงลงมือทาการผ่าตดั โดยแหวก เนอึ้ เปิดปากแผลให้กว้าง แล้วใชม้ ีดขูดกระดกู เสียงคมมดี ทีข่ ดุ กระดูกดัง คร้ีด ๆ ๆ ทาเอาบรรดาขนุ ศกึ ที่ยืนดูการรกั ษามิอาจทนฟงั ได้ จงึ ต่างทยอย เลี่ยงออกไป แตต่ ลอดเวลาท่านกวนอกู ลับนงั่ จิบสุรา พลางเล่นหมากรุกกบั นายทหาร ลกู น้อง จนกระทง่ั ใส่ยา เย็บแผลเปน็ ทีเ่ รียบร้อย ท่านกวนอูลกุ ขึน้ ยืน พร้อมกบั ยืดแขนไปมาด้วยใบหนา้ ยิ้มแย้ม พลางกล่าวว่า \"แขนขา้ ข้างน้ีใช้การได้.....ไม่ปวดอีกแล้ว\" จากนั้นท่านกวนอูได้จัดโต๊ะเลี้ยงอาหาร เพื่อเป็นเกียรตอิ ย่างสงู แก่ หมอฮัวโต๋ พร้อมจัดเงิน 100 ตาลึง มามอบเป็นรางวลั แต่หมอฮัวโต๋ไม่ ยอมรับ โดยกล่าวว่า \"ขำ้ พเจ้ำต้ังใจมำรักษำทำ่ นแมท่ ัพ ก็ดว้ ยควำมเลือ่ มใสศรัทธำใน คณุ ธรรมควำมดีของทำ่ น หำได้หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ไม่จงึ ไม่ขอรบั ทรัพย์ สิน เงนิ ทอง จะขอรับแต่เฉพำะน้ำใจของท่ำนเกบ็ ไวใ้ นใจข้ำพเจ้ำเท่ำน้ัน \" ก่อนจะลาจากไป หมอฮวั โต๋ได้กาชับท่านกวนอูว่า ภายในช่วงเวลา 100 วนั พยายามทาใจให้ สบาย ต้องระงบั สติอารมณ์ไม่ให้โกรธใคร พิษ บาดแผลจึงจะไม่กาเริบ ตอ่ เมอ่ื พ้น 100 วนั ไปแล้ว อาการ จะกลบั เปน็ ปกติโดยสมบรู ณ์
เสียเมอื งเกงจว๋ิ จากการที่ต้องเดินทัพไปทาศึกไกลเมือง อกี ท้ังซนุ กวนไปสมคบกับโจโฉไม่กล้ารบซึ่ง ๆ หนา้ แตใ่ ช้ วิธีให้ทหารลอบเข้าไปปล้น พร้อมท้ังสัง่ ระดมทัพหลายกองซุ่มโจมตี ทั้งหมดน้กี ระทาการในขณะที่ท่านกวน อลู ้มป่วยอันเนือ่ งจากถกู ยิงด้วยลูกเกาทัณฑอ์ าบยาพิษ ยังผลให้ลบิ องแมท่ พั ฝ่ายซุนกวนเข้ายึดเมืองเกงจ๋ิว ได้สาเรจ็ เมอ่ื ท่านกวนอรู ู้ว่าเมืองเกงจิว๋ ถกู ข้าศกึ ยึดได้ จงึ นาทัพกลบั มาที่เมอื ง เจียว หลวิ ด้วยหวังว่าจะกู้ สถานการณ์ แต่ทว่าทกุ อย่างสายไปเสียแล้ว..... คร้ันเคลื่อนพลเข้าประชิด ยามน้ันท่านกวนอูยกมือป้องหน้าเพ่งมอง ไปบนกาแพงเมือง เห็นลกู เมียททารฝ่ายตนยืนปะปนกับพวกทหารของ ซนุ กวน จึงป่าวร้องคณุ งามความดีของซุนกวนเป็นการใหญ่ อีกท้ังช่วยกนั ทาสงครามจิตวิทยาต่าง ๆนานา อาทิ แบ่งปนั ข้าวนาใหต้ ามเวลา ใครเจบ็ ไข้ได้ป่วยรกั ษาฟรี นอกจากนีท้ หารซุนกวนยังยิงลกู เกาทณั ฑไ์ ร้หวั ซึ่งแนบ จดหมายเกลีย้ กล่อมจากบรรดาลูกเมียญาติมิตร เข้าไปกลุ่มทหารกวนอู ด้วย หมายจะสลายกองทัพท่านกวนอู ปรากฏว่าไดัผลเกินคาด ทหารของท่าน กวน อซู ึ่งเหน็ดเหนือ่ ยอ่อนล้า ต่างคิดถึงหน้าลูกเมีย ประกอบกับเบื่อหน่าย ท้อแท้ในการศกึ สงคราม จึงพากนั ถอดเกราะทิง้ อาวธุ ลักลอบหลบหนี เอาตัวรอด 1 ไม่นานกองทัพอันเกรียงไกรก็สลายหายสญู ท่านกวนอจู งึ ต้องชกั ม้า กลับ โดยมีบริวารใกล้ชิด และกาลังทหารตดิ ตามอยู่เพียง 500 นาย บ่ายหน้า สู่เมอื งเป๊กเสีย กองทหารซนุ กวนได้ที จึงลุกไล่ตดิ ตามแยกเป็นสามทาง ในทีส่ ุดก็ สามารถล้อมเมอื งเป๊กเสียไว้ได้ ท้ังสี่ด้าน ระหว่างถูกล้อมอยู่หลายเพลา ท่านกวนอรู ู้สึกกลัดกลุ้ม กระสบั กระส่าย จึงออกจากกระโจมทีพ่ ัก เดินขึน้ ไป อยู่บนกาแพงเมือง เงยหน้าแหงนมองท้องฟ้า ใกล้เวลาพลบคา่ ..... เห็นนก ตวั หนึง่ โบยบินอย่าง เปล่าเปลี่ยวเดียวดายอยู่บน นภาอนั อ้างว้าง มันส่ง สาเนียงรอ้ งเรึยกเพรียกหาเพื่อนพ้องอย่างโหยหวนชวน ให้สลดใจ เมื่อทอด สายตาออกไปโดยรอบเมืองเป๊กเสยี เห็นแมน่ ้าสองสายไหลมาบรรจบ แล้ว ไหลริน ต่อเนอ่ื งไปสู่บรู พาทิศ ท่านกวนอทู อดถอนใจและราพึงกบั ตนเองว่า \" ภำรกิจประคบั ประคองท่ำนพีเ่ ลำ่ ปี่ ปกปักษร์ ักษำรำชวงศฮ์ ่ัน สู้อุตสำ่ หฝ์ ่ำฟันกรำศึกมำ 20 ปี จะต้องมำล้มเหลวไปโดยเปล่ำประโยชน์ ด่ังกระแสนำ้ ไหลหลงั่ ลงสูท่ อ้ งทะเลลึกฟำกฝง่ั บรู พำ ทศิ กระนน้ั หรอื ?\" ช่วงเวลาทีท่ ่านกวนอกู าลังจนมุมที่เมอื งเป๊กเสียนี้ ซนุ กวนได้สัง่ ให้ จกู ดั กนิ๋ เป็นฑตู เดินทางมา เกลีย้ กล่อมใหย้ อมจานน จูกัดกิ๋นยกเหตผุ ลว่า \"มีคำโบรำณกลำ่ วว่ำ.... อจั ฉริยบรุ ุษผูป้ รำดเปรือ่ ง ยอ่ มรูร้ ักษำ ตวั รอดเปน็ ยอดดี ดินแดน ทั้ง 9หัวเมืองทอ่ี ยภู่ ำยใตก้ ำรครอบครองของ ทำ่ นขนุ พล บดั นีถ้ กู ยึดจนหมดสิ้นแลว้ คงเหลือแต่ เมืองเป๊กเสยี ซึง่ เลก็ กระจอ้ ยร่อย ขำดแคลนหญำ้ มำ้ และเสบียงพล ไม่มีกำลังจำกทใ่ี ดมำ ช่วย
หนุนได้แต่รอวนั หำยนะที่จะมำถึงในวนั พรุ่งนี้ เหตไุ ฉนทำ่ นขุนพล จงึ ไม่คิดสวำมิภักดิ์ต่อเจ้ำแห่ง แควน้ หวูเสียเลำ่ มิเพียงแตจ่ ะได้กลับไป ครองเมืองเกงจว๋ิ ตำมเดิม ซ้ำยงั สำมำรถปกปอ้ งคุม้ ครอง ครอบครัวของ ท่ำนใหอ้ ยรู่ อดปลอดภยั \" ท่านกวนอูฟังแลว้ จงึ โต้กลับไปว่า \"อนั ตัวขำ้ นั้นก็เป็นแค่เพียงนักรบธรรมดำสำมญั จำกไกเหลียง ท่ผี ่ำนมำได้รบั กำรเอึ้อเฟือ้ เกื้อกูลอย่ำงประเสริฐจำกทำ่ นเล่ำปี่ผู้พี่ ถึง ตอนนี้จะให้ข้ำตระบดั สัตยล์ ะทง้ิ คณุ ธรรมมำมอบรำบ คำบแกว้ ตอ่ อรริ ำช ศตรูไดอ้ ย่ำงไร ? ขึน้ ชื่อวำ่ หยก...... ถึงครำวจะตอ้ งแตกทำลำยไม่หำยชือ่ สีสัน ยำกจะสลำยกลำยเปน็ อื่น ถ้ำจะทำสงครำมกบั ซุนกวนจนกว่ำชีวติ จะ หำไม่ \" กล่าวจบกส็ ัง่ ทหารให้ขบั ไล่ จกู ดั กิน๋ ออกนอกเมอื งไป สสู่ รวงสวรรคำลัย ท่านกวนอูผู้ฝา่ ฟันกราศกึ จนบดั นี.้ ... วยั จะล่วงเข้า 59 ปี เส้นเกศา หงอกขาวบ้างแล้ว ุซ้าถูก เกาทณั ฑอ์ าบยาพิษบ่ันทอนพละกาลังให้ถดถอย อีกท้ังร่างกายอิดโรยอย่างมาก แตก่ ระนน้ั ซนุ กวนเจ้าเมืองฝ่ายข้าศกึ ก็ไม่กล้าหกั หาญบกุ เข้าเมือง อย่างซึง่ ๆ หน้า เปน็ ด้วยยัง ครน่ั คร้ามหวนั่ เกรงในเกียรติศกดิ์บารมขี องท่าน กวนอูอยู่ จงึ วางอบุ ายแกล้งเปิดช่องทางให้ท่านกวนอูหนี ไปตามทางทีค่ ับแคบ ซึง่ ม้าเดินลาบาก กลางทางเบือ้ งหน้า...ซนุ กวนได้สงั่ การให้ขุดหลุมพราง วางแรว้ ดกั ไว้ ท่านกวนอูพร้อมดว้ ยเหล่า ทหารรว่ มใจ ซึ่งขณะนั้นเหลือกันอยู่เพียง 15 คน กาลังเคลือ่ นมาถึงหุบเขาเจาสนั ภูผาทั้งสองขา้ งตงั้ ขนาบ ตระหงา่ นสูงชัน เสียดฟ้า รอบข้างเต็มไปด้วยแมกไม้โบราณพันปีรกชัฎปกคลมุ โขดหิน เถาวลั ย์พันเกีย่ ว ระโยงระยาง พฤกษาใบหญ้าหนาทึบบดบงั แสงเดือนแสง ตะวัน ยามแหงนมองท้องงา...เหลือใหเ้ หน็ เพียง เส้นสีนา้ เงินบาง ๆ อยู่ไกลริบ บรรยากาศดูขมุกขมัวช่ัวนาตาปี บางช่วงคบั แคบขอบทางเปน็ เหวลึก บางขณะ เจอน้าไหลเชีย่ ว ต้องลดั เลาะตามโขดหินริมธาร เส้นทางอันแสนหฤโหด ยิ่งน้ีเป็นทางเดียวที่จะไป ทะลอุ อกยังเสฉวน ณ ปากทางช่องหุบเขาเเห่งนี้ ทหารของซนุ กวน ได้วางกับดักถึง 8 ชั้นไว้คอยท่า โดย 7 ช้ันแรกใช้ เชอื กสีนา้ ตาลเข้ม ขงึ ไว้สูงบ้างต่าบ้าง สลบั ไปมาหนาแน่นดุจใยแมงมุม ส่วนชั้นที่ 8 ใช้เชือกซึง่ ฝัน้ จากหาง ม้า ขาวล้วน ขึงให้ตึงขวางทางไว้ โดยปลายทั้งสองข้างตอกตรึงไว้ด้วยหมุด เหลก็ ! และแล้ว..... เม่อื ใกล้ฟ้าสาง ขณะที่ ท่านแม่ทัพกวนอูเดินทางมาถึง ด้วยความอ่อนล้า ทันใดน้ันมี เสียงกระห่มึ ดังสะท้านหบุ เขา กองทหารซนุ กวน ที่คอยดกั ซุ่มอยู่ต่างกรกู นั ออกมาทางพุ่มไม้ บ้างใชต้ ะขอ
ยาว บ้างใช้บ่วงบาศ มงุ่ สะกัดทั้งม้าและคนกันจ้าละหวนั่ ด้วยพลังสายตาอันเฉียบคมดุจนัยน์ตาแมวของมา้ เช็กเธา สามารถ มองเห็นที่มดื ดง่ั กลางวัน จงึ เลด็ ลอดผา่ นกบั ดกั มาได้ถึง 7 ชั้น คาดไม่ ถึงว่า.... พอด่านที่ 8 เจอเชอื กหางม้าสีขาวล้วน ม้าเช็กเธา มองเห็นไมถ่ นัด จึงสะดุดล้มลง ทหารซนุ กวนพากันกรูเข้าจับท่านกวนอูเปน็ เชลย อนั ทีจ่ รงิ แล้ว.... ซุนกวนอยากได้ท่านกวนอูมาสวามภิ กั ดิ์ตน แม้ที่ ผ่านมาจะถกู ตดั รอนอย่างไม่มี เยื่อใย แตเ่ หล่าเสนาอามาตย์ท้ังหลายเตือนว่า \"ในอดีต โจโฉเคยเลีย้ งดอู ปุ ถัมภ์ใหท้ ่ำนกวนอูเปน็ ขนุ นำงใหญ่ มอบเครือ่ งอปุ โภคบริโภค ใหเ้ ปน็ อันมำก สำมวันกินโต๊ะ หำ้ วันจัดเลี้ยง บำรุงถงึ เพียงนี้ ก็ยังเอำตวั ไวไ้ มอ่ ย่เู ลย \" ซนุ กวนไตร่ตรองดูเห็นจรงิ จึงตดั สินใจประหารชีวติ ท่าน กวนอโู ดยการตัดศรษี ะ เวลาน้ันเปน็ ปี พทุ ธศักราช ๗๖๒ ท่านกวนอู อายไุ ด้ 59 ปี สว่ นม้าเช็กเธาน้ันเล่า......ไม่ยอมกินหญ้ากินน้า อยู่ไม่ กี่วนั ก็ ตายตามผู้เป็นนายไป ยอดอาชา ควบถลา โลดเล่นไป ฝา่ ควันไฟ สงคราม ข้ามขอบฟ้า...... ดง่ั พายุ พดั กล้า โหมเพลิง ดง่ั เมฆแดง ทอฟ้า เขียวสดใส ยอดอาชา ควบถลา โลดเล่นไป ฝา่ ควันไฟ สงคราม ข้ามขอบฟ้า อันอา ชาไนย สายเลือดดี ย่อมคู่ วีรชน คนใจกล้า วิง่ ทางไกล ว่องไว เหมอื นสายฟ้า เหมาะฝาก ชีวา กับม้านี้ ฝากปณิธาน ลองไป กบั สายรงุ้ พวยพุ่ง ไกลทว่ั ทะเลสี่ ศกึ วนั พรุ่ง พึ่งขา อาชาดี ทะลวงศกึ สร้างวี รกรรม......เฮย เวลาน้ันซุนกวนกลับว่า ผู้คนจะเคียดแค้นชิงชังที่ตนสัง่ ประหารท่าน กวนอู ผู้ไม่ยอมสวามิภักดิ์ อีกทั้งหวงั ผลทางการเมอื งโดยทาทีผกู มิตรเพื่อ มิใหโ้ จโฉรุกรานดินแดนของตน ประกอบกับหวังให้ผู้คนใน แผ่นดนิ เข้าใจว่า โจโฉเป็นต้นเหตุ ดว้ ยแผน \" โยนบาปให้ผู้อ่นื \" ซนุ กวนจงึ ให้คนส่งศรี ษะ ของท่านกวนอไู ป
มอบใหแ้ ก่โจโฉ เล่ากนั ว่า.... เม่อื โจโฉได้รับกล่องบรรจุศีรษะท่ านกวนอู ขณะเปิด ออกดู กแ็ สดงกิริยายิ้มเยาะ พร้อมกับกล่าววาจาเย้ยหยันว่า \"กวนอู..... ท่านสบายดีรึ \" ทันใดน้ันเอง..... ศีรษะของท่านกวนอูได้ลืมตาขนึ้ จอ้ งเขม็ง โจโฉ ตกใจแทบสิน้ สติ เอาแต่ร้องระล่า ระลกั ว่า \"ท่ำนกวนอู คอื เทพเจ้ำ ........ ท่ำนกวนอู คอื เทพเจ้ำ เมือ่ ยำมอยู่กย็ ังนำ่ หวำดหว่ัน น่ี ตำยแลว้ ยิง่ น่ำพร่ันพรึง ! \" จากนั้นจึงรบี ให้คนสลักไม้หอมเป็นร่างท่านกวนอู พร้อมกับทาพิธี เช่นสรวง เทียบเท่าตาแหนง่ อ๋อง ส่ังให้ขนุ นางทุกคนไว้ทกุ ข์ แล้วจึงอัญเชิญ ไปฝ่ังทางดา้ นใต้เมือง ลกเอี๋ยง ซึง่ ก็คือ นครลวั่ หยาง มณฑลเหอหนาน ในปจั จบุ ัน ตวั โจโฉเองเดินทางไปนาเชน่ ไหว้ และบญั ชาใหข้ ุนนางนอ้ ยใหญ่ ผลดั เปลี่ยนกันมาเฝ้าสุสาน ซึง่ ต้ัง ศลิ าจารึกว่า \"ท่ฝี ังพระศพของเจ้ำเมือง เกงจิ๋ว \" ทางฝ่ายซนุ กวน หลงั จากส่งศรษี ะท่านกวนอไู ปให้โจโฉได้ไม่นาน ระหว่างจัดเลี้ยงฉลอง..... ลบิ อง แมท่ ัพใหญ่ผู้บกุ ยึดเมืองเกงจ๋ิว อยู่ดี ๆ กล็ ุกขนึ้ ชหี้ น้าด่าซุนกวน แล้วล้มลงสิ้นใจตาย ผคู้ นท้ังหลายต่าง โจษจนั กันว่า ลิบองต้องถูกวิญญาณของท่านกวนอเู ข้าสิงร่างเพื่อชาระโทษทัณฑ์ เปน็ แนแ่ ท้ ส่วนรา่ งของท่านกวนอู ซนุ กวนสง่ั ให้ฝงั ไว้ทีเ่ มืองตันหยาง ปัจจบุ ัน คอื อาเภอตังหยาง มณฑลหู เปย อนั เปน็ ที่ตั้งศาลเจ้ากวนอู ซึง่ ใหญ่โต งดงาม ด้านหลังของศาลเจา้ คือ สสุ านท่านกวนอู ภายในสุสาน เป็นหอ้ ง ใต้ดินสาหรับเก็บพระศพ ซึง่ บรรจอุ ยู่ในโลงทีส่ ร้างดว้ ยเหลก็ ท่านกวนอเู ปน็ ทีเ่ คารพรักเทิดทูนของชาวจีนยิ่ง เมือ่ ท่านสิ้นชีพแล้ว ผู้คนได้พากนั สร้างศาลเจา้ มากมาย เพือ่ ประดับฐานพระรูปของท่านไว้ กราบไหว้บูชา ท้ังน้กี ็เพราะพระเกียรติคุณอันสงู ส่ง ซึ่งยงั คง นามาเล่าขาน ส่ังสอนอบรมลกู หลานให้ปฏิบตั ิตามกันสืบไปมิรู้ลมื
เจริญรอยตำมพระจรยิ วัตร ในสมยั ราชวงค์ซ้อง ราวปีพทุ ธศกั ราช ๑๖๗๐ มีชายหนมุ่ นักศึกษา คนหน่งึ นามว่า หลิน เติง อวิ๋น บ้านอยู่เจียงหนนั ทางทิศใต้ของ แมน่ ้า แยงซีเกียง วนั หน่งึ เขาได้โดยสารเรือเข้าเมือง เพื่อเดินทางไปร่วมสอบแข่งขัน เป็นนกั ศึกษาระดบั มณฑล คร้ันเรอื แล่นมาถึงแยกแมน่ ้า อสู๋ งเจยี ง ก็จวน จะพลบค่าแล้ว จึงตอ้ งจอดเทียบชายฝั่งให้ทุกคนได้นอนหลับพกั ผ่อน ใกล้กับบริเวณทีเ่ รอื จอด มีบ้านไม้สองชั้นหลังหนึง่ ต้ังอยู่ แต่แล้ว พอตก กลางดกึ คืนนั้น ไม่รดู้ ้วยเหตุอนั ใด.... บ้านไม้สองช้ันเกิดเพลิงไหม้ เริ่มจาก ช้ันลา่ งไฟได้ลกุ ไหมอ้ ย่างหนกั และลามขึ้นไปชั้นสองอย่างรวดเรว็ ทันใดน้ันเอง มีหญิงสาวคนหนึ่งกระโดดหนไี ฟจากหน้าต่างชั้นบน ลงมาท้ัง ๆ ทีย่ งั สวมชุดนอนอยู่ เคราะหด์ ีที่ไม่ได้รบั บาดเจบ็ มากมายอะไร แตด่ ้วยความตกใจอกี ทั้งอากาศ กลางดกึ ค่อนข้างหนาวเย็น เธอจงึ วิ่งไปอาศัย หลบภัยอยู่ในเรอื หลินเติงอว๋ินชายหนมุ่ นักศึกษา ขณะนั้นรสู้ ึกตกตะลึงกับเหตกุ ารณ์ คร้ังนอี้ ยู่ไม่น้อย แต่พอได้สติ ..... เห็นหญิงสาวอยู่ในอาการต่นื ตระหนก หน้าซีดเผอื ด ยืนตัวส่นั งนั งกชว่ ยตัวเองไม่ได้เลย เขาจึงรีบถอด เสื้อขนสตั ว์ ทีส่ วมอยู่ไปหม่ ใหเ้ ธออบอุ่น อีกทั้งเพือ่ ปิดบังเรอื นร่างอนั ไม่ควรเปิดเผย ทั้งนีด้ ้วยความเป็นหว่ งว่าเจา้ ของเรอื ุ ซึง่ เปน็ ชายฉกรรจ์ร่างกายา ลกั ษณะห ยาบคาย จะเกิด อารมณป์ ่าเถือ่ นคิดล่วงเกินเธอ เหตุฉะนี้ คืนนั้น ทั้งคืน.... ชายหนุ่มมิได้นอนหลับเลย ได้แต่จุดเทียนให้สว่าง พร้อมกับนงั่ อ่านหนังสอื ตาราอยู่ใกล้ ๆ หญิงสาว ตราบจนกระ ทงั่ รงุ่ เช้าเขาจงึ พาเธอกลับ ข้ึนฝ่ัง แล้วจึง ออกเดินทางกบั เรือโดยสารต่อไป ไม่นาน..... เมือ่ หลินเติงอวิน๋ เดินทางถึงเมอื งหลวงของมณทลเขา สามารถสอบข้อเขียนผ่านไปอย่างเรียบร้อย พอถึงคราวไปเข้ารับการสอบสมั ภาษณ์ พร้อมกบั นักศึกษาที่ สอบผา่ นข้อ เขียนมาด้วยกันอีกคนน้ัน ขนุ นางผู้สอบสัมภาษณ์ได้กล่าวกบั หลินเติงอวนิ๋ ดว้ ยความฉงน และจริงจังว่า \"เมื่อตอนเรำตรวจข้อเขียนของเจ้ำ พบว่ำยังไมด่ ีพอที่จะสอบ ผำ่ น จงึ คัดออกวำงไว้ข้ำง ๆ แต่แลว้ คืนนั้น.... เรำไดฝ้ ันเห็นพระกวนอู อรยิ มหำรำชเจ้ำ เสดจ็ มำทอดพระเนตรและทรงเปิดสมดุ ข้อเขียนของ เจ้ำ พรอ้ มกับทรงพระอกั ษรเติมลงไปมีควำมว่ำ หญิงสาวเปลือยเปล่าร่าง เสื้อขนสัตว์ หม่ ให้นาง จดุ เทียนส่องสว่าง มีเพียงสอง ท่านกับเรา
ครัน้ รงุ่ ขึ้นตอนเช้ำ พอเรำไปเปิดสมดุ ข้อเขียนของเจำ้ ดใู หม่ กลับปรำกฏวำ่ บทควำม ทั้งหมดถแู ก้ไขเพิม่ เติมจนสมบรู ณ์ นับเปน็ วิทยำนิพนธท์ ด่ี ีเยีย่ ม สมควรทีส่ อบผ่ำน แตว่ ่ำเรำยงั อดสงสยั ไม่ได้วำ่ กำรสอบผำ่ นของเจ้ำในคร้งั นี้คงต้อง มีบญุ กุศลบำงประกำร คอยหนุนนำอยเู่ บื้องหลงั เปน็ แน่ จงึ ดลบันดำล ใหอ้ งคพ์ ระกวนออู รยิ มหำรำชเจ้ำ เสด็จมำโปรด ประทำนเกียรติคุณให้ เป็นกำรเฉพำะเช่นนี้ เจ้ำจะบอกเรำได้ไหมว่ำ..... กอ่ นหน้ำกำรสอบครั้งนี้ เจ้ำได้ทำ ควำมดีอะไรมำ ?\" เมื่อถูกขุนนางคุมสอบไต่ถามเชน่ นั้น หลินเติงอวิน๋ ก็นึกขึ้นมาได้ จงึ เล่าเรื่องราวที่ตนช่วยเหลือ หญิงสาวนางหนง่ึ ในระ หว่างเดินทางให้ท่าน ขนุ นาง ฟัง พอเล่าจบ..... นักศกึ ษาอีกคนซึง่ เข้ามาสอบสัมภาษณ์ดว้ ยกนั ถึงกบั น้าตาคลอ เขาลกุ ขนึ้ เดินตรง เข้ามาคกุ เข่าเบึอ้ งหน้าหลินเติงอวิน๋ แล้วโขก ศีรษะกราบลงกับพืน้ พร้อมกับกล่าวด้วยความต้ืนตันใจว่า \"หญิงสำวทท่ี ่ำนช่วยปกปอ้ งไวน้ ้ัน แทจ้ ริงแลว้ คือภรรยำของ ข้ำพเจ้ำเอง ในคืนวันเกิดเหตุ ขำ้ พเจ้ำออกไปทำธรุ ะนอกบำ้ น พอกลับ มำตอนใกล้ย่ำรุง่ ก็พบวำ่ บำ้ นท้ังหลังถูกไฟไหม้กลำยเป็น เถ้ำถ่ำนไปหมด มิหนำชำ้ แม่บ้ำนกับเด็กหญิงคนใช้ต้องตำยอยูใ์ นกองเพลิง ข้ำพเจ้ำคดิ ว่ำภรรยำ ของข้ำพเจำ้ ก็คงหนไี มพ้นเครำะห์กรรมครั้งนีด้ ้วย แต่ยังหำศพ ไม่พบ..... ข้ำพเจำ้ เศรำ้ โศกเสียใจ มำก แตแ่ ลว้ พอฟำ้ สำง กลบั พบนำง อยใ์ู นชุดนอนมีเสื้อขนสัตว์ของผ้ชู ำยสวมทับ นำงเดินตรงเข้ำ มำหำดว้ ย อำกำรอ่อนล้ำรำวกับไม่ได้นอน ข้ำพเจ้ำลงควำมเห็นว่ำนำงต้องแอบ หนีไปคบชู้สชู่ ำย เปน็ แน่จึงรอดตำยจำกไฟไหม้ได้โดยบังเอิญ ป่วยกำร ท่ีนำงจะรอ้ งไห้คร่ำครวญชี้แจงอยำ่ งไร ขำ้ พเจ้ำก็ไมย่ อมเชือ่ จึงขับไล่ ไสส่งใหน้ ำงกลบั ไปอยู่บ้ำนพ่อแมข่ องนำงเสีย ! เดชะบญุ .... มำวันนี้จงึ ประจักษ์แจ้งในควำมจรงิ ข้ำพเจ้ำขอขอบ พระคุณท่ำนหลินเติงอวิ๋ นอยำ่ งยิ่ง ทีไ่ ด้ช่วยชีวติ ภรรยำของข้ำพเจำ้ ไว้ อีกท้ังยงั คอยปกปอ้ งนำงมิใหเ้ ปน็ อันตรำยและเสื่อม เลยเกยี รติ์ บุญคณุ ครัง้ นี้ข้ำพเจ้ำจะขอจดจำไปจนตำย\" เมือ่ ขุนนางคุมสอบได้ฟงั เรอ่ื งราวทั้งหมดของนักศึกษาทั้งสองแลว้ กร็ ู้สึกซาบซึง้ และชื่นชมใน คุณธรรมของ หลินเติงอวนิ๋ ยิ่งนกั โดยเฉพาะ การสัมผัสรบั รู้ถึงพระกรณุ าที่สิ่งศักสิทธฺ์ได้ทรงสอดส่อง เกอื้ กูลคนดีมี คุณธรรม ท่านขนุ นางได้บอกกล่าวใหช้ ายหนมุ่ นกั ศึกษาคนน้ันรบี กลับไป ขอโทษพร้อมทั้งรบั ภรรยากลบั มา จากบ้านพ่อตาโดยเรว็ ตอ่ มา.....นกั ศกึ ษา ทั้งสองได้รับเลือกให้เข้าเป็นนกั ศึกษาหลวงในราชสานกั จากนั้น ไม่นาน หลินเติงอวิ๋น ได้เข้ารับราชการ และมีความก้าวหนา้ ไปโดยลาดับ จนกระ ท่ัง ได้ดารงตาแหน่งเปน็ ถึงราชองครักษ์ ในด้านชีวติ ครอบครัวกร็ าบรน่ื สงบสุข บตุ รชายท้ังสองสามารถสอบเข้าเปน็ นักศึกษาหลวง
ในราชสานกั เช่นกนั และ ได้รับราชการในตาแหน่งสาคัญ เปน็ ราชเลขาท้ังสองคน ลงทัณฑค์ นช่วั อภิบำลคนดี ในสมัยถงจอึ้ แหง่ ราชวงศ์ชิง ราวปีพุทธศกั ราช ๒๔๐๕ ทีว่ า่ การ อาเภอเจยี งเซี่ย มนี ายทะเบียน ประจาอาเภอคนหน่ึงชือ่ พัน จง่ิ ฉี ชีวตที่ ผ่านมาเขาเป็นคนซื่อสตั ย์สจุ ริต ถือวนิ ัยเคร่งครัด ปรนนิบตั ิพ่อ แมด่ ้วยความ กตัญญู ฝ่ายภรรยาของเขาชื่อ เจยี งซือ่ ก็เปน็ กุลสตรที ี่ดพี รัอม ดงั น้ันชีวติ ครอบครวั จึงมีแต่ ความสงบสขุ เปน็ ที่ชืน่ ชอบของคนทั้งหลาย แตแ่ ล้วทกุ อย่างก็เปลีย่ นไป.... วนั หน่งึ แมข่ อง พันจิ่งฉี ล้มป่วย และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา เขา ไดัใช้จ่ายเงนิ จานวนมากในการรกั ษาพยาบาลแม่ จนไม่มีเงนิ พอจะทาศพ พนั จ่ิงฉี ไม่รจู้ ะทาอย่างไร จงึ ตดั สินใจนาเงนิ ของ สว่ นราชการ ซึง่ เขาเปน็ ผู้ดูแลรักษาไปใช้ก่อนจานวน ๒๐ ตาลึง ซึ่งหากจะ เทียบค่าใน ปัจจุบนั กป็ ระมาณสองหม่นื บาท อนั ที่จริง พนั จ่ิงฉี ต้ังใจว่าจะ พยายามหาทางนาเงนิ มาใช้คนื ให้เร็วทีส่ ดุ เท่าที่จะทาได้ แตอ่ นิจจา..... โบราณว่า กระดาษย่อมหอ่ ไฟไว้ไม่อยู่ เรื่องที่เขาแอบนาเงินของราชการไปใช้ ส่วนตวั ครั้งนีล้ ่วงรไู้ ปถึงท่านนายอาเภอ ดงั นนั้ พันจ่งิ ฉี จึงถูกปลดออกจาก ตาแหน่ง และต้องโทษจาคกุ โทษฐานทาผิดทางวินัย นับจากวนั น้ันเปน็ ต้นมา ครอบครวั พันจิง่ ฉี กต็ กอยู่ในความทกุ ข์อนั มืดมน โดยเฉพาะนางเจยี งซื่อ ภรรยาของเขากินไม่ได้นอนไมห่ ลบั ทุกวันนางพยายามวิง่ เต้นหาทางช่วย เหลอื สามี ไปท่ัว ไม่ว่าใครแนะนาให้ไปพบผใู้ ดนางก็ไป จนในที่สุดมคี นจากในวงราชการแนะนาว่า เพียงแตห่ าเงิน ๒๐ ตาลึง ไปมอบคืนให้ทางราชการ แล้วทาเรอ่ื งขอใหย้ กฟ้อง เท่านีส้ ามีของนางก็จะ พ้นผิดและได้รบั การปล่อยตัวเป็นอิสระ เมือ่ ได้รบั คาชีแ้ นะเชน่ นแี้ ล้ว นางจงึ รีบเดินทางกลับไปบ้านเกิด เพือ่ ขอยืมเงนิ จากพ่อแมข่ องตน ครั้นพ่อแม่รู้เร่ืองราวคราวเคราะหข์ องลูกสาว ก็นาเงิน ๒๐ ตาลึงมามอบใหท้ นั ที พอไดัเงินนางเจยี งซื่อรีบ เดินทางกลบั ดว้ ยใจมงุ่ หวังอยากใหส้ ามีเปน็ อิสระโดยเรว็ และแล้ว.... เช้าวนั รุ่งขึน้ ขณะทีน่ างเจียงซือ่ กาลังเตรียมตัวจะไปติดตอ่ ที่ว่าการอาเภอ ก็มีชายคน หน่งึ เดินเข้ามาในบ้าน พรอ้ มกับแนะนาตวั เองว่า แซ่หลิน และเป็นเพือ่ นรกั เพือ่ นเกลอกับ พนั จ่งิ ฉี สามีของ นาง ชายแซ่หลิน อ้างว่าพอทราบเรือ่ งที่ พันจิ่งฉี ถกู จบั ต้องโทษอยู่ในคกุ ก็รู้สกึ ร้อนใจมาก อยากจะ ช่วยเหลือจงึ ได้มาขออาสาเป็นคนนาเงิน ๒๐ ตาลึง ไปมอบคืน ให้แก่ทางการ เพือ่ นางจะได้ไม่ตอ้ งลาบาก ไปด้วยตวั เอง นางเจยี งซือ่ หลงเชื่อสนทิ คิดว่าชายคนนเี้ ป็นเพื่อนของสามีจริง อึกท้ังในสมัยน้ัน.... การออกไป ปรากฏโฉมนอกบ้านบ่อย ๆ เปน็ เรอ่ื งไม่ สมควร โดยเฉพาะยิ่งเปน็ สถานที่ราชการด้วยแล้วดูไม่ค่อย เหมาะสม ดังนนั้ เมือ่ มีคนขนั อาสา นางจงึ มอบเงินท้ังหมดใหไ้ ปทนั ที.โดยมิได้ระแวง สงสยั แม้แต่น้อย
ชายแซ่หลินผู้อ้างตวั ว่าเป็นเพื่อนสามี รับเงนิ ไปแล้วก็ไม่โผล่หน้ามา ให้เหน็ อีกเลย นางเจยี งซือ่ เฝา้ คอยสามีอยู่ทีบ่ ้าน คอยแล้วคอยเล่า.... แต่กลับไม่เห็นวีแ่ วว ในทีส่ ดุ พอรู้วา่ ถูกหลอกนางเสียใจมาก ประกอบกับ กลัดกลุ้มหนักเพราะไม่อาจช่วยสามีได้ นางจึงแขวนคอตาย ทว่าพ่อของพนั จ่งิ ฉี ยิง่ น่าสงสารนัก ด้วยเหตุที่ภรรยาผู้เฒ่าเพิ่งจะ ตายจากไปไม่นานลูกชายก็ ต้องมา ถูกจับ มหิ นาซ้าลกู สะใภย้ งั มาแขวนคอ ตายไปอีก พ่อเฒ่าอยู่เพียงลาพังไม่รู้วา่ จะจัดการอย่างไรดี ทาอะไรไม่ถกู จึงนาศพลกู สะใภ้ใส่โลง แล้วยกไปฝากวางไว้ที่ระเบียงทางเดินด้านซ้ายของ ศาลเจ้าจอมเทพ กวนอู กระท่งั ผ่านไปสามวัน.... กลางดกึ คืนน้ัน พ่อเฒ่าได้ยินเสียงเคาะ ประตบู ้าน จึงเดินงัวเงียออกไป เปิดประตู และแล้วแกกต็ ้องสะดงุ้ สุดตัว เพราะภ าพที่ปรากฏตรงหน้าคือ ลูกสะใภ้ทีเ่ พิง่ ผูกคอตายไปได้ ไม่กี่วันนี้ เอง พ่อเฒ่าร้องล่ันด้วยความตระหนกว่า \"อยำ่ มำหลอกหลอนเลย ลูกเอย๋ เรำอยู่คนละโลกแล้ว \" แตร่ ่างของลูกสะใภ้กลับตอบว่า \"พ่ออย่ำกลวั ลูกเลย.......ลกู เปน็ คน ไมใ์ ชผ่ ี ทำ่ นจอมเทพกวนอู ไดโ้ ปรดเมตตำคนื ชีวติ ให้ ลูกอีกคร้งั ไม่เชือ่ พอ่ ตำมมำดซู ิ\" พ่อเฒ่าเดินตามไปดูท้ังที่ยังกลัว ๆ กล้า ๆ พอถึงใต้ระเบียงทางเดิน ก็พบว่าโลงศพลุกสะใภถ้ ูกเปิด ฝา และภ ายในว่างเปล่าจริง ๆ แตแ่ ล้วแกก็ต้อง สะดงุ้ เฮือกอีกคร้ัง เม่อื เหลือบไปเหน็ ที่กลางหอ้ งบชู า ของศาลเจา้ ปรากฏว่ามี ศพชายคนหนง่ึ หัวถูกตดั ขาด นอนตายอย่างอนาถ อยู่ ณ. เบึ้องพระบาทของจอมเทพกวนอูพอดี ท่แึ ปลกยิ่งไปกวำ่ น้ันคอื ง้ำวเลม่ ใหญ่ประจำพระองค์ซึ่ง ประคอง ไว้โดยรูปปั้นเทพอำรกั ษต์ จวิ ฉองมีรอยเปือ้ นเลือดสด ๆ ขณะทีบ่ นแท่น บชู ำเบื้องหน้ำ มีเงินกองอยู่ ๒๐ ตำลึง ไม่ต้องสงสยั เลยว่ำชำยทถ่ึ ูก ตัดหวั นอนตำย เปน็ ผีหัวขำด ก็คือชำยแซ่หลิน นน้ั เอง แต่ทว่ำใครละ่ ท่ี ตัดหวั นกั ต้มตุน๋ ผู้นี้ เชา้ วนั ต่อมา เม่อื นายอาเภอทราบข่าวคดีลึกลบั สยองขวัญนี้ จงึ รบี เดินทางไปชันสตู รและสอบสวนในที่เกิดเหตุ สดุ ท้ายนายอาเภอได้ คกุ เข่า กราบขอบพระคณุ จอมเทพกวนอูและเทพอารักษ์จิวฉอง อย่าง อ่อนนอ้ ม เพราะ น่ไี ม่ใช่เร่ืองเดียวทีพ่ ระองค์ท่านได้โปรด ชาระความ ยุติธรรม วันรุ่งขึน้ นายทะเบียนประจาอาเภอพันจิ่งฉี กไ็ ด้รบั การปล่อยตวั ให้พ้นโทษเป็นอิสระ
ประมาณปีพุทธศักราช 2525 จอมเทพวินยั ธร \" กวนอ\"ู ทรง แสดง บญุ ญาภนิ ิหาร ปรากฏองค์ บนท้องฟ้า ณ. อาเภอเป่าเต้ิง ประเทศจีน ภาพถ่ายพระฉายาลกั ษณ์น้ถี ูกตีพมิ พ์เผยแพร่โดยผู้มีจิตศรัทธา อย่างตอ่ เนื่องไม่ ขาดสาย ดงั นนั้ จงึ ไม่คมชัดเท่าต้นฉบับเดิม แต่ทว่ากย็ ังคงพระลักษณะอนั น่า เกรงขามและ สงา่ งามในพระองค์ท่านให้เหน็ จากอดีตอันยาวนาน ประวัติศาสตร์ได้ยกย่องท่านเป็น \" เทพเจ้าแหง่ ความซื่อสัตย์\" จวบจนถึง กาลปจั จบุ นั พระองค์ธรรมมารดาได้ทรงปร ะทาน พระอริยะฐานะจากเทพเจ้ากวนอู สถาปนาขึน้ เปน็ \"กวน เซิ่ง ตี้ จวิน \" ดำรงตำแหนง่ จอมเทพวนิ ัยธร องคท์ ่ี ๑ แหง่ ธรรมกำลยุคขำว จอมเทพวนิ ัยธร ท้ัง 4 พระองค์ แหง่ ธรรมกำลยคุ ขำว (ซือ่ ต้ำ ฝ่ำ หลี่) จอมเทพวินยั ธร 4 พระองค์ คือ กวน จาง หลี่ เย่ ทรงปฏิบตั ิ พระภาระ ควบคมุ ดูแลรกั ษา กฎระเบียบวินยั ในการปฎิบตั ิบาเพ็ญธรรมแห่ง ธรรมกาลยุคขาว ให้ดาเนินไปอย่างถูกต้องเรียบร้อยและ เป็นระเบียบ กวน ฝา่ ลวี่จู่ คือ ท่านกวนอู องค์อริยมหาราชเจ้าทรงดารงตาแหน่ง จอมเทพวินยั ธรพระองค์ ใหญ่ พระนามแหง่ อริยฐานะอย่างเป็นทางการคือ กวน เซิง่ ตี้ จวิน จำง ฝาลวี่จู่ คือ ท่านจางเฟย (เตียวหุย ในภาษาจนี แต้จ๋วิ ) ทรงดารงตาแหน่ง องค์ผู้ช่วยท่าน กวนอจู อมเทพวินยั ธร องค์ ใหญ่ พระนามแหง่ อริยะฐานะอย่างเปน็ ทางการคือ หวน โหว้ ต้ำ ตี้ หลี่ ฝ่าลวีจ่ ู่ คือ ท่านหล่ีต้งปิน หนง่ึ ในคณะแปดเซียน ทรงดารงตาแหน่ง จอมเทพวินยั ธร พระองค์รอง พระนามแหง่ อริยฐานะอย่างเป็นทางการคือ ฟู่ อิว้ ตึ้ จวิน เย่ ฝา่ ลวี่จู่ คือ ท่านเย่เฟย (งกั ฮุย ในภาษาจีนแต้จิว๋ ) ทรงดารงตาแหน่ง องค์ผชู้ ่วยท่านห ลีต่ ง้ ปิน จอเทพวินยั ธรพระองค์รอง พระนามแหง่ อริยฐานะอย่างเป็นทางการคอื อู๋ มู่ เอวี้ยน ไซว่
สายน้าเรื่อยไหล บทลำนำ \"ประชำเปน็ สขุ ท่ัวหลำ้ จงึ สันติ\" เด็กเลก็ คนชรา หนทางยาวไกล ราษฎรมีผดิ ใด ประคองพากันไป ต้องข้ามน้าใหญ่ ไยถึงบ้านแตกพลัดพราก ราษฎรไม่ทิ้งข้าฯ แตเ่ รือมนี ้อย หว่ งหน้าพะวงหลัง ข้าจะทิง้ หนีอย่างไร ทาการใหญ่ ใจป่วนปั่น ทวยราษฎร์เปน็ สขุ ราษฎรเป็นฐาน สายลมโบกโบย ทั่วหล้าจงึ สุขสรรค์ กมุ กระบี่แหงนหน้า หนทางยาวไกล วีรชนอดีตได้ ถามฟ้าไป วันใดหรอื ทุกข์ทนฉะน้ีฤๅ ข้าฯไม่อาจ พญาครฑุ จะได้บินทะยาน อับอายไม่กล้า ตั้งฐานทาการใหญ่ ราษฎรตดิ ตาม พบหนา้ บรรพชน สร้างสนั ติสุขให้โลกไม่ได้ สร้างความปกั ใจ ม้าเหยาะย่าง ไม่ยอมเลิกรา ผตี ากผา้ อ้อม หนทางยาวไกล ฮน่ั บู๊เต้นิราศเมือง หา่ นรอ้ งรอ่ นไปหนาวเยน็ มา วีรบุรษไยร้าวราน ยามสารทกาล คุณธรรมย่อมคา้ จุน สถานการณท์ ี่มา สมปรารถนา ให้บรรลุผล แมจ้ ะจากกัน.......... ให้ผู้คนเบิกบานทว่ั หล้า แตค่ วามรักเมตตา...... โบกมืออาลา.......... อยู่คู่ฟ้าสถาพร.
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: