Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการ ป่าในเมือง อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ณ ศูนย์การเรียนรู้ป่าในกรุง

โครงการ ป่าในเมือง อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ณ ศูนย์การเรียนรู้ป่าในกรุง

Published by welailak20, 2020-02-28 12:06:03

Description: โครงการ ป่าในเมือง อยู่ร่วมกันอย่างสมดุล ณ ศูนย์การเรียนรู้ป่าในกรุง

Keywords: travel

Search

Read the Text Version

โครงการ ป่าในเมือง อยูร่ ่วมกนั อย่างสมดุล ณ ศนู ยก์ ารเรียนรู้ป่าในกรงุ

จากป่าลา้ นไร่ สู่ ‘โครงการปา่ ในกรุง’ เพ่อื พลกิ ฟนื้ ปา่ นิเวศในเมือง สถาบันปลูกป่า ปตท. มีบทบาทรับผิดชอบภารกิจสาคัญในการส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจัดการ ทรัพยากรปา่ ไมอ้ ย่างยัง่ ยนื ควบคกู่ บั การสร้างนวตั กรรมและฐานความรู้ พรอ้ มถ่ายทอดศาสตร์ ด้านนเิ วศวทิ ยาป่าไม้สู่คนรุน่ ใหม่ ซ่ึงเป็นปณิธานแหง่ การปลูกปญั ญาให้กับคนในสังคม และยัง ตง้ั เป้าหมายการเพมิ่ พนื้ ท่ปี ่าคุณภาพในประเทศไทยอีกอย่างตอ่ เนื่องจากประสบการณ์ความรูก้ าร ปลูกปา่ ๑ ล้านไร่ ที่ผา่ นมา สถาบนั ปลูกป่า ปตท. ได้ตอ่ ยอดแนวคดิ ในการพฒั นาจากความเชื่อว่า ทุกพื้นทขี่ องประเทศสามารถสร้างป่าทีส่ มบูรณไ์ ดท้ ุกแหง่ และความทา้ ทายในการเพิ่มพ้นื ทีส่ ีเขยี ว ให้กับกรงุ เทพมหานครเพ่อื พฒั นาสิง่ แวดล้อมให้ดขี ึ้น ดว้ ตระหนักถึงความต้องการเพมิ่ พน้ื ท่ปี ่าใน เมืองใหญเ่ พ่อื บรรเทาภาวะโลกร้อนทที่ วคี วามรุนแรงมากขึ้นทกุ ขณะ รวมถึงการสร้างผลสมั ฤทธ์ิ เรื่องหลักประกนั การดารงอยขู่ องผืนปา่ ธรรมชาติในประเทศไทยอยา่ งย่ังยนื ตามแนวพระราชดารัส เรื่อง “ปลูกป่าในใจคน” โดยการสร้างแหลง่ เรยี นร้เู ร่ืองนิเวศวิทยาปา่ ไม้สาหรับประชาชน ให้ได้มี ความรู้ความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ และความสาคัญของทรัพยากรปา่ ไม้ทมี่ ีตอ่ ทกุ ๆ ชีวติ จาก แนวคิดหลักดงั กล่าว โดยการดาเนนิ การของสถาบันปลูกปา่ ปตท. ไดร้ ว่ มกับนักวิชาการ ผเู้ ชย่ี วชาญด้านวนศาสตร์ และพฤกษศาสตรช์ น้ั นาของประเทศ ทีมออกแบบและกอ่ สร้าง ทั้ง ทางด้านภูมิสถาปัตยกรรม สถาปตั ยกรรมภายใน งานวศิ วกรรม งานส่อื ความหมายนิทรรศการ งานด้านการประเมนิ มาตรฐานอาคารเขยี ว ไดร้ ว่ มมอื ร่วมใจกันสร้างสรรค์งานชิน้ สาคัญท่ีทา้ ทาย “โครงการปา่ ในกรงุ ” เป็นการพัฒนาท่ดี ิน ๑๒ ไร่ บนถนนสขุ าภบิ าล ๒ เขตประเวศ หา่ งจากถนน วงแหวนตะวันออกราว 200 เมตร ซ่ึง ปตท. เล็งเหน็ ถงึ ศักยภาพของทด่ี ินผืนน้ีทจี่ ะพัฒนาใหเ้ ป็น ป่าธรรมชาติท่ีสมบูรณใ์ นเมอื งผนื ใหญท่ ส่ี ุดเทา่ ที่เคยมีมาแนวคดิ สาคญั ท่ีถูกนามาประยกุ ตใ์ ช้กับ “โครงการป่าในกรุง” ก็คือ แนวคิดการปลูกป่านิเวศและไดผ้ ลอยา่ งรวดเร็วของศาสตราจารย์ดร. อาคริ ะ มยิ าวากิ ซ่งึ ณ วันนี้ “ป่าเชงิ นิเวศ” ยังถือเป็นของใหมส่ าหรับสงั คมไทย แตใ่ นอนาคต ขา้ งหน้า ทาง ปตท. เช่ือม่ันวา่ รปู แบบของปา่ นิเวศ ที่ไดร้ เิ ร่ิมทาน้ีจะขยายตัวเติบโตค่ไู ปกบั ความ เจรญิ ในเมืองใหญไ่ ดอ้ ย่างกลมกลืน ปตท. ไดว้ างวตั ถุประสงคท์ ี่ชดั เจนในการพัฒนาพ้ืนท่โี ครงการ ปา่ ในกรุง 12 ไร่ แห่งน้ี ใหเ้ ป็นปา่ ในเมืองแหง่ แรกของ ปตท. ที่มีการสร้างและบรหิ ารจดั การอย่าง

เหมาะสมโดยตอ้ งนาไปสกู่ ารสรา้ งความสมั พันธ์ท่ียง่ั ยนื ระหว่างป่าและเมอื ง วางเปา้ หมายให้ โครงการน้เี ป็นแหล่งเรียนรู้แนวทางการปลกู ป่าตามวิถี ปตท.ซ่ึงเป็นประสบการณ์ความรู้ท่ีเกิดจาก โครงการปลกู ป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติฯ ๑ ลา้ นไร่ ให้แก่ ประชาชน นิสิต นักศึกษา และนักเรียนท่ี สนใจ ปจั จบุ ันโครงการฯ ได้เข้ารว่ มเกณฑก์ ารประเมินอาคารประหยัดพลงั งาน และเปน็ มิตรต่อ สิ่งแวดล้อม LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ของหนว่ ยงาน USGBC (US Green Building Council) ซ่งึ ระดับคะแนนทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ อยูใ่ นระดับ Platinum ชนิดพันธุ์ไม้ทีใ่ ชป้ ลกู ในโครงการ

สัดสว่ นของพืน้ ทแี่ บง่ เป็น พน้ื ที่ป่า 75% (จานวน 9 ไร)่ พนื้ ท่ีนา้ 10% (จานวน 1.2 ไร่) พ้นื ท่ีใช้ งาน 15% (จานวน 1.8 ไร่) ในพ้นื ท่มี กี ารจดั สรรใหม้ ีพนั ธุ์ไมต้ ามลักษณะปา่ ชนดิ ต่างๆ เช่น ป่าดิบ ทีล่ ่มุ ปา่ เบญจพรรณ ป่าเตง็ รงั ป่าน้ากร่อย ป่าชายเลน ป่ารอบนา้ ตก/เขาหนิ ปูน ซึง่ ความ หลากหลายของพันธไุ์ มท้ ่ใี ช้ปลูกมที ัง้ พันธุไ์ มห้ ายาก พนั ธ์ไุ ม้พนื้ เดมิ ของกรงุ เทพมหานคร และพันธ์ุ ไมป้ า่ ตามประเภทปา่ ชนิดตา่ งๆ มจี านวนกวา่ 200 ชนดิ เชน่ กรวยป่า กระเจียว ขันทองพยาบาท พระเจา้ หา้ พระองค์ แคแสด จนั ทน์ชะมด ชุมแสง ชามะเรยี ง เต็งรงั ตะเคียนทอง มะกอกน้า มะ เม่า สะตือ นุ่น สมพง ยางนา เหยี ง ฉนวน จนั -อิน สมอไทย ทองพันช่าง เป็นต้นนอกจากนน้ั ยังมี การบริหารจดั การระบบนา้ สาหรับใช้ในพ้นื ท่ีโครงการ โดยสดั ส่วนพืน้ ทีข่ องน้า 10% (จานวน 1.2 ไร)่ เพือ่ รองรับปริมาณน้าฝน และเกดิ ระบบนิเวศอยา่ งครบวงจรของสง่ิ มชี ีวิต

สาระความรูใ้ นอาคารนิทรรศการ จุดท่ี 1 : หอ้ งภาพยนตร์ส้ัน  ภาพยนตร์สั้น เป็นเรอ่ื งราวของ “ครอบครัวไม้” ท่ปี ลูกฝังตระหนกั เกีย่ วกบั ธรรมชาตจิ ากป่าในกรงุ และมีแรงบันดาลใจในการสง่ ต่อทศั นคตใิ นการเปล่ียนโลกให้เป็นสเี ขยี วไปยงั คนอนื่ ๆ จุดที่ 2 : ผนังดินบดอดั และนทิ รรศการเมลด็ พนั ธุ์ไม้  ผนังดินบดอัด

เป็นอกี จุดยอดนยิ มสาหรับการถา่ ยภาพ อีกทง้ั ผนงั ดนิ ยงั เปน็ ฉนวนกนั ความรอ้ นใหก้ บั ตวั อาคาร เปน็ เทคนิคการกอ่ สร้างโดยใชว้ ัสดดุ นิ ธรรมชาติ ซึ่งเป็นฉนวนกันความรอ้ น ซึ่งการออกแบบนี้อยู่ภายใต้ มาตรฐานอาคารอนรุ กั ษ์พลังงานดเี ด่นตามมาตรฐาน LEED ภายใตก้ ารรับรองของ สภาอาคารเขยี ว สหรฐั อเมรกิ า 1. ลกั ษณะพิเศษคอื มปี ีก 2. เมลด็ ไมพ้ ชื ชายน้า ลกั ษณะพเิ ศษคอื เล็กและมนี ้าหนกั เบา 3. เมล็ดไมท้ ่ีเป็นอาหารและสมุนไพร สามารถรบั ประทานได้ 4. เมลด็ ไมผ้ ลัดใบ เป็นเมล็ดไม้ของกลมุ่ พืชทม่ี ีการผลดั ใบในชว่ งฤดแู ล้ง 5. เมลด็ พันธไุ์ ม้ทอ้ งถ่ินไทย ควรคา่ แกก่ ารอนรุ กั ษ์ เปน็ ไม้ทมี่ ีถิน่ กาเนิด หรอื คน้ พบทปี่ ระเทศไทยเป็นท่ี แรก เช่น มะค่าแต้ เปน็ ตน้ 6. เมล็ดไมเ้ ศรษฐกจิ เชน่ สกั พะยงู เป็นตน้ 7. เมลด็ ไมย้ นื ต้นทีม่ ดี อกสวยงาม เชน่ ราชพฤกษ์ กลั ปพฤกษ์ เปน็ ตน้ 8. เมลด็ ไมพ้ ืชนา้ กร่อย เป็นกลุม่ พืชทส่ี ามารถเจริญเตบิ โตอย่ใู นบรเิ วณทม่ี คี วามเค็ม

จุดที่ 3 : ห้องนิทรรศการ หอ้ งนิทรรศการจะแบง่ ออกเป็น 3 สว่ นหลกั คอื สว่ นแรก นาเสนอเร่ืองราวการขยายตวั ของเมอื งใหญ่ และผลกระทบที่เกดิ ขึน้  การขยายตวั ของเมอื งใหญแ่ ละผลกระทบท่ไี ด้รับ (การปลดปล่อยกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด,์ เกาะ ความร้อน การกัดเซาะชายฝง่ั , มาตรฐานพ้นื ท่สี เี ขียว, ประโยชน์ของตน้ ไม้ 1 ต้น และความสมั พันธ์ ของป่า น้า ดนิ และมนุษย)์ สว่ นท่สี อง เปน็ ประโยชน์ของต้นไม้ เรอ่ื งราวป่าบางกอก หรอื ป่าดงั้ เดมิ ของกรงุ เทพ  ป่าบางกอก บรรยากาศ และวิถีชวี ติ ของคนในกรงุ เทพในอดตี (ปา่ น้ากร่อย, ปา่ ดบิ ลมุ่ และภาพยนตร์ สั้นเร่อื งของยายกับหลาน) สว่ นท่ีสาม เรอ่ื งราวการปลกู ปา่ ของ ปตท. และองค์ความรตู้ ่างๆ  Timeline การปลกู ปา่ ของ ปตท.  นิทรรศการเจา้ ฟา้ นกั อนรุ ักษ์ และ 3 องค์ความร้หู ลกั (ทฤษฎกี ารพฒั นาฟ้นื ฟปู ่าไมจ้ ากพระราชดาริ, ผืนปา่ 1 ลา้ นไร่ของ ปตท. และทฤษฎกี ารปลกู ปา่ ของ ศ.ดร.อาคิระ มิยาวาก)ิ

“ปา่ ในกรงุ ” จากทฤษฎีสร้างป่านเิ วศ… ศ.ดร.อาคริ ะ มยิ าวากิ หนึ่งในแนวคดิ และแรงบันดาลใจท่ี ปตท.ได้นามาประยกุ ต์สรรค์สรา้ งผนื ปา่ ในกรงุ ขนึ้ มากค็ อื “ทฤษฎปี ลกู ปา่ นเิ วศ” ของ “ศ.ดร.อาคิระ มิยาวากิ” ศาสตราจารย์เกยี รตคิ ุณมหาวิทยาลัยแหง่ ชาตโิ ยโกฮามา่ และ ผอู้ านวยการสถาบันการเรยี นรดู้ ้านนเิ วศวิทยานานาชาตปิ ระจาประเทศญป่ี ุ่น หลกั คดิ ทฤษฎนี ้ีได้ถูกนาไป ประยุกตใ์ ชก้ บั โครงการปลกู ป่าในพนื้ ทีเ่ มอื งจนประสบความสาเรจ็ แพร่หลายไปทว่ั โลกแล้วกว่า ๑,๕๐๐ แห่ง สาหรบั ความหมายของ “ปา่ นิเวศ” ตามแนวทางของ ศ.ดร.อาคิระ มยิ าวากิ น้นั “ดร.สริ ินทร์ แก้วละเอียด” ผเู้ ชย่ี วชาญการปลกู ป่านเิ วศของไทยไดก้ ลา่ วไว้วา่ คอื ป่าทีม่ นษุ ย์สร้างข้ึนเพื่อฟ้ืนฟปู ่าธรรมชาติ โดยมหี ลกั การ คือพันธ์ุไมท้ ่ีปลกู ต้องเป็นพันธ์ไุ ม้ทอ้ งถิ่นด้ังเดมิ ในพ้นื ท่ี ตอ้ งเตรยี มกลา้ ไมม้ าเพาะชาในถงุ เพือ่ ให้ระบบราก แข็งแรงก่อนนากล้าไมล้ งไปปลกู ในดินและต้องปลูกพนั ธไ์ุ มห้ ลากหลายชนดิ ปะปนกันแบบส่มุ (random) และ ให้เสมอื นอยใู่ นธรรมชาติ ไม่ปลกู เป็นแถวเปน็ แนวท่ีเปน็ ระเบียบ โดยพันธุ์ไมท้ ่ีปลูกต้องมหี ลายระดบั ท้ังไมย้ นื ตน้ (tree) ไม้พุ่ม (shrub) และไมพ้ ้นื ล่าง (herb) ผสมผสานกบั เทคนิคพเิ ศษบางอย่างในการปลูก เชน่ การสรา้ งเนินดินทมี่ สี ว่ นผสมของปุย๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมัก การนากลา้ ไมจ้ มุ่ นา้ การคลมุ ดว้ ยฟางข้าว จดุ เด่นของการปลกู ป่านเิ วศ ตามหลักของ ศ.ดร. อาคริ ะ มยิ าวากิ • ปา่ ปลูกเจรญิ เตบิ โตและฟ้ืนฟูได้อย่างรวดเรว็ • ฟืน้ คนื ความหลากหลายทางชีวภาพให้เป็นสภาพป่าดงั้ เดมิ • ปลกู ไดใ้ นพน้ื ท่จี ากดั

เส้นทางชมผืนปา่ กับนวตั กรรมการเรยี นรูย้ คุ ใหม่ Sky Walk และ Observation tower ทา่ มกลางความร่มเย็นของผืนปา่ ในกรงุ ทเ่ี กดิ จากพรรณไมห้ ลายร้อยชนิดนับหมนื่ ต้นทมี่ คี วามสงู ต่าแตกตา่ ง กันไปนน้ั ในดา้ นหน่งึ ผนื ป่าแหง่ นไี้ ดท้ าหน้าทเ่ี ป็นสว่ นหนงึ่ ของระบบนเิ วศในการสร้างความสมดลุ ใหแ้ ก่ สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ ไม่วา่ จะเปน็ การดดู ซบั กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยสร้างออกซเิ จนหรอื เปน็ ปอด แหง่ ใหม่ของกรงุ เทพมหานครแลว้ ยังเป็นเสมือนบ้านหลังใหญส่ าหรับอกี หลายชวี ติ ทงั้ นก แมลง สัตวเ์ ล้ยี งลกู ด้วยนมขนาดเล็ก รวมถึงสตั วน์ า้ อีกส่วนหนึง่ บทบาททส่ี าคญั อยา่ งหนง่ึ ที่ต้องยกไว้เป็นความพเิ ศษ ยิง่ กวา่ ก็คอื การทาหน้าที่เป็นแหล่งเรยี นรู้ของชาวเมืองหลวงใหไ้ ดร้ ูจ้ กั และไดส้ ัมผสั หลากหลายชนดิ พนั ธ์ุของตน้ ไม้ ระบบ นิเวศปา่ ไม้ ท้งั ในด้านชวี วทิ ยา รวมไปถงึ คุณค่าของทรัพยากรป่าไมท้ ง้ั ด้านนันทนาการ และการพทิ กั ษ์สภาพ แวดล้อมใหส้ ะอาดสดใสสาหรับวถิ ีความเป็นอยทู่ ีด่ ขี องคนในเมอื ง แน่นอนว่าภารกจิ สาคญั ของผืนป่าในกรุง แห่งนีย้ อ่ มอยู่ทคี่ วามสาเรจ็ ในการปลกู ฝงั แนวคดิ ตามนยั ยะ “การปลูกป่าในใจคน” เพราะเมือ่ คนร้จู กั ต้นไม้ รู้จักป่า และตระหนกั ถงึ คุณคา่ ของผืนป่าแลว้ ยอ่ มหมายถึงพ้นื ท่สี เี ขียวที่จะเพมิ่ ขน้ึ ในอนาคต เอกลกั ษณท์ ีส่ าคญั ของป่าในกรงุ จึงอยู่ที่การเรียนรนู้ เิ วศวิทยาป่าไม้ที่เป็นธรรมชาตเิ ป็นสังคมป่าทปี่ ระกอบดว้ ย พรรณไมท้ ม่ี ีระดบั ความสงู ต่าแตกต่างกนั ไป มีไม้ช้ันเรือนยอดชั้นบน ไมช้ น้ั กลาง รวมไปถงึ ไม้ช้นั ล่าง จาก ลกั ษณะความสงู ต่าของตน้ ไม้เฉกเช่นผนื ปา่ ธรรมชาติน้เี อง ทาให้ ปตท. ไดส้ ร้างเทคนิควธิ ีทถ่ี อื เปน็ นวตั กรรม สาหรับการเรียนรสู้ ังคม ปา่ ไม้เพอ่ื สรา้ งเสริมประสทิ ธภิ าพและเอาชนะอปุ สรรคการศึกษาเรียนรนู้ เิ วศวิทยาปา่ ไม้ดว้ ย เสน้ ทางเดินชมเรอื นยอด (sky walk) และหอชมป่า (observation tower) นทิ รรศการป่าในกรงุ ภายนอกจัดอยู่ในพื้นท่โี ซน ๖ ทถ่ี ือเปน็ นวัตกรรมแห่งการเรยี นรู้ และเป็นพพิ ธิ ภณั ฑท์ างนเิ วศวิทยากลางแจง้ ทเี่ กิดขึน้ ครง้ั แรกในเมอื งหลวงของประเทศไทย ผมู้ าเยือนจะไดส้ ัมผัสกบั ระบบป่านิเวศอยา่ งใกล้ชิดในสอสถานี โดยมีปา้ ยสอ่ื ความหมายตดิ ต้งั กากับ บอกเลา่ และถา่ ยทอดความนา่ สนใจของสังคมพชื ทหี่ ลากหลายใน ประเทศไทยทง้ั 7 จดุ 9 ประเภทสงั คมป่าทปี่ ลกู อยู่ บนเนินดินในระดับความสงู ระหวา่ ง ๑ - ๔ เมตร ทัง้ หมด 12 เนนิ แวดล้อมดว้ ยนา้ ตกสวย และลาธารคดเคี้ยวท่ไี หลเวยี นใหค้ วามช่มุ ชนื้ อยใู่ นพ้นื ที่ ในมุมมองจาก เส้นทางเดนิ ชมเรอื นยอดท่ีมีความยาวทัง้ ส้นิ 200 เมตร โดยผู้เขา้ เยยี่ มชมไมต่ ้องเหยียบย่าไปบนพื้นที่ ป่าด้านลา่ งแต่อยา่ งใดเส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) ภายใน “โครงการป่าในกรงุ ” ได้รบั การออกแบบ ประกอบไปดว้ ย จดุ ชมวิว A ซึง่ มีพน้ื ที่ 20 ตารางเมตร มคี วามสูงจากระดบั ถนน 4.87 เมตร จุดชมวิว B มี พืน้ ที่ 20 ตารางเมตร สูงจากระดับพ้นื 10.20 เมตร จดุ ชมววิ C เปน็ ช่วงทางเดินทีถ่ กู ขยายพื้นท่ีใหม้ คี วาม กว้างขนึ้ เปน็ 2.5 เมตร และ จุดชมววิ D มีพื้นท่ี 16 ตารางเมตร สงู จากระดับพ้นื ดนิ ๗.๕๓ เมตร เส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk) มโี ครงสรา้ งเป็นเสาเขม็ เจาะ ไดมเิ ตอรข์ นาด ๓๕ เซนตเิ มตร ความยาว ลกึ ลงไปในดิน ๒ ๑ เมตร โครงสร้างคานใช้วัสดุเหลก็ H-Beam ออกแบบเสาทางเดนิ เป็นเหลก็ กลมให้มีขนาด เล็กทีส่ ุด ทาสใี หก้ ลมกลืนกบั ต้นไม้ในผืนป่า บันไดใช้วสั ดเุ หลก็ ฉาก และใช้ไมเ้ ทยี มปูภายนอกอย่างสวยงาม ใน ส่วนของพน้ื ทางเดนิ ถกู ออกแบบใหด้ ูเบา บาง เพือ่ ใหเ้ กดิ การพรางตวั โครงสรา้ งกลมกลนื เปน็ หนง่ึ เดยี วกบั สภาพปา่ โดยรอบและใชไ้ ม้เทียมสีธรรมชาติปเู ป็นพนื้ ทางเดนิ เส้นทางเดินชมเรือนยอด (sky walk)

ออกแบบใหผ้ มู้ าเยือนสามารถเดนิ เชื่อมตอ่ เข้าไปยงั หอชมปา่ (observation tower) ทม่ี ีความสูง 23 เมตร โครงสร้างใชเ้ สาเขม็ เจาะไดมิเตอรข์ นาดและความยาวเดยี วกันกบั เส้นทางเดินชมเรอื นยอด จานวน 11 ตน้ เป็นสถาปัตยกรรมรูปทรงกระบอกทดี่ ้านบนสอบเขา้ เลก็ น้อยเพ่อื ใหเ้ กิดความโปร่ง เบา บางสามารถพราง โครงสร้างไปกับปา่ ไดอ้ ย่างดที สี่ ดุ วัสดทุ ี่ใช้สรา้ งหอชมปา่ ประกอบดว้ ยเหลก็ H-Beam เหล็กกลม เหลก็ ฉากตวั แอลและใชไ้ ม้แบบธรรมชาตเิ ปน็ โครงสรา้ งเสรมิ โดยมบี นั ไดวนขน้ึ เป็นเหล็ก Plate และราวจบั แบบเหล็กกลม โดยทางเดนิ ชมเรือนยอด และหอชมปา่ ไดร้ ับการออกแบบให้จากัดผขู้ ้นึ ชมตอ่ หนงึ่ รอบครง้ั ละไมเ่ กิน 30 คน โดยสามารถรองรบั นา้ หนักของเฉลีย่ 1,500 กิโลกรมั แหลง่ ศกึ ษาเรียนรู้ “โครงการป่าในกรงุ ” ผา่ นมุมมองและการสมั ผสั จากเสน้ ทางเดินชมเรอื นยอด และหอชมป่า นบั เปน็ เส้นทางศกึ ษาธรรมชาติระบบ นิเวศป่าไม้ท่ใี หม้ มุ มองความแตกต่างท่ีนา่ ตืน่ ตาตื่นใจและไดอ้ รรถรส ซึง่ แน่นอนวา่ นบั แต่นี้ไป “ป่าในกรงุ ” จะ กลายเปน็ สญั ลกั ษณ์ทรงคณุ คา่ ในฐานะแหล่งเรยี นรู้ด้านทรพั ยากรปา่ ไมใ้ จกลางกรงุ เทพมหานคร ท่อี ยูใ่ นใจคน เมืองหลวงและจดุ ประกายความคิดดา้ นการอนุรกั ษป์ า่ อย่างยั่งยนื ได้ตลอดไป

แบบแปลนแสดงตาแหน่งสังคมพืชแต่ละประเภท แนวเสน้ ทางเดนิ ชมเรือนยอด Sky Walk และหอชมป่า Observation Tower

การออกแบบสงิ่ กอ่ สร้าง \"ศูนยเ์ รียนรู้ป่าในกรุง\" การออกแบบอาคารและส่ิงก่อสร้างในพืน้ ท่ี รวมถึงเสน้ ทางทางเดนิ ชมเรอื นยอดและหอชมปา่ เพอื่ การใช้ งานสาหรบั การศึกษาเรยี นรู้นั้น คดิ เป็นสัดส่วนพ้นื ที่ราว 15% โดยการออกแบบอาคารใหม้ ี “ความกลมกลืน กบั สภาพแวดล้อม” และเพอื่ เปน็ “ต้นแบบของนวตั กรรมอาคารเขียว” เนน้ ความกลมกลนื กบั สภาพแวดล้อม เชน่ เมือ่ มองจากมมุ สงู จะพบวา่ อาคารกลมกลนื กบั ธรรมชาตมิ ลี กั ษณะเหมอื นลาต้นของต้นไม้ และหลงั คาเปน็ สวนเพื่อความกลมกลนื ไปกบั ป่า นอกเหนือจากการออกแบบอาคาร ในกระบวนการกอ่ สรา้ ง คดั เลือกวสั ดุ ต่างๆ มุ่งเนน้ ผลิตภณั ฑแ์ ละวัสดทุ ่คี านงึ ถงึ สงิ่ แวดล้อม ประหยดั พลงั งาน และเปน็ เทคโนโลยสี เี ขียว (Green Technology) การทาผนงั อาคารด้วยวัสดุดนิ บดอดั (Rammed Earth) เปน็ วสั ดทุ ่มี าจากดินธรรมชาติ ซึง่ ใหค้ า่ สที ่ีแตกตา่ งกันจากองคป์ ระกอบของธาตุในดนิ เชน่ ดินสีแดงเกิดจาก สารประกอบออกไซด์ของเหลก็ ดินดาเกดิ จากสารประกอบอินทรยี วตั ถุตา่ งๆ หรือดินมสี ีอ่อนอาจจะแสดงวา่ เปน็ ดินทเ่ี กดิ มาจากวัตถุตน้ กาเนดิ ดินพวกทสี่ ลายตัวมาจากหินที่มีแร่สจี างเป็นองค์ประกอบ เฉดสดี งั กล่าวมี ลกั ษณะสสี นั ทม่ี ีความเป็นธรรมชาตสิ งู กลมกลืนกับสภาพแวดลอ้ ม การนาดินมาทาเป็นผนงั มีประโยชน์ใน เร่ืองการต้านทานความรอ้ นสูง ซ่ึงเปน็ การช่วยกนั ความรอ้ นเข้าสู่ตวั อาคาร และลดภาระการทาความเยน็ จาก เคร่ืองปรบั อากาศ นอกจากน้ันยงั มีสสี รรสวยงามตามความแตกต่างกันของดนิ และแหล่งทม่ี า ประกอบด้วย 1) สแี ดงเขม้ จากแหลง่ ดนิ อาเภอปากท่อ จงั หวดั ราชบรุ ี 2) สสี ้มจัด จากแหล่งดิน อาเภอปากทอ่ จงั หวดั ราชบรุ ี 3) สสี ม้ อมเหลือง จากแหลง่ ดนิ อาเภอวงั จันทร์ จงั หวัดระยอง 4) สคี รมี จากแหลง่ ดิน อาเภอพนัสนคิ ม จังหวัดชลบุรี 5) สีขาว จากแหลง่ ดิน อาเภอพนมสารคาม จงั หวัดฉะเชงิ เทรา

หลงั คาเขียว สวนบนหลังคา เสมอื นการติดต้งั ฉนวนกนั ความรอ้ นเหนอื ฝา้ และใตห้ ลงั คา ซ่ึงเป็นการชว่ ยกันความ รอ้ นเขา้ สตู่ วั อาคาร รวมถงึ มีความกลมกลนื รว่ มไปกบั พ้นื ทห่ี ากมองจากมมุ สงู การใช้วัสดทุ เ่ี ปน็ มิตรตอ่ ส่งิ แวดล้อมและประหยัดการใชพ้ ลงั งาน ศูนยเ์ รียนรปู้ ่าในกรงุ ใหค้ วามสาคญั ตอ่ การวงจรชวี ิตของวสั ดตุ า่ งๆ ทใี่ ช้ในโครงการโดยวสั ดุที่นามาใช้ ต้องสามารถผลิตไดภ้ ายในประเทศ มกี ารแปรรปู ที่นอ้ ย เพอื่ ลดการใชพ้ ลงั งานในการผลิต และขนส่งนาเขา้

สินค้า เช่น อฐิ บล็อกประสานทาจากดนิ , ไม้ไผ่ รวมถงึ เลือกใช้วัสดุที่กอ่ เกดิ มลพิษนอ้ ย และควบคุมมลพษิ จาก ภายนอกทจ่ี ะเขา้ สู่อาคาร เช่น ตดิ ตง้ั พรมดักฝนุ่ หนา้ ประตูทางเขา้ และแผ่นกรองอากาศประสทิ ธภิ าพสงู การควบคุมสภาพแวดล้อมภายนอก ส่งเสริมใหใ้ ชจ้ กั รยานในพน้ื ท่ี โดยจัดใหม้ พี น้ื ทจ่ี อดจกั รยานอยา่ งเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย สง่ เสรมิ ใหผ้ ใู้ ชง้ าน อาคารเลอื กใช้รถยนตท์ ป่ี ระหยัดพลังงาน ลดการปลอ่ ยมลภาวะ และเดินทางร่วมกนั โดยจดั ให้มที จ่ี อดรถ สาหรับรถประหยัดพลงั งาน หรอื ลดทมี่ ีการปล่อยมลภาวะนอ้ ย เชน่ Eco Car, Electric Vehicle เป็นต้น อกี ทง้ั มจี ดุ จอดสาหรับรถยนต์ประเภท Car pool นอกจากน้มี กี ารติดตัง้ PV Cell เพือ่ ผลติ พลงั งานไฟฟา้ ทดแทน ใหก้ ับอาคารขนาด 14 กิโลวตั ตส์ งู สุด (kWp) หรอื 16,800 กิโลวตั ตช์ ัว่ โมงตอ่ ปี (kWh/yr) การออกแบบพื้นทจี่ ัดแสดงนิทรรศการ อาคารนทิ รรศการเป็นอาคารหลงั เดยี วของโครงการฯ น้ี ซึ่งมรี ูปแบบทเ่ี รยี บงา่ ยและออกแบบให้มีการ เชอ่ื มต่อกบั ผืนปา่ ท่ีอยภู่ ายนอก มอี งคป์ ระกอบและการออกแบบเปน็ ไปตามเกณฑ์ของ LEED ระดบั Platinum นอกจากนน้ั อาคารหลงั นสี้ รา้ งด้วยวสั ดุธรรมชาตทิ ี่ใช้เทคโนโลยีท่ีทันสมยั ให้เกิดความแขง็ แรง ทนทาน ดแู ลรักษาได้ง่าย รองรบั การใชง้ านไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

แหล่งนา้ โครงการฯใหค้ วามสาคัญต่อการสรา้ งแหลง่ น้ารวมเนอื้ ท่ี 1.2 ไร่ (คิดเป็น 10% ของพน้ื ทท่ี ั้งหมด) โดยเฉพาะ ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์ของพืน้ ทร่ี าบล่มุ บรเิ วณกรุงเทพมหานครนั้น มโี อกาสทจี่ ะไดร้ ับปรมิ าณน้าหลากตาม ฤดูกาลในทุกปี ปา่ ในกรงุ จงึ ออกแบบพ้นื ทร่ี บั นา้ เปน็ ลักษณะเป็นวงรอบพ้นื ทีป่ ่า โดยออกแบบให้มรี ะดบั ความ ลกึ ท่ตี า่ งกันเพอ่ื ชว่ ยในการหมุนเวยี นนา้ สร้างความชมุ่ ช้ืนแกพ่ น้ื ท่ีปา่ ลดปัญหาน้าทว่ มขงั ภายในพื้นท่ี ก่อให้เกิดบรรยากาศทส่ี วยงามเป็นธรรมชาติ รวมถงึ ใช้การปลกู พชื นา้ และหญ้าแฝกในการรักษาหนา้ ดนิ เพอื่ ปอ้ งการทรดุ ตัวพังทลายของพน้ื ท่ีรอยตอ่ ระหว่างเนนิ ดินและน้า และยังได้สร้างนา้ ตก (Water Fall) ทาใหม้ ี มมุ มองท่ีใกลช้ ดิ กับธรรมชาติ รวมถงึ ช่วยในเรอ่ื งระบบการหมนุ เวยี นน้า