เทคโนโลยสี ารสนเทศใน ชวี ิตประจําวนั อ.ยทุ ธนา นุ่นละออง
การนาเทคโนโลยีสารสนเทศเขา้ มาชว่ ยปฏบิ ัตงิ านในด้านต่าง ๆ อย่างมปี ระสทิ ธผิ ล มีมากมาย หลายด้าน ไดแ้ ก่ 1. การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในงานสํานักงาน 1.1 งานจัดเตรียมเอกสาร เปน็ การใช้เครอื่ งประมวลผลคําหรอื เครอื่ งประมวลผลเนอ้ื หา เป็น เคร่ืองมือในการจัดเตรยี ม อุปกรณป์ ระกอบการใช้เทคโนโลยีเหลา่ นไ้ี ด้แก่ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ โมเดม็ และชอ่ งทางการสอื่ สาร ระบบประมวลผลคํา แบ่งออกได้ 2 ระบบ คือ 1.1.1 ระบบเดีย่ ว (Stand – alone) เปน็ ระบบทส่ี ามารถประมวลผลได้ภายในคอมพิวเตอร์ ชดุ เดียว หรอื จะเชื่อมโยงไปยังคอมพวิ เตอร์อนื่ ๆ 1.1.2 ระบบเชอื่ มโยงกบั ขา่ ยการส่อื สาร เป็นระบบทม่ี กี ารเชื่อมโยงสารสนเทศซึง่ กนั และกัน ผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม เชน่ เครอื ข่ายโทรศพั ท์ เครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์
1.2 งานกระจายเอกสาร เป็นการกระจายขอ้ มูลสารสนเทศไปยงั ผู้ใช้ ณ จดุ ต่าง ๆ อาจกระทาํ โดย การเช่ือมโยงผ่านเครือข่ายโทรคมนาคม อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศทีส่ ามารถปฏบิ ัติงานกระจาย เอกสารไดโ้ ดยอัตโนมตั ิ ไดแ้ ก่ ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ 1.3 งานจัดเกบ็ และคน้ คืนเอกสาร สามารถทําได้ทัง้ ระบบออฟไลน์และระบบออนไลนผ์ ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์ หรือผา่ นเครอื ข่ายโทคมนาคมรปู แบบอ่ืน เชน่ ระบบฐานขอ้ มลู เปน็ ตน้ 1.4 งานจดั เตรียมสารสนเทศในลักษณะภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศทใี่ ชด้ าํ เนนิ งานดงั กลา่ ว ได้แก่ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เครอ่ื งสแกนเนอร์ โทรทศั น์ 1.5 งานสื่อสารสนเทศดว้ ยเสยี ง เชน่ โทรศัพท์ การประชมุ ทางโทรศัพท์ 1.6 งานสอ่ื สารสนเทศดว้ ยภาพและเสียง เชน่ ระบบมัลติมเี ดีย ระบบการประชมุ ทางไกลดว้ ยภาพ และเสียง เปน็ ต้น
2. การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในงานอุตสาหกรรม โรงงานอตุ สาหกรรมนาํ เทคโนโลยี สารสนเทศเพือ่ การจัดการเข้ามาช่วยในการจัดการระบบงานการผลิต การส่งั ซ้อื การพัสดกุ ารเงิน บุคลากร และงานดา้ นอื่น ๆ ในโรงงาน 3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานการเงนิ และการพาณชิ ย์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศใน รปู แบบของเครือ่ งเบิกถอนเงินอัตโนมตั ิ เพ่ืออาํ นวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงนิ และนํา คอมพิวเตอรร์ ะบบออนไลน์และออฟไลน์เขา้ มาช่วยในการทาํ งานประจําวนั ของธนาคารด้วยการ เชือ่ มโยงขอ้ มลู ของธนาคารตา่ งสาขา ตา่ งธนาคาร ทําใหผ้ ใู้ ชบ้ รกิ ารสามารถเบกิ ถอน โอนเงินชาํ ระเงิน ค่าใชจ้ า่ ยต่าง ๆ ได้ 4. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานด้านการส่ือสาร ไดแ้ ก่ การบรกิ ารโทรศัพทว์ ทิ ยุ โทรทัศน์ เคเบลิ ทวี ี การคน้ คืนสารสนเทศระบบออนไลน์ ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสอ่ื สารรว่ มระบบดจิ ิตอล
5. การประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในงานด้านสาธารณสุข เช่น 5.1 ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล ถกู นาํ มาใชใ้ นระบบงานเวชระเบยี น ระบบข้อมูลยา การรกั ษาพยาบาล การคิดเงิน รวมทง้ั การสง่ เวชระเบียนผ่านระบบโทรคมนาคมทอ่ี าจเรยี กวา่ โทรเวชได้ 5.2 ระบบสาธารณสขุ เทคโนโลยสี ารสนเทศถกู นาํ มาใชใ้ นการดแู ลรักษาโรคระบาดใน ท้องถน่ิ เชน่ เมอื่ มผี ปู้ ว่ ยโรคอหิวาตกโรคในหมบู่ า้ น ซง่ึ อาจกลายเป็นโรคระบาดได้ 5.3 ระบบผเู้ ชย่ี วชาญ เปน็ ระบบทใี่ ชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการวนิ จิ ฉัยโรค เชน่ ระบบ Mycin ของ มหาวิทยาลัยสแดนฟอรด์ โดยเริ่มมาใช้ในการวินิจฉัยโรคพืชและโรคสตั ว์ ทีใ่ ช้หลักการเกบ็ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ไว้โดยละเอยี ดแล้วใช้หลกั ปญั ญาประดิษฐ์เขา้ มาช่วยวเิ คราะห์ เปน็ แนวคิดในการ ทําใหค้ อมพิวเตอร์ทํางานได้เหมอื นมนษุ ย์
6. การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศกับงานด้านการฝกึ อบรมการศกึ ษา ดงั น้ี 6.1 การใชค้ อมพิวเตอรช์ ่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นการนําเอา คําอธบิ ายบทเรยี นมาบรรจุไวใ้ นคอมพวิ เตอร์ แล้วนาํ บทเรยี นน้ันมาแสดงแก่ผ้เู รียน เมอ่ื ผเู้ รียนอา่ น คาํ อธบิ ายเหลา่ นน้ั คอมพวิ เตอรจ์ ะมสี ว่ นทีใ่ ช้ทดสอบความเข้าใจของผ้เู รียนดว้ ยวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ หากเขา้ ใจไม่ถูกตอ้ งคอมพวิ เตอรจ์ ะทําการอธบิ ายเนอ้ื หาเพม่ิ เติมให้เขา้ ใจมากขนึ้ แลว้ ถามซ้ําอีก 6.2 การศึกษาทางไกล เทคโนโลยสี ารสนเทศท่ใี ช้ในการจัดการศึกษาทางไกลมหี ลายแบบต้งั แต่ แบบง่าย ๆ เช่น การเรยี นการสอนผ่านสอ่ื วทิ ยุ โทรทศั น์ ออกอากาศให้ผเู้ รียนศกึ ษาเอง ตามเวลาที่ ออกอากาศ ไปจนถงึ ใชร้ ะบบแพร่ภาพการสอนผา่ นดาวเทียม หรือการประยกุ ตใ์ ชร้ ะบบประชมุ ทางไกล โดยผ้สู อนและผเู้ รยี นสามารถส่ือสารถงึ กนั ได้ทันที่ เพ่อื สอบถามขอ้ สงสัยหรอื อธิบายคาํ สอน เพิ่มเตมิ
6.3 เครือข่ายการศกึ ษา เปน็ การจัดทาํ เครือขา่ ยการศึกษาเพื่อให้ครูอาจารยแ์ ละนักศึกษามีโอกาส ใชเ้ ครอื ข่ายเพื่อแสวงหาความรทู้ ี่มีอยมู่ ากมายในโลก และใช้บรกิ ารต่าง ๆ ทเี่ ป็นประโยชนท์ าง การศึกษา เช่น บรกิ ารส่งจดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronics Mail : E-mail) การเผยแพรแ่ ละ ค้นหา ข้อมูลในระบบเวลิ ดไ์ วดเ์ วบ็ (World Wide Web) 6.4 การใชง้ านในหอ้ งสมดุ มกี ารนาเทคโนโลยสี ารสนเทศเขา้ มาใชใ้ นการดาเนนิ งานโดยมเี ครอื ขา่ ยต่าง ๆ ทใ่ี หก้ ารส่งเสรมิ สนบั สนุนในการใหบ้ รกิ ารหอ้ งสมดุ การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใชใ้ นหอ้ งสมดุ ให้ ความสะดวกแก่ผูใ้ ชม้ ากข้นึ ไมว่ า่ จะเป็นบรกิ ารยมื คนื การคน้ หาหนงั สอื วารสาร ส่งิ พมิ พ์ หรอื การ คน้ หาขอ้ มลู ทต่ี อ้ งการทาไดอ้ ย่างสะดวกและรวดเรว็ มาก
6.5 การใชง้ านในห้องปฏิบตั ิการ มกี ารนําเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชใ้ นการทาํ งานใน ห้องปฏบิ ตั ิการรว่ มกบั อปุ กรณเ์ คร่ืองมืออ่นื ๆ เชน่ การจาํ ลองแบบ การออกแบบวงจรไฟฟา้ การ ควบคมุ การทดลอง 6.6 การใช้ในงานประจาํ และงานบริหาร เชน่ การจดั ทําทะเบยี นประวตั ิของนกั เรียน นกั ศกึ ษา การ เลือกวิชาเรียน การลงทะเบยี นเรยี น การแสดงผลการเรียน การแนะแนวอาชพี การแนะแนว การศึกษาตอ่ การเก็บข้อมูลผู้ปกครองหรอื ข้อมูลครู ซงึ่ ทําใหค้ รูอาจารยส์ ามารถตดิ ตามและดแู ล นักเรยี นได้ใกล้ชิดมากข้ึน รวมท้งั ครูอาจารยส์ ามารถพัฒนาตนเองได้สงู ขึน้
ความสําคญั ของสารสนเทศ สารสนเทศไดก้ ลายมาเปน็ ปจั จยั สาํ คญั ต่อการดาํ เนนิ ชีวิตของคนในสงั คมปจั จบุ ัน ในองคก์ รต่างๆ สารสนเทศได้กลายเป็นทรัพย์สินอันมีคา่ จนมีคํากล่าวว่าสารสนเทศ คือ อํานาจ (Information is power) ใครท่มี ีสารสนเทศมากก็จะสามารถควบคมุ หรือต่อรองได้ ฝา่ ยท่ีมีสารสนเทศมากกวา่ มกั จะไดเ้ ปรยี บคู่แขง่ เสมอ จนอาจนาํ ไปสู่ยคุ “ สงครามขอ้ มลู ข่าวสาร ” ได้ ดังนน้ั สารสนเทศจงึ มีประโยชนม์ ากมาย เช่น ชว่ ยลดความอยากรู้ คลายความสงสยั ชว่ ยแกป้ ญั หา ช่วยวางแผนและการตดั สนิ ใจได้อย่างถูกตอ้ ง สารสนเทศจึงช่วยพฒั นาบุคคล ช่วยการปฏิบัติงาน ชว่ ยใน การดําเนนิ ชวี ิต ซง่ึ สง่ ผลตอ่ การพัฒนาสงั คมและประเทศ สารสนเทศจึงมีความสาํ คัญตอ่ บคุ คล องคก์ ร และ สังคม ดงั น้ี
1 ความสาํ คญั ของสารสนเทศตอ่ บคุ คลและตอ่ องคก์ ร ในชีวติ ประจาํ วนั ไมว่ ่าจะเป็นการศึกษา การประกอบอาชพี หรือการดาํ รงชีพ สารสนเทศมี บทบาทตอ่ มนุษยม์ ากเกินกวา่ ทบ่ี างคนตระหนักถงึ ในด้านการปฏบิ ัตงิ านและในการจดั การ สารสนเทศท่ีถกู ตอ้ งนับเปน็ องคป์ ระกอบสําคัญโดยเฉพาะการแกป้ ญั หา การตัดสินใจ และการ ปฏบิ ัตงิ านใหบ้ รรลุวัตถปุ ระสงค์ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
2 ความสาํ คัญของสารสนเทศต่อสังคม สารสนเทศมคี วามสําคัญต่อสังคม 2 ดา้ น คอื ด้านการปกครอง และด้านการพัฒนา ด้านการเมอื งการปกครอง สารสนเทศจาํ เป็นต่อการดําเนินชีวติ และการตัดสินใจของประชาชนอัน เปน็ พน้ื ฐานของสังคม ผู้ปกครองจงึ ตอ้ งจัดการใหป้ ระชาชนทกุ คนสามารถเข้าถึงสารสนเทศที่ ต้องการได้ จงึ จะเกิดการบริหารท่ีโปร่งใส เป็นสงั คมประชาธิปไตย ไมเ่ กิดความวุ่นวาย ดา้ นการพฒั นา สารสนเทศมคี วามสาํ คญั ยง่ิ ทั้งในการเตรยี มแผนพัฒนาและการปฏิบตั ิตามแผน เชน่ สารสนเทศเกี่ยวกบั ชมุ ชน สารสนเทศเกย่ี วกบั สิง่ แวดล้อม สารสนเทศเก่ียวกับการเมืองการ ปกครอง สารสนเทศเกี่ยวกับเทคนคิ การแก้ปัญหา สารสนเทศเพื่อสนับสนุนงานวจิ ัยหรอื การ ประดิษฐซ์ ่ึงจะชว่ ยในการพัฒนาต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 11
Pages: