วเิ คราะห์ความยากงา่ รายวิชา ทกั ษะการประก
ายในการจัดการเรยี นรู้ กอบอาชีพ อช ๑๑๐๐๒
การวิเคราะหค์ วามยากงา่ ยในการจัดการเรียนรู้ สาระความรพู้ ื้นฐาน ประถมศกึ ษา จำ มาตรฐานการเรยี นรูร้ ะดบั -มคี วามรู ความเขาใจทักษะในอาชีพทีต่ ัดสนิ ใจเลือกบนพื้นฐานความรู กระบวนการผลติ ก -มีความรู ความเขาใจ และสามารถจัดทาํ แผนงานและโครงการธุรกิจ เขาสูตลาดการแขงข ของพื้นท่ตี ามลักษณะภมู ิอากาศ ศักยภาพของภูมปิ ระเทสและทาํ เลท่ีตง้ั ของแตละพ้ืนท่ี ศ ทรัพยากรมนุษยในแตละพน้ื ที่ และแนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อการมอี ยูมีก วิชา ตวั ช้วี ดั เนื้อหา ๑.ทักษะในการเขาสู 1.อธบิ าย ความจาํ เปนในการ เรอ่ื งที่ 1 ความจําเป็นในการฝ อาชพี ฝึกทกั ษะอาชพี กระบวนการ กระบวนการผลิต กระบวนกา ผลติ กระบวนการตลาดท่ใี ช นวัตกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม เทคโนโลยี เรอื่ งท่ี 2 ความหมาย ความส 2. อธิบาย ความหมาย จัดการอาชีพ ความสําคญั ของการจัดการ เรอื่ งที่ 3 แหล่งเรยี นรู้และสถ อาชีพและระบบการจดั การ เรื่องท่ี 4 การวางแผนในการฝ เพือ่ การเขาสูอาชีพ เรื่องท่ี 5 การฝึกทักษะอาชีพ 3.สํารวจแหลงเรยี นรู และ สถานทฝี่ กทักษะเพื่อการเขาสู อาชพี 4.วางแผนในการฝกทักษะ อาชพี
รายวชิ า ทักษะการประกอบอาชีพ อช ๑๑๐๐๒ ำนวน ๔ หน่วยกจิ (๘๐ ชั่วโมง ) กระบวนการตลาด ทใ่ี ชนวตั กรรม/เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสม ขนั ตามศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ศกั ยภาพของทรัพยากรธรรมชาติในแตละพืน้ ท่ี ศกั ยภาพ ศักยภาพของศิลปะวฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ีชวี ติ ของแตละพ้ืนที่ ศักยภาพของ กนิ ระดับความยากง่าย การจักการเรียนรู้ จำนวน ชัว่ โมง ยาก ปาน ง่าย สอน ชั้น กรต. กลาง เสริม เรียน ฝึกทกั ษะอาชีพ ✓ ✓ ๑๕ ารตลาดที่ใช้ ✓ ✓ สําคัญของการ ✓ ✓ ถานทฝ่ี ึกอาชีพ ✓ ฝึกทกั ษะอาชีพ ✓ พ ✓
วิชา ตัวช้ีวดั เนอ้ื หา ๒.การทาํ แผนธุรกจิ 1.วิเคราะหชุมชนโดยการระดม 1.การวิเคราะหชมุ ชน เพือ่ การเขาสูอาชีพ ความคดิ เหน็ ของคนในชุมชน - จุดแขง็ และกาํ หนดวิสยั ทัศน พนั ธกจิ - จดุ ออน รายได คานิยมของชมุ ชน - โอกาส เปาหมาย และกลยุทธ ตาม - อปุ สรรค ศักยภาพ 5 ดาน ไดแก ตามศักยภาพ 5 ดาน ไดแกศ ศกั ยภาพของทรพั ยากร ทรัพยากรธรรมชาติในแตละพ ธรรมชาติ ในแตละพ้ืนที่ ของพื้นทต่ี ามลักษณะภมู ิอาก ศกั ยภาพของพื้นที่ตาม ของภูมปิ ระเทศและทาํ เลที่ตง้ั ลกั ษณะภูมิอากาศศกั ยภาพของ ศกั ยภาพของศลิ ปะ วฒั นธรร ภมู ิประเทสและทําเลที่ต้ังของ วถิ ีชีวิตของแตละพน้ื ท่ีศักยภา แตละพ้นื ทศี่ ักยภาพของศิลปะ มนุษยในแตละพ้ืนที่ วฒั นธรรม ประเพณีและวถิ ชี ีวติ 2. การกําหนดวสิ ยั ทัศน พัน ของแตละพ้ืนที่ศักยภาพของ ค่านิยม เปาหมาย และกลยทุ ทรัพยากรมนุษยในแตละพ้นื ที่ กําหนดแผนธรุ กจิ ของชมุ ชน และแนวคิดปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ระดบั ความยากงา่ ย การจักการเรียนรู้ จำนวน ชั่วโมง ยาก ปาน งา่ ย สอน ชั้น กรต. กลาง เสริม เรยี น ๑๕ ✓ ✓ ศักยภาพของ ✓ ✓ พน้ื ที่ ศกั ยภาพ กาศ ศกั ยภาพ งของแตละพ้นื ที่ รม ประเพณีและ าพของทรัพยากร นธกจิ รายได ทธ ในการ
วชิ า ตวั ชี้วดั เน้อื หา ๓.การจดั การการผลติ 1.จดั การเกย่ี วกับการควบคมุ 1.การจดั การเก่ียวกับการควบ หรือการบรกิ าร คุณภาพ 2.การใชนวัตกรรมเทคโนโลย 2.อธบิ ายวิธีการใชนวัตกรรม 3.การลดตนทนุ การผลิตหรือก เทคโนโลยีในการผลิต 4.การจัดทําแผนการจดั การก 3.อธิบายข้นั ตอนการลดตนทุน บริการ การผลิตหรอื การบริการ 4.จดั ทาํ แผนการจัดการการ ผลติ หรือการบริการ ๔.การจดั การ 1.จัดการการตลาดเพื่อนํา 1.การจดั การการตลาด การตลาด ผลผลติ เขาสูตลาด - การโฆษณา 2.จดั ทาํ แผนการจดั การ - การประชาสมั พันธ การตลาด - การวจิ ยั ตลาด - การสงเสริมการขาย - การทําขอมลู ฐานลกู คา - การกระจายสินคา 2.การจดั ทําแผนการจัดการก ๕.การขับเคลือ่ นสราง 1.วิเคราะหความเปนไปไดของ 1.การวิเคราะหความเปนไป ธุรกิจ เพอ่ื เขาสูอาชีพ แผนปฏิบัติการ ไดของแผนปฏิบัตกิ าร 2.พัฒนาแผนปฏิบัตกิ าร 2.การพฒั นาแผนปฏบิ ัติการ 3.อธบิ ายขนั้ ตอนการขับเคล่อื น 3.ขนั้ ตอนการขบั เคล่ือนการ สรางธรุ กิจ สรางธุรกิจ 4.อธิบายปญหา อุปสรรค และ 4.ปญหา อปุ สรรค และ แนวทางแกไขท่ีเกดิ จากการ แนวทางแกไข ขับเคล่อื นธรุ กจิ
บคมุ คุณภาพ ระดับความยากง่าย การจักการเรยี นรู้ จำนวน ยีในการผลติ ชว่ั โมง การบรกิ าร ยาก ปาน งา่ ย สอน ชนั้ กรต. การผลิตหรอื การ เสริม เรียน ๑๕ กลาง ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ๑๕ การตลาด ✓ ✓ ✓ ✓ ๒๐ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓
แผนการสอนรายสปั ดาห์ รายวชิ า ทกั
กษะการประกอบอาชพี อช ๑๑๐๐๒
แผนการจดั การเรยี นร ระดบั ประ สาระการประกอบอาชีพ ทักษ วนั ที.่ ...................................เดอื น..................................... หัวเรื่อง ตวั ช้ีวดั เน้อื หา ขนั้ ตอนการ ๑.ทักษะในการเขา 1.อธบิ าย ความจําเปน เร่อื งที่ 1 ความจาํ เป็นใน ขนั้ ที่ 1 การ สูอาชีพ ในการฝึกทักษะอาชพี การฝึกทักษะอาชีพ ความต้องกา กระบวนการผลิต กระบวนการผลิต 1.1 ครูและ กระบวนการตลาดท่ีใช กระบวนการตลาดทีใ่ ช้ สภาพป นวัตกรรม เทคโนโลยี นวัตกรรม เทคโนโลยี การเรีย 2.อธิบาย ความหมาย เรอ่ื งท่ี 2 ความหมาย เขา้ สูอา ความสาํ คญั ของการ ความสําคญั ของการ 1.2 ครแู ละ จดั การอาชีพและระบบ จัดการอาชีพ และทำ การจดั การ เพื่อการ เรื่องท่ี 3 แหล่งเรยี นรู้และ ในการเ เขา้ สูอาชีพ สถานทฝ่ี ึกอาชีพ ขั้นที่ 2 แส 3.สํารวจแหลงเรยี นรู เรือ่ งท่ี 4 การวางแผนใน 2.1 เรยี นรูด้ และสถานที่ฝกทักษะ การฝึกทักษะอาชีพ เหตุผลเชงิ ป เพอื่ การเขาสูอาชีพ เรื่องท่ี 5 การฝึกทกั ษะ การวิเคราะห 4.วางแผนในการฝก อาชพี การเขา สูอา ทักษะอาชพี 2.2 ครูและ แลกเปล่ยี นเ เบ้ืองตน้ ที่ได เรียนรูม้ าจา นำมาประยุก
รแู้ บบพบกลุ่ม คร้งั ที่ ๗ ะถมศึกษา ษะการประกอบอาชพี อช ๑๑๐๐๒ .......พ.ศ. ............................เวลา .................................... รจดั กระบวนการเรียนรู้ ส่อื การเรียนการสอน วดั ผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รกำหนดสภาพปัญหา -หนังสอื แบบเรยี น -การสังเกต -การซกั ถาม ารในการเรยี นรู้ -ใบความรู้ ะผู้เรยี นรว่ มกนั กำหนด -แบบฝกึ /ใบงาน -การมีส่วนรว่ ม ปญั หา ความต้องการใน -อินเตอร์เนต็ -แบบฝกึ /ใบงาน ยนรูเ้ ร่ืองทกั ษะในการ -ห้องสมุดประชาชน าชพี -ภูมิปญั ญา/ผรู้ ู้ ะผเู้ รยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ -แหล่งเรยี นรู้ ำความเข้าใจกับทักษะ เขาสูอาชีพประเทศไทย สวงหาข้อมลู ด้วยตนเอง คดิ หา ประจกั ษ์ของตนเอง ใน ห์สถานการณ์ทักษะใน าชีพ ะผู้เรียนร่วมกนั เรียนรแู้ ละสรปุ ความรู้ ด้ไปศึกษา ค้นคว้า ากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆเพอ่ื กตใ์ ช้
หวั เรื่อง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ขั้นตอนการ 2.3 ผูเ้ รยี น ดว้ ยตนเองเ ถูกต้องในกร ขั้นท่ี 3 การ ประยุกตใ์ ช้ 3.1 ผู้เรยี น ประสบการณ ด้วยตนเอง 3.2 ผเู้ รยี น อปุ สรรคในก พรอ้ มสรุปจ เป็นแฟม้ สะ ขั้นท่ี 4 การ 4.1 ครูและ ผลงานและผ ปฏบิ ตั ิ สรปุ เป็นแนวทาง ปฏบิ ตั ิงาน 4.2 ครู วดั ผ จากเกณฑ์ว 4.3 ครูสาม เรียนรู้ และ ความรูภ้ ายใ ได้
รจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่ือการเรียนการสอน วดั ผลและประเมินผล หมายเหตุ นได้นำความร้ทู ่ีได้ศึกษา เพื่อมาตรวจสอบความ ระการเรียนรู้ รปฏบิ ัติและนำไป นสามารถนำความรู้ และ ณห์ ลงั จากการเรียนรู้ นสามารถแก้ไขปัญหา การทำงานไดแ้ ตล่ ะครง้ั จดั ทำรายงานรวบรวม ะสมงาน รประเมินผลการเรยี นรู้ ะผเู้ รยี นนำแฟม้ สะสม ผลงานท่ีได้จากการ ปเป็นองค์ความรูเ้ พื่อใช้ งกระบวนการ ผลประเมนิ ผลผเู้ รยี น วัดผลประเมนิ ผล มารถประเมนิ ผลการ ะผเู้ รียนสามารถประเมิน ในกล่มุ หรือของตนเอง
ใบความรคู้ รง้ั ท่ี 16 เรอื่ งท่ี 2 สถานการณพ์ ลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศในอาเซยี น ปจั จบุ นั การใช้พลงั งานไฟฟ้าเพ่ิมสูงข้ึนอย่างต่อเนื่องโดยเช้ือเพลงิ ฟอสซิลซึ่งเป็นเช้อื เพลิงหลกั ท่ีนำมาใช้ในการผลติ ไฟฟ้าเร่ิมลดลงเร่ือยๆจนอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าในอนาคตหากยังไมต่ ระหนกั ถงึ สาเหตุดงั กลา่ วอาจประสบ ปญั หาการขาดแคลนพลงั งานไดใ้ นอนาคตจงึ จำเปน็ ตอ้ งเข้าใจถงึ สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าและแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าใน อนาคตในเรอ่ื งท่ี 2 ประกอบด้วย 2 ตอนคือ ตอนที่ 1 สถานการณ์พลังงานไฟฟา้ ของประเทศไทย ตอนที่ 2 สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟา้ ของประเทศในอาเซียน ตอนท่ี 1 สถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของประเทศไทย ปจั จุบนั พลังงานไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทตอ่ การดำรงชีวิตของประชาชนและการขับเคลอ่ื นเศรษฐกจิ ของประเทศมาก ขน้ึ ท่ผี า่ นมาความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยเพิม่ ข้ึนอยา่ งต่อเน่ืองประมาณร้อยละ 4 – 5 ต่อปีเน่ืองจากจำนวน ประชากรทเ่ี พ่ิมข้นึ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยในปีพ.ศ. 2557 ประเทศไทยมีการใชไ้ ฟฟา้ เปน็ อันดับท่ี24 ของโลกซง่ึ เปน็ ท่นี ่ากังวลว่าพลังงานไฟฟา้ จะเพยี งพอต่อความต้องการใช้ไฟฟา้ ในอนาคตหรอื ไม่อนงึ่ ประชาชนทกุ คน ควรมคี วามรู้ความเขา้ ใจในเรือ่ งการผลติ ไฟฟ้าการใชไ้ ฟฟา้ ในช่วงเวลาตา่ งๆและแนวโนม้ การใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ เพื่อ วิเคราะห์และตระหนักถงึ สถานการณ์พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย 1. สัดสว่ นการผลิตไฟฟ้าจากเชือ้ เพลงิ ประเภทตา่ งๆของประเทศไทย ประเทศไทยผลิตไฟฟา้ โดยใช้เชือ้ เพลงิ ทีห่ ลากหลายซงึ่ ได้มาจากแหล่งเช้ือเพลงิ ภายใน และภายนอกประเทศจากข้อมูลของการไฟฟา้ ฝา่ ยผลิตแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2558 พบวา่ ประเทศไทยผลิตไฟฟา้ สว่ นใหญจ่ ากกา๊ ซธรรมชาตริ อ้ ยละ 69.19 ของการผลติ ไฟฟา้ ทง้ั หมด รองลงมาคือถา่ นหินนำเขา้ และถ่านหินในประเทศ (ลกิ ไนต์) รอ้ ยละ 18.96 พลังงานหมุนเวยี น รอ้ ยละ 11.02 (พลงั นำ้ ลาวร้อยละ 6.42 พลังน้ำไทยร้อยละ 2.23 และชีวมวลและอ่ืนๆ ร้อยละ 2.37) นำ้ มันเตาร้อยละ 0.62 และน้ำมนั ดีเซลรอ้ ยละ 0.13 นอกจากนย้ี ังนำเข้า พลังงานไฟฟา้ จากประเทศมาเลเซยี รอ้ ยละ 0.07แม้วา่ ปจั จุบันการผลติ ไฟฟ้าของประเทศไทยยังเพียงพอและสามารถ รองรบั ความต้องการได้แต่ในอนาคตมคี วามเส่ียงต่อการขาดแคลนด้านพลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสงู เนอ่ื งจากประเทศไทย พึง่ พากา๊ ซธรรมชาติในการผลิตไฟฟา้ มากเกนิ ไปโดยก๊าซธรรมชาตทิ ่ีนำมาใชม้ าจาก 2 แหลง่ หลักๆคอื แหล่งกา๊ ซ ธรรมชาติในประเทศไทยประมาณรอ้ ยละ 60 สว่ นทีเ่ หลอื อีกประมาณร้อยละ 40 นำเข้ามาจากประเทศเมียนมาร์ หากแหลง่ ผลิตก๊าซธรรมชาติมปี ัญหาหรอื ต้องหยุดการผลติ เพือ่ การซ่อมบำรงุ หรือในกรณีของท่อส่งกา๊ ซธรรมชาติเกดิ ความเสยี หายทำให้ไมส่ ามารถส่งกา๊ ซธรรมชาติไดจ้ ะทำให้กำลงั การผลิตไฟฟ้าสว่ นใหญ่หายไปเพ่ือเปน็ การสร้างความ มนั่ คงทางพลังงานไฟฟ้าคือการใหม้ ีพลงั งานไฟฟ้าใช้อยา่ งเพียงพอในปัจจบุ นั และอนาคตประเทศไทยจึงเลือกใช้ เชอื้ เพลงิ ในการผลิตไฟฟ้าโดยคำนงึ ถงึ ส่งิ ต่อไปนี้ 1) ปริมาณเชอ้ื เพลิงสำรองเพียงพอและแนน่ อนเพือ่ ความม่ันคงในการจดั หา2) การกระจายชนิดของเช้ือเพลิงให้ หลากหลายเช่นการใชถ้ า่ นหนิ หรอื พลงั งานทางเลือกและกระจายแหลง่ ที่มาของเชอ้ื เพลงิ ใหม้ ากขน้ึ เชน่ จากประเทศ มาเลเซียประเทศเมียนมารแ์ ละประเทศลาวเป็นต้น 3) เชื้อเพลิงที่มรี าคาเหมาะสมและมเี สถยี รภาพ4) เชือ้ เพลิงทเี่ ม่ือนำมาผลติ ไฟฟา้ แลว้ สามารถควบคุมมลพิษให้อย่ใู น ระดบั มาตรฐานคณุ ภาพทีส่ ะอาดและยอมรับได้
5) การใช้ทรพั ยากรพลังงานภายในประเทศที่มีอยอู่ ย่างจำกดั ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด 2. ความตอ้ งการไฟฟ้าในแต่ละชว่ งเวลาในหน่ึงวันของประเทศไทย การเลอื กใชเ้ ชื้อเพลิงมาผลติ ไฟฟา้ นอกจากการพิจารณาถึงสงิ่ ต่างๆท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ นัน้ ยังตอ้ งพิจารณาถงึ ประเภทของ โรงไฟฟ้าท่ีผลิตพลงั งานไฟฟ้าในช่วงเวลาทม่ี คี วามต้องการใช้ไฟฟ้าเพื่อความมีประสทิ ธิภาพของระบบการผลิตและ ตน้ ทนุ ค่าไฟฟา้ ทีเ่ หมาะสมเพราะโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทมีความเหมาะสมในการผลิตไฟฟา้ ในแต่ละชว่ งเวลา ท่ีตา่ งกันและโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทกม็ ีการใชเ้ ชือ้ เพลงิ ที่แตกต่างกันดว้ ย 3. สภาพปจั จุบนั และแนวโน้มการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า สถติ ิการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทยเพิ่มข้นึ ทุกปีตามสภาพภูมอิ ากาศจำนวน ประชากรทเ่ี พ่ิมสงู ขนึ้ และการขยายตวั ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจากภาพการใช้พลังงาน ไฟฟา้ ของประเทศไทยในปีพ.ศ. 2553 ใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ 161,554 ล้านหนว่ ยและปพี .ศ. 2558 ใช้พลงั งานไฟฟ้าถงึ 183,288 ลา้ นหน่วยซ่ึงการใช้ไฟฟา้ ในชว่ ง 5 ปีระหว่างปพี .ศ. 2553 – 2558 เพิม่ ขน้ึ ร้อยละ 13.45 โดยเฉลี่ยแลว้ เพม่ิ ข้นึ ร้อยละ 2.7 ตอ่ ปโี ดยภาคอตุ สาหกรรมมีการใชไ้ ฟฟ้า มากทส่ี ุดร้อยละ 45 รองลงมาคือภาคครวั เรอื นร้อยละ 22 ภาคธุรกิจรอ้ ยละ 19 ภาคกิจการ ขนาดเล็กร้อยละ 11 และอืน่ ๆร้อยละ 3 ตอนท่ี 2 สถานการณพ์ ลงั งานไฟฟา้ ของประเทศในอาเซียน อาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้ (ASEAN : Associationof South East Asian Nations) เปน็ องค์กรท่ีก่อตั้งขึน้ โดยมุง่ เนน้ ใหอ้ าเซยี นเป็นตลาดเดยี วกันและเปน็ ฐานการผลิตรว่ มท่ีมีศักยภาพในการแข่งขันทาง การคา้ กับภมู ภิ าคอน่ื ๆของโลกปัจจุบนั มีประเทศสมาชกิ 10 ประเทศได้แก่บรูไนอนิ โดนเี ซยี มาเลเซียฟิลิปปนิ ส์สงิ คโปร์ ไทยกัมพูชาลาวเมียนมาร์และเวยี ดนามอาเซียนถอื เปน็ ภมู ภิ าคทมี่ ีอัตราการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วซง่ึ การขยายตัวของภาคธรุ กิจอตุ สาหกรรมการลงทุนและชวี ิตความเป็นอยู่ ของประชาชนสง่ ผลใหค้ วามต้องการพลงั งานไฟฟา้ เพ่ิมสงู ข้ึนอยา่ งมาก อาเซียนเป็นภูมิภาคทีม่ ที รัพยากรพลังงานมากและมีความหลากหลายกระจายอยู่ ในประเทศตา่ งๆทงั้ น้ำมนั ก๊าซธรรมชาติพลังน้ำและถ่านหินโดยทางตอนเหนือของภมู ภิ าค ไดแ้ กป่ ระเทศเมียนมาร์ลาวและเวยี ดนามมแี หลง่ นำ้ มากจึงมศี กั ยภาพในการนำน้ำมาใช้ ผลติ ไฟฟ้าสว่ นตอนกลางและตอนใต้ของภูมิภาคได้แกป่ ระเทศมาเลเซยี ไทยกัมพูชาบรูไนและ อนิ โดนีเซยี มแี หลง่ ก๊าซธรรมชาตินอกจากนี้ยงั มีแหลง่ ถ่านหินในประเทศไทยมาเลเซยี และ อนิ โดนีเซียโดยสดั ส่วนการผลิตไฟฟา้ จากเชือ้ เพลิงต่างๆของประเทศสมาชิกในอาเซยี น
ใบงานครัง้ ท่ี 16 เร่อื งที่ 2 สถานการณพ์ ลังงานไฟฟา้ ของประเทศไทยและประเทศในอาเซยี น ใหน้ ักศึกษาอธบิ ายแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยและประเทศอาเซยี นมาพอเขา้ ใจ .......................................................................................................................................... ............................................. ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... .......................................................................................................................................................................... ............. ..................................................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ............................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................................. .......... ........................................................................................................................ ...............................................................
แผนการจดั การเรยี นร ระดับประ สาระการประกอบอาชีพ ทกั ษ วนั ท่.ี ...................................เดอื น.................................... หวั เรอื่ ง ตวั ชี้วดั เนือ้ หา ข้นั ตอนการ ๒.การทาํ แผนธรุ กจิ 1.วเิ คราะหชมุ ชนโดย 1.การวเิ คราะหชมุ ชน ขั้นที่ 1 การ เพอื่ การเขาสูอาชีพ การระดมความคิดเหน็ - จดุ แข็ง ความต้องกา ของคนในชมุ ชนและ - จุดออน ๑.๑ ครแู ละ กําหนดวสิ ัยทัศน พันธ - โอกาส การทาํ แผนธ กจิ รายได คานิยมของ - อปุ สรรค อาชีพ ชมุ ชนเปาหมาย และ ตามศักยภาพ 5 ดาน ได ๑.๒ ครูและ กลยุทธ ตามศักยภาพ แกศักยภาพของทรัพยากร และทำความ 5 ดาน ไดแกศักยภาพ ธรรมชาติในแตละพืน้ ท่ี ทาํ แผนธรุ กจิ ขอทรัพยากรธรรมชาติ ศักยภาพของพน้ื ที่ตาม ขน้ั ท่ี 2 แส ในแตละพื้นทศ่ี ักยภาพ ลกั ษณะภูมอิ ากาศ 2.1 เรยี นรู้ด ของพื้นท่ตี ามลักษณะ ศกั ยภาพของภูมิประเทศ เหตผุ ลเชงิ ป ภมู ิอากาศศักยภาพ และทาํ เลทต่ี ั้งของแตละ เร่อื งเคราะห ของภมู ิประเทศและทาํ พน้ื ทศี่ ักยภาพของศลิ ปะ ดา้ น จากผู้ร เลทต่ี ง้ั ของแตละพ้ืนท่ี วัฒนธรรม ประเพณีและ 2.2 ครูและ ศกั ยภาพของศลิ ปะ วิถีชวี ิตของแตละพน้ื ท่ี แลกเปลี่ยนเ วฒั นธรรม ประเพณี ศักยภาพของทรัพยากร เบ้อื งตน้ ท่ีได และวิถชี ีวติ ของแตละ มนษุ ยในแตละพื้นท่ี เรียนรมู้ าจา พ้ืนทศี่ ักยภาพของ 2. การกําหนดวิสยั ทัศน นำมาประยุก ทรพั ยากรมนษุ ยในแต พันธกจิ รายได ค่านยิ ม 2.3 ผเู้ รยี น ละพืน้ ที่และแนวคิด เปาหมาย และกลยุทธ ใน ด้วยตนเองเ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ การกาํ หนดแผนธรุ กจิ ของ ถกู ต้องในกร พอเพยี ง ชมุ ชน
รแู้ บบพบกลุม่ ครัง้ ที่ ๘ ะถมศึกษา ษะการประกอบอาชีพ อช ๑๑๐๐๒ ........พ.ศ.............................เวล า .................................... รจดั กระบวนการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนการสอน วัดผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รกำหนดสภาพปัญหา -หนงั สอื แบบเรียน -การสงั เกต -การซกั ถาม ารในการเรียนรู้ -ใบความรู้ ะผเู้ รียนร่วมกันกำหนด -แบบฝึก/ใบงาน -การมสี ว่ นรว่ ม ธุรกจิ เพือ่ การเขาสู่ -อินเตอร์เนต็ -แบบฝึก/ใบงาน -ห้องสมดุ ประชาชน ะผ้เู รยี นรว่ มกนั วิเคาระห์ -ภูมิปญั ญา/ผูร้ ู้ มเข้าใจกบั ทักษะในการ -แหลง่ เรยี นรู้ จเพื่อการเขาสูอาชีพ สวงหาข้อมูล ดว้ ยตนเอง คดิ หา ประจักษ์ของตนเอง ใน หชมุ ชนตามศักยภาพ ๕ รู้จากผู้ร้ภู มู ปิ ญั ญา สื่อ ะผูเ้ รยี นรว่ มกนั เรียนรแู้ ละสรุปความรู้ ด้ไปศึกษา ค้นควา้ ากแหลง่ เรียนรตู้ ่างๆเพื่อ กต์ใช้ นได้นำความรู้ที่ได้ศึกษา เพื่อมาตรวจสอบความ ระการเรยี นรู้
หวั เรื่อง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ขนั้ ตอนการ ขนั้ ที่ 3 การ ประยกุ ต์ใช้ 3.1 ผู้เรยี น ประสบการณ ด้วยตนเอง 3.2 ผู้เรียน อปุ สรรคในก พร้อมสรุปจ เปน็ แฟม้ สะ ขนั้ ที่ 4 การ 4.1 ครแู ละ ผลงานและผ ปฏบิ ัติ สรุป เป็นแนวทาง ปฏบิ ตั งิ าน 4.2 ครู วดั ผ จากเกณฑ์ว 4.3 ครสู าม เรียนรู้ และ ความรู้ภายใ ได้
รจดั กระบวนการเรียนรู้ ส่อื การเรยี นการสอน วดั ผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รปฏบิ ัตแิ ละนำไป นสามารถนำความรู้ และ ณ์หลงั จากการเรียนรู้ นสามารถแกไ้ ขปัญหา การทำงานได้แตล่ ะคร้งั จัดทำรายงานรวบรวม ะสมงาน รประเมนิ ผลการเรียนรู้ ะผูเ้ รียนนำแฟม้ สะสม ผลงานทไ่ี ด้จากการ ปเป็นองคค์ วามรเู้ พื่อใช้ งกระบวนการ ผลประเมินผลผูเ้ รยี น วดั ผลประเมินผล มารถประเมินผลการ ะผ้เู รียนสามารถประเมิน ในกลมุ่ หรอื ของตนเอง
ใบความรคู้ รั้งที่ ๘ เร่ืองเชอ้ื เพลิงและพลังงานที่ใช้ในการผลติ ไฟฟ้า พลงั งานไฟฟ้าเป็นพลังงานรปู หนึง่ ทม่ี ีความสำคัญและมกี ารใชง้ านกันมาอย่างยาวนาน โดยสามารถผลิตไดจ้ ากเช้อื เพลงิ หลากหลายชนิดโดยแบ่งรายละเอยี ดเป็น 2 ตอนคือ ตอนที่ 1 เช้ือเพลงิ ฟอสซิล ตอนที่ 2 พลังงานทดแทน ตอนที่ 1 เชื้อเพลงิ ฟอสซิล เชอ้ื เพลงิ ฟอสซลิ (Fossil Fuel) เชือ้ เพลงิ ฟอสซลิ (Fossil Fuel) หมายถงึ พลงั งานของสารเช้ือเพลงิ ท่เี กดิ จากซากพืชซากสัตวท์ ที่ บั ถมจมอยใู่ ตพ้ ื้นพิภพ เปน็ เวลานานหลายรอ้ ยลา้ นปโี ดยอาศยั แรงอัดของเปลือกโลกและความร้อนใต้ผิวโลกมที ้ังของแข็งของเหลวและก๊าซ เช่นถ่านหนิ นำ้ มันกา๊ ซธรรมชาตเิ ป็นตน้ สำหรบั ประเทศไทยได้มกี ารนำเอาเช้อื เพลงิ ฟอสซิลมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า ประมาณร้อยละ 89 ของแหลง่ พลงั งานท้งั หมดไดแ้ ก่ 1. ถ่านหิน (Coal) 2. นำ้ มนั (Petroleum Oil) 3. ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) ตอนที่ 2 พลังงานทดแทน พลงั งานทดแทน (Alternative Energy) ตามความหมายของกระทรวงพลงั งานคือพลังงานท่นี ำมาใช้แทนนำ้ มัน เชื้อเพลิงซึง่ จดั เปน็ พลังงานหลกั ทใ่ี ช้กันอยู่ทว่ั ไปในปัจจุบนั พลงั งานทดแทนท่สี ำคญั ไดแ้ ก่พลงั งานนำ้ พลังงานลม พลงั งานแสงอาทิตย์พลังงานความร้อนใต้พภิ พพลังงานจากชีวมวลและพลงั งานนวิ เคลยี ร์เปน็ ต้น 1. ความสำคญั ของพลังงานทดแทน ปัจจุบันท่วั โลกโดยเฉพาะประเทศไทยกำลังเผชิญกบั ปัญหาด้านพลงั งานเชื้อเพลิงฟอสซิลเชน่ นำ้ มนั กา๊ ซธรรมชาติเปน็ ต้นทง้ั ในดา้ นราคาท่สี ูงขน้ึ และปริมาณท่ลี ดลงอย่างตอ่ เน่อื งนอกจากนปี้ ญั หาสภาวะโลกร้อนซง่ึ ส่วนหนง่ึ มาจากการใช้ เช้อื เพลิงฟอสซิลท่ีมากขน้ึ อย่างตอ่ เนื่องตามการขยายตวั ของเศรษฐกิจโลกดงั นนั้ จงึ จำเป็นต้องมีการกระตุ้นใหเ้ กิดการ คิดค้นและพฒั นาเทคโนโลยที ใี่ ช้พลังงานชนิดอน่ื ๆข้นึ มาทดแทนซง่ึ พลงั งานทดแทนเป็นพลังงานชนิดหน่ึงทีไ่ ด้รบั ความ สนใจและภาครฐั ได้มีนโยบายส่งเสรมิ ใหม้ กี ารพฒั นาเทคโนโลยดี ้านพลังงานทดแทนอย่างกวา้ งขวางในประเทศ เน่อื งจากเปน็ พลังงานท่ใี ชแ้ ล้วไมท่ ำลายสิ่งแวดล้อม 2. ประเภทของพลงั งานทดแทน พลงั งานทดแทนมีหลายประเภทซึง่ แต่ละประเภทมหี ลักการทำงานแตกตา่ งกันไปทัง้ นกี้ ระทรวงพลังงานได้แบง่ ประเภทของพลังงานทดแทนตามแหลง่ ทีม่ าออกเปน็ 2 ประเภทคือ 2.1 พลงั งานทดแทนประเภทส้ินเปลอื งเป็นพลังงานทดแทนจากแหลง่ ท่ีได้มาแลว้ ใชห้ มดไปเชน่ ถ่านหินก๊าซธรรมชาติ พลังงานนวิ เคลยี ร์เปน็ ต้น 2.2 พลงั งานทดแทนประเภทหมุนเวียนเป็นพลงั งานทดแทนจากแหลง่ ที่ใช้แล้ว สามารถหมนุ เวียนมาใช้ได้อีกเช่นลมนำ้ แสงอาทิตย์ชีวมวลความร้อนใต้พภิ พไฮโดรเจนเป็นตน้ 3. หลักการทำงานของพลังงานทดแทน พลงั งานทดแทนท่สี ำคัญและใช้กนั อย่ใู นปจั จบุ นั ได้แกล่ มนำ้ แสงอาทติ ยช์ วี มวลความร้อนใตพ้ ิภพและนวิ เคลยี ร์
ใบงานครง้ั ท่ี 17 เรือ่ งเช้อื เพลิงและพลังงานท่ีใชใ้ นการผลติ ไฟฟ้า ให้นกั ศึกษาอธบิ ายหวั ขอ้ ต่างๆ มาพอเขา้ ใจ 1. พลังงานไฟฟ้าแบง่ ออกเป็น 2 ชนดิ คอื ........................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... 2. เชื้อเพลงิ ฟอสซิล คือ....................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ................................................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................ ........................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................. .......................... 1. พลังงานทดแทนคือ....................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ............................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. ..........................................................
แผนการจดั การเรียนร ระดับประ สาระการประกอบอาชีพ ทักษ วนั ท.่ี ...................................เดอื น.................................... หัวเรอ่ื ง ตวั ช้ีวดั เน้ือหา ข้นั ตอนการ ๓.การจัดการการ 1.จดั การเกย่ี วกับการ 1.การจดั การเกี่ยวกับการ ขั้นท่ี 1 การ ผลติ หรอื การ บริการ ควบคมุ ควบคุมคุณภาพ ความตอ้ งกา คณุ ภาพ 2.การใชนวัตกรรม ๑.๑ ครแู ละ 2.อธิบายวธิ กี ารใช นวัตกรรม เทคโนโลยใี นการผลติ สภาพปัญหา 3.การลดตนทุนการผลติ เรียนรู้ เร่ือง เทคโนโลยีในการผลิต หรอื การบริการ หรือการบรกิ ๑.๒ ครูและ 3.อธบิ ายขัน้ ตอนการ 4.การจดั ทาํ แผนการ และทำความ ลดตนทนุ จัดการการผลิตหรอื การ การผลติ หรอื การ บรกิ าร ผลิตหรอื กา บริการ ขั้นท่ี 2 แส 4.จัดทําแผนการ 2.1เรียนรู้ด จดั การการผลติ หรอื การผลติ การบริการ 2.2ครแู ละผ แลกเปล ความรเู้ คน้ ควา้ เรียนรูต้ 2.3 ผูเ้ รยี น ดว้ ยตนเองเ ถกู ต้องในกร
รแู้ บบพบกลุ่ม ครง้ั ท่ี ๙ ะถมศึกษา ษะการประกอบอาชพี อช ๑๑๐๐๒ ........พ.ศ.............................เวล า .................................... รจดั กระบวนการเรียนรู้ สือ่ การเรยี นการสอน วัดผลและประเมินผล หมายเหตุ รกำหนดสภาพปญั หา -หนงั สือแบบเรยี น -การสงั เกต -การซักถาม ารในการเรียนรู้ -ใบความรู้ ะผู้เรยี นร่วมกนั กำหนด -แบบฝกึ /ใบงาน -การมีสว่ นร่วม า ความต้องการในการ -อนิ เตอร์เน็ต -แบบฝึก/ใบงาน ง การจดั การการผลติ -หอ้ งสมุดประชาชน การ -ภมู ิปญั ญา/ผู้รู้ ะผ้เู รียนร่วมกนั วเิ คราะห์ -แหล่งเรยี นรู้ มเขา้ ใจการจัดการการ ารบรกิ าร สวงหาข้อมูล ดว้ ยตนเอง การจัดการ ตหรือการบริการ ผ้เู รยี นรว่ มกนั ล่ยี นเรยี นรู้และสรุป เบือ้ งตน้ ทีไ่ ดไ้ ปศึกษา า เรยี นรู้มาจากแหลง่ ตา่ งๆ นได้นำความรทู้ ่ีได้ศึกษา เพื่อมาตรวจสอบความ ระการเรียนรู้
ข้ันท่ี 3 การ ประยกุ ตใ์ ช้ 3.1 ผเู้ รียน และประสบ เรยี นรู้ดว้ ยต 3.2 ผู้เรยี น อุปสรรคในก พร้อมสรุป ข้ันที่ 4 การ 4.1 ครูและ ผลงานและผ ปฏบิ ตั ิ สรุป เป็นแนวทาง ปัญญา สือ่ 4.2 ครู วัดผ จากเกณฑว์ 4.3 ครสู าม เรียนรู้ และ ความรู้ภายใ ได้
รปฏบิ ตั แิ ละนำไป นสามารถนำความรู้ บการณ์หลังจากการ ตนเอง นสามารถแกไ้ ขปัญหา การทำงานได้แต่ละคร้งั รประเมินผลการเรยี นรู้ ะผู้เรียนนำแฟ้มสะสม ผลงานทไ่ี ด้จากการ ปเป็นองคค์ วามรูเ้ พ่ือใช้ งกระบวนการจากผู้รู้ภมู ิ ผลประเมนิ ผลผูเ้ รยี น วัดผลประเมินผล มารถประเมนิ ผลการ ะผูเ้ รยี นสามารถประเมนิ ในกลุ่ม หรือของตนเอง
ใบความรคู้ รัง้ ที่ 18 เรื่องอุปกรณ์ไฟฟา้ อุปกรณ์ไฟฟา้ ทใี่ ช้ในวงจรไฟฟา้ มหี ลายชนดิ แตล่ ะชนิดมีหน้าที่และความสำคญั ทแี่ ตกตา่ งกนั ออกไปได้แก่ 1. สายไฟ (Cable) สายไฟเป็นอุปกรณ์สำหรบั สง่ กระแสไฟฟา้ จากทห่ี น่งึ ไปยงั อีกทหี่ นงึ่ โดยกระแสไฟฟ้าจะผา่ นไปตามสายไฟจนถึง เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าสายไฟทำด้วยสารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวนำไฟฟ้า (ยอมให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ดี) เช่นทองแดงเป็นต้น โดยจะถกู หมุ้ ด้วยฉนวนไฟฟา้ เพ่อื ความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟา้ สายไฟทีใ่ ช้ตามบา้ นเรือน 2. ฟวิ ส์ (Fuse) ฟิวส์เปน็ อุปกรณ์ปอ้ งกนั กระแสไฟฟ้าไหลเกนิ จนเกิดอนั ตรายต่อเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าถา้ มีกระแสไฟฟ้าไหลเกินฟวิ สจ์ ะหลอม ละลายจนขาดทำให้ตดั วงจรไฟฟ้าในครวั เรือนโดยอตั โนมัติฟิวสท์ ำด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกบั ดีบกุ มีจุด หลอมเหลวตำ่ และมรี ูปร่างแตกต่างกันไปตามวตั ถุประสงคข์ องการใช้งาน 3. อุปกรณ์ตดั ตอนหรือเบรกเกอร์ (Breaker)เบรกเกอร์คืออุปกรณ์ตัดต่อวงจรโดยอตั โนมัตเิ ม่ือมกี ระแสไฟฟ้าไหล เกนิ ค่าที่กำหนดปุ่มหรือคนั โยกทีเ่ บรกเกอรจ์ ะดีดมาอยู่ในตำแหน่งตดั วงจรอย่างอัตโนมัติโดยอาศัยหลักการทำงานของ แม่เหลก็ ไฟฟา้ เบรกเกอร์มจี ำหน่ายตามท้องตลาดหลายแบบและหลายขนาด4. สวติ ช์ (Switch) สวติ ช์เปน็ อปุ กรณป์ ดิ หรือเปดิ วงจรไฟฟ้าเพื่อควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใชไ้ ฟฟ้าแบ่งออกเปน็ 2 ประเภทประกอบด้วยสวติ ชท์ างเดยี วและสวติ ชส์ องทาง 5. สะพานไฟ (Cut-out) สะพานไฟหรือคัทเอาท์เปน็ อุปกรณส์ ำหรับตัดต่อวงจรไฟฟ้าทง้ั หมดภายในครัวเรือนประกอบดว้ ยฐานและคนั โยกที่มี ลกั ษณะเป็นขาโลหะ 2 ขามที ี่จบั เปน็ ฉนวนเมือ่ สับคนั โยกข้ึนกระแสไฟฟา้ จะไหลเขา้ สูว่ งจรไฟฟา้ ในครวั เรือนและเมอ่ื สับคันโยกลงกระแสไฟฟ้าจะหยดุ ไหลซ่งึ เปน็ การตดั วงจร 6. เครอ่ื งตัดไฟรวั่ (Earth Leak Circuit Breaker : ELCB)เครื่องตัดไฟรั่วเปน็ อุปกรณ์เสรมิ ความปลอดภยั อกี ชน้ั หนึง่ ทีส่ ามารถตัดวงจรไฟฟ้ากรณีเกิดไฟร่วั โดยกำหนดความไวของการตดั วงจรไฟฟ้าตามปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ท่ีร่ัว ลงดนิ เพื่อใหม้ ีการตัดไฟรัว่ ก่อนทจ่ี ะเป็นอนั ตรายกับระบบไฟฟ้า 7. เต้ารบั (Socket) และเต้าเสียบ (Plug)เต้ารับและเต้าเสยี บเปน็ อปุ กรณท์ ่ีใชเ้ ชือ่ มต่อวงจรไฟฟา้ ทำให้กระแสไฟฟ้า ไหลเขา้ สอู่ ุปกรณแ์ ละเครื่องใชไ้ ฟฟ้า1) เต้ารับหรอื ปล๊ักตัวเมยี คืออุปกรณท์ ีเ่ ช่ือมต่อกบั วงจรไฟฟา้ ในครวั เรือนเชน่ เตา้ รบั ทีต่ ิดต้ังบนผนงั บ้านหรืออาคารเปน็ ตน้ เพ่ือรองรับการต่อกับเต้าเสยี บของเครื่องใช้ไฟฟา้ 2) เต้าเสียบหรือปลั๊กตัวผคู้ ืออปุ กรณ์ส่วนทตี่ ิดอยู่กับปลายสายไฟของเครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ เตา้ เสียบท่ใี ชก้ ันอยู่มี 2 แบบคือ (1) เต้าเสยี บ 2 ขาใช้กบั เตา้ รับท่ีมี 2 ชอ่ ง(2) เต้าเสยี บ 3 ขาใชก้ ับเต้ารบั ทมี่ ี 3 ชอ่ งโดยขากลางจะต่อกบั สายดิน
ใบงานครงั้ ที่ 18 เร่ืองอปุ กรณ์ไฟฟา้ ใหน้ กั ศึกษาอธบิ ายหนา้ ท่แี ละความสำคัญของอุปกรณ์ไฟฟ้าตอ่ ไปน้ีมาพอเข้าใจ 1. สายไฟ (Cable) ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... 2.ฟิวส์ (Fuse) ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... 3.สะพานไฟ ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... .................................................................................................................................................. ..................................... ............................................................................................. .......................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ..........................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้แ ระดบั ประ สาระความรู้พน้ื ฐาน ทกั ษะก วันท.ี่ ...................................เดอื น.................................... หัวเรือ่ ง ตวั ชีว้ ัด เน้ือหา ขน้ั ตอนการ ๔.การจัดการ 1.จัดการการตลาดเพอ่ื 1.การจดั การการตลาด ขั้นท่ี 1 การ การตลาด นําผลผลติ เขาสูตลาด - การโฆษณา ความต้องกา 2.จัดทาํ แผนการ - การประชาสมั พันธ ๑.๑ ครูและ จัดการการตลาด - การวจิ ัยตลาด สภาพปญั หา - การสงเสรมิ การขาย เรียนรู้ เรอ่ื ง - การทําขอมูลฐานลกู คา ๑.๒ ครูและ - การกระจายสนิ คา และทำความ 2.การจัดทําแผนการ การตลาด จัดการการตลาด ขั้นท่ี 2 แส 2.1 เรียนรดู้ เหตุผลเชงิ ป เร่อื ง การจัด 2.2 ครแู ละ แลกเปลีย่ นเ เบื้องตน้ ที่ได เรียนรมู้ าจา นำมาประยุก 2.3 ผู้เรยี น ดว้ ยตนเองเ ถกู ต้องในกร
แบบพบกลุ่ม คร้ังท่ี ๑๐ ะถมศึกษา การประกอบอาชีพ อช ๑๑๐๐๒ ........พ.ศ.............................เวลา .................................... รจัดกระบวนการเรียนรู้ สื่อการเรยี นการสอน วดั ผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รกำหนดสภาพปัญหา -หนงั สอื แบบเรยี น -การสงั เกต ารในการเรียนรู้ -ใบความรู้ -การซักถาม ะผเู้ รยี นร่วมกันกำหนด -แบบฝึก/ใบงาน -การมสี ่วนร่วม า ความต้องการในการ -อนิ เตอร์เนต็ -แบบฝกึ /ใบงาน งการจัดการการตลาด -ห้องสมุดประชาชน ะผูเ้ รียนรว่ มกนั วิเคราะห์ -ภมู ิปัญญา/ผูร้ ู้ มเขา้ ใจการจดั การ -แหล่งเรียนรู้ สวงหาขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง คดิ หา ประจักษ์ของตนเอง ใน ดการการตลาด ะผูเ้ รียนรว่ มกัน เรียนรูแ้ ละสรปุ ความรู้ ด้ไปศึกษา คน้ คว้า ากแหลง่ เรียนร้ตู า่ งๆเพื่อ กตใ์ ช้ นได้นำความรู้ท่ไี ด้ศึกษา เพื่อมาตรวจสอบความ ระการเรยี นรู้
หวั เรื่อง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ขนั้ ตอนการ ขนั้ ท่ี 3 การ ประยกุ ต์ใช้ 3.1 ผเู้ รียน ประสบการณ ด้วยตนเอง 3.2 ผู้เรยี น อุปสรรคในก พรอ้ มสรุปจ เปน็ แฟม้ สะ ขนั้ ท่ี 4 การ 4.1 ครแู ละ ผลงานและผ ปฏบิ ตั ิ สรุป เป็นแนวทาง ปฏบิ ตั งิ าน 4.2 ครู วดั ผ จากเกณฑ์ว 4.3 ครสู าม เรียนรู้ และ ความรู้ภายใ ได้
รจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่อื การเรยี นการสอน วดั ผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รปฏิบัติและนำไป นสามารถนำความรู้ และ ณห์ ลงั จากการเรียนรู้ นสามารถแกไ้ ขปัญหา การทำงานได้แตล่ ะคร้งั จัดทำรายงานรวบรวม ะสมงาน รประเมนิ ผลการเรียนรู้ ะผเู้ รยี นนำแฟม้ สะสม ผลงานทไี่ ด้จากการ ปเปน็ องคค์ วามรเู้ พื่อใช้ งกระบวนการ ผลประเมนิ ผลผูเ้ รยี น วดั ผลประเมนิ ผล มารถประเมนิ ผลการ ะผ้เู รียนสามารถประเมิน ในกล่มุ หรือของตนเอง
ใบความรู้ครั้งท่ี 19 เรือ่ งการเลอื กซือ้ เลือกใช้และดูแลรกั ษาเคร่ืองไฟฟ้าในครวั เรอื น การเลอื กซอื้ เลือกใช้และดูแลรักษาเครือ่ งไฟฟา้ ในครวั เรือนโดยทัว่ ไปเครื่องใชไ้ ฟฟ้าภายในครวั เรือนมักมีการใช้ พลงั งานไฟฟ้าสงู เกือบทุกชนิดเพือ่ เปน็ การประหยดั และคุ้มค่าผใู้ ช้จงึ ควรมีความรเู้ กยี่ วกับการใช้เครื่องใชไ้ ฟฟ้าอย่าง ถูกวิธใี นท่นี ้ีจะกลา่ วถงึ เครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าที่มใี ช้ท่วั ไปในครัวเรือนเช่นเคร่ืองทำน้ำอนุ่ ไฟฟา้ กระติกนำ้ ร้อนไฟฟ้า พดั ลมโทรทัศน์เตารดี ไฟฟ้าตเู้ ย็นเปน็ ตน้ 1. เครือ่ งทำน้ำอุ่นไฟฟา้ เครอ่ื งทำนำ้ อ่นุ ไฟฟา้ เปน็ อุปกรณท์ ่ีทำให้นำ้ ร้อนขึน้ โดยอาศัยการพาความรอ้ นจากขดลวดความรอ้ นขณะทกี่ ระแสนำ้ ไหลผา่ นส่วนประกอบหลักของเครอ่ื งทำนำ้ อุ่นไฟฟ้าคือขดลวดความรอ้ นหรอื เรียกว่าฮตี เตอร์และอปุ กรณค์ วบคุม อณุ หภูมิหรือเรยี กวา่ เทอรโ์ มสตทั ซึ่งส่วนประกอบแต่ละสว่ นมีหนา้ ท่ีแตกต่างกนั 2. กระตกิ น้ำร้อนไฟฟ้า กระติกน้ำร้อนไฟฟา้ เปน็ อุปกรณใ์ นการต้มนำ้ ใหร้ ้อนประกอบดว้ ยขดลวดความร้อนอยดู่ ้านลา่ งของกระติกและอปุ กรณ์ ควบคมุ อุณหภูมเิ ปน็ อุปกรณ์ควบคุมการทำงานเม่ือกระแสไฟฟา้ ไหลผ่านขดลวดจะเกิดความร้อนและถา่ ยเทไปยงั น้ำ ภายในกระติกทำให้น้ำมีอุณหภูมสิ งู ข้นึ จนถงึ จดุ เดือดจากนั้นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมจิ ะตัดกระแสไฟฟา้ ในวงจรหลักออกไปแต่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นขดลวดความรอ้ นและแสดงสถานะนีโ้ ดยหลอดไฟสัญญาณอุ่นจะ สว่างขึ้นเม่ืออณุ หภมู ิของน้ำรอ้ นภายในกระตกิ ลดลงจนถึงจุดๆหนึง่ อปุ กรณค์ วบคุมอุณหภมู จิ ะทำงานโดยปล่อยให้ กระแสไฟฟ้าผา่ นขดลวดความร้อนเต็มท่ที ำใหน้ ้ำเดือดอีกครงั้ กระติกน้ำร้อนไฟฟา้ โดยทัว่ ไปทีม่ จี ำหนา่ ยในท้องตลาด จะมีขนาดความจุตั้งแต่ 2 – 4ลติ รและใชก้ ำลงั ไฟฟา้ ระหว่าง 500 – 1,300 วตั ต์ 3. พัดลม พดั ลมเป็นอุปกรณท์ ่ชี ว่ ยในการหมนุ เวยี นอากาศและระบายความรอ้ นภายในบา้ นซงึ่ ในปัจจุบนั พดั ลมที่ใช้มี หลากหลายลักษณะและประเภทข้นึ อยกู่ ับการใช้งานสว่ นประกอบหลกั ของพดั ลมไดแ้ ก่ใบพัดตะแกรงหน้าตะแกรง หลังมอเตอรไ์ ฟฟ้าสวิตชค์ วบคุมการทำงานและกลไกควบคุมการหมนุ และสา่ ย 4. โทรทศั น์ โทรทัศนเ์ ปน็ อปุ กรณ์ที่แปลงสัญญาณคล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าเป็นภาพดว้ ยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ทมี่ คี วามซบั ซ้อน ส่วนประกอบของโทรทัศน์ทเ่ี ห็นได้ชดั เจนมดี งั น้ี1) สว่ นประกอบภายนอกคือตวั โครงท่หี ่อหุม้ อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ จอภาพปมุ่ หรือสวิตชต์ า่ งๆและช่องต่อสายอากาศเป็นตน้ 2) ส่วนประกอบภายในคืออปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์ตวั รับ– เปลยี่ นสัญญาณเปน็ ภาพและเสยี งที่มาในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสว่ นประกอบของจอภาพและระบบเสยี งรวมทั้ง ลำโพงเปน็ ตน้ 5. เตารีดไฟฟา้ เตารีดไฟฟา้ เปน็ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าที่มใี ชก้ นั แทบทุกครวั เรอื นหากเปรียบเทยี บกับเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ชนิดอ่ืนเตารีดจดั เปน็ เครือ่ งใช้ไฟฟ้าท่ีใช้กำลงั ไฟฟ้าสงู การเลือกซือ้ และใชง้ านอย่างถูกวธิ ีจะสามารถลดการใช้ไฟฟ้าลงได้เตารีดไฟฟา้ สามารถแบ่งได้ 3 ลักษณะคือเตารดี แบบธรรมดาแบบไอน้ำและแบบกดทับเตารีดไฟฟ้าแต่ละประเภทมีสว่ นประกอบ สำคญั 3 สว่ นคอื 1) ไส้เตารีดทำมาจากโลหะผสมระหวา่ งนิกเกลิ และโครเมียมทำหน้าท่ใี ห้กำเนดิ ความรอ้ นเม่ือได้รับกระแสไฟฟา้ โดยความร้อนจะมากหรือนอ้ ยขึ้นกับสว่ นผสมของโลหะและความยาวขดลวด 2) อุปกรณ์ควบคมุ อณุ หภมู ิทำหน้าท่ปี รบั ความร้อนของไสเ้ ตารีดให้เทา่ กบั ระดับทีไ่ ด้ตัง้ ไว้ 3) แผน่ โลหะด้านลา่ งของเตารีดทำหนา้ ท่ีเป็นตัวกดทับเวลารีดและกระจายความร้อน
ใบงานคร้งั ท่ี 19 เร่ืองการเลือกซ้ือเลอื กใชแ้ ละดูแลรักษาเคร่ืองไฟฟ้าในครวั เรือน ใหน้ กั ศึกษาอธิบายการเลือกซื้อเลือกใชแ้ ละดูแลรกั ษาเคร่ืองไฟฟ้าในครวั เรือนต่อไปนี้มาพอเข้าใจ 1.เครอื่ งทำน้ำอุ่นไฟฟา้ ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................................. .......................... ........................................................................................................ ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... 2.กระติกนำ้ รอ้ นไฟฟ้า ............................................................................................................................. .......................................................... ........................................................................................................................................................................ ............... ................................................................................................................... .................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ....................................................................................................................................................................................... 3.พดั ลม ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................... .................................. ................................................................................................ ....................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ..................................................................................................................................................................................... .. ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ............................................................................................................................................. .......................................... ........................................................................................ ...............................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้แ ระดับประ สาระความรู้พื้นฐาน ทักษะก วันท่.ี ...................................เดอื น.................................... หวั เร่ือง ตัวชวี้ ดั เน้อื หา ข้นั ตอนการ ๕.การขับเคลอ่ื น 1.วิเคราะหความ 1.การวิเคราะหความ ขั้นที่ 1 การ สรางธรุ กิจเพื่อเข้า เป็นไปไดของ เป็นไปไดของแผนปฏิบตั ิ ความต้องกา สูอาชพี แผนปฏิบตั กิ าร การ ๑.๑ ครูและ 2.พัฒนาแผนปฏิบตั ิ 2.การพฒั นาแผนปฏบิ ตั ิ สภาพปัญหา การ การ เรียนรู้ เรอ่ื ง 3.อธิบายขั้นตอนการ 3.ขนั้ ตอนการขับเคลื่อน ธุรกจิ เพ่อื เข ขับเคลอ่ื น การสรางธรุ กจิ ๑.๒ ครแู ละ สรางธุรกิจ 4.ปญหา อปุ สรรค และ และทำความ 4.อธิบายปญหา แนวทางแกไข สรางธุรกจิ เพ อปุ สรรค และ ขน้ั ที่ 2 แส แนวทางแกไขที่เกิด 2.1 เรียนรู้ด จากการ เหตผุ ลเชงิ ป ขบั เคล่อื นธรุ กจิ การขับเคล่ือ อาชีพ 2.2 ครูและ แลกเปลี่ยนเ เบือ้ งต้นที่ได เรยี นรู้มาจา นำมาประยุก
แบบพบกลุ่ม ครง้ั ที่ ๑๑ ะถมศึกษา การประกอบอาชพี อช ๑๑๐๐๒ ........พ.ศ.............................เวล า .................................... รจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่อื การเรียนการสอน วดั ผลและประเมนิ ผล หมายเหตุ รกำหนดสภาพปญั หา -หนังสอื แบบเรยี น -การสังเกต -การซักถาม ารในการเรียนรู้ -ใบความรู้ ะผเู้ รียนรว่ มกนั กำหนด -แบบฝึก/ใบงาน -การมสี ว่ นรว่ ม า ความต้องการในการ -อินเตอร์เนต็ -แบบฝกึ /ใบงาน ง การขับเคลอ่ื นสราง -ห้องสมุดประชาชน ข้าสูอาชีพ -ภูมิปัญญา/ผู้รู้ ะผู้เรยี นรว่ มกนั วเิ คราะห์ -แหล่งเรียนรู้ มเข้าใจกับกาขบั เคล่ือน พื่อเข้าสูอาชพี สวงหาขอ้ มูล ด้วยตนเอง คิดหา ประจักษ์ของตนเอง ใน อนสรางธรุ กจิ เพอื่ เข้าสู่ ะผู้เรยี นรว่ มกัน เรียนรแู้ ละสรุปความรู้ ด้ไปศึกษา คน้ คว้า ากแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆเพอื่ กต์ใช้
หวั เรื่อง ตวั ช้วี ดั เน้อื หา ขั้นตอนการ 2.3 ผ้เู รยี น ดว้ ยตนเองเ ถูกต้องในกร ขั้นที่ 3 การ ประยุกต์ใช้ 3.1 ผเู้ รยี น ประสบการณ ด้วยตนเอง 3.2 ผ้เู รียน อปุ สรรคในก พรอ้ มสรุปจ เป็นแฟม้ สะ ขั้นที่ 4 การ 4.1 ครูและ ผลงานและผ ปฏิบตั ิ สรปุ เป็นแนวทาง ปฏบิ ตั ิงาน 4.2 ครู วัดผ จากเกณฑ์ว 4.3 ครูสาม เรียนรู้ และ ความร้ภู ายใ ได้
รจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่ือการเรียนการสอน วดั ผลและประเมินผล หมายเหตุ นได้นำความรู้ที่ได้ศึกษา เพ่ือมาตรวจสอบความ ระการเรยี นรู้ รปฏิบัตแิ ละนำไป นสามารถนำความรู้ และ ณ์หลงั จากการเรียนรู้ นสามารถแกไ้ ขปัญหา การทำงานได้แต่ละครง้ั จดั ทำรายงานรวบรวม ะสมงาน รประเมนิ ผลการเรียนรู้ ะผู้เรียนนำแฟม้ สะสม ผลงานทีไ่ ด้จากการ ปเปน็ องค์ความรู้เพ่ือใช้ งกระบวนการ ผลประเมินผลผเู้ รยี น วดั ผลประเมินผล มารถประเมินผลการ ะผ้เู รียนสามารถประเมิน ในกลุ่ม หรือของตนเอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 47
Pages: