Future Simple Tense หลกั การใช้ Future Simple Tense (Tense อนาคตธรรมดา) *Future = อนาคต Simple = ธรรมดา ท่ีบอกวา่ “อนาคตธรรมดา” หมายถึง ในช่วงเวลาหน่ึงของอนาคต จะมี เหตุการณ์หน่ึงเกิดข้ึน (เช่น ฉนั จะทาอะไรบางอยา่ ง ในเวลาน้นั เป็นตน้ ) การใช้ will กบั การกระทาท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยจะใชร้ ่วมกบั คากริยาแทท้ ี่อยใู่ นรูป Infinitive (V.1) เท่าน้นั ซ่ึงเราจะใชป้ ระโยคใน รูปแบบดงั น้ี 1) ใช้ “will” ในการทานายส่ิงท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตตามความคิดเห็น ของตนเอง เช่น David will be here in a few minutes. ผพู้ ูดคิดวา่ เดวดิ จะสามารถมาถึงที่นี่ภายใน 2-3 นาที 2) ใช้ “will” กบั การตดั สินใจที่จะทาบางสิ่งบางอยา่ งในขณะท่ีพูด (ไม่มีการวางแผนมาก่อน) Those shoes are very comfortable. I’ll buy them
3) ใช้ “will” ในการแสดงความต้งั ใจที่จะช่วยเหลือคนอ่ืน หรืออาสา ท่ีจะทาบางอยา่ งใหค้ นอ่ืนดว้ ยความเตม็ ใจ Sam: I’m really hungry. Linda: I’ll make some sandwiches for you. 4) ใช้ “will” ในการใหส้ ญั ญาวา่ จะทาบางส่ิงบางอยา่ ง I will call you when I arrive. I promise I will not tell Frank about the surprise party. โดยมีโครงสร้างในประโยคต่าง ๆ มีดงั น้ี A)Affirmative (ประโยคบอกเล่า) Subject + will + V.1 + … เช่น We’ll go to the beach next holidays. One day, people will go to the moon for vacation. B)Negative (ประโยคปฏเิ สธ) เช่น Subject + will + not + V.1 + … She will not give me money.will not = won’t They won’t leave soon.
หลกั การใช้ หลกั การใช้ Future Simple Tenseใชใ้ นกรณีดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ใช้คาดเดาว่าจะเกดิ อะไรขนึ้ ในอนาคต หรือถา้ พูดง่ายๆคือ “คิดวา่ จะอยา่ ง โนน้ จะอยา่ งน้ี” เป็นการ” คาดเดาจากความคิดส่วนตวั ” • คาบง่ บอกเวลาในอนาคต o tonight = คืนน้ี o tomorrow = พรุ่งน้ี o next = ถดั ไป +เวลา, วนั , สัปดาห์, เดือน, ปี , ฤดูกาล หรือ อื่นๆ…. – next hour = ชวั่ โมงถดั ไป – next Monday, next Tuesday, next Wednesday…. – next week = สปั ดาห์ถดั ไป – next month = เดือนถดั ไป
o next spring, next summer, next fall, next winter / next hot season, next rainy season, next hot season – next year = ปี ถดั ไป • เน่ืองจากวา่ เป็นการคิดหรือคาดการณ์ จึงมีคาเหล่าน้ีอยดู่ ว้ ย o probably อาจจะ o think คิดวา่ o sure มน่ั ใจ o expect คาดวา่ o know รู้วา่ o hope หวงั วา่ • It will probably snow tomorrow. หิมะอาจจะตกพรุ่งน้ี
• I think you will win this game. ผมคิดวา่ คุณจะชนะเกมน้ี • She will probably leave next month. หลอ่ นอาจจะไปเดือนหนา้ • I hope you will help me. • ผมหวงั วา่ คุณจะช่วยผม • I’m sure he will go with us. ผมมนั่ ใจวา่ เขาจะไปกบั เรา • I know when she will come back. ฉนั รู้หลอ่ นจะมาเมือ่ ไหร่ • You will love this movie. คุณจะชอบหนงั เรื่องน้ี
• He will clean the car next week. เขาจะลา้ งรถสัปดาห์หนา้ • She will buy a bike next month. หล่อนจะซ้ือจกั รยานเดือนหนา้ • It will snow next season. หิมะจะตกฤดูกาลหนา้ • They will teach English next semester. พวกเขาจะสอนภาษาองั กฤษเทอมหนา้ 1. คาบ่งบอกอนาคต จะมหี รือไม่กไ็ ด้ เพราะเหตุการณ์เป็ นเร่ืองอนาคต อยู่แล้ว เช่น • I will send this letter to Jane. ฉนั จะส่งจดหมายไปหาเจน
• I will call you when I arrive. ฉนั จะโทรหาคุณเมอื่ ฉนั มาถึง 2. ใช้บอกการกระทาที่ไม่ได้ว่าแผนมาก่อน หรือคดิ ไว้ล่วงหน้ามาก่อน เป็น การตดั สินใจ ณ บดั น้นั เลย เช่นเพ่ือนเขาคุยกนั วา่ หลงั กินขา้ วเยน็ วนั น้ีเขาจะดูโทรทศั นก์ นั บา้ งคนกจ็ ะ ดูหนงั บางคนจะดูกีฬา ถา้ เพอ่ื นถามเราวา่ จะดูอะไร เรากต็ อบไปเลยวา่ • I will watch Chin Jang tonight. ฉนั จะดูชินจงั คืนน้ี การตอบแบบน้ีหมายความวา่ เราไม่ไดม้ ีแผนมาก่อนวา่ เราจะดูอะไร หรือ จะทาอะไร ดงั น้นั ใหใ้ ช้ will แลว้ ตามดว้ ยสิ่งท่ีคิดจะทาไดเ้ ลย • I will go to school tomorrow. ฉนั จะไปโรงเรียนพรุ่งน้ี • I will buy a coffee for you. ฉนั จะซ้ือกาแฟใหค้ ุณ
• It’s cold. I will close the window. มนั หนาว ฉนั จะปิ ดหนา้ ตา่ ง • I will help you with your homework. ฉนั จะช่วยคุณทาการบา้ น • Don’t worry. I’ll take care of it. อยา่ กงั วลไปเลย ฉนั จะจดั การเอง • We will fly to London next Monday. เราจะบินไปลอนดอนวนั จนั ทร์หนา้ 3. ใช้บอกคาม่ันสัญญา นนั่ คือ สัญญาวา่ จะทาอยา่ งโนน้ ไมท่ าอยา่ งน้ี หรือ ใช้ ข่มขู่ ก็ได้ คาสัญญา • I will love you only. ฉนั จะรักเธอเท่าน้นั
• I will never let you down. ฉนั จะไมท่ าใหเ้ ธอผิดหวงั • I won’t do it again. ฉนั จะไมท่ าอีกแลว้ • Don’t worry. I won’t tell your parents. ไม่ตอ้ งห่วง ฉนั จะไม่บอกพอ่ แม่ของเธอ คาขู่ • I will tell your parents about this. ฉนั จะบอกพอ่ แม่เธอเร่ืองน้ี • I will not talk to you if you tell anyone. ฉนั จะไม่พดู กบั คุณ ถา้ คุณบอกใคร Time Line เส้นเวลา
ไทมไลนข์ อง Future Simple Tense คอ่ นขา้ งดูง่ายครับ ไม่มีอะไรซบั ซอ้ น เป็นการบอกเหตุการณ์ที่จะเกิดในอนาคต ซ่ึงเป็นจุดใดจุดหน่ึงของเวลา อยา่ งที่บอกไวค้ รับ จะมีคาศพั ทร์ ะบุเวลาดว้ ยหรือไม่ก็ได้ ประโยคปฏเิ สธ การเปล่ียนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธกแ็ สนง่าย เติม not เขา้ ไปหลงั will แค่น้นั เอง I will not go to school tomorrow. ฉนั จะไม่ไปโรงเรียนพรุ่งน้ี You won’t love this movie. คุณจะไมช่ อบหนงั เรื่องน้ี He will not clean the car next week. เขาจะไมล่ า้ งรถสัปดาห์หนา้ She won’t buy a bike next month. หล่อนจะไม่ซ้ือจกั รยานเดือนหนา้ It will not snow next season. หิมะจะไมต่ กฤดูกาลหนา้ We won’t fly to London next Monday. เราจะไม่บินไปลอนดอนวนั จนั ทร์ หนา้
They will not teach English next semester. พวกเขาจะไมส่ อน ภาษาองั กฤษเทอมหนา้ ประโยคคาถาม การเปล่ียนประโยคบอกเลา่ เป็นคาถามกใ็ ชส้ ูตรเดิม คือ ถา้ มีกริยาช่วยใน ประโยค ใหใ้ ชก้ ริยาช่วยข้ึนตน้ ประโยคไดเ้ ลย กริยาช่วยใน Future Simple Tense คือ will การถามรูปแบบประโยคบอกเล่า Will + ประธาน + กริยาช่องที่ 1 การถามรูปแบบประโยคปฏิเสธ Will + ประธาน + not + กริยาช่องท่ี 1 Won’t + ประธาน + กริยาช่องท่ี 1 Will I go to school tomorrow? ฉนั จะไปโรงเรียนพรุ่งน้ีใช่ไหม Yes, you will./ No, you won’t. ใช่ / ไมใ่ ช่ Will you eat papaya salad tonight? คุณจะกินสม้ ตาคืนน้ีใช่ไหม Yes, I will. / No, I won’t. ใช่ / ไม่ใช่
Will he not clean the car next week? เขาจะไม่ลา้ งรถสปั ดาห์หนา้ ใช่ไหม Yes, he will. / No, he won’t. ใช่ / ไม่ใช่ Will she not buy a bike next month? หลอ่ นจะไมซ่ ้ือจกั รยานเดือนหนา้ ใช่ ไหม Yes, she will. / No, she won’t. ใช่ / ไมใ่ ช่ Won’t it snow next season? หิมะจะไมต่ กฤดูกาลหนา้ ใช่ไหม Yes, it will. / No, it won’t. ใช่ / ไมใ่ ช่ Won’t we fly to London next Monday? เราจะไมบ่ ินไปลอนดอนวนั จนั ทร์ หนา้ Yes, it will. / No, it won’t. ใช่ / ไม่ใช่ Won’t they teach English next semester? พวกเขาจะไมส่ อนภาษาองั กฤษ เทอมหนา้ ใช่ไหม Yes, they will. / No, they won’t. ใช่ / ไมใ่ ช่
หลกั การใช้ be going to… แบบง่ายๆ เขา้ ใจสุด เราสามารถใช้ be going to ซึ่งมีความหมายว่า “ จะ “ หรือ \" กาลงั จะ \" ใน การกล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทาทจี่ ะเกดิ ขึน้ ในอนาคตได้เช่นเดียวกบั การใช้ will ใน Future Simple Tense โดยมีโครงสร้างประโยค ดงั นี้ จะเห็นได้ว่า be going to นีม้ ีโครงสร้างเดียวกนั กบั Present ContinuousTense แต่เรานามาใช้ใน Future Simple Tense โดยมหี ลกั การ ใช้ ดงั นี้
1. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์หรือการกระทาท่ีจะเกดิ ขึน้ ในอนาคต ซึ่งได้ตัดสินใจ หรือต้งั ใจเอาไว้ก่อนแล้วว่าจะกระทา กล่าวคือ ได้ตดั สินใจหรือต้งั ใจท่จี ะ กระทาไว้แล้ว หรือรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์หรือการกระทาน้นั จะเกดิ ขึน้ ก่อนที่จะพดู ออกมา · I am going to study harder next year. (ฉันจะเรียนให้หนักขึน้ ปี หน้า) · Prem’s going to Bang Saen Beach next week with his family. (เปรม จะไปหาดบางแสนในสัปดาห์หน้ากบั ครอบครัวของเขา) · They are going to fly to Japan. (พวกเขาจะบินไปญปี่ ่ ุน) · Nong is going to visit her parents in Phuket. (น้องจะไปเยย่ี มพ่อกบั แม่ของเธอทีภ่ ูเกต็ ) · We’re going to sing at the party. (พวกเราจะร้องเพลงในงานปาร์ตี)้ · She’s going to temple tomorrow. (เธอจะไปวดั พรุ่งนี)้ 2. ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ทเ่ี ราคาดว่า เช่ือว่าจะเกดิ ขนึ้ แน่นอน จากสถานการณ์ ปัจจุบนั ที่เป็ นตัวบ่งชี้ว่าจะเกดิ ขนึ้ · Watch out..! you’re going to break that vase. (ระวงั ..! คุณกาลงั จะ ทาแจกนั ใบน้ันแตก) · Be careful..! you’re going to fall. (ระวงั ..! คณุ กาลงั จะหกล้ม) · Look at those black clouds. I think it’s going to rain soon. (ดูเมฆดา ครึ้มเหล่าน้ันซิ ฉันคดิ ว่า ฝนกาลงั จะตกเร็วๆนี)้
· It’s 9.30.! You are going to miss your flight. ( มัน 9 โมงครึ่ง แล้ว.! คุณกาลงั จะพลาดเทย่ี วบินของคุณนะ) หลกั การใช้ be going to ไม่ยากอย่างทคี่ ดิ ใช่ม้ยั ค่ะ..? เมื่อเรารู้หลกั การใช้ เรากส็ ามารถนาไปใช้ได้อย่างถูกต้อง แต่การใช้ be going to น้ัน มหี ลกั การ ใช้ท่ีแตกต่างกนั กบั will ทนี ีเ้ รามาดูกนั ว่า will และ be going to ต่างกนั อย่างไร..? รุปหลกั การใช้ will and be going to อยา่ งยอ่ แบบเขา้ ใจงา่ ยสุด will และ going to มีหลกั การใช้ต่างกนั อย่างไร เราใช้ will+V1 (infinitive) และ be going to+V1 (infinitive) ใน ความหมายว่า “ จะ ” ในรูป Future Simple Tense เหมือนกนั แต่มี หลกั การใช้ที่แตกต่างกนั นิดหน่อย ทนี ี้ เรามาดูกนั ว่า ข้อแตกต่างระหว่าง การใช้ will and be going to น้ัน มอี ะไรบ้าง
Be going to เป็นอีกรูปแบบหน่ึงที่นามาใชแ้ สดงการกระทา หรือ เหตุการณ์ท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยใชร้ ่วมกบั Verb to be ในบางคร้ัง เราจึงเรียกวา่ be going to สาหรับ Verb to be ท่ีใช้ คือ is, am และ are ซ่ึงเราจะใช้ be going to ในลกั ษณะตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1) ใช้ “going to” ในการทานาย หรือพยากรณ์เหตุการณ์ หรือการ กระทาที่จะเกิดข้ึนในอนาคตอนั ใกล้ โดยใชส้ ถานการณ์ขณะน้นั เป็นแนวในการทานาย เช่น Look at those clouds! It’s going to rain soon. พยากรณ์วา่ ฝนจะตกในไมช่ า้ น้ี โดยใชส้ ถานการณ์ในเวลาน้นั เป็นตวั ช่วย คือมีเมฆมาก ณ เวลาน้นั 2) ใช้ “going to” กบั แผนการในอนาคตท่ีวางไวว้ า่ จะทาบางสิ่ง บางอยา่ ง เป็นการเนน้ ใหท้ ราบถึงความต้งั ใจ และการตดั สินใจท่ี จะทาบางส่ิงบางอยา่ งในอนาคต มีการเตรียมการไวแ้ ลว้ วา่ จะทา เช่น We are going to buy a new house next month. (หมายความวา่ ผพู้ ูดไดม้ ีการเตรียมการในการซ้ือบา้ นหลงั ใหม่ ไวแ้ ลว้ ) โครงสร้างประโยคบอกเล่า Subject + v. to be + going to + verb 1 (infinitive) + ส่วนขยาย
Subject V. to be going to I am + You are We verb 1 (infinitive) is They He She It เอกสารเสริมวิชาการเร่ือง Be going to วชิ า ภาษาองั กฤษ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 5 การใช้ simple present tense เพื่อบอกสิ่งทจ่ี ะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต Pesent Simple Tense โดยปกติจะใชเ้ พ่ือบอกขอ้ เทจ็ จริงทว่ั ไป ไม่ก็ กิจวตั รประจาวนั แต่ยงั สามารถถูกนามาใชเ้ พ่อื บอกใหท้ ราบถึงเหตุการณ์ท่ี จะเกิดข้ึนในอนาคตได้ หากคากล่าวน้นั ต้งั อยบู่ นพ้ืนฐานของขอ้ เทจ็ จริงใน ปัจจุบนั และ ขอ้ เทจ็ จริงเหลา่ น้ีเป็นสิ่งที่ถกู กาหนดไวแ้ ลว้ ในตารางเวลา ตารางงาน ปฏิทิน Pesent Simple Tense สาหรับบอกเหตุการณ์ในอนาคตน้นั มกั จะเป็น “หมายกาหนดการตา่ งๆ ตามตารางเวลา”
ท่ีกาหนดไวแ้ ลว้ ส่วนมากจะเป็นเวลาปิ ดเปิ ดของร้านคา้ องคก์ รต่งๆ และ การเดินทางของยานพาหนะ เช่น รถ เรือ เคร่ืองบิน รวมถึงการเดินทางของคน เช่น - The shop opens at 7.00 am. tomorrow. ร้านเปิ ดเวลา 7 นาฬิกา พรุ่งน้ี (กาหนดการเปิ ดร้านใหม่ หลงั ปิ ดซ่อม มานาน) - My school starts next month. โรงเรียนของฉนั เปิ ดเรียนเดือนหนา้ (กาหนดการบอกไว)้ - My bus leaves at nine o’clock. รถบสั ของฉนั ออกเวลา 9 นาฬิกา (เวลาระบุไวใ้ นตว๋ั ) - The plane arrives in Bangkok at 2 o’clock tomorrow. เคร่ืองบินมาถึงกรุงเทพเวลา 2 นาฬิกา พรุ่งน้ี (ตารางเวลาแจง้ ไว)้ - I have French lesson next Monday. ฉนั มีบทเรียนวิชาฝรั่งเศสวนั จนั ทร์หนา้ (ตารางเรียนระบุไว)้ - This project ends next year. โครงการน้ีสิ้นสุดปี หนา้ (งานแผนกาหนดไว)้ - I fly to London next week. ฉนั บินไปลอนดอนสปั ดาห์หนา้ (กาหนดการจากเลขาแจง้ มา) - My flight departs at 7.00 o’clock. เที่ยวบินของฉนั ออกเวลา 7 นาฬิกา (เวลาระบุในตวั๋ )
เปรียบเทียบการใช้ will and be going to 1. เราใช้ will เม่ือเราได้ตัดสินใจว่า 1. เราใช้ be going to เมื่อเราพูดถงึ จะกระทาบางสิ่งบางอย่างใน ส่ิงทีเ่ ราได้ตดั สินใจหรือเตรียมการ ขณะที่เราพูด (มีการตัดสินใจใน เอาไว้ก่อนแล้วว่าเราจะ ขณะท่กี าลงั พดู นั่นเอง) ทา Julie: There's no milk. (นม Julie: There’s no milk. (นม หมด) John: Really? In หมด) John: I know. I’m that case, I’ll go and buy gonna go and buy some when some. (จริงรึ? ถา้ อยา่ งน้นั ฉนั จะ this T.V program finishes. (ผม ออกไปซ้ือ) นนั่ กค็ ือ จอห์นได้ รู้ ผมจะออกไปซ้ือหลงั จากจบ ตดั สินใจท่ีจะออกไปซ้ือนมใน รายการน้ี) ขณะท่ีเขาพดู ในกรณีน้ี จอห์นรู้วา่ นมหมด และ ไดต้ ดั สินใจท่ีจะออกไปซ้ือก่อนท่ี จะพดู กบั จูเลีย ** gonna ใชพ้ ดู แทน going to เม่ือเราไปร้านอาหาร Waitress: What would you like Waitress: What would you like to have? คุณจะทานอะไร to have? Jane: I’ll have Noodles fried in Jane: I’m going to have Noodles soy sauce. (ฉนั จะทานผดั ซีอิ้ว) fried in soy sauce. ในกรณีน้ีเจน
คือตดั สินใจวา่ จะทานผดั ซีอิว้ ใน ไดต้ ดั สินใจไวก้ ่อนแลว้ วา่ ฉนั จะ ขณะที่ส่ังอาหาร ทานผดั ซีอิว้ คืออยากจะทานมา นานหละ.. หรือใช้ถามถึงการตดั สินใจหรือ เตรียมการ -When are you going to Spain? (คุณจะไปสเปนเม่ือไหร่) ในกรณีน้ี รู้อยแู่ ลว้ วา่ เขาจะไป สเปน แตไ่ ม่รู้วา่ จะไปเมื่อไหร่ 2. เราใช้ will เมื่อเราพดู ถงึ สิ่งที่เรา 2. เราใช้ be going to เมื่อเราพดู ถึง คดิ คาดเดา คาดการณ์หรือเชื่อว่า ส่ิงทเี่ ราคาดว่า เช่ือว่าจะเกดิ ขนึ้ มนั จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต โดยมักจะ แน่นอนจากสถานการณ์ปัจจุบนั ที่ มีคาเหล่านี้ เป็ นตวั บ่งชี้ว่าจะเกดิ ขนึ้ ** Think (คิดวา่ ) sure (แน่ใจ วา่ ) expect (คาดวา่ ) know (รู้ วา่ ) probably (อาจจะ) guess (เดา -Get back..! it’s going to วา่ ) believe (เชื่อวา่ ) hope (หวงั explode. (ถอยกลบั ไป มนั จะ วา่ ) ** ระเบิด)
-I think he will pass the -I feel nauseous. I think I’m exam. (ฉนั คิดวา่ เขาจะสอบผา่ น) going to throw up. (ฉนั รู้สึก -I’m not sure I’ll call you คลื่นไส้ ฉนั คิดวา่ ฉนั จะอ๊วก) tonight. (ผมไมแ่ น่ใจวา่ ผมจะโทร -Watch out..! that dog’s going หาคุณคืนน้ื) to bite you. (ระวงั ..! หมาตวั น้นั จะ -I believe she’ll do it. (ฉนั เช่ือ กดั คุณ) วา่ เธอจะทา) 3. ใช้กล่าวถึงความรู้สึก ความต้ังใจ การสัญญา และข้อเสนอ -I’m thirsty I’ll buy something to drink. (ฉนั หิวน้า ฉนั จะซ้ือ อะไรด่ืมสกั หน่อย) -I feel lazy I won’t do anything today. (ฉนั รู้สึกข้ึเกียจ วนั น้ีฉนั จะไม่ทาอะไรท้งั น้นั ) -Don’t worry, I won’t tell anyone. (ไมต่ อ้ งกงั วล ผมจะไม่ บอกใคร) -I promise I’ll behave next time. (หนูสญั ญาวา่ หนูจะทาตวั ดีๆคราวหนา้ )
-I’ll take you to the airport tomorrow. (ผมจะพาคุณไป สนามบินพรุ่งน้ี) เมื่อรู้ถึงหลกั การใช้ ท้งั ของ will และ be going to แลว้ เรากส็ ามารถที่จะ นาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง วา่ เหตุการณ์ไหนใช้ will เหตุการณ์ไหนใช้ be going to เม่ือเขา้ ใจ ภาษาองั กฤษก็ไมอ่ ยากอยา่ งที่คิดใช่ม้ยั คะ่ ..?
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: