ภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษา ระพิน ชูชื่น โรงเรียน สาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
บทที่ ๗ ชนิดของคำ... คำสันธาน ชนิดของคำ คำนาม คำอุทาน คำวิเศษณ์ คำสรรพนาม คำกริยา คำบุพบท คำสรรพนาม คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำกริยา คำสันธาน คำอุทาน คำนาม แบบฝึกหัด การอ้างอิง
บทที่ ๗ ชนิดของคำ ชนิดของคำ คำในภาษาไทย สามารถแบ่งได้ตามความหมายและหน้าที่ได้ ๗ ชนิด ดังนี้๑ คำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำวิเศษณ์ นอน ร้องไห้ ใหญ่ เหนือ เก้าอี้ ฉัน ผม คำสันธาน คล้าย ทั้ง เขียว พ่อแม่ ท่าน เธอ จะ เปรี้ยว ความดี เขา มัน คำอุทาน ใกล้ ผู้อำนวยการ คำบุพบท ด้วย และ กับ แต่ โอ๊ย พุทโธ่ ตาม แม้ว่า อนิจจา เพื่อ โดย เพื่อ วัดวา ลูกเต้า
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนาม คำนาม คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ พืช สถานที่ สิ่งของ สภาพอาการ ลักษณะซึ่งหมายรวมทั้ง สิ่งมีชีวิตทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม เช่น วิภาดา กวาง ปลา โรงพยาบาล ความสุข มหาสมุทร ฯลฯ คำนาม แบ่งออกเป็น ๕ ชนิดด้วยกัน๒ คือ ✦ คำนามที่ไม่ชี้เฉพาะ (สามานยนาม) ✦ คำนามที่ชี้เฉพาะ (วิสามานยนาม) ✦ คำนามที่บอกลักษณะของนาม (ลักษณนาม) ✦ คำนามรวมหมู่ (สมุหนาม) ✦ คำนามบอกอาการ (อาการนาม)
คำนาม บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนามที่ไม่ชี้เฉพาะ (สามานยนาม) คำนามที่ไม่ชี้เฉพาะ (สามานยนาม) คือ คำนำที่ใช้เรียกชื่อทั่ว ๆ ไป ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง เช่น ปากกา แม่น้ำ โรงเรียน เสื้อผ้า สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ครู อาจารย์ ปู่ ย่า นก หนู งู ทะเล ลำคลอง สำนักงาน รถยนต์ ฯลฯ ✦ พ่อชอบอ่านหนังสือ ✦ แม่กำลังล้างชาม ✦ ผู้ใหญ่บ้านจับช้างได้ ๑ เชือก ✦ อากาศในกรุงเทพฯ กำลังร้อนจัด ✦ เด็ก ๆ กำลังเล่นคอมพิวเตอร์
คำนาม บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนามชี้เฉพาะ (วิสามานยนาม) คำนามชี้เฉพาะ (วิสามานยนาม) คือ คำนามที่เป็นชื่อเฉพาะ ข้อสังเกต ที่สมมุติตั้งขึ้นสำหรับเรียก คน สัตว์ และสิ่งของบางอย่าง เพื่อให้ วิสามานยนามนี้ต้องเป็นคำใช้เป็นชื่อ รู้ชัดว่า คนนี้ สัตว์ตัวนี้ ของสิ่งนี้๓ เช่น ตั้งขึ้น เรียกคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และของสิ่งเดียว ถึงจะเป็นชื่อหมู่คณะ ชื่อคน สนั่นเป็นคนใจดี ต้องเป็นหมู่เดียว คณะเดียว เช่น มานะและมานีเป็นเพื่อนกัน ชาติ ชาติไทย หมายถึงชาติไทยชาติ เดียว ชื่อสัตว์ เอราวัณเป็นช้างอยู่บนสวรรค์ โ ร ง เ รีย น ส า ธิต “ พิบูล บำเ พ็ญ ” ชื่อสถานที่ เขาไปสมัครงานที่กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยบูรพา” โรงเรียนเดียว ถึงแม้จะเผชิญมีชื่อซ้ำกันบ้าง ก็หมาย ฉันไปเที่ยวกับพ่อที่ประเทศอิตาลี ถึงเฉพาะคน เฉพาะสิ่ง ไม่ทั่วถึงกัน โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นต้น เป็นโรงเรียนที่ฉันกำลังเรียนอยู่
คำนาม บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนามที่บอกลักษณะของนาม (ลักษณนาม) คำนามที่บอกลักษณะของนาม (ลักษณนาม) คือ คำนำที่ใช้บอกลักษณะของคำนามข้างหน้า เพื่อให้รู้ ลักษณะรูปพรรณสัณฐาน หรือสัดส่วนของนามนั้น ๆ เช่น เชือก ๑ เส้น ปากกา ๑ ด้าม กระเป๋า ๑ ใบ ไม้บรรทัด ๑ อัน คำว่า เส้น ด้าม ใบ อัน เหล่านี้เป็นลักษณนาม ✦ ลักษณะทั่วไป (ใช้สามานยนามเป็นลักษณะนาม) เช่น ❖ ห้อง ๒ ห้อง ❖ เตียงนอน ๒ เตียง ❖ น้ำ ๓ แก้ว ❖ แกง ๒ หม้อ ✦ ลักษณะทั่วไป (ใช้สามานยนามเป็นลักษณะนาม) เช่น ❖ ร่ม ๒ คัน ❖ ธูป ๓ ดอก ❖ เทียน ๒ เล่ม ❖ นาฬิกา ๓ เรือน ❖ ยักษ์ ๑ ตน
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนาม คำนามรวมหมู่ (สมุหนาม) คือ คำนามที่ใช้ คำนามรวมหมู่ (สมุหนาม) ข้อสังเกต แสดงชื่อหมวดหมู่ มักประกอบหน้าคำนามอื่น ๆ ✦ คณะสงฆ์กำลังทำวัตร ๑. สมุหนามจะต้องทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมหรือ ✦ โขลงช้างกำลังวิ่งเข้าป่า ส่วนขยายของประโยคได้เหมือนกัน สมุหนามซึ่งจะนับ ✦ ฝูงปลากำลังแหวกว่ายธารา ว่าเป็นสมุหนาม เช่น ✦ พวกโจรแพ้พวกตำรวจ ✦ มีกองหนังสืออยู่บนโต๊ะ ✦ โขลงช้างเดินผ่านทุ่ง (สมุหนาม) ✦ องค์การข้าวได้ส่งข้าวไปยุโรป ✦ ช้างโขลงหนึ่งเดินผ่านทุ่ง (ลักษณนาม) ✦ บริษัทขอขอบคุณประชาชน ๒. สมุหนามจะต้องเป็นสมมุติบุคคล จึงจะนับว่าเป็น สมุหนาม แต่ถ้าหมายถึงองค์กรตามรูปศัพท์ต้องนับเป็น นามชนิดอื่นตามชนิดของคำ ไม่ใช่สมุหนาม เช่น ✦ บริษัทตั้งอยู่ถนนวิภาวดี (สามานยนาม) ✦ บริษัทขอแสดงความขอบคุณประชาชน (สมุหนาม) ✦ เลิศลบไปโรงเรียน (สามานยนาม) ✦ โรงเรียนออกใบรับรองให้นักเรียน (สมุหนาม)
คำนาม บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำนามบอกอาการ (อาการนาม) คำนามบอกอาการ (อาการนาม) คือ คำนามที่เกิดจากคำกริยาหรือคำวิเศษณ์ที่มีคำว่า “การ” หรือ “ ค ว า ม ” นำห น้า คำน า ม ช นิด นี้มีลัก ษ ณ ะ ผิด กับ คำน า ม ช นิด อื่น๔ เ ช่น ก า ร เ ดิน ก า ร ยืน การนอน การวิเคราะห์ การศึกษา ความคิด ความรู้ ความดี ความเชื่อ ความเสื่อม ความเห็นแก่ตัว ความมักใหญ่ ความทุกข์ ฯลฯ ข้อสังเกต ✦ คำว่า “การ” มักใช้นำหน้าคำกริยาที่แสดงความเป็นไปได้ ทางกาย วาจา เช่น การยืน การเดิน การนั่ง การนอน การเรียน ✦ คำว่า “ความ” มักนำหน้าคำวิเศษณ์หรือคำกริยาที่มีความเป็นไปได้ในทางจิตใจ หรือคำที่แสดงความ นึกคิดทางนามธรรม เช่น ความชั่ว ความยาก ความเร็ว ความหรูหรา ✦ คำว่า “การ” และ “ความ” ถ้านำหน้าคำชนิดอื่นนอกจากคำกริยาและคำวิเศษณ์ไม่นับว่าเป็นอาการนาม เช่น การไฟฟ้า การประปา การค้า การเมือง การคลัง ความแพ่ง ความอาญา ฯลฯ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกลักษณะ (ลักษณวิเศษณ์) แบ่งออกเป็น บอกชนิด ได้แก่ ชั่ว เลว แก่ บอกขนาด ได้แก่ สูง ใหญ่ บอกสัณฐาน ได้แก่ กลม แบน อ่อน หนุ่มสาว ธรรมดา พิเศษ เล็ก กว้าง ยาว เขื่อง จิ๋ว แป้น รี สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เช่น เช่น ทุย ป่อง แฟบ เช่น ✦ คนชั่ว ✦ งูใหญ่ ✦ โต๊ะกลม ✦ วัวดี ✦ เชือกยาว ✦ หัวทุย ✦ หญ้าอ่อน
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกลักษณะ (ลักษณวิเศษณ์) แบ่งออกเป็น บอกสี ได้แก่ ขาว ดำ เหลือง บอกเสียง ได้แก่ ดัง ค่อย บอกกลิ่น ได้แก่ หมอ เหม็น แดง เช่น เพราะ แปร่ง เครือ แผ่ว แหบ ฉุน เหม็นอับ เหม็นสาบ เช่น เช่น ✦ ผ้าขาว ✦ เสียงดัง ✦ ดอกไม้หอม ✦ เสื้อดำ ✦ พูดค่อย ✦ รองเท้าแดง ✦ ร้องเพลงเพราะ ✦ ดอกไม้บางชนิดมีกลิ่น ฉุน
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกลักษณะ (ลักษณวิเศษณ์) แบ่งออกเป็น บอกรส ได้แก่ เปรี้ยว หวาน บอกสัมผัส ได้แก่ ร้อน เย็น บอกอาการ ได้แก่ ช้า เร็ว เฉื่อย เค็ม ขม ขื่น ปร่า อร่อย นิ่ม ละเอียด บาง หนา ขรุขระ ว่องไว เข้มแข็ง ปราดเปรียว กลมกล่อม เช่น เช่น เช่น ✦ ส้มเปรี้ยว ✦ กาแฟร้อน ✦ วิ่งช้า ✦ ปลาเค็ม ✦ น้ำเย็น ✦ แล่นเร็ว ✦ ลูกอมหวาน ✦ หมอนนิ่ม ✦ เดินเฉื่อย
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกเวลา (กาลวิเศษณ์) คำวิเศษณ์บอกเวลา (กาลวิเศษณ์) คือคำที่ใช้ ตัวอย่าง ขยายคำอื่นเพื่อบอกเวลา ปัจจุบัน อดีต อนาคต เช่น ทุกวัน เมื่อคืนนี้ โบราณ เดี๋ยวนี้ แต่ก่อน ใน ✦ เขามาโรงเรียนสาย อดีต ปัจจุบัน สมัยก่อน อดีต เช้า สาย เมื่อวาน ✦ เราจะไปเดี๋ยวนี้ ก่อน หลัง ฯลฯ ✦ ฉันจะไปพบเธอเวลาเย็น ✦ บริษัทจะส่งหนังสือมาภายหลัง คำวิเศษณ์บอกสถานที่ (สถานวิเศษณ์) คำวิเศษณ์บอกสถานที่ (สถานวิเศษณ์) เป็นคำ ตัวอย่าง ขยายที่แสดงที่อยู่หรือระยะที่ตั้งอยู่ เช่น เหนือ ใต้ ไกล ใกล้ เป็นต้น ✦ โรงเรียนอยู่ไกล ✦ ป้าเดินไปทางทิศเหนือ ✦ เด็กๆ จะไปบ้านนอก ✦ เขาอาศัยอยู่ชั้นล่าง
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกปริมาณหรือจำนวน (ประมาณวิเศษณ์) คำวิเศษณ์บอกเวลาปริมาณหรือจำนวน (ประมาณ ตัวอย่าง วิเ ศ ษ ณ์) เ ป็น คำป ร ะ ก อ บ บ อ ก จำน ว น ห รือ จำนวนนับ เช่น มาก น้อย อันดับสิบ หมด ทุก จุ ✦ เขากินข้าวหมด บ้าง อันละ ที่หนึ่ง หนึ่ง สอง ฯลฯ ✦ คนงามกินจุ ✦ นักเรียนจะมาพบห้าคน ✦ คนทั้งหลายเดือดร้อนเพราะน้ำท่วม คำวิเศษณ์บอกความชี้เฉพาะ (นิยมวิเศษณ์) คำวิเศษณ์บอกความชี้เฉพาะ (นิยมวิเศษณ์) คือ ตัวอย่าง คำวิเศษณ์ที่บอกความชี้เฉพาะแน่นอน ได้แก่คำว่า นี่ โน่น นั่น นี้ นั้น แน่ เอง ทั้งนี้ ทั้งนั้น อย่างนี้ ✦ แก้วนี้ต้องทำความสะอาดอย่างนี้ เป็นต้น ✦ ชายคนนั้นเป็นชาวไทย ✦ หล่อนต้องมาหาเราแน่ ✦ ตึกนี้มีคนขายแล้ว
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์บอกความไม่ชี้เฉพาะ (อนิยมวิเศษณ์) คำวิเศษณ์บอกความไม่ชี้เฉพาะ (อนิยมวิเศษณ์) ตัวอย่าง เป็นคำประกอบที่แสดงความไม่แน่นอน เช่น อื่น อื่น ๆ ใด ใด ๆ อะไร อะไร ๆ เป็นต้น ✦ เด็กอะไรซนอย่างนี้ ✦ วิชาอื่น ๆ ก็สู้วิชานี้ไม่ได้ ✦ ถึงจะแพงสักเท่าไร ฉันก็จะซื้อ คำวิเศษณ์แสดงคำถาม (ปฤจฉาวิเศษณ์) คำวิเศษณ์แสดงคำถาม (ปฤจฉาวิเศษณ์) เป็นคำที่ ตัวอย่าง ใช้ถาม เช่น อะไร ใคร ไหน ทำไม แต่คำเหล่านี้จะ ตามหลังคำนาม สรรพนาม หรือกริยา ✦ ผลไม้อะไรที่แน็คซื้อมาใช้ฉัน ✦ นักร้องคนไหนไม่ชอบร้องเพลง ✦ คนไข้มีอาการอย่างไร ✦ สุนัขใครน่ารักจัง ✦ เธออายุเท่าไร
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์แสดงคำขานรับ (ประติชญาวิเศษณ์) คำวิเศษณ์แสดงคำขานรับ (ประติชญาวิเศษณ์) ตัวอย่าง เป็นคำขานรับหรือคำประกอบใช้แสดงขานรับ เช่น ค่ะ ครับ จ๊ะ จ๋า ฯลฯ ✦ คุณครับ รถไฟจะออกแล้ว ✦ คุณแม่ขา โทรศัพท์ค่ะ ✦ เธอจะไปไหนจ๊ะ คำวิเศษณ์แสดงความปฏิเสธ (ประติเษธวิเศษณ์) คำวิเศษณ์แสดงความปฏิเสธ (ประติเษธวิเศษณ์) ตัวอย่าง เป็นคำบอกห้าม หรือบอกปฏิเสธ เช่น ไม่ หาไม่ เปล่า อย่า เป็นต้น ✦ เงินทองไม่ใช่ของหาง่าย ✦ นักเรียนไม่ควรนั่งหลับในห้องเรียน ✦ เธออย่าเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังนะ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำบุพบท คำบุพบท คือ คำที่ทำหน้าที่นำหน้าคำนาม คำสรรพนาม และคำที่ทำหน้าที่เหมือนคำนามใน ประโยคต่าง ๆ เพื่อบอกตำแหน่งหน้าที่ของคำนั้น เช่น กับ แก่ แต่ ต่อ เพื่อ คำบุพบทแบ่งออกเป็น ๕ ชนิด ดังนี้๗ ✦ บุพบทนำหน้าบทบอกลักษณะที่เป็นเครื่องใช้ ผู้รับ หรือมีอาการร่วมกัน เช่น ด้วย โดย กับ แก่ ต่อ ทั้ง ตาม สำหรับ เพื่อ เฉพาะ ฯลฯ ✦ บุพบทนำหน้าบทบอกเวลา เช่น เมื่อ ใน ณ แต่ ตั้งแต่ จน กระทั่ง ฯลฯ ✦ บุพบทนำหน้าบทบอกสถานที่ เช่น ที่ ใน เหนือ ใต้ บน ล่าง ใกล้ ไกล ห่าง ชิด แต่ จาก ถึง สู่ ยัง ฯลฯ ✦ บุพบทนำหน้าบทบอกจำนวน เช่น ประมาณ ราว สัก สิ้น ทั้งสิ้น ตลอด หมด เกือบ ฯลฯ ✦ บุพบทนำหน้าบทที่เป็นเจ้าของ เช่น ของ แห่ง ฯลฯ ข้อสังเกต คำบุพบทคำเดียวกันอาจจัดเป็นบุพบทชนิดต่าง ๆ ได้หลายชนิด
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำบุพบท คำบุพบทจะใช้นำหน้าคำนาม คำสรรพนาม และคำที่ทำหน้าที่เหมือนคำนามในประโยคต่าง ๆ โดยจะปรากฏในตำแหน่งต่าง ๆ ตามที่ผู้พูดต้องการจะเน้น ต้นประโยค กลางประโยค ส่วนมากเป็นบุพบทนำหน้าบอกเวลา สถานที่ ได้แก่บุพบททุกชนิด เช่น และบอกลักษณะ เช่น ✦ ฉันเห็นดาวกลับมาเมื่อวันก่อน ✦ ฉันทำเพื่อเธอได้ ✦ เมื่อวันก่อนฉันเห็นดาวกลับมาแล้ว ✦ มีแม่ค้าขายพวงมาลัยใกล้ประตูทางเข้า ✦ เพื่อเธอฉันทำได้ ✦ ใครหยิบปากกาของฉันไป ✦ ใกล้ประตูทางเข้ามีแม่ค้าขายพวงมาลัย ✦ สมศักดิ์อยู่ที่นี่มาเกือบ ๓ ปี
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำบุพบท ข้อสังเกต ๑. การใช้บุพบทบางคำ๘ ✦ แก่ ใช้เมื่อประธานทำกริยาฝ่ายเดียวและแสดงว่านามที่ตามมาเป็น ผู้รับมักใช้กับคำกริยาที่มีความหมายเกี่ยวกับการบอกหรือให้ เช่น ✤ อาจารย์ใหญ่มอบรางวัลแก่นักเรียนเรียนดี ✤ คุณหญิงบริจาคเงินหนึ่งล้านบาทแก่โรงพยาบาล ✦ แด่ ใช้แทนแก่ในกรณีให้เกียรติยกย่องหรือใช้กับผู้นับถือสูงสุด เช่น ✤ เขาอุทิศส่วนกุศลแด่ภรรยาของเขาซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว ✦ กับ ใช้เมื่อประธานและบทขยายกริยาทำกริยาร่วมกัน เช่น ✤ พี่ทะเลาะกับน้อง ✤ ฤทัยเห็นเหตุการณ์นี้กับตา ✦ ต่อ ใช้แสดงความเกี่ยวข้อง เช่น ✤เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำบุพบท ข้อสังเกต ๒. บุพบทบางคำ ถ้าไม่มีคำนามตามหลังจัดเป็นคำวิเศษณ์ เช่น ✦ โรงเรียนอยู่ใกล้ (ใกล้เป็นคำวิเศษณ์) ✦ เขาอยู่เหนือ (เหนือเป็นคำวิเศษณ์) ✦ ฉันอยู่ใต้ (ใต้เป็นคำวิเศษณ์) ✦ เขาอยู่ไกลมาก (ไกลเป็นคำวิเศษณ์)
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำสันธาน คำสันธาน คือ คำที่ใช้เชื่อมข้อความหรือประโยคให้เห็นเป็นข้อความเดียวกันหรือสอดคล้องกัน คำสันธานแบ่งเป็นพวก ๆ ดังนี้๙ ๑. เชื่อมความที่คล้อยตามกัน ๑.๑ ประโยคหลายประโยคที่มีประธานมากกว่าหนึ่ง ใช้กริยาและกรรมร่วมกัน ให้ใช้ คำสันธาน “และ” “กับ” เชื่อมให้เป็นความเดียวกัน เช่น ✦ แก้วไปโรงเรียน ก้องไปโรงเรียน รวมเป็น แก้วและก้องไปโรงเรียน ✦ เขาเป็นเพื่อนเธอ ฉันเป็นเพื่อนเธอ รวมเป็น เขากับฉันเป็นเพื่อนเธอ ๑.๒ ประโยคหรือข้อความที่คล้อยตามกันเกี่ยวกับเวลา ใช้คำสันธานเหล่านี้เชื่อม “เมื่อ….ก็” “พอ…ก็” “ทั้ง….และ” “ทั้ง….ก็” เช่น ✦ เมื่อฉันทำการบ้านเสร็จก็ไปดูโทรทัศน์ ✦ พอสมฤทัยรดน้ำต้นไม้เสร็จก็ไปอาบน้ำ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำสันธาน ๒. เชื่อมประโยคหรือข้อความที่ขัดแย้งกัน ให้ใช้คำสันธาน “แต่” “แต่ว่า” “ถึง…ก็” “กว่า….ก็” เช่น ✦ ละเอียดชอบเรียนภาษาไทยแต่นาครชอบเรียนเลขคณิต ✦ กว่าฝนจะหยุดโรงเรียนก็เลิกแล้ว ๓. เชื่อมความที่ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้ใช้คำสันธาน “หรือ” “มิฉะนั้น” “ไม่เช่นนั้น” “ไม่…ก็” เช่น ✦ เธอชอบรับประทานบะหมี่หรือข้าว ✦ คุณต้องไปกับฉันมิฉะนั้นฉันจะรายงานหัวหน้า ๔. เชื่อมประโยคหรือข้อความที่เป็นเหตุเป็นผล โดยใช้คำสันธาน “ฉะนั้น” “จึง” “เหตุนี้” “เพราะ….จึง” “ฉะนั้น….จึง” เช่น ✦ วารีไม่ตั้งใจฟังครูจึงทำการบ้านไม่ได้ ✦ เพราะฝนตกหนักเธอจึงไม่ยอมไปซ้อมดนตรี
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำอุทาน คำอุทาน คือ คำที่เปล่งออกมาเพื่อแสดงอารมณ์ หรือความรู้สึกของผู้พูด คำอุทานส่วนมากจะ ไม่มีความหมายตรงตามถ้อยคำ แต่จะมีความหมายทางเน้นความรู้สึก และอารมณ์ของผู้พูด เป็นสำคัญ มีทั้งที่เป็นคำคำเดียว และกลุ่มคำ คำอุทานแบ่งออกเป็น ๓ ชนิด ดังนี้๕ ✦ คำอุทานที่ใช้ในการพูดจาทั่วไป ✦ คำอุทานที่ใช้ในคำประพันธ์ ✦ คำอุทานเสริมบท
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำอุทาน คำอุทานที่ใช้ในการพูดจาทั่วไป ! เป็นคำอุทานที่บอกอาการหรือแสดงความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ ของผู้พูด เช่น ร้องเรียก โกรธเคือง ตกใจ ประหลาดใจ สงสาร เข้าใจ เจ็บปวด สงสัย ไต่ถาม ห้าม ทักท้วง เช่น เฮ้ย โว้ย ชะ เอ๊ะ แหม แม่เจ้าโว้ย พุทโธ่ อนิจจา โถ อ้อ เออ อุ๊ย โอ๊ย หือ หา หื้อ ฮ้า ฯลฯ คำอุทานชนิดนี้ต้องมีเครื่องหมายอัศเจรีย์ (!) กำกับ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำอุทาน คำอุทานที่ใช้ในคำประพันธ์ เป็นคำอุทานที่แทรกในคำประพันธ์เพื่อให้สละสลวยขึ้น มัก จะปรากฏเป็นสร้อยคำ เช่น อา อ้า โอ้ เอย แฮ เฮย แล นา ฯลฯ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ คำอุทาน คำอุทานเสริมบท เป็นคำอุทานที่ผู้พูดกล่าวเพิ่มเติมถ้อยคำที่พูดให้ยาวขึ้น เพื่อเน้น ความหมายให้ชัดเจน อาจใช้เติมข้างหน้าคำ ข้างหลังคำ หรือ กลางคำได้ เช่น ลูกเต้า แขนแมน เสื่อสาด หยูกยา เรือแพ วัดวา มุ้งม่าน บันดงบันได ขนุกขนม ฯลฯ ความหมายของคำ จะอยู่ที่คำหลักไม่ใช่คำอุทาน คำอุทานเสริมบทจัดเป็นคำซ้อน บางครั้งคำที่นำมาซ้อนเป็นภาษาถิ่นที่มีความหมายเช่นเดียวกับ คำหลัก เ ช่น เสื่อสาด วัดวา
บทที่ ๗ ชนิดของคำ มาทบทวนความรู้ด้วย การทำแบบฝึกหัดกันเถอะ
แบบฝึกหัดบทที่ ๗ บทที่ ๗ ชนิดของคำ ตอนที่ ๑ จงวงกลมรอบคำที่เป็นคำนาม เรียน ความงาม ข้า ดินสอ โรงเรียน ต้นะม่วง พิกุล ร้องเพลง จิก ตา ฆราวาส กัด สำนักงาน จังหวัด อ่อน
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๒ จงนำคำที่กำหนดให้เติมลงในที่ที่กำหนดให้ให้ถูกต้อง วิยะดา ประเทศไทย ดวงจันทร์ คนไทย โรงเรียนสาธิต หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ แม่น้ำเจ้าพระยา ผู้อำนวยการ หาดบางแสน สุนทรภู่ สวนสนุก นามทั่วไป นามชี้เฉพาะ
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๓ จงนำลักษณนามที่กำหนดให้ใส่ในช่องว่างให้ถูกต้อง คู่ คน รูป ผืน แปลง ๑) ฉันมีผ้าขนหนูใหม่ ๓ ………………… ๒) นราซื้อรองเท้าผ้าใบมา ๑ …………………… ๓) คุณยายมีสวนผักอยู่ ๒ ……………………… ๔) ครอบครัวของฉันมีสมาชิกทั้งหมด ๑๐…………….. ๕) เมื่อเช้าคุณแม่ใส่บาตรพระสงฆ์จำนวน ๒๕ ………...….
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๔ จงเติมลักษณนามที่เหมาะสมลงในช่องว่าง ๑) แม่ซื้อขลุ่ยให้ฉันหนึ่ง………………………… ๒) ฉันซื้อข้าวหลามมา ๕…………………………. ๓) วัดในกรุงเทพฯ มีอยู่มากมายหลาย…………… ๔) ถนน……..นี้ มุ่งตรงไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ๕) คุณพ่อบริจาคโทรทัศน์ ๔………..ให้แก่โรงเรียนชนบท
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๕ จงเติมสมุหนามของคำนามต่อไปนี้ ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ตัวอย่าง โขลง ช้าง ๑) ………………………หนังสือ ๒) ………………………ลิง ๓) ………………………รัฐมนตรี ๔) ………………………กล้วย ๕) ………………………ทหาร
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๖ จงเขียนชนิดของคำที่ขีดเส้นใต้ลงในช่องว่างท้ายประโยค ๑. คุณลุงมีบุตร ๒ คน ______________ ๒. คนในบ้านนี้ล้วนแต่เป็นนักดนตรี ______________ ๓. คณะสงฆ์เดินทางไปประเทศอินเดีย ______________ ๔. พระสงฆ์ลาวคณะหนึ่งเข้ามาเมืองไทย ______________ ๕. นกฝูงหนึ่งกำลังบินกลับรัง ______________ ๖. ฝูงนกกำลังบินออกหาเหยื่อ ______________
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๗ จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว Question 1 of 10 ๑) ข้อใดเป็นสามานยนาม A. ประเทศจีน B. ประเทศพม่า C. ประเทศไทย D. ประเทศต่าง ๆ Check Answer
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๘ จงเลือกคำปฤจฉาสรรพนามเติมลงในช่องว่างให้เหมาะสม ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไร ทำไม ๑) เขากำลังพักผ่อนอยู่………………………………? ๒) แมวคาบ………………………………มาจากสวน? ๓) ………………………………เขาจึงไม่ส่งการบ้าน? ๔) ……………………………..จะถึงวันเกิดของพจน์? ๕) ………………………….นำดอกไม้มาวางไว้ที่โต๊ะ?
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๙ จงเติมคำปฤจฉาสรรพนามลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ๑) ……………………..พระองค์จะเสด็จมาทางนี้? ๒) นั่นวิวัฒน์กำลังทำ……………………………? ๓) ………………………กันที่เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง? ๔) ……………….นายทะเบียนจึงต้องไปที่อำเภอ? ๕) คุณกับอลิสาจะไป……………………………?
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๑๐ จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว Question 1 of 10 ๑) ข้อใดมีคำสรรพนาม A. ผมของจุ๋มยาวแล้ว B. แดงตัดผมสั้น C. ผ้าคลุมผม D. ผมดีใจ Check Answer
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๑๑ จงนำอักษรหน้าคำด้านขวามือมาใส่หน้าข้อความทางด้านซ้ายมือที่มีความ สัมพันธ์กัน ________ ๑. พระภิกษุสงฆ์ ก. พระองค์ท่าน ________ ๒. เจ้าโตแสนรู้ ข. ท่าน ________ ๓. นายกรัฐมนตรี ค. ท่านทั้งหลาย ________ ๔. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ง. เธอ ________ ๕. สุนทรภู่ จ. อาตมา ________ ๖. ปิยะรัตน์ ฉ. ฯพณฯ ________ ๗. คุณหญิงโม ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ช. มัน
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๑๒ จงเติมคำกริยาลงในช่องว่างให้เหมาะสม ๑) นก………………..กิ่งไม้ ๒) ฟ้า………………...ครืน ๆ ๓) ลูกเสือ…………….ธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ๔) จุ๋ม…………………ดอกกุหลาบ ๕) ดวงอาทิตย์…………ทางทิศตะวันตก ๖) ปิดเทอมนี้ฉันจะไป………….คุณยายที่เชียงใหม่
บทที่ ๗ ชนิดของคำ แบบฝึกหัดบทที่ ๗ ตอนที่ ๑๓ จงเลือกคำกริยาเติมลงในช่องว่างให้เหมาะสม ชอบ สวม สวดมนต์ เยี่ยม รีด เล่น ๑) นิดาช่วยคุณแม่…………………….ผ้า ๒) พระ………………..ในเวลาเช้า ๓) คุณลุงชอบ……………………หมวก ๔) ชาวต่างประเทศ……………….ผ้าไหมของไทย ๕) คุณพ่อ………………เทนนิสในเวลาเช้า ๖) ปิดเทอมนี้ฉันจะไป………………..คุณยายที่เชียงใหม่
Search