ส่วนงานศนู ยฝ์ ึกอบรมดา้ นงานขายและเทคนิค บริษทั เอ.พี.ฮอนดา้ จาํ กดั 149 ถนนรถรางเก่า สาํ โรงใต้ พระประแดง สมุทรปราการ 10130 โทร 0-2757- 6111 93 KZYA T1 AP
คำนำ คู่มือประกอบการอบรมรถจกั รยานยนตฮ์ อนดา้ รุ่น PCX150 (Version 3)น้ี จดั ทาข้ึน เพอื่ ใหน้ ายช่าง ประจาศนู ยบ์ ริการรถจกั รยานยนตฮ์ อนดา้ ทุกท่าน รวมท้งั ผสู้ นใจทวั่ ไป ไดศ้ กึ ษาเรียนรู้ถึงกระบวนการ ทางานของเครื่องยนตใ์ นระบบฟังกช์ นั่ ต่างๆ เช่น จุดเด่นของระบบ eSP (enhanced Smart Power) ท่ีเป็ น ขมุ พลงั แห่งความแรงของรถรุ่นน้ี โดยมีองคป์ ระกอบไปดว้ ย เทคโนโลยีลดแรงเสียดทาน, ประสิทธิภาพ การเผาไหมเ้ ป็ นเยย่ี ม, ประสิทธิภาพการส่งกาลงั ป็ นเลิศ, ระบบหวั ฉีด PGM FI, ระบบระบายความร้อน แบบบิวทอ์ ิน และระบบสตาร์ทเงียบ (Alternator / Starter) ส่งผลทาใหเ้ คร่ืองยนต์ แรงข้ึน ประหยดั ข้ึน สตาร์ทเงียบ เคร่ืองยนตเ์ ดินเรียบ ทนทาน และทาใหไ้ อเสียสะอาดเป็ นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม เป็ นตน้ ดงั น้นั คณะผจู้ ดั ทาหวงั เป็ นอยา่ งยง่ิ ว่าคู่มือประกอบการอบรมเล่มน้ีจะเป็ นประโยชนก์ บั นายช่างและ ผทู้ ่ีใหค้ วามสนใจทว่ั ไป หรือผทู้ ่ีเร่ิมตน้ ศึกษาถึงกระบวนการทางานของเคร่ืองยนตร์ ะบบหวั ฉีด PGM-FI ทุกคน ส่วนงานศนู ยฝ์ ึกอบรมดา้ นงานขายและเทคนิค บริษทั เอ.พี.ฮอนดา้ จากดั ขอ้ มลู ตา่ งๆภาพรายละเอียดและคา่ มาตรฐานท่ีจดั พิมพข์ ้ึนมาในคูม่ ือเล่มน้ี นามาจากการผลิตคร้ังลา่ สุดการเปล่ียนแปลง ใดๆท่ีเกิดข้ึนภายหลงั ทางบริษทั ฯขอสงวนสิทธ์ิในการเปล่ียนแปลงโดยไม่ตอ้ งแจง้ ใหท้ ราบล่วงหนา้ การคดั ลอกภาพราย ละเอียด หรือขอ้ ความใดๆ จากหนงั สือเล่มน้ี ควรขออนุญาตเป็ นลายลกั ษณ์อกั ษรกอ่ นการดาเนินการ
สารบัญ 1-2 3 รายละเอียดทวั่ ไป 4-7 การรับประกนั คุณภาพ, ตาแหน่งหมายเลขตวั ถงั และหมายเลขเครื่องยนต์ 8-13 การตรวจเช็คสภาพรถจกั รยานยนตก์ ่อนการส่งมอบ (P.D.I) 14-17 จุดเด่นของ eSP (enhanced Smart Power) 18-23 อลั เตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ 24-29 ระบบสญั ญาณกนั ขโมย (Anti Thief Alarm System) 30-32 ระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา (Idling Stop System) 33 ระบบควบคุมการปล่อยไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง 34-36 ระบบควบคุมไอเสีย (Emission Control System) 37-38 การบารุงรักษาไสก้ รองน้ามนั เช้ือเพลิง 39-50 การปรับต้งั ระยะห่างวาลว์ 51-52 ระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบหวั ฉีด PGM - FI 53-54 การเรียกดูขอ้ มลู ปัญหา / การลบขอ้ มูลในหน่วยความจา 55-56 การปรับต้งั ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิ้นเร่ง 57 ระบบการตรวจสอบความผิดปกติ 58-59 ระบบควบคุมอิเลกทรอนิกส์ PGM - FI 60-64 ตารางแสดงรหสั ปัญหา PCX150 65 เปรียบเทียบอุปกรณ์จกั รยานยนตร์ ุ่น PCX125 กบั PCX150 66-68 PGM-FI SYSTEM DIAGRAM วงจรสตาร์ท , วงจรไฟชาร์จ , วงจรไฟฟ้ าท้งั คนั
รายละเอยี ดท่ัวไป รุ่น PCX150 หัวข้อ รายการ ค่ามาตรฐาน ขนาด,มติ ิ ความยาวตวั รถ 1,917 มม. ความกวา้ งตวั รถ 738 มม. ความสูงตวั รถ 1,094 มม. ระยะห่างลอ้ หน้า - ลอ้ หลงั 1,315 มม. ความสูงของเบาะนงั่ 761 มม. ความสูงของพกั เทา้ 260 มม. ระยะห่างจากพ้นื 140 มม. น้าหนกั รถ 129 กก. ตวั ถงั แบบตวั ถงั อนั เดอร์โบน ( Under bone type ) ระบบกนั สะเทือนหน้า / ระยะยบุ แบบเทเลสโคปิ ค / 89 มม. ระบบกนั สะเทือนหลงั / ระยะยบุ แบบยนู ิตสวิง / 79 มม. ขนาดยางหนา้ 90/90 - 14M/C 46P ขนาดยางหลงั 100/90 - 14M/C 57P ยห่ี ้อของยางหนา้ SS-560F (IRC) , TT900F (DUNLOP) ยห่ี ้อของยางหลงั SS-560R (IRC) , TT900A (DUNLOP) เบรคหนา้ แบบดิสกเ์ บรค / ไฮดรอลิค เบรคหลงั แบบดรัมเบรค มุมแคสเตอร์ / ระยะเทรล 27°00' / 86 มม. ความจุถงั น้ามนั เช้ือเพลิง 5.9 ลิตร เครื่องยนต์ กระบอกสูบ x ระยะชกั 58 x 57.9 มม. ปริมาตรกระบอกสูบ 152.9 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร อตั ราส่วนการอดั 10.6:1 จานวนวาลว์ และระบบขบั เคลื่อนวาลว์ 2 วาลว์ ใชโ้ ซ่ขบั เคลื่อนเพลาลูกเบ้ียวเดี่ยว SOHC วาลว์ ไอดี เปิ ด ท่ี 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกข้ึน 5°ก่อนศูนยต์ ายบน ปิ ด ท่ี 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกข้ึน 35°หลงั ศูนยต์ ายล่าง วาลว์ ไอเสีย เปิ ด ท่ี 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกข้ึน 30°ก่อนศูนยต์ ายล่าง ปิ ด ท่ี 1 มม. (0.04 นิ้ว) ยกข้ึน 0°ศูนยต์ ายบน ระยะห่าง วาลว์ ไอดี 0.10 + 0.02 มม. ( 0.006 + 0.001 นิ้ว ) วาลว์ ไอเสีย 0.24 + 0.02 มม. ( 0.006 + 0.001 นิ้ว ) 1
รายละเอียดท่ัวไป รุ่น PCX150 หัวข้อ รายการ ค่ามาตรฐาน เครื่องยนต์ ระบบหล่อล่ืน ใชแ้ รงดนั / แบบอ่างเปี ยก ป๊ัมน้ามนั เคร่ือง แบบหมนุ ความจุน้ามนั เคร่ือง หลงั เปลี่ยนถ่าย 0.8 ลิตร ( 800 ซี.ซี. ) หลงั ประกอบเครื่องยนต์ 0.9 ลิตร ( 900 ซี.ซี. ) ขอ้ แนะนาในการใชน้ ้ามนั เคร่ือง JASO T 903 : MB , Viscosity : SAE 10W - 30 ระบบระบายความร้อน ไสก้ รองอากาศ ระบายความร้อนดว้ ยน้า น้าหนกั เคร่ืองยนตข์ ณะยงั ไมเ่ ติมน้ามนั ระบบจ่าย ระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิง แบบกระดาษเปี ยก (วิสกสั ) นา้ มัน ขนาดคอคอด เชื้อเพลิง ป๊ัมแรงดนั สูง 30.1 กิโลกรัม อตั ราการไหล (ที่แรงดนั ไฟฟ้ า 12โวลต)์ PGM-FI (Programmed Fuel Injection) ความตา้ นทานของหวั ฉีด ตวั ควบคุมแรงดนั 26 มม. ความเร็วรอบเดินเบา ระบบ ระบบส่งกาลงั แบบใบพดั (Turbine) ส่งกาลัง ระบบการทางานของคลทั ช์ อตั ราทดสายพานขบั เคลื่อน ต่าสุด 98 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร / 10 วินาที อตั ราทดข้นั สุดทา้ ย ความจุน้ามนั เฟื องทา้ ย 9-12 โอห์ม ท่ี 20o C / 68o F 294 kPa (43 psi) 1,700 ±100 รอบ/นาที สายพาน วี - เมติกส์ แรงเหว่ียงหนีศูนยก์ ลางอตั โนมตั ิ, แบบแห้ง 2.45 : 1 - 0.81 : 1 10.552 ( 53 /17 x 44/13 ) หลงั เปล่ียนถ่าย 120 ซี.ซี. หลงั ถอด-ประกอบ 140 ซี.ซี. ขอ้ แนะนาในการใชน้ ้ามนั เฟื องทา้ ย JASO T 903 : MB , Viscosity : SAE 10W - 30 ระบบไฟฟ้ า ระบบจุดระเบิด ทรานซิสเตอร์ เตม็ รูปแบบ หวั เทียน (STD) ระยะห่างเข้ียวหวั เทียน CPR7EA – 9 (NGK) ระบบสตาร์ท ระบบไฟชาร์ท 0.80 - 0.90 มม. ระบบแสงสวา่ ง แบตเตอร่ี /ความจุ สตาร์ทไฟฟ้ า ฟิ วส์หลกั / ฟิ วส์รอง สามเฟสจากอลั เตอร์เนเตอร์ แบตเตอร่ี 12 V - 5 Ah (10 ชวั่ โมง) 10 A x 1, 20 A x 1 / 10 A x 4 2
การรับประกันคณุ ภาพ รถจกั รยานยนตฮ์ อนดา้ รุ่น PCX150 รับสิทธ์ิการรับประกนั คุณภาพเป็นระยะเวลา 3 ปี หรือ 30,000 กม. แลว้ แต่ระยะใดถึงก่อน และชิ้นส่วนของระบบหวั ฉีดรับประกนั คุณภาพเป็ นระยะเวลา 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แลว้ แตร่ ะยะใดจะถึงก่อนไดแ้ ก่ ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง(ไม่รวมลูกลอยน้ามนั เช้ือเพลิง), หวั ฉีด, เรือนลิ้นเร่ง, กล่องECM ชุดตวั ตรวจจบั สญั ญาณ, ตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิน้าหล่อเยน็ ของเครื่องยนต,์ ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน กรณีรถมีปัญหาทางดา้ นคุณภาพ อนั เน่ืองมาจากกรรมวิธีทางการผลิตไม่ดีหรือวสั ดุไมไ่ ดค้ ุณภาพภายใต้ การใชง้ านและบารุงรักษาที่ถูกตอ้ งตามท่ีกาหนดไวใ้ นคู่มือผใู้ ชร้ ถผใู้ ชร้ ถสามารถใชส้ ิทธ์ิในการรับประกนั ณ ร้าน ผจู้ าหน่ายและศูนยบ์ ริการท่ีไดร้ ับการแตง่ ต้งั จาก บริษทั เอ.พี.ฮอนดา้ จากดั ทกุ แห่งทวั่ ประเทศ โดยทางร้านจะ ทาการแกไ้ ข ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ที่มีความบกพร่องน้นั โดยไม่คิดราคาค่าอะไหล่และคา่ แรง ศูนยจ์ าหน่ายและบริการฮอนดา้ โทรปรึกษาปัญหาการซ่อม ตาแหน่งหมายเลขตัวถังและหมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขตวั ถงั ของรถรุ่น PCX150 หมายเลขเคร่ืองยนตข์ องรถรุ่น PCX150 อยดู่ า้ นทา้ ยของตวั ถงั ใตเ้ บาะนงั่ อยแู่ คร้งดา้ นล่างซา้ ยใตฝ้ าครอบห้องสายพาน 3
การตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ก่อนการส่งมอบ P.D.I. ( Pre-delivery inspection ) หมายถึง การตรวจเชค็ สภาพรถจกั รยานยนตก์ ่อนการส่งมอบให้กบั ลูกคา้ โดยสามารถตรวจเช็คตามรายการในคูม่ ือรับประกนั มีรายละเอียดดงั น้ี ตรวจสอบสภาพภายนอก ตรวจการประกอบภายนอกสี, สนิม, รอยขีดข่วน, เสียงส่ันดงั ของชุดพลาสติก การแตกร้าวของชิ้นส่วนตา่ งๆ รอบคนั ตรวจการทางานของ Shutter Key, การลอ๊ คคอ, การเปิ ดเบาะ, กญุ แจสามารถใชง้ านไดท้ กุ ดอก ฝาถงั น้ามนั เช้ือเพลิง เปิ ด-ปิ ด ไดป้ กติ ไมม่ ีคราบสนิมบริเวณภายในปากถงั น้ามนั เช้ือเพลิง การตรวจสภาพของเครื่องยนต์ สภาพภายนอกของแบตเตอร่ีตรงตามท่ีคูม่ ือระบไุ ว้ (YTZ6V ) มีสภาพปกติไม่แตกร้าวพร้อมวดั แรงเคลื่อน ไดค้ า่ เท่าไรลงบนั ทึกในสมุดรับประกนั คุณภาพ (Voltage ตอ้ งไมต่ ่ากวา่ 12.4 V.) ตรวจสภาพภายนอก ตรวจสอบแรงเคล่ือนไฟฟ้ า ประกอบแบตเตอรี่ หมายเหตุ : แบตเตอร่ี (รถใหม่) ก่อนใชง้ านตอ้ งนาไปชาร์จอยา่ งน้อย 30 นาที เพอ่ื ยดื อายกุ ารใชง้ านไดย้ าวนาน 4
ตรวจสอบสายไฟ ท่อยางตา่ งๆ, การรั่วซึมของน้ามนั หล่อล่ืน, ระดบั น้ามนั เครื่อง, ระดบั น้ามนั เบรค, ระดบั น้ามนั เฟื องทา้ ย ช่องตรวจระดบั น้ามนั เบรค ระดบั นา้ หล่อเย็น ระดบั น้ามนั เคร่ือง ระดบั นา้ มนั เบรค การทางานของเครื่องยนต์ สตาร์ทเครื่องยนต์ อ่นุ เครื่องยนตใ์ ห้ถึงอุณหภมู ิทางานแลว้ ใชเ้ คร่ืองวดั รอบ (เทคโคมิเตอร์) ตรวจวดั รอบเดินเบา เปรียบ เทียบกบั ค่ามาตรฐาน (1,700 ±100 รอบ/นาที) แลว้ บนั ทึกค่าในสมดุ รับประกนั ฯ ระบบไฟแสงสว่าง และไฟสัญญาณ ไฟส่องหนา้ ปัด ไฟหนา้ ,ไฟสูง,ไฟต่า,ไฟเล้ียวซา้ ย-ขวา,ไฟทา้ ย,ไฟเบรค, ไฟส่องป้ าย,ไฟเตือนไฟสูง,ไฟเตือนไฟเล้ียว ระบบแตร, การทางานของมาตรวดั ความเร็ว, มาตรวดั ระยะทาง, การทางานของเกจวดั ระดบั น้ามนั เช้ือเพลิง ระบบรองรับและขบั เคลอื่ น ตรวจสอบและเติมลมยางให้ไดต้ ามค่ามาตรฐานกาหนด ท้งั ลอ้ หน้าและลอ้ หลงั มีคา่ มาตรฐานดงั น้ี ขบั ขี่คนเดียว ลอ้ หนา้ 200 kPa, 29 psi ลอ้ หลงั 225 kPa, 33 psi ขบั ข่ีมีผซู้ อ้ นทา้ ย ลอ้ หน้า 200 kPa, 29 psi ลอ้ หลงั 225 kPa, 33 psi ตรวจเช็คอตั ราการขนั แน่นของน๊อตยดึ เพลาลอ้ หน้า-หลงั น๊อตยดึ เพลาลอ้ หน้า 59 N-m (6.0 Kgf - m) น๊อตยดึ เพลาลอ้ หลงั 118 N-m (12.0 Kgf - m) 5
ตรวจสอบการยบุ ตวั ของโช๊คอพั หน้า-หลงั ตรวจสอบการรวั่ ซึมของโชค๊ อพั หน้า-หลงั ตรวจสอบระยะฟรีของคนั เร่ง (ค่ามาตรฐาน : 2-6 มิลลิเมตร) และตรวจความคล่องตวั ของคนั เร่ง ค่ามาตรฐาน : 2-6 มิลลเิ มตร อุปกรณ์อำนวยควำมสะดวก ตรวจสอบไฟที่หน้าปัดเรือนไมล์ การทางานปกติ หลอดไฟแสดงการทางานของเคร่ืองยนต์ ติดและดบั ภายใน 2 วินาที เมื่อเปิ ดสวิทช์ ตรวจสอบการทางานของเบรคลอ้ หน้า-หลงั , การทางานของคอมบายเบรค ประกอบกระจกมองหลงั และปรับต้งั กระจกมองหลงั ปรับมมุ มองกระจกมองหลงั ให้เห็นชดั เจนโดยให้มอง เห็นหวั ไหล่ของผขู้ บั ขี่เลก็ น้อยเป็ นเกณฑ์ 6
ตรวจเช็คเคร่ืองมือประจารถ 1 1. สายสลิงร้อยหมวก 2 34 5 2. ดา้ มไขควง 3.ไขควง แฉก+แบน 4.ประแจปากตาย 10-14 5.บลอ๊ คหวั เทียน เขียนบนั ทึกและลงชื่อผตู้ รวจเช็ค รถจกั รยานยนตก์ ่อนส่งมอบ แนะนาขอ้ มลู การใชร้ ถและการบารุงรักษาฯ สมุดรับประกนั คุณภาพ คูม่ ือการใชร้ ถ หลกั พ้นื ฐานการขบั ข่ีปลอดภยั 10 ประการ PDSA 7
จุดเด่นของเคร่ืองยนต์ eSP ( enhanced Smart Power ) องคป์ ระกอบของ eSP เทคโนโลยลี ด แรงเสียดทาน ระบบสตาร์ท ประสิทธิภาพการ เงยี บ AIternator/ เผาไหม้เป็ นเยยี่ ม Starter ระบบระบาย ประสิทธิภาพการ ความร้อนด้วยนา้ ส่งกาลงั เป็ นเลศิ แบบบวิ ท์อนิ ระบบหัวฉีด PGM - FI ผลที่ได้รับ แรงข้ึน ประหยดั ข้ึน สตาร์ทเงียบ เคร่ืองยนตเ์ ดินเรียบ ทนทาน ไอเสียสะอาด เทคโนโลยลี ดแรงเสียดทาน ( Intelligent Low Friction ) กระเดื่องวาลว์ แบบโรลเลอร์ (Roller type rocker arm) ออกแบบพิเศษเพอ่ื ให้ประหยดั พลงั งานขณะทางาน โดยท่ีบริเวณหน้าสมั ผสั ของกระเดื่องวาลว์ ไอด-ี ไอเสีย (มีโรลเลอร์) และที่สมั ผสั แกนกระเด่ืองวาลว์ ไอดี - ไอเสีย มีลูกปื นเขม็ โรลเลอร์ ลกู ปื นเขม็ 8
ปลอกเสื้อสูบ แบบมีผวิ ขรุขระ ( Spiny sleeve ) เพม่ิ ประสิทธิภาพการระบายความร้อนใหด้ ียง่ิ ข้ึนลดการ บิดตวั ภายในกระบอกสูบ ขณะท่ีเครื่องยนตท์ างาน ช่องทางระบายอากาศ ( Breather passage ) ออกแบบใหม้ ีช่องทางระบายอากาศ ( Breather) เพอื่ ลดแรงดนั ขณะท่ีลูกสูบทางานเคลื่อนที่ข้ึนลง ลดการ สูญเสียน้ามนั เคร่ือง จากการหมนุ ของชิ้นส่วนตา่ งๆ เช่น เพลาขอ้ เหว่ียง ปั๊มน้ามนั โซ่ราวลิ้น เป็นตน้ สามารถลดแรงเสียดทานได้ เพลาข้อเหวยี่ งแบบมรี ะยะอ๊อฟเซ็ต ( Offset cylinder) เพลาขอ้ เหว่ียงแบบมี ระยะออ๊ ฟเซ็ต จะลด เพลาขอ้ เหว่ียงแบบไม่มี แรงเสียดทานระหว่าง ระยะออ๊ ฟเซ็ต ทาใหเ้ กิดแรง ลกู สูบกบั เส้ือสูบได้ เสียดทาน ระหว่างลูกสูบกบั อยา่ งดี ทาใหม้ ีอตั รา เส้ือสูบมาก เร่งตอบสนองดียงิ่ ข้ึน 9
ระบบส่งกาลงั ( Transmission system ) ลูกปื น รองรับเพลา เกยี ร์ ท้ัง 3 ชุด ครีบเรือนชุดเฟื องทา้ ย เฟื องเฉียง ใชล้ ูกปื นท่ีปลายเพลาเกียร์ท้งั 3 เพลา เพอ่ื ใหก้ ารทางานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และใชเ้ ฟื องเฉียงในชุด เกียร์ทาใหเ้ สียงลดลง , ออกแบบครีบท่ีเรือนชุดเฟื องทา้ ยใหม้ ีรูปร่างเหมาะสมเพอื่ ระบายความร้อนใหม้ ีประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพการเผาไหม้ ( Combustion chamber ) การออกแบบทอ่ ไอดี และช่องไอเสีย (Cross section of intake and exhaust port shape) ทางฝ่ ายพฒั นาผลิตภณั ฑฯ์ ฮอนดา้ ไดอ้ อกแบบใหไ้ อดี สามารถไหลผา่ นช่องพอร์ทไอดีไดอ้ ยา่ งรวดเร็วเพอ่ื ตอบสนองตอ่ การบิดคนั เร่งที่ความเร็วระดบั กลางและต่า 10
พอร์ทไอดีที่เชื่อมตอ่ กบั หอ้ งเผาไหมอ้ อกแบบใหม่ใหม้ ีรูปทรงสมูท ช่วยใหอ้ ากาศในพอร์ทไอดีไหลไดเ้ ร็ว ข้ึน การตอบสนองต่อการบิดของคนั เร่งจึงดีข้ึน โดยเฉพาะท่ีความเร็วระดบั กลางและต่า เซ็ตเวลาการจุดระเบิด เพม่ิ ความรวดเร็วในการเผาไหมโ้ ดยอาศยั พ้นื ที่ Squish ที่อยตู่ รงขา้ มหวั เทียนช่วยให้ น้ามนั เช้ือเพลิงผสมกบั อากาศแลว้ ไหลลื่นควบคูก่ บั การเพมิ่ Knocking resistance ช่องพอร์ทแบบธรรมดา ช่องพอร์ทแบบใหม่ ประสิทธิภาพการส่งกาลงั ( Transmission ) ระบบวีเมติกส์ ( V - Matic ) เปรียบเทียบครีบระบายความร้อน สายพานขบั เคล่ือน ทาจากยางที่มีความยดื หยนุ่ สูง ทนทาน ส่งกาลงั ขบั เคล่ือนไดอ้ ยา่ งดีเยยี่ ม พูลเลยข์ บั ทา จากอลูมิเนียมเฟสที่มีความเหนียวและแขง็ สูงรองรับกบั รูปทรงของครีบระบายความร้อนท่ีติดต้งั ไวส้ ่งผลใหป้ ระสิทธิภาพ การระบายความร้อนดียง่ิ ข้ึน 11
ระบบหัวฉีด PGM - FI ( Programmed Fuel injection system ) องคป์ ระกอบสาคญั ท่ีขาดไม่ไดส้ าหรับ เคร่ืองยนตอ์ จั ฉริยะ eSP น้นั คือระบบจ่ายน้ามนั แบบหวั ฉีด PGM-FI เป็นระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงท่ีมีสมองกล ซ่ึงเรียกวา่ ECM ( Engine Control Module ) คานวณปริมาณและจงั หวะเวลา ในการฉีดจ่ายน้ามนั อยา่ งเที่ยงตรงแมน่ ยากวา่ ระบบคาร์บเู รเตอร์ เครื่องยนตจ์ ึงทางานเตม็ กาลงั เผาไหมห้ มดจด ทาให้ สมรรถนะสูง อากาศสะอาด และประหยดั น้ามนั ระบบระบายความร้อนด้วยนา้ แบบบิวท์อิน ( Built - in Liquid cooling system ) ท่อทางน้าผ่านมีประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง ขนาดกะทดั รัด น้าหนกั เบา หมอ้ น้า ทาท่อทางน้าผา่ น ( Core ) ท่ีมีประสิทธิภาพการระบายความร้อนสูง ออกแบบทิศทางการไหลของลมใหม่ ใหล้ มที่ผ่าน Rib หมอ้ น้าแลว้ ไหลเคลื่อนที่ผ่านดา้ นหลงั ของเรือน เครื่องยนตแ์ ละตอ่ ไปยงั ตอนหลงั ของเครื่องยนต์ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ออกแบบตาแหน่งปั๊มน้ามนั เคร่ืองและปั๊มน้าใหม่ ปั๊มน้ามนั เคร่ือง ถูกติดต้งั ไวภ้ ายในเรือนเครื่องยนต์ ส่วนปั๊มน้าติดต้งั ไวด้ า้ นบนของเพลาลูกเบ้ียวท่ีอยู่ ขา้ งฝาสูบ ทาใหข้ นาดกะทดั รัดข้ึน 12
ระบบ Alternator / Starter ระบบน้ีเป็ นการรวมกนั ของระบบสตาร์ทและระบบไฟชาร์จเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั โดยเจนเนอเรเตอร์จะทาหนา้ ท่ี ท้งั สองระบบฯ ซ่ึงมีขอ้ ดีคือ ระบบไฟชาร์จจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบทวั่ ไป นอกจากน้ียงั ใชร้ ะบบอิเลก็ ทรอนิกส์ อจั ฉริยะ ท่ีสามารถคานวณส่ังการทางานของเครื่องยนตไ์ ดอ้ ยา่ งแม่นยา และติดเคร่ืองยนตด์ ว้ ยเสียงท่ีนุ่มนวล ชุดตวั ตรวจจบั สญั ญาณ สกรูยดึ จบั ชุดอลั เตอร์เนเตอร์ ฝาครอบเคร่ืองยนต์ ขดลวดสเตเตอร์ โบล้ ทย์ ดึ จบั ชุดอลั เตอร์เนเตอร์ 13
อัลเตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ (ALTERNATOR / STARTER) รถจกั รยานยนตร์ ุ่นน้ี ไดน้ าเอาระบบ ACG STARTER มาใชซ้ ่ึงระบบน้ีถูกออกแบบให้มีแรงเสียดทาน นอ้ ยที่สุด โดยการผสมผสานกนั ระหวา่ งระบบสตาร์ท และระบบผลิตกระแสไฟฟ้ ารวมเขา้ ไวด้ ว้ ยกนั ซ่ึงจะติดต้งั ACG STARTER ท่ีถูกพฒั นาข้ึนมาใหม่น้ี จะทาใหก้ ารสตาร์ทเป็นไปอยา่ งน่ิมนวล และปราศจาก เสียงขบของฟันเฟื อง เนื่องจากระบบจะใชส้ นามแมเ่ หลก็ เป็นตวั ขบั เพลาขอ้ เหวยี่ งโดยตรง ระบบจะอาศยั หลกั การดูดและผลกั ดนั ระหว่างแมเ่ หล็ก 2 ชุดคือชุดแมเ่ หลก็ ถาวรที่ติดต้งั อยภู่ ายในลอ้ แม่เหล็ก ( FLYWHEEL ) และชุดที่สองเป็ นแมเ่ หลก็ ชวั่ คราว ท่ีเกิดจากการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ า ของชุดขด ลวดสเตเตอร์ ( STATOR COIL ) แบบ 3 เฟส โดยปราศจากแปรงถ่าน ( BRUSHLESS ) โครงสร้างของ ALTERNATOR / STARTER แม่เหลก็ ถาวร ชุดขดลวด เพลาขอ้ เหวี่ยง ลอ้ แม่เหลก็ การทางาน 2 ขณะสตาร์ทเคร่ืองยนต์ 3 1 1. ขณะสตาร์ทเครื่องยนตก์ ล่องควบคุม ( ECM ) จะปล่อยไฟฟ้ ากระแสสลบั ไปที่ชุดขดลวด เพอื่ ทาให้ เกิดการสร้างสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้ าชวั่ คราวข้ึน ท่ีชุดขดลวด ( STATOR COIL ) 2. ที่ลอ้ แมเ่ หล็ก ( FLYWHEEL ) จะมีแมเ่ หล็กถาวรติดต้งั อยู่ ดงั น้นั จะเกิดการดูดและผลกั ดนั กนั ระหว่าง ข้วั แม่เหล็กท้งั สอง ทาใหล้ อ้ แม่เหลก็ หมุนขบั เพลาขอ้ เหวี่ยงใหห้ มนุ ตาม จึงสามารถสตาร์ทเครื่องยนตไ์ ด้ 14
ขณะเคร่ืองยนต์ทำงำน ( ชำร์จไฟ ) หลงั จากสตาร์ทเคร่ืองยนตต์ ิดแลว้ ( ปล่อยป่ มุ สตาร์ท ) กล่องควบคุม ( ECM ) จะยกเลิกการจ่ายแรงเคลื่อน ไฟฟ้ าไปยงั ชุดขดลวด ดงั น้นั สนามแม่เหลก็ ไฟฟ้ าที่ชุดขดลวดจึงหมดไป 12 3 1. เม่ือเคร่ืองยนตส์ ามารถสตาร์ทติดไดแ้ ลว้ เพลาขอ้ เหวี่ยงจะเป็ นตวั ขบั ลอ้ แม่เหล็ก 2. สนามแมเ่ หล็กถาวร ท่ีติดต้งั อยภู่ ายในลอ้ แม่เหลก็ หมนุ ตดั กบั ชุดขดลวด ( STATOR COIL ) จะทาให้เกิดกระแสไฟฟ้ าข้ึน 3. กระแสไฟฟ้ าที่เกิดข้ึนจะเป็นไฟฟ้ ากระแสสลบั แบบ 3 เฟส ส่งไปยงั เรคกูเลเตอร์ / เรคติไฟเออร์ ท่ีอยู่ ภายในกล่องควบคุม ( ECM ) เพอ่ื ชาร์จไฟเขา้ ไปเก็บในแบตเตอรี่ ( BATTERY ) และเล้ียงระบบไฟฟ้ า ท้งั หมดภายในรถจกั รยานยนต์ ขณะที่เคร่ืองยนตท์ างาน กระบวนกำรเพม่ิ และลดเส้นแรงแม่เหลก็ แมเ่ หลก็ ถาวรถูกฝังอยทู่ ี่ ROTOR CORE ในลอ้ แมเ่ หลก็ มีหนา้ ที่เพมิ่ และลดเสน้ แรงแม่เหลก็ ดงั น้นั ขณะ สตาร์ทเคร่ืองยนตจ์ ะเป็ นการเพมิ่ แรงดูด และผลกั ดนั ส่วนขณะชาร์จจะเป็ นการลดเสน้ แรงแม่เหลก็ ROTOR CORE STATOR CORE รูปแสดง ขณะชุดขดลวดทาหนา้ ท่ีเป็นมอเตอร์สตาร์ท 15
ROTOR CORE ติดต้งั อยวู่ งดา้ นในลอ้ แม่เหล็ก ภายในจะมีแมเ่ หลก็ ถาวรฝังอยู่ ทาหนา้ ท่ีเป็ นแกนสนาม แม่เหลก็ ถาวร จะทางานเมื่อลอ้ แมเ่ หลก็ หมุนตดั กบั ขดลวด STATOR CORE ยดึ ติดอยบู่ ริเวณเรือนเคร่ืองยนตด์ า้ นขวา มีชุดขดลวดพนั อยโู่ ดยรอบสเตเตอร์คอยล์ ทาหนา้ ท่ีเป็ นแกนสนามแมเ่ หลก็ ชวั่ คราวเม่ือมีการปล่อยให้กระแสไฟฟ้ าไหลผา่ น สนามแมเ่ หลก็ ท้งั สองชุดน้ีจะมีข้วั แมเ่ หลก็ ท่ีต่างกนั ทาให้เกิดการดูด และผลกั ดนั ซ่ึงกนั และกนั จะมีมาก หรือน้อยข้ึนอยกู่ บั สนามแม่เหลก็ ชว่ั คราวท่ีสร้างข้ึน แรงผลกั ดนั ท่ีเกิดข้ึนน้ีจะไปทาใหเ้ พลาขอ้ เหวยี่ งเกิดการเคล่ือน ที่ในขณะสตาร์ท ROTOR CORE STATOR CORE รูปแสดง ขณะท่ีชุดขดลวดทาหนา้ ท่ีเป็ นเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้ า เม่ือเคร่ืองยนตเ์ ริ่มทางาน กล่องควบคุม จะยกเลิกการจ่ายไฟฟ้ าไปที่ชุดขดลวด ดงั น้นั สนามแมเ่ หลก็ ชว่ั คราวท่ีถูกสร้างข้ึนจะหมดไป แรงดูด และผลกั ดนั ที่ชุดขดลวด ( STATOR COIL ) ท่ีมีลอ้ แม่เหลก็ ก็จะลดน้อยลง ทาใหเ้ ครื่องยนต์ สูญเสียกาลงั งานนอ้ ยท่ีสุด การหาตาแหน่งศูนย์ตายบน (TDC) CKP SENSOR ติดต้งั เป็ นชุดเดียวกนั กบั ชุดขดลวด ( STATOR COIL ) ทาหนา้ ที่เป็ นตวั ตรวจจบั ความ เร็วรอบของเคร่ืองยนต์ และองศาของเพลาขอ้ เหวีย่ ง โดยช่องระหว่างชุดขดลวด จะมี HOLE IC อยู่ 4 ตวั คือ W,V U และ PCB เม่ือลอ้ แมเ่ หล็กหมนุ ตดั กบั ชุดขดลวด ( STATOR COIL ) จะเกิดกระแสไฟฟ้ าข้ึน ( ตามภาพดา้ นล่าง ) ขณะท่ี คลื่นไฟฟ้ า PCB กระแสไฟเป็ น UP และ W กเ็ ป็ น UP ดว้ ย กล่องควบคุม ( ECM ) จะรับสญั ญาณเป็ น TDC ซ่ึงจากภาพเกิดข้ึนอยู่ 2 ช่วงคือ ศูนยอ์ งศา กบั 360 องศา 16
17
ระบบสัญญาณกันขโมย (ANTI THIEF ALARM SYSTEM ) ในรุ่นน้ีไดต้ ิดต้งั ระบบสญั ญาณกนั ขโมย (ANTI THIEF ALARM SYSTEM ) ท่ีควบคุมการสง่ั งานดว้ ย รีโมทคอนโทรล ซ่ึงระบบฯ จะทางานโดยการจบั การเคล่ือนที่ของตวั รถ ส่วนประกอบของระบบ 1. รีโมทคอนโทรล ( REMOTE CONTROL SWITCH ) 2. เรือนไมล์ ( SPEEDO METER ) 3. หลอดไฟแสดงการทางาน ( ALARM INDICATOR ) 4. สวิทช์ ( SWITCH ) 5. สวิทชจ์ ุดระเบิด ( IGNITION SWITCH ) 6. รีเลยต์ อบรับคาสั่ง ( ANSWER BACK RELAY ) 7. ไดโอด ( DIODE ) รีโมทคอนโทรล สวิทช์ เรือนไมล์ หลอดไฟแสดงการทางาน รีเลยต์ อบรับคาสง่ั ไดโอด สวิทชจ์ ุดระเบิด 18
1. รีโมทคอนโทรล ( REMOTE CONTROL SWITCH ) ทาหน้าท่ีเป็นตวั ส่งสญั ญาณ ควบคุมการเปิ ด-ปิ ดระบบสญั ญาณกนั ขโมย ไม่เกิน 20 เมตร 1.1 กดป่ ุม \" SET \" เม่ือตอ้ งการเปิ ดให้ระบบสญั ญาณกนั ขโมยทางาน 1.2 กดป่ มุ \" UNSET \" เม่ือตอ้ งการยกเลิกระบบสญั ญาณกนั ขโมย 1.3 ระยะการสัง่ งานไมเ่ กิน 20 เมตร 2. เรือนไมล์ ( SPEEDO METER ) อุปกรณ์ระบบสญั ญาณกนั ขโมย จะถูกติดต้งั อยภู่ ายในชุดเรือนไมล์ มีส่วนประกอบดงั น้ี 2.1 ตวั รับสญั ญาณ ( RF RECEIVER ) ทาหนา้ ท่ีเป็ นตวั รับสญั ญาณการส่ังงานจากรีโมทคอนโทรล 2.2 สญั ญาณเสียง ( BUZZER ) ทาหน้าท่ีส่งสญั ญาณเสียงเตือน 2.3 ตวั ตรวจจบั การเคลื่อนที่ ( G SENSOR ) ทาหนา้ ที่ตรวจจบั การเคลื่อนท่ีของตวั รถ SPEEDO METER RF RECEIVER BUZZER G SENSOR 19
3. หลอดไฟแสดงการทางาน ( ALARM INDICATOR ) หลอดไฟแสดงการทางานของระบบสญั ญาณกนั ขโมย ติดต้งั อยทู่ ่ีเรือนไมล์ ทาหน้าที่ แสดงการทางาน ของระบบฯ โดยจะกะพริบทุกๆ 1 วินาที หลอดไฟแสดงการทางาน 4. สวทิ ช์ทีเ่ รือนไมล์ ( SWITCH ) ติดต้งั อยบู่ นหน้าปัดเรือนไมล์ ทาหนา้ ท่ีเปิ ดระบบสญั ญาณกนั ขโมยจากตวั รถ โดยกดป่ มุ คา้ งไว้ 2 วินาที ( สวิทชจ์ ุดระเบิดตอ้ งอยทู่ ่ีตาแหน่ง \" OFF \" หรือถอดกุญแจออก ) สวิทช์ หมายเหตุ สวทิ ช์จุดระเบดิ \" ON \" กดสวทิ ช์ จะเป็ นการปรับมาตรวดั ระยะทาง ( TRIP ) 20
5. สวทิ ช์จุดระเบิด ( IGNITION SWITCH ) ทาหน้าท่ีเปิ ด - ปิ ดวงจรจุดระเบิด และสามารถยกเลิกระบบสญั ญาณกนั ขโมยได้ โดยการเปิ ดสวิทช์ กญุ แจไปที่ตาแหน่ง \" ON \" ระบบสญั ญาณกนั ขโมยจะถูกยกเลิกในทนั ที สวทิ ชจ์ ุดระเบิด หมายเหตุ 1. ระบบสญั ญาณกนั ขโมย จะไม่ทางาน เมื่อสวิทชจ์ ุดระเบิดอยใู่ นตาแหน่ง \" ON \" 2. ระบบสญั ญาณกนั ขโมย จะทางานไดต้ อ่ เนื่อง 10 วนั หลงั จากเปิ ดใชง้ าน 6. รีเลย์ตอบรับคาส่ัง ( ANSWER BACK RELAY ) ติดต้งั อยบู่ ริเวณ ใตฝ้ าครอบเรือนไมลด์ า้ นหนา้ รถ ทาหน้าที่ ตอบรับคาสั่งเปิ ด-ปิ ด ระบบสญั ญาณกนั ขโมย โดยการแจง้ เตือนไปท่ีระบบสญั ญาณไฟเล้ียว ANSWER BACK RELAY 21
7. ไดโอด ( DIODE ) ติดต้งั อยบู่ ริเวณคอรถดา้ นขวา ทาหนา้ ที่ป้ องกนั ไฟไหลยอ้ นกลบั ในวงจรไฟเล้ียวในขณะเปิ ดสญั ญาณไฟ เล้ียวซา้ ยหรือขวา ไดโอด การใช้งาน 1. เม่ือปิ ดสวิทชจ์ ุดระเบิด 2. กดป่ มุ \" SET \" ท่ีรีโมทคอนโทรลหน่ึงคร้ัง หรือกดป่ ุม \" SWITCH \" ที่เรือนไมลค์ า้ งไว้ 2 วินาที SET SWITCH ระบบสญั ญาณกนั ขโมยจะเริ่มทางาน โดย ANSWER BACK RELAY จะแสดงผลให้ทราบทางสญั ญาณ ไฟเล้ียว กะพริบ 1 คร้งั พร้อมสญั ญาณเสียง หลงั จากน้นั อีก 1 วินาที ALARM INDICATOR จะกะพริบพร้อม สญั ญาณเสียง และALARM INDICATOR จะกะพริบทกุ ๆ 1 วินาที ท่ีระบบทางาน 22
เม่ือตวั ตรวจจบั การเคล่ือนที่ของรถ ( G SENSOR ) ตรวจพบการเคล่ือนท่ีหรือการส่ันสะเทือน (ระยะส้นั ๆ ) สญั ญาณเสียงและสญั ญาณไฟเล้ียว จะทางานเป็นเวลา 10 วินาที ถา้ ตวั ตรวจจบั การเคลื่อนที่ของรถ ตรวจพบการเคลื่อนท่ีหรือการสนั่ สะเทือนอยา่ งตอ่ เนื่อง สญั ญาณเสียงและ สญั ญาณไฟเล้ียว จะทางานเป็นเวลา 60 วินาที และระบบจะทางานอยา่ งต่อเนื่องเมื่อตรวจพบการเคล่ือนท่ีหรือการ สัน่ สะเทือนของรถ 3. เม่ือกดป่ มุ \" UNSET \" ท่ีรีโมทคอนโทรล หรือเปิ ดสวิทชจ์ ุดระเบิด* ระบบสญั ญาณกนั ขโมย จะยกเลิกการทางาน โดย ANSWER BACK RELAY จะแสดงผลให้ทราบ โดยสญั ญาณไฟเล้ียว พร้อมกบั สญั ญาณเสียง 2 คร้ัง ติดตอ่ กนั เป็ นการยนื ยนั คาส่ังยกเลิก หมายเหตุ : กรณเี ปิ ดสวทิ ช์จุดระเบดิ จะไม่มกี ารแสดงผลผ่านสัญญาณไฟเลยี้ วและสัญญาณเสียง 23
ระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนต์ในรอบเดนิ เบา (IDLING STOP SYSTEM) ระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา ติดต้งั เพอื่ ลดการสิ้นเปลืองน้ามนั เช้ือเพลิง และลดการปล่อย กา๊ ซไอเสียสู่บรรยากาศโดยไมจ่ าเป็น คือระบบจะหยดุ การทางานของเคร่ืองยนต์ เมื่อหยดุ รถจกั รยานยนต์ ชวั่ ขณะ หรือระยะเวลาไมน่ านมากนกั เช่น การหยดุ รถติดสญั ญาณไฟแดง หรือจอดทาธุระช่วงเวลาส้นั ๆ ส่วนประกอบของระบบ 1. สวิทชค์ วบคุมการทางาน 2. หลอดไฟแสดงการทางาน 3. ตวั ตรวจจบั อุณหภูมิน้าหล่อเยน็ 4. ตวั ตรวจจบั ความเร็วของรถ 5. ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิ้นเร่ง 6. กล่องควบคุม ( ECM ) หลอดไฟแสดงการทางาน สวทิ ชค์ วบคุมการทางาน ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลนิ้ เร่ง กล่องควบคุม ( ECM ) ตวั ตรวจจบั อณุ หภมู ิน้าหลอ่ เยน็ ตวั ตรวจจบั ความเร็วของรถ รูปแสดง ส่วนประกอบระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนตใ์ นรอบเดินเบา ( IDLING STOP SYSTEM ) 24
1. สวทิ ช์ควบคุมการทางาน (IDLING STOP SWITCH) ติดต้งั อยทู่ ี่สวิทชแ์ ฮนดด์ า้ นขวา มีหนา้ ท่ีควบคุมการเปิ ด - ปิ ด ของระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา ( IDLING STOP SYSTEM ) โดยผขู้ บั ข่ีสามารถเลือกใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ านไดด้ งั น้ี ตาแหน่ง \" IDLING STOP \" ( เปิ ดระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนตใ์ นรอบเดินเบา ) ตาแหน่ง \" IDLING \" ( ปิ ดระบบ เครื่องยนตจ์ ะเดินเบาต่อเน่ือง ) \" เปิ ด \" ระบบ IDLING STOP SYSTEM \" ปิ ด \" ระบบ IDLING STOP SYSTEM รูปแสดง ตำแหน่งกำร \" เปิ ด - ปิ ด \" ระบบ IDLING STOP SYSTEM 2. หลอดไฟแสดงการทางาน (STAND BY INDICATOR) ติดต้งั อยทู่ ่ีหนา้ ปัดเรือนไมล์ มีหนา้ ที่แสดงใหผ้ ขู้ บั ขี่ทราบว่าระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนตใ์ น รอบเดินเบา ทางานอยู่ โดยหลอดไฟ STAND BY จะกะพริบ และหลอดไฟหน้าจะหร่ีลงจากปกติ 25
3. ตวั ตรวจจับอุณหภมู นิ ำ้ หล่อเยน็ (ECT : ENGINE COOLANT TEMPERATURE SENSOR) ติดต้งั อยทู่ ี่ฝาสูบดา้ นขวา มีหนา้ ท่ีตรวจจบั อุณหภมู ิของน้าหล่อเยน็ ( อุณหภูมิของเครื่องยนต์ ) แลว้ ส่ง สญั ญาณการตรวจจบั น้ีไปที่กล่องควบคุม( ECM )โดยระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา จะทางาน ไดเ้ ม่ือเคร่ืองยนตม์ ีอุณหภมู ิสูงกว่า 60๐C ตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิน้ำหลอ่ เยน็ 4. ตวั ตรวจจับควำมเร็วของรถ (VS : VEHICLE SPEED SENSOR) ติดต้งั อยเู่ รือนชุดเฟื องทา้ ย มีหน้าที่ตรวจจบั การหมนุ ของเฟื องแลว้ ส่งสญั ญาณการหมนุ ออกไป 2 ทาง คือ เรือนไมลเ์ พอื่ แสดงความเร็วของรถและกล่องควบคุมเพอ่ื ควบคุมระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา โดยเร่ิมตน้ จากรถจกั รยานยนตจ์ ะตอ้ งมีความเร็วมากกว่า 10 กม./ชม. และหยดุ นิ่งเป็ นเวลา 3 วินาที ระบบหยดุ การทา งานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา จึงจะทางาน 26
5. ตวั ตรวจจับตำแหน่งลนิ้ เร่ง (TP : THROTTLE POSITION SENSOR ) ติดต้งั อยทู่ ี่เรือนลิ้นเร่ง ( ชุดตวั ตรวจจบั ) มีหนา้ ที่ตรวจจบั การเปิ ด-ปิ ดของลิ้นเร่ง ถา้ ลิ้นเร่งถูกตรวจ สอบพบวา่ มีการเคล่ือนท่ี ระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบาจะไมท่ างาน ถา้ หากระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา ทางานอยู่ เครื่องยนตจ์ ะติดอีกคร้งั เมื่อ ลิ้นเร่ง เปิ ดมากกว่า 1 องศา เพอื่ เขา้ สู่สภาวะการทางานปกติ ชุดตวั ตรวจจบั ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิน้ เร่ง 6. กล่องควบคมุ ECM (ENGINE CONTROL MODULE) ติดต้งั อยทู่ ่ีโครงตวั ถงั ดา้ นในหน้าถงั น้ามนั เช้ือเพลิง มีหนา้ ท่ีควบคุมระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนต์ ในรอบเดินเบา ( IDLING STOP SYSTEM ) ระบบสตาร์ท ( STARTER SYSTEM ) ระบบไฟชาร์จ ( CHARGE SYSTEM ) ระบบจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงแบบหวั ฉีด ( PGM-FI ) ซ่ึงถือวา่ เป็ นหวั ใจของรถจกั รยานยนตร์ ุ่นน้ี รูปแสดง กล่องควบคุม ( ECM ) และ เรคกเู ลเตอร์ / เรคติไฟเออร์ 27
วงจรไฟฟ้ าระบบหยุดการทางานของเครื่องในรอบเดนิ เบา (SYSTEM DIAGRAM IDLING STOP SYSTEM) การทางานของระบบหยุดการทางานของเครื่องยนต์ในรอบเดนิ เบา ( IDLING STOP SYSTEM ) ระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนตใ์ นรอบเดินเบาใชก้ ล่องควบคุม ( ECM ) เป็ นศูนยร์ วมการทางาน ของเคร่ืองยนต์ โดยรับสญั ญาณจากตวั ตรวจจบั ต่างๆ เพอ่ื ประมวลผลการทางาน ขณะจอดรถซ่ึงเป็นไปตามเงื่อนไข การทางาน และจะสงั่ งานให้ อลั เตอร์เนเตอร์ / สตาร์ทเตอร์ ( ALTERNATOR / STARTER ) เพอ่ื สตาร์ทเคร่ืองยนต์ หลงั จากบิดคนั เร่ง โดยผขู้ บั ขี่ไม่ตอ้ งกดสวิทชส์ ตาร์ท เงือ่ นไขการทางาน ระบบหยุดการทางานของเครื่องยนต์ในรอบเดนิ เบา มดี งั นี้ 1. เปิ ดสวิทชเ์ ลือก \" IDLING STOP \" ( เปิ ดระบบ ) 2. เคร่ืองยนตม์ ีอุณหภมู ิทางาน หรือสูงกว่า 60 ๐C 3. รถจกั รยานยนตต์ อ้ งมีความเร็วเริ่มตน้ มากกว่า 10 กม./ชม. 4. รถจกั รยานยนตต์ อ้ งหยดุ น่ิง เป็นเวลา 3 วินาที 5. ผอ่ นคนั เร่งให้สุด 28
ขณะหยดุ รถจกั รยานยนต์ ติดสญั ญาณไฟแดงและอยใู่ นเง่ือนไขระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนต์ ในรอบเดินเบา เครื่องยนตจ์ ะดบั โดยหลอดไฟแสดงการทางาน ( STAND BY INDICATOR ) จะกะพริบเพอ่ื ให้ ผขู้ บั ข่ีทราบว่า ระบบหยดุ การทางานของเคร่ืองยนตใ์ นรอบเดินเบา ทางาน และไฟหน้าจะลดความสวา่ งลงเพอ่ื ประหยดั ไฟจากแบตเตอรี่ รูปแสดง ขณะหยดุ รถ เม่ือตอ้ งการขบั ขี่ ไม่ตอ้ งสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแต่บิดคนั เร่ง ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิ้นเร่งจะส่งสญั ญาณ ไปท่ีกล่องควบคุม ( ECM ) อลั เตอร์เนเตอร์/สตาร์ทเตอร์จะทางานพร้อมกบั ระบบจุดระเบิดทางาน เครื่องยนตก์ ็จะติด หลอดไฟแสดงการทางาน ( STAND BY INDICATOR ) จะดบั ลง ไฟหนา้ จะสว่างเป็ นปกติ รูปแสดง ขณะขบั ขี่ปกติ และเน่ืองจากรถรุ่นPCX150 น้ีไม่มีสวิทชเ์ บาะนง่ั เพราะฉะน้นั หากสวิทชแ์ ฮนดด์ า้ นขวาอยใู่ นตาแหน่ง ตาแหน่ง \" IDLING STOP \" ( เปิ ดระบบหยดุ การทางานของเครื่องยนตใ์ นรอบเดินเบา ) ระบบหยดุ การทางาน ของเคร่ืองยนตใ์ นรอบเดินเบากจ็ ะทางานตามปกติแมจ้ ะไมม่ ีผขู้ บั ขี่นง่ั อยบู่ นเบาะนงั่ หมายเหตุ การใช้ขาต้ังข้างขณะจอดรถ ระบบหยุดการทางานของเครื่องยนต์ขณะเดนิ เบา จะไม่ทางาน คาเตอื น : ควรดบั เครื่องยนต์ และล็อคคอ ขณะจอดรถ เพอื่ ป้ องกันการโจรกรรม 29
ระบบควบคมุ การปล่อยไอระเหยนา้ มันเชื้อเพลงิ (EVAPORATIVE EMISSION CONTROL SYSTEM) รถจกั รยานยนตร์ ุ่นใหม่ จะถูกออกแบบและพฒั นาให้เป็ นมิตรกบั สิ่งแวดลอ้ มมากข้ึนโดยมีการ ออกแบบและติดต้งั ระบบควบคุมไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง ( Evaporative Emission Control System ) เพอ่ื ทาให้ไอระเหยของน้ามนั เช้ือเพลิงมีปริมาณนอ้ ยท่ีสุด ซ่ึงในการควบคุมไอระเหยของน้ามนั เช้ือเพลิงภาย ในถงั จะถูกดูดซบั และกาจดั ก่อนปล่อยสู่บรรยากาศ กล่องดกั ไอระเหยน้ามนั ถงั น้ามนั เช้ือเพลิง เช้ือเพลิง เรือนลิ้นเร่ง โซลินอยดค์ วบคุมการกาจดั ไอ ไอระเหยนา้ มนั เชื้อเพลงิ ระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง อากาศบริสุทธ์ิ การทางาน เมื่อเกิดไอระเหยของน้ามนั เช้ือเพลิงภายในถงั ไอระเหยจะลอยข้ึนไปดา้ นบนของถงั และไหล ผา่ นท่อทางไปยงั กล่องดกั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง ซ่ึงภายในกล่องน้ีจะมีไสก้ รองดูดซบั ประสิทธิภาพสูง ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิงจะถูกไส้กรองดูดซบั ไว้ แลว้ ปล่อยอากาศดีออกสู่บรรยากาศ เมื่อติดเครื่องยนตแ์ ละเมื่อเครื่องยนตถ์ ึงอุณหภูมิทางาน กล่อง ECM จะสง่ั ให้ โซลินอยดว์ าลว์ เปิ ด เมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนตส์ ูงเกินกว่า 4,500 รอบ / นาที ไอระเหยที่ถูกไส้กรองดูดซึม / ซบั ไว้ กจ็ ะถูกดูดผา่ นทอ่ ทาง ตามแรงดูดท่ีเกิดจากสูญญากาศไปยงั ท่อไอดีเพอื่ นาเขา้ ไปสู่กระบวนการเผาไหม้ ภายในหอ้ งเผาไหม้ ซ่ึงจะเกิดข้นั ตอนดงั ที่กล่าวมาแลว้ วนเวียนไปเรื่อยๆ 30
ส่ วนประกอบของระบบ ระบบควบคุมไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิงของรถ [1] จกั รยานยนตร์ ุ่น PCX150 ส่วนประกอบของระบบจะอยู่ ตอนกลางของรถ บริเวณถงั น้ามนั เช้ือเพลิง เมื่อถอดฝา [2] ครอบกลางตวั ถงั ออกจะพบถาดรองน้ามนั เช้ือเพลิง ให้ ถอดฝาถงั และดึงถาดรองน้ามนั เช้ือเพลิงออกจากถงั ได้ ท่อรับไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลงิ เมื่อถอดถาดรองถงั น้ามนั เช้ือเพลิงออกแลว้ จะมองเห็นโซลินอยดว์ าลว์ ควบคุมการกาจดั ไอระเหยน้า มนั เช้ือเพลิง [1]ติดต้งั อยบู่ ริเวณหน้าถงั น้ามนั ฯ และกล่อง ดกั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง [2]ติดต้งั อยบู่ ริเวณดา้ นหลงั ของถงั น้ามนั 1. กล่องดกั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง[ Evaporative (EVAP) Emission Canister ]ภายในจะบรรจุ ดว้ ยผงดูดซบั ประสิทธิภาพสูง เป็นผงถ่าน(Activated Cabon )ทาหน้าท่ีดูดซึม/ซบั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง ก่อนปล่อยอากาศที่สะอาดออกสู่บรรยากาศ 31
รูปแสดง ทิศทางการไหลของไอระเหยน้าเช้ือเพลิงโดยผา่ นกลอ่ งดกั ไอระเหย 2. โซลินอยดค์ วบคุมการกาจดั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิง ( EVAP Purge Control Solenoid Valve ) จะทาหน้าท่ีควบคุมการไหลของไอระเหยท่ีถูกดูดโดยสุญญากาศท่ีทอ่ ไอดีออกจากกล่องดกั ไอระเหยน้ามนั เช้ือเพลิงไปเผาไหมใ้ นหอ้ งเผาไหมข้ องเคร่ืองยนตเ์ มื่อเคร่ืองยนตท์ างานกล่องECMจะส่ังใหโ้ ซลินอยดเ์ ปิ ด เม่ือเคร่ืองยนตม์ ีความเร็วรอบเกินกว่า 4,500 รอบ / นาที และอุณหภมู ิเคร่ืองยนตไ์ ดอ้ ุณหภูมิทางาน EVAP Purge Control Solenoid Valve ไปท่อไอดีเพือ่ ไปกาจดั โดยการเผาไหม้ ดดู จากกลอ่ งดกั ไอระเหยฯผา่ นท่อ PURGE 32
ระบบควบคุมไอเสีย ( EMISSION CONTROL SYSTEM ) แหล่งกาเนิดไอเสีย กระบวนการเผาไหม้ ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และกา๊ ซไฮโดรคาร์บอน (HC) การควบคุมการแพร่กระจายของกา๊ ซไฮโดรคาร์บอนน้นั มีความสาคญั เป็น อยา่ งยงิ่ เน่ืองจากกา๊ ซไฮโดรคาร์บอนเป็นสารเคมีที่เราสามารถมองเห็นไดใ้ นรูปแบบของควนั เม่ือกระทบ เขา้ กบั แสงอาทิตย์ ส่วนก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซดแ์ ละไนโตรเจนออกไซดเ์ ราไม่สามารถมองเห็นไดใ้ น รูปแบบของควนั แต่เป็ นก๊าซท่ีมีพิษต่อร่างกาย บริษทั ฮอนดา้ มอเตอร์ จากดั ไดใ้ ชป้ ระโยชน์หลายๆระบบ โดยมีจุดประสงคเ์ พอื่ ลดจานวนก๊าซ คาร์บอนมอนนอกไซด์ ไนโตรเจนออกไซดแ์ ละก๊าซไฮโดรคาร์บอน ที่ออกมาจากเครื่องยนตเ์ พอ่ื ลดภาวะ มลพิษ ซ่ึงก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนได้ ระบบควบคุมไอเสียจากห้องเครื่องยนต์ CECS ( Crankcase Emission Control System ) เรือนลิ้นเร่ง ท่อระบายจากหอ้ งเครื่องยนต์ เรือนไส้กรองอากาศ อากาศบริสุทธ์ิ ไอเสียจากห้องเคร่ืองยนต์ เคร่ืองยนตถ์ ูกออกแบบเป็ นระบบปิ ด เพอ่ื ป้ องกนั ไมใ่ หก้ ๊าซพิษที่เกิดข้ึนภายในหอ้ งเครื่องยนต์ แพร่กระจายสู่บรรยากาศ ไอเสียที่ถูกระบายออกจากห้องเคร่ืองยนตจ์ ะถูกควบคุมให้ไหลยอ้ นกลบั เขา้ ไป ในหอ้ งเผาไหมข้ องเคร่ืองยนต์ โดยผ่านเขา้ ดา้ นหลงั เรือนไส้กรองอากาศ 33
ไส้กรองนา้ มันเชื้อเพลิง ไสก้ รองน้ามนั เช้ือเพลิงสามารถกรองสิ่งสกปรกที่มีขนาดต้งั แต่10 ไมครอนข้ึนไป หมายเหตุ : เปลยี่ นไส้กรองนา้ มนั เชื้อเพลงิ ใหม่ทุกๆ 48,000 กิโลเมตร ก่อนการถอดป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง จาเป็ นตอ้ งทาการระบายแรงดนั ของน้ามนั เช้ือเพลิงในระบบก่อน การระบายแรงดนั นา้ มนั เชื้อเพลิง/การถอดปั๊มนา้ มันเชื้อเพลิง 1. หมุนสวิทชจ์ ุดระเบิดไปท่ีตาแหน่ง \"OFF\" 2. ถอดกล่องเกบ็ ของอเนกประสงค,์ กล่อง แบตเตอรี่ปลดข้วั ตอ่ 5P ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิง ข้วั ต่อ [2] 3. หมนุ สวิทชจ์ ุดระเบิดไปท่ีตาแหน่ง \"ON\" [1] 4. สตาร์ทเครื่องยนตแ์ ละปล่อยเดินเบาจนเคร่ืองยนตด์ บั 5. ปลดสายข้วั ลบ (-) แบตเตอรี่ออก 6. ตรวจสอบความสกปรกของขอ้ ตอ่ เร็ว และทาความสะอาด ถา้ จาเป็ น คลุมขอ้ ตอ่ เร็วดว้ ยผา้ ที่สะอาด 7. ถอดขอ้ ตอ่ เร็วออกโดยการดนั แถบปลดตวั ลอ๊ ค [1]ใหเ้ ลื่อนไปดา้ นหน้าและกดตวั ลอ๊ ค[2]ลงจนสุด 8. ปลดขอ้ ต่อเร็วออกจากท่อทางน้ามนั ท่ีออกจากป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง ในขณะท่ีจบั เรือนของขอ้ ตอ่ ไว้ ก่อนที่จะทาการถอดตวั ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิงออก หลงั จากท่ีทาการลดแรงดนั และถอดขอ้ ตอ่ เร็ว ดา้ นปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงออกแลว้ ตอ่ ไปตอ้ งถอดกล่องกาจดั ไอระเหยของน้ามนั เช้ือเพลิง(EVAP CANISTER) กล่องดกั ไอระเหยของน้ามนั เช้ือเพลิง 9. คลายน๊อตยดึ ปั๊มฯ 4ตวั ในรูปแบบกากบาท จากน้นั ถอดแผน่ ยดึ ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงออก 34
10. ดึงตวั ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงข้ึนมาท้งั ชุดจนกระทง่ั ขอบ ของใส่กรองหลุดออกจากรูท่ีถงั น้ามนั เช้ือเพลิง หมุนตวั ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงจนกระทงั่ ตวั ปั๊มไส้กรองและ ชุดเซ็นเซอร์วดั ระดบั น้ามนั หลุดออกจากถงั น้ามนั เช้ือเพลิง ถึงข้นั ตอนน้ี ระมดั ระวงั ความเสียหายที่อาจเกิดข้ึนกบั ชุด เซ็นเซอร์วดั ระดบั น้ามนั เช้ือเพลิง การเปลยี่ นไส้กรองนา้ มนั เชื้อเพลิง ตรวจสอบความเสียหายของตวั ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิงเปล่ียนปั๊มตวั ใหมเ่ ม่ือจาเป็น จากน้นั ตรวจสอบไสก้ รองน้ามนั เช้ือเพลิงว่ามีการ อุดตนั หรือฉีกขาดหรือไม่ หากพบควรเปล่ียนไสก้ รองตวั ใหม่ ไสก้ รองน้ำมนั ฯ 1.ถำ่ งขอเกี่ยวท้งั สองออก 2.หมนุ กรองน้ำมนั เช้ือเพลงิ โอริง ขอเกี่ยว ปลดขอเก่ียวของกรองน้ามนั เช้ือเพลิงออกจากเดือยล๊อคโดยคอ่ ยๆ ถ่างขอเกี่ยวท้งั สองออกแลว้ หมนุ กรองน้ามนั เช้ือเพลิงตามเขม็ นาฬิกา ดึงกรองน้ามนั เช้ือเพลิงข้ึนและถอดกรองน้ามนั เช้ือเพลิงออก จากปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิง ถอดโอริงออก ทาน้ามนั เคร่ืองปริมาณเล็กนอ้ ยที่โอริงอนั ใหมแ่ ลว้ ประกอบโอริง ประกอบกรองน้ามนั เช้ือเพลิงอนั ใหมใ่ นตา- หมุนกรองน้ำมนั เช้ือเพลิงทวน แหน่งที่ถูกตอ้ งเพอื่ ให้เครื่องหมายสามเหลี่ยมบน ไสก้ รองฯและท่ีเรือนปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงตรงกนั เมื่อ เครื่องหมำยรูปสำมเหล่ียม ตรงกนั เก่ียวขอเก่ียวเขา้ กบั เดือยลอ๊ คหมนุ กรองน้ามนั เช้ือ เพลิงทวนเขม็ นาฬิกาจนกระทงั่ ขอเกี่ยวท้งั สองถูกยดึ เขา้ กบั เดือยลอ๊ คจนเขา้ ที่พอดี ระวงั อยา่ ใหเ้ กิดความ เสียหายกบั ชิ้นส่วนดงั กล่าวประกอบป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง 35
การประกอบ ทาน้ามนั เคร่ืองปริมาณเลก็ น้อยท่ี โอริง โอริงอนั ใหม่แลว้ ประกอบโอริงเขา้ กบั ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงประกอบซีลกนั ฝ่นุ อนั ใหมใ่ นตาแหน่ง ท่ีถูกตอ้ ง ซีลกนั ฝ่ นุ ใส่ลูกลอยเขา้ ไปในรูของถงั น้ามนั เช้ือเพลิงใส่ตวั ตรวจจบั ระดบั น้ามนั เช้ือเพลิงเขา้ ไปในถงั ในขณะที่พบั ไสก้ รองน้ามนั ฯเขา้ หากนั ระวงั อยา่ ให้เกิดความเสียหายกบั ไสก้ รองน้ามนั ฯและแขนของลูก ลอยจดั ส่วนล่างของปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงให้ชิดกบั บริเวณขอบรูของถงั น้ามนั เช้ือเพลิงพลิกตะแคงตวั ปั๊ม น้ามนั ฯและใส่ป๊ัมน้ามนั ฯเขา้ ไปในรูของถงั น้ามนั เช้ือเพลิงให้สนิท กดป๊ัมน้ามนั ฯเขา้ ไปในถงั น้ามนั ฯให้ เข้ียวลอ๊ คของปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงอยใู่ นตาแหน่งระหวา่ ง สนั ขอบของรูของถงั น้ามนั ฯ ประกอบแผน่ ยดึ ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิง 2 แผน่ โดยจดั ใหเ้ ครื่องหมาย “UP” ของ แผน่ ยดึ ท้งั สองหนั ข้ึนในขณะที่กดปั๊มน้ามนั ฯลง ประกอบและขนั น๊อตยดึ แผ่นยดึ ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิง เคร่ืองหมาย \" UP \" ในลกั ษณะกากบาทใหแ้ น่นตามอตั ราการขนั แน่นที่กาหนด ต่อขอ้ ต่อเร็วและข้วั ตอ่ 5P จากน้นั ประกอบ ชิ้นส่วนต่างๆยอ้ นกลบั ตามลาดบั การถอดใหถ้ ูกตอ้ ง อัตราการขนั แน่น : 12 นิวตนั -เมตร (1.2 กก.-ม., 9 ฟุต-ปอนด์) 36
ระยะห่างวาล์ว การตรวจสอบ • ตรวจสอบและปรับต้งั ระยะห่างวาลว์ ในขณะท่ีเครื่องยนตเ์ ยน็ (อุณหภมู ิต่ากวา่ 350C / 950F)ถอดชิ้นส่วน ต่อไปน้ี โบล้ ท์ - ฝาครอบขา้ ง, ตะแกรงกนั หมอ้ น้า, ฝาครอบฝาสูบ, โบล้ ท์ 3 ตวั ที่ฝาครอบช่องระบายอากาศ และทาการ ถอดฝาครอบช่องระบายอากาศออก - ถอดโบล้ ทย์ ดึ หมอ้ น้า 4 ตวั พร้อมแหวนรองออกและ ขยบั หมอ้ น้าออกเพอื่ ใหส้ ามารถมองเห็นพดั ลม ระบายความร้อนไดอ้ ยา่ งชดั เจน ฝาครอบช่องระบายอากาศ ข้อควรจา เคร่ืองหมาย จุด •ไม่จาเป็ นตอ้ งปลดทอ่ น้าออกจากหมอ้ น้า เครื่องหมาย ขีด หมุนเพลาขอ้ เหว่ียงตามเขม็ นาฬิกาอยา่ งชา้ ๆ และ จดั ให้ รอยบากของพดั ลมระบายความร้อนตรงกบั เครื่องหมายบนฐานยดึ หมอ้ น้า ตอ้ งแน่ใจวา่ เคร่ืองหมายจุดของเพลาลูกเบ้ียวและ รอยบาก หมอ้ น้า ขีดเคร่ือง หมายของฝาสูบตรงกนั เคร่ืองหมาย ตอ้ งแน่ใจวา่ ลูกสูบอยทู่ ่ีตาแหน่งศูนย์ ตายบนในจงั หวะอดั ตาแหน่งน้ีสามารถยนื ยนั ได้ โดยการตรวจสอบระยะฟรีของกระเด่ืองวาลว์ (ท่านสามารถขยบั กระเดื่องวาลว์ ไดเ้ ลก็ น้อย) แต่ ถา้ ไม่มีระยะฟรี (กระเดื่องวาลว์ แน่น) เป็ นเพราะ ว่าลูกสูบกาลงั เคลื่อนผ่านจงั หวะคายไปตาแหน่ง ศูนยต์ ายบน หมุนเพลาขอ้ เหวย่ี งหน่ึงรอบเตม็ ทวน เขม็ นาฬิกาอยา่ งชา้ ๆและจดั ใหร้ อยบากของพดั ลม ระบายความร้อนตรงกบั เคร่ืองหมายบนฐานยดึ หมอ้ น้า 37
เช็คระยะห่างวาลว์ โดยสอดฟิ ลเลอร์เกจเขา้ ระหว่างสกรูปรับต้งั ระยะห่างวาลว์ กบั กา้ นวาลว์ ระยะห่างวาล์ว : ไอดี : 0.10 มม. + 0.02 มม. ไอเสีย : 0.24 มม. + 0.02 มม. สกรูปรับต้งั ฟิ ลเลอร์เกจ ประแจปรับต้งั วาลว์ ฟิ ลเลอร์เกจ หมุนเครื่องยนตต์ รวจสอบระยะห่างวาลว์ อีกคร้งั จากน้นั ประกอบชิ้นส่วนตา่ งๆ กลบั ตาแหน่งเดิม ตารางแสดงค่ามาตรฐานระยะห่างวาล์วของรถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นต่างๆ รุ่นรถจักรยานยนต์ ระยะห่างวาล์วมาตรฐาน วาล์วไอดี วาล์วไอเสีย Wave 100, Wave125, Wave125i V.1-2 0.05 + 0.02 มม. 0.05 + 0.02 มม. Wave125i V.3 0.10 + 0.02 มม. 0.10 + 0.02 มม. Sonic125 0.06 + 0.02 มม. 0.27 + 0.02 มม. Phantom200 0.10 + 0.02 มม. 0.10 + 0.02 มม. Click110, Air Blade110 0.16 + 0.02 มม. 0.25 + 0.02 มม. Click110i, Air Blade110i 0.14 + 0.02 มม. 0.20 + 0.02 มม. Click125i 0.10 + 0.02 มม. 0.24 + 0.02 มม. CZ110i, Wave110i, Dream110i 0.10 + 0.02 มม. 0.10 + 0.02 มม. Icon, Scoopy i 014 + 0.02 มม. 0.14 + 0.02 มม. Spacy i 0.16 + 0.02 มม. 0.16 + 0.02 มม. PCX125 0.10 + 0.02 มม. 0.24 + 0.02 มม. PCX150 0.10 + 0.02 มม. 0.24 + 0.02 มม. CBR150R (ท้ังคาร์บูเรเตอร์ และหัวฉีด) 0.16 + 0.03 มม. 0.25 + 0.03 มม. CBR250R 0.16 + 0.03 มม. 0.27 + 0.03 มม. 38
ระบบจ่ายนา้ มันเชื้อเพลงิ แบบหัวฉีด ( PGM-FI ) ส่วนประกอบของระบบ PGM - FI 1. ตวั ตรวจจับสัญญาณ (Sensor) 1.1 ตวั ตรวจจบั แรงดนั สมั บรู ณ์ในทอ่ ไอดี (MAP sensor) 1.2 ตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิอากาศ (IAT sensor) 1.3 ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิ้นเร่ง (TP sensor) 1.4 ตวั ตรวจจบั อุณหภูมิน้าหล่อเยน็ (ECT sensor) 1.5 ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งเพลาขอ้ เหวี่ยง (CKP sensor) 1.6 ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน (O2 sensor) 2. ป๊ัมนา้ มนั เชื้อเพลงิ (Fuel Pump) 3. หัวฉีด (Injector) 4. วาล์วควบคมุ อากาศรอบเดนิ เบา ( IACV : Idle Air Control Valve ) 5. หลอดไฟแสดงความผดิ ปกติ (MIL : Malfunction Indicator Lamp) 6. กล่องควบคุมการทางานของเครื่องยนต์ ( ECM : Engine Control Module) 7. เรือนลนิ้ เร่ง (Throttle Body) สวทิ ชจ์ ุดระเบิด ECM ข้วั ตรวจสอบ DLC หวั ฉีด วาลว์ ควบคุมอากาศรอบเดินเบา วาลว์ โซลินอยด์ ควบคุมการไหล ของไอน้ามนั ตวั ตรวจจบั ความเร็วของรถ ระบบ EVAP ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งเพลาขอ้ เหวยี่ ง ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง สวทิ ชข์ าต้งั ขา้ ง ตวั ตรวจจบั อณุ หภมู ิน้าหล่อเยน็ รูปแสดง ส่วนประกอบของระบบ PGM-FI 39
1. ตวั ตรวจจบั สัญญาณ ( SENSOR ) มีหน้าที่ตรวจจบั ความเปล่ียนแปลงสภาวะต่างๆ ของเครื่องยนต์ เพอื่ ส่งขอ้ มลู ต่างๆ ไปยงั กล่อง ECM แลว้ นาขอ้ มูลเหล่าน้นั ไปประมวลผลเพอื่ หาปริมาณการฉีด และจงั หวะในการจุดระเบิดท่ีเหมาะสม ซ่ึงตวั ตรวจจบั เหล่าน้ีมีความสาคญั ตอ่ ระบบ PGM - FI เป็ นอยา่ งยง่ิ ในรถจกั รยานยนตร์ ุ่น PCX150 น้ี ไดม้ ีการติดต้งั ตวั ตรวจจบั สญั ญาณ ตา่ งๆ ดงั น้ี 1.1 ตวั ตรวจจับแรงดนั สัมบูรณ์ในท่อไอดี : MAP sensor ( Manifold Absolute Pressure Sensor ) ทาหน้าท่ีตรวจจบั แรงดนั ภายในทอ่ ไอดี ชุดตวั ตรวจจบั แลว้ เปล่ียนเป็ นสญั ญาณทางไฟฟ้ า ส่งขอ้ มูล ไปยงั กล่อง ECM เพอื่ ทาหน้าที่ประมวลผล หาปริมาณของอากาศเพอื่ กาหนดระยะเวลา ในการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิงข้นั พ้นื ฐาน ตวั ตรวจจบั แรงดนั ในท่อไอดี ตวั ตรวจจบั แรงดนั ในท่อไอดี เป็ นความตา้ นทานที่เปล่ียนแปลงไดแ้ บบสารก่ึงตวั นา ติดต้งั อยู่ ดา้ นหลงั ของลิ้นปี กผีเส้ือ เพอ่ื ตรวจจบั แรงดนั ของอากาศ ก่อนเขา้ เครื่องยนต์ แลว้ เปล่ียนแรงดนั อากาศ เป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ าส่งไปยงั กล่อง ECM เพอื่ ประมวลผลหาปริมาณอากาศ และรอสญั ญาณตาแหน่งเพลา- ขอ้ เหวี่ยงของเครื่องยนต์ ซ่ึงเป็ นขอ้ มลู ในการสั่งจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงข้นั พ้นื ฐานให้เหมาะสมกบั ความตอ้ งการ ของเคร่ืองยนต์ ในสภาวะน้นั ๆ ตวั ตรวจจบั แรงดนั MAP SENSOR ECM OUTPUT VOLTAGE (ซิลิโคน ไดอะแฟรม) 5V 3.41V แอมปลิไฟเออร์ 5V ทางเขา้ สุญญากาศ OUTPUT VOLTAGE 0.5V13 kPa 120 kPa LOW HIGH PRESSURE ถา้ ตวั ตรวจจบั แรงดนั ในท่อไอดี ส่งสญั ญาณไปยงั กล่อง ECM แลว้ ประมวลผลพบวา่ แรงดนั ในทอ่ ไอดีสูงแสดงวา่ ขณะน้นั มีปริมาณอากาศมาก กล่อง ECM จะสง่ั จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงมาก และในทาง กลบั กนั ถา้ แรงดนั ในทอ่ ไอดีต่าปริมาณอากาศจะนอ้ ย กล่อง ECM จะส่ังจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงน้อย 40
1.2 ตวั ตรวจจับอุณหภมู อิ ากาศ : IAT sensor ( Intake Air Temperature Sensor ) ชุดตวั ตรวจจบั ทาหน้าท่ีตรวจจบั อุณหภูมิของอากาศท่ีบรรจุเขา้ ตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิอากาศ กระบอกสูบ แลว้ เปลี่ยนเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ า ส่งไปยงั กล่อง ECM เพอื่ ปรับเปล่ียนระยะเวลา ในการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิงใหเ้ หมาะสม ตวั ตรวจจบั อุณหภูมิอากาศเป็นเทอร์มิสเตอร์ท่ีสามารถตรวจจบั การเปล่ียนแปลงอุณหภูมิของอากาศ ไดถ้ ึงแมจ้ ะ เป็นความร้อนแคเ่ ล็กน้อย จะติดต้งั อยดู่ า้ นหนา้ ของลิ้นปี กผีเส้ือ เพอ่ื ตรวจสอบอุณหภูมิของอากาศ ที่บรรจุเขา้ กระบอกสูบ IAT SENSOR ECM THERMISTOR 5V OUTPUT VOLTAGE 4.63V INPUT VOLTAGE 0.47V INTAKE AIR -20๐ C 100๐C TEMPERATURE เน่ืองจากอุณหภมู ิของอากาศจะมีผลต่อความหนาแน่นของอากาศ การท่ีอุณหภมู ิของอากาศไม่คงที่ จะทาใหค้ วามหนาแน่นของอากาศเปลี่ยนแปลงไปดว้ ย ส่งผลให้การจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงผสมกบั อากาศผิดพลาด จึงจาเป็นตอ้ งมีตวั ตรวจจบั อุณหภูมิอากาศก่อนเขา้ เคร่ืองยนต์ แลว้ ส่งขอ้ มูลใหก้ บั กล่อง ECM เพอื่ หาปริมาณ อากาศที่แทจ้ ริง แลว้ สง่ั จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงในปริมาณท่ีเหมาะสมกบั ปริมาณอากาศในขณะน้นั 41
1.3 ตวั ตรวจจับตำแหน่งลนิ้ เร่ง : TP sensor ( Throttle Position Sensor ) ชุดตวั ตรวจจบั ทาหน้าที่ตรวจจบั ตาแหน่งการเปิ ด - ปิ ด ของ ลิ้นเร่งแลว้ เปลี่ยนเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ าส่ง ขอ้ มลู ไปยงั กล่อง ECM เพอ่ื ประมวลผลหา ปริมาณการจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงใหเ้ หมาะสมกบั ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลนิ้ เร่ง ความตอ้ งการของเคร่ืองยนตใ์ นขณะน้นั และ ยงั ส่ง ขอ้ มูลสงั่ ตดั การจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงขณะ ผ่อนคนั เร่งโดยเปรียบเทียบกบั สญั ญาณ ของตวั ตรวจจบั ตาแหน่งเพลาขอ้ เหว่ยี ง และสญั ญาณของตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิน้าหล่อเยน็ ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งลิ้นเร่ง จะบอกถึงการเปิ ด - ปิ ด ของลิ้นเร่ง แลว้ ส่งเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ า ซ่ึงเกิดจากการเปล่ียนแปลงของความตา้ นทาน ที่ติดต้งั อยทู่ ่ีส่วนปลายของเพลาลิ้นเร่ง ความตา้ นทานท่ีเปลีย่ นค่าได้ TP SENSOR ECM OUTPUT VOLTAGE หนา้ สมั ผสั 5V 4.76 V OUTPUT VOLTAGE 0.29 V FULL CLOSE ( IDLE ) FULL OPEN THROTTLE VALVE OPENING DEGREE เม่ือลิ้นเร่งอยใู่ นตาแหน่งปิ ดสุด ชุดหน้าสมั ผสั การเปิ ดลิ้นเร่ง ซ่ึงต่อท่ีส่วนปลายของเพลาลิ้นเร่ง ท่ีตาแหน่งน้ีจะมีความตา้ นทานมาก ทาใหไ้ ฟท่ีจ่ายมาจากข้วั VCC 5 โวลท์ ไหลผ่านความตา้ นทานมากจึงทาให้ กระแสไฟไหลกลบั ไปท่ีกล่อง ECM ท่ีข้วั THR นอ้ ย( 0.29 โวลท์ )ในตาแหน่งน้ีกล่อง ECM จะสงั่ ใหห้ วั ฉีด จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงน้อย เมื่อบิดคนั เร่งมากข้ึน ชุดหน้าสมั ผสั การเปิ ดลิ้นเร่ง จะเคล่ือนท่ีเขา้ หาข้วั VCC มากข้ึน ทาให้ ค่าความตา้ นทานระหว่างข้วั VCC กบั THR ลดลง ทาใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลกลบั ไปที่กล่อง ECM ท่ีข้วั THR มากข้ึน ทาใหก้ ล่อง ECM จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงมากข้ึน ถา้ ลิ้นเร่งเปิ ดสุด ความตา้ นทานจะน้อยที่สุดทาใหไ้ ฟ ไหลกลบั ไปที่กล่อง ECM ไดม้ ากที่สุด ( 4.76 โวลท์ ) กล่อง ECM จะส่ังจ่ายน้ามนั เช้ือเพลิงสูงสุด 42
1.4 ตวั ตรวจจับอุณหภูมนิ ำ้ หล่อเย็น : ECT sensor ( Engine Coolant Temperature Sensor ) ตวั ตรวจจบั อณุ หภมู ิน้ำหล่อเยน็ ทาหนา้ ที่ตรวจจบั อุณหภูมิน้าหล่อเยน็ แลว้ เปล่ียนเป็นสญั ญาณทางไฟฟ้ าส่งเขา้ กล่อง ECM เพอ่ื เพม่ิ หรือลดปริมาณการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง ใหเ้ หมาะสมกบั อุณหภูมิของเคร่ืองยนต์ THERMISTOR EOT SENSOR ECM INPUT VOLTAGE 5V 4.54 V INPUT VOLTAGE 0.63 V ENGINE OIL -20๐ C 100๐ C TEMPERATURE ตวั ตรวจจบั อุณหภูมิน้าหล่อเยน็ ติดต้งั อยทู่ ี่ฝาสูบดา้ นขวา บริเวณป๊ัมน้า ภายในประกอบดว้ ย ความตา้ นทานที่เปล่ียนแปลงตามอุณหภูมิแบบค่าสมั ประสิทธ์ิเป็นลบ กล่าวคือเม่ืออุณหภูมิสูงข้ึนความตา้ นทาน จะลดลง จากคุณสมบตั ิดงั กล่าวจะถูกนาไปใชเ้ ปล่ียนแปลงแรงดนั ไฟฟ้ า ที่ส่งเขา้ กล่อง ECM เพอ่ื เป็นขอ้ มูล ในการประมวลผลหาปริมาณการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิงที่เหมาะสมกบั อุณหภมู ิของเครื่องยนตข์ ณะน้นั 43
1.5 ตวั ตรวจจับตำแหน่งเพลำข้อเหวย่ี ง : CKP sensor ( Crankshaft Position Sensor ) ภาพแสดง ตวั ตรวจจบั ตาแหน่งเพลาขอ้ เหว่ียง : CKP Sensor ทาหน้าท่ีตรวจจบั ตาแหน่งเพลาขอ้ เหว่ียง แลว้ ส่งสญั ญาณทางไฟฟ้ าเขา้ กล่อง ECM เพอื่ เป็น ขอ้ มลู พ้นื ฐาน ในการประมวลผลหาอตั ราการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง และกาหนดจงั หวะจุดระเบิดให้เหมาะสมกบั การทางานของเคร่ืองยนต์ รวมถึงส่งสญั ญาณความเปล่ียนแปลงของตาแหน่งเพลาขอ้ เหวย่ี งไปพร้อมกนั ดว้ ย เพอ่ื เปรียบเทียบตาแหน่งในแตล่ ะจุดว่ามีการเปล่ียนแปลงเพียงใด กล่อง ECM จะรู้ถึงความเปล่ียนแปลงน้นั เพอื่ ท่ีจะประมวลผลให้เหมาะสมและทนั ตอ่ สภาวะของเคร่ืองยนต์ 1.6 ตวั ตรวจจับปริมำณออกซิเจน : O2 sensor ( Oxygem Sensor ) ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน 44
ทาหน้าท่ีตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน ในไอเสียท่ีเครื่องยนตป์ ล่อยออกมา แลว้ เปล่ียนเป็ นสญั ญาณทาง ไฟฟ้ า ส่งเขา้ ECM เพอื่ เพม่ิ หรือลดปริมาณการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง ใหเ้ หมาะสมกบั การทางานของเคร่ืองยนต์ ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจน ติดต้งั อยทู่ ่ีฝาสูบบริเวณปากท่อไอเสียดา้ นซา้ ย ภายในประกอบดว้ ยแผ่น เซอร์โคเนีย ( ZIRCONIA ) ท่ีฉาบดว้ ยแพลทินม่ั ( PLATINUM ) ซ่ึงมีลกั ษณะเป็ นรูรอบๆ เพอ่ื ตรวจจบั ก๊าซไอเสีย ที่เกิดจากการเผาไหมใ้ นขณะน้นั วา่ เคร่ืองยนตเ์ ผาไหมส้ มบรู ณ์เพียงใด ถา้ เครื่องยนตเ์ ผาไหมไ้ ม่สมบรู ณ์ตวั ตรวจ จบั ปริมาณออกซิเจนจะไมส่ ามารถตรวจจบั ออกซิเจนในกา๊ ซไอเสียไดก้ ล่อง ECM ก็จะส่งั ลดปริมาณการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิงให้น้อยลงจนกวา่ จะจบั ปริมาณออกซิเจนในก๊าซไอเสียได้ และในทางกลบั กนั ถา้ ตวั ตรวจจบั ปริมาณออกซิเจนในก๊าซไอเสียพบปริมาณออกซิเจนมากกล่องECM จะเพมิ่ ปริมาณการฉีดให้สมั พนั ธ์กบั การทางานของเคร่ืองยนต์ ATMOSPHERE (บรรยำกำศ) O2 SENSOR ECM WHITE GOLD-COATED POLE ( ATMOSPHERE SIDE ) INPUT เคลือบทองคำขำว VOLTAGE (ดำ้ นบรรยำกำศ) ZIRCONIA DEVICE ( สำรประกอบเซอร์โคเนีย) WHITE GOLD-COATED POLE ( EXHAUST SIDE ) เคลือบทองคำขำว (ดำ้ นไอเสีย) ELECTROMOTIVE ( VOLTAGE ) HIGH RICH AIR/FUEL RATIO PERFECT AIR/FUEL RATIO LEAN AIR/FUEL RATIO LOW INTAKE IGNITION INTAKE IGNITION PROCESS COMPRESSION EXHAUST COMPRESSION EXHAUST ข้อควรระวงั : - ห้ามใช้ นา้ มนั เครื่อง จาระบี นา้ หรือสารละลายอน่ื ๆทุกชนิด ใส่ไปในรูอากาศตวั ตรวจจับปริมาณออกซิเจน - ห้ามใช้ นา้ มันเคร่ือง จาระบี นา้ หรือสารละลายอนื่ ๆทุกชนิด ใส่ภายในปลก๊ั ตวั ตรวจจับปริมาณออกซิเจน - ต้องเปลย่ี นตวั ตรวจจับปริมาณออกซิเจนใหม่ เม่ือตก - หล่น 45
2. ปั๊มนำ้ มนั เชื้อเพลงิ ( Fuel Pump ) ไปยงั หวั ฉีด ลิน้ กนั กลบั ตวั ควบคุมแรงดนั ขดลวดอาร์เมเจอร์ เรือนปั๊ม กรองน้ามนั เช้ือเพลงิ สามารถกรองสิ่งสกปรกที่มี ใบพดั ไสก้ รองน้ามนั เช้ือเพลงิ ขนาดต้งั แต่ 10 ไมครอนข้ึนไป และยงั ถอด ตวั อยา่ งภาพอธิบายโครงสร้างภายในป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิง เปล่ยี นใหม่ได้ (เปลย่ี นทุกๆ 48,000 กม.) ติดต้งั อยภู่ ายในถงั น้ามนั เช้ือเพลิง ทาหน้าที่ดูดน้ามนั จากถงั ส่งไปยงั หวั ฉีดตลอดเวลา ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิงเป็นแบบใบพดั ( Turbine ) ทางานดว้ ยมอเตอร์แบบ DC. 12 V. จ่ายน้ามนั เช้ือเพลิง ดว้ ยอตั ราการไหลคงที่ แรงดนั 294 kPa (กิโลปาสคาล ) หรือ 3.0 Kgf / cm2 โดยท่อดูดของป๊ัมจะอยทู่ ่ีจุดต่าสุดของ ถงั น้ามนั เช้ือเพลิง และจะมีกรองน้ามนั เช้ือเพลิงเพอ่ื กรองส่ิงสกปรกที่มีขนาดต้งั แต่ 10 ไมครอนข้ึนไป โดยที่ปั๊ม น้ามนั เช้ือเพลิง จะถูกสงั่ งานโดยกล่อง ECM ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงจะจ่ายน้ามนั ดว้ ยอตั ราการไหลคงท่ีตลอดเวลา แตก่ ารทางานของเครื่องยนตต์ อ้ ง การปริมาณน้ามนั ไมค่ งท่ี ดงั น้นั จึงตอ้ งมีการควบคุมแรงดนั ในระบบโดยใชต้ วั ควบคุมแรงดนั ซ่ึงติดต้งั อยกู่ บั ปั๊ม น้ามนั เช้ือเพลิง ก่อนท่ีจะส่งไปยงั หวั ฉีดทาใหไ้ ม่มีน้ามนั ส่วนเกินไปยงั หวั ฉีด เพราะน้ามนั เช้ือเพลิงส่วนท่ีเกินน้ี จะถูกปล่อยกลบั ถงั น้ามนั เช้ือเพลิง แลว้ นากลบั มาใชใ้ หม่ ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงประกอบดว้ ย ขดลวดอาร์เมเจอร์, มอเตอร์, ชุดปั๊ม, ใบพดั , ห้องป๊ัมน้ามนั , ลิ้นกนั กลบั , ทอ่ ทางดูดและทอ่ ทางจ่าย ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิงจะทางานทุกคร้งั ที่เปิ ดสวิทชก์ ุญแจ โดยกล่อง ECM จะสง่ั ให้ ป๊ัมน้ามนั เช้ือเพลิงทางานเป็นเวลา 2 วินาทีแลว้ ตดั การทางานและจะทางานอีกคร้ังเมื่อมีสญั ญาณตาแหน่งเพลา ขอ้ เหว่ยี ง ส่งมาที่กล่อง ECM ปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงจะทางานตามสญั ญาณตาแหน่งเพลาขอ้ เหวย่ี ง และจะหยดุ โดยอตั โนมตั ิเม่ือไม่มี สญั ญาณตาแหน่งเพลาขอ้ เหว่ียง ส่งมาท่ีกล่อง ECM และแรงดนั น้ามนั ในระบบจะถูกรักษาไวโ้ ดยลิ้นกนั กลบั 46
3. หัวฉีด ( Injector ) ทาหนา้ ท่ีฉีดน้ามนั เช้ือเพลิงให้เป็นฝอยละออง เพอื่ ผสมกบั อากาศบริเวณทอ่ ไอดี ก่อนผา่ นวาลว์ ไอดี เขา้ สู่กระบอกสูบ หวั ฉีดที่ใชเ้ ป็นแบบไฟฟ้ าคือบงั คบั การเปิ ดของหวั ฉีดโดยโซลินอยดส์ ร้างสนามแม่เหลก็ ไฟฟ้ า เพอื่ ยกเขม็ หวั ฉีดข้ึน และปิ ดโดยใชแ้ รงดนั สปริง การทางาน น้ามนั เช้ือเพลิงจากถงั น้ามนั จะถูกสร้างแรงดนั ให้สูงข้ึนดว้ ยปั๊มน้ามนั เช้ือเพลิงควบคุมแรงดนั โดย ตวั ควบคุมแรงดนั แลว้ ส่งน้ามนั ไปยงั หวั ฉีด โดยผ่านตะแกรงกรองท่ีอยดู่ า้ นบน ลงไปยงั เขม็ หวั ฉีดที่ปลายดา้ นล่าง ของหวั ฉีด ซ่ึงในขณะที่หวั ฉีดยงั ไม่ทางาน เขม็ หวั ฉีดจะถูกสปริงดนั ให้แนบสนิทอยกู่ บั บ่าของเขม็ หวั ฉีด จงั หวะ น้ีจะไมม่ ีการฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง กล่อง ECM จะสง่ั ใหห้ วั ฉีดทางานโดยต่อวงจรไฟฟ้ าที่มาจากหวั ฉีดลงกราวนด์ ทาให้โซลินอยด์ เกิดสนามแมเ่ หลก็ ดูดพลงั เยอร์ท่ีอยตู่ รงกลางข้ึน เขม็ หวั ฉีดท่ีติดเป็ นชุดเดียวกบั พลงั เยอร์ก็จะยกตวั ข้ึนจากบ่า ของเขม็ หวั ฉีด ทาใหน้ ้ามนั เช้ือเพลิงที่มีแรงดนั สูง ( 294 kPa ) ถูกฉีดออกมาในลกั ษณะเป็ นฝอยละออง เพอ่ื ผสมกบั อากาศก่อนเขา้ สู่กระบอกสูบ ภาพแสดง การทางานของหวั ฉีดน้ามนั เช้ือเพลิง หมายเหตุ : ถา้ ต่อวงจรไฟฟ้ าของชุดหวั ฉีดลงกราวนดน์ าน จะทาใหเ้ ขม็ ของหวั ฉีดเปิ ดนาน ส่งผลให้ปริมาณ ของน้ามนั เช้ือเพลิงท่ีฉีดออกมามีปริมาณมากตามไปดว้ ย 47
Search