Facebook : ครูเอส ธนเสฏฐ์ [email protected]
1. เม่ือท่านได้ยนิ เสียงสัญญาณไซเรนของรถฉุกเฉิน ท่านต้องปฏบิ ัติอย่างไร ก. ทำเป็นไม่ไดย้ นิ ข. ใชส้ ญั ญำณแตรเพื่อเตือนผขู้ บั ขี่ท่ำนอ่ืน ค. กระพริบไฟสูงเพ่ือเตือนผขู้ บั ขี่ท่ำนอ่ืน ง. พยายามเบีย่ งรถของท่านมิให้ขวางทางรถฉุกเฉิน
2. รถเคร่ืองยนต์ดีเซลหากมสี ัญญาณเตือนในระบบ กรองดักน้า ท่านควรทาอย่างไร ก. ถอดกรองดงั น้ำออกมำทำควำมสะอำด ข. ใหช้ ่ำงเปลี่ยนกรองดกั น้ำ ค. ถ่ายน้าออกจากกรองดักนา้ ง. ดบั เครื่องยนตแ์ ละสตำร์ทเคร่ืองใหม่
3. การปลูกฝังจติ สานึกความปลอดภยั ในการใช้รถใช้ ถนนควรกระทาทบ่ี ุคคลในข้อใดมากทสี่ ุด ก. บุคคลทุกคน ข. คนขบั รถเท่ำน้นั ค. คนเดินเทำ้ เท่ำน้นั ง. ผโู้ ดยสำรเท่ำน้นั
4. รถต่อไปนีไ้ ด้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม เว้นแต่ค่าธรรมเนียมแผ่นป้ายทะเบียนรถ ก. รถบดถนนของเอกชน ข. รถบดของรัฐวสิ าหกจิ ค. รถแทรกเตอร์ของเอกชน ง. รถแทรกเตอร์ส่วนบุคคล
5. เครื่องหมายนี้ คือเคร่ืองหมายอะไร ก. ระวงั คนขำ้ มถนน ข. ระวงั เด็กนกั เรียน ค. ระวงั อนั ตรำย ง. ระวงั เครื่องบนิ บินตา่
6. เมื่อท่านขบั รถทม่ี นี า้ หนักบรรทุกมาก.ข้อใดถูกต้อง มากทส่ี ุด ก. ประสิทธิภาพของเบรกจะน้อยลง.เบรกยาวขนึ้ ข. ระบบกนั สะเทือนจะนุ่มนวลมำกข้ึน ค. ควนั ไอเสียจะมำกข้ึน ง. เคร่ืองยนตท์ ำงำนเตม็ ประสิทธิภำพ
7. อบุ ตั เิ หตุบนท้องถนนส่วนใหญ่เกดิ จากอะไร ก. รถ ข. ผู้ขบั ขี่ ค. ถนน ง. สิ่งแวดลอ้ ม
8. ข้อใดคือวธิ ีการสังเกตรอยรั่วซึมของนา้ มันหล่อล่ืน เครื่องยนต์ ก. สังเกตท่ีพืน้ ท่รี ถจอด และตามรอยต่อ หรือข้อต่อ เคร่ืองยนต์ ข. สงั เกตที่อำกำรเสียงดงั ของเครื่องยนต์ ค. สงั เกตไดจ้ ำกกำรดมกลิ่นน้ำมนั หล่อลื่นเคร่ืองยนต์ ง. สงั เกตจำกควำมร้อนที่ข้ึนสูงของเคร่ืองยนต์
9. การจอดรถผู้ขบั ขตี่ ้องจอดรถชิดขอบทางด้านซ้าย ของทางเดินรถโดยให้รถห่างจากขอบทางหรือไหล่ ทางเป็ นระยะเท่าใด ก. ไม่เกิน 20 เซนติเมตร ข. ไม่เกนิ 25 เซนตเิ มตร ค. ไม่เกิน 30 เซนติเมตร ง. ไม่เกิน 35 เซนติเมตร
10. เมื่อพบเครื่องหมายนี้ ผู้ขบั ขคี่ วรปฏิบัตอิ ย่างไร ก. ขบั รถใหช้ ำ้ ลง เพรำะทำงขำ้ งหนำ้ มีคนกำลงั ทำงำน ข. ขบั รถให้ช้าลง ระมดั ระวงั คนข้ามทางเพราะทางข้างหน้ามี ชุมชนซึ่งมคี นเดนิ ข้ามไปมาอยู่เสมอ ค. ขบั รถใหช้ ำ้ ลง เพรำะทำงขำ้ งหนำ้ มีเขตโรงเรียนมีเด็กเยอะ ง. ขบั รถใหช้ ำ้ ลง เพรำะทำงขำ้ งหนำ้ ใหร้ ะวงั เดก็ นกั เรียน
11. เคร่ืองหมายนี้ คือเคร่ืองหมายอะไร ก. ห้ามเลยี้ วขวาหรือกลบั รถ ข. ใหเ้ ล้ียวซำ้ ยหรือกลบั รถ ค. ใหเ้ ล้ียวขวำหรือกลบั รถ ง. หำ้ มเล้ียวซำ้ ยหรือกลบั รถ
12. ผู้ใดได้รับยกเว้นไม่ต้องสวมหมวกนิรภยั ขณะ โดยสารรถจักรยานยนต์ ก. ภิกษุ สามเณร ข. คนโดยสำร ค. เดก็ ง. คนขบั รถ
13. ข้อต่อไปนีข้ ้อใดถูกต้อง ก. รถที่มคี วามเร็วช้าหรือตา่ กว่ารถคนั อ่ืนต้องขบั ชิด ขอบทางเดนิ รถด้านซ้าย ข. เมื่อผขู้ บั ข่ีตอ้ งกำรจะเล้ียวรถตอ้ งใหส้ ญั ญำณก่อนที่ จะเล้ียวอยำ่ งนอ้ ย 60 เมตร ค. เมื่อผขู้ บั ข่ีตอ้ งกำรจะเล้ียวขวำใหย้ น่ื แขนขวำตรง ออกไปนอกรถเสมอไหล่และโบกมือข้ึนลงหลำยคร้ัง ง. ถูกทุกขอ้
14. กรณใี ดทผี่ ู้ขบั ขส่ี ามารถขบั รถในทางเดนิ รถ ด้านขวาหรือลา้ กง่ึ กลางของทางเดินรถได้ ก. ดำ้ นซำ้ ยของทำงเดินรถมีส่ิงกีดขวำง ข. เป็นทำงเดินรถทำงเดียว ค. ทำงเดินรถกวำ้ งไม่ถึง 6 เมตร ง. ถูกทุกข้อ
15. ถ้าเคร่ืองดับขณะกาลงั เคลื่อนท่ีออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏบิ ัตอิ ย่างไรเป็ นลาดบั แรก ก. ทาการเบรกทนั ทีเพ่ือไม่ให้รถไหล ข. เปล่ียนไปเขำ้ เกียร์วำ่ ง. ค. ติดเคร่ืองใหม่ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉิน
16. ด้วยสาเหตุใด ผู้ขบั ขจ่ี ะต้องหันหน้ามองไปทาง ด้านข้างก่อนทาการเปลย่ี นช่องจราจร ก. จะทำใหส้ ำมำรถเปล่ียนช่องจรำจรไดร้ วดเร็วมำกข้ึน ข. เพ่ือตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา ค. เพือ่ เปล่ียนช่องจรำจรในกรณีท่ีไม่ตอ้ งกำรเปิ ด สญั ญำณไฟเล้ียว ง. เพื่อใหส้ ำมำรถเห็นผคู้ นที่เดินอยบู่ ริเวณทำงเดินเทำ้
17. เคร่ืองหมายนี้ หมายความว่าอย่างไร ก. ห้ามจอดรถ เว้นแต่หยุดรับ-ส่งคนหรือสิ่งของช่ัวขณะ ข. จอดรถทิ้งไวเ้ พ่ือรอรับคนได้ ค. ทำงเดินรถประจำทำง ง. ที่จอดรถประจำทำง
18. สิ่งใดต่อไปนีม้ ีผลทาให้รถเปลืองนา้ มัน ก. ดอกยำงสึกหรอ ข. ขบั รถดว้ ยควำมเร็วคงที่ ค. ระยะกำรปรับเบรกปกติ ง. บรรทุกนา้ หนักเกนิ กว่าทกี่ าหนด
19. ข้อใดไม่ใช่ทางตามกฎหมายจราจร ก. ลำนที่ประชำชนใชใ้ นกำรจรำจร ข. ทำงส่วนบุคคลที่เจำ้ ของยนิ ยอมใหป้ ระชำชนใชใ้ น กำรจรำจร ค. ทางรถไฟ ง. สะพำน
20. ใบอนุญาตขบั รถสูญหายต้องแจ้งนายทะเบยี น ภายในกวี่ นั นับแต่วนั ทราบเหตุน้ัน ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 60 วนั ง. 90 วนั
21. เครื่องหมายหมายความว่าอย่างไร ก. ใหห้ ยดุ รับ-ส่งไดช้ วั่ ขณะภำยในกรอบเสน้ ทแยงน้ี ข. หำ้ มรถทุกชนิดขบั ผำ่ นกรอบเสน้ ทแยงน้ี ค. ห้ามหยดุ รถทุกชนิดในกรอบเส้นทแยงนี้ ง. หำ้ มแซงภำยในกรอบเสน้ ทแยงน้ี
22. เครื่องหมายนี้ หมายความอย่างไร ก. ใหเ้ ล้ียวซำ้ ย ข. ใหเ้ ล้ียวขวำ ค. ใหช้ ิดขวำ ง. ผู้ขบั ขต่ี ้องขบั รถผ่านไปทางด้านซ้ายของป้าย
23. กรณไี ม่มเี ส้นให้หยดุ รถและมเี จ้าหน้าทจ่ี ราจร ยืนปฏิบตั หิ น้าที่ ผู้ขบั ขตี่ ้องหยดุ รถห่างจาก เจ้าหน้าทไ่ี ม่น้อยกว่ากเี่ มตร ก. 1 เมตร ข. 3 เมตร ค. 2 เมตร ง. 4 เมตร
24. บริเวณใดห้ามแซง ก. ทำงตรง ข. ทำงที่ปลอดภยั ค. ทำงโล่ง ง. ทางโค้งรัศมีแคบ
25. ข้อใดไม่ควรปฏบิ ัตใิ นการขบั รถให้ถงึ จุดหมาย ปลายทางอย่างปลอดภัย ก. เร่งรีบขับขี่ เพ่ือให้ถงึ ปลายทางก่อนที่จะมืด ข. ทำควำมคุน้ เคยกบั รถท่ีจะขบั ข่ี ในกรณีที่เป็นรถที่ไม่ เคยขบั ข่ีมำก่อน ค. พกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอและไม่ด่ืมสุรำ ง. มีจิตสำนึกในกำรขบั ข่ีอยำ่ งรับผดิ ชอบ
26. รถทขี่ บั ด้วยความเร็วตา่ ต้องขบั อยู่ในข้อใด ก. ช่องกลำง ข. ช่องซ้ายสุด ค. ช่องขวำสุด ง. ช่องใดกไ็ ด้
27. เมื่อพบสัญญาณมือของเจ้าพนักงานยกแขนขวาต้งั ฉากและแขนซ้าย ย่ืนเสมอระดบั ไหล่ ผู้ขบั ขตี่ ้องปฏิบัตอิ ย่างไร ก. รถทม่ี าทางด้านหน้าและหลงั ต้องหยดุ รถ ข. รถท่ีมำทำงดำ้ นหนำ้ ของเจำ้ หนำ้ ที่ตอ้ งหยดุ รถ ค. รถที่มำทำงดำ้ นหลงั ของเจำ้ หนำ้ ท่ีตอ้ งหยดุ รถ ง. รถท้งั 2 ดำ้ นผำ่ นไปได้
28. ข้อใดทที่ าให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขนึ้ จงึ สามารถหยุดรถได้ ก. ควำมรวดเร็วในกำรตดั สินใจ ข. ควำมเร็วในกำรเหยยี บเบรก ค. นา้ หนักบรรทุกเพม่ิ มากขนึ้ ง. น้ำหนกั บรรทุกลดนอ้ ยลง
29. ข้อใดเป็ นสาเหตุของการเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ก. คนและรถเท่ำน้นั ข. คน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม ค. คนเท่ำน้นั ง. ถนนเท่ำน้นั
30. หลกั การขบั รถเข้าโค้งทถี่ ูกต้องควรปฏบิ ัตเิ ช่นไร ก. เพิม่ ควำมเร็วก่อนเขำ้ โคง้ .ลดควำมเร็วขณะออกจำกโคง้ ข. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง.เพม่ิ ความเร็วขณะออกจากโค้ง ค. ลดควำมเร็วก่อนเขำ้ โคง้ .ลดควำมเร็วขณะออกจำกโคง้ ง. เพมิ่ ควำมเร็วก่อนเขำ้ โคง้ .เพ่ิมควำมเร็วขณะออกจำกโคง้
31. ขณะขบั ขี่รถต้องเว้นระยะห่างรถคนั หน้าเท่าใด ก. ในระยะทป่ี ลอดภยั ข. 13 เมตร ค. 50 เมตร ง. 3 ช่วงตวั รถ
32. จากรูป หากท่านต้องการทจ่ี ะเลยี้ วซ้าย ท่านควร ระมดั ระวงั และปฏิบตั ิอย่างไร ก. ขบั ตำมรถคนั หนำ้ ใหช้ ิดและทำกำรเล้ียวทนั ที ข. เปิ ดสัญญาณไฟเลยี้ ว ชะลอรถ หยุดให้คนเดนิ ถนนข้ามทางก่อน ค. บีบแตรเพ่อื ใหค้ นเดินขำ้ มถนนดว้ ยควำมรวดเร็ว ง. เปิ ดสญั ญำณไฟฉุกเฉินเพ่ือเตือนรถดำ้ นหลงั
33. การใช้ไฟสูงทถ่ี ูกต้องและไม่เสียมารยาท ก. เปิ ดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางทม่ี ืด มากและไม่มีรถวงิ่ อยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา และปิ ดไฟสูงทนั ทที ี่มีรถ วง่ิ อยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา ข. เปิ ดไฟสูงแทนไฟส่องสวำ่ งเมื่อวง่ิ บนถนนต่ำงจงั หวดั ทไ่ี ม่มีไฟฟ้ำ ส่องสวำ่ งสองขำ้ งทำงและสำมำรถมองเห็นไฟทำ้ ยรถคนั หนำ้ ค. เปิ ดไฟสูงทุกคร้ังเม่ือวงิ่ เขำ้ ทำงโคง้ ที่มืดมำกและมีรถว่งิ อยดู่ ำ้ นหนำ้ หรือสวนทำงมำ ง. เปิ ดไฟสูงทุกคร้ังเมื่อวง่ิ บนถนนซ่ึงเป็นทำงข้ึนเนินหรือลงเนินท่ีไม่มี ไฟฟ้ำส่องสวำ่ งขำ้ งทำงและสำมำรถ มองเห็นไฟหนำ้ รถที่วง่ิ สวนทำงมำ
34. อณุ หภูมเิ ครื่องยนต์ทที่ างานปกตคิ วรอยู่เท่าไร ก. 60 – 70 องศำเซลเซียส ข. 50 -60 องศำเซลเซียส ค. 40-50 องศำเซลเซียส ง. 80 –95 องศาเซลเซียส
35. จำกภำพรถคนั ใดมีสิทธ์ิขบั ผำ่ นไปไดก้ ่อน ก. ท้งั รถ A และ รถ B ข. คนั ท่ีมำถึงทำงร่วมทำงแยกก่อน ค. รถคนั B ง. รถคนั A
36. การกระทาใดของผู้ขบั รถซึ่งเป็ นการกระทาทแ่ี สดงถงึ ความมี มารยาทและนา้ ใจให้แก่ผู้ใช้ถนนร่วมกนั ก. ขบั รถแซงคิวแทรกเขำ้ ตรงเชิงสะพำนหรือก่อนเขำ้ ซอย ข. ขบั รถบนไหลท่ ำงเพ่ือไปแทรกเขำ้ ดำ้ นหนำ้ ในช่องจรำจรปกติ ค. กลบั รถบนถนนที่มีช่องจรำจรสวนทำงกนั ในลกั ษณะกีดขวำง กำรจรำจร ง. ไม่หยุดรถบนเส้นทแยงสีเหลืองหรือบริเวณปากซอยและ เปิ ดทางให้รถในเส้นทางอ่ืนสามารถขับผ่านไปได้ในขณะท่ี รถท่านติดการจราจร
37. เม่ือพบสัญญาณมือของรถคนั หน้ายกขนึ้ ในแนว ระดับไหล่หมายความว่าอย่างไร ก. รถคนั หนำ้ ใหส้ ญั ญำณวำ่ ใหแ้ ซงได้ ข. รถคนั หน้าให้สัญญาณว่าจะเลยี้ วขวา ค. รถคนั หนำ้ ใหส้ ญั ญำณวำ่ กำลงั จะหยดุ รถ ง. รถคนั หนำ้ ใหส้ ญั ญำณวำ่ กำลงั จะเล้ียวซำ้ ย
38. ข้อใดเป็ นการปฏิบัตทิ ถ่ี ูกต้องตามหลกั การขบั รถอย่าง ปลอดภัย ก. ตรวจความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดนิ ทางทุกคร้ัง ข. ไม่จำเป็นใหส้ ญั ญำณไฟเล้ียวในกำรเปล่ียนช่องจรำจร ค. ในกำรกลบั รถไม่จำเป็นตอ้ งใหส้ ญั ญำณไฟเล้ียว ง. ในกำรขบั รถตรงผำ่ นทำงแยกควรใหส้ ญั ญำณไฟกะพริบ ฉุกเฉิน
39. นา้ มันเบรกควรเปลยี่ นเมื่อใด ก. ควรเปล่ียนทุก.3 เดือน ข. ควรเปล่ียนทุก.6 เดือน ค. ควรเปลยี่ นทุก.1 ปี ง. ควรเปล่ียนทุกคร้ังท่ีเปลี่ยนน้ำมนั เคร่ือง
40. กรณถี ูกเพกิ ถอนใบอนุญาตขบั รถมีสิทธอิ ุทธรณ์ ได้ภายในกวี่ นั ก. 45 วนั ข. 30 วนั ค. 15 วนั ง. 60 วนั
41. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของการเกดิ ควนั ไอเสียสีขาว ก. กรองอากาศตนั ข. แหวนลูกสูบหลวม ค. เติมน้ำมนั เคร่ืองมำกเกินไป ง. เครื่องยนตส์ ึกหรอมำก
42. เมื่อผู้ขบั ขพ่ี บเคร่ืองหมาย ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร ก. หยดุ รถทนั ที ข. ขบั รถให้ช้าลงและระวงั ถนนล่ืน ค. ขบั รถผำ่ นทำงคดเค้ียวดว้ ยควำมระมดั ระวงั ง. ขบั รถผำ่ นไดต้ ำมปกติ
43. การเลยี้ วรถไปทางด้านซ้ายผู้ขบั ขตี่ ้องปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ขบั รถในช่องทำงเดินรถสำหรับรถท่ีจะเล้ียวซำ้ ยก่อนถึงทำง เล้ียวไม่นอ้ ยกวำ่ 60 เมตร ข. ขบั รถในช่องทางเดนิ รถสาหรับรถทจ่ี ะเลยี้ วซ้ายก่อนถึงทางเลยี้ วไม่ น้อยกว่า 30 เมตร ค. ในกรณีที่มีช่องทำงเดินรถประจำทำงอยทู่ ำงดำ้ นซำ้ ยใหผ้ ขู้ บั ขี่รถใน ช่องทำงเดินรถประจำทำงก่อนถึงทำงเล้ียวไม่นอ้ ยกวำ่ 30 เมตร ง. ในกรณีท่ีมีช่องทำงเดินรถประจำทำงอยทู่ ำงดำ้ นซำ้ ยใหผ้ ขู้ บั ข่ีขบั รถ ในช่องทำงเดินรถประจำทำงก่อนถึงทำงเล้ียวไม่นอ้ ยกวำ่ 60 เมตร
44. จากรูป หากรถคนั สีแดง.และรถคนั สีเหลือง.ต้องการจะเลยี้ ว ขวาในเวลาเดยี วกนั รถคนั ใดจะมสี ิทธิไปก่อน ก. สามารถไปได้ในเวลาเดยี วกนั ข. รถคนั สีแดง ค. รถคนั สีเหลือง ง. รถที่มีควำมเร็วสูงกวำ่
45. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. ไม่ควรเติมนา้ มนั หล่อล่ืนลงไปผสมในนา้ มนั เชื้อเพลงิ ข. กำรเติมน้ำมนั ควรเติมในช่วงกลำงวนั ค. เรำไม่สำมำรถเติมน้ำมนั คำ่ ออกเทน 95 แทนออกเทน 91 ได้ ง. น้ำมนั ที่แพงคือน้ำมนั ที่ดีท่ีสุด
46. ไดชาร์จทาหน้าทอ่ี ะไร ก. ทำหนำ้ ท่ีสตำร์ทเคร่ืองยนต์ ข. ทาหน้าทผี่ ลติ ไฟฟ้าในรถยนต์ ค. ทำหนำ้ ท่ีดบั เครื่องยนต์ ง. ทำหนำ้ ที่เช็คอุณหภมู ิควำมร้อนในรถยนต์
47. จากรูป ในขณะสัญญาณไฟเขยี ว หากท่านต้องการจะ ขับตรงไป แต่ท่านได้ยนิ สัญญาณรถพยาบาลมาทางขวามือ ของท่าน ท่านควร ก. หยดุ รอรถพยาบาลไปก่อน ข. รีบๆ ขบั ผำ่ นไปจะไดไ้ ม่ขวำงทำงรถพยำบำล ค. ใชส้ ญั ญำณแตรเพ่ือเตือนรถพยำบำลใหร้ ู้วำ่ ท่ำนจะไปก่อน ง. ขบั ผำ่ นไปตำมปกติ
Search