Page |1 ใบความรูเร่อื ง วสั ดุในชวี ิตประจาํ วนั การใชว ัสดใุ นชีวติ ประจําวนั วัสดุ คือ สิง่ ทีน่ าํ มาใชท าํ สิ่งของเครื่องใชต างๆ วัสดุมีหลายชนิด วสั ดุแตละชนิดมสี มบตั บิ าง ประการเหมอื นกัน และอาจมีสมบตั บิ างประการแตกตางกัน สิ่งของเครอ่ื งใชต า งๆ ทีเ่ ราใชอ ยใู นชวี ติ ประจาํ วนั เชน กระเปา เสือ้ ผา โตะ เกาอ้ี กระทะ หมอ หงุ ขา ว เปน ตน ส่ิงของตา งๆ เหลา นที้ ํามาจากวสั ดหุ ลายชนิด บางอยา งทาํ จากวสั ดุชนดิ เดยี ว เชน ยางลบทํามาจากยาง บางอยา งทาํ มาจากวัสดหุ ลายชนดิ เชน กระทะ ทํามาจากวสั ดุ ๒ ชนิด คือ โลหะกบั พลาสติก เปน ตน ตวั อยา งเคร่อื งใชใ นชวี ติ ประจําวัน
Page |2 กจิ กรรมท่ี ๑ สํารวจสิ่งของในบา นของตนเองวามสี ่ิงใดทท่ี ําจากวัสดุทกี่ ําหนดบาง แลว บนั ทึกผลการ สาํ รวจลงในตาราง ชนดิ ของวสั ดุ ส่ิงของที่สํารวจพบ พลาสตกิ ......................................................................................................................... แกว ...................................................................................................................... ไม ......................................................................................................................... ...................................................................................................................... เซรามกิ (ดินเผา กระเบื้อง) ......................................................................................................................... ...................................................................................................................... โลหะ ......................................................................................................................... ...................................................................................................................... ......................................................................................................................... ...................................................................................................................... วสั ดุทีน่ ํามาใชประโยชนน ้ัน มีทง้ั ท่ีทาํ จากธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห วสั ดธุ รรมชาติ ไดจากส่ิงท่อี ยใู นธรรมชาติทง้ั จากสง่ิ มชี ีวิต และสิ่งไมม ีชวี ิต เชน ไม ยาง ดนิ เหนียว ขนสตั ว หนงั สัตว หิน กรวด ทราย เปนตน วัสดุสงั เคราะห เกิดจากกระบวนการทางเคมี เชน พลาสติก โฟม ยางสงั เคราะห เสนใย สังเคราะห กระเบื้องยาง เปนตน สมบตั ิของวสั ดุ การนาํ ความรอ น ความยืดหยนุ การนําไฟฟา ความแข็ง ความหนาแนน ความเหนยี ว
Page |3 การนาํ ความรอน หมายถึง การถายโอนความรอนผา นตวั กลางทเ่ี ปน ของแข็งจากตาํ แหนง ทม่ี อี ุณหภูมสิ งู ไปสูตาํ แหนง ท่ีมอี ุณหภูมิตาํ่ กวา โดยวัสดตุ ัวกลางไมไดเคลื่อนที่ สมบตั กิ ารนาํ ความรอนของวสั ดุ นําความรอน ไมนาํ ความรอน วัสดุท่ีความรอนผานไดดี วสั ดุทีค่ วามรอนผา นได ไม ดี เรียกวา ตัวนําความรอน หรือผา นไมไ ด เรียกวา ฉนวน ความรอน ตัวอยางวสั ดุ ตัวอยา งวสั ดุ เงิน เหลก็ ผา ไม ทองแดง อะลมู ิเนียม ยาง กระเบอื้ ง ทองเหลือง พลาสติก ประโยชน ประโยชน ใชเ ปนสวนประกอบของ ภาชนะหุงตม ในสวนท่ไี ม ใชท ําภาชนะหุงตม ในสว นท่ี ตอ งการใหม ีความรอ น ตอ งการใหร อนเร็ว
Page |4 ความยืดหยนุ หมายถึง ลักษณะที่วัสดุน้ันเมือ่ ไดรับแรงกระทํา รปู รางหรอื ขนาดของวสั ดุ จะเปลยี่ นไป และเม่อื หยุดออกแรงกระทํา วสั ดนุ ้ันสามารถคืนสูร ปู รางและขนาดเดิมได กิจกรรมที่ ๒ เรมิ่ ตน ความยาว (ซม.) หลงั จากปลอ ย ขณะดึง ชนิดของวัสดุ ลกู โปง .................................. .................................. .................................. พลาสติก .................................. .................................. .................................. ยางยืด .................................. .................................. .................................. การนาํ ไฟฟา หมายถงึ สมบัติท่ยี อมใหก ระแสไฟฟาสามารถถายโอนผา นวัสดุชนิดนั้นได วัสดุตา งชนิดกนั มสี มบัติการนาํ ไฟฟาแตกตา งกัน วัสดทุ ีย่ อมใหกระแสไฟฟา ไหลผานไดด ี เรยี กวา ตัวนําไฟฟา และวัสดุทีย่ อมใหกระแสไฟฟา ไหลผา นไดไมด ีหรอื ไมย อมใหกระแสไฟฟา ผานได เรยี กวา ฉนวนไฟฟา - ตัวนาํ ไฟฟา ไดแก วสั ดทุ เ่ี ปน โลหะตา งๆ เชน เงนิ ทองแดง อะลมู ิเนยี ม จึงนาํ วัสดุ เหลา นม้ี าทาํ อปุ กรณเ ครอื่ งใชไฟฟา เชน นาํ ทองแดงมาทําสายไฟฟา เปน ตน - ฉนวนไฟฟา ไดแ ก วัสดุท่ไี มใชโ ลหะ เชน ไม พลาสตกิ ยาง แกว จึงนําวสั ดเุ หลา นมี้ าทํา อุปกรณปอ งกนั ไฟฟาดูด เชน นําพลาสตกิ มาทาํ ทห่ี ุม ปลกั๊ ไฟฟา เปต น กิจกรรมท่ี ๓ วัสดทุ ีใ่ ชท าํ วตั ถุ นําไฟฟา ไมน าํ ไฟฟา วตั ถุ .................................... ....................................................................... ....................................................................... ลกู กญุ แจ .................................... ....................................................................... ....................................................................... ยางลบ ....................................................................... ....................................................................... ชอนโลหะ .................................... ....................................................................... ....................................................................... ดินสอ .................................... ....................................................................... ....................................................................... คลปิ หนีบกระดาษ .................................... ....................................................................... ....................................................................... เงินเหรยี ญ ....................................................................... ....................................................................... ปลอกปากกา ....................................................................... .......................................................................
Page |5 ความแขง็ ของวัสดุ หมายถึง ความทนทานตอ การตดั และขูดขีด วสั ดทุ มี่ ีความแข็งมาก จะสามารถทนทานตอ การขดี ขวนไดม าก และเมื่อถกู ขดี ขวนจะไมเ กดิ รอยบนวัสดุ กิจกรรมท่ี ๔ การทดลอง ผลการสังเกต ๑. ใชก อ นยางลบถูบนไมบ รรทดั ๒. ใชก อ นยางลบถบู นฝาจีบ ..................................... .................................................... ๓. ใชขอบไมบ รรทัดขดู กอนยางลบ ..................................... .................................................... ๔. ใชข อบไมบ รรทดั ขูดบนฝาจบี ..................................... .................................................... ๕. ใชฝ าจบี ขูดบนไมบรรทัด ..................................... .................................................... ๖. ใชฝาจีบขดู บนกอนยางลบ ..................................... .................................................... ..................................... .................................................... ความหนาแนน หมายถึง ปรมิ าณของมวลสารทมี่ อี ยใู น ๑ หนว ยปรมิ าตร มหี นวยเปน กรมั /ลูกบาศกเซนตเิ มตร หรือ กิโลกรมั /ลูกบาศกเ มตร ความหนาแนน เปน สมบัตปิ ระการหน่ึงของวัตถุ ซงึ่ ทาํ ใหวตั ถแุ ตละชนิดทมี่ ขี นาดเทา กันมี มวลตางกนั เพราะเน้อื ของสารมีความหนาแนนไมเ ทากนั ตัวอยา ง ** ฟองนํา้ และดินน้าํ มนั มีขนาดเทากัน แตฟ องน้ํามคี วามหนาแนนนอ ยกวา เพราะเน้ือมีรพู รนุ สวนดนิ น้าํ มนั มีความหนาแนน มากกวา เพราะเนือ้ มีความแนน **
Page |6 การหาคา ความหนาแนน ของวสั ดุ = มวล มวล มหี นวย เชน กรมั ความหนาแนน ปรมิ าตร ปรมิ าตร มหี นว ย เชน ลกู บาศกเซนติเมตร การหาคา มวลและปรมิ าตรของวตั ถุ การหาคามวลของวัตถุ - ทําไดโดยนําวตั ถุไปช่ังเพื่อหาคา มวล คา ของมวลมหี นวยเปน กรัม/กิโลกรัม การหาปรมิ าตรของของแขง็ - การหาปรมิ าตรของของแขง็ ทาํ ไดโดยใชวิธีแทนทน่ี าํ้ - ถา ของแขง็ มีรูปทรงสเ่ี หล่ยี มมุมฉาก หาปริมาตรไดโดยใชส ูตร ดังนี้ กวา ง x ยาว x สูง = ปริมาตรของวตั ถุ กิจกรรมท่ี ๕ ๑. ๒. กอนอฐิ มีมวล ๕๐ กรัม แผนไมม มี วล ๒๔ กรัม มีปริมาตร...............................ลบ.ซม. มีปรมิ าตร...............................ลบ.ซม. ความหนาแนนของกอ นอิฐมีคา ความหนาแนน ของแผน ไมม คี า เทา กบั เทา กับ................................................ ................................................ กรมั /ลูกบาศกเซนติเมตร กรัม/ลกู บาศกเซนตเิ มตร
Page |7 ความเหนียว หมายถงึ ความสามารถในการรับนาํ้ หนกั ของวสั ดุ พิจารณาจากการดึงยดื ใหเ ปน เสน หือ การตแี ผใหเ ปนแผน บางได กจิ กรรมท่ี ๖ เสน เอ็น การเปลีย่ นแปลงของวัสดุ เชือกฝาง เสนดา ย จาํ นวนถงุ ทราย ................................... ................................... ................................... ๑ ๒ ................................... ................................... ................................... ๓ ................................... ................................... ................................... กจิ กรรมที่ ๗ ชนดิ ของวัสดุ ส่ิงของ ไม โลหะ แกว ผา พลาสติก ยาง อน่ื ๆ ๑. ลกู กุญแจ ๒. เส้อื กันฝน ๓. ยางลบ ๔. เงนิ เหรียญ ๕. หมอ ๖. ลูกบอล ๗. หนงั สือ ๘. ตูเส้ือผา ๙. ลกู โปง ๑๐. แกว นาํ้
Page |8 การเลือกใชว สั ดุ เราทราบมาแลว วา วัสดุแตละชนิดอาจมีสมบัตบิ างประการเหมอื นกัน และมีสมบตั เิ ฉพาะ แตกตา งกัน การนาํ วัสดมุ าใชผ ลิตเปนสิ่งของตา งๆ จงึ ตอ งรจู กั เลอื กใชว ัสดุทมี่ สี มบตั ิตามทผี่ ูผ ลติ สง่ิ ของตอ งการ เพ่อื ใหไดสงิ่ ของเคร่อื งใชที่มคี ณุ ภาพ วสั ดตุ า งๆ ทค่ี นนาํ มาใชประโยชนนั้น มที ้ังวสั ดทุ ่ที าํ จากธรรมชาติ และวสั ดสุ งั เคราะหซ ึ่ง อาจนํามาใชป ระโยชนโ ดยตรงหรือนาํ มาแปรรปู เพอื่ ใหเ หมาะสมกับการใชงาน ตวั อยาง การนําวัสดุตางๆ มาใชง าน ชนิดของวสั ดุ สมบตั ิของวสั ดุ การใชประโยชน - นํามาทําของเลน เด็ก ยางรัดของ ยาง ยาง มคี วามยืดหยุนสงู รถยนต - ใชท าํ วัสดกุ อสราง อปุ กรณแ ละ โลหะ เชน เหล็ก มีความแข็ง ทนทาน รีดเปน เสน เครอื่ งมือชา ง - ใชท ํามีด เสน ลวด มุง ลวด เหล็กกลา ตีเปนแผนได - ใชป น ภาชนะตา งๆ เชน โอง กระถาง ถว ยชาม ดนิ เหนยี ว มีความเหนียว - ใชท าํ ภาชนะหุงตม เชน กระทะ หมอ โลหะ เชน นาํ ความรอนไดดี - ใชทําอุปกรณไฟฟา เชน สายไฟ อะลมู เิ นียม นําไฟฟา ไดด ี - ใชท าํ หูหมอ หกู ระทะ ดา มทัพพี โลหะ เชน - ใชท าํ สวนประกอบของเครอ่ื งใชไฟฟา ทองแดง ไมนาํ ความรอน ปอ งกนั ไฟฟาดูด เชน ใชห ุมสายไฟ สวิตช ไมน าํ ไฟฟา ไฟ พลาสตกิ
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: