คำนำ การปฏิบัติงานของกลุ่มเกี่ยวข้องกับ กฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน ประกอบกบั กฎ ระเบยี บ หลักเกณฑ์ มีการปรับปรุงเปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ เพอื่ ใหม้ ี แนวปฏิบตั ิในเรอ่ื งต่างๆ ที่ ชัดเจน และเจ้าหน้าที่สามารถปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น จึงได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานของงานธุรการ เพื่อเป็น แนวทางในการปฏิบัติงาน และสามารถปฏิบัติงานแทนกันได้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบไม่อยู่ หวังเป็น อย่างยิ่งว่าคู่มือการปฏิบัติงานนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับนำไปใช้ ในการปฏิบัติงานให้เป็นไป อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ถกู ต้องตามหลกั ธรรมาภิบาลต่อไป นางรติมา ขมินทกลู
1. ชอ่ื งาน : งานรบั –สง่ หนังสือราชการ 2. ขอบเขตของงาน งานธรุ การเปน็ งานทีเ่ กย่ี วข้องกับเอกสารหนังสอื ราชการ การรบั -ส่ง ร่างหนังสอื โตต้ อบ การบนั ทึกการประชุม และงานด้านบริการ ติดต่อประสานงานกบั หนว่ ยงานเดยี วกัน หรอื หน่วยงาน ทเี่ กี่ยวข้องเพ่ือใหก้ ารปฏิบัติงานเปน็ ไปด้วยความราบร่นื ให้บริการขอ้ มลู แก่ผมู้ าตดิ ต่อราชการ เพอื่ ให้ได้รบั ข้อมูลท่ีจะนำไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป 3. คำจำกัดความ 3.1 เจา้ หน้าท่ี หมายถึง เจ้าพนักงานธรุ การ 3.2 สำนักงาน หมายถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจติ ร เขต 1 3.3 ผ้บู ริหาร หมายถงึ ผู้อานวยการสำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษา รองผอู้ านวยการสำนักงาน เขตพน้ื ท่ีการศึกษา และผูอ้ ำนวยการกลมุ่ 3.4 เอกสารลบั หมายถึง เอกสารท่ีไมส่ ามารถเปิดเผยได้ 3.5 เอกสาร หมายถึง เอกสาร พสั ดไุ ปรษณีย์ และระบบ 4. ขนั้ ตอนการปฏิบัตงิ าน 4.1 การลงทะเบียนรับหนงั สือ ดว้ ยระบบเอกสารและเว็บไซต์ 4.1.1 รบั หนงั สือราชการจากกลมุ่ อำนวยการ ตรวจสอบความถกู ต้องของหนังสอื ราชการ/ เอกสารกรณไี ม่ถูกตอ้ ง ส่งคนื กลุม่ อำนวยการ 4.1.2 เข้าเวบ็ สพป.พจ.1 http://phichit1.go.th/ 4.1.2 ใส่ชื่อผเู้ ข้าใช้ และรหัสผา่ น คลกิ เขา้ ส่รู ะบบ 4.1.3 คลิกลงทะเบยี นรบั แล้วกรอกรายละเอยี ดของหนังสือลงในชอ่ งว่าง 4.1.4 คลกิ บนั ทกึ ขอ้ มลู (ระบบจะออกเลขลงรับให้) 4.1.5 ประทบั ตราลงรบั เสนอเร่อื งเข้าใหม่ให้ผอู้ ำนวยการกลุ่ม วเิ คราะหเ์ น้ือหาเพ่ือจำแนก ประเภทผู้รับผิดชอบ 4.1.6 บันทึกรายการแจกหนงั สือให้ผู้รบั ผิดชอบเรอ่ื ง 4.1.7 จดั เกบ็ ทะเบียนรับหนังสือราชการในแฟม้ รับหนงั สือ 4.2 การตรวจสอบหนงั สือเข้าใหม่/ส่งหนังสือราชการ ระบบ Amss 4.2.1 เขา้ เวบ็ สพป.พจ.1 http://phichit1.go.th/ 4.2.2 ใส่ชอ่ื ผูเ้ ข้าใช้ และรหัสผา่ น คลิกเขา้ สู่ระบบ 4.2.3 คลกิ เลอื กระบบรับ - สง่ หนงั สอื 4.2.4 เลือกตรวจสอบหนงั สือเข้าใหม่ หรือส่งหนังสือใหม่ กรณเี ลือกตรวจสอบหนังสอื เขา้ ใหม่ ด้วยระบบ Amss 1) คลิกตรวจสอบหนังสือเขา้ ใหม่ 2) คลกิ เปดิ ไฟลเ์ รื่องเข้าใหม่ และส่งั Print 3) เมอื่ เปิดไฟล์ครบทุกเรอ่ื งแล้วใหค้ ลกิ ลงทะเบียนรับ 4) ประทบั ตรารับหนงั สือแล้วแยกให้ผู้ปฏิบตั ิ
กรณเี ลือกสง่ หนงั สอื ใหม่ ดว้ ยระบบ Amss 1) คลกิ สง่ หนงั สือใหม่ 2) ระบบจะข้ึนรายการให้กรอกรายละเอียดการส่งหนังสือราชการแลว้ คลกิ แนบไฟล์ ท่จี ะส่ง 3) เลือกโรงเรยี น/หน่วยงานที่จะสง่ หนังสือ 4) คลกิ ส่งหนงั สือราชการ 4.3 การออกเลขทะเบียนส่ง/ทะเบยี นสมุดคำสั่ง/ทะเบียนหนังสือรับรอง 4.3.1 เขา้ เว็บ สพป.พจ.1 http://phichit1.go.th/ 4.3.2 คลกิ เลอื กที่ สมุดคำส่ัง หนงั สือส่ง หนังสือรบั รอง 4.3.3 ใสช่ อื่ ผู้เข้าใช้ และรหสั ผา่ น คลกิ เลือก ทะเบียนหนงั สือสง่ หรอื ทะเบยี นคำส่งั (เลือกอย่างใดอย่างหนง่ึ ) 4.3.4 คลิกเขา้ สรู่ ะบบ 4.3.5 กรอกรายละเอยี ดลงในชอ่ งว่างแล้วคลกิ บนั ทึก 4.3.6 ระบบจะออกเลขหนงั สือให้ 4.4 การสง่ หนงั สือราชการ 4.4.1 เจา้ หนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบเรื่อง นำหนังสอื ส่ง สง่ งานธรุ การกลมุ่ พร้อมรายละเอียดท่จี ะ นำสง่ พร้อมหนงั สอื ข้อมลู สถานที่ปลายทางทร่ี ับ 4.4.2 เจา้ หนา้ ท่ธี รุ การตรวจสอบความถกู ต้องครบถว้ น ประเภทหนงั สือ ช้ันความเรว็ ของ หนังสอื ราชการทจ่ี ะสง่ ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วน ประเภทหนงั สอื ช้นั ความเรว็ ของหนงั สือราชการ ที่จะส่ง 4.4.3 เจ้าหนา้ ท่ธี ุรการนำหนงั สือส่ง ดำเนนิ การสง่ เรื่องออกตามที่กลุ่มทำรายละเอยี ด 5. ขั้นตอนการปฏิบตั ิงาน 5.1 การลงทะเบียนรบั หนังสือ ดว้ ยระบบเอกสารและเว็บไซต์ สพป.พจ.1 http://phichit1.go.th/ 5.1.1 คลิกทะเบยี นหนงั สอื รบั ใสช่ อ่ื ผเู้ ข้าใช้ และรหัสผ่าน 5.1.2 รบั หนงั สือราชการจากกลมุ่ อำนวยการ 5.1.3 ลงรับในระบบ 5.1.4 ลงทะเบียนรับ และกรอกรายละเอียดหนงั สือราชการท่รี ับ 5.1.5 บนั ทกึ ข้อมูล 5.1.6 บนั ทึกรายการแจกหนงั สือให้ผรู้ บั ผิดชอบเร่อื ง 5.1.7 จดั เก็บทะเบยี นรบั หนังสือราชการในแฟ้มรับหนงั สือ 5.2 การตรวจสอบหนังสอื เข้าใหม่/สง่ หนังสือราชการ ระบบ สพป.พจ.1 เข้าเวบ็ http://phichit1.go.th/ คลิกท่ี Amss เลือก 5.2.1 ใสช่ ือ่ ผู้เข้าใช้และรหัสผ่าน คลกิ เข้าสู่ระบบ 5.2.2 เลือกตรวจสอบหนังสือเข้าใหม่ หรือส่งหนังสือใหม่ 5.2.3 กรณีเลอื กตรวจสอบหนงั สอื เขา้ ใหม่ คลกิ เปิดไฟล์เร่อื งเขา้ ใหม่ และสง่ั Print ให้ครบ ทุกเร่อื ง
5.2.4 ลงทะเบยี นรบั และประทบั ตรารับหนังสือแลว้ แยกให้ผูป้ ฏิบัติ 5.3 การออกเลขทะเบียนส่ง/ทะเบยี นสมดุ คาส่งั /ทะเบียนหนังสือรับรอง ด้วยระบบAmss 5.3.1 เข้าเวบ็ สพป.พจ1 http://phichit1.go.th/ 5.3.2 ใส่ช่ือผ้เู ขา้ ใช้และรหสั ผ่าน คลกิ เข้าส่รู ะบบ 5.3.3 คลิกเลือกท่ี ทะเบียนคำสัง่ ทะเบยี นหนังสือส่ง ทะเบียนหนังสอื รับรอง 5.3.4 เลือกจะออกคำสัง่ /ออกเลขหนงั สอื นำสง่ / 5.3.5 คลกิ เข้าสรู่ ะบบ กรอกรายละเอียด ลงในช่องวา่ งแล้วคลิกบันทึก 5.3.6 ระบบจะออกเลขคำสั่ง/ออกเลขหนังสือนำสง่ / 5.4 การสง่ หนงั สือราชการ 5.4.1เจ้าหนา้ ทรี่ ับผิดชอบเรือ่ ง นำหนังสือสง่ สง่ งานธุรการกลมุ่ พร้อมรายละเอียดทีจ่ ะนำสง่ พร้อมหนังสอื ข้อมูลสถานท่ีปลายทางท่ีรับ 5.4.2เจา้ หนา้ ทธ่ี รุ การตรวจสอบความถกู ต้องครบถ้วน ประเภทหนงั สือ ชน้ั ความเรว็ ของ หนังสือราชการทจ่ี ะสง่ 5.4.3เจ้าหน้าที่ธรุ การนำหนังสอื ส่ง ดำเนินการสง่ เร่ืองออกตามทีก่ ลุ่มทำรายละเอียด 6.การเตรยี มการประชุมภายในกลุ่มงานบรหิ ารงานบุคคล 6.1 การเตรยี มสถานท่ี 7.งานจัดความรู้ภายในกลุ่มบริหารงานบุคคล 7.1 แจ้งเวียนการเข้าร่วมทำกิจกรรมของจังหวัดและสพป.พจิ ิตร เขต1 8.การลาออกจากราชการของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทุกสายงาน ข้ันตอนการปฏบิ ัติงาน 8.1. ผู้ประสงค์ขอลาออกจากราชการ ย่ืนหนังสือขอลาออกจากราชการ ต่อผู้บังคับบัญชา โดยใหย้ น่ื ล่วงหนา้ ก่อนวนั ลาออกไม่น้อยกวา่ 30 วัน กรณียื่นล่วงหนา้ นอ้ ยกวา่ 30 วนั หากผู้มีอำนาจอนุญาตการ ลาออก (ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53) เห็นวา่ มีเหตผุ ลและความจำ เปน็ จะอนุญาตเปน็ ลายลักษณ์อักษรให้ย่นื หนงั สือขอลาออกจากราชการนอ้ ยกวา่ 30 วนั ก็ได้ 8.2. หน่วยงาน/สถานศึกษา รบั เรือ่ งการขอลาออกจากราชการ 8.3. สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษารับเร่ืองการขอลาออกจากราชการ ตรวจสอบหนงั สอื ขอลาออกจากราชการ ย่นื ล่วงหน้ากอ่ นวันลาออกตามเกณฑน์ ้อยกวา่ 30 วันหรอื ไม่ 8. 4. เจ้าหน้าท่ดี ำเนนิ การตรวจสอบขอ้ มลู ประกอบการน าเสนอผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ที่ การศึกษา 8.4.1 กรณีดำเนนิ การทางวนิ ัย 8.4.2 กรณกี ารลาศกึ ษาต่อ/ชดใชท้ ุน 8.4.3 การเป็น/ไมเ่ ปน็ สมาชิก ก.บ.ข. 8.5. เสนอผู้มอี ำนาจตามมาตรา 53 พิจารณาอนญุ าต/ไม่อนุญาตใหล้ าออกจากราชการ 8.5.1 กรณอี นุญาตให้ลาออก ผู้มอี ำนาจตามมาตรา 53 มคี ำสัง่ อนญุ าตใหล้ าออกจากราชการ 8.5.2 กรณียบั ยั้งการอนญุ าตใหล้ าออก ผ้มู ีอำนาจการลาออกมคี ำสั่งยบั ย้ังการอนญุ าตให้ ลาออกเปน็ ลายลักษณอ์ ักษรให้เสร็จสนิ้ ก่อนวนั ขอลาออก
9. แจง้ ใหผ้ ูข้ อลาออกจากราชการทราบก่อนวนั ขอลาออกและหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง แบบฟอร์มที่ใช้ 1. หนงั สือขอลาออกจากราชการ 2. สำเนาทะเบียนประวัติ ก.พ.7/ ก.ค.ศ.16 3. ใบรบั รองแพทย์/ใบตรวจโรคของแพทย์ตามแบบราชการทีร่ ะบุว่าเป็นโรคอะไร ในกรณลี าออกจาก ราชการเพราะสาเหตกุ ารเจบ็ ปว่ ย เอกสาร/หลกั ฐานอา้ งอิง 1. พระราชบัญญัติบำเหนจ็ ขา้ ราชการ พ.ศ.2494 และทแี่ ก้ไขเพิม่ เติม 2. พระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญขา้ ราชการ พ.ศ.2539 และทีแ่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ 3. พระราชบัญญัติระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 และที่แก้ไข เพ่ิมเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 มาตรา 53 มาตรา 107 มาตรา 108 มาตรา 133 4. ระเบียบ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการลาออกจากราชการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2548 5. คำสง่ั หวั หนา้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 ลงวนั ท่ี 3 เมษายน 2560 เรื่องการปฏิรปู การศึกษาในภมู ิภาคของกระทรวงศกึ ษาธิการ (ข้อ 8 (1) และข้อ 13) หมายเหตุ ตามระเบยี บ ก.ค.ศ.วา่ ด้วยการลาออกจากราชการของข้าราชการครแู ละบุคลากร ทางการศกึ ษา พ.ศ.2548 1. ให้ย่นื หนังสอื ขอลาออกจากราชการตอ่ ผู้บังคบั บัญชา ตามมาตรา 108 โดยใหย้ นื่ ลว่ งหน้าก่อนวนั ลาออกไมน่ ้อยกวา่ 30 วัน เว้นแตใ่ นกรณีที่มเี หตุผลความจำเปน็ เป็นพิเศษหรือกรณีลาออก เพอื่ ดำรงตำแหน่ง ทางการเมอื งหรือเพ่อื สมัครรับเลอื กตัง้ 2. กรณที ่ผี ู้มีอำนาจอนุญาตการลาออกจะอนญุ าตให้ย่นื ล่างหน้ากอ่ นวนั ขอลาออก นอ้ ยกวา่ 30 วัน ใหม้ ีคำสั่งอนุญาตเปน็ ลายลักษณ์อักษร ก่อนวันขอลาออก พรอ้ มท้งั มีคำสัง่ อนุญาตให้ลาออก จากราชการได้ 3. ถา้ ยืน่ หนังสือขอลาออกจากราชการก่อนล่างหน้าขอวันลาออกน้อยกวา่ 30 วัน โดยไม่ได้ รบั อนญุ าตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้มีอำนาจอนญุ าตการลาออก หรือยื่นหนงั สือขอลาออกจากราชการ โดย มไิ ด้ระบุวนั ขอลาออกให้ถือวันถดั จากวนั ครบกำหนด 30 วัน นบั แต่วนั ยน่ื เปน็ วันขอลาออก 4. กรณีลาออกเพราะป่วย ใหแ้ นบใบตรวจโรคของแพทย์ตามแบบราชการเสนอไปด้วยวา่ ปว่ ย
9. การรายงานข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา / ลกู จา้ งถงึ แกก่ รรม ข้ันตอนการปฏบิ ตั ิงาน 9.1 กรณมี ขี ้าราชการลาออกจากราชการหรอื ถงึ แก่กรรม ดำเนินการตามข้ันตอนดงั นี้กรณีลาออกจาก ราชการ 1. เม่อื ได้รบั คำส่งั ลาออกจากราชการตรวจสอบความถูกต้อง 2. ประสานขอทราบวนั ลาหยุดราชการทงั้ ปี ในปีทล่ี าออกจากราชการแล้วน ามากรอกวนั ลา ในแฟม้ ประวตั ิ 3. กรอกรายละเอยี ดใน ก.ค.ศ.16 รายการข้อ 12 ตำแหน่งและอัตราเงินเดือนต่อจาก รายการสุดทา้ ย โดยเริ่มกรอก วนั เดอื น ปี ทีล่ าออกจากราชการ ในชอ่ งตำแหนง่ และอัตราเงินเดือน กรอก ตำแหน่งปจั จบุ ัน (ลาออก จากราชการ) แล้วกรอกชอ่ งเอกสารอ้างอิงจะกรอกข้อมูลตามคำสัง่ ลาออก 4. โอนฐานขอ้ มลู บุคลากรภาครฐั ให้นายทะเบียนบำเหนจ็ บำนาญ โดยระบวุ นั ทีล่ าออกจาก ราชการ ช่องสาเหตทุ ี่ออก เลอื ก “ลาออก” 5. มอบเอกสารทะเบียนประวัติใหก้ ลุม่ บรหิ ารงานการเงินและสนิ ทรพั ย์ไปดำเนินการในส่วน ทเี กี่ยวข้องกรณถี ึงแก่กรรม 1. เมอื่ ไดร้ ับใบมรณะบัตร 2. ประสานขอทราบวันลาหยดุ ราชการท้ังปี ในปีที่ลาออกจากราชการแลว้ น ามาก รอกวนั ลาในแฟ้ม ประวตั ิ 3. กรอกรายละเอียดใน ก.พ.7 ในช่องตำแหน่งและอตั ราเงินเดือนต่อจากรายการ สดุ ท้าย โดยเร่ิม กรอกวันวันที่ เดอื น ปี ทถี่ ึงแกก่ รรม ชอ่ งตำแหน่งและอตั ราเงนิ เดือน กรอกตำแหน่งปจั จุบัน (ถงึ แกก่ รรม) สำหรับ ช่องเอกสารอ้างอิง กรอกใบมรณะบตั รเลขท่.ี ............................................... สำนกั ทะเบยี น......................................... 4. โอนฐานข้อมูลบคุ ลากรภาครฐั ให้นายทะเบียนบำเหน็จบำนาญ กลมุ่ บริหารงาน การเงินและ สนิ ทรัพยด์ ้วยการแกไ้ ขฐานข้อมูลบุคลากรภาครฐั สวัสดิการจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล โดยเปล่ียน สถานภาพจาก “มชี ีวติ ” เปน็ “เสียชีวติ ” ระบวุ ันท่ีเสยี ชวี ติ 5. มอบเอกสารทะเบียนประวัติให้กลุ่มบรหิ ารงานการเงนิ และสนิ ทรัพย์ไป ดำเนินการในส่วนทเ่ี กย่ี วขอ้ งเอกสาร/หลักฐานอ้างองิ 1. พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบข้าราชการครแู ละบคุ ลกรทาง การศกึ ษา พ.ศ.2547และทแ่ี ก้ไขเพ่มิ เตมิ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2551 2. ระเบยี บ ก.ค.ศ.ว่าด้วยระบบทะเบียน ประวตั ิข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2555 3. หนงั สือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ สร 0203/ว 6 ลงวันที่ 13 มกราคม 2518 เร่ือง การพจิ ารณาปรับปรงุ สมุดประวตั ิข้าราชการ 4. หนงั สอื สำนักงาน ก.พ. ที่ สร 1007/ว 28 ลงวันที่ 15 กนั ยายน 2518 เรอ่ื ง ก.พ.7 แบบใหม่ และแฟ้มประวตั ิ ขา้ ราชการ 5 .หนังสือสำนักงาน ก.พ. ท่ี สร 1007/ว40 ลงวันที่ 28 พฤศจกิ ายน 2518 เร่ือง คู่มือการจดั ทำ ก.พ.7 แบบใหม่ 6. ระเบยี บวา่ ด้วยการเกบ็ รักษา ก.พ.7 พ.ศ.2522
10.การขอยกเวน้ การเกณฑ์ทหาร 1. เอกสารประกอบการขอท่ีต้องใช้ (ใหเ้ ตรยี มรายการละ 2 ชุด) • คำร้องขอยกเวน้ การเกณฑ์ทหาร • หนังสอื รับรอง(วา่ เปน็ คร)ู (ต้องประทับตราสถานศึกษาด้วย) • บญั ชีรายช่ือครทู ่ีขอยกเวน้ ทหารฯ (ตอ้ งประทบั ตราสถานศึกษาด้วย) • สำเนาใบสำคัญ (แบบ สด.9) • สำเนาหมายเรียก (ส.ด.35) • สำเนาทะเบียนบ้าน • สำเนาบตั รประชาชน • สำเนาหนังสือแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าท่ี (ต้องประทับตราวิทยาลัยบนสำเนาทุกหน้าดว้ ย) • สำเนาตารางสอนประจำตวั ครู (ตอ้ งประทบั ตราวิทยาลัยบนสำเนาด้วย) • สำเนาใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี ครู • สำเนาหลักฐานการเปลยี่ นชือ่ /นามสกุล(ถ้าม)ี 2. หนังสือส่งผู้วา่ ราชการจังหวัด (จังหวัดท่ีปฏบิ ัตกิ ารสอน) ขัน้ ตอนการดำเนินการ จดั เตรียมเอกสารท้งั หมดตามข้อ ๑ โดย หนงั สอื รับรอง(วา่ เป็นครู) และบัญชีรายช่ือครทู ่ีขอ ยกเว้นทหารฯ ตอ้ งประสานกับสถานศึกษาที่ทำการสอนให้เปน็ ผู้ออกให้(ผ้บู รหิ ารลงนาม) ๒ ชดุ (ไมใ่ ชส่ ำเนา) จัดเตรยี มหนงั สือสง่ ผู้วา่ ราชการจงั หวดั โดยให้ผู้บริหารลงนาม จากนัน้ แนบเอกสารท้งั หมดส่งผ้วู ่าราชการ จงั หวัด ขน้ั ตอนทุกอย่างสามารถดำเนินเรอ่ื งด้วยตนเอง หรือหากในสถานศึกษามผี ู้ตอ้ งการดำเนินการขอใช้ สิทธิ์ขอยกเวน้ ในปเี ดยี วกันหลายคนแนะนำใหท้ ำพร้อมกนั โดยการดำเนินการจะต้องแล้วเสรจ็ ถงึ ข้ันตอนการ สง่ หนังสอื ถึงผวู้ ่าฯ ก่อนถึงกำหนดการเกณฑ์ทหารในช่วงเดอื นเมษายนเปน็ เวลา ๖๐ วัน (ดังนัน้ จะต้อง ดำเนนิ การให้แลว้ เสรจ็ ก่อนสิ้นเดือนมกราคม) หลังจากการดำเนินการเสร็จส้ินประมาณปลายเดอื นมีนาคมทาง ผวู้ า่ ฯ จะส่งแบบ สด.๓๗ และสำเนา มาใหท้ างสถานศึกษา หากยงั ไมไ่ ดร้ บั สามารถตรวจสอบสทิ ธ์กิ ับทางสัสดี อำเภอภมู ิลำเนาทหารของท่าน 11. การขออนุญาตลาอุปสมบทหรือลาไปประกอบพธิ ีฮจั ย์ การลาไปอุปสมบท หรอื ลาไปประกอบพธิ ีฮจั ย์ 1. ผปู้ ระสงคจ์ ะขอลาเขยี นใบลาและยืน่ ใบลาทง่ี านการเจ้าหน้าที่ หรอื ธุรการของกลุ่ม/ศูนย/์ งาน ลว่ งหนา้ กอ่ นวนั อุปสมบทไมน่ ้อยกวา่ 60 วนั 2. งานการเจ้าหนา้ ทรี่ บั ใบลาและตรวจสอบระเบยี บทเ่ี กยี่ วขอ้ งและสทิ ธใิ นการลา ตามสิทธิให้ลาไป อปุ สมบท หรือ ลาไปประกอบพิธฮี จั ย์ ได้ไมเ่ กิน 120 วนั และบนั ทึกข้อมูล การลาในทะเบยี นคุมวนั ลา 3. งานการเจ้าหน้าท่ีหรือเจ้าหนา้ ท่ีธุรการของกลมุ่ /ศูนย์/งาน เสนอความเห็นและข้อพิจารณา เกี่ยวกับอำนาจในการอนญุ าตใหล้ าไป อุปสมบทหรอื ลาไปประกอบพธิ ีฮัจย์ ซง่ึ อำนาจใน การพจิ ารณาอนุญาต ใหล้ าเปน็ อำนาจของปลัดกระทรวง โดยปลัดกระทรวงไดม้ อบอำนาจให้ ผ้วู า่ ราชการจงั หวัดๆ (ตามคำส่งั กระทรวงสาธารณสุข ท่ี 497/2547 ส่งั ณ วนั ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 เรอื่ ง มอบอำนาจการพจิ ารณา หรอื อนญุ าตการลาอุปสมบทหรือลาไป ประกอบพิธฮี จั ย์) และจัดทำหนงั สือขออนุญาตการลาให้หัวหนา้ กลมุ่ / ศนู ย/์ งาน หรอื ผูอ้ ำนวยการ ลงนาม เพื่อขออนญุ าตต่อผู้ว่าราชการจงั หวดั ในจงั หวัดทีข่ า้ ราชการหรอื
ลกู จา้ งประจำ ผู้นั้นปฏบิ ัติราชการเป็นการประจำอยู่ โดยจดั ทำหนังสือแสดงการพระราชทานพระบรม รา ชานุญาตใหข้ า้ ราชการ/ลูกจา้ งประจำลาอุปสมบท แนบไปใหผ้ ้วู ่าราชการจังหวัดลงนาม 4 ผวู้ ่าราชการจงั หวัดไดร้ ับมอบอำนาจในการพจิ ารณาหรอื อนุญาตให้ลาอปุ สมบทหรือลาไป ประกอบ พธิ ีฮัจย์ ไม่เกิน 120 วนั 5. เม่ือไดร้ ับอนุญาตแล้ว งานการเจา้ หนา้ ที่ หรือ เจา้ หน้าท่ีธุรการของกลมุ่ /ศนู ย/์ งาน จัดทำ หนงั สือ แจง้ ผู้ขอลาอุปสมบาทและผ้เู กย่ี วขอ้ งทราบ ท้ังนผ้ี ขู้ อลาจะตอ้ งอปุ สมบท หรือ ออกเดินทางไปประกอบพธิ ีฮัจย์ ภายใน 10 วนั นับวนั เร่มิ ลา 6. งานการเจา้ หน้าท่ี หรือ เจ้าหนา้ ท่ีธุรการของกลุ่ม/ศนู ย/์ งาน จัดทำหนังสอื รายงานการขอลา อุปสมบทให้ปลัดกระทรวงทราบ 7. ผู้ลาอุปสมบทได้ลาสิกขาบทแล้ว มารายงานตวั เข้าปฏบิ ัตริ าชการภายใน 5 วนั นบั แตว่ ันท่ี ลา สิกขาบทหรือวนั ท่เี ดนิ ทางกลับถึงประเทศไทย พร้อมจัดส่งรายงานการศึกษาและปฏบิ ัติ ตามพระธรรมวินัยใน ระหว่างอปุ สมบท และทั้งน้ี จะตอ้ งนับรวมอยู่ภายในระยะเวลาทไี่ ดร้ บั อนญุ าตการลา 120 วัน 8. รบั รายงานตัวและจัดทำหนงั สือการรายงานตวั ใหป้ ลัดกระทรวงทราบ 9. จัดทำรายงานวันลาประจำเดอื น และสรปุ รายงานวนั ลาประจำปี สง่ ภายในเดอื นตุลาคม ของ ปงี บประมาณถัดไป 10.การขออนญุ าตไปสอบ 11.การขออนญุ าตลาของเจา้ หนา้ ท่ใี นกลุ่ม 1. การลาปว่ ย 2. การลาคลอดบตุ ร 3. การลาไปช่วยเหลือภรยิ าที่คลอดบตุ ร 4. การลากจิ ส่วนตวั 5. การลาพกั ผ่อน การลาทุกประเภทตามระเบยี บน้ี ถา้ มีกฎหมาย ระเบียบ หรือมีมติคณะรฐั มนตรี กำหนดเกย่ี วกบั ระเบยี บการลาประเภทใดไว้เป็นพิเศษ ผูล้ าและผู้มีอำนาจพจิ ารณาหรอื อนญุ าตจะต้องปฏบิ ตั ิ ตามกฎหมาย ระเบียบ หรือมตคิ ณะรฐั มนตรีเกยี่ วกับการลาประเภทนัน้ ด้วย การนบั วันลาตามระเบียบน้ีใหน้ ับ ตามปีงบประมาณ การนับวนั ลาเพอื่ ประโยชน์ในการเสนอหรือ จัดส่งใบลา อนญุ าตให้ลา และคำนวณวันลาให้ นับต่อเน่อื งกันโดยนบั วันหยดุ ราชการทีอ่ ยู่ในระหวา่ งวันลาประเภท เดยี วกนั รวมเป็นวนั ลาด้วย เว้นแต่ การนบั เพื่อประโยชน์ในการ คำนวณวันลา สำหรับวนั ลาป่วยทม่ี ิใชว่ นั ลาปว่ ยตามกฎหมายวา่ ด้วยการสงเคราะห์ ข้าราชการที่ไดร้ บั อันตราย หรอื การป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบตั ิ ราชการ วันลาไปช่วยเหลอื ภรยิ าที่ คลอดบตุ ร วนั ลากิจสว่ นตัว และวนั ลาพกั ผ่อนใหน้ ับเฉพาะวนั ทำการ การลาปว่ ย หรอื ลากจิ ส่วนตัว ซงึ่ มีระยะเวลา ต่อเนือ่ งกนั จะเปน็ ปงี บประมาณเดยี วกนั หรือไม่กต็ าม ใหน้ ับเป็นการลาครงั้ หนง่ึ ถ้าจำนวนวันลาครงั้ หนึ่ง รวมกนั เกินอำนาจของผมู้ ีอำนาจอนญุ าตระดับใด ใหน้ ำใบลาเสนอขนึ้ ไปตามลำดับชน้ั จนถึงผ้มู อี ำนาจอนุญาต 11.1 การลาป่วย ข้ันตอนท่ี 1 ผูป้ ระสงค์จะขอลาเขียนใบลาและยน่ื ใบลาทงี่ านการเจา้ หน้าที่ หรอื ธรุ การของกลุ่ม ขน้ั ตอนที่ 2 งานการเจ้าหน้าทีร่ บั ใบลาและตรวจสอบข้อมูลวนั ลาพร้อมบันทึกข้อมลู การลาใน ทะเบียนคมุ วันลาตามประเภทการลา ขัน้ ตอนท่ี 3 เสนอใบลาต่อผมู้ ีอำนาจในการพจิ ารณาอนุญาตการลา
ขั้นตอนที่ 4 ผูม้ ีอำนาจพจิ ารณาอนุญาตการลา หวั หนา้ กลุ่ม ได้รับมอบอำนาจให้ พิจารณา อนญุ าตได้ ไมเ่ กิน 30 ขัน้ ตอนที่ 5 หากการลาคร้ังน้ัน เกนิ 30 วนั ให้ กลุ่ม จดั ส่งใบลาของเจ้าหนา้ ทีผ่ ู้น้ัน เสนอขออนุญาตการลาต่อผอู้ ำนวยการฯ โดยเสนอผ่านงานการเจา้ หนา้ ที่ เพอื่ ตรวจสอบขอ้ มูล และอำนาจการ อนุญาตการลา เม่อื ผู้อำนวยการฯ อนุญาตแล้ว งานการเจา้ หนา้ ที่จดั ทำ หนังสือแจ้งหน่วยงานตน้ สังกดั กลุ่ม เพือ่ แจ้งผู้ขอลาทราบต่อไป ข้ันตอนท่ี 6 หากการลาครง้ั น้ัน เกนิ 60 วนั ให้ กลุ่ม /ศูนย์/งาน จัดส่งใบลาของ เจ้าหนา้ ทผี่ ูน้ ั้น เสนอขออนุญาตการลาตอ่ ผู้อำนวยการฯ โดยเสนอผา่ นงานการเจ้าหนา้ ที่ เพอื่ ตรวจสอบข้อมลู และอำนาจการอนญุ าตการลา เนอ่ื งจากผู้อำนวยการฯ มีอำนาจอนญุ าตการลาได้เพยี ง 60 วนั งานการ เจ้าหนา้ ที่ต้อง เสนอความเห็นและข้อพิจารณา พร้อมจดั ทำหนังสอื ขออนญุ าตการลาของผ้ขู อลา เพื่อขอ อนญุ าตต่อ อธบิ ดีกรมควบคุมโรค (อธิบดีมอี ำนาจในการอนุญาตได้ 120 วัน) ใหผ้ ู้อำนวยการฯ ลงนามใน หนังสอื ขอนญุ าต และเสนอผ่านกองการเจ้าหนา้ ที่ ขน้ั ตอนที่ 7 กรณีท่ีการลาป่วยเกิน 120 วันขึน้ ไป ต้องเสนอขออนุญาตต่อ ปลดั กระทรวง ให้ กลุ่ม /ศูนย์/ งาน จัดสง่ ใบลาของเจ้าหน้าทผี่ ู้นน้ั เสนอขออนุญาตการลาต่อผูอ้ ำนวยการฯ โดยเสนอผา่ นงาน การเจา้ หน้าท่ี เพ่ือตรวจสอบข้อมูล และอำนาจการอนุญาตการลา งานการเจ้าหนา้ ที่จดั ทำ หนังสือขออนญุ าตการลาให้ผู้อำนวยการลงนามเพื่อขออนุญาตตามลำดับชน้ั และกองการ เจา้ หนา้ ท่ี ดำเนนิ การเสนอตอ่ ปลดั กระทรวง ขน้ั ตอนที่ 8 เมอื่ ไดร้ ับอนุญาตแลว้ งานการเจา้ หนา้ ท่ีจัดทำหนังสอื แจง้ ให้หนว่ ยงาน ตน้ สงั กดั กลุม่ เพ่ือแจ้งผู้เก่ียวข้องและผู้ขอลาทราบ และให้เก็บไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน ประกอบการขอรับเงนิ บำเหน็จ บำนาญตอ่ ไป และให้กลุ่ม จัดทำรายงานวันลา ประจำเดือนสง่ ใหง้ านการเจ้าหนา้ ที่ 11.2. การลาคลอดบุตร เปน็ การลาหยดุ ราชการของสตรซี งึ่ มคี รรภ์ในชว่ งก่อนคลอด วนั คลอด และหลัง คลอด หลกั เกณฑ์ 1. มีสทิ ธิลาคลอดบุตรครง้ั หน่ึงได้ 90 วัน จะลาในวันทค่ี ลอด กอ่ นหรือหลงั คลอด ก็ได้ แต่รวมแลว้ ไมเ่ กนิ ระยะเวลา 90 วนั (นบั ตอ่ เนอื่ งรวมวันหยดุ ราชการ) 2. ไมต่ อ้ งมใี บรบั รองแพทย์แนบท้ายการยนื่ ใบลา 3. ขา้ ราชการที่ไดร้ ับอนญุ าตให้ลาคลอดบตุ ร และไดห้ ยุดราชการไปแลว้ แต่ไมไ่ ด้ คลอดบุตร ตามกำหนด หากประสงคจ์ ะยกเลิกวนั ลาคลอดบุตรทีห่ ยุดไป ให้ผู้มีอำนาจอนุญาตพิจารณา อนุญาตให้ยกเลกิ ได้ โดยใหถ้ ือวา่ วันทีไ่ ด้หยดุ ราชการไปแล้วเปน็ วันลากิจส่วนตวั 4. การลาคลอดบตุ รคาบเก่ยี วกับการลาประเภทใดซึ่งยังไม่ครบกำหนดวนั ลาของ การลา ประเภทนั้น ให้ถือวา่ การลาประเภทน้ันส้นิ สุดลง และใหน้ บั เปน็ การลาคลอดบุตรตง้ั แต่วันเริ่มวันลา คลอด เชน่ ขา้ ราชการซ่ึงอยรู่ ะหวา่ งลาศึกษา และประสงค์จะลาคลอดบุตร เมอื่ ได้รบั อนุญาตให้ลาคลอดบุตร แล้ว ใหถ้ ือว่า การลาศึกษาสน้ิ สุดลง 5. การลาคลอดบุตร หากเด็กท่ีคลอดออกมาแลว้ เสียชวี ิต กไ็ ม่กระทบสทิ ธขิ องการ ลาคลอดบุตร การเสนอหรอื จัดส่งใบลา 1) ใหเ้ สนอหรือจัดสง่ ใบลาต่อผู้บังคบั บัญชาตามลำดับจนถงึ ผูม้ ีอำนาจ 2) จะเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนหรือในวนั ที่ลาก็ได้
3) ในกรณีทไี่ มส่ ามารถลงช่ือในใบลาได้ จะใหผ้ อู้ น่ื ลาแทนก็ได้ แตเ่ มื่อสามารถลงชือ่ ไดแ้ ลว้ ตอ้ งเสนอหรอื จัดสง่ ใบลาโดยเรว็ 11.3 การลาไปช่วยเหลือภรยิ าที่คลอดบุตร เป็นการลาหยุดราชการของข้าราชการชายเพ่ือไป ช่วยเหลือภรยิ าโดยชอบดว้ ยกฎหมาย ที่คลอดบตุ ร หลกั เกณฑ์* 1. มีสทิ ธิลาไปชว่ ยเหลือภรยิ าท่คี ลอดบุตรและต้องเปน็ ภริยาโดยชอบดว้ ยกฎหมาย 2. ลาไดค้ รงั้ หน่งึ ติดต่อกนั ได้ไม่เกนิ 15 วันทำการ (จะลาเป็นช่วง ๆ ไม่ได้) การเสนอ หรอื จัดสง่ ใบลา 1) ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาตอ่ ผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถงึ ผู้มีอำนาจ อนุญาต สำหรบั ข้าราชการของสำนกั งานคลังจังหวัด ซึง่ เป็นขา้ ราชการในราชการบริหาร ส่วนภมู ภิ าค ผมู้ ี อำนาจอนุญาต คือ ผู้ว่าราชการจงั หวดั 2) ใหเ้ สนอหรอื จดั ส่งใบลาก่อนหรอื ในวนั ทีล่ าภายใน 90 วนั นับแต่วนั ท่ี ภริยาได้คลอดบุตร เชน่ ภรยิ าคลอดบตุ รวันที่ 20 กมุ ภาพนั ธ์ มีสทิ ธใิ นการเสนอใบลา (ยื่นใบลา) ไปช่วยเหลือ ภริยาทีค่ ลอดบุตร เริม่ นบั ตง้ั แตว่ นั ท่ี 20 กุมภาพนั ธ์ ซ่ึงเปน็ วันทภี่ รยิ าคลอดบุตร โดยจะต้องเสนอใบลาภายใน 90 วันนับแต่วันที่ 20 กมุ ภาพันธ์ หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแลว้ กล่าวคือ เสนอใบลาเกินระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ภริยาคลอดบุตร กรณีน้ผี ู้มีอำนาจอนญุ าตไม่อาจอนญุ าตให้ลาได้ 3) ใหก้ ารได้รบั เงนิ เดือนระหว่างลา ข้าราชการที่ลาไปชว่ ยเหลือภรยิ า ทีค่ ลอดบตุ รภายใน 30 วนั นบั แต่วนั ทีภ่ ริยาคลอดบุตร มสี ิทธไิ ด้รับเงินเดือนระหวา่ งลาไมเ่ กนิ 15 วันทำการ แตถ่ ้าเป็นการลาเมื่อพน้ 30 วันนับแต่ภริยาคลอดบุตร แนบสำเนาทะเบียนสมรส และสำเนาสูติบัตเิ พื่อ ประกอบการพจิ ารณาไม่ได้รบั เงนิ เดอื นระหวา่ งลา แนวทางปฏิบัติ ให้เสนอใบลาพรอ้ มเอกสารหลักฐาน ไดแ้ ก่ สำเนาทะเบยี นสมรส สำเนาสูตบิ ตั ร และ เสนอ ผบู้ ังคบั บัญชาเพือ่ พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ 11.4 การลากจิ ส่วนตัว เปน็ การลาหยุดราชการเพ่อื ทำกจิ ธุระ เชน่ ลาหยดุ ราชการเพอ่ื ดูแลบุคคลใน ครอบครวั ลาเพ่ือพิมพล์ ายนว้ิ มอื สำหรบั ข้าราชการบรรจใุ หม่ เปน็ ตน้ รวมถงึ การลากจิ สว่ นตัวเพ่ือเลย้ี งดบู ุตร ดว้ ย กรณีลากจิ ส่วนตวั เพ่ือเล้ียงดบู ตุ ร จะต้องลาต่อเน่อื งจากการลาคลอดบตุ รและมสี ทิ ธิลาไดไ้ ม่เกนิ 150 วนั ทำการ การเสนอหรือจัดสง่ ใบลา 1. ตอ้ งเสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บงั คับบญั ชาตามลำดบั จนถงึ ผู้มีอำนาจอนุญาต 2. ต้องได้รับอนญุ าตก่อนจึงจะหยดุ ราชการได้ เว้นแต่ 2.1 กรณีมเี หตจุ ำเป็นไมส่ ามารถรอรับอนุญาตได้ ใหจ้ ดั สง่ ใบลาพรอ้ มดว้ ย ระบุเหตุจำเปน็ ไว้ แล้วหยดุ ราชการไปก่อนได้ แต่จะต้องช้แี จงเหตุผลให้ผู้มอี ำนาจอนญุ าตทราบโดยเรว็ หาก ข้อเทจ็ จรงิ ปรากฏว่า ผมู้ อี ำนาจอนญุ าตการลาไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏบิ ัติราชการได้ จะตอ้ งเสนอหรือจัดส่ง ใบลาตอ่ ผมู้ ีอำนาจอนญุ าตช้นั เหนือขน้ึ ไปเพื่อพจิ ารณา เวน้ แต่จะมีผู้รกั ษาราชการแทน ผู้มีอำนาจอนุญาตการ ลา กใ็ ห้เสนอต่อผรู้ ักษาราชการแทน และเม่อื ไดร้ ับอนุญาตแลว้ จงึ จะหยุดราชการได้ 2.2 กรณีมเี หตุพิเศษ ทีไ่ มอ่ าจเสนอหรอื จดั สง่ ใบลากอ่ นหยุดราชการได้ เม่อื หยุดราชการไปแลว้ ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาพร้อมกับเหตุผลความจำเปน็ ต่อผบู้ ังคับบญั ชาตามลำดบั จนถึง ผ้มู อี ำนาจอนญุ าตทราบทนั ทีในวันแรกทมี่ าปฏิบัตริ าชการ
11.5 การลาพักผ่อน เปน็ การลาหยดุ ราชการเพ่ือพักผอ่ นประจำปี หลกั เกณฑ์* 1. มีสทิ ธลิ าพักผ่อนปีหนึ่งได้ 10 วนั ทำการ 2. ขา้ ราชการดังต่อไปนี้ ไมม่ สี ิทธลิ าพักผอ่ นประจำปีในปที ่ไี ด้รับบรรจุเขา้ รบั ราชการ ยงั ไมถ่ ึง 6 เดือน 2.1 ได้รบั บรรจุเขา้ รับราชการเป็นข้าราชการคร้ังแรก 2.2 ลาออกจากราชการเพราะเหตุสว่ นตัว แลว้ ต่อมาได้รับบรรจเุ ข้ารับ ราชการอกี 2.3 ลาออกจากราชการเพ่ือดำรงตำแหนง่ ทางการเมืองหรือเพือ่ สมัครรับ เลือกต้งั แลว้ ไดร้ ับบรรจุเข้ารับราชการอีกหลงั 6 เดือน นับแตว่ นั ออกจากราชการ 2.4 ถูกสงั่ ให้ออกจากราชการในกรณีอืน่ (นอกจากไปรับราชการทหาร) และกรณี ไปปฏิบัติงานตามความประสงค์ของทางราชการ แลว้ ได้รับบรรจเุ ขา้ รบั ราชการอีก 3. ผู้ที่รบั ราชการตดิ ตอ่ กนั ไม่ถึง 10 ปี สะสมวันลาพักผอ่ นได้ โดยวันลาพกั ผอ่ น สะสมกบั วันลาพักผอ่ นในปปี ัจจบุ นั รวมกันแลว้ ต้องไมเ่ กนิ 20 วันทำการ 4. ผู้ทร่ี บั ราชการติดต่อกันมาตั้งแต่ 10 ปีขน้ึ ไป สะสมวนั ลาพักผ่อนได้โดยวนั ลา พักผ่อน สะสมกับวนั ลาพักผ่อนในปีปัจจุบันรวมกันแล้วต้องไมเ่ กนิ 30 วนั ทำ การ การเสนอหรอื จัดสง่ ใบลา 1. ใหเ้ สนอหรอื จัดส่งใบลาตอ่ ผบู้ ังคับบัญชาตามลำดับ จนถงึ ผู้มีอำนาจ อนญุ าต 2. ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตก่อนจึงจะหยดุ ราชการได้ 3. ผ้มู ีอำนาจอนญุ าต จะอนุญาตใหล้ าครั้งเดียวหรือหลายครง้ั กไ็ ด้ โดยมิให้ เสยี หายแก่ราชการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: