บทน�ำ จักรวาล คอื เอกภพซ่ึงอยู่ในรูปแบบทซี่ ับซ้อนและเปน็ ระบบระเบยี บ เป็นส่ิงท่ตี รงขา้ มกบั ความยุ่งเหยิง (chaos) นักปรชั ญา พที าโกรสั ใชค้ �ำ ว่า จกั รวาล (cosmos) (กรกี โบราณเพือ่ กลา่ วถงึ ความเป็นระเบยี บของเอกภพ ทว่าคำ� น้ไี มถ่ กู ใช้ในภาษาสมยั ใหม่จนครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 19 เมอ่ื นกั ภมู ศิ าสตร์ อเล็กซนั เดอร์ ฟอน ฮมุ โบลท์ ไดน้ ำ�ค�ำ นจี้ ากกรีก โบราณกลบั มาใชอ้ กี ครงั้ ในชดุ หนงั สอื ของเขา Kosmos ซึง่ ส่งผลกระทบตอ่ มุมมองสมัยใหมอ่ งค์รวม ที่มองเอกภพ เป็นสิ่งส่งิ เดยี วซ่ึงปฏิสัมพนั ธ์กนั 2 universe ���������������week8.indd 2 22/9/2563 2:56:16
ผจู้ ดั ท�ำ โดย นาย อชิตพล ซำ�ศริ ิ ปวช.2/15 เลขท่ี 28 3 universe ���������������week8.indd 3 22/9/2563 2:56:16
สารบัญภาพ หน้าที่ เน้อื หา 2 3 -บทนำ� 5-10 -ผจู้ ัดท�ำ 11 -เนื้อหา 12-13 -ตาราง 14-18 -รูปภาพ 19 -ขอ้ มลู เกย่ี วกบั จกั รวาลและอากาศ 20 -ขอ้ มูลส่วนตัว -อา้ งอิง 4 universe ���������������week8.indd 4 22/9/2563 2:56:16
เนอ้ื หา ระบบสุรยิ ะ (อังกฤษ: Solar System) ประกอบดว้ ยดวงอาทิตย์และวตั ถุ อื่น ๆ ท่ีโคจรรอบดวงอาทติ ยเ์ นือ่ งจากแรงโน้มถ่วง ไดแ้ ก่ ดาวเคราะห์ 8 ดวงกับดวงจันทรบ์ ริวารท่คี น้ พบแลว้ 167 ดวง[5] ดาวเคราะห์แคระ 5 ดวงกับดวงจันทรบ์ รวิ ารทีค่ ้นพบแล้ว 4 ดวง กับวัตถขุ นาดเลก็ อน่ื ๆ อกี นบั ล้านชิ้น ซ่ึงรวมถึง ดาวเคราะหน์ อ้ ย วตั ถใุ นแถบไคเปอร์ ดาวหาง สะเก็ดดาว และฝนุ่ ระหว่างดาวเคราะห์ โดยทวั่ ไปแลว้ จะแบ่งยา่ นตา่ ง ๆ ของระบบสรุ ิยะ นบั จากดวงอาทิตย์ออก มาดังน้ีคอื ดาวเคราะหช์ ั้นในจำ�นวน 4 ดวง แถบดาวเคราะหน์ ้อย ดาว เคราะห์ขนาดใหญร่ อบนอกจำ�นวน 4 ดวง และแถบไคเปอร์ซึ่งประกอบ ดว้ ยวัตถุท่ีเย็นจดั เปน็ น้ำ�แข็ง พน้ จากแถบไคเปอร์ออกไปเปน็ เขตแถบจาน กระจาย ขอบเขตเฮลิโอพอส (เขตแดนตามทฤษฎีทซี่ ึ่งลมสรุ ิยะส้ินกำ�ลังลง เนื่องจากมวลสารระหว่างดวงดาว) และพน้ ไปจากนัน้ คอื ยา่ นของเมฆออร์ ตกระแสพลาสมาทไ่ี หลออกจากดวงอาทิตย์ (หรือลมสุริยะ) จะแผต่ วั ไปทั่ว ระบบสุริยะ สร้างโพรงขนาดใหญข่ ึ้นในสสารระหวา่ งดาวเรยี กกนั ว่า เฮลิ โอสเฟียร์ ซง่ึ ขยายออกไปจากใจกลางของแถบจานกระจาย ดาวเคราะห์ ชน้ั เอกทัง้ 8 ดวงในระบบสรุ ิยะ เรยี งลำ�ดบั จากใกล้ดวงอาทติ ยท์ ี่สดุ ออกไป มดี งั นคี้ ือ ดาวพธุ ดาวศุกร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาว ยเู รนสั และดาวเนปจนู 5 universe ���������������week8.indd 5 22/9/2563 2:56:16
ดวงอทิ ตย์ฺ ดวงอาทิตย์ คือดาวฤกษ์ดวงแมท่ เ่ี ป็นหวั ใจของระบบสุริยะ มขี นาด ประมาณ 332,830 เท่าของมวลของโลก ดว้ ยปริมาณมวลทม่ี อี ยมู่ หาศาล ท�ำ ใหด้ วงอาทิตย์มีความหนาแน่นภายในท่สี งู มากพอจะท�ำ ให้เกิดปฏิกิริยา การหลอมนิวเคลียสอยา่ งต่อเนื่อง และปลดปลอ่ ยพลงั งานมหาศาลออก มา โดยมากเป็นพลังงานท่ีแผ่ออกไปในลักษณะของคลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ เชน่ แสงดวงอาทิตยจ์ ัดว่าเป็นดาวแคระเหลอื งขนาดใหญ่ปานกลาง ทว่าเมื่อเปรียบเทยี บกับดาวฤกษ์อนื่ ๆ ทีอ่ ยใู่ นดาราจักรของเรา ถอื ได้ ว่าดวงอาทิตยม์ ีขนาดใหญ่และสว่างมาก การจัดประเภทของดาวฤกษ์ นเ้ี ป็นไปตามไดอะแกรมของเฮริ ์ตสปรงั -รสั เซลล์ ซ่งึ เปน็ แผนภมู ิของ กราฟระหว่างความสวา่ งของดาวฤกษ์เทยี บกบั อณุ หภูมพิ นื้ ผวิ โดยทวั่ ไป ดาวฤกษท์ ีม่ อี ุณหภมู สิ ูงกว่ามักจะสวา่ งกว่า ซง่ึ ดาวฤกษ์ใด ๆ ท่มี ีคุณสมบัติ เป็นไปดงั ทว่ี ่ามานก้ี ็จะเรียกวา่ เปน็ ดาวฤกษท์ ีอ่ ยใู่ นแถบลำ�ดบั หลกั ดวง อาทิตย์ของเราก็อยบู่ นแถบลำ�ดบั หลักโดยอยใู่ นชว่ งกึ่งกลางทางด้าน ขวา แต่มดี าวฤกษจ์ ำ�นวนไม่มากนกั ทจ่ี ะสวา่ งกวา่ และมอี ุณหภมู ิสงู กว่า ดวงอาทติ ยข์ องเรา สว่ นมากจะออ่ นแสงกวา่ และมีอณุ หภูมติ ่ำ�กว่าท้ังนั้น ชื่อว่าตำ�แหน่งของดวงอาทติ ยบ์ นแถบลำ�ดบั หลักนน้ั จดั ไดว้ า่ อยูใ่ น \"ช่วง รุ่งโรจน์ของยุค\" ของอายุดาวฤกษ์ มนั ยงั มีไฮโดรเจนมากเพียงพอท่ีจะ สร้างปฏกิ ริ ิยาการหลอมนวิ เคลยี สไปอกี นาน ดวงอาทติ ย์กำ�ลังเพิ่มพนู ความสว่างมากขึ้น ในอดีตดวงอาทิตย์เคยมคี วามสว่างเพียงแค่ 70% ของความสว่างอย่างทเี่ ปน็ อยใู่ นปัจจบุ ันดวงอาทติ ย์จัดเปน็ ดาวฤกษช์ นดิ ดารากร 1 ถอื กำ�เนิดขน้ึ ในช่วงปลาย ๆ ของววิ ัฒนาการของเอกภพ มีองค์ ประกอบธาตุหนักทห่ี นกั กวา่ ไฮโดรเจนและฮีเลียม (ในภาษาดาราศาสตร์ จะเรยี กวา่ \"โลหะ\") มากกวา่ ดาวฤกษช์ นดิ ดารากร 2 ซึ่งมีอายุมากกว่า ธาตุหนักเหลา่ น้ีกอ่ ก�ำ เนิดข้ึนจากแกน่ กลางของดาวฤกษ์โบราณที่ระเบดิ ออก ดังนัน้ ดาวฤกษ์ในยุคแรกเริ่มจึงตอ้ งแตกดบั ไปเสยี ก่อนจงึ จะทำ�ให้ เอกภพเตม็ ไปดว้ ยอะตอมธาตเุ หลา่ นีไ้ ด้ ดาวฤกษท์ ม่ี ีอายุเก่าแกม่ าก ๆ การ มอี งค์ประกอบโลหะจ�ำ นวนมากน้ีน่าจะเป็นสาเหตสุ �ำ คญั ทที่ �ำ ใหด้ วงอาทติ ย์ 6 universe ���������������week8.indd 6 22/9/2563 2:56:16
หลังการระเบดิ ของบก๊ิ เเบง หลังการระเบดิ คร้ังใหญ่ (Big Bang) เม่อื 13.7 พันลา้ นปีก่อน เพียงเสี้ยว วนิ าที ในสภาพท่อี ุณหภูมิรอ้ นจดั นน้ั ก่อก�ำ เนดิ อนภุ าคพืน้ ฐานคอื ควาร์ก (Quark) อิเล็กตรอน (Electron) นิวทริโน (Neutrino) และโฟตอน (Pho- ton) รวมถึงพลังงาน กระจายไปทั่วจักรวาล พร้อมกับการเกิดของ ปฏิ อนภุ าค (Anti-particle) ท่มี ปี ระจไุ ฟฟ้าตรงกนั ขา้ ม เกิดการจับคู่กนั ของ อนุภาคชนิดเดยี วกัน กอ่ นหลอมรวมกนั จนเนอ้ื สารถูกแปรเปลีย่ นไปเป็น พลงั งานจนหมดสน้ิ ซง่ึ โชคยังดีท่ใี นธรรมชาติ อนภุ าคมจี ำ�นวนมากกวา่ ปฏิ อนภุ าค การจบั คู่กนั ที่ไม่ลงตวั ท�ำ ให้เกิดท้งั สสารและพลังงานในเอกภพ ของเรา หลังการระเบิดราว 3 แสนปี แรงจากการระเบดิ สง่ สสารและ พลังงานกระจายไปท่ัวหว้ งอวกาศ ทำ�ให้อณุ หภมู ิรอ้ นจดั ลดลงเหลอื ราว 10,000 เควนิ ก่อใหเ้ กิดอะตอมไฮโดรเจนและฮีเลียม ซ่งึ เป็นธาตุพนื้ ฐานใน จกั รวาล 7 universe ���������������week8.indd 7 22/9/2563 2:56:16
black hole ความหมายของหลมุ ดำ�โดยท่ัวไปกค็ ือ อาณาบรเิ วณของอวกาศและเวลา ทป่ี รากฏใหเ้ ห็นอย่ใู นสภาวะภายใต้แรงโน้มถว่ งอนั มหาศาล โดยท่ีเรา ไม่อาจมองเหน็ ตวั ตนของมนั ได้ (แตจ่ ะสามารถมองเห็นมนั ผ่านวิธกี าร ออ้ มแทน เชน่ การสงั เกต ‘จานพอกพนู มวล’ (accretion disk) ทเ่ี ปล่ง แสงออกมาอยู่ภายใต้ ‘รงั สีเอกซ์’ (X-ray) หรอื สังเกตจากปรากฏการณ์ ‘เลนส์ความโนม้ ถว่ ง’ (gravitational lens)) ก็อย่างท่บี อกว่าหลุมด�ำ น้นั ก็คือ อาณาบริเวณของอวกาศและเวลา ท่ปี รากฏให้เหน็ อย่ใู นภาวะภาย ใตแ้ รงโน้มถ่วงอันมหาศาล แลว้ แรงโนม้ ถว่ งที่ว่ามหาศาลนี้ มันมากแค่ ไหน ก็ตอ้ งบอกว่ามากเสียจนมคี า่ เป็นอนนั ต์ นนั่ กค็ ือหากมีอะไรก็ตามท่ี บังเอิญไดห้ ลุดเข้าไปส่หู ลมุ ด�ำ แล้วละก็ สิง่ ๆนั้นก็จะไมม่ ีวนั ไดห้ นอี อกมา ได้จากภายใน แม้จะมีการเร่งอัตราเรว็ จนเกอื บเทา่ แสงก็ตาม หรอื แม้แต่ ตวั ของแสงเองเลยด้วย ก็อย่างเราทราบกนั อยู่ว่ามนั แสง มนั คอื สิ่งท่ี ไปไดเ้ รว็ ทีส่ ดุ ในจักรวาล (หรอื ราวๆ 3แสนกิโลเมตรตอ่ วนิ าที) แต่ดว้ ย ความเรว็ ขนาดนีม้ นั ก็ยังไม่อาจสามารถ หลีกหนอี อกมาไดพ้ ้นจากอาณา บริเวณความโนม้ ถว่ งอนั ไร้ขีดจำ�กดั ของหลุมด�ำ ดังนัน้ หากเราได้ถกู หลุม ดำ�ดูดเข้าไปแล้วละก็ ตอ้ งบอกได้เลยว่า นน้ั แหละคือวะระสุดท้ายของชวี ิต อย่างแทจ้ ริง 8 universe ���������������week8.indd 8 22/9/2563 2:56:16
ทางช้างเผอื ก Milky Way คอื ดาราจกั รท่ีเป็นท่ีตงั้ ของระบบสรุ ิยะและโลกของเรา[9][10][11] ชอื่ ภาษาอังกฤษของทางชา้ งเผือก (Milky Way) มาจากคำ�ภาษากรกี ว่า (กาลาซอิ สั คคู ลอส, “วงกลมสีนำ้�นม”) โดยเมือ่ มองบนท้องฟ้าจะปรากฏ เปน็ แถบขมกุ ขมัวคล้ายเมฆของแสงสวา่ งสีขาว ซง่ึ เกดิ จากดาวฤกษ์ จ�ำ นวนมากภายในดาราจักรทมี่ รี ูปร่างเป็นแผ่นจาน แต่เดมิ นน้ั นกั ดาราศาสตร์คิดว่าดาราจกั รทางช้างเผือกมีลักษณะเปน็ ดาราจกั รชนิด กน้ หอยธรรมดา แตห่ ลังจากผา่ นการประเมนิ ครงั้ ใหม่ในปี พ.ศ. 2548 พบ วา่ ทางชา้ งเผอื กนา่ จะเปน็ ดาราจักรชนดิ ก้นหอยมีคานเสยี มากกว่า. เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางของดาราจกั รทางชา้ งเผอื กมรี ะยะทางระหว่าง 150,000 ถึง 200,000 ปีแสง[12][13][14] และมจี �ำ นวนดาวฤกษ์ประมาณ 1 แสน ล้าน ถงึ 4 แสนล้านดวง[15][16] ส่วนท่สี วา่ งท่สี ุดของทางชา้ งเผอื กอยู่ บริเวณกลมุ่ ดาวคนยงิ ธนู ซึง่ เป็นทศิ ทางไปสู่ใจกลางดาราจกั ร ณ จดุ ศุน ยก์ ลางของดาราจกั รทางชา้ งเผือกเป็นแหลง่ คลืน่ วทิ ยทุ ี่มคี วามเขม้ ข้น สูง เรียกว่า ซากติ ทาเรยี ส A โดยจดุ ท่ีสญั ญาณเข้มข้นท่ีสดุ เรียกว่า ซากติ ทาเรยี ส A* ซึง่ คาดวา่ จะเป็นหลุมด�ำ มวลย่งิ ยวด ทีม่ ขี นาดมวลราว 4.100 (± 0.034) ลา้ นเท่าของมวลสุรยิ ะ 9 universe ���������������week8.indd 9 22/9/2563 2:56:17
การน�ำ เนิดและวิวัฒนาการ ระบบสรุ ิยะถอื ก�ำ เนดิ ขึ้นจากการแตกสลายด้วยแรงโนม้ ถว่ งภายใน ของเมฆโมเลกุลขนาดยกั ษ์เมอื่ กว่า 4,600 ลา้ นปีมาแล้ว เมฆต้นก�ำ เนิดนมี้ ี ความกว้างหลายปีแสง และอาจเป็นต้นกำ�เนิดของดาวฤกษอ์ นื่ อีกจำ�นวน มากเมื่อย่านเนบวิ ลาก่อนสรุ ยิ ะ ซึง่ นา่ จะเปน็ จดุ กำ�เนิดของระบบสรุ ิยะ เกดิ แตกสลายลง โมเมนตัมเชงิ มุมทมี่ ีอย่ทู ำ�ให้มนั หมุนตวั ไปเรว็ ยง่ิ ขน้ึ ท่ี ใจกลางของย่านซง่ึ เปน็ ศูนยร์ วมมวลอันหนาแน่นมอี ณุ หภูมเิ พิ่มสงู มาก ขึน้ กว่าแผ่นจานที่หมนุ อยู่รอบ ๆขณะที่เนบวิ ลานี้หดตวั ลง มันก็เร่ิมมที รง แบนยิ่งขน้ึ และค่อย ๆ มว้ นตวั จนกลายเปน็ จานดาวเคราะห์กอ่ นเกดิ ทม่ี ี เส้นผา่ นศนู ย์กลางราว 200 AUพร้อมกบั มดี าวฤกษ์กอ่ นเกิดทีห่ นาแนน่ แ ละรอ้ นจดั อยู่ ณ ใจกลางเม่ือการววิ ัฒนาการดำ�เนนิ มาถึงจดุ นี้ เชอื่ วา่ ดวง อาทิตยไ์ ดม้ สี ภาพเป็นดาวฤกษช์ นดิ T Tauri ผลจากการศึกษาดาวฤกษ์ ชนดิ T Tauri พบว่ามนั มักมแี ผน่ จานของมวลสารดาวเคราะหก์ อ่ นเกดิ ท่ีมี มวลประมาณ 0.001-0.1 เท่าของมวลดวงอาทิตย์ กับมวลของเนบิวลาใน ตวั ดาวฤกษเ์ องอกี เปน็ ส่วนใหญ่จำ�นวนมหาศาลดาวเคราะหก์ อ่ ตวั ขึ้นจาก แผน่ จานรวมมวลเหล่านี้ ภายในชว่ งเวลา 50 ลา้ นปี ความดนั และความ หนาแนน่ ของไฮโดรเจนท่ีใจกลางของดาวฤกษก์ ่อนเกิดกม็ มี ากพอจะทำ�ให้ เกิดปฏกิ ิริยาการหลอมนิวเคลียสขนึ้ ได ทงั้ อุณหภูมิ อตั ราการเกิดปฏิกิริยา ความดนั ตลอดจนความหนาแน่นตา่ งเพิ่มขนึ้ เร่ือย ๆ จนกระทัง่ ถงึ สภาวะ สมดลุ อุทกสถิต โดยมีพลังงานความรอ้ นทม่ี ากพอจะตา้ นทานกับการหด ตวั ของแรงโนม้ ถ่วงได้ ณ จุดน้ีดวงอาทิตยจ์ งึ ได้วิวัฒนาการเขา้ สู่แถบ ล�ำ ดบั หลักอยา่ งสมบูรณ์ 10 universe ���������������week8.indd 10 22/9/2563 2:56:17
ตาราง เน่ืองจาก โลกเปน็ บริวารของดวงอาทติ ย์ โดยโลกจะหมนุ รอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ เปน็ เวลา 365 วนั หรอื 1 ปใี นขณะเดียวกนั โลกจะหมนุ รอบตวั เอง 1 รอบ โดยกนิ เวลา 24 ชว่ั โมง จงึ ส่งผลใหด้ า้ นทีโ่ ดนแสงจะเปน็ เวลากลางวนั ส่วนด้านที่ไม่โดนแสงจะเป็นเวลา กลางคนื เมอื่ โลกหมุนไปเร่ือยๆ ด้านที่ไม่โดนแสง หรือกลางคืนจะคอ่ ยๆ หมนุ เปลยี่ นมา จนกลายมาเปน็ กลางวนั เราเรยี กปรากฏการณน์ ว้ี า่ กลางวนั และกลางคืน หลุมด�ำ หมายถงึ เทหวตั ถุในเอกภพทมี่ แี รงโนม้ ถ่วงสงู มาก ไม่มีอะไรออกจากบริเวณนี้ ได้แม้แตแ่ สง ยกเวน้ หลมุ ด�ำ ด้วยกัน เราจึงมองไมเ่ หน็ ใจกลางของหลมุ ดำ� หลุมดำ�จะ มพี ื้นท่หี นงึ่ ทเ่ี ป็นขอบเขตของตัวเองเรียกวา่ ขอบฟ้าเหตกุ ารณ์ ท่ีตำ�แหน่งรศั มีชวาร์ส ชลิ ด์ ถา้ หากวตั ถุหลดุ เขา้ ไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ วัตถจุ ะตอ้ งเรง่ ความเร็วใหม้ ากกวา่ ความเร็วแสงจงึ จะหลดุ ออกจากขอบฟ้าเหตุการณ์ได้ แต่เป็นไปไม่ไดท้ ่วี ตั ถใุ ดจะมี ความเร็วมากกวา่ แสง วัตถุนนั้ จงึ ไม่สามารถออกมาได้อกี ต่อไป ระบบสุริยะ (องั กฤษ: Solar System) ประกอบดว้ ยดวงอาทิตย์และวตั ถุอน่ื ๆ ทโ่ี คจร รอบดวงอาทิตย์เน่อื งจากแรงโนม้ ถ่วง ไดแ้ ก่ ดาวเคราะห์ 8 ดวงกับดวงจันทร์บริวาร ท่ีคน้ พบแลว้ 167 ดวง[5] ดาวเคราะห์แคระ 5 ดวงกับดวงจันทร์บรวิ ารทคี่ น้ พบแล้ว 4 ดวง กบั วตั ถุขนาดเล็กอนื่ ๆ อีกนบั ล้านชิน้ ซ่ึงรวมถงึ ดาวเคราะห์นอ้ ย วตั ถใุ นแถบไค เปอร์ ดาวหาง สะเกด็ ดาว และฝ่นุ ระหวา่ งดาวเคราะห์ กาแลก็ ซี (Galaxy) หรือ ดาราจักร หมายถึง อาณาจักรของดาว กาแลก็ ซีหน่ึงๆ ประกอบด้วยแก๊ส ฝุ่น และดาวฤกษ์และดาวเคราะหห์ ลายแสนล้านดวง กาแลก็ ซีมขี นาด ประมาณหม่นื ล้านถงึ แสนล้านปีแสง กาแลกซขี องเราชอื่ “ทางช้างเผือก” (The Milky Way Galaxy) ที่มีชือ่ เชน่ น้ีเปน็ เพราะ คนไทยถอื วา่ กษัตรยิ ์เปน็ เทวดาซ่ึงอวตารมาจาก สรวงสวรรค์ ชา้ งเผอื กเป็นสัตวค์ ่บู ุญบารมีของกษตั ริย์ ทางช้างเผอื กจึงปรากฎอยูบ่ น ทอ้ งฟ้าซง่ึ เปน็ ทอี่ ยขู่ องเทวดาและนางฟา้ อวกาศ (อังกฤษ: outer space, หรอื space) คือ ความว่างเปลา่ ทีม่ ีอยู่ระหวา่ งวตั ถุ ทอ้ งฟา้ รวมถงึ โลก อวกาศมิไดว้ ่างเปล่าอยา่ งสิน้ เชงิ แต่ประกอบด้วยสญุ ญากาศแข็งที่ ประกอบด้วยอนภุ าคความหนาแน่นต่ำ� ซ่ึงมีพลาสมาของไฮโดรเจนและฮเี ลยี มเป็นหลกั เช่นเดยี วกับรงั สแี มเ่ หลก็ ไฟฟา้ สนามแม่เหล็กและนิวตรโิ น ปจั จุบัน การสงั เกตได้พิสูจน์ แลว้ ว่าอวกาศยังมีสสารมืดและพลังงานมดื อย่ดู ้วย 11 เน่ืองจาก โลกเป็นบริวารของดวงอาทติ ย์ โดยโลกจะหมนุ รอบดวงอาทติ ย์ 1 รอบ เปน็ เวลา 365 วนั หรือ 1 ปใี นขณะเดยี วกนั โลกจะหมุนรอบตวั เอง 1 รอบ โดยกินเวลา 24 ���������������week8.indd 11 ชว่ั โมง จงึ สง่ ผลให้ด้านท่ีโดนแสงจะเป็นเวลากลางวนั สว่ นด้านทไี่ มโ่ ดนแสงจะเป็นเวลา กลางคืน เมอื่ โลกหมนุ ไปเร่อื ยๆ ดา้ นทไ่ี ม่โดนแสง หรอื กลางคนื จะค่อยๆ หมุนเปลย่ี นมา จนกลายมาเป็นกลางวนั เราเรียกปรากฏการณ์น้ีว่า กลางวนั และกลางคืน universe 22/9/2563 2:56:17
รูปภาพไมม่ ีเนอ้ื หา 12 universe ���������������week8.indd 12 22/9/2563 2:56:17
13 universe ���������������week8.indd 13 22/9/2563 2:56:17
รูปภาพมเี น้อื หา จักรวาลและอวกาศ อวกาศหมายถงึ บรเิ วณท่ีอยู่นอกบรรยากาศของโลกออกไปเปน็ บรเิ วณ วา่ งเปล่าอันกว้างใหญไ่ พศาลไมม่ แี รงโนม้ ถ่วง เพราะเรอ่ื งราวในอวกาศ เป็นเรอ่ื งที่ไม่ตายตัวจะเปล่ียนแปลงอย่เู สมอ จักรวาล หมายถึง หว้ งอวกาศท่ีเตม็ ไปด้วยดวงดาวจำ�นวนมหาศาลมีก๊าซ และฝุ่นผงเกาะกลมุ่ กนั บา้ ง กระจายกันอยูบ่ า้ ง ดวงดาวจะรวมกนั อยู่เปน็ กลุ่มๆเรียกวา่ กาแลก๊ ซี ดวงดาวทเ่ี รามองเห็นบนท้องฟ้าอยูใ่ นกาแลก็ ซี่ มชี อ่ื เรยี กวา่ กาแลก๊ ซที างช้างเผือก โลกก็รวมอยดู่ ้วย การเปล่ยี นแปลงทง้ั หมดใน จักรวาล มีความเกย่ี ว ข้องกบั การด�ำ เนินชวี ติ ของมนุษย์ กม็ ฐี านมาจากการสงั เกตดูดวงดาวบน ทอ้ งฟา้ เรียกวา่ ปรากฎการณท์ างธรรมชาตไิ ดแ้ ก่ 14 universe ���������������week8.indd 14 22/9/2563 2:56:17
1. กลางวันกลางคืน เกดิ จากโลกหมนุ รอบตวั เอง ซีกท่ไี ด้รับแสงสว่างจาก ดวงอาทติ ยจ์ ะเป็นกลางวัน สว่ นอกี ซีกหนึง่ อยูใ่ นเงามดื จะเปน็ เวลากลาง คนื 2. ฤดูกาล เกดิ จากโลกหมนุ รอบตัวเองในขณะทโ่ี คจรรอบดวงอาทิตย์ โลก โคจรรอบดวงอาทิตย์ภายใน 1 ปี โลกจะเปลีย่ นต�ำ แหน่งไปวนั ละ 1 องศารอบดวงอาทิตย์ เนอ่ื งจากวงโคจรของโลกเปน็ วงรี ทำ�ใหร้ ะยะห่าง จากดวงอาทิตย์ไมเทา่ กัน แกนหมนุ ของโลกทำ�มุมกบั พ้ืนทาง โคจรของโลก ทำ�ใหแ้ กนของโลกชไี้ ปทางเดยี วคือ ชไ้ี ปทด่ี าวเหนอื ทาง เดียว เหตนุ ี้ดาวเหนือเป็นดาวทีช่ ีท้ ศิ เหนอื 15 universe ���������������week8.indd 15 22/9/2563 2:56:17
ขา้ งข้ึนขา้ งแรม เกิดจากดวงจนั ทรห์ มนุ รอบตัวเอง และโคจรรอบโลกใชเ้ วลา เทา่ กนั ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากดวงจันทร์ เปน็ ดาวเคราะห์ที่ไมม่ แี สง สว่าง ต้องอาศัยแสงสวา่ งจากดวงอาทติ ย์ ดงั นน้ั แสงสว่างของดวงจันทรใ์ นบาง คืนก็คอื แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ท่ีสะท้อนมายงั โลก สว่ นอีกซกี หน่ึงไม่ได้รบั แสงจากดวงอาทิตย์กจ็ ะมืด เราจงึ มองเหน็ แสงของดวง จนั ทรใ์ นลักษณะเตม็ ดวงบ้าง เปน็ เส้ยี วบ้าง มืดบ้าง และสาเหตุหนึ่งเกิดจากเมฆบงั ดวงจันทร์ เราจึงเหน็ ดวงจนั ทร์ เปน็ เส้ยี วบ้าง มดื บ้าง .น�้ำ ขนึ้ น้ำ�ลง เกิดจากแรงดึงดูดของดวงจันทรแ์ ละดวงอาทติ ยก์ ระทำ�ตอ่ โลก เราจะ เหน็ ปรากฏการณ์ได้ชดั เจน ในส่วนทเี่ ป็นน้�ำ ตามชายฝง่ั ทะเล หรอื มหาสมุทร เนอ่ื งจากดวงจนั ทร์อยู่ใกล้โลกมากกวา่ ดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์จงึ มี อิทธิพลนำ�้ ขนึ้ น้�ำ ลงมากกวา่ ดวงอาทติ ย์คือในแต่ละ วนั น�้ำ บนผืนโลกดา้ นท่ีหันเข้าหาดวงจนั ทร์จจะถกู ดูดเขา้ รวมกันซึ่งจะมผี ลตอ่ ซีกโลก ดา้ นตรงข้ามกบั ดวงจันทร์ คอื จะปรากฏน้ำ� ข้ึนดว้ ยสว่ นพ้ืนผวิ โลกอีก 2 ดา้ นระดบั น�้ำ กจ็ ะลดลง เมอ่ื โลกหมุนรอบตวั เองระดบั น�ำ้ ก็จะลดลง เมือ่ ห่างไปอยอู่ ีกซกี หนง่ึ ระดับนำ้� กจ็ ะเพมิ่ ขึ้น จะเกิดปรากฏการณน์ ้�ำ ขน้ึ นำ�้ ลงในที่แห่งหนง่ึ ทุก 12 ชม. 25 น. 16 universe ���������������week8.indd 16 22/9/2563 2:56:17
จนั ทรปุ ราคา เกิดขึ้นเม่ือดวงอาทิตย์ โลก ดวงจนั ทร์ โคจรมาอยู่ใน แนวเสน้ ตรงเดยี วกนั โดยมีโลกอยูต่ รงกลาง ระหว่างดวงอาทติ ยแ์ ละดวง จันทร์ ขณะท่ดี วงจนั ทร์เคลอ่ื นผ่านเข้าไปในเขตเงาของโรค ทำ�ใหม้ องเห็นดวง จันทรม์ ืดไประยะเวลาหน่งึ ซ่งึ จะเกดิ ข้ึนในจนั ทร์วนั เพญ็ เทา่ นั้น ประมาณ 2-3 คร้งั ตอ่ ปี จันทรุปราคามี 3 แบบคอื 1. จันทรปุ ราคาเต็มดวง 2. จนั ทรุปราคาแบบมดื บางส่วน 3. จันทรุปราคา แบบเงามวั สุรยิ ปุ ราคา เกดิ ขึ้นเมอ่ื ดวงจันทรโ์ คจรไปอยูร่ ะหวา่ งดวงอาทติ ยก์ บั โลกใน แนวเส้นตรงเดยี วกันมี 3 แบบคอื 1. สุริยุปราคาเต็มดวง 2. สรุ ิยุปราคาบางส่วน 3. สรุ ยิ ุปราคาวงแหวน 17 universe ���������������week8.indd 17 22/9/2563 2:56:17
ดวงอาทติ ยเ์ ป็นศนู ย์กลางและมดี าวเคราะห์ต่างๆโคจรอยู่รอบๆดวงอาทติ ยใ์ ห้ พลงั งานความรอ้ นและแสงแกด่ าวบรวิ าร ดาวเคราะห์ท่ีสำ�คญั มอี ยู่ 9 ดวง โคจรรอบดวงอาทิตย์ ในระยะหา่ งออกมาเป็นชน้ั ๆ นบั จากดวงทีใ่ กล้สุดออก มาตามล�ำ ดบั คือ ดาวพธุ ดาวศุกร์ โลก ดาวองั คาร ดาวพฤหัส ดาว เสาร์ ดาวยเู รนสั ดาวเนปจนู และดาวพลโู ต ดาวเคราะห์ท้งั หมดน้ี มขี นาดโตกว่า โลก 4 ดวง และเลก็ กว่าโลก 4 ดวง บางคนเชือ่ ว่าไกลออกไปอาจมีบรวิ าร ของดวงอาทติ ย์มากกวา่ นอี้ ย่อู ีก ดาวเคราะห์ทกุ ดวงยกเวน้ ดาวพุธและดาวศุกรจ์ ะ มดี วงจนั ทร์วิ่งอยรู่ อบๆโลกมดี วงจนั ทร์ 1 ดวง ดาวเสาร์มี 17 ดวง นอกจากน้ี ในระบบสุริยะยงั มี ดาวเคราะห์นอ้ ยเปน็ กลุม่ สะเกด็ ดาวขนาดต่างๆกันวงิ่ วนเป็น แถบรอบดวงอาทติ ย์ ระหว่างดาวองั คารและดาวพฤหัสนอกจากนใี้ นอวกาศ ระหวา่ งดาว ยังมีสะเก็ดดาวและดาวหางอีกจำ�นวนหนงึ่ วง่ิ อยดู่ ว้ ย ระบบสุริยะเป็นก ลมุ่ ดาวกลุ่มหนึ่งของแกแล็กซที่ างชา้ งเผือก กลุ่มดาวจะโคจรรอบแกแลค็ ซี่ การเกดิ ระบบสุริยะนี้ อุบตั ิขึน้ เมือ่ ประมาณ 4600ลา้ นปีมาแล้ว แกแล็คซ่มี กี ลุ่มดาว จำ�นวนมากมายมหาศาลประมาณ สรี่ อ้ ยพนั ลา้ นดวง จัดเรยี งตัวกนั เป็นรูปวงรี 18 universe ���������������week8.indd 18 22/9/2563 2:56:17
สวัสดี.. - ช่ือ-นามสกุล: นาย อชติ พล ซํา ศิริ - ปวช.2/15 เลขท่ี 28 - ศึกษาที่: เทคโนโลยีสยามบรหิ ารธุรกิจ (SBAC สะพานใหม่) - สถานท่เี ทีย่ ว: ภูเขา , ทะเล - สที ี่ชอบ: เขยี ว , ฟ้า - สัตว์เล้ยี ง: งู - สัญชาต:ิ ไทย ศาสนา: พุทธ เชอ้ื ชาติ: ไทย กรปุ๊ เลอื ด: O - สงิ่ ทช่ี อบ: ฟังเพลง เลน่ เกม เล่นกีต้าร์ เทีย่ ว นอน - นิสัย: เป็นคนเงยี บๆ ติดเลน่ - นิสัยท่ีไม่ชอบ: เหลี่ยม นินทา - ทศ่ี กึ ษาเก่า: ลาดปลาเคา้ พิทาคม - งานอดเิ รก: ฟงั เพลง นอน เลน่ กีตา้ ร์ - วันเกดิ : วันท่ี 6 มีนาคม พ.ศ.2546 - อายุ 16ปี - คตปิ ระจํา ใจ: ความดีกเ็ หมอื นกางเกงท่ตี อ้ งมี ติดตัว ไวแ้ ต่ไมต่ ้องเอามาโชว์ 19 universe ���������������week8.indd 19 22/9/2563 2:56:17
อา้ งอิง 1. https://sites.google.com/site/rabbsuriya33/cakrwal- laea-xwkas” 2. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0% B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0 %B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E 0%B8%B0 3. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0% B8%B4%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0 %B8%87#:~:text=%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0% B8%81%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%87%20 (%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8% 81%E0%B8%A4%E0%B8%A9,%E0%B8%AD%E0%B 8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0% B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%83%E0 %B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E 0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A5% E0%B8%B2 20 universe ���������������week8.indd 20 22/9/2563 2:56:17
Search
Read the Text Version
- 1 - 19
Pages: