Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 23-Phattaradanaii

23-Phattaradanaii

Published by KITTIPAT NOIMAI, 2020-09-21 16:00:51

Description: 23-Phattaradanaii

Search

Read the Text Version

บทนำ� โลก (องั กฤษ: Earth) เปน็ ดาวเคราะห์ลำ�ดับที่สามจากดวงอาทิตย์ และเป็นวตั ถทุ าง ดาราศาสตร์เพียงหนง่ึ เดยี วท่ีทราบว่ามีสงิ่ มชี ีวิต จากการวัดอายุด้วยกัมมันตรงั สีและแหลง่ หลกั ฐานอน่ื ได้ความว่าโลกกำ�เนดิ เมือ่ ประมาณ 4,500 ลา้ นปกี ่อนโลกมอี ันตรกริ ยิ ะเชงิ โนม้ ถว่ งกบั วัตถุอน่ื ในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทติ ยแ์ ละดวงจนั ทร์ ซึง่ เปน็ ดาวบรวิ ารถาวรหน่งึ เดยี วของโลก โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ใช้เวลา 365.26 วัน เรียกว่า ปี ซง่ึ ระหวา่ งนนั้ โลก โคจรรอบแกนตวั เองประมาณ 366.26 รอบ 2 22/9/2563 2:59:51 23-Phattaradanaii.indd 2

ผู้จดั ท�ำ จัดทำ�โดย นาย ภทั รดนยั บุญญะกร ปวช/2/15 เลขท่ี 23 23-Phattaradanaii.indd 3 3 22/9/2563 2:59:51

สารบัญภาพ เน้ือหา หนา้ ที่ บทน�ำ 2 ผจู้ ัดทำ� 3 เนอื้ หา 5-10 ตาราง 11 รูปภาพ 12-13 ข้อมูลเกยี วกับระบบสุริยะ 14-18 ขอ้ มูลสว่ นตวั 19 อ้างอิง 20 4 22/9/2563 2:59:51 23-Phattaradanaii.indd 4

เนือ้ หา โลก (องั กฤษ: Earth) เป็นดาวเคราะหล์ ำ�ดบั ที่สามจากดวงอาทติ ย์ และเปน็ วตั ถทุ างดาราศาสตรเ์ พยี งหนงึ่ เดยี วท่ีทราบวา่ มสี ่งิ มีชีวิต จากการวัดอายุดว้ ยกัมมันตรงั สีและแหล่งหลกั ฐานอืน่ ได้ความว่าโลกก�ำ เนิดเมือ่ ประมาณ 4,500 ล้านปกี ่อน โลกมีอนั ตรกริ ิยะเชิงโน้มถ่วงกบั วัตถอุ นื่ ในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทติ ยแ์ ละ ดวงจนั ทร์ ซึ่งเปน็ ดาวบริวารถาวรหนึง่ เดียวของโลก โลกโคจรรอบดวงอาทิตยใ์ ชเ้ วลา 365.26 วนั เรยี กวา่ ปี ซง่ึ ระหวา่ งนัน้ โลกโคจรรอบแกนตวั เองประมาณ 366.26 รอบ แกนหมุนของโลกเอยี งทำ�ใหเ้ กดิ ฤดูกาล ตา่ ง ๆ บนผิวโลก อนั ตรกิรยิ าความโน้มถ่วงระหวา่ งโลกกับดวงจันทรก์ อ่ ใหเ้ กิดนำ้�ขนึ้ ลงมหาสมุทร ทำ�ให้ การหมุนบนแกนของโลกมีเสถียรภาพ และค่อย ๆ ชะลอการหมนุ ของโลกโลกเปน็ ดาวเคราะห์ทม่ี ีความ หนาแน่น สูงสุดในระบบสุรยิ ะและใหญส่ ดุ ในดาวเคราะห์คลา้ ยโลก 4 ดวง ธรณีภาคของโลกแบง่ ออกไดเ้ ป็นหลาย ๆ ส่วน เรียกวา่ แผน่ ธรณีภาค ซึ่งยา้ ยทีต่ ดั ผ่านพืน้ ผวิ ตลอดเวลาหลายลา้ นปี ร้อยละ 71 ของพ้ืนผิวโลก ปกคลุมด้วยน้ำ� ซ่ึงส่วนใหญเ่ ป็นมหาสมทุ ร อีกรอ้ ยละ 29 ทเี่ หลอื เปน็ แผ่นดินประกอบด้วยทวีปและเกาะซ่งึ มีทะเลสาบ แมน่ �ำ้ และแหลง่ น�ำ้ อ่ืนจำ�นวนมากกอปรเปน็ อทุ กภาค บรเิ วณขวั้ โลกทง้ั สองปกคลมุ ดว้ ยนำ�้ แขง็ เป็นสว่ นใหญ่ ได้แกแ่ ผ่นน้ำ�แข็งแอนตารก์ ติก และน�ำ้ แข็งทะเลของแพน้ำ�แข็งข้ัวโลก บรเิ วณภายในของ โลกยังคงม-ี ความเคล่ือนไหวโดยมแี ก่นชน้ั ในซึง่ เป็นเหลก็ ในสถานะของแข็ง มแี กน่ เหลวชน้ั นอกซึง่ ก�ำ เนิด สนามแมเ่ หลก็ และช้ันแมนเทิลพาความร้อนทขี่ บั เคล่อื นการแปรสัณฐานแผ่นธรณีภาค ภายในพนั ล้านปี แรก สิ่งมชี ีวติ ปรากฏขน้ึ ในมหาสมทุ รและเร่มิ ส่งผลกระทบตอ่ ช้นั บรรยากาศและผวิ ดาว เกือ้ หนนุ ใหเ้ กดิ การแพรข่ ยายของสิง่ มีชวี ิตท่ใี ชอ้ อกซิเจนเช่นเดยี วกับสง่ิ มชี วี ิตทีไ่ มใ่ ช้ออกซิเจน หลกั ฐานธรณวี ิทยาบาง ส่วนชี้ว่าชวี ิตอาจกำ�เนิดข้นึ เรว็ สดุ 4.1 พันลา้ นปกี อ่ นนบั แต่นัน้ ต�ำ แหน่งของโลกในระบบสุริยะ คุณสมบตั ิ ทางกายภาพของโลก และประวัตศิ าสตรธ์ รณวี ิทยาของโลกประกอบกันทำ�ใหส้ ิ่งมชี วี ิตวิวัฒนาการและ แพรพ่ นั ธุ์ได้ ในประวัติศาสตรข์ องโลก ความหลากหลายทางชีวภาพผา่ นระยะการขยายยาวนาน แตถ่ ูก ขัดจังหวะบางครง้ั ดว้ ยการสูญพนั ธคุ์ ร้ังใหญก่ ว่ารอ้ ยละ 99 ของสปีชสี ์ท้ังหมดท่ีเคยอยู่อาศยั บนโลกนนั้ สูญ พนั ธไุ์ ปแล้ว ประมาณการจ�ำ นวนสปชี สี ์บนโลกปัจจุบนั มีหลากหลาย และสปีชสี ส์ ่วนใหญย่ ังไม่มผี ู้อธิบาย มนษุ ยก์ ว่า 7.6 พันล้านคนอาศัยอยบู่ นโลกและอาศยั ชีวมณฑลและทรัพยากรธรรมชาตขิ องโลกเพ่อื การอยู่รอด มนษุ ย์ พัฒนาสังคมและวัฒนธรรมหลากหลาย ในทางการเมอื ง โลกมีรฐั เอกราชกว่า 200 รฐั 23-Phattaradanaii.indd 5 5 22/9/2563 2:59:51

ชื่อและศพั ทมลู วทิ ยา คำ�ว่า โลก ในภาษาไทยมีท่ีมาจากค�ำ ในภาษาบาลี โลก (โล-กะ) คนไทยใชค้ �ำ นี้เรียกโลกตง้ั แตเ่ มอื่ ใดนั้นไม่ ปรากฏหลกั ฐานแน่ชัด แตค่ าดวา่ นา่ จะได้รบั อทิ ธิพลสืบทอดผ่านมาทางพระพทุ ธศาสนา เดมิ น้นั คำ�ว่าโลกไมไ่ ด้ หมายความเฉพาะเพยี งแต่โลกทีเ่ ปน็ วัตถธุ าตุ แตใ่ ชใ้ นหลายความหมาย ไดแ้ ก่ “หม”ู่ “เหล่า” “ขอบเขต” “ทง้ั หมด ในขอบเขต” “ขอบเขตอาศัย” “ความเปน็ ไป” “ความเป็นอยู่”[40] หากกลา่ วถึงโลกทัง้ ๓ ก็จะหมายถึง สังขารโลก (โลกคือสงั ขาร) สตั ว์โลก (โลกคอื หม่สู ตั ว)์ และโอกาสโลก (โลกคอื แผ่นดนิ ) ปัจจุบันมกี ารใช้ค�ำ ว่า โลกในความ หมายเก่ียวขอ้ งกับมนุษย์ หรืออารยธรรมมนษุ ย์ (ซงึ่ ตรงกบั ค�ำ ว่า World ในภาษาอังกฤษ) นอกเหนือจากความหมาย ดาวเคราะหท์ ่นี ยิ มใช้ทั่วไป คำ�วา่ โลกในภาษาต่างประเทศ อังกฤษรว่ มสมยั ใชค้ �ำ วา่ Earth พัฒนามาจากรปู แบบภาษาอังกฤษสมัยกลางตา่ ง ๆ กนั ซ่งึ สืบมาจากค�ำ นามในภาษาองั กฤษสมยั เกา่ ทีน่ ิยมสะกดว่า eorðe มรี ากเดียวกนั กบั ทกุ ภาษาในกลมุ่ เจอรแ์ มนิ ก และโปรโตเจอรแ์ มนิกทไ่ี ดป้ ระกอบเปน็ *erþ ตามทีป่ รากฏในสมัยแรก ๆ มกี ารใช้ค�ำ eorðe เพอื่ แปลความจาก คำ�ภาษาลาติน terra และภาษากรีก (g) ในความหมาย พืน้ ดิน] ดนิ ผนื ดนิ แห้ง โลกมนษุ ย์ พน้ื ผวิ ของโลก (รวมทัง้ ทะเล) ตลอดจนพิภพโลกทง้ั มวล เช่นเดยี วกนั กับเทอร์ราและไกอา โลกถือว่าเปน็ เทพเจา้ ตามลทั ธเิ พเกนิ ของชาว เจอรแ์ มนิก-ชาวแองเกลิ ตามที่แทซทิ สั ได้บนั ทกึ ไว้ในบรรดาผศู้ รัทธาในเทพเนอทสั และภายหลงั ตามเทวต�ำ นาน นอรส์ คอื ยรู ด์ (Jörð) ยกั ษิณีซง่ึ สมรสกบั โอดนิ และเปน็ มารดาของทอร์ อกี หลายภาษาท่มี คี วามเปน็ มาใกลเ้ คยี งกับไทยเชน่ ภาษาลาวกเ็ รียกโลกวา่ (โลก) เช่นเดยี วกัน ปจั จบุ นั เยอรมันใช้ ค�ำ เรยี กโลกคือ Erde (แอรเ์ ดอะ) คลา้ ยกบั ดตั ช์ Aarde (อาร์เดอะ), กลุ่มภาษาโรมานซ์ สเปนใช้ค�ำ Tierra (ตเี อร์รา) คลา้ ยกบั อติ าลีทใี่ ช้ Terra (เตร์รา) หรือฝร่งั เศส Terre (แตร)์ , ภาษาจนี ใช้ (Dìqiú ต้ฉี วิ ) หรอื (Knyú คนุ หย)ู๋ ญ่ีปุ่น เรยี ก (Chiky จคิ ีว) เกาหลีเรยี ก (Jigu ชกี ู) และสนั สกฤตใช้ค�ำ (ปฐวี) 6 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 6

การก�ำ เนดิ วัตถุแรกเร่มิ ท่สี ดุ ทพี่ บในระบบสรุ ิยะมีอายุย้อนหลังไปถึง 4.5672±0.0006 พันล้านปกี อ่ น โลกยุคแรกเร่ิมถือก�ำ เนิด ข้นึ เม่ือ 4.54±0.04 พนั ลา้ นปกี อ่ น[30] มีการกอ่ ก�ำ เนดิ และวิวฒั นาการของวตั ถตุ ่าง ๆ ในระบบสรุ ยิ ะรว่ มกับดวง อาทิตย์ ตามทฤษฎีแลว้ เนบิวลาสรุ ิยะแยกสว่ นอาณาบริเวณหนึง่ ออกจากเมฆโมเลกลุ โดยการยบุ ตัวจากแรงโนม้ ถว่ ง ซึ่งเร่มิ หมุนและแบนลงเป็นจานรอบดาวฤกษ์ จากนนั้ ดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ เกิดขน้ึ จากจานนัน้ พรอ้ มกบั ดวงอาทิตย์ ในเนบวิ ลาประกอบด้วยกา๊ ซ เม็ดน�้ำ แขง็ และฝุ่น (รวมทั้งนิวไคลดแ์ รกก�ำ เนดิ ) ตามทฤษฎีเนบวิ ลา พลาเนตติซมิ ัล (planetesimal) หรือวัตถแุ ข็งทีจ่ ะก่อกำ�เนดิ ดาวเคราะห์ เกิดขน้ึ จากการงอกพอกพนู โดยโลกบรรพกาลใชเ้ วลาก่อ ก�ำ เนดิ 10–20 ลา้ นปี ดวงจันทร์ก�ำ เนิดขึ้นเมอ่ื ประมาณ 4.53 พนั ลา้ นปีก่อน[58] การก�ำ เนิดของดวงจนั ทร์ยงั เปน็ หวั ขอ้ การวิจัยในปัจจบุ ัน สมมตฐิ านนำ�กล่าววา่ ดวงจนั ทร์ถือก�ำ เนิดขน้ึ โดยการพอกพูนจากวตั ถุทหี่ ลุดออกจากโลกหลังจากโลกถกู วตั ถขุ นาด ใหญ่เท่าดาวองั คารช่ือวา่ เธยี (Theia) พงุ่ เขา้ ชน แบบจำ�ลองนก้ี ะว่ามวลของเธียคดิ เปน็ ประมาณร้อยละ 10 ของมวล โลก] พ่งุ เข้าชนโลกในลักษณะแฉลบและมวลบางสว่ นรวมเขา้ กบั โลก ในระหว่างเวลาประมาณ 4.1 และ 3.8 พัน ล้านปกี อ่ น ดาวเคราะห์นอ้ ยจำ�นวนมากพุ่งชนระหว่างการระดมชนหนกั คร้ังสดุ ท้าย ก่อให้เกดิ การเปลี่ยนแปลง อย่างใหญห่ ลวงกบั บริเวณพืน้ ทีผ่ ิวสว่ นใหญ่ของดวงจนั ทรร์ วมทง้ั โลก 23-Phattaradanaii.indd 7 7 22/9/2563 2:59:52

ประวตั ิทาง บรรยากาศโลกและมหาสมุทรประกอบขน้ึ จากกัมมนั ตภาพภเู ขาไฟและกระบวนการปล่อยกา๊ ซ (outgassing) ไอ นำ�้ จากสองแหล่งดงั กล่าวควบแนน่ เป็นมหาสมทุ ร รวมกับนำ�้ และนำ�้ แขง็ ทีม่ ากับดาวเคราะห์นอ้ ย ดาวเคราะห์ก่อน เกดิ และดาวหาง ตามแบบจำ�ลองน้ี “ก๊าซเรือนกระจก” ในบรรยากาศชว่ ยรกั ษามหาสมุทรไมใ่ หเ้ ยือกแขง็ เมือ่ ดวง อาทิตย์ทเ่ี พ่ิงกอ่ ก�ำ เนดิ ยังมคี วามสว่างเพียงรอ้ ยละ 70 เทียบกบั ปจั จบุ นั ราว 3.5 พนั ลา้ นปกี อ่ น เกิดสนามแมเ่ หล็ก โลกซงึ่ ชว่ ยปกปอ้ งบรรยากาศไมใ่ ห้ถกู ลมสรุ ิยะพัดพาไป เปลือกโลกก่อรปู ขึ้นเม่อื ช้นั นอกที่หลอมเหลวของโลกเยน็ ตวั ลงจนอยใู่ นสถานะแขง็ มีแบบจ�ำ ลองสองแบบจำ�ลอง ท่ีอธบิ ายการเกดิ ขน้ึ ของแผน่ ดินโดยแบบจ�ำ ลองหนง่ึ เสนอว่า แผน่ ดนิ ค่อย ๆ เกิดขึน้ จนมรี ูปร่างดงั ในปจั จบุ ัน อกี แบบจ�ำ ลองหนงึ่ ซ่ึงอาจเปน็ ไปได้มากกว่า เสนอว่าแผน่ ดินเตบิ โตอย่างรวดเร็ว ตง้ั แตช่ ่วงแรก ๆ ในประวตั ิศาสตร์ โลก อนั เนอ่ื งมาจากการดำ�รงอยู่มาตอ่ เนอ่ื งยาวนานของพน้ื ทสี่ ว่ นทวปี ทวีปต่าง ๆ เกิดขึ้นโดยการแปรสณั ฐานแผ่น ธรณีภาคซึ่งเปน็ กระบวนการท่ีมสี าเหตจุ ากการสูญเสยี ความรอ้ นของ บรเิ วณภายในของโลกอย่างตอ่ เน่ือง ตามมาตรเวลากว่าหลายร้อยล้านปี มกี ารรวมมหาทวปี แล้วแยกออกจากกนั ประมาณ 750 ล้านปกี ่อน มหาทวปี แรก ๆ ที่ทราบชื่อโรดเิ นยี เริ่มแตกออกจากกนั ตอ่ มาทวปี ทั้งหลายกลับมารวม กนั เปน็ มหาทวปี แพนโนเชียเม่อื ราว 600–540 ลา้ นปีก่อน และสุดทา้ ยคอื มหาทวปี แพนเจียซง่ึ กแ็ ยกออกจากกันเม่ือ ราว 180 ลา้ นปีกอ่ น รปู แบบปัจจบุ นั ของยคุ น้ำ�แขง็ เร่ิมขน้ึ เม่ือประมาณ 40 ลา้ นปีก่อนแล้วทวคี วามรุนแรงขน้ึ ระหว่างสมัยไพลสโตซีน เม่อื ราว 3 ล้านปีก่อน ตัง้ แต่น้นั เปน็ ต้นมาบริเวณละติจูดสูง ๆ เผชิญกับวัฏจักรการเกิดของธารน�้ำ แข็งสลบั กับการ ละลายแบบเวียนซ�ำ้ โดยอบุ ตั ซิ ้ำ�ในทกุ ๆ 40,000–100,000 ปี การเปลีย่ นสภาพโดยธารนำ�้ แข็งของทวีปคร้ังสดุ ทา้ ย สนิ้ สดุ ลงเมอ่ื ประมาณ 10,000 ปกี อ่ น 8 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 8

ววิ ัฒนาการของสงิ่ มชี วี ติ คาดกนั ว่าปฏกิ ริ ิยาเคมีพลงั งานสูงท�ำ ใหเ้ กิดโมเลกุลที่สามารถถ่ายแบบตนเองได้เม่ือราวสี่พันลา้ นปีก่อน อีกครงึ่ พันล้านปีตอ่ มา เกิดบรรพบุรษุ รว่ มสดุ ทา้ ยของสรรพชีวิต ววิ ัฒนาการของการสังเคราะห์ดว้ ยแสงท�ำ ให้บรรดา สิ่งมชี วี ติ สามารถเกบ็ เกยี่ วพลงั งานจากดวงอาทิตยไ์ ดโ้ ดยตรง ออกซเิ จนในรปู โมเลกลุ ทีเ่ กดิ จากการสังเคราะห์ ด้วยแสงมีการสะสมในบรรยากาศ และดว้ ยผลกระทบจากรงั สีอลั ตราไวโอเลตจากดวงอาทิตยจ์ ึงได้กอ่ ช้ันเกราะ โอโซน ข้นึ ในบรรยากาศเบอื้ งบน การรวมเซลลข์ นาดเล็กในเซลลท์ ีใ่ หญก่ ว่าทำ�ให้เกดิ พัฒนาการของเซลล์ซับ ซอ้ นเรียกว่า ยูแครโิ อต สง่ิ มีชวี ติ หล”ายเซลล์ท่แี ทจ้ รงิ เกิดขน้ึ เม่ือเซลลต์ า่ ง ๆ ภายในโคโลนมี กี ารแบง่ หน้าทเี่ ฉพาะ มากข้นึ เนือ่ งจากช้ันโอโซนช่วยดดู ซับรังสีอัลตราไวโอเลตอนั เปน็ อนั ตรายออกไป สง่ิ มชี วี ิตจึงอยอู่ าศยั ไดบ้ นพน้ื ผิวโลก หลักฐานทางบรรพชวี ินแรก ๆ ของสง่ิ มชี วี ิตบนโลกคือ ซากดกึ ด�ำ บรรพ์ผืนจลุ ชีพท่พี บในหนิ ทรายอายุ 3.48 พนั ล้านปีในออสเตรเลยี ตะวนั ตก แกรไฟตช์ วี ภาพในชน้ั หินตะกอนแปรอายเุ กา่ แก่ประมาณ 3.7 พันล้านปีค้น พบในกรีนแลนด์ตะวันตก หลักฐานโดยตรงของสง่ิ มชี ีวติ บนโลกอยา่ งแรกอย่ใู นหินออสเตรเลียอายุ 3.45 พันลา้ น ปที ีแ่ สดงซากดกึ ดำ�บรรพ์ ของจลุ นิ ทรีย์ ระหว่างมหายุคนีโอโปรเทอโรโซอกิ (750 และ 580 ลา้ นปกี ่อน) บรเิ วณ ส่วนใหญ่ของโลกถกู น้�ำ แข็งปกคลุม สมมตฐิ านนชี้ ่อื “โลกก้อนหมิ ะ” และมีความนา่ สนใจเป็นพิเศษเนอ่ื งจากเปน็ เหตุการณท์ ี่เกดิ ขน้ึ กอ่ นการระเบดิ แคมเบรยี น เม่อื สิง่ มีชีวติ มคี วามซบั ซอ้ นเพม่ิ ข้นึ อย่างส�ำ คญั นับจากการระเบดิ แคมเบรยี นราว 535 ล้านปกี อ่ น เกดิ การสูญพนั ธ์ุของส่ิงมชี วี ติ คร้งั ใหญห่ า้ คร้งั เหตกุ ารณ์สญู พนั ธ์ุครั้งล่าสุดเกดิ ข้ึน เม่อื 66 ล้านปีก่อนเมือ่ การพุง่ ชนของดาวเคราะหน์ อ้ ยเปน็ เหตุใหเ้ กิดการสญู พันธุ์ของไดโนเสาร์ (ทีไ่ ม่ใช่นก) และ สตั ว์เล้อื ยคลานขนาดใหญอ่ นื่ ๆ แตส่ ัตวข์ นาดเลก็ บางสว่ นเหลือรอดมาไดเ้ ช่นสัตว์เลย้ี งลูกด้วยนมซ่งึ มีลักษณะ คล้ายหนู ตลอด 66 ลา้ นปตี อ่ มา สตั ว์เลยี้ งลกู ด้วยนมได้แตกแขนงออกไปมากมาย และเม่อื หลายล้านปที แี่ ลว้ สัตว์ คล้ายลงิ ใหญ่ไมม่ ีหางแอฟรกิ า เชน่ Orrorin tugenensis มีความสามารถยืนดว้ ยลำ�ตัวต้ังตรง ท�ำ ใหส้ ามารถใชเ้ คร่อื ง มอื และเก้ือหนุนการสอ่ื สารระหว่างกนั น�ำ มาซงึ่ โภชนาการและการกระตนุ้ ทีจ่ ำ�เป็นส�ำ หรับสมองขนาดใหญ่ข้ึน นำ� ไปสูว่ วิ ฒั นาการของเผา่ พันธ์ุมนษุ ย์ การพัฒนาเกษตรกรรมและอารยธรรมในเวลาตอ่ มา ชว่ ยให้มนษุ ย์มีอิทธพิ ลต่อ โลกและธรรมชาติ และมีจ�ำ นวนของ 23-Phattaradanaii.indd 9 9 22/9/2563 2:59:52

อนาคต อนาคตระยะยาวทคี่ าดหมายของโลกนน้ั เกย่ี วข้องกบั อนาคตของดวงอาทติ ย์ ความสว่างของดวงอาทติ ยจ์ ะเพิ่มขน้ึ อีกรอ้ ยละ 10 ในอกี 1.1 พันลา้ นปี และรอ้ ยละ 40 เมอ่ื ตลอดเวลา 3.5 พนั ล้านปถี ดั จากน้ัน การเพม่ิ ขน้ึ ของอุณหภูมิ พืน้ ผวิ โลกจะเรง่ วฏั จกั รคาร์บอนอนนิ ทรยี ์ ลดความเข้มข้นของคารบ์ อนไดออกไซดจ์ นพืชไม่สามารถด�ำ รงชวี ติ อยู่ ได้ (10 สว่ นในล้านสว่ นในพชื ทส่ี ังเคราะหด์ ว้ ยแสงแบบซี4) ในระยะเวลาประมาณ 500–900 ลา้ นปีข้างหน้า การ ขาดแตลนพชื จะสง่ ผลกระทบใหอ้ อกซเิ จนหายไปจากบรรยากาศ ทำ�ใหส้ ัตว์อยู่ไม่ได้ คล้อยหลงั ไปอีกพนั ลา้ นปี ปรมิ าณนำ�้ ทง้ั หมดบนผิวโลกจะสูญสน้ิ และอณุ หภูมเิ ฉล่ียของโลกจะพุ่งข้ึนไปถึง 70 องศาเซลเซียส คาดหมายวา่ โลกจะพออยูอ่ าศัยได้อีกประมาณ 500 ล้านปีนับจากจดุ นัน้ หรอื อาจยดื ออกไปถงึ 2.3 พันล้านปถี ้าไนโตรเจนหมด ไปจากบรรยากาศ แม้วา่ ดวงอาทติ ยจ์ ะมอี ายุนิรนั ดร์และมีความเสถียร กว่ารอ้ ยละ 27 ของนำ้�ในมหาสมุทรปจั จบุ ันก็ จะไหลส่เู น้ือโลกในเวลาหนึง่ พนั ลา้ นปี เนอ่ื งจากไอน้�ำ ทีป่ ะทอุ อกมาจากสันกลางมหาสมุทรลดลง ดวงอาทิตยจ์ ะวิวฒั นาการเป็นดาวยักษ์แดงในราว 5 พนั ล้านปขี ้างหนา้ แบบจ�ำ ลองทำ�นายว่าดวงอาทติ ย์จะขยายตัว ออกประมาณ 1 หน่วยดาราศาสตร์ 150,000,000 กโิ ลเมตร หรือประมาณ 250 เท่าของรศั มปี ัจจบุ ัน ชะตาของโลก นั้นยงั ไมช่ ดั เจนนัก เม่ือเปน็ ดาวยักษ์แดงแลว้ ดวงอาทติ ย์จะสูญเสียมวลไปประมาณรอ้ ยละ 30 ดังนนั้ หากปราศจาก ผลจากฤทธิ์ไทด์ โลกจะเคลอ่ื นไปโคจรห่างจากดวงอาทิตย์ 1.7 หน่วยดาราศาสตร์ (250,000,000 กิโลเมตร) เมื่อ ดาวมรี ศั มมี ากท่ีสุด ส่ิงมีชีวิตที่ยงั เหลอื อย่เู กือบทง้ั หมดหรือทัง้ หมดกจ็ ะถูกท�ำ ลายจากความสว่างท่ีเพิ่มขนึ้ ของดวง อาทิตย์ (เพม่ิ ขนึ้ สูงสุดท่ปี ระมาณ 5,000 เทา่ จากระดบั ปจั จุบัน) การจ�ำ ลองในปี ค.ศ. 2008 ชว้ี ่า สดุ ทา้ ยวงโคจรของ โลกจะเสอ่ื มสลายอนั เนือ่ งมาจากผลจากแรงไทด์ และลากเอาโลกให้ตกเข้าสบู่ รรยากาศของดวงอาทติ ย์ทเี่ ปน็ ยกั ษ์ แดงนัน้ แลว้ กร็ ะเหยไปจนหมดส้นิ ส่ิงมชี วี ติ อนื่ ซ่ึงยังมผี ลมาจนทุกวันน้ี 10 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 10

23-Phattaradanaii.indd 11 ตาราง โลกเปน็ ดาวเคราะห์ดวงหนึง่ เปน็ บริวารของดวงอาทิตย์เป็นลำ�ดับที่ 3 โลกมีสัณฐานกลม โดยโปง่ ออกทเี่ ส้นศนู ยส์ ตู รและแบนท่ีข้ัวโลกมีเส้น ผา่ นศูนย์กลางเฉลยี่ 12,766 กโิ ลเมตร โลกไมอ่ ยนู่ ิ่งแต่มีการเคลอ่ื นที่ ใน 2 ลกั ษณะที่ส�ำ คญั คือ โลกหมนุ รอบตวั เองใชเ้ วลา 24ชั่วโมง หรือ 1 วัน จากทศิ ตะวันตกไปยังทศิ ตะวนั ออก ท�ำ ให้เกดิ เวลากลางวันและกลาง คืน ขณะเดียวกัน โลกก็หมุนรอบดวงอาทิตย์ดว้ ย โดยโลกหมุนรอบดวง อาทิตย์ครบ 1 รอบ กินเวลาประมาณ 365 วัน หรือ 1 ปี ดวงอาทิตย์ เป็นดาวฤกษท์ อี่ ยใู่ กล้โลกของเรามากที่สุดอายปุ ระมาณ 4,600 ลา้ นปี อย่หู ่างประมาณ 150 ล้านกิโลเมตรพลงั งานจากดวงอาทิตย์ ช่วยใหโ้ ลกอบอุน่ จำ�เปน็ ต่อสง่ิ มชี วี ติ โดยเฉพาะความรอ้ นและแสงสว่าง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งโลกและดวงอาทติ ย์ยังทำ�ให้เกิดฤดกู าล กระแสน�ำ้ ในมหาสมทุ ร ตลอดจนการเปลยี่ นแปลงของสภาพภมู ิอากาศ เปน็ ต้น เป็นดาวทโ่ี คจรรอบดาวฤกษ์ (ซง่ึ ในท่ีนีห้ มายถงึ ดวงอาทติ ย)์ แต่ ไมใ่ ชด่ าวฤกษ์ และไมใ่ ชด่ าวบรวิ าร มีมวลมากพอทจ่ี ะมีแรงโนม้ ถ่วงดึงดดู ตวั เองใหอ้ ยู่ในสภาวะสมดลุ อทุ กสถติ หรือรปู รา่ งใกล้ เคียงกบั ทรงกลม มีวงโคจรที่ชัดเจนและสอดคล้องกับดาวเคราะห์ ขา้ งเคยี ง มขี นาดเส้นผา่ นศนู ยก์ ลางอย่างนอ้ ย 500 ไมล์ (804.63 กโิ ลเมตร) ระบบสุริยะ (Solar System) คือ ระบบดาวที่มดี าวฤกษ์เปน็ ศนู ยก์ ลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เป็นบรวิ ารโคจรอยู่โดยรอบ ซึ่งระบบสุริยะทโ่ี ลกเราเป็นบริวารอยู่ ประกอบดว้ ย ดวงอาทิตย์ (The sun) เปน็ ศนู ยก์ ลาง มดี าวเคราะห์ (Planets) 8 ดวง ไดแ้ ก่ ดาว พธุ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยเู รนัส ดาว เนปจนู ตามล�ำ ดบั 11 22/9/2563 2:59:52

รปู ภาพ 12 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 12

23-Phattaradanaii.indd 13 13 22/9/2563 2:59:52

ขอ้ มลู และภาพประกอบ โลก เปน็ ดาวเคราะห์ล�ำ ดบั ทีส่ ามจากดวงอาทติ ย์ และเป็นวตั ถุทางดาราศาสตร์เพยี งหนึ่งเดยี วท่ี ทราบวา่ มสี งิ่ มีชวี ติ จากการวดั อายุด้วยกมั มนั ตรงั สีและแหลง่ หลกั ฐานอ่ืนได้ความว่าโลกกำ�เนิดเม่อื ประมาณ 4,500 ลา้ นปีก่อน โลกมอี นั ตรกริ ิยะเชิงโน้มถว่ งกบั วตั ถุอน่ื ในอวกาศโดยเฉพาะดวงอาทติ ย์ และดวงจนั ทร์ ซ่ึงเปน็ ดาวบรวิ ารถาวรหน่งึ เดยี วของโลก โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ใชเ้ วลา 365.26 วัน เรยี กวา่ ปี ซึ่งระหวา่ งน้นั โลกโคจรรอบแกนตัวเองประมาณ 366.26 รอบ 14 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 14

ดาวเคราะหค์ ือดาวทไ่ี ม่มแี สงสว่างในตวั เอง แต่สะท้อนแสงอาทิตย์ส่องเขา้ ไปตาเรา ดาวเคราะห์แต่ละดวง 1. ดาวพธุ เป็นดาวเคราะหท์ อ่ี ยูใ่ กล้ดวงอาทติ ยม์ ากท่สี ุด ไม่มดี าวบริวาร และเป็นดาวเคราะห์ทเ่ี ลก็ ท่สี ดุ ใน ระบบสรุ ิยะ 2. ดาวศุกร์ เปน็ ดาวเคราะห์เพ่อื นบา้ นทอ่ี ยูใ่ กล้โลกมากท่สี ดุ ไมม่ ีดวงจนั ทรเ์ ปน็ ดาวบริวาร มขี นาดเล็กกว่า แต่ก็ใกลเ้ คยี งกับโลกมาก จนไดช้ ่อื ว่าเปน็ ฝาแฝดกบั โลก เราสามารถสังเกตเหน็ ดาวศกุ รไ์ ด้ด้วยตาเปลา่ 3. ดาวอังคาร มขี นาดเล็กกว่าโลก เส้นผ่านศูนย์กลางราว 6,794 กโิ ลเมตร พืน้ ผิวดาวอังคารมปี รากฏการณ์ เมฆและพายุฝุน่ เสมอ เป็นท่ีน่าสนใจในการศกึ ษาของนักวทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ อยา่ งมากเนือ่ งจากมลี ักษณะและ องค์ประกอบ 4. ดาวพฤหัสบดี เปน็ ดาวเคราะหท์ ่ใี หญท่ ี่สุดในระบบสรุ ิยะจักรวาล มีขนาดเสน้ ผ่านศูนย์กลางยาวกวา่ โลก 11 เทา่ หมนุ รอบตวั เอง 1 รอบใชเ้ วลา 9.8 ชั่วโมง ซง่ึ เรว็ ท่ีสดุ ในบรรดาดาวเคราะห์ท้ังหลาย และโคจรรอบ ดวงอาทติ ย์ 1 รอบ ใช้เวลา 12 ปี 5 . ดาวเสาร์ เปน็ ดาวเคราะห์ทเี่ ราสามารถมองเห็นได้ดว้ ยตาเปลา่ เป็นดาวทีป่ ระกอบไปดว้ ยกา๊ ซและ ของเหลวสีคอ่ นข้างเหลอื ง หมนุ รอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลา 10.2 ช่วั โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้ เวลา 29 ปี 6. ดาวยูเรนสั หรือดาวมฤตยู เปน็ ดาวเคราะห์แก๊สขนาดใหญ่ มีดวงจนั ทร์บรวิ าร 27 ดวง หมนุ รอบตัวเอง 1 รอบ ใช้เวลา 16.8 ช่วั โมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้เวลานานถงึ 84 ปี 7. ดาวเนปจนู หรือดาวเกตุ เปน็ ดาวเคราะหข์ นาดใหญเ่ ป็นที่ 4 ในระบบสรุ ยิ ะ มเี ส้นผ่านศูนย์กลางราว 50,000 กโิ ลเมตร จโุ ลกไดถ้ ึง 60 ดวง ระยะหา่ งเฉล่ียจากดวงอาทิตย์ 4,504 ลา้ นกโิ ลเมตร หมนุ รอบตวั เอง ครบรอบในเวลา 16 ชัว่ โมงอยไู่ กลจากโลกมากจนไม่สามารถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปลา่ 23-Phattaradanaii.indd 15 15 22/9/2563 2:59:52

ดาวเคราะห์ทงั้ 8 สามารถแบ่งออกเปน็ กลมุ่ ๆ ได้ดังน้ี 1. แบง่ ตามลักษณะทางกายภาพ - ดาวเคราะห์ชั้นใน (Inner or Terrestrial Planets) : จะเป็นกลุม่ ดาวเคราะห์ ทีอ่ ยใู่ กลด้ วงอาทิตยม์ ากกว่า อีกกลมุ่ เป็นดาวเคราะหท์ ่ีเย็นตวั แลว้ มากกวา่ ท�ำ ให้มีผวิ นอกเป็นของแขง็ เหมือนผวิ โลกของเรา จึงเรยี กว่า Terrestrial Planets (หมายถงึ “บนพืน้ โลก”) ไดแ้ ก่ ดาวพธุ (Mercury), ดาวศกุ ร์(Venus), โลก (Earth) และดาว อังคาร (Mars) ซึ่งจะใชแ้ ถบของ ดาวเคราะห์นอ้ ย (Asteroid Belt) เปน็ แนวแบ่ง - ดาวเคราะหช์ น้ั นอก (Outer or Jovian Planets) : จะเปน็ กลุม่ ดาวเคราะห์ ท่อี ยไู่ กลดวงอาทติ ยม์ ากกว่า อีกกลมุ่ เป็นดาวเคราะห์ที่เพ่งิ เย็นตวั ทำ�ให้มผี ิวนอก ปกคลมุ ดว้ ยก๊าซ เปน็ ส่วนใหญ่ เหมือนพื้นผิวของดาว พฤหัส ทำ�ให้มชี ือ่ เรียกวา่ Jovian Planets (Jovian มาจากคำ�ว่า Jupiter-like หมายถึง คลา้ ยดาวพฤหสั ) ไดแ้ ก่ ดาวพฤหสั (Jupiter), ดาวเสาร์ (Saturn), ดาวยูเรนสั (Uranus), ดาวเนปจูน (Neptune) 2. แบ่งตามวงทางโคจรดังน้ี คือ - ดาวเคราะหว์ งใน (Interior planets) หมายถึง ดาวเคราะหท์ อ่ี ยูใ่ กล้ดวงอาทิตยม์ ากกวา่ โลก ได้แก่ดาวพธุ และดาวศกุ ร์ - ดาวเคราะหว์ งนอก (Superior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ที่อยู่ถดั จากโลกออกไป ไดแ้ ก่ ดาวองั คาร ดาวพฤหสั บดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนสั ดาวเนปจูน 16 23-Phattaradanaii.indd 16 22/9/2563 2:59:52

ดวงอาทิตย์ เป็นกลมุ่ ก๊าซขนาดใหญ่ทลี่ ุกไหม้อยตู่ ลอดเวลา มีอณุ หภูมสิ งู มาก และแผ่ความร้อนกระจาย ไปโดยรอบ ดวงอาทติ ย์จงึ เป็นดาวทมี่ แี สงสวา่ งในตวั เองหรือดาวฤกษ์ มีองค์ประกอบสว่ นใหญเ่ ปน็ ก๊าซ ไฮโดรเจน ท่ีใจกลางของดวงอาทิตย์ มีอุณหภมู แิ ละแรงดันสูงมาก จนทำ�ให้ก๊าซไฮโดรเจนหลอมรวมกนั เปน็ ก๊าซฮีเลียม และแผพ่ ลังงานออกมาอยา่ งมหาศาล เปน็ ความรอ้ นและแสงสว่าง เราเรยี กปฏิกริ ยิ านี้ว่า “ปฏิ กริ ยิ านวิ เคลยี รฟ์ วิ ชนั ”พลงั งานความรอ้ น และแสงสวา่ ง จากดวงอาทิตย์นเี้ อง ทเ่ี อ้ือให้เกดิ ส่งิ มีฃวี ติ บนโลก ของเรา เป็นดาวท่ีมขี นาดใหญ่แตอ่ ยู่ห่างไกลจากโลกออกไป จงึ ทำ�ให้เรามองเห็นดวงอาทติ ย์มีขนาดเลก็ ดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นทรงกลม อย่หู ่างจากโลกเราประมาณ 150 ล้านกิโลเมตร ใหแ้ สงสวา่ งและพลังงาน ความร้อนมาสโู่ ลก ดวงอาทิตยจ์ ดั เป็นแหล่งพลงั งานท่ีส�ำ คญั ท่สี ุดของโลก ดวงอาทติ ยเ์ ปน็ ศูนย์กลางของ ระบบสรุ ิยะนอกจากน้ี ยงั พบวา่ ดวงอาทติ ย์ได้แผร่ งั สมี ายงั โลกเปน็ เวลานานประมาณหนงึ่ พันล้านปมี าแลว้ ส่งิ มีชีวิตบนโลกทัง้ พืชและสตั วเ์ ป็นผูน้ �ำ พลงั งานจากดวงอาทิตย์มาใชป้ ระโยชน์ ขณะทม่ี นุษยเ์ ราสามารถ นำ�พลังงานแสงจากดวงอาทิตย์มาประดิษฐ์เปน็ พลงั งานไฟฟ้าในเซลล์ เราเรียกวา่ พลังงานไฟฟ้าเซลล์แสง อาทติ ย์หรอื เซลล์สรุ ยิ ะ นัน่ เอง 23-Phattaradanaii.indd 17 17 22/9/2563 2:59:52

โลกเคล่ือนที่ไปรอบดวงอาทติ ย์ด้วยอตั ราเร็ว 30 กิโลเมตรตอ่ วินาที โลกใชเ้ วลา 365.25 วัน ในการโคจรครบ รอบ ซง่ึ 1 ปจี ะเท่ากบั 365 วนั ดังนั้น ทกุ ๆ 4 ปี เราจะเพ่มิ เขา้ ไปอกี 1 วันจนเป็น 366 วนั จากเศษ “0.25 วนั ” ทีส่ ะสมในรอบ 4 ปจี นครบ 1 วัน เรียกปีที่มี 366 วันวา่ “ปอี ธิกสุรทิน”กลา่ วไดว้ า่ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ในขณะทโี่ ลกหมุนรอบแกนหมนุ ของตวั เองไปดว้ ยโลกใชเ้ วลา 24 ช่ัวโมง (1 วัน) ในการหมนุ รอบแกนหมนุ ของตวั เอง ซง่ึ แกนหมุนดังกล่าวเป็นเส้นสมมติทล่ี ากระหวา่ งข้ัวโลกเหนอื และขัว้ โลกใต้ ผ่านใจกลางโลก 18 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 18

Phattaradanaii สวัสดีครับผม... -ชอ่ื : นาย ภทั รดนยั บญุ ยะกร -อายุ : 16 -เกดิ วนั ที่ : 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 -เรียนอยูท่ ่ี : วิทยาลยั เทคโนโลยีสยาม บริหารธุรกิจ -ช้ัน :ปวช 2/45 เลขท่ี 23 -สิง่ ทีช่ อบ : เลน่ เกม ฟงั เพลง ธรรมชาต ิ -ส่งิ ที่ไมช่ อบ : ความวนุ้ วาย -ปัจจุบันอยู่กบั ครอบครัว -งานอดิเรก : เลน่ เกม ขับรถเล่น -สถานที่ท่ชี อบ : จ.เชียงไหม่ -อาหารทท่ี ่ชี อบ : ข้าวผดั กะเพราะหมูกรอบ -ขนมทีช่ อบ : ขนมถ้วย -Facebook : Phattaradanaii Boonyakorn 23-Phattaradanaii.indd 19 19 22/9/2563 2:59:52

อ้างองิ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81_(%E0%B8%94%E0%B8%B2%E 0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9% 8C) https://sites.google.com/site/phachrphlkhenwan/13-hnwy-kar-reiyn-ru-thi-12/1 https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0% B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0 %B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C https://sites.google.com/site/dowsolarsystem/rabb-suriya 20 22/9/2563 2:59:52 23-Phattaradanaii.indd 20


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook