Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ 2558

คู่มือหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ 2558

Published by Regis, 2016-02-19 02:03:09

Description: คู่มือหลักสูตรคณะพยาบาลศาสตร์ 2558

Search

Read the Text Version

6084804 ปฏบิ ตั ิการบรหิ ารจดั การทางคลินกิ 2(0-8-0) (Clinical Nursing Management Practicum) ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารบรหิ ารจดั การทางคลนิ กิ ในหอผปู้ ว่ ย การฝกึ การเปน็ หวั หนา้ ทมี การพยาบาล การเปน็ผปู้ ระสานงานการให้บรกิ ารกบั ทีมสขุ ภาพ ครอบครวั และญาตผิ ู้ป่วย การเปน็ หวั หนา้ เวร และการบรหิ ารจัดการหอผปู้ ว่ ย และหรอื หนว่ ยบรกิ ารสขุ ภาพอน่ื ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ครอบคลมุ การฝกึ การจดั ก�ำ ลงั คน และการบรหิ ารทรพั ยากรและการจดั การคุณภาพงานบริการ Provides students an opportunity to practice administrative role in clinical settingemphasizing on leadership in nursing team, coordination of care to meet patient and family needs,management of care team and clinical unit; management of personnel and resources; nursingsupervision, staff planning, as well as quality assurance are also addressed หมวดวชิ าเลือกเสร ี จ�ำ นวนไม่น้อยกว่า 6 หนว่ ยกิต6002304 มารยาทสังคมและการพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ 2(1-2-3) (Social Etiquette and Personality Development) มารยาทตา่ ง ๆทเ่ี ปน็ วฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ และวฒั นธรรมสากล มารยาท และการวางตวัในการเขา้ สงั คมในโอกาสตา่ งๆ การปฏสิ มั พนั ธก์ บั ผอู้ นื่ การสรา้ งเสรมิ บคุ ลกิ ภาพ การแตง่ กาย การพดู ตอ่ หนา้ ชมุ ชนและการประยุกต์ในชีวิตประจ�ำ วัน Study various etiquettes in Thai, local and international culture; etiquettes that are appro-priate to various social occasions, personal relationship, personality development, glooming publicspeech, and its application in daily life6030104 ความรกั และชวี ิตของวัยร่นุ 2(2-0-4) (Love and Life of Young Adolescents) มนษุ ย์ และศกั ดศ์ิ รขี องความเปน็ มนษุ ย์ การรจู้ กั ตนเอง การยอมรบั ตนเอง และผอู้ นื่ วฒุ ภิ าวะทางดา้ นอารมณ์ การจัดการกับอารมณ์ การควบคุมตนเอง และการพัฒนาการไปสมู่ ติ รภาพทย่ี ่งั ยนื ความรกั และ แนวคิดเกยี่ วกบั ความรกั ของผทู้ มี่ วี ฒุ ภิ าวะ เพศภาวะ วถิ ชี วี ติ ทางเพศ สขุ อนามยั ทางเพศ แนวคดิ ทางจติ วทิ ยา สงั คมวทิ ยาและศาสนา เกีย่ วกบั การตดั สินใจเลือกค่คู รอง และการสร้างครอบครัว การเตรียมตัวเป็นพอ่ แม่ทดี่ ี กฎหมาย และจริยธรรมท่เี กยี่ วข้อง Human and human dignity, self-understanding, understanding of others, maturity,emotional management, self-control and long-lasting relationships; love and concepts of love in theview of matured persons; gender, sexual lifestyle, sexual health; psychological, sociological andreligious concepts related to spouse selection and marriage; preparation for good parenting, legaland ethical concerns6003207 การดูแลตนเองและการชว่ ยเหลือฉกุ เฉินทางสุขภาพ 2(1-2-3) (Self-care and First Aid) การประเมนิ การเจบ็ ปว่ ยเบอ้ื งตน้ การสงั เกตอาการและอาการแสดง การดแู ลตนเอง และชว่ ยเหลอื ผทู้ มี่ ีอาการผิดปกติของโรคที่พบบ่อย การได้รับสารพิษ และสัตว์มีพิษกัดต่อย การเป็นลมหมดสติ การเกิดบาดแผลการเคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ว่ ย การชว่ ยฟนื้ คนื ชพี เบอื้ งตน้ การชว่ ยเหลอื ผคู้ ลอดฉกุ เฉนิ การชว่ ยเหลอื ผทู้ มี่ ภี าวะวกิ ฤตทิ างจติ ใจเบอื้ งตน้ การปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ ตอ่ บทบาทของบคุ คลทว่ั ไปในการชว่ ยเหลอื เมอื่ เกดิ อบุ ตั เิ หตฉุ กุ เฉนิและสาธารณภยั ตามขอบเขตของกฎหมาย และจรยิ ธรรม Assessment of basic illnesses, observation of signs and symptoms; self-care and care forothers with common illnesses; fainting, wound, fracture, patient transport, basic life support, handlewith persons in psychological crisis, prevention of transmission diseases; roles of ordinary people onhelping others in emergency and mass casualty; under scope of laws and ethics50

6004201 การดูแลแบบประคบั ประคอง 2(1-2-3) (Palliative Care) แนวคิด หลักการ การดูแลแบบประคับประคอง การยอมรับกระบวนการธรรมชาติของชีวิต วิถีการดำ�เนินชีวิต บริบทของสภาวะจิต ทักษะการสื่อสาร การสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย ญาติ การให้ครอบครัวมสี ว่ นรว่ มในการดแู ล การสง่ เสรมิ การใชช้ วี ติ แบบปกติ เพอ่ื คณุ ภาพชวี ติ ของผปู้ ว่ ย และการดแู ลอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพโดยยดึ หลกั สติ สมาธิ ความเป็นปจั จบุ นั สิทธผิ ้ปู ่วย และกฎหมายอน่ื ๆที่เกีย่ วขอ้ ง Concepts, principles of palliative care; acceptance of the nature of life’s process, ways of life,context of mentality; communication skills, developing relationships with patients and relatives; pro-moting family participation and a routine of life to enhance patient’s quality of life and the effectivenessof care; regarding to mindfulness, concentration, presentness, patient’s right and related laws6084805 ปฏิบตั เิ สรมิ ทักษะการพยาบาล 2(0-8-0) (Selective Clinical Nursing Practicum) ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลเพอ่ื เสรมิ ทกั ษะเฉพาะสาขาทเี่ ลอื กสรร เนน้ การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ในฐานะพยาบาลวิชาชพี ประจำ�การ Practicum emphasizing clinical practice for the enhancement of nursing skills in the areaof students’ interest after completion of required courses6024101 การประกอบธรุ กิจดา้ นสขุ ภาพ 2(1-2-3) (Entrepreneurship in Health Business) แนวคิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจด้านสุขภาพ คุณลักษณะของผู้ประกอบการ ความพร้อมในการด�ำ เนนิ ธรุ กจิ การศกึ ษาความเปน็ ไปไดก้ อ่ นการตดั สนิ ใจประกอบธรุ กจิ การออกแบบธรุ กจิ และการบรหิ ารจดั การธรุ กิจด้านสุขภาพเดก็ และผูส้ งู อายุ Concepts related to entrepreneurship in health business, characteristics of businessowners, readiness for running a business, feasibility study, business design and management ofchildren and elderly health business.6024102 การดแู ลสุขภาพขา้ มวฒั นธรรม 2(1-2-3) (Transcultural Healthcare) สขุ ภาพของบคุ คลขา้ มวฒั นธรรม รปู แบบของโรค และการเจบ็ ปว่ ย ความเชอ่ื และการแสวงหาการรกั ษาของประชากรโลก ท่ีแตกต่างกันตามสภาพภูมศิ าสตร์ เศรษฐกิจสังคม และวฒั นธรรม ระบบการดูแลสุขภาพ และระบบประกนั สขุ ภาพของประเทศทเ่ี ลอื กสรร และการประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดแู ลบคุ คลตา่ งวัฒนธรรม Transcultural health, patterns of diseases and illnesses, beliefs, and health seekingbehaviors of people who are living in different parts of the world and having different economic andsocial backgrounds; health care delivery system and health insurance systems of some selectedcountries and its application in providing care for clients from diverse cultural backgrounds 51

แหล่งฝึกภาคปฏบิ ัติ คณะแพทยศาสตร์ วชริ พยาบาล มหาวิทยาลยั นวมินทราธริ าชโรงพยาบาลตากสินโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารกั ษ์โรงพยาบาลสิรนิ ธรโรงพยาบาลสมุทรสาครศนู ย์อนามยั แมแ่ ละเดก็ ท่ี 1 บางเขนโรงพยาบาลราชวถิ ีโรงพยาบาลสมเด็จพระปิน่ เกล้า ศนู ยพ์ ฒั นาสวสั ดิการสงั คมผ้สู งู อายบุ า้ นบางแคโรงพยาบาลพระมงกุฎเกลา้สถาบันสุขภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ ีโรงพยาบาลศรีธัญญา, สถาบันกลั ยาณ์ราชนครินทร ์ ศนู ย์บรกิ ารสาธารณสุข สังกดั กรงุ เทพมหานครโรงพยาบาลชุมชน เช่น โรงพยาบาลบางใหญ,่ โรงพยาบาลบางบัวทอง, โรงพยาบาลไทรนอ้ ย, โรงพยาบาลสามพราน, โรงพยาบาลพุทธมณฑล, โรงพยาบาลบางกรวย 52

สมรรถนะที่คาดหวัง (Expected competencies)ของบณั ฑิตสาขาวชิ าพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสวนดุสิต1. สมรรถนะหลัก (Core Competency) ของหลกั สูตรมหาวทิ ยาลัยสวนดสุ ิต 1.1 สมรรถนะเชงิ วชิ าการพยาบาล 1.1.1 ใหก้ ารพยาบาลบคุ คลทุกชว่ งอายุ ทง้ั ในระดบั บุคคล ครอบครวั กลุ่มคนและชมุ ชน ครอบคลุมภาวะสขุ ภาพดี ภาวะสขุ ภาพเสย่ี งและภาวะเบย่ี งเบนทางสขุ ภาพในระยะเฉยี บพลนั เรอ้ื รงั ตลอดจนระยะสดุ ทา้ ยของชวี ติ 1.1.2 ปฏิบัติการพยาบาลตามขอบเขตวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ครอบคลุมการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ การปอ้ งกันโรคและการบาดเจ็บ การรกั ษาโรคเบอ้ื งตน้ การให้การบำ�บัดทางการพยาบาล และการฟืน้ ฟสู ภาพ 1.1.3 บูรณาการความรู้จากศาสตร์เชิงประจักษ์ความรู้เชิงสุนทรียศาสตร์ในการพยาบาลหรือศิลปะทางการพยาบาล ความรทู้ ีเ่ กดิ จากประสบการณเ์ ฉพาะตวั และความรู้เชิงจรยิ ศาสตร์ เพ่อื ให้บรกิ ารพยาบาลแบบองค์รวมอย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 คุณลักษณะท่ีดงี ามในตัวบคุ คล 1.2.1 มีศกั ยภาพการนำ� คิด วิเคราะหแ์ ละกล้าตดั สินใจอยา่ งมเี หตผุ ท�ำ งานร่วมกบั บคุ ลากรในทีมสขุ ภาพและผเู้ กยี่ วข้องไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 1.2.2 มีทักษะการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้และเข้าถึงแหล่งข้อมูลอย่างมีประสทิ ธภิ าพ 1.2.3 สนใจ ใฝ่รูแ้ ละพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนื่องตลอดชวี ิต 1.3 ความสามารถในการด�ำ รงตนในสงั คมอยา่ งมคี ณุ คา่ ยดึ ม่ันในคุณธรรม จรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชีพการพยาบาลและการผดงุ ครรภ ์ เป็นสมาชิกทดี่ ีขององคก์ รวิชาชพี เป็นพลเมอื งดีของสงั คม และสามารถดำ�รงตนในสังคมไดอ้ ย่างมีคณุ คา่2. สมรรถนะ (Competency) ของบัณฑติ ตามมาตรฐานคณุ วุฒริ ะดบั ปริญญาตรี สาขาพยาบาลศาสตร์พ.ศ. 2552 มาตรฐานผลลัพธก์ ารเรยี นร้สู าขาวิชาพยาบาลศาสตร์ 2.1 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 2.1.1 มคี วามรใู้ นหลกั ศาสนาทฤษฎแี ละหลกั จริยธรรมสทิ ธิมนุษยชนสทิ ธิเดก็ สิทธิผู้บริโภคสทิ ธผิ ูป้ ่วย 2.1.2 สามารถควบคมุ ตนเองไดแ้ ยกแยะความถกู ต้องและความช่วั ได้ 2.1.3 เคารพในคณุ ค่าและศักดิ์ศรขี องความเป็นมนุษยแ์ ละตระหนักในความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม 2.1.4 ความรบั ผิดชอบต่อตวั เอง และผลการปฏบิ ัตงิ าน 2.1.5 การเสียสละ ซอ่ื สตั ย์ มีวนิ ยั 2.1.6 มีจรรยาบรรณวิชาชีพและสามารถจดั การกบั ปัญหาจริยธรรมในการดำ�รงชีพและการปฏิบตั งิ าน 2.1.7 เปน็ แบบอยา่ งทีด่ ตี ่อผอู้ นื่ ในการดำ�รงตนและการปฏิบตั ิงาน 2.1.8 สง่ เสริมใหผ้ ปู้ ่วย/ผใู้ ่ชบ้ รกิ ารไดร้ บั รูแ้ ละเข้าใจสทิ ธิของตนเอง 2.2 ความรู้ 2.2.1 มคี วามรแู้ ละความเขา้ ใจในสาระส�ำ คัญของศาสตร์ท่ีเป็นพื้นฐานในการดำ�รงชีวติ และศาสตร์พ้นืฐานทางวทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ 2.2.2 มีความร้แู ละความเขา้ ใจในสาระสำ�คญั ของศาสตรแ์ ละศิลปะทางการพยาบาล 2.2.3 มีความรู้และความเขา้ ใจในสาระสำ�คญั ของกระบวนการพยาบาล และกระบวนการแก้ไขปญั หาสุขภาพ 2.2.4 มคี วามรู้และความเข้าใจในกระบวนการวจิ ยั และการบริหารจดั การองคก์ ร 2.2.5 มคี วามรู้ ในการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและสารสนเทศทางการพยาบาล 2.2.6 มีความรู้ ความเข้าใจในวัฒนธรรมที่เปลย่ี นแปลงของประเทศและสังคมโลกที่มีผลกระทบต่อสขุภาพและการปฏบิ ตั ิการพยาบาล 53

2.3 ทักษะทางปัญญา 2.3.1 สามารถสบื คน้ และวเิ คราะหข์ ้อมลู และหลักฐานจากแหลง่ ขอ้ มูลท่ีหลากหลาย 2.3.2 สามารถน�ำ ขอ้ มูล และหลกั ฐานไปใช้ในการอ้างองิ และแกไ้ ขปัญหาอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 2.3.3 สามารถคดิ วเิ คราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบโดยใชอ้ งคค์ วามรทู้ างวชิ าชพี และทเี่ กย่ี วขอ้ งรวมทงั้ ใชป้ ระสบการณ์ภาคปฏิบตั ิเพอื่ ให้เกิดผลลัพธ์ทป่ี ลอดภยั และมีคณุ ภาพในการใหบ้ ริการทางการพยาบาลและทางสขุ ภาพ 2.3.4 สามารถแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทางการวิจัยและทางสังคมรวมทั้งการใช้นวัตกรรม 2.3.5 พฒั นาวธิ ีการแกไ้ ขปญั หาที่มปี ระสิทธิภาพเหมาะสมกบั สถานการณ์ 2.4 ทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ 2.4.1 มปี ฏิสัมพันธอ์ ยา่ งสร้างสรรค์ระหวา่ งบุคคลและกลุ่มคน รวมทัง้ ปรบั ตัวไดต้ ามสถานการณ์ 2.4.2 สามารถทำ�งานเป็นทีมในบทบาทผู้นำ�และผู้ตามในระบบบริการสาธารณสุขทุกระดับและในสถานการณ์ที่หลากหลาย 2.4.3 สามารถแสดงออกซ่งึ ภาวะผู้นำ�ในสถานการณ์ทีห่ ลากหลายและสถานการณเ์ ฉพาะหนา้ 2.4.4 มคี วามรบั ผิดชอบต่อตนเอง ต่อหน้าที่ ต่อสังคม และรับผดิ ชอบในการพัฒนาตนเอง วชิ าชพี และสงั คมอยา่ งต่อเนอ่ื ง 2.5 ทักษะการวิเคราะหเ์ ชิงตวั เลข การสอ่ื สาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.5.1 สามารถคำ�นวณตัวเลขและวเิ คราะห์ข้อมลู โดยใชเ้ ทคนิคทางคณิตศาสตร์และสถิติ 2.5.2 สามารถแปลงขอ้ มลู เปน็ ขา่ วสารทม่ี คี ณุ ภาพและเหมาะสมตอ่ การสอ่ื สารทงั้ กบั บคุ คลและกลมุ่ คนในสถานการณ์ทห่ี ลากหลาย และนำ�ไปใช้ในการปฏบิ ัติการพยาบาลไดอ้ ย่างเหมาะสม 2.5.3 สามารถส่อื สารไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพทั้งการพูด การฟัง และการเขยี น 2.5.4 ร้จู กั เลอื กและใชร้ ปู แบบการนำ�เสนอสารสนเทศตลอดจนใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศสอ่ื สาร 2.5.5 ส่อื สารภาษาองั กฤษได้อย่างเหมาะสมกับกบั สถานการณ์ บคุ ล และกลุม่ คน 2.6 ทกั ษะการปฏบิ ัตทิ างวชิ าชพี 2.6.1 สามารถปฏิบัติทักษะการพยาบาลอย่างเป็นองค์รวมโดยประยุกต์ใช้ศาสตร์และศิลป์ทางการพยาบาล และศาสตรท์ เี่ กยี่ วขอ้ ง รวมทง้ั ใช้กระบวนการพยาบาลในการพยาบาล บุคคล ครอบครัว และชุมชน 2.6.2 สามารถปฏิบัติการเสรมิ สร้างสขุ ภาพ การป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟนื้ ฟสู ุขภาพไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่วกับผู้รับบรกิ ารทกุ ภาวะสขุ ภาพและทุกช่วงวยั ในทกุ ระดับของสถานบรกิ ารสุขภาพ 2.6.3 ปฏิบตั ิการพยาบาลดว้ ยความศรทั ธาในวชิ าชีพ โดยยึดมน่ั ในคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชพี กฎหมาย และสิทธผิ ูป้ ่วย ตลอดจนมีความเออ้ื อาทร มีจิตอาสา มีหวั ใจของความเป็นมนษุ ย์ 2.6.4 ปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลโดยคำ�นึงถึงปัจเจกบคุ คล และความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมที กั ษะการบริหารจัดการทกุ สถานการณท์ ั้งทางสงั คมและในวชิ าชพี3. สมรรถนะของนกั ศึกษาพยาบาลระดบั ช้นั ปี 3.1 สมรรถนะนักศกึ ษาพยาบาลชั้นปที ่ี 1 3.1.1 มคี วามรใู้ นศาสตร์พืน้ ฐานทั่วไป และศาสตร์พน้ื ฐานทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 3.1.2 มีปฏสิ ัมพันธอ์ ยา่ งสรา้ งสรรค์ ปรับตวั ไดต้ ามสถานการณ์ 3.1.3 มคี วามรับผิดชอบในการเรียนรู้ ในการพัฒนาตนเอง และสงั คมได้อยา่ งตอ่ เนื่อง 3.1.4 สามารถส่อื สารได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพทง้ั การพดู การฟงั และการเขียน 3.1.5 แสดงออกซึ่งภาวะผู้นำ� มคี วามคดิ รเิ ริ่มในการวิเคราะห์ปญั หา และแสดงออกไดอ้ ยา่ งอสิ ระ 3.1.6 มีความรับผิดชอบ มรี ะเบยี บวนิ ัย เสยี สละ และซ่อื สตั ย์ 3.1.7 เคารพในคณุ ค่า และศักดิศ์ รขี องความเป็นมนษุ ย์ 3.1.8 ควบคมุ ตนเองได้54

3.2 สมรรถนะนักศกึ ษาพยาบาลช้นั ปที ี่ 2 3.2.1 มีความรใู้ นศาสตร์พืน้ ฐานวิชาชีพทเี่ กย่ี วข้อง 3.2.2 มีความรูท้ างวิชาชพี การพยาบาลเดก็ และวยั ร่นุ การพยาบาลผใู้ หญ่และผสู้ งู อายุ การพยาบาลมารดาทารก และการผดงุ ครรภ์ 3.2.3 มที ักษะการปฏิบตั กิ ารพยาบาลเพ่อื การสง่ เสริมสขุ ภาพ การป้องกันโรค ทกั ษะการปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลเพอ่ื การรกั ษา และทกั ษะการปฏบิ ตั ิการพยาบาลเพอ่ื การฟน้ื ฟูสภาพ 3.2.4 มีทกั ษะการปฏบิ ัตกิ ารพยาบาลขั้นพื้นฐานในสาขาเดก็ และวัยรุน่ การพยาบาลผูใ้ หญแ่ ละผู้สูงอายุปอย่างเป็นองคร์ วมดว้ ยความเอื้ออาทร 3.2.5 มีจรรยาบรรณวิชาชีพ 3.2.6 มจี ิตอาสา มหี วั ใจของความเป็นมนษุ ย์ คำ�นึงถงึ ปจั เจกบุคคล ความหลากหลายทางวฒั นธรรม และกฎหมายวชิ าชพี 3.2.7 มคี วามสามารถในการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและคิดอย่างเปน็ ระบบตามสภาพจรงิ 3.3 สมรรถนะนักศึกษาพยาบาลชั้นปีท่ี 3 3.3.1 มคี วามรู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับวิทยาการระบาด 3.3.2 มีความรทู้ างวชิ าการพยาบาล ผใู้ หญ่และผสู้ งู อายุ การพยาบาลมารดาทารก และการผดงุ ครรภ ์ การสรา้ งเสรมิ สุขภาพจิตและการพยาบาลจิตเวช ก ารพยาบาลฉกุ เฉนิ และสาธารณภยั แ ละการรกั ษาโรคเบื้องต้น 3.3.3 มีทักษะการปฏิบัติการพยาบาลข้ันพ้ืนฐานสาขาพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายการพยาบาลมารดา ทารก และการผดุงครรภ์ และการพยาบาลจิตเวช อย่างเป็นองคร์ วมด้วยความเออ้ื อาทร 3.3.4 สามารถจดั การกับปัญหาจรยิ ธรรมในการด�ำ รงชพี และการปฏิบตั งิ านในวิชาชีพ 3.3.5 รูจ้ กั เลอื ก และใช้รปู แบบการนำ�เสนอท่เี หมาะสมกับสถานการณ์และกลมุ่ บุคคลใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารที่เหมาะสม 3.4 สมรรถนะนักศกึ ษาพยาบาลช้ันปีท่ี 4 3.4.1 มที กั ษะการปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลขั้นพน้ื ฐานในสาขาชุมชนและการรกั ษาพยาบาลข้ันตน้ อย่างเป็นองคร์ วมดว้ ยความเอ้อื อาทร 3.4.2 คดิ เพ่อื การแก้ไขปัญหาและแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์โดยใชอ้ งค์ความรู้ทางวิชาชพี และที่เกีย่ วข้องรวมท้งั ประสบการณภ์ าคปฏิบตั ิ และพิจารณาจากผลทต่ี ามมา 3.4.3 สามารถทำ�งานเป็นทีมในบทบาทผู้ตามและผู้นำ�ในระบบบริการสุขภาพในสถานการณ์ที่หลากหลาย 3.4.4 สามารถ แยกแยะสถานการณ์ทตี่ ้องการแก้ปญั หาดว้ ยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การวจิ ัย รวมทงั้ ใชน้ วตั กรรมใหม่ๆ 3.4.5 มีความรับผิดชอบในการเรียนรใู้ นการพัฒนาตนเอง วชิ าชพี และสงั คมได้อยา่ งต่อเนอื่ ง เพอ่ื สร้างคุณค่าในตนเอง และสมรรถนะในการปฏิบตั ิการพยาบาล 3.4.6 สามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพ่ือสนับสนนุ การปฏิบัตกิ ารพยาบาล 3.4.7 ติดต่อส่ือสารกับบคุ คล ครอบครวั กลมุ่ คน และชุมชนได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 55

การประกนั คณุ ภาพการศึกษาทเ่ี กย่ี วข้องกับนักศึกษาความจำ� เปน็ และวตั ถปุ ระสงค์ของการประกนั คุณภาพการศึกษา ระดับอดุ มศกึ ษา ภารกจิ หลักท่สี ถาบันอุดมศึกษาจะตอ้ งปฏบิ ัติมี 4 ประการ คือ การผลิตบัณฑติ การวิจัยการใหบ้ ริการทางวชิ าการแกส่ ังคม และการท�ำนบุ �ำรุงศิลปะและวัฒนธรรม การด�ำเนินการตามภารกจิ ทง้ั 4 ประการดังกลา่ ว มีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาว ปัจจุบันมีปัจจัยภายในและภายนอกหลายประการที่ท�ำให้การประกันคุณภาพการศึกษาในระดับอุดมศึกษาเป็นสิ่งจ�ำเป็นท่ีจะต้องเร่งด�ำเนินการ ปัจจัยดังกล่าวคอื 1) คณุ ภาพของสถาบนั อดุ มศกึ ษาและบณั ฑติ ภายในประเทศ มแี นวโนม้ ทจ่ี ะมคี วามแตกตา่ งกนั มากขน้ึซง่ึ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี แกส่ งั คมโดยรวมของประเทศในระยะยาว 2) ความทา้ ทายของโลกาภวิ ฒั นต์ อ่ การอดุ มศกึ ษาทงั้ ในประเดน็ การบรกิ ารการศกึ ษาขา้ มพรมแดน และการเคล่ือนย้ายนักศึกษาและบัณฑิตอันเป็นผลจากการรวมตัวของประเทศในภูมิภาคอาเซียนซ่ึงทั้งสองประเด็นตอ้ งการการรับประกนั ของคณุ ภาพการศึกษา 3) สถาบนั อดุ มศกึ ษามคี วามจ�ำเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งสรา้ งความมน่ั ใจแกส่ งั คมวา่ สามารถพฒั นาองคค์ วามรแู้ ละผลิตบัณฑิตตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขนั ระดบั สากล การพฒั นาภาคการผลติ จริงท้งั อุตสาหกรรมและบรกิ าร การพัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวติ ความเป็นอย่รู ะดบั ทอ้ งถน่ิ และชมุ ชน 4) สถาบันอุดมศึกษาจะต้องให้ข้อมูลสาธารณะ (public information) ท่ีเป็นประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสยี ทง้ั นักศึกษา ผ้จู ้างงาน ผปู้ กครอง รฐั บาล และประชาชนท่ัวไป 5) สังคมต้องการระบบอุดมศึกษาทเ่ี ปิดโอกาสให้ผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี มีสว่ นร่วม (participation)มีความโปรง่ ใส (transparency) และมีความรับผดิ ชอบซง่ึ ตรวจสอบได้ (accountability) 6) พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิม่ เติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 ก�ำหนดให้สถานศึกษาทุกแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในรวมถึงให้มีส�ำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาท�ำหน้าท่ปี ระเมนิ คุณภาพภายนอก โดยการประเมินผลการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา 7) คณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาได้ประกาศใชม้ าตรฐานการอุดมศกึ ษา เมอื่ วนั ที่ 7 สิงหาคม 2549เพื่อเป็นกลไกก�ำกับมาตรฐานระดับกระทรวง ระดับคณะกรรมการการอุดมศึกษา และระดับหน่วยงาน โดยทุกหน่วยงานระดับอดุ มศกึ ษาจะไดใ้ ชเ้ ป็นกรอบการด�ำเนนิ งานประกันคุณภาพการศึกษา 8) กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ืองมาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา เม่ือวันท่ี12 พฤศจิกายน 2551 เพื่อเป็นกลไกส่งเสริมและก�ำกับให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาให้มีมาตรฐานตามประเภทหรือกลมุ่ สถาบนั อดุ มศึกษา 4 กลุ่ม 9) กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดม้ ปี ระกาศกระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรอื่ ง กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดบั อดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ เมอ่ื วนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2552 และคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาไดป้ ระกาศแนวทางการปฏบิ ตั ติ ามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดบั อดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ เมอ่ื วนั ที่ 16 กรกฎาคม 2552 เพอ่ื ใหก้ ารจดั การศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษาเป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาและเพ่ือการประกันคุณภาพของบัณฑิตในแต่ละระดับคุณวุฒิและสาขาวิชา ด้วยความจ�ำเป็นดังกล่าวสถาบันอุดมศึกษาร่วมกับต้นสังกัดจึงจ�ำเป็นต้องพัฒนาระบบและกลไกการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา โดยมวี ัตถุประสงค์ดงั นี้ 1) เพอื่ ตรวจสอบและประเมนิ การด�ำเนนิ งานของภาควชิ าคณะวชิ าหรอื หนว่ ยงานเทยี บเทา่ และสถาบนัอุดมศึกษาในภาพรวมตามระบบคุณภาพและกลไกท่ีสถาบันนั้นๆก�ำหนดขึ้นโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบผลการด�ำเนนิ งานตามตวั บง่ ชใี้ นทกุ องคป์ ระกอบคณุ ภาพวา่ เปน็ ไปตามเกณฑแ์ ละไดม้ าตรฐาน 2) เพอ่ื ใหภ้ าควชิ า คณะวชิ าหรอื หนว่ ยงานเทยี บเทา่ และสถาบนั อดุ มศกึ ษาทราบสถานภาพของตนเองอนั จะน�ำไปสูก่ ารก�ำหนดแนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพไปสเู่ ป้าหมาย (targets) และเปา้ ประสงค์ (goals) ทต่ี ้งั ไว้ตามจุดเน้นของตนเองและเปน็ สากล56

3) เพอ่ื ใหภ้ าควชิ าคณะวชิ าหรอื หนว่ ยงานเทยี บเทา่ และสถาบนั อดุ มศกึ ษาทราบจดุ แขง็ จดุ ทค่ี วรปรบั ปรงุ ตลอดจนได้รับข้อเสนอแนะในการพัฒนาการด�ำเนินงานเพ่ือเสริมจุดแข็งและพัฒนาจุดท่ีควรปรับปรุงของสถาบันอย่างตอ่ เน่ือง 4) เพอื่ ใหข้ อ้ มลู สาธารณะทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ท�ำใหม้ น่ั ใจวา่ สถาบนั อดุ มศกึ ษาสามารถสร้างผลผลิตทางการศึกษาที่มคี ุณภาพและไดม้ าตรฐานตามที่ก�ำหนด 5) เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดของสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมีข้อมูลพ้ืนฐานท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับการส่งเสริมสนบั สนนุ การจัดการอดุ มศกึ ษาในแนวทางทีเ่ หมาะสมการประกนั คณุ ภาพกับมาตรฐานการศกึ ษา เพื่อให้การจัดการศึกษาทุกระดับและทุกประเภทมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามท่ีก�ำหนดทั้งมาตรฐานการศึกษาระดับชาติ มาตรฐานการอุดมศึกษา มาตรฐานสถาบันอุดมศึกษา และสัมพันธ์กับมาตรฐานและหลักเกณฑ์ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การจัดการศึกษาอ่นื ๆ รวมถงึ กรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแหง่ ชาติ จึงจ�ำเป็นตอ้ งมีระบบประกันคุณภาพทพี่ ัฒนาข้ึนภายตามทก่ี �ำหนดไว้ในกฎกระทรวงวา่ ด้วยระบบ หลกั เกณฑ์ และวิธกี ารประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ.2553 ท้งั น้ี ความเช่ือมโยงระหวา่ งมาตรฐานการศึกษา หลักเกณฑ์ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง และการประกนั คณุ ภาพการศึกษา สามารถแสดงในแผนภาพที่ 1.1 มาตรฐานการศกึ ษาแหง่ ชาติ มาตรฐานที่ 1 มาตรฐานที่ 2 มาตรฐานท่ี 3คุณลักษณะของคนไทยท่พี ึง แนวทางการจดั การศึกษา แนวการสรา้ งสังคมแห่งประสงคท์ งั้ ในฐานะพลเมือง การเรียนรู/้ สังคมแห่งความรู้ และพลเมืองโลก มาตรฐาน มาตรฐาน มาตรฐานด้านการ มาตรฐานด้านการสรา้ งการอุดมศึกษา ด้านคณุ ภาพบณั ฑติ บรหิ ารจดั การ และพฒั นาสังคมฐาน การอดุ มศึกษา ความรแู้ ละสังคมแห่งการ เรียนรู้ หลกั เกณฑก์ ำ�กับ การประกันคุณภาพภายใน ภายใตต้ วั บ่งชตี้ ามองค์ประกอบคุณภาพ 9 ดา้ นมาตรฐาน รวมถึง ผลผลิตทางการศกึ ษาท่ีได้คณุ ภาพมาตรฐานสถาบันอดุ มศกึ ษาและกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดบัอุดมศกึ ษาแห่งชาติแผนภาพที่ 1.1 ความเชือ่ มโยงระหว่างมาตรฐานการศกึ ษาและการประกันคณุ ภาพ 57

การประกันคณุ ภาพการศกึ ษา ในระดับหลักสูตรที่เก่ียวข้องกับนกั ศกึ ษาและบทบาทของนกั ศกึ ษาองค์ประกอบที่ 2 บณั ฑติ พันธกิจท่ีส�ำคัญท่สี ุดของสถาบันอุดมศกึ ษา คอื การผลติ บณั ฑิต หรือการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรยี นมีความรู้ในวิชาการและวชิ าชีพ มคี ณุ ลกั ษณะตามหลกั สูตรท่ีก�ำหนด บณั ฑติ ระดับอุดมศกึ ษาจะต้องเป็นผมู้ คี วามรู้ มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม มคี วามสามารถในการเรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเอง สามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ พอ่ื การด�ำรงชีวติ ในสงั คมได้อย่างมีความสขุ ทั้งรา่ งกายและจติ ใจ มคี วามส�ำนกึ และความรบั ผิดชอบในฐานะพลเมอื งและพลโลก มคี ณุ ลกั ษณะตามอัตลักษณ์ของสถาบันอดุ มศึกษา ส�ำนกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษาในฐานะทเ่ี ปน็ หนว่ ยงานในการก�ำกบั และสง่ เสรมิ การด�ำเนนิ งานของสถาบนั อดุ มศกุ ษา ไดจ้ ดั ท�ำมาตรฐานตา่ งๆ ทเี่ กยี วขอ้ งกบั การผลติ บณั ฑติ เชน่ เกณฑม์ าตรฐานหลกั สตู ร กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติเพื่อมุ่งเน้นเป้าหมายการจัดการศึกษาท่ีผลการเรียนรู้ของนักศึกษาซง่ึ เปน็ การประกนั คณุ ภาพบณั ฑติ ทไี่ ดร้ บั คณุ วฒุ แิ ตล่ ะคณุ วฒุ แิ ละสอื่ สารใหส้ งั คม ชมุ ชน รวมทงั้ หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งตา่ งๆได้เชอ่ื มั่นถึงคุณภาพของบัณฑิตท่ีผลิตออกมาเปน็ ไปตามท่ีก�ำหนดไวใ้ นผลลพั ธก์ ารเรียนรูใ้ นแตล่ ะหลกั สูตร คุณภาพบัณฑิตในแต่ละหลักสูตรจะสะท้อนไปที่คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอดุ มศกึ ษาแหง่ ชาติ โดยพจิ ารณาจากผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ การมีงานท�ำ และคุณภาพผลงานวิจัยของนกั ศึกษาและผสู้ �ำเร็จการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในปีการศกึ ษาน้ัน คุณภาพบณั ฑิตจะพจิ ารณาไดจ้ ากตัวบ่งชี้ดังตอ่ ไปน้ี ตัวบ่งช้ีท่ี 2.1 คณุ ภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดบั อุดมศึกษาแหง่ ชาติ ตัวบง่ ชี้ที่ 2.2 การไดง้ านท�ำหรือผลงานวจิ ยั ของผูส้ �ำเรจ็ การศกึ ษา - ร้อยละของบณั ฑติ ปรญิ ญาตรที ี่ได้งานท�ำหรอื ประกอบอาชีพอสิ ระภายใน 1 ปี - ผลงานของนักศึกษาและผ้สู �ำเร็จการศึกษาในระดบั ปริญญาโททไี่ ด้รบั การตพี ิมพห์ รอื เผยแพร่ - ผลงานของนักศกึ ษาและผูส้ �ำเรจ็ การศกึ ษาในระดบั ปรญิ ญาเอกท่ีได้รบั การตีพมิ พ์หรอื เผยแพร่ตวั บง่ ช้ที ี่ 2.1 คณุ ภาพบณั ฑติ ตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติชนดิ ของตัวบ่งช ้ี ผลลพั ธ์ค�ำอธิบายตัวบง่ ช้ี กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแหง่ ชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education : TQF) ไดม้ กี ารก�ำหนดคณุ ลกั ษณะบณั ฑติ ทพ่ี งึ ประสงคต์ ามทหี่ ลกั สตู ร ก�ำหนดไวใ้ น มคอ.2 ซึ่งครอบคลมุ ผลการเรียนรอู้ ย่างนอ้ ย 5 ด้าน คอื 1) ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 2) ดา้ นความรู้ 3) ดา้ นทักษะทางปญั ญา 4) ด้านทักษะความสัมพนั ธ์ระหว่าง บุคคลและความรับผิดชอบและ 5) ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสารและ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวบ่งช้ีน้ีจะเป็นการประเมินคุณภาพบัณฑิตในมุมมองของ ผใู้ ช้บัณฑติเกณฑ์การประเมนิ ใชค้ า่ เฉล่ียของคะแนนประเมินบัณฑิต (คะแนนเตม็ 5) สตู รการค�ำนวณ ผลรวมของค่าคะแนนท่ีไดร้ บั จากการประเมนิ บัณฑิตคะแนนที่ได้ = จ�ำนวนบณั ฑติ ที่ตอบแบส�ำรวจท้งั หมดข้อมลู ประกอบ จ�ำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจ�ำนวนบัณฑิตท่ีส�ำเรจ็ การศึกษา58

บทบาทนกั ศึกษา 1. นักศึกษาต้องเข้าใจความคาดหวังสมรรถนะของนักศึกษาที่จะต้องจบการศึกษาเป็นบัณฑิตที่มีสมรรถนะ และคณุ สมบตั ติ ามทกี่ �ำหนดในหลกั สตู ร ซง่ึ ครอบคลมุ ผลการเรยี นรทู้ งั้ หมด 6 ดา้ น เมอ่ื นกั ศกึ ษาท�ำความเขา้ ใจตามตัวบ่งช้ี นแี้ ลว้ ก็จะตอ้ งวางแผนการเรียนอย่างมเี ป้าหมาย แสวงหาความรู้และตง้ั ใจฝึกปฏบิ ัตเิ พอ่ื ให้มีความรู้ และทกั ษะการปฏิบตั ิการพยาบาลไดค้ รบถว้ นตามเกณฑม์ าตรฐาน 2. คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสวนดสุ ิต ไดใ้ ชแ้ ฟม้ สะสมผลงาน (Portfolio) เปน็ เครอ่ื งมอื ในการก�ำกบั ตดิ ตามการพฒั นาตนเองของนกั ศกึ ษา นอกเหนอื จากการประเมนิ ผลการเรยี นรใู้ นรายวชิ า ดงั นน้ั นกั ศกึ ษาจึงมีหน้าท่ีในการเก็บสะสมผลงานท้ังทางด้านวิชาการ และผลงานประเภทกิจกรรม รวมท้ังมีการสะท้อนคิด(Reflection) ซง่ึ แสดงให้เห็นถงึ การพฒั นาสมรรถนะทัง้ 6 ดา้ น และความเป็นสุภาพชน คนดี สวนดสุ ิต ซึ่งเปน็เอกลักษณข์ องมหาวทิ ยาลัย 3. เนื่องจากการประเมินจะด�ำเนินการเมื่อบัณฑิตส�ำเร็จการศึกษาไปแล้ว และท�ำงานประมาณ 1 ปีคณะจะสง่ แบบสอบถาม ไปถามความเห็นของผบู้ งั คับบญั ชา ผูร้ ว่ มงานของบัณฑติ และตัวบณั ฑติ เอง ฉะนน้ั ขอให้บัณฑิตได้ตระหนักถึงความส�ำคัญว่าการปฏิบัติงานของบัณฑิต เป็นส่ิงที่มีผลสะท้อนถึงคุณภาพของคณะพยาบาลศาสตร์ และมหาวิทยาลยัตัวบ่งชีท้ ่ี 2.2 รอ้ ยละของบณั ฑติ ปรญิ ญาตรที ่ไี ดง้ านทำ� หรือประกอบอาชีพอสิ ระภายใน 1 ปี (ปรญิ ญาตรี)ชนดิ ของตวั บง่ ช ้ี ผลลพั ธ์คำ� อธิบายตวั บง่ ชี้ บณั ฑติ ปรญิ ญาตรที ส่ี �ำเรจ็ การศกึ ษาในหลกั สตู รภาคปกติ ภาคพเิ ศษ และภาคนอกเวลาใน สาขานั้น ท่ีได้งานท�ำหรือมีกิจการของตนเองท่ีมีรายได้ประจ�ำภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ส�ำเร็จการศึกษาเม่ือเทียบกับบัณฑิตที่ส�ำเร็จการศึกษาในปีการศึกษานั้น การนับการมีงานท�ำนับกรณีการท�ำงานสุจริตทุกปนะเภทที่สามารถสร้างรายได้เข้ามาเป็น ประจ�ำเพื่อเลี้ยงชีพตนเองได้ การค�ำนวนร้อยละของผู้มีงานท�ำของผู้ส�ำเร็จการศึกษาที่ลง ทะเบียนเรียนในภาคพิเศษหรอื ภาคนอกเวลาให้ค�ำนวนเฉพาะผู้ทเ่ี ปล่ียนงานใหมห่ ลงั จาก ส�ำเรจ็ การศึกษาเทา่ นนั้เกณฑก์ ารประเมิน โดยการแปลงค่าร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานท�ำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี เปน็ คะแนนระหว่าง 0 - 5 ก�ำหนดให้คะแนนเต็ม 5 = ร้อยละ 100สูตรการค�ำนวน 1. ค�ำนวนคา่ รอ้ ยละของบณั ฑติ ปรญิ ญาตรที ไี่ ดง้ านท�ำหรอื ประกอบอาชพี อสิ ระภายใน 1 ปี ตามสูตร จ�ำนวนบณั ฑติ ปริญาตรที ี่ได้งานท�ำหรอื ประกอบอาชพี อสิ ระภายใน 1 ปี x 100 จ�ำนวนบณั ฑติ ท่ตี อบแบส�ำรวจทัง้ หมด การค�ำนวณคา่ รอ้ ยละนีไ้ มน่ �ำบณั ฑติ ท่ีศึกษาตอ่ เกณฑท์ หาร อปุ สมบท และบณั ฑิตทม่ี ีงานท�ำแล้วแตไ่ ม่ไดเ้ ปล่ยี นงานมาพิจารณา 2. แปลงค่ารอ้ ยละทคี่ �ำนวนได้ในข้อ 1 เทยี บกบั คะแนนเต็ม 5คะแนนทีไ่ ด้ = คา่ รอ้ ยละบณั ฑติ ปรญิ าตรีทีไ่ ด้งานท�ำหรือประกอบอาชพี อสิ ระภายใน 1 ปี x 5 100หมายเหตุ : จ�ำนวนบณั ฑิตท่ีตอบแบบส�ำรวจจะตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 70 ของจ�ำนวนบณั ฑติ ท่ีส�ำเร็จการศกึ ษา 59

บทบาทนักศกึ ษา 1. คณะพยาบาลศาสตร์จะมีการสอบถามการได้งานท�ำของบัณฑิต ภายหลังการส�ำเร็จการศึกษา(ประมาณเดอื นเมษายน) และ อกี ครง้ั ภายใน 1 ปี ดงั นน้ั จงึ ใครข่ องความรว่ มมอื บณั ฑติ ในการใหข้ อ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ และเชน่ เดยี วกนั กบั ตวั บง่ ชที้ ี่ 2.1 ขอใหบ้ ณั ฑติ ไดต้ ระหนกั ถงึ ความส�ำคญั วา่ การปฏบิ ตั งิ านของบณั ฑติ เปน็สง่ิ ทมี่ ผี ลสะทอ้ นถงึ คณุ ภาพของคณะพยาบาลศาสตร์ และมหาวทิ ยาลยั เชน่ การเปลย่ี นสถานทที่ �ำงานบอ่ ยๆ โดยไมม่ ีเหตผุ ลสมควร จะสะทอ้ นภาพลักษณใ์ นทางลบของบณั ฑิต และสถาบนัองค์ประกอบท่ี 3 นกั ศึกษา ความส�ำเร็จของการจัดการศึกษาข้ึนอยู่กับปัจจยั ส�ำคญั ปจั จัยหนึ่ง คือ นกั ศึกษา ระบบประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา ตอ้ งใหค้ วามส�ำคญั กบั การรบั หรอื คดั เลอื กนกั ศกึ ษาเขา้ ศกึ ษาในหลกั สตู ร ซงึ่ ตอ้ งเปน็ ระบบทสี่ ามารถคดัเลอื กนกั ศกึ ษาทมี่ คี ณุ สมบตั แิ ละความพรอ้ มในการเรยี นหลกั สตู รจนส�ำเรจ็ การศกึ ษา และสง่ เสรมิ พฒั นานกั ศกึ ษาให้มีความพร้อมทางการเรียน และมีกิจกรรมการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ เพ่ือให้นักศึกษามีความรู้ความสามารถตามหลกั สตู ร มที กั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรษท่ี 21 และส�ำหรบั หลกั สตู รระดบั บณั ฑติ ศกึ ษามที กั ษาการวจิ ยั ทสี่ ามารถสรา้ งองคค์ วามรู้ได้ ทักษะที่จ�ำเป็นส�ำหรับการเรียนรู้ใศตวรรษที่ 21 ประกอบกด้วย 4 กลุม่ หลกั ไดแ้ ก่ (1) กลุ่มวชิ าหลัก(core subjects) (2) กลมุ่ ทักษะชีวติ และอาชีพ (life and career skills) (3) กลมุ่ ทกั ษะการเรยี นรูแ้ ละนวัตกรรม(learning in innovation skills) และ (4) กลุม่ ทักษะสารสนเทศส่อื และเทคโนโลยี (information, media andtechnology skills) ทักษะส�ำคัญท่ีคนสว่ นใหญ่ใหค้ วามส�ำคัญมาก คอื 1) กล่มุ ทักษาการเรียนรนู้ วตั กรรม ไดแ้ ก่ (1) การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปญั หา (critical thinkingand problem solving) (2) นวัตกรรมและการสรา้ งสรรค์ (innovation and creativity) (3) การส่อื สารและความร่วมมือกนั (communication and collaboration) 2) กลุ่มทักษะสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี (information, media and technology skills)ประกอบดว้ ย การรสู้ ารสนเทศ (information literacy) การรูส้ ่อื (media literacy) และ การรู้ ICT (ICT literacy) 3) กลุม่ ทักษะชวี ิตและอาชีพ (life and career skills) ประกอบด้วยความสามารถในการปรับตัวและยืดหยนุ่ (adaptability and flexibility) ความคดิ ริเรม่ิ และการเรยี นรูไ้ ด้ดว้ ยตนเอง (initiative and self-direction) ปฏสิ ัมพนั ธ์ทางสงั คมและขา้ มนวตั กรรม (social and cross-cultural interaction) ความรบั ผดิ ชอบและความสามารถผลติ ผลงาน (accountability and productivity) ความเปน็ ผนู้ �ำและรับผิดชอบตอ่ สังคม (leadership andsocial responsibility) การประกันคุณภาพหลักสูตรในองค์ประกอบด้านนักศึกษา เร่ิมด�ำเนินการต้ังแต่ระบบการรับนักศึกษาการสง่ เสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา และผลลพั ธ์ทีเ่ กดิ ข้นึ กับนกั ศึกษา ภายใต้การด�ำเนนิ การดังกล่าวใหพ้ จิ ารณาจากตัวบง่ ชดี้ งั ต่อไปนี้ ตวั บง่ ช้ีที่ 3.1 การรบั นกั ศกึ ษา ตัวบ่งชท้ี ี่ 3.2 การส่งเสรมิ และพฒั นานกั ศึกษา ตัวบง่ ชีท้ ี่ 3.3 ผลทีเ่ กดิ กบั นักศึกษา60

ตวั บง่ ชี้ที่ 3.2 การส่งเสริมและพัฒนานกั ศึกษาชนิดของตัวบ่งชี้ กระบวนการค�ำอธบิ ายตวั บง่ ช ้ี ในชว่ งปแี รกของการศกึ ษา ตอ้ งมกี ลไกในการพฒั นาความรพู้ นื้ ฐานหรอื การเตรยี มความพรอ้ ม ทางการเรียนแก่นักศึกษา เพ่ือให้มีความสามารถในการเรียนรู้ระดับอุดมศึกษาได้อย่างมี ความสุข อัตราการลาออกกลางคนั นอ้ ย ในระหวา่ งการศึกษามีการจดั กจิ กรรมการพัฒนา ความรคู้ วามสามารถในรปู แบบตา่ งๆ ทง้ั กจิ กรรมในหอ้ งเรยี นมกี จิ กรรมในหอ้ งเรยี นมกี จิ กรรม เสรมิ สรา้ งความเปน็ พลเมอื งดมี่ จี ติ ใตส้ �ำนกึ สาธารณะ มกี ารวางระบบการดแู ลใหค้ �ำปรกึ ษา จากอาจารยท์ ป่ี รกึ ษาวชิ าการ (ระดบั ปรญิ ญาตร ี โท เอก) ระบบการปอ้ งกนั หรอื การบรหิ าร จัดการความกล้าเสี่ยงของนักศึกษา เพ่ือให้สามารถส�ำเร็จการศึกษาได้ตามระยะเวลาท่ี หลักสูตรก�ำหนด รวมทั้งการส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานวิชาการของนักศึกษา การสร้าง โอกาสการเรยี นรทู้ สี่ ง่ เสรมิ การพฒั นาศกั ยภาพนกั ศกึ ษาและทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ใหไ้ ดม้ าตรฐานสากลในการายงานการด�ำเนนิ งานตามตวั บง่ ชนี้ ี้ ใหอ้ ธบิ ายกระบวนการ หรอื แสดงผลการด�ำเนินงาน อย่างน้อยให้ครอบคลุมประเด็นตอ่ ไปนี้ - การควบคมุ การดูแลการให้ค�ำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแกน่ ักศึกษาปรญิ ญาตรี - การควบคมุ การดูแลการให้ค�ำปรึกษาวทิ ยานพิ นธ์ แกบ่ ณั ฑิตศึกษา - การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในการประเมินเพ่ือให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผล การด�ำเนินงานทั้งหมด ท่ีท�ำให้รักศึกษาเรียนอย่างมีความสุขและมีทักษะที่จ�ำเป็นต่อ การประกอบอาชพี ในอนาคต ในการประเมินเพ่ือให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการด�ำเนินงานทัง้ หมด ทีท่ �ำให้รกั ศกึ ษาเรยี นอยา่ งมคี วามสขุ และมที กั ษะทีจ่ �ำเปน็ ต่อการประกอบอาชพี ในอนาคตเกณฑ์การประเมนิ012 3 4 5• ไม่มีระบบ • มีระบบมกี ลไก •มีระบบมกี ลไก •มีระบบมกี ลไก •มรี ะบบมกี ลไก •มรี ะบบ มกี ลไก• ไม่มีกลไก •ไม่มีการนำ�ระบบ •มกี ารน�ำ ระบบ •มกี ารน�ำ ระบบ •มกี ารน�ำ ระบบ •มีการนำ�ระบบ• ไมม่ ีแนวคดิ กลไกไปสู่การ กลไกไปสกู่ าร กลไกไปสู่การ กลไกสู่การ กลไกไปสกู่ าร ในการกำ�กบั ปฏบิ ัต/ิ ปฏบิ ัต/ิ ด�ำ เนิน ปฏิบตั ิ/ด�ำ เนินงาน ปฏบิ ตั /ิ ดำ�เนนิ ปฏิบัติ/ด�ำ เนนิ งาน ตดิ ตามและ ด�ำ เนนิ งาน งาน •มีการประเมิน งาน •มีการประเมิน ปรับปรุง •มกี ารประเมิน กระบงนการ •มกี ารประเมิน กระบวนการ• ไม่มีข้อมูล กระบวนการ •มกี ารปรบั ปรุง/ กระบวนการ •มกี ารปรบั ปรุง/ หลักฐาน •ไมม่ กี าร พฒั นากระบวนการ •มกี ารปรบั ปรงุ พัฒนา ปรับปรุง/พฒั นา จากผลการประเมิน /พัฒนา กระบวนการ กระบวนการ กระบวนการ จากผลการ จากผลการ ประเมนิ ประเมิน •มีผลจากการ •มผี ลจากการ ปรับปรงุ เห็น ปรับปรุงเหน็ ชัดเจนเป็น ชัดเจนเปน็ รปู ธรรม รปู ธรรม •มแี นวทางปฏัติ ท่ีดี โดยมีหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ยืนยนั และ กรรมการผู้ตรวจ ประเมินสามารถ ใหเ้ หตผุ ลอธิบาย การเป็นแนว ปฏบิ ัติทีด่ ีได้ ชัดเจน 61

บทบาทนกั ศึกษา 1. ตัวบ่งช้ีนี้ มุ่งหวังให้คณะฯมีระบบและกลไกในการดูแล ให้ค�ำปรึกษานักศึกษาท้ังทางด้านวิชาการและดา้ นสว่ นตวั โดยการจดั ใหม้ อี าจารยป์ ระจ�ำชน้ั อาจารยท์ ปี่ รกึ ษา จดั กจิ กรรม/โครงการ ทจี่ ะชว่ ยพฒั นาศกั ยภาพนกั ศกึ ษา และการเสริมสร้างทกั ษะการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ดงั นนั้ นักศึกษาจงึ ควรมีความใฝ่รู้ พฒั นาตนเองกระตือรือร้นในการเรียนรู้ และการฝึกประสบการณ์ทางวิชาชีพ เข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์ประจ�ำชั้นอยา่ งสมำ่� เสมอ และให้ความรว่ มมือ เขา้ รว่ มในกิจกรรม/โครงการท่คี ณะฯจดั ให้ตัวบง่ ช้ที ี่ 3.3 ผลท่ีเกดิ กับนกั ศึกษาชนดิ ของตัวบ่งช้ี ผลลพั ธ์ค�ำอธิบายตัวบ่งชี้ ผลการประกนั คณุ ภาพควรท�ำให้นักศกึ ษามคี วามพรอ้ มทางการเรยี นมอี ัตรการคง อยู่ของ นกั ศกึ ษาในหลกั สตู รสงู อตั ราการส�ำเรจ็ การศกึ ษาตามหลกั สตู รสงู นกั ศกึ ษามคี วามพงึ พอใจ ต่อหลกั สูตร และผลการจดั การขอ้ รอ้ งเรยี นของนกั ศกึ ษา ในการรายงานการด�ำเนินงานตามตัวบ่งช้ีนี้ ให้อธิบายกระบวนการหรือแสดงผล การด�ำเนนิ งานในประเดน็ ตอ่ ไปนี้ - การคงอยู่ - การส�ำเร็จการศึกษา - ความพึงพอใจและผลการจดั การขอ้ รอ้ งเรียนของนกั ศึกษา 012 3 4 5• ไมม่ กี าร • มกี ารรายงานผล •มกี ารรายงาน •มีการรายงาน •มกี ารรายงาน •มีการรายงานผล รายงานผลการ การดำ�เนนิ งาน ผลการดำ�เนิน ผลการดำ�เนนิ งาน ผลการด�ำ เนิน การดำ�เนนิ งาน ด�ำ เนนิ งาน ในบางเรอื่ ง งานครบทกุ เร่อื ง ครบทุกเรือ่ งตามคำ� งานครบทุกเร่ือง ครบทกุ เรื่องตาม ตามค�ำ อธิบาย อธบิ ายในตัวบง่ ชี้ ตามคำ�อธบิ าย คำ�อธิบายในตัว ในตวั บ่งชี้ •มแี นวโน้มผลการ ในตวั บ่งช้ี บ่งชี้ ด�ำ เนินงานทด่ี ขี ึ้นใน •มแี นวโนม้ ผล •มแี นวโนม้ ผลการ บางเรอื่ ง การด�ำ เนนิ งานท่ี ด�ำ เนนิ งานท่ดี ีขึ้น ดีขน้ึ ในทุกเรอ่ื ง ในทกุ เร่อื ง •มผี ลการดำ�เนิน งานทโี่ ดดเดน่ เทยี บเคียงกบั หลักสูตรนัน้ ใน สถาบันกลมุ่ เดยี วกนั โดย มหี ลักฐานเชิง ประจกั ษ์ยนื ยนั และกรรมการ ผู้ตรวประเมิน สามารถใหเ้ หตุผล อธิบายวา่ เปน็ ผล การด�ำ เนินงานที่ โดดเดน่ โดยแท้จรงิ62

บทบาทนักศึกษา 1. ตวั บง่ ช้นี ี้ แสดงถงึ ผลลพั ธข์ องกระบวนการในการส่งเสรมิ และพฒั นานักศกึ ษา ใหน้ กั ศึกษาสามารถเรยี นรใู้ นหลักสูตร จนส�ำเรจ็ การศึกษาในเวลาทก่ี �ำหนด 2. คณะจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ประเมินการจัดการเรียนการสอนรายวิชาทุกวิชา และประเมินประสทิ ธภิ าพการสอนของอาจารยท์ กุ ทา่ นเมอ่ื สน้ิ สดุ ภาคการศกึ ษา จงึ ใครข่ อความรว่ มมอื นกั ศกึ ษาในการใหข้ อ้ มลูท่ีเหมาะสมตามความเปน็ จริง 3. คณะจะเปดิ โอกาสใหน้ กั ศกึ ษาไดป้ ระเมนิ ความพงึ พอใจในการใหบ้ รกิ ารของอาจารยป์ ระจ�ำชนั้ และอาจารยท์ ีป่ รึกษา และกจิ กรรมในการพัฒนานกั ศึกษา จึงใคร่ขอความรว่ มมอื นกั ศกึ ษาในการใหข้ ้อมูลที่เหมาะสมตามความเปน็ จรงิ 4. คณะจะมกี ารส�ำรวจความพงึ พอใจตอ่ การบรหิ ารหลกั สตู รของนกั ศกึ ษาปสี ดุ ทา้ ยกอ่ นทจี่ ะส�ำเรจ็ การศกึ ษา จงึ ใครข่ อความรว่ มมอื นักศึกษาในการใหข้ ้อมลู ที่เหมาะสมตามความเปน็ จรงิ 5. นอกจากนนั้ ในกรณที ม่ี ปี ญั หา หรอื ขอ้ รอ้ งเรยี น นกั ศกึ ษาสามารถเสนอขอ้ รอ้ งเรยี น ไดห้ ลายชอ่ งทางเชน่ ผา่ นอาจารยท์ ปี่ รกึ ษา อาจารยป์ ระจ�ำชนั้ อาจารยผ์ สู้ อน/ผรู้ บั ผดิ ชอบวชิ าโดยตรง หรอื สง่ เปน็ บนั ทกึ ขอ้ ความ/จดหมายถงึ คณบดโี ดยตรง หรอื สง่ ขอ้ ความผา่ นทางเฟสบคุ ของคณะ เปน็ ตน้ เมอ่ื คณะไดร้ บั เรอ่ื ง กจ็ ะมกี ระบวนการในการจัดการข้อรอ้ งเรยี น และแจ้งความกา้ วหนา้ /ผลการด�ำเนินการใหน้ กั ศึกษาทราบ องค์ประกอบที่ 6 ส่งิ สนับสนนุ การเรยี นรู้ ในการด�ำเนนิ การบรหิ ารหลกั สตู ร จะตอ้ งมปี จั จยั ทส่ี �ำคญั อกี ประการหนงึ่ คอื สง่ิ สนบั สนนุ การเรยี นรู้ ซง่ึประกอบดว้ ย ความพร้อมทางศักยภาพ ความพรอ้ มดา้ นอุปกรณ์ ความพรอ้ มดา้ นเทคโนโลยี ความพร้อมด้านการให้บริการ เชน่ หอ้ งเรยี น หอ้ งปฏิบตั กิ าร หอ้ งท�ำวจิ ัย อปุ กรณ์การเรียนการสอน ห้องสมดุ การบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ Wifi และอื่นๆ รวมท้ังการท�ำนุบ�ำรุงที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล ตามมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีก�ำหนดตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาต ิ โดยพิจารณาร่วมกับผลการประเมนิ ความพึงพอใจของนกั ศึกษาและอาจารย์ องค์ประกอบด้านสงิ่ สนบั สนุนการเรยี นร้พู จิ ารณาได้จาก ตัวบง่ ชี้ 6.1 สงิ่ สนบั สนุนดา้ นการเรยี นรู้ตวั บ่งชี้ 6.1 ส่งิ สนับสนนุ ดา้ นการเรียนรู้ชนดิ ของตัวบ่งช้ี กระบวนการค�ำอธบิ ายตวั บง่ ช ้ี ความพรอ้ มของสงิ่ สนบั สนนุ การเรยี นการสอนมหี ลายประการ ไดแ้ ก่ ความพรอ้ มทางกายภาพ เช่น ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ที่พักของนักศึกษา ฯลฯ และความพร้อมของอุปกรณ์ เทคโนโลยี และสิ่งอ�ำนวยความสะดวกหรือทรัพยากรท่ีเอื้อต่อการเรียนรู้ เช่น อุปกรณ์ การเรยี นการสอน หอ้ งสมดุ หนงั สอื ต�ำรา สง่ิ พมิ พ์ วารสาร ฐานขอ้ มลู เพอื่ การสบื คน้ แหลง่ เรยี นรู้ สื่ออเิ ล็คทรอนิกส์ ฯลฯ สงิ่ สนบั สนนุ เหล่านต้ี อ้ งมีปริมาณเพียงพอ และมีคณุ ภาพ พรอ้ มใชง้ าน ทนั สมยั โดยพจิ ารณาการด�ำเนนิ การปรบั ปรงุ พฒั นาจากผลการประเมนิ ความ พงึ พอใจของนักศึกษาและอาจารย์ ในการรายงานผลการด�ำเนินงานตามตวั บง่ ชี้น้ ี ใหอ้ ธิบายกระบวนการหรอื แสดงผลการ ด�ำเนนิ งานอยา่ งนอ้ ยใหค้ รอบคลุมประเด็นตอ่ ไปน้ี - ระบบการด�ำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบันโดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ประจ�ำ หลกั สตู รเพอื่ ใหม้ สี ่งิ สนับสนุนการเรยี นรู้ - จ�ำนวนส่ิงสนบั สนุนการเรียนรทู้ เี่ พยี งพอและเหมาะสมตอ่ การจัดการเรียนการสอน - กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อ ส่ิงสนบั สนนุ การเรียนรู้ 63

ในการประเมินเพ่ือให้ทราบว่าอยู่ในระดับคะแนนใด ให้พิจารณาในภาพรวมของผลการด�ำเนินงานทงั้ หมดทสี่ ะทอ้ นการจดั เตรยี มสง่ิ สนบั สนนุ การเรยี นรทู้ จ่ี �ำเปน็ ตอ่ การเรยี นการสอน และสง่ ผลใหผ้ เู้ รยี นสามารถเรยี นรู้ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิผลเกณฑก์ ารประเมนิ 012 3 4 5• ไมม่ รี ะบบ • มีระบบมีกลไก • มีระบบมกี ลไก • มีระบบมกี ลไก •มรี ะบบมกี ลไก •มรี ะบบ มีกลไก• ไมม่ กี ลไก • ไม่มกี ารนำ� • มีการน�ำ ระบบ • มกี ารนำ�ระบบ •มีการนำ�ระบบ •มกี ารนำ�ระบบ• ไม่มแี นวคดิ ใน ระบบกลไกไปสกู่ าร กลไกไปสกู่ าร กลไกไปสู่การ กลไกไปสู่การ กลไกไปสูก่ าร การกำ�กบั ปฏิบตั /ิ ด�ำ เนนิ งาน ปฏบิ ตั ิ/ด�ำ เนนิ ปฏิบัติ/ดำ�เนนิ งาน ปฏบิ ตั ิ/ดำ�เนนิ ปฏิบัติ/ดำ�เนนิ งาน ติดตามและ งาน • มีการประเมิน งาน •มกี ารประเมิน ปรับปรงุ • มกี ารประเมิน กระบวนการ •มกี ารประเมนิ กระบวนการ• ไม่มีข้อมลู หลกั กระบวนการ • มีการปรับปรุง/ กระบวนการ •มีการปรบั ปรงุ / ฐาน • ไมม่ ีการ พฒั นา •มีการปรบั ปรงุ พฒั นา ปรับปรงุ / กระบวนการ /พฒั นา กระบวนการ พัฒนา จากผลการ กระบวนการ จากผลการ กระบวนการ ประเมิน จากผลการ ประเมิน ประเมนิ •มผี ลจากการ •มผี ลจากการ ปรับปรุงเห็น ปรับปรงุ เห็น ชัดเจนเป็น ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม รูปธรรม •มีแนวทางปฏตั ิ ทด่ี ี โดยมหี ลักฐาน เชิงประจักษ์ยนื ยนั และกรรมการ ผตู้ รวจประเมนิ สามารถใหเ้ หตุผล อธิบายการเปน็ แนวปฏบิ ตั ิท่ดี ีได้ ชัดเจนบทบาทนักศึกษา 1. นกั ศกึ ษาควรมสี ว่ นรว่ มในการเสนอความคดิ เหน็ ตอ่ การจดั หาสงิ่ สนบั สนนุ การเรยี นรใู้ นเชงิ สรา้ งสรรค์ซ่ึงคณะฯ จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงความคิดเห็นในหลายช่องทาง เช่น การประเมินผลรายวิชาจะมีการสอบถามถงึ ทรพั ยากรในการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลแหลง่ ฝกึ ภาคปฏบิ ตั ิ การสมั มนาปญั หาการจดั การเรยี นการสอนเมอ่ื สน้ิ สดุ ปกี ารศกึ ษา เปน็ ตน้ นอกจากนน้ั นกั ศกึ ษา ยงั สามารถใหข้ อ้ เสนอแนะผา่ นทางอาจารยท์ ปี่ รกึ ษา อาจารย์ประจ�ำช้ัน อาจารย์ผสู้ อน/ผู้รับผิดชอบวิชาไดอ้ กี ด้วย 2. คณะจะมีการส�ำรวจความพึงพอใจของนักศึกษา ต่อการจัดบริการสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ทุกปีการศึกษา จงึ ใครข่ อความร่วมมือนกั ศึกษาในการให้ข้อมลู ท่เี หมาะสมตามความเป็นจริง64

การประกนั คุณภาพการศกึ ษาในระดบั คณะท่ีเก่ยี วข้องกับนักศกึ ษา และบทบาทของนักศกึ ษาองคป์ ระกอบท่ี 1 การผลิตบณั ฑิต พนั ธกจิ ทส่ี �ำคญั ทสี่ ดุ ของสถาบนั อดุ มศกึ ษา คอื การผลติ บณั ฑติ หรอื การจดั การเรยี นการสอนใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ในวิชาการและวิชาชีพ มีคุณลักษณะตามที่หลักสูตรท่ีก�ำหนด การท่ีจะให้การเรียนการสอนได้ผลดีมีประสทิ ธภิ าพนน้ั ผสู้ อนจะตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มในการสอน และนกั ศกึ ษากต็ อ้ งเตรยี มความในการเรยี น และตอ้ งมีส่วนรว่ มในกระบวนการเรียนการสอนดว้ ยตวั บ่งช้ที ่ี 1.5 การบรกิ ารนักศึกษาระดับปรญิ ญาตรีชนดิ ของตวั บ่งช้ี กระบวนการค�ำอธบิ ายตัวบง่ ชี้ คณะควรจัดบริการด้านต่างๆ ให้นักศึกษาและศิษย์เก่าในกิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์กับนกั ศกึ ษา เพอื่ การด�ำรงชวี ติ อยา่ งมคี วามสขุ และคมุ้ คา่ ในระหวา่ งการใชช้ วี ติ ในคณะ ตงั้ แตก่ ารใหค้ �ำปรกึ ษา ทงั้ ดา้ นวิชาการและการใช้ชวี ิต จัดบริการขอ้ มลู หน่วยงานทใ่ี ห้บริการ เชน่ ทุนกู้ยมื การศกึ ษาแหล่งทนุ การศึกษาต่อ การบริการจัดหางาน แหล่งข้อมูล การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ การเตรียมความพร้อมเพ่ือการท�ำงานเมื่อส�ำเร็จการศกึ ษา ขอ้ มลู ขา่ วสารความเคลอื่ นไหวในและนอกสถาบนั ทจ่ี �ำเปน็ แกน่ กั ศกึ ษาและศษิ ยเ์ กา่ โดยการใหบ้ รกิ ารทงั้ หมดตอ้ งให้ความส�ำคญั กบั การบริการทีม่ ีคณุ ภาพและเกิดประโยชนแ์ ก่ผรู้ บั บรกิ ารอยา่ งแทจ้ ริงเกณฑม์ าตรฐาน 1. จดั บรกิ ารใหค้ �ำปรกึ ษาทางวิชาการ และการใชช้ ีวิตแก่นกั ศกึ ษาในคณะ 2. มกี ารใหข้ อ้ มลู ของหนว่ ยงานทใี่ หบ้ รกิ าร กจิ กรรมพเิ ศษนอกหลกั สตู ร แหลง่ งานทงั้ เตม็ เวลาและนอกเวลาแกน่ ักศึกษา 3. จัดกิจกรรมเตรียมความพรอ้ มเพือ่ การท�ำงานเมื่อส�ำเร็จการศกึ ษาแกน่ กั ศกึ ษา 4. ประเมนิ คณุ ภาพของการจดั กจิ กรรมและการจดั บรกิ ารในขอ้ 1-3 ทกุ ขอ้ ไมต่ ำ่� กวา่ 3.51 จากคะแนนเต็ม 5 5. น�ำผลการประเมินจากข้อ 4 มาปรับปรุงพัฒนาการให้บริการและการให้ข้อมูล เพ่ือส่งให้ผลการประเมินสงู ข้นึ หรือเปน็ ไปตามความคาดหวังของนกั ศึกษา 6. ใหข้ ้อมลู และความรทู้ เ่ี ป็นประโยชน์ในการประกอบอาชพี แกศ่ ษิ ย์เก่าบทบาทนกั ศกึ ษา - คณะจะจัดอาจารย์ท่ีปรึกษาทางวิชาการและการใช้ชีวิตให้นักศึกษาทุกคน โดยอาจารย์ : นักศึกษาประมาณ 1 : 10 – 12 นกั ศกึ ษาจะปรกึ ษาอาจารยด์ า้ นการเรยี น การลงทะเบยี น การกยู้ มื เงนิ กองทนุ เพอ่ื การศกึ ษา - การเตรยี มความพรอ้ มเพื่อการสอน เพอ่ื ขึน้ ทะเบียนประกอบวชิ าชพี นกั ศึกษาจะไดเ้ ข้ารว่ มโครงการเตรยี มความพรอ้ มเพอื่ สอบใหไ้ ดต้ ามเกณฑข์ องสภาการพยาบาล นกั ศกึ ษาจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบเขา้ รบั การเตรยี มความพรอ้ ม มฉิ ะนนั้ นกั ศกึ ษาจะไมส่ ามารถสอบผา่ นและหากสอบไมผ่ า่ นแมว้ ชิ าเดยี ว กจ็ ะไมส่ ามารถประกอบวชิ าชพี ได้ - นกั ศกึ ษาจะเปน็ ผปู้ ระเมนิ บรกิ ารตา่ งๆ ทคี่ ณะ/มหาวทิ ยาลยั จดั ให้ เพอ่ื น�ำผลการประเมนิ ไปปรบั ปรงุเช่น บริการห้องสมุด หอพัก การใช้ WIFI ในมหาวิทยาลัย การเข้าใช้ฐานข้อมูลต่างๆ บริการต่างๆ ท่ีคณะ/มหาวทิ ยาลยั จัดให้โดยการลงทนุ ทส่ี ูง นักศกึ ษาควรใช้ใหเ้ กิดประโยชน์คมุ้ ค่าเพือ่ ประโยชน์ของนกั ศึกษาเอง 65

องค์ประกอบที่ 1.6 กิจกรรมนกั ศกึ ษาระดับปริญญาตรีตัวบง่ ชที้ ่ี 1.6 กิจกรรมนักศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรีชนดิ ของตวั บง่ ช ี้ กระบวนการค�ำอธบิ ายตัวบง่ ช้ ี คณะตอ้ งสง่ เสรมิ ใหม้ กี ารจดั กจิ กรรมนกั ศกึ ษาตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสมและครบถว้ น กจิ กรรมนกั ศกึ ษาหมายถงึ กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู รทด่ี �ำเนนิ การทงั้ โดยคณะและโดยองคก์ รนกั ศกึ ษา เปน็ กจิ กรรมทผี่ เู้ ขา้ รว่ มจะมโี อกาสไดร้ บั พัฒนาสติปัญญา สงั คม อารมณ์ ร่างกาย และคณุ ธรรม จรยิ ธรรม โดยสอดคลอ้ งกับคุณลกั ษณะบณั ฑติ ทพ่ี งึ ประสงค์ ทปี่ ระกอบดว้ ยมาตรฐานผลการเรยี นรตู้ ามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ แิ หง่ ชาต ิ 5 ประการ ไดแ้ ก่(1) คณุ ธรรม จริยธรรม (2) ความร ู้ (3) ทักษะทางปญั ญา (4) ทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลและความรับผดิ ชอบ (5) ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การสอื่ สารและการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ท่ีคณะ สถาบนั และสภา/องค์กรวิชาชีพได้ก�ำหนดเพิ่มเตมิ ตลอดจนสอดคล้องกับความตอ้ งการของผู้ใช้บณั ฑิตและน�ำหลัก PDSA/ PDCA (Plan, Do, Study/Check, Act) ไปใช้ในชวี ติ ประจ�ำวันเป็นการพฒั นาคุณภาพนกั ศกึ ษาอย่างยัง่ ยืนเกณฑ์มาตรฐาน 1. จัดท�ำแผนการจดั กิจกรรมพัฒนานกั ศึกษาในภาพรวมของคณะโดยให้นกั ศกึ ษามีสว่ นรา่ วมในการจัดท�ำแผนและการจัดกิจกรรม 2. ในแผนการจดั กจิ กรรมพฒั นานกั ศกึ ษา ใหด้ �ำเนนิ กจิ กรรมทสี่ ง่ เสรมิ คณุ ลกั ษณะบณั ฑติ ตามมาตรฐานผลการเรียนรตู้ ามกรอบมาตรฐานคุณวุฒแิ ห่งชาติ 6 ประการ ให้ครบถว้ น ประกอบด้วย (1) คณุ ธรรม จรยิ ธรรม (2) ความรู้ (3) ทกั ษะทางปญั ญา (4) ทักษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (5) ทักษะการวิเคราะห์เชงิ ตัวเลข การสอ่ื สารและการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (6) การปฏบิ ตั กิ ารพยาบาล 3. จัดกจิ กรรมใหค้ วามร้แู ละทักษะการประกนั ขึ คุณภาพแกน่ ักศึกษา 4. ทุกกิจกรรมท่ีด�ำเนินการ มีการประเมินผลความส�ำเร็จตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมและผลการประเมนิ มาปรบั ปรงุ ด�ำเนินงานครง้ั ตอ่ ไป 5. ประเมนิ ความส�ำเรจ็ ตามวตั ถุประสงคข์ องแผนการจดั กจิ กรรมพัฒนานักศกึ ษา 6. น�ำผลการประเมนิ ไปรบั ปรุงแผนหรอื ปรับปรุงการจัดกิจกรรมเพอ่ื พัฒนานักศึกษาบทบาทนักศกึ ษา/การมีสว่ นรว่ มกิจกรรม - คณะ/มหาวทิ ยาลยั จะจดั กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร และบางครง้ั กจ็ ะรว่ มกบั องคก์ รนกั ศกึ ษา หรอื องคก์ รนักศึกษาเปน็ ผู้จดั กิจกรรมเอง - การจดั กจิ กรรมจะชว่ ยพฒั นาคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคท์ มี่ ผี ลการเรยี นรู้ ครอบคลมุ ทกั ษะทงั้ 6 ประเดน็นักศึกษาควรเข้ารว่ มกิจกรรมทุกครง้ั - ในกรณที นี่ ักศกึ ษา เปน็ ผู้จดั เอง จะต้องใช้กระบวนการ PDCA และสามารถน�ำไปใช้ในชวี ติ ประจ�ำวนั - นกั ศกึ ษาควรเรยี นรู้เรอื่ งการประกนั คุณภาพและมีสว่ นร่วมในกิจกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ ง - นักศกึ ษาจะต้องมสี ว่ นรว่ มในการประเมนิ ผลกิจกรรมต่างๆ เพอื่ จะไดน้ �ำผลการประเมิน ไปปรับปรงุตอ่ ไป66

ภาคผนวกSuan Dusit



หมวดวชิ าศกึ ษาท่วั ไปSuan Dusit

หมวดวชิ าศึกษาทัว่ ไปการจดั การเรียนการสอน หลกั สตู รระดบั ปรญิ ญาตรกี �ำ หนดใหเ้ รยี นรายวชิ าหมวดวชิ าศกึ ษาทว่ั ไปไมน่ อ้ ยกวา่  30 หนว่ ยกติ การจดั วชิ าหมวดวิชาศึกษาทั่วไป สำ�หรับหลักสูตรปริญญาตรี (ต่อเนื่อง) อาจได้รับการยกเว้นรายวิชาท่ีได้ศึกษามาแล้ว ในระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ครู หรอื ระดบั อนปุ รญิ ญา ทงั้ นจ้ี �ำ นวนหนว่ ยกติ  ของรายวชิ าทไี่ ดร้ บั การยกเวน้ ดงั กลา่ ว เมอ่ื นบัรวมกบั รายวิชาทน่ี กั ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ ในหลักสตู ร ปรญิ ญาตรี (ต่อเน่อื ง) ตอ้ งไม่น้อยกว่า 30 หนว่ ยกติหลักสูตร/สาขาวิชาท่ีใชห้ มวดวชิ าศกึ ษาทว่ั ไป - สาขาวิชาเทคโนโลยกี ารแปรรปู อาหาร 1. หลักสตู รวิทยาศาสตรบัณฑติ - สาขาวชิ าวิทยาศาสตรเ์ ครือ่ งส�ำ อาง - สาขาวิชาอาชวี อนามยั และความปลอดภัย - สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารประกอบอาหารและการบรกิ าร - สาขาวิชาสิง่ แวดลอ้ มเมอื งและอุตสาหกรรม - สาขาวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศ - สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ - สาขาวิชาเทคโนโลยเี คม ี - สาขาวชิ าบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ - สาขาวชิ าโภชนาการและการประกอบอาหาร - สาขาวชิ าออกแบบนิทรรศการและการจดั แสดง - สาขาวชิ าภาษาอังกฤษ 2. หลกั สูตรบญั ชบี ัณฑิต - สาขาวชิ าจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ - สาขาวชิ าการบญั ชี - สาขาวิชารัฐศาสตร ์ 3. หลกั สตู รนเิ ทศศาสตรบัณฑิต - สาขาวชิ าภาษาจีน - สาขาวิชานิเทศศาสตร์ - สาขาวิชาคหกรรมศาสตร ์ 4. หลักสูตรศลิ ปศาสตรบณั ฑติ - สาขาวชิ าธรุ กิจการโรงแรม - สาขาวชิ าการจดั การธุรกจิ คา้ ปลกี - สาขาวิชาการท่องเทีย่ ว - สาขาวชิ าธรุ กิจระหวา่ งประเทศ - สาขาวิชาธุรกิจการบนิ - สาขาวิชาการจดั การ - สาขาวิชา Hospitality Management - สาขาวชิ าการบรกิ ารลูกคา้ (International Programme) - สาขาวชิ าภาษาไทย - สาขาวิชาศิลปศึกษา - สาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตร์ - สาขาวชิ าฟสิ ิกส์ - สาขาวชิ าภาษาอังกฤษธุรกจิ 5. หลักสูตรนติ ศิ าสตรบัณฑติ - สาขานิติศาสตร์ 6. หลกั สตู รบรหิ ารธรุ กจิ บณั ฑิต - สาขาวิชาคอมพิวเตอรธ์ ุรกจิ - สาขาวชิ าเลขานกุ ารทางการแพทย ์ - สาขาวิชาการตลาด - สาขาวชิ าการเงนิ - สาขาวิชาการจดั การทรพั ยากรมนษุ ย์ 7. หลกั สตู รศึกษาศาสตรบณั ฑิต - สาขาวชิ าการศกึ ษาปฐมวยั - สาขาวิชาการประถมศกึ ษา - สาขาวิชาคณิตศาสตร์70

ข้อกำ�หนดเฉพาะ ห ลักสูตรปริญญาตรีให้ศึกษาวิชาในกลุ่มวิชาภาษาอังกฤษตามนโยบายของสำ�นักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาตามกลุ่มคะแนน O-NET ดังนี้ 1. ระดับ 1 คะแนนตำ่�กว่า 30 คะแนน ถือว่าต่ำ�กว่าเกณฑ์มาตรฐานของการเรียนภาษาอังกฤษในมหาวทิ ยาลยั ใหเ้ รยี นซอ่ มเสรมิ โดยจดั อบรมซอ่ มเสรมิ จ�ำ นวน 30-45 ชวั่ โมง กอ่ นการลงทะเบยี นรายวชิ าภาษาองั กฤษ 2. ระดบั 2 คะแนน 31-70 คะแนน ใหเ้ รยี นภาษาอังกฤษ 1-2 ดังนี้1500112 ภาษาองั กฤษเพือ่ การสื่อสาร 3(3-0-6) 1500113 ภาษาอังกฤษเพ่อื ทักษะการเรียน 3(3-0-6) 3. ระดบั 3 คะแนน 71-80 คะแนน ให้เรยี นภาษาองั กฤษ 2-3 ดงั น้ี1500113 ภาษาองั กฤษเพ่อื ทักษะการเรยี น 3(3-0-6) 1500114 ภาษาองั กฤษเชิงสถานการณ ์ 3(3-0-6) 4. ระดับ 4 คะแนนตัง้ แต่ 81 คะแนนข้ึนไป ให้เรยี นภาษาองั กฤษ 3-4 ดังน้ี1500114 ภาษาองั กฤษเชงิ สถานการณ ์ 3(3-0-6) 1500115 ภาษาอังกฤษเชิงวิชาการ 3(3-0-6) 71

คำ�อธบิ ายรายวิชาหมวดวชิ าศึกษาทัว่ ไป2500115 เหตกุ ารณ์โลกร่วมสมัย 3(3-0-6) (Contemporary World Affairs) ศกึ ษาการเปลย่ี นแปลงของสงั คมโลกในยคุ โลกาภวิ ตั น์ ทง้ั ดา้ นการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมส่ิงแวดล้อมและภัยคุกคามต่างๆ พัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม การมสี ่วนรว่ มในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาตามการเปล่ียนแปลงของสงั คม Study the changes in society in the age of globalization in terms of politics, economy,society, culture, environment and current global threats. Develop analytical thinking, human dignity,cultural diversity, participatory decision-making and problem solving, in social transformation. 3(3-0-6)2500113 จติ วทิ ยาเพื่อการพัฒนาตน (Psychology for Self – development) ศกึ ษาเกย่ี วกบั ความเปน็ มา ขอบเขตของวชิ าจติ วทิ ยา วธิ กี ารในการศกึ ษาและสาขาตา่ งๆ ของจติ วทิ ยาแนวคดิ ของนกั จติ วทิ ยากลมุ่ ตา่ งๆ พฤตกิ รรมของมนษุ ย์ พน้ื ฐานทางชวี วทิ ยาทเี่ กยี่ วกบั พฤตกิ รรม รวมถงึ เหตปุ จั จยัแหง่ พฤติกรรมมนุษย์ พัฒนาการในวัยตา่ งๆ การรบั รู้ การเรยี นรู้ การจูงใจ บคุ ลกิ ภาพ สขุ ภาพจติ การปรับตวัหลักมนุษยสัมพันธ์ การติดต่อส่ือสาร ภาวะผู้นำ�และการทำ�งานเป็นทีม และการนำ�หลักการของจิตวิทยาเพ่ือประยกุ ตใ์ ช้ในการพฒั นาชวี ติ ใหด้ ำ�เนนิ ไปอยา่ งมคี วามสุขท้ังส่วนตนและสังคม Study the background and scope of the theories and principles of psychology, the learningprocess and the various fields of psychology. Study perspectives from different psychologists, biologicalfactors and effects on human behavior, human development, perception and learning, motivation,personality, mental health, adjustment, principles of human relations, communication, leadership andteamwork. Apply principles of psychology to life and social development.1500117 ภาษาไทยเพือ่ การสือ่ สาร 3(3-0-6) Thai for Communication) ศึกษาหลักการและกระบวนการการใช้ภาษาไทยเชิงบูรณาการเพื่อการส่ือสาร เน้นการสังเคราะห์วิเคราะห์ การย่อความ สรุปความ และขยายความ นำ�เสนอในรูปแบบรายงานวิชาการและโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ Study the principles and processes of using Thai language integrated with communicationskills focusing on synthesis, analysis using summarization and modification of texts, as well aspresentations of academic reports and project work.1500110 ภาษาองั กฤษเพ่อื การสื่อสาร 3(3-0-6) (English for Communication) ฝกึ การสอ่ื สารดว้ ยภาษาองั กฤษเพอื่ ใชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั พฒั นาทกั ษะการฟงั การพดู การอา่ น การเขยี นศกึ ษาโครงสรา้ งไวยากรณ์ ค�ำ ศพั ท์ การใชถ้ อ้ ยค�ำ ส�ำ นวน การออกเสยี งและความรทู้ างวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาเพ่อื ใช้ในการสื่อสาร Practice communicative English for use in everyday life. Develop listening, speaking,reading and writing skills. Study English grammar, vocabulary, expressions, pronunciation and alsocultures of English speaking countries.72

1500113 ภาษาอังกฤษเพอื่ ทกั ษะการเรียน 3(3-0-6) (English for Study Skills) ฝกึ ทกั ษะภาษาองั กฤษ ดา้ นการฟงั การพดู การอา่ น และการเขยี น การพฒั นาค�ำ ศพั ท์ กลวธิ กี ารอา่ นการจดบันทึก การอนมุ านความและการทำ�แผนผงั ความคดิ Practice English listening, speaking, reading and writing skills focusing on readingstrategies. Also develop skills on how to make inferences, take notes and make mind maps.1500115 ภาษาองั กฤษเชิงวิชาการ 3(3-0-6) (English for Academic Purposes) ฝกึ ทกั ษะภาษาอังกฤษ การฟงั การพูด การอา่ น และการเขียนในบริบททางวิชาการและพฒั นาการคิดเชงิ วพิ ากษ์ และการใช้ถอ้ ยค�ำ สำ�นวนเชงิ วชิ าการ ฝกึ ทักษะภาษาอังกฤษเพื่อการสอบวัดระดับมาตรฐานความสามารถทางภาษาองั กฤษ Practice English listening, speaking, reading and writing skills. Focusing on academiccontexts. Also develop critical thinking using academic words and expressions. Practice English skillsto be able to take a standardized English test. 4000111 เทคโนโลยีสารสนเทศ 3(2-2-5) (Information Technology) ศกึ ษาองคป์ ระกอบ บทบาท ความส�ำ คญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ เทคโนโลยีการสอื่ สารและระบบเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ ฐานขอ้ มลู และการสบื คน้ เทคโนโลยกี ารจดั การสารสนเทศและองคค์ วามรู้ กฎหมาย จรยิ ธรรม และความปลอดภยั ในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ การประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื ชีวิต แนวโนม้ ของเทคโนโลยีสารสนเทศในอนาคต Study the components, roles and significance of Information Technology (IT), computertechnology and communication technology including networks, the Internet, social networks anddatabases, as well as information management technology, information related to laws and ethics,security in IT use, application of IT in life and trends in IT.4011311 ฟสิ กิ ส ์ 3(2-2-5) (Physics) หน่วย และการวัดทางชีวภาพ การเคลื่อนที่จลนศาสตร์ และพลศาสตร์ของวัตถุ สมดุลของแรงงาน และพลังงาน กลศาสตร์ของของไหล และของแข็ง หลักการของอุณหพลศาสตร์ การเคลื่อนที่ของคล่ืนและเสยี ง ทศั นศาสตร ์ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และเครอื่ งมอื นิวเคลียรฟ์ ิสกิ ส์ รังสี และการประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำ�วนัและงานบรกิ ารสขุ ภาพ Unit and biophysical measurement, dynamics and kinetics motion, force, work andenergy, fluid mechanics, solid mechanics, the basic concept of thermodynamics, wave motion andsound, optical electronics and machine, nuclear physics, radiation, and their applications in daily lifeand healthcare 73

4021301 เคมีอินทรยี ์ 3(2-2-5) (Organic Chemistry) ความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั เคมอี นิ ทรยี ์ ไฮบรเิ ดชนั ของคารบ์ อน พนั ธะในสารประกอบอนิ ทรยี ์ การเรยี กช่ือสารประกอบอนิ ทรีย์ สเตอรโิ อเคม ี ชนิด และกลไกของปฏกิ ริ ิยาเคมีอินทรยี ์ สมบัตทิ างกายภาพ การเตรียมและปฏกิ ริ ยิ าของสารประกอบไฮโดรคารบ์ อน สารประกอบอโรมาตกิ และสารประกอบอนิ ทรยี ท์ มี่ หี มฟู่ งั กช์ นั ชนดิต่างๆ เช่น แอลคิลเฮไลด ์ แอลกอฮอล ์ อเี ทอร์ แอลดไี ฮด ์ คีโตน กรดคาร์บอกซลิ กิ และอนพุ นั ธ์เอมนี การเกดิพอลเิ มอร์ รวมท้ังปฏบิ ัตกิ ารในห้องทดลองตามเนื้อหาข้างตน้ Basic knowledge of organic chemistry, hybridization of organic compounds, classificationof organic compound, stereochemistry, type and basic mechanism of chemistry reaction, physicalcharacteristics, preparation and reaction of of aliphatic hydrocarbon, aromatic hydrocarbon, alkyl halide,alcohol, ether, aldehyde, ketone, carboxylic acid, derivative carboxylic acid and amine, polymerization.Laboratory practices are arranged according to the aforementioned topics.4081406 กิจกรรมเข้าจังหวะ 1(0-2-1) (Rhythmic Activities) หลกั การเตน้ รำ�เบือ้ งตน้ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ทางกจิ กรรมเขา้ จงั หวะเพอื่ พลศกึ ษา เทคนคิ การเตน้ รำ�พืน้ เมืองทงั้ ของไทย และนานาชาติ วิธีสอน ตลอดจนอุปกรณท์ ีใ่ ช้สอนกิจกรรมเข้าจงั หวะ การเตน้ รำ�แบบแอโรบิกกายบรหิ ารประกอบจงั หวะ และการลีลาศ Basic concepts of dancing, creative rhythmic activities in physical education, techniquesof Thai and international folk dancing, teaching methods and equipment, aerobic dancing, rhythmicexercise and social dancing 2(2-0-4)4112108 สถิต ิ (Statistics) ความรทู้ างสถติ เิ กย่ี วกบั ระเบยี บวธิ ที างสถติ ิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การน�ำ เสนอขอ้ มลู การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตลอดจนการแปลความหมาย การประมาณคา่ ประชากร การทดสอบสมมตฐิ าน การวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนการหาความสมั พนั ธ์ และการพยากรณ์ รวมท้ังการน�ำ ความร้ทู างสถิตไิ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการวิจยั ทางดา้ นสุขภาพ Basic knowledge on statistical methodology including the collection, presentation, analysisand interpretation of statistical data: estimation of population, hypothesis testing, analysis of variance,regression and correlation; and its application in health related research 74

เครื่องแบบการปฏิบัตกิ ารพยาบาล 1. เครื่องแบบที่ใช้ในการศึกษาการปฏิบัติการพยาบาลในโรงพยาบาลประกอบด้วยเคร่ืองแบบสำ�หรับนกั ศกึ ษาหญงิ และเครื่องแบบสำ�หรบั นักศึกษาชาย 1.1 เครอ่ื งแบบสำ�หรับนกั ศกึ ษาหญิง มรี ปู แบบดังน้ี 1.1.1 ชนดิ ของผ้า เป็นผ้าสีขาวเนือ้ เรยี บ 1.1.2 แบบชุด เป็นชุดติดกันตัดดว้ ยผ้าสขี าว และมีลกั ษณะดังนี้ - เสอ้ื : ปกคอบวั ปลายมนปา้ ยดา้ นซา้ ย ตดิ กระดมุ ของ มหาวทิ ยาลยั 4 เม็ด ตวั เสื้อ จบี ปลอ่ ยข้างละ 2 จบี ทัง้ ด้านหนา้ และดา้ นหลงั แขนสัน้ พับ ออกด้านนอก ปลายแหลม ปกั ชื่อเหนอื อกดา้ นขวา สีน้�ำ เงนิ ด้านหลังบ่าหลัง โคง้ เล็กนอ้ ย - เขม็ ขดั : ใช้ผ้าชนิดเดยี วกัน กวา้ ง 3 ซ.ม เย็บติดตวั เสื้อโดยตลอด ปลายบนทบั ขวา ติดกระดมุ มหาวิทยาลัย 1 เมด็ - กระโปรง : เปน็ กระโปรงจีบปล่อยขา้ งละ 1 จบี รวม 4 จบี ทง้ั ด้าน หนา้ และด้านหลัง มีกระเปา๋ ดา้ นข้างสะโพก ซบั ซ่อนในกระเป๋าด้านซา้ ย ความ ยาวคลมุ เข่า ประมาณ 2 น้ิว - หมวก : การแตง่ เครอื่ งแบบในภาคปฏบิ ตั กิ ารพยาบาลในโรงพยาบาล ของนักศึกษา จะต้องสวมหมวกพยาบาลซ่ึงเป็นผลิตภัณฑท์ �ำ ดว้ ยผา้ แข็งคงรูป สีขาวตามแบบที่คณะพยาบาลศาสตร์ก�ำ หนด - รองเท้าและถงุ เท้า : ใช้รองเท้าหมุ้ ส้นสขี าว แบบเรยี บสภุ าพความ สูงไมเ่ กิน 2 น้ิว 2. เครอ่ื งแบบที่ใช้ในภาคปฏบิ ตั ิทางการพยาบาลในโรงพยาบาลส�ำ หรับนกั ศึกษาชาย ชนดิ ของผ้า 2.1 ชนดิ ของผา้ เปน็ ผา้ สขี าวเนอ้ื เรยี บ 2.2 แบบชดุ - เสอ้ื : เสอื้ เชติ้ ตอ่ บ่าหนา้ และดา้ นหลงั มกี ระเปา๋ บนดา้ นหนา้ อก ซ้าย 1 ใบปกั ตราสญั ลักษณม์ หาวทิ ยาลัย มกี ระเปา๋ ลา่ ง 2 ใบ เดินขอบ กระเป๋าดา้ นบน และตรงกลางกระเป๋า เดนิ สาบด้านหน้ากวา้ ง 3 ซ.ม ตดิ กระดุมมหาวทิ ยาลัย 4 เม็ด ปกั ช่ือเหนอื อกดา้ นซ้ายสีน�้ำ เงิน ด้านหลงั ตัว เสอ้ื มจี บี 4 จีบและสายคาด ทับบนจบี - กางเกง : ทรงขาตรง มจี บี ดา้ นหน้าขา้ งละ 1 จบี ซิบหน้ากระเป๋า ซ่อนที่ตะเขบ็ ข้าง - รองเทา้ และถุงเทา้ : ใชร้ อ้ งเทา้ หมุ้ สน้ สดี ำ� ถุงเทา้ ขาว 75

3. เครอ่ื งแบบทใ่ี ชใ้ นภาคปฏิบตั ิการพยาบาลชมุ ชนส�ำ หรบั นักศึกษาหญงิ และนักศกึ ษาชาย3.1 ชนิดของผ้า เป็นผา้ สฟี ้าออ่ น เนอื้ เรยี บ ลายทางสีเดียวกับผา้3.2 แบบชุดนักศึกษาหญิง เส้ือคอปกเช้ิต ต่อบ่าหน้าและหลัง มกี ระเปา๋ บนอกดา้ นซา้ ย 1ใบ ปกั ตรา สญั ลกั ษณม์ หาวทิ ยาลยั กระเป๋าล่าง 2 ใบ เดินขอบกระเป๋าด้านบนและจับจีบทวีสต์ ด้านในตรงกลางกระเป๋า เดินสาบด้านหน้ากว้าง 3 ซ.ม. ติด กระดุมมหาวิทยาลัย 4 เม็ด ปักช่ือเหนืออกด้านซ้ายสีน้ำ�เงิน ดา้ นหลังตวั เส้ือ มีจีบ 4 จบี และสายคาด ทับบนจีบ ปลายแขน เฉลยี งแหลม บา่ หลงั ตอ่ แหลม กางเกงสำ�หรบั นกั ศกึ ษาหญงิ เป็นกางเกงทรงตรงมีจีบเฉพาะ ดา้ นหน้าขา้ งละ 2 จีบ ซอ่ นในกระเป๋า3.3 แบบชดุ นักศึกษาชาย เส้ือคอปกเชต้ิ ต่อบา่ หนา้ และด้านหลงั มกี ระเปา๋ บนดา้ นหนา้ อกซา้ ย 1 ใบปกั ตราสญั ลกั ษณม์ หาวทิ ยาลยั มกี ระเปา๋ ลา่ ง 2 ใบ เดินขอบกระเป๋าด้านบนและจบั จีบทวสิ ต์ ดา้ นในตรงกลางกระเปา๋ เดนิ สาบดา้ นหนา้ กวา้ ง 3 ซ.ม ตดิ กระดมุ มหาวทิ ยาลยั 4 เมด็ ปกั ชอ่ื เหนอื อกดา้ นซา้ นสนี �้ำ เงนิ ดา้ นหลงั ตวั เสอ้ื มจี บี 4 จบี และสายคาดทบั บนจบี ปลายแขนเฉลยี งแหลม บา่ หลงั ตอ่ แหลม กางเกงสำ�หรับนักศึกษาชาย เป็นกางเกงทรงตรงมีจีบข้างละ 1 จีบ ซบิ หนา้ กระเป๋าซ่อนท่ีตะเขบ็ ข้าง4. เคร่ืองแบบใช้ในการศึกษาภาคปฏบิ ัติทางการพยาบาลในหน่วยงานเฉพาะ เช่น ห้องคลอด,ห้องผา่ ตดั ฯลฯ 4.1 ชนิดของผ้า เป็นผ้าสสี ้มโอรส เน้อื เรียบไม่มีลวดลาย 4.2 แบบชุดนักศึกษาหญิง เป็นชุดกระโปรงทรงตรง คอกลม ติดซิบด้านหน้า ต้ังแต่คอจนถึงเอว จำ้�เอวและมีเชือกผูก มี กระเป๋า2 ใบ ปักชอ่ื เหนืออกซ้ายสชี มพูเขม้ 4.3 แบบชุดสำ�หรับนักศึกษาชาย เป็นเส้ือคอกลมติดกระดุม 2 เม็ด ดา้ นขวาบา่ หนา้  บ่าเปิดไดเ้ พอ่ื สวมศรี ษะ ติดกระเปา๋ บนด้านซ้ายเย็บขอบบนกระเป๋า 1 ใบ และติดกระเป๋าล่าง 2 ใบ แขนสัน้ มีขอบปลายแขนปกั ช่ือเหนืออกซ้ายสีสม้ โอรส ใส่ กางเกงขายาว ผ้าแบบเดียวกับตัวเส้ือทรงตรงเอวใส่ยางยืด กระเป๋าซอ่ นท่ตี ะเขบ็ ข้าง 4.4 หมวก การแต่งกายในหน่วยงานเฉพาะให้สวมหมวกผ้า สโี อรสเนอื้ เดยี วกบั แบบชดุ มเี ชอื กผกู ดา้ นหลงั ทรงตามแบบที่ คณะพยาบาลศาสตรก์ �ำ หนด76

เครื่องแบบทใี่ ช้ในสำ�เรจ็ การศกึ ษารับขดี หมวกพยาบาลวชิ าชีพ 5.1 ชนิดของผ้า เป็นผา้ สีขาว เนือ้ เรียบไม่มลี วดลาย 5.2 แบบชดุ พยาบาลวชิ าชพี เปน็ ชดุ ตดิ กนั ตดั ดว้ ยผา้ สขี าว มลี ักษณะดังน้ี - เสอื้ : ปกคอบวั ปลายมนปา้ ยดา้ นซา้ ย ตดิ กระดมุ ของ มหาวทิ ยาลยั 4 เมด็ ตวั เส้อื จีบปล่อยขา้ งละ 2 จีบ ท้ังด้าน หนา้ และดา้ นหลงั แขนยาวพบั ออกดา้ นนอก ปลายแหลมตดิ กระดุมมหาวิทยาลยั ปลายแขนขา้ งละ 1 เมด็ - เขม็ ขดั : ใชผ้ า้ ชนดิ เดยี วกนั กวา้ ง 3 ซม. เยบ็ ตดิ ตวั เสื้อโดยตลอด ปลายบนทับขวา ติดกระดุมมหาวิทยาลัย 1 เม็ด - กระโปรง : เปน็ กระโปรงตดิ กระดมุ มหาวทิ ยาลยั ดา้ น ขา้ ง 4 เม็ด ความยาวคลมุ เข่า ประมาณ 2 นว้ิ - หมวก : สวมหมวกซึง่ เปน็ ผลติ ภณั ฑ์ทำ�ด้วยผา้ แขง็ คงรปู สีขาวมขี ีดสดี ำ�ขนาด 1 ½ น้ิวคาดอยบู่ นหมวก - รองเท้าและถงุ นอ่ ง : ใช้รองเทา้ หุ้มสน้ สีขาว แบบ เรียบสุภาพความสูงไม่เกิน 2 น้วิ และสวมถงุ นอ่ งสีขาว 5.3 แบบชุดพยาบาลชาย ชนดิ ของผา้ เปน็ ผา้ สขี าวเนอ้ื เรยี บเสอ้ื คอตงั้ แขนยาว ตดิ กระดมุ มหาวทิ ยาลัย 5 เมด็ กางเกง เป็นกางเกงทรงตรง มจี ีบเฉพาะด้านหนา้ ข้างละ 1 จบี ซิบหนา้ กระเปา๋ ซอ่ นตรง ตะเข็บขา้ งรองเท้า สดี �ำ หมุ้ ส้น และสวมถุงเทา้ สีขาว 77








Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook