Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่6 การดูแลก่อนหลังผ่าตัด

บทที่6 การดูแลก่อนหลังผ่าตัด

Published by siriornk-ple, 2019-07-23 03:14:59

Description: บทที่6 การดูแลก่อนหลังผ่าตัด

Search

Read the Text Version

2. การประเมินทางด้านร่างกาย (ต่อ) BUN & Cr  Electrolyte (Na : 135-145 (K : 3.5-5.0  การตรวจสภาพการทางานของไต  Sodium mmol/L)  Blood Urea Nitrogen (BUN) (8-16 mg/dl)  Potassium mmol/L)  Creatinine (Cr) (0.6 – 1.3 mg/dl)  Chloride (Cl : 98-107 mmol/L) 21-34 Carbon dioxide (CO2 : mmol/L)

2. การประเมนิ ทางด้านร่างกาย (ต่อ)  Blood Cross-Matching จองเลือด ในรายท่ีซีดจากการสูญเสียเลือดจากการผา่ ตดั  Coagulogram : PT, PTT & INR.  Hemocullture , Urine culture  Urine specific gravity (1.003-1.035)

2. การประเมนิ ทางด้านร่างกาย (ต่อ) Arterial blood gas  หาคา่ ของกา๊ ซออกซิเจน PaO2 คารบ์ อนไดอ้ อกไซด์ PaCO2 และไฮโดรเจนไอออน รวมทง้ั กรด – ดา่ ง  ประเมินระดบั คา่ ของออกซิเจนในร่างกายเพียงพอหรือไม่  ในผูป้ ่วยท่ีมีภาวะการหายใจท่ีผิดปกติ หรือมีอาการ  pH (7.35-7.45) กระสบั กระสา่ ย หรือในผูป้ ่วยท่ีซึม ไมร่ ูส้ ึกตวั  PO2 (80-100 mm.Hg.)  PCO2 (35-45 mm.Hg.)  HCO 3 - (22-26 mEq/L)

2. การประเมนิ ทางด้านร่างกาย (ต่อ)  การตรวจทางรงั สีและการตรวจพิเศษตาม ดลุ ยพินิจของแพทย์

3. ภาวะจติ สังคม ประเมินสภาพอารมณแ์ ละจิตใจของผูป้ ่วย ให้ การดูแลเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการดา้ นจิต และอารมณข์ องผูป้ ่วย

ข้อวินิจฉัยการพยาบาล และกจิ กรรมการพยาบาลผู้ป่ วย หลังผ่าตดั

ข้อวนิ ิจฉัยท่ี 1  การหายใจไมม่ ีประสิทธิภาพ เน่ืองจากการหายใจถูกกดหรือทางเดินหายใจ อุดกน้ั ซ่ึงเป็นผลจากการไดย้ าระงบั ความรูส้ ึกทว่ั ร่างกาย ยาคลายกลา้ มเน้ือ (muscle relaxants) ยาสงบประสาท (sedative) ยาแก้ ปวดท่ีทาใหง้ ว่ ง ซึม (narcotic analgesics) การจดั ทา่ นอน (positioning) ภาวะออ่ นเพลียและโรคท่ีเป็นอยูก่ อ่ นการผา่ ตดั จุดประสงค์ ผูป้ ่วยหายใจไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ และทางเดินหายใจโลง่

กจิ กรรมการพยาบาล  สงั เกตอตั ราความลึกและชว่ งระยะของการหายใจ  สงั เกตและรายงานแพทยเ์ ม่ือพบอาการผิดปกติ ไดแ้ ก่ หายใจต้ืน หายใจชา้ หรือเร็ว ผิดปกติ หายใจลาบาก ใชก้ ลา้ มเน้ือชว่ ยในการหายใจ เสียงหายใจผิดปกติ เขียวตาม ปลายมือปลายเทา้ เหตุผล เพ่ือใหก้ ารชว่ ยเหลือและแกไ้ ขภาวะพร่องออกซิเจนได้ รวดเร็ว  ติดตามผลการตรวจ O2 saturation ในกรณีท่ีผูป้ ่วยมีอาการหายใจผิดปกติ เหตุผล เพ่ือประเมินภาวะพร่องออกซิเจนในเลือด

กจิ กรรมการพยาบาล  จดั ใหน้ อนศีรษะสูง (semi หรือ high Fowler’s position) ถา้ ไมม่ ี ขอ้ หา้ ม เหตุผล เพ่ือใหป้ อดขยายตวั ไดเ้ ต็มท่ี

กจิ กรรมการพยาบาล  สอนใหผ้ ูป้ ่วยหายใจชา้ ๆ หายใจลึก ๆ ไอ เหตุผล เพ่ือขบั เสมหะ ออก ทาใหท้ างเดินหายใจโลง่ และการแลกเปล่ียนกา๊ ซในสว่ นถุง ลมมีประสิทธิภาพมากข้ึน  ชว่ ยใหผ้ ูป้ ่วยพลิกตะแคงตวั ทุก 2 ชว่ั โมง ขณะนอนบนเตียง และ ทากิจกรรมเพ่ิมข้ึนเทา่ ท่ีจะสามารถทาได้ ถา้ ไมข่ ดั กบั แผนการ รกั ษา เหตุผล เพ่ือใหก้ ารเคล่ือนไหวของลาไสเ้ พ่ิมข้ึน ลดการแน่น อึดอดั ทอ้ งจากกา๊ ซในลาไส้ ซ่ึงอาจจะดนั กระบงั ลมทาใหป้ อด ขยายตวั ไมไ่ ดเ้ ต็มท่ี

การประเมนิ ผล  ลกั ษณะการหายใจปกติ ทง้ั อตั ราการหายใจและความลึกของการหายใจ  ไมม่ ีอาการหายใจลาบาก (dyspnea)  ไมม่ ีอาการเขียวบริเวณปลายมือปลายเทา้ (cyanosis)  ฟงั เสียงหายใจเขา้ หายใจออกไดช้ ดั เจน  ผลการวิเคราะหก์ า๊ ซในเลือดแดง (arterial blood gas) หรือคา่ O2 saturation อยูใ่ นระดบั ปกติ

ข้อวินิจฉัยท่ี 2 เน้ือเย่ือไดร้ บั เลือดไปเล้ียงไมเ่ พียงพอ เน่ืองจากปริมาตรของเลือด ลดลงจากการเสียเลือดและน้าขณะผา่ ตดั และปริมาณของน้าท่ี ร่างกายไดร้ ับไมเ่ พียงพอ จดุ ประสงค์ การไหลเวียนเลือดไปเล้ียงสว่ นตา่ งๆ ของร่างกายได้ เพียงพอ

กจิ กรรมการพยาบาล ตรวจวดั สญั ญาณชีพทกุ 15 นาที 4 ครง้ั , ทุก 30 นาที 2 ครง้ั , ทกุ 1 ชวั่ โมง จนเป็ นปกติ, และทกุ 4 ชวั่ โมง รายงานแพทยเ์ มื่อพบ อาการผิดปกติ ไดแ้ ก่ ความดนั โลหิตลดลงอยา่ งมาก (systolic blood pressure ลดลง 20 มม. ปรอท หรือมากกวา่ ) ชีพจรเตน้ เร็วหรือชา้ ลงมากกวา่ ปกติ 30 คร้งั /นาที อตั ราการหายใจ เพ่ิมหรือลดมากกวา่ 5 ครั้ง/นาที หายใจไมส่ ม่าเสมอ กระสบั กระสา่ ย กระวนกระวายสบั สน ปลายมือปลายเทา้ เย็น ซีดหรือเขยี ว เหตุผล เพ่ือสงั เกตอาการและอาการแสดงของภาวะช็อคจากปริมาตรเลือดต่า (hypovolemic shock)

กจิ กรรมการพยาบาล  ตรวจและบนั ทึกตาแหน่งและ ลกั ษณะของผา้ ปิดแผล ปริมาณ เลือดท่ีซึมผา้ ปิดแผล เฝือกท่ีใสอ่ ยู่ นอกแผลผา่ ตดั และทอ่ ระบายท่ี ตอ่ ออกจากแผล  เหตุผล เพ่ือประเมินการเสียเลือด และตรวจดูผา้ ปิดแผลและเฝือกท่ี อาจจะกดแน่นเกินไปทาใหเ้ ลือด มาเล้ียงไดไ้ มด่ ี

กจิ กรรมการพยาบาล  แนะนาใหผ้ ูป้ ่วยเปล่ียนทา่ นอนเป็นทา่ น่งั อยา่ งชา้ ๆ เหตุผล เพ่ือปรบั ความดนั โลหิตในร่างกายไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม

กจิ กรรมการพยาบาล  สอนใหผ้ ูป้ ่ วยบริหารขาและเทา้ ทุก 1-2 ชวั่ โมง กระตุน้ และชว่ ยเหลือผูป้ ่วยใหล้ ุกเดินไดเ้ ร็วท่ีสุด ถา้ ไมม่ ีขอ้ หา้ มในการ รกั ษา สอนใหเ้ ดินยกขาแทนการลากเทา้ ในผูป้ ่วยท่ีไมส่ ามารถทากิจกรรมและตอ้ งนอนบนเตียงเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทยใ์ นการใชผ้ า้ ยืดพนั รดั สว่ นปลายขาทงั้ สองขา้ งไว้ และ ตอ้ งคลายผา้ ออก 30-60 นาที อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 ครง้ั เหตุผล เพ่ือป้องกนั การเกิดเลือดคง่ั ท่ีอวยั วะสว่ นปลาย และเพ่ิมแรงดนั ใน หลอดเลือดดาสว่ นปลายขา

การประเมนิ ผล  ความดนั โลหิตอยูใ่ นระดบั ปกติ  ปลายมือปลายเทา้ อุน่ ไมม่ ีอาการซีด เย็น หรือเขียวคลา้  คลาชีพจรสว่ นปลายมือและเทา้ ไดช้ ดั เจน  มีความสมดุลของปริมาณน้าท่ีไดร้ บั และท่ีออกจากร่างกายภายใน 48 ชว่ั โมงหลงั ผา่ ตดั

ข้อวนิ ิจฉัยท่ี 3 ขาดความสมดุลของสารน้าและอิเล็คโตรลยั ท์ เน่ืองจากการงดน้าและอาหารทางปากร่วมกบั การ เสียเลือดและน้าจากการผา่ ตดั จากการระบายออก ทางทอ่ ระบายและจากการอาเจียน จดุ ประสงค์ มีความสมดุลของสารน้าและอิเล็ค โตรลยั ทใ์ นร่างกาย

กจิ กรรมการพยาบาล  สงั เกตและรายงานอาการและอาการแสดงท่ีผิดปกติตอ่ ไปน้ี  ความตึงตวั ของผิวหนงั ลดลง กระหายน้า ริมฝีปากแหง้  น้าหนกั ตวั ลดลงอยา่ งรวดเร็วถึง 2 % หรือมากกวา่  (ควOามrดtนัhโoลหsิตtตa่าtแiลcะเhกิดyคpวาoมtดนeั โnลหsิตioต่าnเม)่ือเปล่ียนทา่  อาการออ่ นเพลีย ชีพจรเตน้ เร็ว  ปสั สาวะออกนอ้ ยใน 48 ชว่ั โมงหลงั ผา่ ตดั ทาใหป้ ริมาตรของน้าใน ปปสััสสสาาววะะลจึงดสลูงงขค้ึนวา(มคเา่ขปม้ กขตน้ ิ ข:อ1งป.ัส0ส0าว3ะ-ม1าก.ข0้ึน3ค5วา)ม(ถแวส่ งดจงาถเึพงภาาะวขะอขงาด น้าชดั เจน)  คา่ BUN สูงข้ึน (คา่ ปกติ : 8-16 mg/dl)

กจิ กรรมการพยาบาล  สงั เกตและรายงานอาการและอาการแสดงท่ีผิดปกติตอ่ ไปน้ี อาการภาวะโปตสั เซียมในเลือดต่า (hypokalemia) ไดแ้ ก่ หวั ใจเตน้ ไมเ่ ป็นจงั หวะ ความดนั โลหิตต่าเม่ือเปล่ียนทา่ (Orthostatic hypotension) กลา้ มเน้ือออ่ นแรง เหน็บชา อาการคล่ืนไสอ้ าเจียน ทอ้ งอืด ลาไสไ้ มเ่ คล่ือนไหว ฟงั ไมไ่ ดย้ ิน เสียงการบีบตวั ของลาไส้ อาการของภาวะคลอไรดใ์ นเลือดต่า และภาวะความเป็นดา่ งจากการเผา ผลาญ (metabolic alkalosis) ไดแ้ ก่ อาการงุนงง กระวน กระวาย ความรูส้ ึกสบั สน มีการหดเกร็งของกลา้ มเน้ือ หายใจชา้  เหตุผล การสงั เกตอาการผิดปกติไดเ้ ร็ว จะชว่ ยใหก้ ารแกไ้ ขไดท้ นั ที ไมท่ าใหภ้ าวะของโรครุนแรงมากข้ึน

กจิ กรรมการพยาบาล  การพยาบาล ป้องกนั การเกิดอาการคล่ืนไส้ อาเจียน ดูแลใหร้ ับน้าและอิเล็คโตรลยั ทท์ ดแทนอยา่ งเพียงพอตามแผนการรักษา ดูแลใหไ้ ดร้ บั น้าอยา่ งนอ้ ย 2500 มล./วนั ถา้ ไมม่ ีขอ้ หา้ มในการรักษา ถา้ ผูป้ ่วยไดร้ บั อนุญาตใหด้ ่ืมน้าทางปากได้ ควรแนะนาใหเ้ ลือกอาหารและน้า ท่ีมีโปตสั เซียมสูง เชน่ กลว้ ย แคนตาลูป องุน่ แหง้ น้าสม้ น้ามะเขือเทศ  เหตุผล เพ่ือป้องกนั การเสียสมดุลของน้าและอิเล็คโตรลยั ท์

กิจกรรมการพยาบาล  สงั เกตและรายงานอาการ และอาการแสดงของภาวะน้าเกินตอ่ ไปน้ี  น้าหนกั ตวั เพ่ิมข้ึน  ความดนั โลหิตเพ่ิมข้ึน  Observe Intake-output fluid  คา่ ออสโมลาลิต้ี (Osmolality) และโซเดียมในเลือดต่ากวา่ ปกติ  BUN และ Hct ลดลง  ความถว่ งจาเพาะของปัสสาวะลดลง  มีอาการหายใจลาบาก (dyspnea) ตอ้ งลุกน่งั หายใจ (orthopnea)  มีอาการบวมบริเวณสว่ นปลาย  เสน้ เลือดดาท่ีคอโป่ง  เหตุผล ภาวะน้าเกินทงั้ ท่ีอยใู่ นเซลล์ นอกเซลล์ และในหลอดเลือด จะทาใหเ้ กิดอาการ ผิดปกติท่ีพบไดใ้ นสว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย

กจิ กรรมการพยาบาล การพยาบาลท่ีป้องกนั และรกั ษาภาวะน้าเกินมีดงั น้ี ใหน้ ้าทดแทนดว้ ยความระมดั ระวงั โดยเฉพาะใน 48 ชว่ั โมงหลงั ผา่ ตดั จากดั น้าตามแผนการรกั ษา ใหย้ าขบั ปสั สาวะตามแผนการรักษา เหตุผล การแกไ้ ขภาวะน้าเกินโดยการจากดั น้าเขา้ ในร่างกายใหน้ อ้ ยลงและใชย้ าขบั ปัสสาวะ จะชว่ ยใหน้ ้าออกจากร่างกายเพ่ิมข้ึน

การประเมนิ ผล  ความตึงตวั ของผิวหนังปกติ (normal skin turgor)  เย่ือบุชอ่ งปากและริมฝีปากมีความชุม่ ช้ืนดี  น้าหนักตวั คงท่ี  ความดนั โลหิตและชีพจรปกติของผูป้ ่วยแตล่ ะราย  Intake-output fluid มีความสมดุลใน 48 ชว่ั โมงหลงั ผา่ ตดั  คา่ ความถว่ งจาเพาะของปัสสาวะอยูใ่ นระดบั ปกติ (1.003-1.035)  ไมม่ ีอาการผิดปกติ ไดแ้ ก่ หวั ใจเตน้ ไมเ่ ป็นจงั หวะ (arrhythmias) กลา้ มเน้ือออ่ นแรง กระตุกเกร็ง อาการสบั สน งุนงง  BUN (8-16 mg/dl) คา่ อิเล็คโตรลยั ทอ์ ยูใ่ นระดบั ปกติ

ข้อวินิจฉัยท่ี 4 ความเจ็บปวดเน่ืองจากการบาดเจ็บจากการผา่ ตดั การระคายเคืองจากการใสท่ อ่ ระบาย ความเครียด จากการผา่ ตดั การไอ หายใจลึกๆ และการ เคล่ ื อนไหวร่างกาย จุดประสงค์ ผูป้ ่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงหรือไม่ มีความเจ็บปวด

กจิ กรรมการพยาบาล  สงั เกตและประเมินอาการและอาการแสดงของความเจ็บปวด เชน่ ขมวดค้ิว กามือแน่น เกร็งตวั ไมย่ อมขยบั ตวั เหง่ือ ออก หนา้ ซีด ชีพจรเตน้ เร็ว และความดนั โลหิตเพ่ิมข้ึน เหตุผล อาการแสดงของความเจ็บปวดมีระดบั ท่ีตา่ งกนั ในแตล่ ะบุคคล การสงั เกตอาการร่วมกบั การซกั ถามผูป้ ่วยจะชว่ ยบง่ ช้ีปัญหา ความเจ็บปวดไดช้ ดั เจนย่ิงข้ึน

กจิ กรรมการพยาบาล  ใหก้ ารพยาบาลเพื่อลดความเจ็บปวด ดงั น้ี  ใหย้ าแกป้ วดกอ่ นการทากิจกรรมหรือการรกั ษาท่ีทาใหเ้ กิดความเจ็บปวด  ชว่ ยเหลือและแนะนาวิธีการบรรเทาอาการปวด เชน่ การใชเ้ ทคนิคผอ่ นคลาย (relaxation techniques) เชน่ การนวดหลงั การพูดคุยดว้ ยความ นุ่มนวลเอาใสใส่ การจดั ทา่ นอนใหส้ ุขสบาย การจดั ส่ิงแวดลอ้ มและทากิจกรรมท่ี เบ่ียงเบนความสนใจจากความเจ็บปวด เหตุผล การดูแลชว่ ยเหลือทางดา้ นจิตใจ การสมั ผสั และเทคนิคผอ่ นคลาย จะชว่ ยลดความวิตกกงั วล และชว่ ยลดความรูส้ ึก เจ็บปวดได ้

กจิ กรรมการพยาบาล สอนและชว่ ยเหลือผูป้ ่วยในการใชห้ มอนเล็กๆ หรือมือกอดประคองแผล ผา่ ตดั ไมใ่ หก้ ระเทือนในขณะเปล่ียนทา่ นอน ไอ หรือหายใจลึก ๆ เหตุผล ลด การกระเทือนของแผลผา่ ตดั ป้องกนั การปวดแผลเพ่ิมข้ึน ในผูป้ ่วยท่ีมีแผลผา่ ตดั บริเวณหนา้ ทอ้ ง แนะนาและชว่ ยจดั ใหอ้ ยูใ่ นทา่ งอเขา่ ในขณะไอและหายใจลึกๆ เหตุผล การจดั ใหน้ อนในทา่ งอเขา่ จะชว่ ยลดแรง ตึงของกลา้ มเน้ือหนา้ ทอ้ งและแผลผา่ ตดั

กจิ กรรมการพยาบาล  ในผูป้ ่วยท่ีมีแผลผา่ ตดั บริเวณสว่ นปลายแขนหรือขา ใหย้ กบริเวณท่ีผา่ ตดั ในสูงกวา่ ระดบั หวั ใจ เหตุผล เพ่ือชว่ ยใหก้ ารไหลเวียนกลบั ของเลือดดีข้ึน ลดการบวมจากการคง่ั ของเลือดและน้า  ใหย้ าแกป้ วด และยาคลายกลา้ มเน้ือตามแผนการรกั ษา และติดตามประเมินผลของการรกั ษา ดว้ ยยาและผลแทรกซอ้ นของยา เชน่ Pethidine 50 mg m prn for pain q 4 hr. อาการขา้ งเคียง ไดแ้ ก่ คล่ืนไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หายใจอึดอดั เป็นยาแกป้ วดชนิดเสพติด คุณสมบตั ิคลา้ ยมอรฟ์ ีน มีฤทธ์ิระงบั ปวดในขนาดยาท่ีสูงกวา่ มอรฟ์ ีน 8 เทา่ จะออกฤทธ์ิสูงสุดหลงั ฉีดเขา้ กลา้ มเน้ือ 30-50 นาที ระยะเวลาออกฤทธ์ินาน 2-4 ชว่ั โมง เหตุผล เพ่ือใหไ้ ดร้ บั ยาถูกตอ้ ง ทาใหก้ ลไกการออกฤทธ์ิของยาทางานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ และแกไ้ ขภาวะแทรกซอ้ นท่ีอาจเกิดข้ึน

การประเมินผล  ผูป้ ่วยบอกวา่ ปวดลดลง  สีหนา้ ผอ่ นคลาย ไมแ่ สดงอาการเจ็บปวด  มีสว่ นร่วมในการทากิจกรรมไดม้ ากข้ึน  สญั ญาณชีพคงท่ี

ข้อวนิ ิจฉัยท่ี 5  ความไมส่ ุขสบายจากการแน่นอึดอดั ทอ้ ง เน่ืองจากมี กา๊ ซและน้าสะสมอยูใ่ นลาไส้ เป็นผลจากการบีบตวั ของ ลาไสล้ ดลง เพราะการผา่ ตดั ลาไส้ และผลจากการไดย้ า ระงบั ความรูส้ ึกทว่ั ร่างกาย ยาแกป้ วด ยาคลาย กลา้ มเน้ือ ซ่ึงฤทธ์ิของยาจะลดการทางานของลาไส้ นอกจากน้ีหลงั ผา่ ตดั ผูป้ ่วยยงั มีกิจกรรมการเคล่ือนไหว ลดลง  จุดประสงค์ ผูป้ ่วยไมม่ ีอาการแน่นอึดอดั ทอ้ ง หรือ อาการแน่นอึดอดั ทอ้ งลดลง

กจิ กรรมการพยาบาล  ซกั ถามและสงั เกตอาการปวด แน่น อึดอดั ทอ้ ง  ใหก้ ารพยาบาลเพ่ือลดการสะสมของน้าและกา๊ ซในลาไส้ ไดแ้ ก่  กระตุน้ และชว่ ยใหผ้ ูป้ ่วยพลิกตะแคงตวั และลุกเดินเร็วท่ีสุด (Early ambulation) ถา้ ไมข่ ดั ตอ่ แผนการรักษา เหตุผล การเคล่ือนไหวพลิก ตะแคงตวั จะชว่ ยกระตุน้ การบีบตวั ของลาไส้ และชว่ ยขบั ดนั กา๊ ซออกมา  แนะนาผูป้ ่วยใหห้ ลีกเล่ียงการเค้ียวหมากฝร่งั สูบบุหร่ี ด่ืมเคร่ืองด่ืมประเภท น้าอดั ลมซ่ึงมีคาร์บอเนต และอาหารท่ีทาใหเ้ กิดกา๊ ซ เชน่ กะหล่าปลี หวั หอม และถว่ั เหตุผล ป้องกนั และลดการเพ่ิมกา๊ ซในลาไส้  จากดั อาหารและน้าด่ืมตามแผนการรักษา เหตุผล เพ่ือลดการสะสมของน้าและ กากอาหารในลาไส้ เน่ืองจากลาไสท้ างานไมไ่ ด้ จะทาใหก้ ากอาหารและน้า สะสมเพ่ ิมมากข้ ึน

กจิ กรรมการพยาบาล  รายงานและปรึกษาแพทยเ์ พ่ือการใหย้ ากระตุน้ การทางานของ ลาไส้ หรือการใสส่ ายยางเขา้ ทางทวารหนัก (rectal tube)  รายงานแพทยถ์ า้ อาการแน่นอึดอดั ทอ้ งยงั คงอยูห่ รือเพ่ิมมากข้ึน เหตุผล เพ่ือประเมินและหาวิธีแกไ้ ขท่ีเหมาะสมตอ่ ไป

การประเมนิ ผล  ผูป้ ่วยบอกวา่ อาการปวดแน่น อึดอดั ทอ้ งลดลง  สีหนา้ ผอ่ นคลาย และการเปล่ียนทา่ นอนทาไดส้ ะดวกและบอ่ ยข้ึน  ความตึงและขนาดของทอ้ งลดลง

ข้อวนิ ิจฉัยข้อท่ี 6 เส่ียงตอ่ การติดเช้ือของแผลผา่ ตดั (Wound infection) เน่ืองจากมีการปนเป้ื อนเช้ือของ บาดแผล และความตา้ นทานตอ่ เช้ือลดลง ร่วมกบั การขาดเลือดไปเล้ียงแผลผา่ ตดั และการไดร้ ับ อาหารไมเ่ พียงพอ จุดประสงค์ ผูป้ ่วยไมม่ ีการติดเช้ือของแผลผา่ ตดั

กจิ กรรมการพยาบาล  ประเมินและรายงานอาการและอาการแสดงของการติดเช้ือท่ีแผลผา่ ตดั ไดแ้ ก่ ไขห้ นาวส่นั แผลมี ลกั ษณะบวม รอ้ น หรือส่ิงขบั หลง่ั ออกจากแผลมีกล่ินเหม็นผิดปกติ  ติดตามผลและรายงานคา่ ผิดปกติของการตรวจ WBC ในเลือด และการตรวจเพาะเช้ือจากแผล ผา่ ตดั  การพยาบาลเพื่อป้องกนั การติดเช้ือของแผลผ่าตดั  ลา้ งมือใหส้ ะอาดกอ่ นและหลงั ใหก้ ารพยาบาลผูป้ ่วย เหตุผล ลดการ ปนเป้ื อนเช้ือโรคกบั แผลผา่ ตดั  สอนผูป้ ่วยใหห้ ลีกเล่ียงการสมั ผสั ถูกรอบแผลผา่ ตดั ผา้ ปิดแผล ทอ่ ระบายตา่ งๆ ท่ีออกจากแผล เหตุผล ลดการสมั ผสั เช้ือโรค

กจิ กรรมการพยาบาล การทาแผลระมดั ระวงั และใชห้ ลกั ปลอดเช้ืออยา่ งถูกตอ้ งตลอดเวลา เหตุผล ป้องกนั การปนเป้ื อนเช้ือโรค ระวงั ไมใ่ หแ้ ผลเปียกน้าเวลาเช็ดตวั ลา้ งหนา้ เหตุผล ป้องกนั การปนเป้ื อนเช้ือ โรค สง่ เสริมการหายของแผลโดยใหผ้ ูป้ ่วยไดร้ ับอาหารอยา่ งเพียงพอ ทงั้ ปริมาณ และคุณคา่ เหตุผล ชว่ ยในการสรา้ งภูมิตา้ นทานของร่างกายในการทาลายเช้ือ โรค ใหย้ าปฏิชีวนะตามแผนการรกั ษา เหตุผล เป็นการทาลายเช้ือใหห้ มดไป

การประเมนิ ผล  ไมม่ ีไข้ ไมม่ ีอาการหนาวสน่ั  ไมม่ ีอาการปวด บวม แดง รอ้ น รอบๆ แผล  จานวน WBC ในเลือด และจานวนวิเคราะห์ คา่ ตา่ งๆ อยูใ่ นระดบั ปกติ  ตรวจเพาะเช้ือจากแผลผา่ ตดั ไมพ่ บเช้ือ  ส่ิงขบั หลง่ั ท่ีระบายออกจากแผลมีสีและกล่ินปกติ

ข้อวนิ ิจฉัยข้อท่ี 7 เส่ียงตอ่ การติดเช้ือในทางเดินปัสสาวะ จากการ เจริ ญของเช้ือในทางเดินปัสสาวะเน่ ื องจากมี ปัสสาวะคง่ั หรืออาจจะเกิดจากการนาเช้ือเขา้ ไป ในทางเดินปัสสาวะจากการใสค่ าสายสวนปัสสาวะ จดุ ประสงค์ ผูป้ ่วยไมม่ ีการติดเช้ือในทางเดิน ปัสสาวะ

กจิ กรรมการพยาบาล  ประเมินและรายงานอาการและอาการแสดงของการติดเช้ือในทางเดินปัสสาวะ ไดแ้ ก่  ปสั สาวะขุน่ มีตะกอน หรือมีกล่ินเหม็น  ผูป้ ่วยบน่ ถา่ ยปสั สาวะบอ่ ย เวลาถา่ ยตอ้ งรีบดว่ น และมีอาการแสบ รอ้ นขณะถา่ ยปัสสาวะ  มีไข้ อุณหภูมิสูงกวา่ ปกติ  ติดตามผลการตรวจปสั สาวะ และรายงานผลของความผิดปกติ เชน่ พบไนไตรท์ (แบคทีเรียท่ีติดเช้ือในปสั สาวะจะสรา้ งไนไตรทป์ น ออกมากบั ปสั สาวะ) เช้ือแบคทีเรีย และ/หรือ เม็ดเลือดขาว

กจิ กรรมการพยาบาล  ใหก้ ารพยาบาลเพ่ือป้องกนั การติดเช้ือในทางเดินปัสสาวะ ไดแ้ ก่  ดูแลใหผ้ ูป้ ่วยถา่ ยปัสสาวะไดส้ ะดวก ไมม่ ีการคง่ั ของปัสสาวะ เหตุผล การคง่ั ของ ปัสสาวะ จะทาใหม้ ีการติดเช้ือเกิดข้ึน  สอนทาความสะอาดอวยั วะเพศ โดยเช็ดจากดา้ นหนา้ ไปดา้ นหลงั ทุกครั้งหลงั ถา่ ย ปัสสาวะหรือถา่ ยอจุ จาระ เหตุผล เพ่ือป้องกนั การนาเช้ือเขา้ สูท่ างเปิดของทอ่ ปัสสาวะ  ด่ืมน้าอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2500 มล. ถา้ ไมม่ ีขอ้ หา้ มในการด่ืมน้า เหตุผล เพ่ือใหน้ ้า ชว่ ยระบายของเสียออกทางปัสสาวะใหไ้ ดม้ ากท่ีสุด  ระมดั ระวงั การใชเ้ ทคนิคปลอดเช้ือตลอดเวลาในการใสค่ าสายสวนปัสสาวะ และ การสวนลา้ งกระเพาะปัสสาวะ เหตุผล ป้องกนั การปนเป้ื อนและการนาเช้ือโรคเขา้ สูท่ างเดินปสั สาวะโดยตรง

กจิ กรรมการพยาบาล การดแู ลผูป้ ่ วยที่ใส่คาสายสวนปัสสาวะใหป้ ฏิบตั ิ ดงั น้ี ติดพลาสเตอร์ยึดสายสวนไวบ้ ริเวณตน้ ขา สาหรับผูป้ ่วยชายใหต้ ิดพลาสเตอรย์ ึด สายสวนไวบ้ ริเวณหนา้ ทอ้ งดา้ นลา่ งหรือบริเวณตน้ ขา เหตุผล ป้องกนั ไมใ่ หม้ ีการ ดึงรัง้ และบาดเจ็บของกระเพาะปสั สาวะและทอ่ ปัสสาวะ ดูแลทาความสะอาดบริเวณท่ีใสค่ าสายสวนปัสสาวะบอ่ ยๆ หรืออยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 คร้ัง เหตุผล ป้องกนั การสะสมของเย่ือเมือกบริเวณรอบรูเปิดของทอ่ ปัสสาวะ ดูแลถุงรองรับปัสสาวะใหอ้ ยูต่ ่ากวา่ ระดบั กระเพาะปัสสาวะตลอดเวลา เหตุผล ป้องกนั ไมใ่ หม้ ีการไหลยอ้ นกลบั เขา้ ไปในกระเพาะปัสสาวะ หรือปัสสาวะคา้ งอยูใ่ น กระเพาะปัสสาวะนาน ดูแลใหย้ าปฏิชีวนะตามแผนรักษา เหตุผล ทาลายเช้ือและป้องกนั การติดเช้ือ

การประเมนิ ผล  ปสั สาวะใส ไมม่ ีกล่ินผิดปกติ  ไมม่ ีอาการถา่ ยปสั สาวะบอ่ ย ปสั สาวะรีบดว่ น ปวดแสบ ขณะถา่ ยปสั สาวะ  ไมม่ ีอาการไข้ หนาวส่นั  ตรวจปสั สาวะไมพ่ บไนไตรท์ เช้ือแบคทีเรีย และเม็ด เลือดขาว  ตรวจเพาะเช้ือปัสสาวะไมพ่ บเช้ือ

ข้อวินิจฉัยท่ี 8  มีความวิตกกงั วลเน่ืองจากความไมค่ ุน้ เคยกบั ส่ิงแวดลอ้ มและ สภาพหลงั ผา่ ตดั ความเจ็บปวด การขาดความรูค้ วามเขา้ ใจ เก่ียวกบั การผา่ ตดั การวินิจฉัยโรคและแผนการรกั ษาในระยะหลงั ผา่ ตดั การเปล่ียนแปลงภาพลกั ษณ์ (Body image) และ บทบาทของตน และผลกระทบดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษา  จุดประสงค์ ผูป้ ่วยมีความวิตกกงั วลลดลง หรือไมม่ ีความวิตก กงั วล

กจิ กรรมการพยาบาล ประเมินอาการและอาการแสดงความ วิตกกงั วลดว้ ยความระมดั ระวงั และมี เหตุผล สงั เกตอาการและ ความถกู ตอ้ งแม่นยา ไดแ้ ก่ อาการแสดงท่ีผิดปกติ จะเป็น ผูป้ ่วยบอกเลา่ ถึงความกลวั และปญั หา ขอ้ มูลบง่ ช้ีปัญหาและการ อาการนอนไมห่ ลบั ติดตามผลการแกป้ ัญหา ได้ อาการเครียด อยา่ งตอ่ เน่ือง เน่ืองจาก อาการสน่ั กระตุก (tremors) อาการท่ ีแสดงออกอาจจะเป็ น กระสบั กระสา่ ยฉุนเฉียวงา่ ย ผลจากความเจ็บปวด และ เหง่ือออก หวั ใจเตน้ เร็ว หายใจเร็ว ความดนั โลหิตสูง หนา้ ซีด หรือหนา้ แดง ปัญหาจากความไมส่ มดุลของ อิเล็คโตรลยั ทแ์ ละการติดเช้ือ การรบั รูส้ น้ั แยกตวั ไมใ่ หค้ วามร่วมมือในการ ได ้ รักษาพยาบาล

กจิ กรรมการพยาบาล  ใหก้ ารพยาบาลในการช่วยลดความกลวั และความวิตกกงั วล ดงั น้ี แนะนาช้ีแจงผูป้ ่วยเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ ม เคร่ืองใช้ และการทากิจวตั ร ประจาวนั ภายในหอผูป้ ่วยและโรงพยาบาล แนะนาบุคลากรท่ีใหก้ ารดูแลรักษาผูป้ ่วยภายในโรงพยาบาล ไดแ้ ก่ แพทย์ พยาบาล ผูช้ ว่ ยพยาบาล เจา้ หนา้ ท่ีอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การดูแลรกั ษา ผูป้ ่วย ใหเ้ วลาและโอกาสในการรับฟงั ปัญหาดว้ ยความสงบ ไมเ่ ร่งรีบ ใหก้ าลงั ใจ และแสดงทา่ ทีเขา้ ใจผูป้ ่วยในขณะใหก้ ารพยาบาล และมีการพูดคุย ซกั ถามผูป้ ่วยอยา่ งสม่าเสมอ เหตุผล ใหเ้ วลาผูป้ ่วยไดซ้ กั ถามปญั หา อยา่ งอิสระและสม่าเสมอ

กจิ กรรมการพยาบาล  ใหก้ ารพยาบาลในการช่วยลดความกลวั และความวิตกกงั วล ดงั น้ี เพ่ิมความรูเ้ ก่ียวกบั การอธิบายของแพทยใ์ นเร่ืองการวินิจฉัยโรค การ ผา่ ตดั รกั ษา แผนการรกั ษาและการพยากรณข์ องโรค และใหค้ วามรู้ เพ่ิมเติมหรือแกไ้ ขความเขา้ ใจท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง เหตุผล การมีความรูท้ ่ีถูกตอ้ ง ชดั จะชว่ ยลดความวิตกกงั วลและความกลวั ได้ จดั ส่ิงแวดลอ้ มใหเ้ งียบสงบ ใหอ้ ากาศถา่ ยเทไดด้ ี และชว่ ยใหพ้ กั ผอ่ น ไดม้ ากข้ึน เหตุผล การจดั ใหพ้ กั ผอ่ นไดเ้ พียงพอจะชว่ ยใหส้ ุขภาพร่างกาย และจิตใจดีข้ึน

กจิ กรรมการพยาบาล  ใหก้ ารพยาบาลในการช่วยลดความกลวั และความวิตกกงั วล ดงั น้ี  สอนผูป้ ่วยเก่ียวกบั การใชเ้ ทคนิคผอ่ นคลายและจดั หรือกระตุน้ ใหท้ ากิจกรรมอ่ืนๆ ท่ี ผูป้ ่วยชอบ เหตุผล ชว่ ยเบ่ียงเบนปัญหาความวิตกกงั วลและความกลวั  กระตุน้ ใหญ้ าติท่ีใกลช้ ิดหรือบุคคลท่ีสาคญั ของผูป้ ่วย มีส่วนชว่ ยเหลือในการดูแล สง่ เสริมใหก้ าลงั ใจ เหตุผล การใหก้ าลงั ใจ ใหค้ าแนะนา การเอาใจใสจ่ ากญาติและ บุคคลใกลช้ ิด จะชว่ ยใหผ้ ูป้ ่วยมีกาลงั ใจและแกไ้ ขปัญหาไดด้ ีกวา่ การอยูล่ าพงั คน เดียว  ใหย้ าคลายความวิตกกงั วลตามแผนการรักษา และติดตามประเมินผลของการ รักษา เหตุผล ใหย้ าออกฤทธ์ิไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

กจิ กรรมการพยาบาล  การจดั เตรียมขอ้ มูล ความรูท้ ่ีจะสอนผูป้ ่วยและญาติจะตอ้ งตรงกบั ความตอ้ งการของผูป้ ่วยและญาติจริงๆ และการใหค้ วามรูค้ วรจะ ใหเ้ หมาะสมกบั ระดบั ความรูข้ องผูป้ ่วยและญาติ พรอ้ มกบั มีการ กระตุน้ ใหต้ งั้ คาถามและสามารถบอกไดว้ า่ มีความเขา้ ใจชดั เจนใน ส่ ิ งท่ ีสอน เหตุผล การใหค้ วามรูท้ ่ียากและซบั ซอ้ น จะทาใหผ้ ูป้ ่วยและญาติไม่ เขา้ ใจ และไมส่ ามารถปฏิบตั ิได้ ยอ่ มทาใหเ้ กิดความกลวั วิตก กงั วลมากข้ึน

การประเมินผล  ผูป้ ่วยบอกวา่ มีความวิตกกงั วลลดลง  ใบหนา้ แสดงความสดช่ืน ผอ่ นคลาย  นอนหลบั พกั ผอ่ นไดป้ กติ  มีความสามารถในการรบั รูส้ ่ิงตา่ งๆ ไดด้ ี และสามารถมีสว่ น ร่วมในการทากิจกรรมตา่ งๆ ไดด้ ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook