ปญั หายาเสพติดในชมุ ชน สาเหตกุ ารตดิ ยาเสพตดิ ๑. สาเหตทุ เ่ี กดิ จากความรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ จาแนกตามการออกฤทธ์ิตอ่ ระบบประสาท แบ่งเป็น ๔ ประเภท ๑. อยากทดลอง เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นซ่งึ เป็นนสิ ัยของคนโดยทว่ั ไป และโดยทีไ่ ม่คิดวา่ ตนจะ ตดิ สง่ิ เสพยต์ ดิ นี้ได้ จึงไปทาการทดลองใช้สิ่งเสพย์ตดิ นนั้ ในการทดลองใช้คร้ังแรกๆ อาจมีความรู้สึกดหี รือไมด่ ี ก็ตาม ถา้ ยังไม่ตดิ สิ่งเสพยต์ ิดน้นั กอ็ าจประมาท ไปทดลองใชส้ ่งิ เสพยต์ ิดนั้นอกี จนใจทีส่ ดุ กต็ ิดส่ิงเสพย์ติดนน้ั หรอื ถา้ ไปทดลองใชส้ ิ่งเสพย์ติดบางชนิด เชน่ เฮโรอีน แม้จะเสพเพยี งคร้ังเดยี ว กอ็ าจทาให้ติดได้ ๒. ความคกึ คะนอง คนบางคนมีความคึกคะนอง ชอบพูดอวดเก่งเป็นนิสยั โดยเฉพาะวัยรุน่ มักจะมีนสิ ัย ดังกล่าว คนพวกนี้อาจแสดงความเกง่ กลา้ ของตน ในกล่มุ เพอื่ นโดยการแสดงการใชส้ ่งิ เสพย์ติดชนิด ตา่ ง ๆ เพราะเหน็ แก่ความสนุกสนาน ต่นื เต้น และใหเ้ พื่อนฝงู ยอมรับวา่ ตนเก่ง โดยมิได้คานงึ ถงึ ผล เสยี หาย หรอื อนั ตรายทีจ่ ะเกิดขน้ึ ในภายหลงั แต่อยา่ งไร ในทสี่ ุดจนเองกก็ ลายเป็นคนติดส่ิงเสพยต์ ิดน้นั ๓. การชักชวนของคนอื่น อาจเกดิ จากการเชอื่ ตามคาชกั ชวนโฆษณา ของผู้ขายสินคา้ ที่ เป็นสิ่งเสพย์ ตดิ บางชนดิ เชน่ ยากระตุ้นประสาทต่างๆ ยาขยัน ยามา้ ยาบา้ เป็นต้น โดยผขู้ ายโฆษณาสรรพคุณของสิ่ง เสพย์ติดนั้นวา่ มีคุณภาพดีสารพัดอยา่ งเชน่ ทาใหม้ ีกาลังวังชา ทาใหม้ ีจติ ใจแจ่มใส ทาให้มีสขุ ภาพดี ทาให้มี สติปญั ญาดี สามารถรกั ษาโรคได้บางชนดิ เป็นต้น ผู้ท่ีเชื่อคาชกั ชวนโฆษณาดังกล่าวจึงไปซื้อตามคาชักชวน ของเพอ่ื นฝงู ซ่ึงโดยมากเป็นพวกทตี่ ดิ สิง่ เสพยต์ ิดนัน้ อยแู่ ล้ว ด้วยความเกรงใจเพ่ือน หรือ เชือ่ เพื่อน หรือ ต้องการแสดงวา่ ตวั เปน็ พวกเดียวกับเพื่อน จงึ ใช้สิ่งเสพยต์ ิดนัน้ ๒. สาเหตทุ เ่ี กดิ จากการถกู หลอกลวง ปัจจุบันนี้มผี ู้ขายสินค้าประเภทอาหาร ขนม หรือเครือ่ งดืม่ บางรายใช้ส่งิ เสพย์ติดผสมลงในสินค้าทขี่ าย เพ่อื ให้ผ้ซู ้ือสินคา้ น้นั ไปรบั ประทานเกดิ การติด อยากมาซ้ือไปรบั ประทานอีก ซึ่งในกรณีนี้ ผูซ้ ้อื อาหารนั้นมา รบั ประทาน จะไม่รู้สึกวา่ ตนเองเกดิ การตดิ สิ่งเสพยต์ ดิ ขึน้ แลว้ รแู้ ต่เพยี งวา่ อยากรบั ประทาน อาหาร ขนม หรอื เคร่ืองดม่ื ท่ซี อ้ื จากรา้ นนนั้ ๆ กว่าจะทราบกต็ ่อเมอ่ื ตนเองรสู้ ึกผิดสังเกตตอ่ ความต้องการ จะซ้ืออาหารจากร้านนั้นมารับประทาน หรือตอ่ เม่ือ มีอาการเสพย์ติดรุนแรง และมสี ุขภาพเสือ่ มลง ๓. สาเหตทุ เี่ กดิ จากความเจบ็ ปว่ ย ๑. คนทมี่ ีอาการเจบ็ ป่วยทางกายเกดิ ข้ึนเพราะสาเหตุต่าง ๆ เชน่ ไดร้ บั บาดเจ็บรุนแรง เป็นแผลเรอ้ื รัง มคี วามเจ็บปวดอยู่เป็นประจา เป็นโรคประจาตวั บางอย่าง เปน็ ต้น ทาใหไ้ ด้รบั ทกุ ข์ทรมานมาก หรือ เป็น ประจา จึงพยายามแสวงหาวิธีทจี่ ะชว่ ยเหลอื ตนเองให้พ้นจากความทุกข์ทรมานน้ันซ่ึงวิธหี นึง่ ท่ที าได้ง่ายคือ การรบั ประทานยาที่มีฤทธริ์ ะงบั อาการเจ็บปวดนั้นได้ ซ่งึ ไม่ใช่เปน็ การรักษาทเี่ ป็นตน้ เหตุของความเจ็บป่วย เพียงแตร่ ะงบั อาการเจ็บปวดให้หมดไปหรือลดน้อยลงได้ชัว่ ขณะ เมื่อฤทธิย์ าหมดไปกจ็ ะกลบั เจ็บปวดใหม่ ผูป้ ว่ ยกจ็ ะใชย้ านั้นอีก เมื่อทาเช่นนีไ้ ปนานๆ เกิดอาการตดิ ยานั้นขึ้น ๒. ผ้ทู ่ีมจี ติ ใจไมเ่ ปน็ ปกติ เชน่ มคี วามวติ ก กงั วล เครียด มีความผิดหวงั ในชวี ิต มคี วามเศร้าสลด เสยี ใจ เป็นตน้ ทาใหส้ ภาวะจติ ใจไม่เปน็ ปกตจิ นเกดิ การปว่ ยทางจติ ข้ึน จึงพยายามหายาหรือส่ิงเสพย์ติดที่มี ฤทธิส์ ามารถคลายความเครยี ดจากทางจิตไดช้ ่วั ขณะหนง่ึ มารบั ประทาน แต่ไม่ได้รักษาที่ตน้ เหตุเมอ่ื ยาหมด ฤทธิ์ จติ ใจกจ็ ะกลับเครียดอีก และ ผู้ป่วยกจ็ ะเสพสิ่งเสพยต์ ิด ถ้าทาเช่นน้ี ไปเรื่อยๆ ก็จะทาให้ผนู้ ั้นติด ยาเสพยต์ ดิ ในทีส่ ุด
๓. การไปซอื้ ยามารบั ประทานเองโดยไม่ทราบสรรพคณุ ยาที่แทจ้ ริงขนาดยาท่ีควรรบั ประทาน การรับประทาน ยาเกนิ จานวนกวา่ ที่แพทย์ไดส้ ่ังไว้ การรับประทานยาบางชนิดมากเกนิ ขนาด หรือรบั ประทานติดต่อกนั นานๆ บางครง้ั อาจมีอาการถึงตายได้ หรอื บางครั้งทาใหเ้ กิดการเสพตดิ ยาน้ันได้ ๔.สาเหตอุ น่ื ๆ การอยู่ใกล้แหล่งขายหรือใกล้แหลง่ ผลิต หรือ เปน็ ผู้ขายหรอื ผ้ผู ลิตเอง จงึ ทาใหม้ โี อกาสตดิ สิง่ เสพย์ ติดใหโ้ ทษน้นั มากกวา่ คนทว่ั ไป เม่ือมเี พ่ือนสนทิ หรอื พี่น้องท่ีติดสิง่ เสพยต์ ิดอยู่ ผู้นน้ั ย่อมได้เหน็ วธิ กี ารเสพ ของผทู้ ี่อย่ใู กล้ชดิ รวทัง้ ใจ เห็นพฤติกรรมต่างๆ ของเขาด้วย และยังอาจไดร้ บั คาแนะนาหรอื ชกั ชวนจากผู้เสพด้วย จงึ มโี อกาสติดได้ ๑. คนบางคนอยู่ในสภาพที่มปี ัญหา เชน่ วา่ งงาน ยากจน คา่ ใชจ้ า่ ยเพ่มิ โดยมรี ายไดล้ ดลง หรือคงที่ มี หนีส้ ินมาก ฯลฯ เมื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่าน้ไี ม่ได้ก็หนั ไปใชส้ งิ่ เสพย์ติด ช่วยผ่อนคลายความรูส้ ึก ในความ ทกุ ขย์ ากต่างเหลา่ นี้ แมจ้ ะร้วู ่าเป็นชวั่ คร่ชู ั่วยามกต็ าม เช่น กลุ้มใจทเี่ ป็นหนี้คนอืน่ ก็ไปกินเหล้า หรือ สบู กัญชาให้เมาเพอ่ื ทจ่ี ะได้ลมื เรื่องหนสี้ นิ บางคนต้องการรายได้เพิ่มขึ้น โดยพยายามทางานใหห้ นัก และ มากขนึ้ ท้ัง ๆ ทรี่ ่างกายอ่อนเพลยี มากจงึ รบั ประทานยากระต้นุ ประสาทเพอ่ื ให้สามารถทางานต่อไปได้ เป็นต้น ถา้ ทา อยู่เปน็ ประจาทาให้ตดิ สง่ิ เสพยต์ ิดน้นั ได้ ๒.การเลียนแบบ การทไ่ี ปเหน็ ผูท้ ่ตี นสนิทสนมรักใครเ่ หรอื เพ่ือน จึงเหน็ ว่าเปน็ สงิ่ นา่ ลอง เป็นสง่ิ โกเ้ ก๋ เป็นสงิ่ แสดงความเป็นพวกเดียวกนั จงึ ไปทดลองใช้สง่ิ เสพย์ติดนนั้ จนติด ๓. คนบางคนมคี วามผิดหวังในชีวิตตนเอง ผดิ หวงั ในชีวติ ครอบครวั หรอื ผดิ หวงั ในชวี ิตสงั คม เพ่ือเปน็ การประชดตนเองหรอื คนอนื่ จงึ ไปใชส้ งิ่ เสพยต์ ิดจนตดิ ท้ังๆ ทท่ี ราบวา่ เปน็ ส่งิ ไมด่ ี ก็ตาม สาเหตสุ าคญั ทท่ี าใหต้ ดิ ยาเสพตดิ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในกลุ่มวยั รุ่น คือ 1. จากการถกู ชักชวน การถกู ชกั ชวนนีอ้ าจจะเกดิ จากเพ่ือนสนิทท่ีกาลงั ตดิ ยาอยู่และ อยากจะให้เพ่อื นลองบา้ ง ปัญหานม้ี ักจะเกิดกับเด็กทม่ี ปี ัญหาทางครอบครวั ขาดความอบอุ่น ใจแตก เอาเพ่ือน เปน็ ทพี่ ึ่งนอกจากนผี้ ทู้ ่ีอยู่ในแหล่งทีม่ กี ารซ้ือขายยาเสพตดิ ก็อาจจะได้รบั การ ชกั จูง คุณภาพของยาเสพตดิ ว่าดตี า่ ง ๆ นานา เชน่ อาจจะบอกว่า เม่ือเสพแลว้ จะทาให้ปลอด โปร่ง เหมาะแก่การเรียนการทางาน การชกั จูงดงั กล่าวอาจจะเกดิ ข้ึนในขณะท่ผี ู้ถกู ชักจูง กาลังมึนเมา สุราเท่ียวแตร่กนั จงึ ทาให้เกิดการตดิ ยาได้ 2. จากการอยากทดลอง อยากรู้อยากเหน็ อยากจะรู้รสชาติ อยากสัมผสั โดยคิดวา่ คงจะไมต่ ิดง่าย ๆ แตเ่ ม่ือ ทดลอง เสพเขา้ ไปแล้วมกั จะตดิ เพราะยาเสพตดิ ในปจั จบุ ัน เชน่ เฮโรอีน จะตดิ ง่ายมาก แม้เสพเพยี ง ครง้ั หรอื สอง ครั้ ก็จะติดแลว้ 3. จากการถูกหลอกลวง ยาเสพตดิ มรี ูปแบบตา่ ง ๆ มากมาย ผู้ถูกหลอกลวงไม่ทราบว่าส่ิงท่ี ตนได้ กินเข้าไปน้ัน เป็นยาเสพติดให้โทษรา้ ยแรง คดิ วา่ เปน็ ยาธรรมดาไม่มพี ิษร้ายแรง อะไรตามท่ีผูห้ ลอกลวง แนะนาผลสุดท้าย กลายเปน็ ผู้ตดิ ยาเสพติดไป 4. เหตุทางกาย ความเจบ็ ปว่ ยทางกาย เช่น ตอ้ งถูกผา่ ตัดหรือเปน็ โรคปวดศีรษะ เปน็ หืด เปน็ โรค ประสาทได้รบั ความทรมานทางกายมากผ้ปู ่วยตอ้ งการบรรเทา พยายามช่วยตัวเองมานานแต่กไ็ มห่ าย จงึ หัน เขา้ หายาเสพติด จนตดิ ยาในทีส่ ดุ 5. จากความคกึ คะนอง บคุ คลประเภทนี้คิดวา่ ตวั เองเป็นคนเก่งอยากลองซ่ึงรู้แก่ใจว่า ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษเป็นสงิ่ ไม่ดแี ตด่ ว้ ยความทีค่ ึกคะนองเปน็ วยั ร่นุ ไม่เกรงกลัวอะไร ต้องการแสดง ความเดน่ ดงั อวดเพ่ือนว่าขา้ น้คี ือพระเอก ขาดความย้งั คิดจงึ เสพยา เสพติดและตดิ ยาในที่สดุ
6. จากสงิ่ แวดลอ้ ม เช่น สถานทอี่ ยอู่ าศยั แออัด เป็นแหล่งสลัม หรอื เปน็ แหลง่ ทีม่ ี การเสพและค้ายาเสพตดิ ภาวะ ทางเศรษฐกจิ บบี ค้ันจิตใจ เปน็ ตน้ ซง่ึ เป็นสิ่งท่ีมีอิทธพิ ล เหนือ จิตใจผลกั ดัน ใหผ้ ทู้ ่ีอยู่ในสภาพแวดลอ้ มดังกลา่ ว บางคนหันมาพ่งึ ยาเสพติดโดยคดิ ว่าจะชว่ ย ให้ตนเองหลุดพ้นจากสภาพ ตา่ ง ๆ ทค่ี บั ข้องใจเหลา่ น้นั ได้ ประเภทของยาเสพตดิ 1. ออกฤทธกิ์ ดประสาท เชน่ ฝ่นิ มอรฟ์ ่นิ เฮโรอีน เซโคบารท์ ิบาท (บาร์บิทเู รต) เหลา้ แห้ง หรือโซโคบาล ทาให้ประสาทมนึ ชา สมอง อารมณ์ จิตใจ เฉื่อยชา 2. ออกฤทธก์ิ ระตนุ้ ประสาท เชน่ แอมเฟตามนี กระท่อม โคเคน พวกยามา้ ยาขยัน กระตนุ้ เร่งประสาท ทาให้เกิดน่ิว ตื่นตัว กระวนกระวาย ประสาทไหวตัวอยู่เสมอ 3. ออกฤทธหิ์ ลอนประสาท เช่น แอลเอสดี ทาใหเ้ กดิ ประสาทหลอนเห็นภาพผดิ ไปจากปกติ 4. ออกฤทธผิ์ สมผสานกนั ท้ังกดประสาท กระต้นุ ประสาท และหลอนประสาท เช่น กญั ชา อาการ 1. เดก็ ที่ตดิ ยาเสพตดิ มีลักษณะอาการท่สี ังเกตเหน็ ได้หลายชนิด ทงั้ ทางดา้ นร่างกายและพฤติกรรม แสดงออกดงั น้ี 2. หนา้ ตาเฉยเมยแบบคนท่ีมีความทุกข์ 3. ผอมซีด สุขภาพทรุดโทรม 4. ความประพฤติเปลย่ี นไป ละเลยกจิ วัตรประจาวัน ระเบียบวนิ ยั ลดหยอ่ น 5. กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ หงุดหงิด ฉนุ เฉียว ผดิ ปกติ โมโหงา่ ย 6. มีลบั ลมคมใน ชอบแยกตวั อยู่คนเดยี วเงยี บๆ 7. เบือ่ หนา่ ยการงานและการเรยี น ไมม่ ีแรง อ่อนเพลีย 8. มกั มยี า อปุ กรณแ์ ปลกๆเกบ็ ไวใ้ นหอ้ งส่วนตัว 9. อาจมีอุปกรณ์เกี่ยวกับยาเสพตดิ เชน่ กระดาษ ตะก่วั หลอดกาแฟ ไม้ขดี หลอดฉีดยา เป็นตน้ 10.ใชเ้ งนิ เปลืองผดิ ปกติ มหี นี้สนิ บางครง้ั ขโมย 11.สวมแวน่ กันแดดตลอดเวลา เพือ่ ซ่อนแกว้ ตาทว่ี าว เบิกกว้างหรือริบหรี่ 12.ใส่เสอ้ื แขนยาวตลอดเวลา เพ่ือปกปดิ รอยเข็มท่ีฉีดยา 13.มักชอบอยูใ่ นห้องเกบ็ ของ ซ่อนตัวอยู่ในห้อง อยหู่ ลังส้วมเพ่ือแอบสูบบุหรี่ เสพยา 14.ถา้ อยใู่ นห้องเรียน เด็กจะเกียจครา้ น ง่วงหงาวหาวนอน ตาหรี่ เพราะสู้แสงไม่ได้ เรียนหนงั สือไมร่ เู้ ร่ือง สาเหตขุ องการตดิ ยาเสพติด ทางดา้ นรา่ งกาย การจดั หาหรือซื้อสารเสพติดด้วยตนเองเนื่องจากมีอาการเจ็บปวดทางรา่ งกาย พวกรักษาตนเอง เช่นประสบอุบัตเิ หตแุ พทยใ์ ห้ยาระงับปวดอยชู่ ่วั ขณะหน่ึง ภายหลงั ได้ใช้ยาโดยไม่ ปรึกษาแพทย์เพื่อชว่ ยตนเอง เลยทาให้ตดิ ยาโดยไม่ตงั้ ใจ ทางด้านจติ ใจ พวกบคุ ลกิ ภาพผิดปกติ เช่น ตอ่ ต้านสังคม ก้าวรา้ ว ชอบพึ่งพาผอู้ น่ื แยกตวั เองหรือซึมเศรา้ พวกทมี่ ีความกังวลใจ หวาดกลัว หรอื ป่วยเป็นโรคประสาทหรอื โรคจิตมอี าการนอนไม่หลบั มกั ใช้ยาเสพตดิ ระงับความรู้สกึ จึงทาให้ติดได้
สภาพครอบครัวแตกแยก พ่อแมไ่ ม่เขา้ ใจกนั เด็กขาดความอบอุ่น หรืออบรมเล้ียงดลู กู ไม่ ถกู ต้อง หรอื มีคนในครอบครวั ตดิ สารเสพตดิ ทางดา้ นสงั คม ถูกเพ่อื นชวน อยากลอง อยใู่ นสภาพแวดล้อมท่ีใกลช้ ิดกบั พวกติดสารเสพตดิ ความกดดันทางสังคม เชน่ มปี ญั หาทางเศรษฐกจิ ไม่มงี านทา โทษของการตดิ ยาเสพตดิ โทษตอ่ รา่ งกายและจติ ใจ ทาลายประสาทสมอง จติ ใจเส่ือม ซมึ เศร้า กังวล เลื่อนลอย และเป็นโรคจติ จากพิษยานั้นๆ เสยี บคุ ลิกภาพ ขาดความสนใจตนเอง ขาดสติสัมปชัญญะ ร่างกายซูบซดี ออ่ นเพลยี พษิ ยาทาลายอวยั วะตา่ งๆให้เสื่อมลง มีโรคแทรกไดง้ ่าย ประสบอุบัตเิ หตุได้งา่ ย เพราะการควบคมุ ทางกลา้ มเนื้อและระบบประสาทบกพร่อง โทษต่อครอบครวั ขาดความรบั ผดิ ชอบตอ่ ครอบครวั และญาติพนี่ อ้ ง เสียทรัพยท์ ่จี ะตอ้ งซ้อื ยามาเสพ และรกั ษาตวั ขาดหลกั ประกันของครอบครัว ทางานไม่ได้ ไม่เปน็ ทว่ี างใจ ของคนท่วั ไป นาภัยมาสบู่ ตุ ร ภรรยา ญาติพี่นอ้ ง โทษตอ่ สงั คม เปน็ ภัยตอ่ สังคม มีโอกาสเป็นอาชญากรประเภทลักขโมยได้ง่ายเนื่องจากมีรายจา่ ยสูง โทษต่อสว่ นรวมและประเทศชาติ เป็นภยั อันตรายตอ่ ผู้อน่ื ชุมชนและประเทศชาติ เพ่มิ งบประมาณของประเทศในการป้องกนั ปราบปรามและบาบดั รักษา สง่ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และวฒั นธรรมของประเทศ วธิ กี ารแกไ้ ข 1. การแก้ไขเด็กตดิ ยาเสพตดิ ต้องการกาลงั ใจจาก ผูป้ กครองและครเู ป็นอย่างมาก ฉะนั้น ผู้ปกครองและ ครจู ึงมสี ่วนสาคัญในการชว่ ยเดก็ ของตนให้หายจากการติดยาเสพติดซึ่งมวี ิธีปฏิบตั ดิ งั นี้ 2. สรา้ งบรรยากาศในครอบครัวให้มคี วามสขุ พ่อแมค่ วรปรองดองกัน จะทาให้เดก็ มีความม่ันคงทาง จติ ใจ รสู้ ึกอบอุ่น 3. พอ่ แม่และครูต้องให้ความเป็นกันเองกบั เด็ก จะทาใหเ้ ด็กแน่ใจว่าผูใ้ หญพ่ ยายาม ท่จี ะเข้าใจเขาพรอ้ ม ที่จะช่วยเหลือเขาเด็กจะร้สู ึกเปน็ กนั เองทจ่ี ะพดู คุยถงึ ปัญหา ของตนโดยไม่มีการซอ่ นเร้นและควร พดู จาซักถามสาเหตุ เวลาทีเ่ สพตดิ นานแค่ไหน อยา่ ประนามดดุ ่าเด็กและควรหาทางช่วยเหลืออยา่ ง รีบดว่ น 4. อธิบายให้เดก็ เขา้ ใจและรโู้ ทษตามกฎหมายทจ่ี ะไดร้ บั จากการใชย้ าเสพติด 5. ให้เดก็ ได้รโู้ ทษของยาเสพติด 6. รว่ มมอื กับครูประจาช้ันเพ่อื หาทางแก้ไข เช่นจดั กลุ่มอภิปรายกับเดก็ นักเรียน ถึงพษิ ภัยและโทษของ ยาเสพตดิ ครูทีส่ นใจปัญหาต่างๆเหลา่ น้ีและรบั ฟังเด็กดว้ ยท่าทที ี่เหน็ ใจ จะชว่ ยเดก็ ได้อย่างมาก
7. จัดกจิ กรรมท่ีเสริมสร้างพลงั ใจ อารมณ์ ความนกึ คิดไปในทางทม่ี ีความหมาย เชน่ ชมรมกีฬา ชมรม ดนตรี 8. พาเดก็ ไปพบแพทย์ตามสถานท่รี บั รักษาผูต้ ิดยาเสพติด หรือสถานทบ่ี างแห่งรักษาดว้ ยสมนุ ไพร เช่น ที่ถา้ กระบอก จังหวดั สระบุรี 9. ควรแยกเด็กจากสง่ิ แวดล้อมเดิมหรือให้หา่ งจากเพื่อนที่ตดิ ยาเสพติดด้วยกนั เพ่ือป้องกันไม่ให้กลับไป เสพอีก 10.อธบิ ายใหเ้ ดก็ เขา้ ใจว่าการเลิกยาเสพติดน้นั อยทู่ ี่การตดั สนิ ใจของเขาเอง เขาต้องรบั ผดิ ชอบชวี ติ ของ เขาเอง เขาต้องรับผดิ ชอบชีวติ ของเขาเอง การท่ีเขาเลิกยาเสพตดิ ได้จะทาใหอ้ นาคตของเขาดขี ้ึน การติดยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน มกั จะเน่ืองมาจากครอบครัว ไม่เปน็ สุขมีความขัดแยง้ หรือ ปลอ่ ยปละละเลยจนถูกชักจูงไปเสพได้ง่าย หรือใชย้ าเสพตดิ เป็นทางออกของชวี ิต การสรา้ งบรรยากาศทอ่ี บอนุ่ ในครอบครวั การให้ความรักความเข้าใจ แกเ่ ด็กและเยาวชนบุตรหลานของท่าน อยา่ งมเี หตผุ ลทีถ่ ูกต้อง เหมาะสมกจ็ ะเป็นการป้องกันปัญหาการติดยาเสพตดิ ได้ นอกจากน้นั ครูก็มสี ว่ นสาคัญในการช่วยเหลือเดก็ ถา้ ครูให้ความสนใจต่อเด็กบ้างทักทาย ถามปัญหา ถงึ แมบ้ างคร้งั จะช่วยได้ไมม่ าก แตค่ รกู ็สามารถที่จะแนะนาเด็กในทิศทางทีถ่ ูกต้องและควร จะหาใครให้ ชว่ ยเหลือ ****************************************
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: