เขตรักษาพนั ธ์ุสัตว์ป่ าฮาลา-บาลา เขตรักษาพนั ธุส์ ัตวป์ า่ ฮาลา-บาลา เปน็ พืน้ ทีเ่ ขตรักษาพนั ธสุ์ ัตว์ป่าแหง่ หนึง่ ในประเทศไทย ใน พืน้ ทีภ่ าคใต้ตอนล่างของประเทศ เป็นผืนป่าที่ประกอบไปด้วยผนื ปา่ สองผนื คอื ป่าฮาลา ในพืน้ ที่ อำเภอเบตง จงั หวดั ยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวดั นราธิวาส และ ป่าบาลา ในพื้นทีอ่ ำเภอแว้ง และ อำเภอสคุ ิริน จังหวัดนราธิวาส แม้ปา่ ทั้งสองผนื นี้จะไม่ได้ตดิ เปน็ ป่าผืนเดียวกัน แต่ทว่าในปี พ.ศ. 2539 ได้มกี ารประกาศลงในราชกิจจานเุ บกษาให้เปน็ เขตรักษาพนั ธุ์สัตว์ปา่ รว่ มกัน โดยคำวา่ \"บาลา\" มาจากคำว่า \"บาละห์\" ทีแ่ ปลวา่ \"หลุด\" หรอื \"ปลอ่ ย\" มที ีม่ าจากช้างเชือกหน่ึง ที่หนีเข้าป่าฝง่ั อำเภอแว้ง และคำว่า \"ฮาลา\" หมายถึง \"อพยพ\" หมายถึง ผู้คนทีอ่ พยพย้ายถิ่นฐานมา จากตวั เมืองปตั ตานีในอดีต จนมาอาศยั อยเู่ ปน็ ชุมชนรอบ ๆ ชายปา่ โดยป่าแห่งน้อี าจเรียกชอ่ื สลับกัน ได้วา่ บาลา-ฮาลา โดยผู้คนที่อยใู่ นอำเภอแว้งจะเรียกวา่ \"บาลา-ฮาลา\" แต่คนทีอ่ าศัยในอำเภอเบตง จะเรียกวา่ \"ฮาลา-บาลา\" สภาพภูมิประเทศ มีพ้ืนที่ท้ังหมด 270,725 ไร่ ครอบคลมุ พืน้ ทีท่ ิวเขาสันกาลาครี ี ต่อมาได้เพิ่มพ้ืนทีเ่ ป็น 391,689 ไร่ หรอื 626.70 ตารางกิโลเมตร สภาพป่าเป็นปา่ ดิบชืน้ หรือปา่ ฝนเมืองร้อนที่อุดมสมบูรณ์มาก และมีความ หลากหลายทางชีวภาพสูง มีความชืน้ สูงตลอดท้ังปี มีลำน้ำไหลผ่าน ถือได้ว่าเป็นผืนป่าดิบช้ืนที่ กว้างขวางและใหญ่ที่สดุ ของคาบสมุทรมลายู จนได้ฉายาวา่ เป็น \"แอมะซอนแหง่ อาเซียน\"[1] ทรพั ยากรสตั วป์ ่า ได้รบั ฉายาว่า\"กระทิงบนผนื ป่า \"แอมะซอนแห่งอาเซียน\"\" ท้ังยงั มีพ้ืนที่ตดิ กบั ป่าเบลุม่ ทางตอนเหนอื ของ มาเลเซีย โดยมีสตั วป์ า่ อดุ มสมบรู ณ์ มีการสำรวจสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพบว่ามีทั้งหมด 54 ชนิด หลายชนดิ เปน็ สัตว์ป่าทีห่ ายากใกล้สูญพนั ธ์ุ เช่น กระทิง[1], เซียมมัง หรือชะนีดำใหญ่ ซึ่งเป็นไพรเมทจำพวกชะนีขนาดใหญ่ ที่แพร่พระจายพนั ธุ์ใน คาบสมุทรมลายูจนถึงเกาะสมุ าตรา โดยพบที่นเ่ี ป็นเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนแี้ ล้วยงั เปน็ ถิ่นทีอ่ ยู่อาศยั ของนกเงือกจำนวน 10 ชนิด จากท้ังสิน้ 13 ชนิดที่พบได้ในประเทศไทย โดยเฉพาะนก เงอื กกรามช้างปากเรียบ หนึง่ ในชนดิ ของนกเงือกกรามช้าง ที่อพยพบินรวมกนั เป็นฝงู เล็ก ๆ จำนวน 10–20 ตวั จากปา่ หว้ ยขาแข้งในพนื้ ทีภ่ าคกลางและภาคตะวนั ตก มายงั ทีน่ ่ใี นพืน้ ที่อำเภอเบตง ในช่วง
เดือนพฤษภาคมของทกุ ปี โดยรวมจำนวนนกท้ังหมดแล้วมปี ระมาณ 500 และการสำรวจล่าสุดพบมาก ถึง 2,000 ตวั นอกจากนภี้ ายในเขตรักษาพนั ธสุ์ ตั ว์ป่าฮาลา-บาลา เป็นที่ตั้งของ ต้นกะพงขนาดใหญท่ ี่มเี ส้นรอบวงถึง 25 เมตร ในพืน้ ที่อำเภอสคุ ิริน ที่โอบอุ้มป้องกันทางพังทะลายของหนา้ ดิน ซึง่ เป็นการป้องกันอุทกภยั ให้กับผคู้ นที่อาศัยอยู่รอบผืนปา่ ได้และข่าวการค้นพบร่องรอยกระซ่แู ละสัตว์ปา่ หายากอีกหลายชนิด เมื่อปีพ.ศ. 2540 ป่าฮาลา-บาลา ได้รับฉายา ‘แอมะซอนแหง่ อาเซียน’ น่ันหมายถึงป่านีย้ ่อมไม่ธรรมดาดว้ ยความอุดม สมบูรณท์ ีก่ ินขาดใครๆ ในภูมิภาค ฮาลา-บาลาเป็นสว่ นหน่งึ ของเทือกเขาสันกาลาคีรี ครอบคลมุ พืน้ ที่ ในจังหวัดยะลาและนราธิวาส ปา่ ดิบช้นิ แห่งนีเ้ ต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ มพี ืชพนั ธ์ุที่ สำรวจพบที่นเ่ี พียงแหง่ เดียวในโลกอยา่ ง ย่านดาโอ๊ะ หรือต้นใบไม้สที อง ท้ังยงั เป็นแหล่งกำเนิดของดอก ดาหลาสีขาว เป็นถิ่นที่อยขู่ องสัตวป์ า่ หายากอย่าง กระซู่ (แรด 2 นอ) กระทิง สมเสร็จ เสือโครง่ เสือ ลายเมฆ เลียงผา กบภูเขา ช้างป่า และที่เราจะพาไปส่องกนั ในคราวนี้—นกเงอื ก
สายเดินป่ารนุ่ เก่าหนอ่ ยน่าจะรู้สกึ ปา่ แหง่ นใี้ นฐานะที่มันเป็นแรงบนั ดาลใหใ้ ห้พนมเทียนสร้างนวนยิ าย เลือ่ งชื่ออย่าง เพชรพระอุมา ที่ซึ่งมสี ิง่ มหศั จรรยพ์ ันลึกมากมายแฝงเร้นอยู่ และแม้โลกจะเปลีย่ นแปลง ไปมากแล้ว แตค่ วามอุดมสมบูรณ์ของฮาลา-บาลายังคงอยู่ในระดบั ทีน่ ่าอัศจรรยใ์ จ ฟังอย่างน้ีแล้ว หลายคนคงคิดว่าการเข้าป่าไปน่ังส่องนกเงอื กในคราวนีจ้ ะต้องลำบากลำบนแนๆ่ แตเ่ ปลา่ เลย การเข้า ป่าลึกคร้ังน้แี ทบไมต่ ้องเดินให้เหน่อื ย แถมบรรยากาศพงไพรมาเตม็ รู้จกั ป่าฮาลา-บาลา ก่อนเข้าป่า อยากชวนมารู้จักผนื ป่าแห่งน้ีกนั อีกสกั นิด จะสงั เกตได้วา่ มีเคร่อื งหมาย ‘ – ’ คนั่ กลาง ระหว่างสองคำ นั่นเพราะมีสองปา่ มารวมกัน คือ ‘ฮาลา’ และ ‘บาลา’ แมป้ า่ จะไม่ตอ่ เนื่องกนั แต่ก็ ได้รบั การประกาศเปน็ เขตรักษาพนั ธสุ์ ัตว์ป่าเดียวกนั ฮาลา อยูใ่ นพืน้ ที่ จ.ยะลา ส่วน บาลา อย่ใู นพืน้ ที่ จ.นราธิวาส ทั้งคตู่ ั้งชื่อตามหมบู่ ้านซึง่ เป็นภาษามลายู
ฮาลา แปลวา่ ทิศทางมุ่งไปสู่ เชน่ ทิศทางน้ำ ทิศทางดิน ทิศทางลม บาลา แปลวา่ กลมุ่ คน ทหาร หรอื หน่วยอืน่ ๆ ‘ฮาลา-บาลา’ จึงแปลว่า ทิศทางของการอพยพของกลุ่มคน แมถ้ กู ประกาศให้ชื่อปา่ ฮาลา-บาลา ทวา่ ชาวบ้านในพื้นที่นยิ มนำชือ่ ของพ้ืนทีต่ ัวเองขนึ้ ก่อน หากไปถาม ชาวบ้าน ที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ปา่ นี้จะช่ือ บาลา-ฮาลา หรอื ไมก่ ็ บาลา เท่าน้ัน เข้าปา่ แบบไมต่ อ้ งฝา่ ดง อยา่ งทีบ่ อกไปวา่ ทริปสอ่ งนกเงอื กของเราจะเป็นทริปสบายๆ และเราสามารถเข้าป่าฮาลา-บาลาได้จาก ทั้งสองฝ่ัง หากจะไปฝง่ั ฮาลา สามารถติดตอ่ ไปยงั ผบู้ งั คบั บัญชากองรอ้ ยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 ผพู้ ิทักษ์ ‘สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ สว่ นที่ 2’ เพื่อขอเข้าพืน้ ทีจ่ นกระทงั่ ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีคนใหบ้ ริการ เรือท้องแบนติดเครอื่ งยนตเ์ ข้าไปยงั ต้นนำ้ ของเข่อื นบางลาง ชมกระทิง ส่องนกเงือก หรอื ทกั ทายคนปา่ โอรังอสั ลี หรอื ซาไก กันได้ถึงถิ่น
หากจะไปฝงั่ บาลา สว่ นนี้ ไมต่ อ้ งขออนุญาต เพราะเปิดให้นกั ทอ่ งเที่ยวเข้าชมอยู่แล้ว อย่ภู ายใต้การ ดูแลของ ‘เขตรกั ษาพนั ธุ์สตั ว์ป่า ฮาลา-บาลา’ เพียงต่ืนแตเ่ ช้า ขบั รถที่มสี มรรถนะพร้อมไตเ่ ขาสงู พก กล้องถ่ายภาพ เตรียมเสบียงไปเล็กน้อย แล้วลุยได้เลย ปา่ ฝง่ั บาลาจะมีถนนสายความมั่นคง (ทางหลวงหมายเลข 4062) เลื้อยเลาะไปตามเทือกเขาสันกาลา คีรี ทำให้เขา้ ถึงพื้นทีป่ า่ ได้ง่ายดาย เริ่มจากบ้านบูเกะ๊ ตา อ.แว้ง ถึงบ้านภูเขาทอง อ.สุคิรนิ ระยะทาง ประมาณ 18 กิโลเมตร เราใช้เส้นทางนี้แหละครบั ขับรถชมธรรมชาติสวยงามไปเรือ่ ยๆ ผ่านทางเข้า น้ำตกสิรินธร ผ่านผาลึก ผ่านหมอกจางๆ แล้วไปหยุดที่ป้าย ‘จุดชมสัตว์’ จอดรถแอบๆ ริมถนนให้ มิดชิด แล้วนงั่ รออย่างใจเยน็ ที่น่นั ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทีท่ ำได้คงเป็นการคุยกันเบาๆ หรอื น่ังชมป่า เงียบๆ หิวก็หยิบเสบียงข้ึนมาเคี้ยว เมื่อได้ยินเสียงตปี ีกแหวกอากาศดงั พรึบๆ ตามด้วยเสียงรอ้ ง “กก๊ั ก๊ัก กก๊ั ” ดังมา นั่นแหละ คือนกเงอื ก
หากคุณไม่โชคร้ายนัก นกเงือกจะบินมาให้ชมและเก็บภาพกนั จนเหน่ือยมือ โดยเฉพาะในช่วงเมษายน ถึง พฤษภาคมที่ผลไทรสุก ณ จดุ ชมสัตว์มีไทรใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง ฝงู นกเงอื กจะพากันมากินลกู ของไทรต้น นกี้ ันหลายสิบคทู่ ีเดียว รู้จกั นกเงอื ก เพิม่ อรรถรสในการส่อง นกเงอื กทั่วโลก มอี ยทู่ ้ังหมด 54 ชนิด พบในประเทศไทย 13 ชนิด และมีอยใู่ นปา่ ฮาลา-บาลา ถึง 10 ชนิด นับว่าเยอะทีส่ ดุ ในประเทศไทย ส่วนพนั ธท์ุ ีเ่ ราเก็บภาพได้ชัดเจนในคราวนคี้ ือนกเงอื กหวั แรด นกเงอื ก ภาษาถิน่ นราธิวาส (ภาษาเจ๊ะเห) เรยี กว่า นกทูนหนิ เพราะนกเงือกมีโหนกบนหวั ลกั ษณะ คล้ายนำหนิ มาวางบนหวั ส่วนภาษามลายูเรียกวา่ ‘บรู ง ออรงั ’ บูรง คอื นก ออรงั คือคน ทีเ่ รียกวา่ นก คน เพราะเสียงร้องตอนใกล้จบท่อนของมนั จะคล้ายเสียงหัวเราะของคน หากมีโอกาสไปนง่ั รอส่องนก เงือก ลองฟังดูนะครับ ว่าตรงนยิ ามของศัพทม์ ลายหู รือไม่
มีเร่อื งน่าตลกปนเศร้าเกีย่ วกบั นกเงอื ก นั่นคือ นกเงอื กถกู ต้ังเป็นสัญลกั ษณ์ของ อ.แว้ง และเปน็ ตวั มาสค็อตประจำงานนิทรรศการใหญ่ๆ ของจังหวัดอยู่เสมอ ทวา่ หลายครั้ง ผู้ออกแบบกลับนำนกทูแคน มาใช้แทน อาจเพราะมันดคู ล้ายนกเงอื กจนชวนใหใ้ ครที่ดูไมล่ ะเอียดเกิดความสับสน ท้ังที่จริงแล้วนกทู แคนเป็นนกของทางแถบอเมริกาใต้และไม่ได้ทนู หินดว้ ย เมื่อกล่าวถึงนกเงอื ก คนมกั นึกถึงความรักเดียวใจเดียว แต่นกเงือกยงั มีด้านอื่นทีม่ ากกว่านน้ั มนั เปน็ ตัวช้วี ดั ความอดุ มสมบูรณ์ของธรรมชาติ ท้ังยังเปน็ นักปลกู ป่าชำนาญการ เนอ่ื งจากเป็นนกใหญ่ หากิน กลางปา่ ลกึ กินผลไม้และสัตว์เล็กเป็นหลัก เมล็ดพืชที่กิน จะไม่ถูกนกเงอื กทำลาย มนั จะคายเมลด็ นั้น ลงพืน้ ในสภาพสมบูรณ์ หากกลืนลงไปก็จะถา่ ยออกมาโดยคงรปู เมล็ดเหมอื นเดิม ลองสมมตกิ นั งา่ ยๆ วา่ นกเงอื ก 1 ตัว ถา่ ยเมลด็ ลงพืน้ ปา่ แล้วต้นไม้งอกงามดี วนั ละ 1 ต้น เท่ากบั ว่านกเงอื กสามารถปลูกปา่ ได้ปีละ 365 ต้น แล้วอายุนกเงอื กเฉลีย่ อยู่ที่ 30 ปี จงึ น่าเสียดายนักเมื่อมันมักจะถูกล่าเพียงเพื่อจะตัด โหนกขายใหใ้ ครบางคนสะสม เช่อื วา่ งามจริง แตใ่ ครจะกล้าไปชายแดนใต้ เรือ่ งนไี้ ม่ปฏิเสธ ผมในฐานะคนในพื้นทีข่ อน้อมรบั โดยดี แตใ่ ช่วา่ เหตคุ วามรุนแรงจะเกิดขึ้นอยู่ทุกหัว ระแหง และต้องย้ำว่าความสมบูรณ์ของป่าคุ้มค่ากบั การมาเยือนจริงๆ สำหรบั ใครทีอ่ ยากมาลองสัมผสั บรรยากาศและการท่องเที่ยวแบบทีไ่ ม่ต้องคกุ คามธรรมชาติ ที่เขตรักษาพันธุส์ ัตว์ป่า ฮาลา-บาลา อ. แว้ง มบี ้านพักรบั รองนักทอ่ งเทีย่ ว แตค่ ิวจองยาวถึงสามเดือนสเ่ี ดือน โดยเฉพาะช่วงผลไทรสุกต้องจอง ลว่ งหนา้ เป็นปีๆ นอกจากที่พักของทางราชการแลว้ รสี อรท์ ประชารฐั ของผใู้ หญบ่ ้านกม็ ีควิ จองเตม็ อยู่ เสมอเชน่ กัน ใครที่คิดจะโทรตดิ ตอ่ ขอเข้าพกั ลว่ งหน้าแคว่ นั สองวนั มีสทิ ธิ์ชวดได้ ดังนนั้ หากใครสนใจ วางแผนกันต้ังแตเ่ นิ่นๆ ได้เลย
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: