Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาภาษาไทย

แผนการสอนวิชาภาษาไทย

Published by Suteetida Paiboon, 2021-01-31 03:27:18

Description: แผนการสอนที่ 1

Keywords: แผนการสอน,แผนการสอนภาษาไทย

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑ การอา่ นออกเสยี ง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย โรงเรยี นเทศบาลบ้านโตนด(ครี มี าศวิทยา) หน่วย/บทท่ี 1 ความรู้พน้ื ฐานในการอา่ น ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ วชิ าภาษาไทย (ท ๒๒๑๐๑) เวลาเรยี น ๓ ชว่ั โมง/คาบ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ ครูผูส้ อน นางสาวสธุ ธี ดิ า ไพบลู ย์ ๑. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ความรพู้ ้นื ฐานในการอ่านช่วยใหอ้ ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง และมีมารยาท ในการอ่าน ๒. ตวั ช้วี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง ม.๒/๘ มมี ารยาทในการอา่ น ๒.๒ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑) มีความรู้พื้นฐานในการอา่ นบทรอ้ ยแกว้ และบทรอ้ ยกรอง ๒) มีมารยาทในการอา่ น ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๑) การอา่ นออกเสยี ง ประกอบด้วย - บทรอ้ ยแก้ว - บทรอ้ ยกรอง ๒) มารยาทในการอ่าน ๓.๒ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ (พิจารณาตามหลักสตู รสถานศกึ ษา) ๔. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ๔.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร ๔) ทักษะการตงั้ เกณฑ์ ๔.๒ ความสามารถในการคดิ ๕) ทักษะการประเมนิ ๖) ทักษะการนำความรไู้ ปใช้ ๑) ทกั ษะการเปรียบเทยี บ ๓. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน ๒) ทักษะการวเิ คราะห์ ๓) ทักษะการจำแนกประเภท ๔.๓ ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้

๖. กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ สี อนโดยการจัดการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิคคคู่ ิดสสี่ หาย นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น คำถามกระตุ้นความคดิ ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นกั เรียนคดิ วา่ ในสถานการณ์ปจั จุบันผู้ทอ่ี า่ นหนงั สือ ไมอ่ อกน่าจะมปี ญั หาในการดำเนนิ ชีวติ หรือไม่ เพราะ ๑. ครสู นทนากับนักเรยี นเรือ่ งความสำคัญของการอ่าน เหตุใด ๒. ครูให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับการอ่านของคน (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู น ดุลย พนิ จิ ของครูผู้สอน) ในสมัยปัจจบุ ันวา่ คนไทยเป็นนักอ่านหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๓. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด คำถามกระตนุ้ ความคิด ขน้ั สอน  ผทู้ ่กี วาดสายตาได้อยา่ งรวดเร็วเปน็ ผลดตี ่อการอ่าน อยา่ งไร สื่อการเรียนรู้ : ๒. ใบงานที่ ๑.๑ (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ย่ใู น ดลุ ย ๑. หนังสอื เรยี น หลกั ภาษาฯ ม.๒ พินิจของครผู สู้ อน) ๑. ครแู บ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความ สามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และออ่ น ๒. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ความรู้พน้ื ฐานใน การอ่าน จากหนังสือเรยี น ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันทำใบงานที่ ๑.๑ เรอ่ื ง ความรู้ พื้นฐานในการอ่าน โดยให้สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มหาคำตอบ ดว้ ยตนเองจนครบทกุ ข้อ จากน้ันจบั คู่กับเพอื่ นในกลมุ่ ผลัดกัน อธบิ ายคำตอบใหค้ ขู่ องตนเองฟงั (สมาชกิ กลุ่มอีกคู่หนึง่ ก็ปฏิบัติ กจิ กรรมเช่นเดยี วกัน) ๔. นักเรียนรวมกลุ่ม ๔ คน ให้แต่ละคู่ผลัดกนั อธิบายคำตอบให้ เพ่ือนอีกคหู่ น่ึงในกลมุ่ ฟัง เพื่อชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๕. ครสู มุ่ ตวั แทนนักเรยี น ๑-๒ กลมุ่ ออกมานำเสนอคำตอบใน ใบงาน ที่ ๑.๑ หน้าชั้นเรยี น ครแู ละเพ่อื นนักเรยี นกลุ่มอื่นร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้อง ๖. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ข้ันสรปุ สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ : — นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสรุปองคค์ วามร้พู ื้นฐานในการอา่ น

๗. การวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจใบงานท่ี ๑.๑ ใบงานท่ี ๑.๑ รอ้ ยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มั่นในการทำงาน แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๘. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ ๘.๑ สือ่ การเรียนรู้ ๑) หนังสอื เรียน ภาษาไทย : หลักภาษาและการใชภ้ าษา ม.๒ ๒) ใบงานที่ ๑.๑ เร่อื ง ความร้พู ้นื ฐานในการอ่าน ๘.๒ แหล่งการเรียนรู้ —

ใบงานท่ี ๑.๑ ความรูพ้ ืน้ ฐานในการอ่าน คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ๑. การอา่ นในใจแตกต่างจากการอ่านออกเสยี งอย่างไร ๒. การอ่านมคี วามสำคัญอยา่ งไร ๓. การอา่ นหนงั สอื ในห้องสมดุ ต้องปฏบิ ตั ิอย่างไร จึงจะถูกตอ้ งตามมารยาทในการอา่ น ๔. การอ่านทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มปี ัจจยั พ้ืนฐานอยา่ งไร

ใบงานท่ี ๑.๑ ความรู้พ้นื ฐานในการอา่ น คำชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคำถามตอ่ ไปน้ี ๑. การอา่ นในใจแตกต่างจากการอา่ นออกเสยี งอย่างไร การอ่านในใจเป็นการอ่านเพอื่ ทำความเขา้ ใจข้อความตวั อักษรและสัญลักษณต์ ่างๆ สว่ นการอา่ นออกเสียงเป็น การเปลง่ เสียงตามตัวอักษรและสญั ลักษณต์ ่างๆ เพอื่ ใหผ้ ้ฟู ังเข้าใจความหมายซึ่งอาจมีจดุ มงุ่ หมายต่างกัน ๒. การอา่ นมคี วามสำคญั อย่างไร ๑) การอ่านหนงั สือทำให้ผู้อ่านไดร้ บั สาระความรู้ตา่ งๆ ซ่ึงจะทำให้ผู้อ่านเปน็ ผทู้ ่ที ันต่อเหตุการณ์ ทันความคดิ ๒) หนังสอื เป็นสือ่ ทด่ี ที สี่ ุด ใชง้ า่ ยและมีราคาถกู บุคคลท่ัวไปสามารถใช้เพอ่ื การศกึ ษาหาความร้แู ละเพลิดเพลินได้ ๓) การอ่านหนงั สือเปน็ การฝึกกระบวนการคิดผ่านทางสมอง ทำให้เกิดสมาธิ ถา้ มกี ารฝกึ ฝนอยา่ งสมำ่ เสมอ จะทำใหเ้ กิดการพฒั นาและสมั ฤทธผิ ล ๔) ผูท้ ่อี า่ นหนังสอื จะไดท้ ้งั ความคดิ และจินตนาการ การอา่ นหนงั สือทำใหผ้ ู้อ่านมีอิสระทางความคิดไดด้ ีกวา่ การใช้สื่อชนิดอน่ื ๓. การอ่านหนงั สอื ในหอ้ งสมุดตอ้ งปฏิบตั อิ ยา่ งไร จึงจะถกู ต้องตามมารยาทในการอา่ น ๑) ไมอ่ ่านเสยี งดงั สร้างความรำคาญใหแ้ กผ่ ู้อ่ืน ๒) ไม่ใชอ้ ุปกรณ์ส่อื สารภายในห้องสมุด ๓) ไมน่ ำอาหารและเคร่ืองด่ืมเขา้ ไปรับประทานขณะอา่ นหนงั สอื ในห้องสมุด ๔) เมื่ออ่านหนังสือเสรจ็ แล้วให้นำไปวางไวต้ รงจุดท่บี รรณารักษ์กำหนด ๕) ไมฉ่ กี หนังสือ พบั มุม หรอื ทำใหห้ นังสอื ยับ ชำรุด สกปรก ถา้ ต้องการขอ้ ความหรือรูปภาพจากหนังสือ ควรใชว้ ิธคี ดั ลอกหรือถา่ ยเอกสารดว้ ยความระมัดระวงั ๖) การใช้หนังสอื พิมพ์ เมื่ออา่ นจบแล้วให้จัดเรียงหน้าตามเดมิ และเกบ็ ใหเ้ รยี บร้อย ๔. การอา่ นทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ มีปจั จยั พน้ื ฐานอยา่ งไร ๑) ฝึกใชส้ ายตา โดยใชส้ ายตากวาดตามข้อความจากจุดหนึง่ ไปยงั อีกจุดหนง่ึ การกวาดสายตาจะช่วยใหอ้ ่าน หนงั สอื ไดร้ วดเร็ว ๒) ฝึกใชเ้ สียง การใช้เสยี งตอ้ งมีพลัง มนี ้ำหนัก มเี สยี งดังให้ได้ยนิ ท่ัวถึง ใชน้ ำ้ เสียงหนกั เบาเพื่อเน้นความสำคัญ ของขอ้ ความให้สอดคล้องกบั เน้อื เรื่อง ๓) ฝึกการใชอ้ ารมณ์ ตอ้ งสอดแทรกอารมณใ์ หเ้ หมาะสมกบั เนื้อเรือ่ งและเจตนาของผู้เขยี น ๔) ฝึกอ่านให้คล่องและถูกต้องตามอักขรวิธี โดยเฉพาะ ร ล คำควบกล้ำต้องออกเสยี งใหช้ ัดเจน ๕) ฝึกใช้อวัยวะในการออกเสียง เสียงเกดิ จากอวัยวะในช่องปากและลำคอ การฝึกฝนอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานได้ ถกู ต้อง จะทำให้เสียงทเ่ี ปล่งออกมาชดั เจนและถูกต้องตามอักขระ ๖) ฝกึ การวางบุคลกิ ภาพ ควรวางท่าทางใหส้ งา่ งามทั้งการนงั่ อ่านและการยืนอ่าน จับหนังสือให้ถูกตอ้ ง หา่ งจากสายตาประมาณ ๑ ฟตุ

แบบสังเกตพฤตกิ รรม การทำงานกล่มุ คำชแ้ี จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดบั ช่อื -สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟงั ความตง้ั ใจ การแก้ไข รวม ที่ ของผ้รู บั การประเมิน ความคิดเหน็ ความคิดเห็น ทำงาน ปัญหา/หรือ 20 รว่ มมอื กัน ปรับปรงุ ทำกิจกรรม คะแนน ผลงานกลมุ่ 4321 4321 432 14321 4321 ลงชอ่ื .................................................... ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครั้ง 18 - 20 ดมี าก แบบประเมนิ 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ คตณุ ่ากลว่ากั 1ษ0 ณะอนั พึงปปรบั รปะรงุสงค์

คำช้แี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ดา้ น 4321 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ รอ้ งเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของ เพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิและหนา้ ที่ของนักเรียน 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามร่วมมือ รว่ มใจ ในการทำงานกบั สมาชกิ ในโรงเรยี น 3. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรมทีส่ รา้ งความสามคั คี 5. อยูอ่ ย่างพอเพียง ปรองดอง และเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี นและชุมชน 1.5 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัตติ นตามหลักของศาสนา 1.6 เขา้ ร่วมกิจกรรมและมสี ว่ นร่วมในการจัดกจิ กรรมท่ีเกยี่ วกับสถาบัน พระมหากษตั รยิ ์ตามทีโ่ รงเรยี นและชุมชนจัดข้ึน 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏิบัติในสิง่ ท่ถี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ที่จะทำความผดิ ทำตามสัญญาที่ ตนให้ไว้กับเพ่ือน พอ่ แม่ หรือผู้ปกครอง และครู 2.3 ปฏิบัตติ ่อผู้อ่นื ด้วยความซ่ือตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางที่ไม่ถกู ต้อง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั และโรงเรยี น ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวนั และ รับผดิ ชอบในการทำงาน 4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรุปความรูไ้ ด้อยา่ งมเี หตุผล 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ ของตนเอง เช่น ส่ิงของ เคร่ืองใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอยา่ งประหยดั คุ้มคา่ และเกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัตติ นและตดั สนิ ใจด้วยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผู้อ่ืน และไมท่ ำใหผ้ ู้อ่นื เดือดรอ้ น พร้อมให้อภัยเมอ่ื ผู้อ่ืนกระทำ ผดิ พลาด

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ด้าน 4321 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชีวติ ประจำวนั บนพนื้ ฐานของ 6. มงุ่ มนั่ ในการ ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทำงาน 5.6 รูเ้ ท่าทนั การเปล่ยี นแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับและปรบั ตวั 7. รักความเปน็ ไทย อยูร่ ว่ มกบั ผูอ้ ่ืนได้อย่างมคี วามสขุ 8. มีจิตสาธารณะ 6.1 มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแทต้ อ่ อุปสรรคเพ่ือให้งานสำเร็จ 7.1 มีจติ สำนึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 ร้จู ักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ช่วยทำ และแบง่ ปนั ส่งิ ของให้ผู้อื่น 8.3 ดูแล รกั ษาทรพั ยส์ มบัตขิ องห้องเรียน โรงเรียน ชมุ ชน 8.4 เข้าร่วมกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ลงช่ือ .................................................... ผูป้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยครัง้ 191 - 108 ดมี าก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook