นิตยา สัมพทุ ธ 62120623104
คำนำ สำหรับหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพด้ำนสตั ว์เลม่ นีเ้ ป็นหนังสือที่มีเนือ้ หำเข้ำใจง่ำย ทำให้ สำมำรถศึกษำและเก็บข้ อมูลควำม หลำกหลำยทำงชีวภำพของสตั ว์ได้อย่ำงถูกต้องก่อนส่งให้ผู้เชี่ยวชำญตรวจสอบ จำแนกชนิดพนั ธ์ุ รวมทงั้ สำมำรถจำแนกสตั ว์ได้เบอื ้ งต้น “มำร่วมกนั เป็นเครือขำ่ ยควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพกนั ค่ะ” นิตยำ สมั พทุ ธ นกั ศกึ ษำปริญญำโทคณะครุศำสตร์ สำขำวทิ ยำศำสตร์ศกึ ษำ (ชีวภำพ)
สารบญั ทำควำมรูจ้ กั กบั สตั ว.์ .............................................................................................................................................................2 สตั วม์ กี ระดูกสนั หลงั ...................................................................................................................................3 สตั วจ์ ำพวกปลำ.................................................................................................................4 สตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก......................................................................................................7 สตั วเ์ ล้อื ยคลำน.................................................................................................................10 สตั วป์ ีก.............................................................................................................................12 สตั วเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยนำ้ นม.......................................................................................................15 สตั วไ์ ม่มีกระดูกสนั หลงั .................................................................................................................................20 ฟองนำ้ …………………………………………………………………………………………………………………..21 หนอนตวั เบน…………………………………………………………………………………………………………..23 ลำตวั เป็นปลอ้ ง………………………………………………………………………………………………………..24 หอยและหมกึ ………………………………………………………………………………………………………… 25 ลำตวั มโี พรง………………………………………………………………………………………………………… ..27 หนอนตวั กลม………………………………………………………………………………………………………… 30 มขี ำเป็นขอ้ ……………………………………………………………………………………………………………...31 ผวิ ขรขุ ระเป็นหนำม…………………………………………………………………………………………………..37 บรรณำนุกรม.............................................................................................................................................39
5 7 10 12 16 20
นกปี กลายสกอ็ ต Eurasian jay (Garrulus glandarius) เป็นนกขนาด กลางในวงศน์ กกา เสือโคร่ง Tiger (Panthera tigris) สตั วท์ ี่ มีขนาดใหญท่ ่ีสุดในตระกลู เสือ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 1
ความหมายของสัตว์ สตั ว์ คือ ส่ิงมีชีวติ กลุ่มหน่ึงสามารถ เคล่ือนท่ีได้ มีการตอบสนองต่อสิ่งแวดลอ้ ม และสืบพนั ธุ์ไดซ้ ่ึงแตกต่าง ไปจากพืชเนื่องจาก มีความรู้สึกและเคล่ือนไหวยา้ ยที่ไดเ้ อง ลักษณะเด่นคือเป็ นสิ่งมีชีวิตพวกท่ีมีเย่ือหุ้มนิวเคลียส ประกอบดว้ ยเซลล์หลายๆ เซลล์ ที่มีการแบ่งหน้าท่ีของแต่ ละเซลลเ์ พ่ือทาหน้าที่เฉพาะอยา่ งไม่มีคลอโรฟิ ลล์จึงสร้าง อาหารเองไม่ได้ ดารงชีวติ ไดห้ ลายลกั ษณะท้งั บนบก ในน้า และบางชนิดเป็ นปรสิต สามารถแบ่งสัตวอ์ อกเป็ น 2 กลุ่ม ใหญ่ ไดแ้ ก่ สัตวม์ ีกระดูกสันหลงั และสัตวไ์ ม่มีกระดูกสัน หลงั ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 2
สตั วม์ ีกระดูกสนั หลงั จะมีกระดูกสนั หลงั อยเู่ ป็น 3 แนวยาวไปตามดา้ นหลงั ของสตั ว์ กระดูกสนั หลงั จะต่อกนั เป็น ขอ้ ๆ ยดื หยนุ่ เคลื่อนไหวได้ มีหนา้ ที่ช่วยพยงุ ร่างกายใหเ้ ป็น รูปร่างทรวดทรงอยไู่ ดแ้ ละยงั ช่วยป้องกนั เสน้ ประสาทอีกดว้ ย นกั วทิ ยาศาสตร์ไดแ้ บ่งสตั วม์ ีกระดูกสนั หลงั ออกเป็น 5 พวก คือ • สตั วจ์ าพวกปลา • สตั วส์ ะเทินน้าสะเทินบก • สตั วเ์ ล้ือยคลาน • สตั วป์ ี ก • สตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยน้านม ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
สตั วจ์ าพวกปลา ปลากระดูกแข็ง เป็นสตั วท์ ่ีอาศยั อยใู่ นแหล่งน้า หายใจดว้ ยเหงือก ปลากระดูกแขง็ เป็นปลาส่วนใหญ่ และมีกระดูกสนั หลงั สามารถเคล่ือนไหวไปมาดว้ ยครีบและ ของโลกพบในปัจจุบนั ประมาณ กลา้ มเน้ือของลาตวั บางชนิดมีเกลด็ ปกคลุมทวั่ ตวั บางชนิด ไม่มีเกลด็ แต่ปกคลุมดว้ ยเมือกล่ืน หรือ แผน่ กระดูก มีหวั ใจ 21,000 ชนิด เช่นปลาทอง มา้ น้า สองหอ้ งและมีกระดูก ขากรรไกร ปลามีจานวนมากมาย หลากหลายสายพนั ธุ์ส่วนมากมีการผสมพนั ธุ์นอกร่างกาย ปลากระดกู อ่อน แต่บางชนิด มีการผสมพนั ธุภ์ ายในร่างกายของปลาตวั เมีย สามารถแบ่งกลุ่มไดเ้ ป็น กลุ่มใหญๆ่ ดงั น้ี ได้แก่ ปลำโรนนั ปลำฉนำก ปลำกระเบน และ ปลำฉลำม พบในปัจจบุ นั ประมำณ 400 ชนิด ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 4
ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ ม้ านา้ เป็นปลำกระดูกแข็งท่ี อำศัยอยู่ในทะเลจำพวกหน่ึง จัดอยู่ ในวงศ์ย่อย Hippocampinae เป็นปลำที่มีรูปร่ำงลกั ษณะแตกต่ำง ไปจำกปลำชนิดอ่ืน ๆ อย่ำงเห็นได้ ชัด กล่ำวคือ มีกระดูกหรือก้ ำงมำ ห่อห้มุ เป็นเกรำะอย่ภู ำยนอกตัวแทน เกล็ด ส่วนหำงแทนที่จะเป็ นครี บ สำหรับว่ำยนำ้ ไปมำอย่ำงปลำชนิด อื่ น ก ลั บ มี ห ำ ง ย ำ ว เ ห มื อ น สตั ว์เลือ้ ยคลำน มีไว้เพียงเพื่อเกี่ยว ยดึ ตวั เองกบั พืชนำ้ หรือปะกำรังในนำ้ 5
ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ ปลาฉลาม Shark เป็ นปลำกระ ดูกอ่ อนท่ี มี รูปร่ำงเรียวยำว กินเนือ้ เป็น อำหำร มีรูปร่ำงโดยรวม เพรี ยวยำว ส่วนใหญ่มีซ่ี กรองเหงือก 5 ซี่ ครีบทกุ ครีบ แหลมคม ครีบหำงเป็นแฉก เว้ำลึก มีจุดเด่นคือ ส่วนหัว และจะงอยปำกแหลมยำว ปำกเว้ ำคล้ ำยพระจันทร์ เสยี ้ วภำยในมีฟันแหลมคม 6
สัตว์สะเทนิ นาสะเทินบก อันดับกบ มีลกั ษณะเฉพาะคือ ผวิ หนงั มีต่อมเมือกทาใหผ้ วิ หนงั เขียดจิก Green paddy frog มกั อำศยั อย่ใู นแหลง่ นำ้ ชุ่มช้ืนตลอดเวลาหายใจดว้ ยเหงือก ปอด ผิวหนงั หรือผิวในปาก ที่มีกอพืชนำ้ ขนึ ้ หนำแนน่ ในลาคอ โดยช้นั ผิวหนงั น้นั มีลกั ษณะพิเศษสามารถแลกเปลี่ยน ออกซิเจนได้ เนื่องจากมีโครงข่ายหลอดเลือดฝอยจานวนมาก เพื่อใช้ ในการหายใจ สืบพนั ธุ์โดยการผสมพนั ธุ์ภายนอกลาตวั เมื่ออายุ 2 – 3 ปี ออกลูกเป็นไข่อยใู่ นน้า ไข่ไม่มีเปลือก วางไข่ เป็ นกลุ่มในน้าและมีสารเป็ นวุน้ หุ้ม สัตวส์ ะเทินน้าสะเทินบก แบ่งออกเป็ นสามอนั ดบั ไดแ้ ก่ อนั ดบั กบ อนั ดบั ซาลามานเดอร์ และอนั ดบั เขียดงู ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 7
อันดับกบ อันดับซาลามานเดอร์ อ่ึงปากขวด หรือ อึ่ง จิง้ จกนา้ เม็กซิโกอกโซลอเติล Axolotl มีลักษณะ ใกล้เคียงกับซำลำแมนเดอร์เสือ ซ่ึงอยู่ในวงศ์ และสกุล เพ้ำ พบในภูมิภำคอินโดจีน เดียวกนั แอกโซลอเติลเป็นซำลำแมนเดอร์ขนำดเลก็ ท่ีมีถิ่นที่ ในประเทศไทยจะพบเฉพำะ อย่เู มืองเม็กซิโก ประเทศเม็กซิโก จุดเด่นของแอกโซลอเติลก็ พื ้น ที่ ที่ อ ยู่ เ ห นื อ จั ง ห วั ด คือ มีพ่เู หงือกสแี ดงสดซง่ึ เป็นอวยั วะชว่ ยในกำรหำยใจ ประจวบคีรีขันธ์ขึน้ ไป โดยมี พฤติกรรมอำศยั โดยขุดโพรง 8 ดินท่ีเป็ นดินปนทรำยและ อำศัยอยู่ภำยในป่ ำท่ีมีควำม ชมุ่ ชืน้ ใกล้กบั พืน้ ที่ชมุ่ นำ้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
อนั ดบั เขียดงู 9 เขียดงู เป็นสตั ว์จำพวกคำงคกไมใ่ ช่งู เป็น สัตว์คร่ึงบกครึ่งนำ้ ชนิดหนึ่งมีลักษณะโดยรวมของ รูปร่ำง คือ ลำตัวเรียวยำวคล้ำยงูหรือปลำไหล มีทัง้ อำศยั อย่บู นบก ในโพรงดิน และในนำ้ หำงมีขนำดเล็ก มำกหรือไมม่ ีเลย สว่ นใหญ่ออกลกู เป็นตวั ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
สตั ว์เลอื ยคลาน เต่าเหลือง Elongated tortoise สตั ว์เลือ้ ยคลำน เป็นสตั ว์ท่ีสำมำรถดำรงชีวติ อย่บู นบกได้ ลกั ษณะภำยนอกคือ ผวิ หนงั แห้ง ลำตวั มีเกล็ดห้มุ สืบพนั ธ์แุ บบอำศยั เพศ มีกำรปฏสิ นธิภำยในออกลูกเป็นไข่ วำงไขบ่ น Indotestudo elongata บก ไข่มีจำนวนไมม่ ำกนกั ไข่มีขนำดใหญ่และมีเปลือกแข็งหรือเปลือกห้มุ มีขำ 4 ขำ ลกั ษณะเดน่ คือ มกี ระดองสเี หลอื งขอบดำและมจี ดุ แต้มสดี ำ สตั ว์เลือ้ ยคลำนจะอำศยั บนบก แต่บำงชนิดหำกินในนำ้ สตั ว์เลือ้ ยคลำน เป็นสตั ว์เลือดเย็น บนกระดอง อำศยั อยบู่ นบกเป็นสว่ นใหญ่ จะลงไปหำอำหำรในนำ้ เวลำพกั ผ่อนจะขนึ ้ มำ อย่บู นบกหรือริมนำ้ ยงั พบว่ำสตั ว์พวกนี ้มีอณุ หภมู ิร่ำงกำยเปลี่ยนแปลงไป 10 ตำมอณุ หภมู ขิ องส่งิ แวดล้อมเช่นเดียวกบั พวกปลำและสตั ว์ครึ่งนำ้ คร่ึงบก ได้แก่ จระเข้ เต่ำ ตะพำบ งู กิง้ ก่ำ จงิ ้ จก ลกั ษณะสำคญั มีผิวหนงั หนำ และแห้ง มกั มีเกลด็ แข็งปกคลมุ ร่ำงกำย หำยใจด้วยปอด มีขำ ปลำยนวิ ้ มีเลบ็ ชว่ ยจิกในกำรเคล่ือนท่ีและอำจมีกำรเปล่ียนแปลงลกั ษณะให้ เหมำะสมกบั กำรเคลื่อนท่ี เชน่ เปลี่ยนไปเป็นใบพำยสำหรับ วำ่ ยนำ้ เช่น เตำ่ ทะเล ในเตำ่ และตะพำบนำ้ เกลด็ จะเชื่อมติดต่อกนั เป็นแผ่นใหญ่เรียกว่ำ \" กระดอง \" บำงชนดิ ไม่มีขำจงึ เคล่ือน ท่ีโดยกำรใช้วธิ ีกำรเลือ้ ย เช่น งู ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
งู เป็นสตั ว์เลือ้ ยคลำนอนั ดบั หนงึ่ ไม่มีขำ ไม่มีเปลือกตำ มีเกล็ด ปกคลมุ ผวิ หนงั ทว่ั ทงั้ ลำตวั ลกั ษณะลำตวั ยำว จระเข้นา้ จดื (Crocodylus siamensis) เป็น 11 สตั ว์เลือ้ ยคลำน ขนำดใหญ่ อำศยั อยู่ ตำมแหล่งนำ้ จืดท่ียงั อดุ ม สมบรู ณ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
สัตว์ปกี 12 สตั วป์ ี ก เป็นสตั วท์ ่ีมีลกั ษณะแตกต่างจากสตั วม์ ีกระดูกสนั หลงั ชนิด อื่นๆ โดยมีลกั ษณะภายนอกคือ มีขาคู่หนา้ พฒั นาเป็นปี ก เพ่ือใชส้ าหรับบิน มีขา 2 ขา มีเกลด็ ท่ีขาและนิ้วเทา้ มีปี ก 2 ปี ก มีขนเป็นแผงแบบขนนก ขนปกคลุมทว่ั ท้งั ลาตวั สตั วป์ ี กหายใจดว้ ยปอด สืบพนั ธุแ์ บบอาศยั เพศ มีการปฏิสนธิภายใน โดย ออกลูกเป็นไข่ วางไข่บนบก ไข่มีจานวนไม่มากนกั ไข่มีเปลือกแขง็ หุม้ สตั วป์ ี กไม่ มีฟัน แต่จะมีจะงอยปากแขง็ แรง มีรูปแบบแตกต่างกนั สตั วป์ ี ก เป็นสตั วเ์ ลือดอุ่น มีอุณหภูมิของร่างกายคงที่ไม่เปลี่ยนไปตามสภาพแวดลอ้ ม เป็นสตั วท์ ่ีมีการ ววิ ฒั นาการมาจากสตั วเ์ ล้ือยคลานแต่เนื่องจากขาหนา้ ของสตั วป์ ี กเปล่ียนแปลงไป เป็นปี ก เพอ่ื ช่วยใน การบิน จึงเรียกสตั วก์ ลุ่มน้ีวา่ สตั วป์ ี ก ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
นกแต้วแร้ วท้องดา เป็นหนงึ่ ในนกแต้วแร้ว 12 ชนิดที่พบได้ในประเทศไทย รูปร่ำงอ้วนป้อม คอสนั้ หวั โต หำงสัน้ ลำตวั ยำว 22 เซนตเิ มตร ตวั ผ้หู วั มีสีดำ กระหม่อมและท้ำยทอยสีนำ้ เงินเหลือบฟำ้ หำงสีนำ้ เงินอมเขียว ท้องสีเหลืองสดมีริว้ สีดำบำง ๆ พำดสลับตลอดช่วงท้อง ใต้ท้องมี แต้มสีดำ อนั เป็นท่ีมำของช่ือ ตวั เมียกระหม่อมสีเหลืองอ่อน มีแถบดำผ่ำนใต้ตำ ลงไปถึงแก้ม ท้องสีขำว มีแถบสีนำ้ ตำลขวำงจำกอกลงไปถงึ ก้น นกนางนวล เป็นนกทะเลวงศ์หนงึ่ ในอนั ดบั นกชำยเลนและนก 13 นำงนวล (Charadriiformes) ใช้ชื่อวงศ์ว่ำ Laridae เป็นนกที่มีขนำดปำน กลำงจนถงึ ขนำดใหญ่ มีลกั ษณะทวั่ ไป คือ มีขนสีเทำหรือขำว บำงชนดิ มีสีดำแต้มท่ี หวั หรือปีก มีปำกหนำยำว และเท้ำเป็นผงั พดื เป็นนกที่มีพฤตกิ รรมอยู่รวมกนั เป็นฝงู ใหญ่ หำกินตำมชำยฝ่ังทะเล และบำงชนดิ เข้ำมำหำกินในแหลง่ นำ้ จืดบ้ำง ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
นกยงู เป็นนกจำพวกไก่ฟำ้ ขนำดใหญ่ท่ีสดุ ในวงศ์เดยี วกนั นี ้มจี ดุ เด่นคือ เพศผ้มู ีขนหำง เพนกวนิ เป็นนกที่อยใู่ นวงศ์ Spheniscidae มีถิ่นอำศยั อยบู่ ริเวณซีกโลกทำงใต้ ยำวท่ีมีสสี นั สวยงำม ท่ีเมื่อแผ่ขยำยออกเพื่ออวดเพศเมียจะมีควำมสวยงำมเป็นอย่ำงยง่ิ ที่ หรือขัว้ โลกใต้ เป็นนกที่บินไม่ได้ เน่ืองจำกมีโมเลกุลกระดูกที่หนำแน่นผิดจำกนกทั่วไป มี เรียกวำ่ \"รำแพน\" ลกั ษณะเด่นคือ มีขนสีดำท่ีด้ำนหลงั และขนสีขำวท่ีด้ำนหน้ำท้อง ซ่ึงช่วยปอ้ งกนั เพนกวินจำก สตั ว์นกั ลำ่ ตำ่ ง ๆ เวลำวำ่ ยนำ้ ปีกของเพนกวนิ มีลกั ษณะคล้ำยครีบปลำ ชว่ ยในกำรวำ่ ยนำ้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 14
สัตว์เลยี งลูกดว้ ยนานม 15 สตั ว์เลีย้ งลูกด้วยนำ้ นม เป็นสตั ว์ประเภทมีกระดูก สนั หลงั ลกั ษณะภำยนอกคือ ผิวหนงั เรียบ มีขนเป็นเส้นแบบเส้น ผมปกคลุมทัง้ ลำตัว มีแขนและขำไม่เกิน 2 คู่ สัตว์เลีย้ งลูกด้วย นำ้ นมส่วนใหญ่สืบพันธ์ุแบบอำศัยเพศ มีกำรปฏิสนธิภำยใน ออกลกู เป็นตวั ตวั เมียมีต่อมสร้ ำงนำ้ นมสำหรับเลีย้ งลูกอ่อน จึง เรียกว่ำสตั ว์เลยี ้ งลกู ด้วยนำ้ นม สัตว์พวกนี ้ เป็นสัตว์เลือดอุ่น สำมำรถควบคุม อณุ หภมู ใิ ห้คงที่ได้ แม้จะอย่ใู นสภำพแวดล้อมท่ีอุณภมู ิสงู หรือต่ำ กว่ำอุณหภูมิร่ำงกำย เป็นสัตว์ที่มีกำรวิวัฒนำกำรสูงสุด เรำ สำมำรถแบ่งสตั ว์เลีย้ งลกู ด้วยนำ้ นมตำมลกั ษณะของกำรออกลกู และเลยี ้ งลกู ได้ 3 กลมุ่ คือ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
กล่มุ ทอ่ี อกลูกเป็ นไข่ พวกนีจ้ ะวำงไขเ่ หมือนสตั ว์ปีกและสตั ว์เลือ้ ยคลำน โดยมีเปลือกแข็งห้มุ พบวำ่ มี เพยี ง 2 ชนิดเทำ่ นนั้ คือ ตนุ่ ปำกเป็ด และตวั กินมดหนำม ซงึ่ เป็นสตั ว์พบเฉพำะออสเตรเลีย และ นวิ กินีเทำ่ นนั้ ภำยหลงั ตวั อ่อนออกจำกไข่ แล้วกินนมจำกแมเ่ พ่อื เจริญเติบโตต่อไป ตุ่นปากเป็ ด มีลกั ษณะคล้ำยของสตั ว์ปีกผสมกบั ของสตั ว์เลือ้ ยคลำน มำกกว่ำ ของสัตว์เลีย้ งลูกด้ วยนำ้ นม คือมีทัง้ เชือ้ พันธ์สำหรับกำรวำงไข่แบบที่สื บทอดมำจำก สัตว์เลือ้ ยคลำน และมีเชือ้ พนั ธ์ของกำรมีพิษคล้ำยพิษงู แต่ก็มีเชือ้ พนั ธ์สำหรับกำรสร้ำงนำ้ นม สำหรับลกู ออ่ นด้วย ตัวชะมด มีรูปร่ำงโดยรวม คือ ใบหน้ำแหลม รูปร่ำงเพรียว ตวั มสี ีเทำหรือ 16 นำ้ ตำล มลี ำยจดุ สีดำตำมยำวทว่ั ตวั หำงและขนหำงยำวมีลำยเป็นปล้อง สำมำรถยืดหดเล็บได้ เหมือนแมว มกั ออกหำกินในเวลำกลำงคืน เป็นสตั ว์ท่ีกินอำหำรได้หลำกหลำยทงั้ พชื และสตั ว์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
กล่มุ ทม่ี ถี ุงหรือกระเป๋ ำบริเวณหน้ำท้อง กลุ่มที่มีถงุ หรือกระเป๋ ำบริเวณหน้ำท้อง พวกนีจ้ ะมีถุงบริเวณ หน้ำ ท้องไว้สำหรับเลีย้ งดูตัวอ่อนซ่ึงมีขนำดเล็กมำกเพรำะมดลูกของสัตว์กลุ่มยังไม่ พฒั นำดีนัก จึงให้ลกู เจริญเติบโต ภำยในมดลูกได้เพียงระยะสนั้ ๆ แล้ วต้องให้ตัว ออ่ นมำเจริญอย่ภู ำยในถงุ บริเวณหน้ำท้อง ได้แก่ จิงโจ้หมีโคอะลำ่ และวลั ลำบี ( คล้ำยจิงโจ้แต่มีขนำดเล็กกวำ่ ) ซงึ่ พบเฉพำะในประเทศออสเตรเลียเท่ำนนั้ โคอาลา เป็นสตั ว์เลีย้ งลกู ด้วยนมมีกระเป๋ ำหน้ำท้อง จิงโจ้ จัดอยู่ในไฟลมั สัตว์มีแกนสันหลงั ชัน้ สตั ว์เลีย้ ง จำพวกพอสซัม (ไม่ใช่หมี) ตัวเมียจะมีกระเป๋ ำหน้ ำท้ อง ลูกด้วยนมประเภทสัตว์มีกระเป๋ ำหน้ำท้องในตัวเมียสำหรับ สำหรับให้ลกู ออ่ นอำศยั อยู่ จำกกำรท่ีมีลกั ษณะรูปร่ำงหน้ำตำ แพร่ขยำยพนั ธ์ุและเป็นท่ีอย่อู ำศยั ของลกู อ่อน นับเป็นสตั ว์ใน คล้ำยสตั ว์ในตระกูลหมี ทำให้ส่วนใหญ่นิยมว่ำ \"หมีโคอำลำ\" ประเภทนีท้ ่ีมีขนำดใหญ่ และเป็นสัตว์ประจำท้องถิ่นของ หรือ \"หมตี ้นไม้ ออสเตรเลีย ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 17
กลุ่มท่มี ที ำรก ช้าง เป็นสตั ว์เลยี ้ งลกู ด้วยนำ้ นม ในวงศ์ Elephantidae ปัจจบุ นั กลุ่มท่ีมีทำรก พวกนีจ้ ะมีมดลูกท่ี รับรองว่ำมอี ยู่ 3 สปีชีส์ คือ ช้ำงแอฟริกำ ช้ำงป่ำแอฟริกำ และช้ำงเอเชีย ลกั ษณะ พฒั นำดี โดยมีกำรสร้ำงรกเช่ือมระหว่ำงถงุ ห้มุ เด่นของช้ำงทุกชนิดได้แก่ งวงยำว หูกำงขนำดใหญ่ ขำใหญ่ และผิวหนังที่หนำ ตัวอ่อนกับผนังมดลูกของแม่ ใช้ สำหรั บ แตล่ ะเอียดออ่ น งวงใช้สำหรับกำรหำยใจ หยิบจบั อำหำรและนำ้ เข้ำปำ และคว้ำ แลกเปล่ียนสำรต่ำง ๆ ระหว่ำงแม่กับตัวอ่อน วัตถุ งำซึ่งดัดแปลงมำจำกฟันตัด ใช้ เป็ นทัง้ อำวุธและเครื่องมือสำ หรับ รวมทงั้ อำหำรต่ำง ๆ จำกแมก่ ็จะถกู สง่ ไปยงั ตวั เคล่ือนย้ำยวตั ถแุ ละขดุ ดิน ออ่ น เพื่อให้เจริญเติบโตภำยในมดลกู โดยผ่ำน ทำงรก ตวั ออ่ นจะเจริญอยภู่ ำยในมดลกู ของแม่ 18 จนสมบูรณ์เต็มท่ี จึงคลอดออกมำและดูดกิน นมจำกแม่อีกระยะหนึ่งจนโตพอท่ีจะดำรงชีวิต ได้เอง ได้แก่ คน ช้ำง ม้ำ ววั ควำย สนุ ัข แมว หมู เสอื สิงโต หมี ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ตวั อย่ำงสัตว์เลยี้ งลูกด้วยนำ้ นม แมวนำ้ พะยูน สุนัข 19 คน ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
สตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลงั เป็นสัตว์ท่ีไม่มีโครงกระดูกภำยใน ลำตวั มกั จะมีขนำดเลก็ ถ้ำมีขำจะมีจำนวนขำมำก และมีกำรเคลื่อนที่ แตกต่ำงกนั นกั วิทยำศำสตร์พบว่ำพวกแมลง เป็นสตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั กลมุ่ ใหญ่ที่สดุ ซงึ่ อำศยั อยบู่ นบกมำกกวำ่ อำศยั อย่ใู นนำ้ ปัจจบุ นั มีกำรรวมกล่มุ สตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั ที่มีลกั ษณะคล้ ำยคลึงกัน เป็น พวกๆ ดงั นี ้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 20
ฟองนำ้ พวกฟองนำ้ มีลกั ษณะลำตวั เป็นโพรง มีรูพรุน ทำให้นำ้ และอำหำรสำมำรถไหลผ่ำนเข้ำไปในโพรงลำตวั เพ่ือดดู ซมึ ก๊ำซออกซเิ จนและอำหำร แล้วปลอ่ ยนำ้ และกำก อำหำรออกทำงช่องนำ้ ออก ฟองนำ้ ทกุ ชนิดอำศยั อยู่ในนำ้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเลมำกกว่ำนำ้ จืด โดยจะเกำะติดกับ หินใต้ท้องทะเล ไมเ่ คล่ือนท่ี ดมู ีลกั ษณะคล้ำยพืช ไม่มีหวั ไม่มีปำก และไม่มีทำงเดินอำหำร ฟองนำ้ แต่ละชนิด มีสี และขนำดแตกตำ่ งกนั กำรสบื พนั ธ์ุ โดยใช้วิธีกำรแตกหน่อ ฟองนำ้ บำงชนิดนำมำใช้ประโยชน์ในกำรถตู วั เวลำอำบนำ้ จงึ เรียกวำ่ ฟองนำ้ ถตู วั ฟองนำ้ ทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 21
ฟองนำ้ จืด 22 ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
หนอนตวั แบน พลานาเรีย พวกหนอนตวั แบน สตั ว์กลมุ่ นีม้ ีรูปร่ำงคล้ำยตวั หนอน แตม่ ีลกั ษณะลำตวั แบน บำง 23 ชนิดมีปำกและทวำรหนกั เป็นชอ่ งเปิดเดียวกนั เชน่ พลำนำเรีย บำงชนิดดดู กินเลือดสตั ว์อ่ืนท่ี มนั เข้ำไปอำศยั อย่เู ป็นอำหำร เช่น พยำธิใบไม้ และพยำธิตวั ตืดจงึ เรียกวำ่ พวกนีว้ ่ำ ปรสติ กำรสืบพนั ธ์ุ ของสตั ว์พวกนีม้ ีทงั้ แบบอำศยั เพศ และแบบไม่อำศยั เพศ บำงชนิดมีสองเพศในตวั เดยี วกนั เชน่ พยำธิบำงชนิด ผสมพนั ธ์กุ นั เองในตวั แล้ว ปลอ่ ยไข่ออกมำ เช่น พยำธิตวั ตืด บำงชนิดใช้วธิ ีกำรงอกใหม่ ซง่ึ จะแบง่ ร่ำงกำยเป็น 2 สว่ น แล้วเจริญกลำยเป็นตวั ใหม่ เช่น พลำนำเรีย พยำธิใบไม้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ลำตวั เป็ นปล้อง พวกลำตวั เป็นปล้อง สตั ว์พวกนีจ้ ะมลี ำตวั กลมยำวเหมือนพยำธิ ตวั กลม แต่จะมีลกั ษณะเป็นปล้องๆ เหมือนวงแหวนหลำยๆ อนั เรียงซ้อนกนั มี ผิวหนงั เปียกชืน้ ช่วยแลกเปล่ียนแก๊สในกำรหำยใจ ส่วนใหญ่ หำกินอิสระ และ อำศยั ในทะเล เช่น แม่เพรียง บำงชนิดอำศัยในนำ้ จืด เช่น ตัวสงกรำนต์ (ตัว ร้อยขำ) บำงชนิดเป็น ปรสติ ดดู เลือดสตั ว์อื่นเป็นอำหำร เช่น ปลิงนำ้ จืด ปลิง บก(ทำก) บำงชดิ อำศยั อย่ใู นดิน เชน่ ไส้เดือดิน กำรสบื พนั ธ์ุ สตั ว์พวกนี ้มีทงั ้ 2 เพศอยใู่ นตวั เดียวกนั และแยกเพศคนละตวั จะอำศยั เพศในกำรสืบพนั ธ์ุ ไส้ เดือนดนิ ปลงิ นำ้ จืด 24 ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
หอยและหมกึ หมกึ พวกหอยและหมึกทะเลสัตว์จำพวกนี ้ จะมี หอยทำก ลกั ษณะลำตวั ออ่ นน่ิม บำงชนิดมีเปลือกแข็งซึ่งเป็นสำรพวก หินปูนหุ้มลำตัว เช่น หอยต่ำงๆ ใช้กล้ำมเนือ้ ท้องในกำร 25 เคลื่อนท่ี บำงชนิดจะไม่มีเปลือกแข็งหุ้มลำตัว แต่มีเนือ้ ลำตวั เหนียวมำก เช่นปลำหมึกธรรมดำ และปลำหมึกยักษ์ ใช้หนวดโบกพดั เพื่อว่ำยนำ้ เคล่ือนที่ไป ส่วนใหญ่จะอำศยั อยใู่ นนำ้ หำยใจด้วยเหงือกบำงชนิดอำศยั อย่บู นบก หำยใจ ด้วยปอด เชน่ หอยทำก กำรสบื พนั ธ์ุ แบบอำศยั เพศ มีเพศแยกกนั คนละ ตวั สว่ นใหญ่มีกำรปฏิสนธิภำยใน แต่บำงชนิดมีกำรปฏิสนธิ ภำยนอก โดยกำรปลอ่ ยเซลล์สบื พนั ธ์อุ อกไปผสมกนั ในนำ้ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
หอย เป็นช่ือสำมญั ในภำษำไทย 26 ของสตั ว์ไมม่ ีกระดกู สนั หลงั ในไฟลมั มอลลสั กำ (Mollusca) อำศยั อยู่ ได้ทงั้ บนบกและในนำ้ มีจดุ เด่น คือ มี เปลือกที่เป็นแคลเซียมแข็ง ใช้ห่อห้มุ ลำตวั ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ลำตวั เป็ นโพรง ปะกำรัง 27 พวกสัตว์ลำตัวมีโพรงหรือลำตัวกลวงสัตว์พวกนี ้ สัตว์พวกนีจ้ ะมีช่องกลวงภำยในลำตัวโดยมีลักษณะ เป็นช่องเปิดปลำยตนั ช่องนีจ้ ะทำหน้ำที่เป็นทงั้ ปำกและ ทวำรหนัก คือให้ นำ้ และอำกำศเข้ ำมำภำยในช่อง หลังจำกแลกเปล่ียนก๊ ำซและกินอำหำรแล้ วจะดันนำ้ และของเสียผำ่ นทำงช่องปิดนี ้ออกสภู่ ำยนอก สตั ว์พวกนีท้ ุกชนิดอำศัยอยู่ในนำ้ บำงชนิดอำศัย อย่ใู นนำ้ จืด เช่น ไฮดรำ บริเวณหนวดของสตั ว์ พวกนีจ้ ะ มีเข็มพิษไว้ฆ่ำเหย่ือก่อนท่ีจะเหยื่อเข้ำช่องปำก บำง ชนิดมีหนวดจำนวนมำก เช่น แมงกะพรุ น และ ดอกไม้ทะเล บำงพวกมีเปลือกแข็งหุ้มเป็นหินปูน เช่น ปะกำรัง บำงพวกมีก่ิงก้ำนเหมือนต้นไม้ เช่น กัลปังหำ เป็นต้น กำรสืบพนั ธ์ุ สตั ว์กล่มุ นี ้บำงชนิดจะสืบพนั ธ์ุ แบบ ไม่อำศัยเพศ โดยกำรแตกหน่อ เช่น ไฮดรำ ปะกำรัง และกัลปังหำ บำงชนิดสืบพันธ์ุแบบอำศัยเพศ เช่น แมงกะพรุน ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ดอกไม้ทะเล ดอกไม้ทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ อันดับ Actiniaria อำศัยอยู่ภำยใต้ท้ อง ทะเลและมหำสมุทร ลกั ษณะของลำตัวท่ีมี รู ปร่ ำงค ล้ ำยถุงรู ป ทรงกระบอก มีด้ ำน หน่ึงเป็ นฐำนสำหรั บ ยืด ด้ำนตรงข้ำมเป็ น ช่ อ ง ป ำ ก ( รู เ ปิ ด ) บ ริ เ ว ณ ช่ อ ง ป ำ ก มี อวัยวะท่ีมีลักษณ ะ คล้ ำยกับหนวด อยู่ รอบๆ และจะมีสีสนั ที่ แตกต่ำงกนั เช่น สีแดง สีเขียว สีส้ ม สีชมพู เป็นต้น 28
แมงกะพรุน เป็นสตั ว์ท่ีมีลำตวั โปร่งใส 29 ร่ำงกำยประกอบด้วยเจลำตนิ เป็นส่วนใหญ่ สำมำรถมองเหน็ เข้ำ ไปได้ถึงอวยั วะภำยใน เป็นสตั ว์ท่ีไม่ มีทงั้ สมองหรือหวั ใจ ลำตวั ด้ำนบน ของแมงกะพรุนมีลกั ษณะคล้ำยร่ม เรียกวำ่ \"เมดซู ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
หนอนตัวกลม พยำธิเส้ นด้ำย พยำธิไส้ เดือน พวกหนอนตวั กลมสตั ว์พวกนีจ้ ะมีลกั ษณะลำตวั พยาธิตัวจีด๊ กลมยำวเหมือนเชือก หัวท้ำยค่อนข้ำงแหลม ลำตัวไม่เป็น 30 ปล้อง เป็นพวกท่ีเรียกว่ำ ปรสิตทัง้ ในพืชและในสัตว์ เช่น ไส้เดือนฝอย พยำธิไส้เดือน พยำธิปำกขอ พยำธิเส้นด้ำย พยำธิ ตวั จ๊ีด ตวั ผ้กู บั ตวั เมียแยกกนั ตวั เมียจะโตกว่ำตวั ผู้ ตวั เมียหำง เหยียด ตวั ผ้หู ำงจะงอเลก็ น้อย กำรสืบพนั ธ์ุ ของสตั ว์กล่มุ จะเป็นแบบอำศยั เพศ มีเพศแยกกันคนละตวั เมื่อจับคู่ผสมพันธ์ุกัน ไข่ของตัวเมียท่ี ถกู ผสมแล้วจะถกู ปลอ่ ยออกมำภำยนอกร่ำงกำยของสตั ว์ท่ีมนั เข้ำไปอำศัยอยู่ โดยออกมำกับอุจจำระ เม่ือมีอำกำศและ ควำมชืน้ ท่ีเหมำะสมจึงฟักเป็นตัวอ่อน แล้วตัวอ่อนไซเข้ำสู่ ร่ำงกำยสัตว์อื่นทำงซอกเท้ำไปตำมเส้นโลหิต ได้แก่ พยำธิ ตวั ตืด พยำธิปำกขอ พยำธิไส้เดือน พยำธิเส้นด้ำย ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
มขี ำเป็ นข้อ 31 พวกมีขำเป็นข้อ สัตว์พวกนีจ้ ะมีขำเป็นข้อๆ ต่อกัน ทุกชนิดมีเปลือกแข็งหุ้มลำตัวด้ำนนอกแบ่งเป็นปล้ องๆ ซ่ึงจะช่วยป้องกัน อนั ตรำย และทำให้ร่ำงกำยคงรูปอย่ไู ด้ เม่ือร่ำงกำยภำยในเจริญเติบโตจะดนั เปลือกให้แตกออก แล้วสร้ำงเปลือกใหม่ เรำเรีย กว่ำ ลอกครำบ ระหว่ำงลอกครำบ นำ้ หนกั จะเพมิ่ ขนึ ้ เรื่อย ๆ แต่ขนำดจะคงที่ จะพบสตั ว์พวกนีท้ งั้ บนบก ในนำ้ จืด และในนำ้ เค็ม เนื่องจำกสตั ว์พวกนีไ้ ม่มีกระดกู สนั หลงั และมีจำนวนมำกนกั วทิ ยำศำสตร์ ได้แบง่ ออกเป็นกลมุ่ ยอ่ ย ได้ดงั นี ้ 1. พวกแมลง เป็นสตั ว์ท่ีมีมำกท่ีสดุ กว่ำกล่มุ อ่ืน ลำตวั แบ่งออกเป็นส่วนหวั อก และท้อง มีขำ 3 คู่ ที่บริเวณอกส่วนใหญ่มีปีกช่วยในกำรบิน 1-2 คู่ แมลงจะเปล่ียนแปลงรูปร่ำงกำรเจริญเติบโต โดยกำรลอกครำบ 2. พวกแมงมมุ สตั ว์กลมุ่ นีส้ ่วนใหญ่อำศยั อย่บู นบก มีขำ 4 คู่ เชน่ แมงมมุ บงึ ้ แมงป่อง 3. พวกตะขำบ สตั ว์พวกนีจ้ ะมีลำตวั เรียวยำว และแบนเล็กน้อยลำตวั แบ่งเป็นปล้องๆ แต่ละปล้องจะมีขำ 1 คู่ เช่น ตะขำบ ซงึ่ มีเขีย้ วพิษที่ บริเวณปำกไว้ปอ้ งกนั ตวั และฆ่ำเหยื่อ 4. กิง้ กือ สตั ว์พวกนีม้ ีลำตวั เป็นทรงกระบอก และ แบ่งเป็นปล้อง ๆ แต่ละปล้องมีขำ 2 คู่ เช่น กิง้ กือ แม้จะมีขำมำกแต่เดินได้อย่ำงเช่ืองช้ำ เมื่อมีส่งิ ใดมำกระทบจะม้วนลำตวั เป็นวงกลม 5. พวกก้งุ และปู สตั ว์พวกนีจ้ ะอำศยั อย่ใู นนำ้ เป็นส่วนใหญ่ จะพบทงั้ ในนำ้ จืดและนำ้ เค็ม เช่น ปู ก้งุ กงั้ และไรนำ้ กำรสืบพนั ธ์ุมีกำรสืบพันธ์ุ แบบอำศยั เพศ มีเพศแยกกนั คนละตวั ส่วนใหญ่มีกำรปฏสิ นธิภำยใน มีกำรวำงไข่ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ผี เ สื้อ เ ป็ น แ ม ล ง ทุ ก ช นิ ด ใ น อั น ดั บ เ ล พิ ด อ ป เ ท ร ำ ต๊ักแตน (องั กฤษ: Grasshopper) (Lepidoptera) มีวงชีวิตเริ่มแรกตงั้ แต่ระยะไข่ ระยะหนอน จดั อย่ใู นไฟลมั อำร์โธรพอด ระยะดกั แด้ ตรำบจนระยะกำรเปล่ียนสณั ฐำนเข้ำส่รู ะยะกำรโต เต็มวยั ที่มีปีกหลำกสีต้องตำผ้คู น ในทำงกีฏวิทยำกำรจดั จำแนก แมลงกลมุ่ นีจ้ ะใช้เส้นปีกในกำรจดั จำแนก แมงมุม จดั เป็นส่ิงมีชีวติ พวกสตั ว์ ขำปล้อง หรืออำร์โธพอด เชน่ จดั อยู่ ในอนั ดบั Araneae ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ 32
กิง้ งกือ มีเปลือกตวั แข็ง ลำตวั ยำวแบ่งเป็นปล้อง ไม่แบ่งอก หรือท้องให้เห็น ปล้องตำมลำตวั จบั กนั เป็นค่ตู ำมยำวยืดหดเข้ำหำ กนั ได้ ทำให้สำมำรถขดตวั เป็นวงกลมได้เม่ือถูกรบกวน ปล้องแต่ ละคู่จะมีขำสองคู่ ยกเว้นปล้องแรกไม่มีขำ ปล้องที่สองถึงส่ีมีขำ เพียงค่เู ดียว จำนวนขำอำจมีได้ถึงสองร้อยสี่สิบคู่ ชนิดตวั โตที่พบ บ่อย ๆ อยู่ในสกุล Graphidostreptus ส่วนตัวขนำด ย่อมอยู่ในสกุล Cylindroiulus ทัง้ สองสกุลอยู่ในวงศ์ Julidae ตะขาบ อย่ใู นชนั้ Chilopoda จดั อย่ใู นไฟลมั อำร์โธรพอด เป็นสตั ว์ขำข้อที่พบ 33 ได้ในเขตร้อนชืน้ อำศยั อย่บู นบก มีหลำยขนำด สว่ นใหญ่ควำมยำวของลำตวั ตงั้ แต่ 3-8 เซนติเมตร ลำตวั แบนรำบ มีปล้อง 15-100 ปล้อง แต่ละปล้องมีขำ 1 คู่ ส่วนหวั แยกจำกลำตวั ชดั เจน มีหนวด 1 คู่ และเขีย้ วพษิ 1 คู่ ซงึ่ ดดั แปลงมำจำกปล้องแรก ของลำตวั เขีย้ วพษิ เชื่อมตอ่ กบั ตอ่ มพษิ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
กุ้ง จดั อย่ใู นชนั้ Crustacea อนั ดบั Decapoda มีด้วยกัน หลำยวงศ์ กุ้งเป็นสัตว์นำ้ หำยใจด้วยเหงือก ลำตัวยำว แบน หรือกลม แบ่งเป็นปล้อง ๆ เปลือกที่หุ้มท่อนหัวและอกคลุม มำถึงอกปล้องที่ 8 สว่ นใหญ่กรีมีลกั ษณะแบนข้ำง ก้ำมและขำ อยทู่ ่ีสว่ นหวั และอก มี 10 ขำ ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ ปทู ะเล (ช่ือวิทยำศำสตร์: Scylla serrata) เป็นปชู นิดหน่ึงท่ี อำศัยอย่ใู นทะเล มีกระดองกลมรีเป็นรูปไข่ สีดำปนแดงหรือสี นำ้ ตำลเข้ม เป็นสตั ว์เศรษฐกิจท่ีนิยมนำมำปรุงสดเป็นอำหำร 34
ผวิ ขรุขระเป็ นหนำม เม่นทะเล หรือ หอยเม่น สตั ว์ที่มีทรงกลม (globular animal) และมกั มี พวกมีผิวขรุขระเป็ นหนำมสัตว์พวกนี ้ หนำม เป็นเอไคโนเดิร์ม อยใู่ นชนั้ เอไคนอยเดีย ( Echinoidea) สตั ว์ในชนั้ เอไค ตำมผิวหนงั จะมีลกั ษณะเป็นป่ มุ ปมขรุขระ บำงชนิด นอยเดีย เรียกว่ำ เอไคนอยด์ echinoids มีรำว 950 สปีชีส์อำศยั อย่ตู ำมพืน้ เป็นหนำม บำงชนิดมีเปลือกหุ้มลำตัวรูปทรงกลม ทะเล หรือกลมแบน เชน่ ปลำดำว หอยเมน่ 35 กำรสืบพันธ์ุ สตั ว์พวกนีม้ ีกำรสืบพันธ์ุได้ทัง้ 2 แบบ คือ แบบอำศยั เพศ โดยกำรปฏิสนธิภำยนอก ตวั เมียจะมีกำรผลิตไข่ครัง้ ละมำก เพ่ือให้มีโอกำสอยู่ รอดได้มำก ส่วนกำรสืบพนั ธ์ุแบบไม่อำศยั เพศ จะใช้ วธิ ีกำรงอกใหม่ ซงึ่ จะพบในพวกปลำดำวทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์
ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ แตงกวาทะเล หรือ ปลิงทะเล (Sea cucumber) เป็นสตั ว์ไมม่ ีกระดูก สนั หลัง ไม่เป็นอันตรำยต่อคน สำมำรถ บริโภคได้ มนั มีรูปร่ำงคล้ำยไส้กรอกและ มีหนำมแหลมท่ียืดหยุ่นได้ ตำมลำตัว แล ะ จัด อ ยู่ใน ต ระ กูล เ ดี ย วกับ พ วก ด ำ ว ทะเล และหอยเม่น อำหำรท่ีกินคือ อินทรียวตั ถทุ ี่อย่ตู ำมพืน้ ของทะเล มนั จะ ดูดทรำยหรือโคลนเข้ำไป แล้วย่อยพวก อินทรีย์วัตถุเหล่ำนัน้ แล้วขับถ่ำยโคลน หรือทรำยท่ียอ่ ยไมไ่ ด้ออกมำ 36
ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ อีแปะทะเล (Sand Dollars) เป็นสตั ว์ ทะเลจำพวกหน่ึงมีรูปร่ำงหน้ ำตำ คล้ำยกบั เหรียญขนำดใหญ่ บ้ำงก็ เรียกว่ำเหรียญทะเล อำศัยอยู่ ตำมชำยหำดหรือฝังในหลมุ ทรำย มีชีวิตอยู่ได้ ในท้ องทะเลลึกถึง 3,000 เมตร 37
ความหลากหลายทางชีวภาพ ด้านสัตว์ ดาวทะเล หรือ ปลาดาว อยู่ใ นชัน้ Asteroide ลักษณะ ทว่ั ไป มีลำตวั แยกเป็นห้ำแฉกคล้ำยรูป ดำวเรียกว่ำ แขน ส่วนกลำง มีลกั ษณะ เป็ นจำนกลม ด้ ำนหลังมีตุ่มหินปูน ขนำดเล็กกระจำยอยู่ทั่วไป มีปำกอยู่ ด้ำนล่ำงบริเวณ จดุ กึ่งกลำงของ ลำตวั ใต้แขนแต่ละข้ำงมีหนวดสัน้ ๆ เรียง ตำมส่วนยำว ของแขนเป็ นคู่ ๆ มี ลักษณะเป็นกล้ำมเนือ้ ท่ีเหนียวและ แข็งแรงเรียกว่ำ โปเดีย ใช้สำหรับยึด เกำะกบั เคล่ือนท่ี มีสีต่ำง ๆ ออกไป ทงั้ ขำว, ชมพู, แดง, ดำ, ม่วง หรือนำ้ เงิน เป็นต้น พบอยู่ตำมชำยฝ่ังทะเล โขด หิน และบำงส่วนอำจพบได้ถึงพืน้ ทะเล ลึก กินหอยสองฝำ โดยเฉพำะ หอย นำงรม, กุ้ง, ปู หนอน และ สัตว์ไม่มี กระดูกสนั หลังอื่น ๆ เช่น ฟองนำ้ หรือ ปะกำรัง เป็นอำหำร 38
บรรณำนุกรม จอร์น พำร์ และคณะ. 2546. ค่มู ือธรรมชาตสิ ัตว์เลีย้ งลูกด้วยนมใน ประเทศไทย. สำนกั พมิ พ์สำรคดี จำกดั กรุงเทพฯ. 216 หน้ำ. ธญั ญำ จน่ั อำจ. 2546. คู่มือสัตว์สะเทนิ นา้ สะเทนิ บกในเมืองไทย. บริษัทด่ำนสทุ ธำกำรพิมพ์ จำกดั . 175 หน้ำ. บญุ สง่ เลขะกลุ . 2535. ค่มู ือดนู ก หมอบุญส่ง เลขะกุล นกเมืองไทย. บริษัท ด่ำนสทุ ธำกำรพิมพ์ จำกดั . 464 หน้ำ. สรุ ินทร์ มจั ฉำชีพ. 2531. อาณาจักรส่ิงมีชีวติ เล่ม 2. สำนกั พมิ พ์แพร่พิทยำ วงั บรู พำ กรุงเทพฯ. หน้ำ 56-137. สมโภชน์ อคั คะทวีวฒั น์. 2545. ภาพปลาและสัตว์นา้ ของไทย. องค์กำรค้ำของครุ ุสภำ กรุงเทพฯ. 323 หน้ำ องั คนำ. (2556). สตั ว์ท่ีมกี ระดกู สนั หลงั และสตั ว์ไมม่ กี ระดกู สนั หลงั . สืบค้นเมอื่ 17 กนั ยำยน , 2562, จำก Blogger : http://king-min.blogspot.com/2013/07/blog-post.html Forest Biodiversity Division. (2560). คมู่ ือกำรเรียนรู้ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ด้ำนสตั ว์. สบื ค้นเมือ่ 17 กนั ยำยน, 2562, จำก กลมุ่ งำนควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพด้ำนป่ำไม้ : http://fbd.forest.go.th/th/?page_id=2 ความหลากหลายทางชวี ภาพ ดา้ นสตั ว ์ 39
สตั วม์ ีความสาคญั อย่างมากต่อ P ระบบนิเวศ สตั วช์ ว่ ยใหร้ ะบบนิเวศเกดิ ความสมดุลไม่ว่าจะเป็ นการควบคุม O ประชากรของสตั วเ์ องไม่ใหม้ มี ากหรอื น้ อ ย จ น เ กิ นไ ป ช่ว ย ผ ส ม เ ก ส ร R และกระจายเมล็ดพันธุพ์ ืช เป็ นตัว ช่ ว ยใ น ข บ ว น ก า ร ย่ อ ย ส ล า ย ความ อิ น ท รี ย วั ต ถุ คื น สู่ ธ ร ร ม ช า ติ นอกจากนี้สัตวย์ งั ใหป้ ระโยชนด์ า้ น Tหลาก นันทนาการสรา้ งความสวยงามใหก้ บั ธรรมชาตแิ ละเป็ นแหล่งอาหารใหก้ บั หลาย มนุษย ์ จากทกี่ ล่าวมาเพยี งเพราะสตั ว ์ ทาง ไ ม่ ไ ด ้มี คุ ณ ป ร ะ โ ย ช น์ต่ อ ม นุ ษ ย ์ ชวี ภาพ โดยตรง เราจงึ มองขา้ มความสาคัญ ของสตั วไ์ ป Fดา้ น สตั ว ์ O LI O ควำมหลำกหลำยทำงชีวภำพ ด้ำนสตั ว์ โทร. 0909253725 [email protected]
ประวตั ผิ ูจ้ ดั ทำ ชอ่ื นางสาวนิตยา สมั พุทธ รหสั นักศกึ ษา 62120623104 ภูมลิ าเนา จงั หวดั อดุ รธานี E-mail : [email protected] ประวตั ดิ า้ นการศกึ ษา พ.ศ. 2553-2556 โรงเรยี นบา้ นดงุ วทิ ยา จงั หวดั อดุ รธานี พ.ศ. 2556-2560 ปรญิ ญาตรี คณะวทิ ยาศาสตร ์ สาขาเทคโนโลยชี วี ภาพ สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั พ.ศ. 2562-ปัจจบุ นั ปรญิ ญาโท คณะครศุ าสตร ์ สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตรศ์ กึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: